ตอนที่ 42 ดินนํ้าลมไฟ “กาลมิติบิดเบือน!”ไม่ว่าวอร์เรดประมุขวิถีทำลายล้างจะเยือกเย็น และสงบได้เพียงไหน แต่เมื่อเห้นภาพนี้สีหน้าเขาเปลี่ยนไปอย่างสิน เชิง “เขารู้จักไม้ตายนี้ใด้อย่างไร? โอเอฟสาบานด้วยถ้อยสาบาน จอมเทพไปแล้ว เป็นไปไม่ได้ที่เขาจะละเมิดคำสาบาน”

“วอร์เรด! เกิดอะไรขึ้น!” เสืยงก้องดังขึ้นในใจของเขา เป็นเสียง ของประมุขมหาเทพวิถีมรณะ เมื่อเวลาผ่านไป เนื่องจากมหาเทพ สามารถแพร่กระจายข่าวได้อย่างรวดเร็ว มุหาเทพยิ่งเข้ามาในมิติป่น ป่วนมากมาย มีมหาเทพมากกว่าลี่สิบคนที่เข้ามาดูการต่อสู้ครั้งนี้!

“ข้าไม่รู้เหมือนกัน” ประมุขมหาเทพวิถีทำลายล้างตกตะลึง ผ่านไป ชั่วขณะเขาก็ยังไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น “เจ้าบอกว่าเป็นไปไม่ได้ที่โอเอฟ จะสอนไม้ตายนี้ให้คนอื่น แล้วเจ้าเล่า? เจ้าสอนให้คนอื่นหรือเปล่า?” ประมุขมหาเทพวิถีมรณะรีบกล่าว “ข้าจะลอนให้คนอื่นได้ อย่างไร?!” ประมุขมหาเทพวิถีทำลายล้างล่งสำนึกเทพตอบกลับ อย่างลนลาน

“อย่างนั้นก็มีความเป็นไปได้สองประการ ประการแรกคือออกุสตา พัฒนาขึ้นมาได้ด้วยตัวเอง” ประมุขมหาเทพวิถีมรณะกล่าว “เป็นไป ไม่ได้! เขาเพิ่งได้เลือดบริสุทของสี่อสูนสักสิทได้นานแค่ไหนเอง?

นอกจากนี้ข้าสามารถพัฒนาได้เพราะข้าเป็นพารากอนในวิถีทำลาย
ล้างมานานแล้ว และเข้าใจพลังวิญญาณเป็นอย่างดี โชคก์มีบทบาท สำคัญ ออกุลตาไม่ลามารถเป็นพารากอนได้ ต่อให้เขาใช้เวลาล้าน ล้าน่ปีกตาม เป็นไปไม่ได้ที่เขาจะพัฒนาไม้ตายนี๋ใด้แม้แต่ส่วนเสียว!” ประมุขวิถีทำลายล้างมั่นใจเรื่องนี้แน่นอน

“อย่างนั้นความเป็นไปได้ประการที่สองก็คือ.... แม้ว่าข้าจะไม่กล้าเรื่อ ก็ตาม” เสียงของประมุขมหาเทพวิถีมรณะมีร่องรอยหวั่นเกรง หน้า ของประมุขมหาเทพวิถีทาลายล้างเปลี่ยนไปเช่นกัน “เจ้ากำลังบอก ว่า โอลอฟก็คือ....”

“เราจะรู้กันในอีกไม่ช้า อย่างไรก็ตามตอนนี้สินลี่ย์ตกอยู่'ใน อันตราย” ประมุขมหาเทพวิถีมรณะส่งสำนึกเทพบอกเขาค่อนข้างจะ กังวล “ต่อให้เราพยายามช่วยเขา เราก็คงทำไม่ทันเวลา” ประมุขมหาเทพ วิถีทำลายล้างขมวดคิ้ว “ออกุลตาปล่อยไม้ตายออกไปแล้ว บางที เพราะเขามีเลือดบริสุทของสี่อสูนสักสิทในปริมาณน้อยมาก พลัง ก็คงจะด้อยกว่าข้า แต่...ก็ไม่ใช่สิงที่สินลี่ย์จะสามารถต้านทานได้ ที่ สำคัญสินลี่ย์ไม่มีสมบัติ'จอมเทพปกป้อง'วญญาณ”

ตอนนี้ลินลี่ย์กำลังตกอยู่ในสถานการณ์วิกฤติจริงๆ มหาเทพมากกว่า ลี่สีบคนล่งสำนึกเทพผ่านมิติป่นป่วนตรวจด โดยวิธีนั้นเหล่ามหาเทพ

ลินลี่ย์สุดยอด!เมือผู้เด่นรุ่งเรืองขึ้นมาโนช่วงเวลาสั้น หมื่นปี รุ่งเรือง โชติช่วงบดบังรัศมีมหาเทพกฎธรรมชาติ เป็นใปได้ว่าดาวรุ่งผู้โดดเด่น นี้กำลังจะจบสั้น หลังจากฉายประกายเต็มที่กระนั้นหรือ?

เมื่อเงามายาลี่อสูรศักดิ้ลิทธิ้ปรากฏ พลังงานไร้ลักษณ์เฉพาะแบบ กระจายออกไปทุกทิศ ภายในระยะลิบล้านกิโลเมตร พื้นที่ทั้งหมด ชะงักงันทันที พื้นที่ขึ้งแตกและร้าวอย่างต่อเนื่องถูกแช่แข็งค้าง ขณะ ที่พลังงาน 90% ถูกปล่อย'โล่ตัวลินลี่ย์

“บีบอัดมิติเวลา...ปิดเบือนมิติเวลา! กระแลเวลาเปลี่ยนไป!” ลินลี่ย์ เมื่อเผชิญหน้ากันไม้ตายนี้ทันโดนั้นเขามีความรู้สึกที่คุ้นเคยอย่าง หนึ่ง “นี่....”

สายตาของลินลี่ย์ฉายประกายร้อนแรงขณะที่เขาจ้องมองภาพมายา ของอสูรศักดิลิททั้งลี่ที่รายล้อมออกุลตา ภาพมายาแต่ละภาพกำลัง ปล่อยพลังงานเฉพาะแบบ และเมื่อผสานเข้าด้วยกัน จึงสามารถปลด ปล่อยไม้ตายนี้ใด้เต็มที่ ความจริงพลังงานลี่รูปแบบที่แตกต่างกัน สามารถจัดการกับจักรวาลได้จนถึงขนาดส่งผลไค้ต่อมีติและเวลา

“นี่...ไม่โซ่อย่างนี้..” ตาของลินลี่ย์เบิกกว้างทันที โนขณะนั้นเอง เวลาหยุดนิ่ง! แม้แต่รังสีแสงใสที่ยิงออกมาจากปากออกุลตาเหมือน กับจะช้าลง⁶] ทุกที

“โซ่แล้ว! เป็นอย่างนี้นี่เอง!” ตลอดหลายปีมานี้ลินลี่มัก'จะโล่ตาม

การหลอมรวมเคล็ดลึกลับทั้งสี่ต่างกฎสายธาตุให้สำเร็จมาโดยตลอด อย่างใรก็ตาม แม้เขาจะลามารถแกจนถึงระดับคอขวด อีกก้าว สุดท้ายก็จะทำได้สำเร็จ การหลอมรวมลึกฎธาตุอย่างสมบูรณ์เป็น เรองที่ลินลี่ย์ยังไม่สามารถทำได้ เขาไม่สามารถเอาชนะกฎเกณฑ์นี้ ได้ แต่ตอนนี้เมื่อรู้ลึกถึงการหลอมรวมพลังลึรูปแบบอย่างสมบูรณ์ และวิธีที่พลังเหล่านั้นสามารถควบคุมสวรรค์....

เหมือนกับประติมากรผู้แสวงหาดวามสมบูรณ์แบบอย่างยากลำบาก และจู่⁶! ก็พบเห็นรูปประติมากรรมของปรมาจารย์นักแกะสลักจึงเกิด ความรูแจ้งทันที นี่คือสภาวะปัจจุบันของลินลี่ย์!

มังกรฟ้ามีคุณสมบัติธาตุนี้า นี้าอ่อนหยุ่นนุ่มนวลสามารถโอบล้อมดูด กลืนทุกอย่างได้

พญาเต่าดำคุณสมบัติธาตุดิน ดินกว้างใหญ่หนักแน่น

พยัคฆ์ขาวคุณสมบัติธาตุลม ลมที่ไร้รูปไร้ลักษณ์ปรากฏและหายไป ไร้ร่องรอย

พญาหงส์เพลิงคุณสมบัติธาตุไฟ ไฟเผาผลาญลุกโชนรุนแรงเต็มไป ด้วยความกราดเกรี้ยวรุนแรงไม่สามารถคาดเดาได้

กาลมิติบิดเบือนนี้ผสานกันจากดินไฟ น้ำและลม

เมื่อผู้โดติดอยู่ที่คอขวดของการแกฝน เขาอาจใช้เวลาเป็นล้านล้านปี โดยโม่ลามารถบรรลุผ่านโปได้ แต่เป็นโปโด้ที่เขาจะบรรลุผ่านโปโต้ หลังใช้เวลาไม่กี่วัน นีจำเป็นต้องอาศัยโชค ต้องเกิดประกายความรู้ แจ้ง ครั้งล่าสุดลินลี่แค่มองดูการสู้รบ เขายังโม่รู้สีกเข้าใจโม้ตายนี้ โต้ลึกขึ้ง นอกจากนี้ก่อนนี้เขายังแกไม่ถึงระดับคอขวดในการหลอม รวมกฎทั้งสี ดังนั้นเป็นธรรมดาที่เขาโม่โต้รับความรู้แจ้งใด⁶!

แต่บัดนี้ เมื่อเผชิญหน้ากับโม้ตายกาลมิติ^,ปิดเบือน ลินลี่ที่ติดอยู่ที่ ระดับคอขวดมานาน โต้รับประโยชน์จากประสบการณ์ที่สะสมมา นานนี้ ทุกอย่างถูกเตรียมโว้เพื่อเวลานี้ และตอนนี้ที่เกิดความรู้แจ้ง

ลินลี่ย์จึงเขาใจโต้ทั้นที

เขาเข้าใจ!

ตอนนี้ทุกอย่างแจ่มแจ้งสำหรับเขา!

แม้ว่าทั้งหมดนี้ต้องใช้เวลาอธิบายบันยืดยาว แต่ในความเป็นจริงทุก อย่างเกิดขึ้นในชั่วแว่บเดียว การรู้แจ้งฉับพลันนี้ใช้เวลาเพียงชั่วครู่ เท่านั้น หึ ตายซะเถอะ” ออกุลตาหัวเราะเย็นซา ขณะที่แสงใสพุ่งมาถึง ร่างของสินลี่ย์

“ครืน...”

ทันใดนั้นโลกเปลี่ยนแปลงขณะที่กฎธรรมชาติชะลอลงมา!

ลินลี่ยิ้มขณะมองดูรังสีโปร่งแสงข้างหน้า เขาผ่อนลมหายใจ และ กระบี่เงาโปร่งแสงโผล่ออกมาจากปากของเขา เมื่อมันปะทะกับรังสี แสงโปร่งใสข้างหน้า ก็แตกกระจายเป็นซี่น⁶] ทันที เศษกระบี่แสงลด ขนาดจนเลกและบาง หลังจากพุ่งต่อไปอีกเล็กน้อย กหายไปจาก จักรวาล

สายตาของออกุสตาเล็มไปด้วยความตกใจสุดขีด “เป็น...เป็นไปไม่ ได้!”

“วีด...” ตาของลินลี่ยิงกระบี่เงาโปร่งแสงอีกสองสาย เนื่องจาก ความเร็วของพลังโจมตีวิญญาของเขา ออกุสตาไม่สามารถหลบได้ พ้น และกระบี่เงาโปร่งแสงทังสองจมเข้าไปในร่างของเขา

อย่างไรก็ตาม ออกุสตาไม่ เป็นอันตรายแต่อย่างใด!

“พลังปัองกันวิญญาณของเขาทรงพลังขนาดนี้หรือ?” ลินลี่อด อุทานด้วยความประหลาดใจไม่ได้ ขณะที่เขามองดูรอบ⁶] แก่นธาตุลี่ ชนิดอยู่รอบ⁶] ตัวเขา กฎธรรมชาติชะลอลงมาแล้ว และตอนนี้กำลัง เปลี่ยนวญญาณของเขา “ถ้าข้าไม่พบเล็นไม้ตาย ‘กาลมิติบิดเบือน’ กับตัวเอง ใครจะรู้กันเล่าว่าจะต้องใช้เวลานานเพียงไหนกว่าข้าจะ บรรลุระดับนี้ได้” การบรรลุนี้ยากยิ่งกว่ากลายเป็นพารากอนเสียอีก ดิน ไฟ นาและ ลม กฎธาตุทั้งสี่และเคเดความรู้ลึกลับแตกต่างกันอย่างสี่นเง จะ หลอมรวมทังหมดให้ลมบูรณ์เป็นเรื่องยากมาก

แต่ลินสี่ย์ทำได้สำเร็จ “เมื่อกลายเป็นพารากอน คนผู้นั้นจะได้รับพลัง ปณิธานเป็นรางวัล เป็นเรื่องยากมากรื่นสำหรับข้าณ-!การหลอมรวม ธาตุทั้งสี่เหล่านี้เข้าด้วยกัน และไม้ตายที่ทรงพลังโนการโจมตีนี้จะ มากกว่าพารากอนคนหนึ่งถึงสิบเท่า ข้าคิดว่าพลังปณิธานที่ข้าจะได้ รับกคงมาก่ขึ้นด้วยเช่นกัน” ลินลี่สามารถรู้สีกได้ว่าวิญญาณแต่ละ ส่วนของเขามีพลังเพิ่มรื่น

เพราะลินลี่เป็นเทพวิญญาณกลายสภาพ เมื่อมีการบรรลุระดับใหม่ วิญญาณทุกร่างแยกจะพัฒนาพลังเพิ่มรื่นไปด้วย

“เอ๊ะ?!” ลินลี่รู้ลึกแปลกใจ “นี่.. .” ตาของสินสี่ย์เต็มไปด้วยความ ดีใจ “ข้าได้รับพลงปณิธานเพิ่มรื่นอีกส่วนหนึ่งมากกว่าที่พารากอนได้ รับแงลองเท่า!” แม้ว่าเขาจะคาดไว้ว่าปริมาณพลังปณิธานที่เขาจะได้รับคงมากกว่าที่ พารากอนได้รับ แต่เขาคาดไม่ถึงเลยว่าจะได้รับมากเป็นสองเท่า นี่ ท่าให้ลินลี่ประหลาดใจจริง⁶!

เดิมทีเมื่อเขาประลนความสำเร็จกลายเป็นเทพวิญญาณกลายสภาพ แม้ว่าเขาจะได้รับพลังปณิธาน แต่กไม่ถึงลองเท่าที่พารากอนได้ การ เพิ่มพลังปณิธานเต็มส่วนในแต่ละครั้งจะทำให้พลังเพิ่มมากขึ้นถึงสิบ เท่า

สินลี่ย์ลามารถบรรลุผ่านสภาวะคอขวดและถึงระดับเขึ้ยวชาญอย่าง สมบูรณ์ พลังในเคลดลึกลับของเขาจะเพิ่มขึ้นถึงสิบเท่า แต่เมื่อใด้รับ พลังปณิธานเป็นสองส่วนด้วยเช่นกัน นั่นหมายความว่าพลังของเขาจะ เพิ่มขึ้นถึงพันเท่าแน่นอน! ต้องเข้าใจว่าขณะที่ติดอยู่ในสภาวะคอขวด ลินลี่ก็มีพลังมากกว่าประมุขมหาเทพแห่งแสงออกุสตาถึงสิบเท่าอยู่ แล้ว

พวกเขาเป็นระดับที่แตกต่างกันอย่างสินเชิง พวกเขามีระดับห่างกัน หลายระดับ ความแตกต่างระหว่างพวกเขาเหมือนกับพัาและดิน

“ลินลี่ป้องกันได้จริง⁶! หรือนั่น? ท่าลายพลังโจมตีนั่นได้โดยโม่ต้อง ใช้ความสามารถอะไรหรือ?” ประมุขมหาเทพวิถีมรณะและวิถี ท่าลายล้างรวมทั้งมหาเทพอื่น⁶! ตกตะลึงกันหมด

“เมื่อครู่นี้พลังกฎธรรมชาติชะลอลงมา” ประมุขมหาเทพวิถีมรณะ พูดขึ้นทันที “เจ้ากำลังจะบอกว่า..?” ประมุขมหาเทพวิถีท่าลายล้าง ตะลึง

“ลินลี่บรรลุพลังครั้งใหม่ มิฉะนั้นกฎธรรมชาติคงไม่ชะลอลงมาที่ ตัวเขา นอกจากนี้ไม่มทางที่เขาจะเพิ่มพลังได้อย่างรวดเร็วมากนัก ข้ามิความรู้ลึกว่า... ลินลี่ในปัจจุบันนี้ไม่ได้อ่อนแอกว่าเราเลย!”

ประมุขมหาเทพวิถีมรณะส่งสำนึกบอกเบา

ความจริงโนแง^,พลังของปณิธาน ในฐานะวิญญาณกลายสภาพลึฬาย ธาตุมีประกายมหาเทพสามธาตุและพลังปณิธานสองส่วนที่ได้รับจาก การหลอมรวมลึธาตุได้สมบูรณ์แบบ ลินลี่มีพลังแข็งแกร่งมากกว่า ประมุขมหาเทพธรรมดาถึงสิบเท่า เขาเทียบได้กับพารากอนในหมู่ ประมุขมหาเทพ

ในแง^,ของระดับวิชา ด้วยการหลอมรวมเคล็ดความรู้ลึกลับ เขามีพลัง มากกว่าพารากอนสิบเท่า ในแง่พลัง พลังมหาเทพหลอมรวมมีมากยิ่ง กว่ามหาเทพธรรมดาร้อยเท่า จุดบกพร่องเพียงอย่างเดียวของเขาก คือ.. อาวุธจอมเทพของเขาไม่เหมาะกับเขา ดังนั้นเขาไม่สามารถ ปล่อยพลงของมันได้มาก แต่แม้อย่างนั้น พลังของสินลี่ย์ล็เพียงพอ ท่าให้เขาไม่จำเป็นต้องกลัวประมุขมหาเทพลึวิถีแม้แต่น้อย

“เจ้า..เจ้าทำได้ยังไง...” ออกุสตาจ้องมองลินลี่อย่างเหลือเชื้อ

ลินลี่มีพลังเพิ่มขึ้นทันทีพันเท่า พลังที่เพิ่มขึ้นนี้ท่าให้สินลี่ย์นั้นใจว่าจะ เผชิญหน้ากับมหาเทพวิถีชะตาโอล็อฟได้ ตอนนี้ลินลี่ไม่รู้ลึกกลัวแต่ อย่างใด ลินลี่หัวเราะขณะมองดูออกุลตา “ข้าสงลัยมาก ทำไม กาลมิติบิดเบือนของเจ้าถึงได้อ่อนแอมากกว่าที่ข้าคาดนัก!”

ทักษะเทพธรรมชาติหลอมรวมของสี่อสูรศักสิททำให้พลังของผู้

ใช้ เพิ่มขึ้นมากกว่าสิบเท่า ที่สำคัญสำหรับมหาเทพน้อยสามารถเทียบได้ กับประมุขมหาเทพ ทุกคฟาสามารถคิดได้ว่ามีพลังมากเพียงไหน

ประมุขมหาเทพวิถีทำลายล้างเองพูดว่าเมื่อพัฒนากาลมิติบิดเบือน แม้ว่าพลังยังห่างจากที่สี่อสูรศักสิทปล่อยออกมา แต่กยังเพิ่ม¹ขึ้น มากกว่าพลังเขาเองเป็นพันเท่า แต่ออกุลตา

“ควบ!” ร่างของออกุลตากระพริบวาบและพยายามหนี

“ควั่บ!” ร่างของลินลี่กระพริบเช่นกัน และในทันทีเขามาปรากฏ อยู่หน้าออกกุลตา เขากวาดหางโล่ตามปกติ หางหวดใส่ร่างของออกุ สตาอย่างรุนแรงส่งให้เขาปลิวกระเด็นไปไกล

เลือดสาดกระเซน แต่มีแลงเปล่งจากร่างของออกุลตา เลือดและ หนังของเขารักษาสมานตัวทันที “เจ้า...ความเร์วของเจ้า?!” ออกุล ตาตกตะลึงสินเชิง สินลี่ในปัจจุบันนี้มีร ะตับแตกต่างจากลินลี่ในอดีตสินเช้ง “ข้าบอกเจ้าแล้ว เจ้าจะไม่มีทางหนีไปได้” ลินลี่หัวเราะเบา“เจ้า ยังไม่ตอบข้าเลย ทำไมกาลมิติของเจ้าถึงอ่อนแอนัก?”

ออกุลตาเมื่อเห้นความเร็วของลินลี่ก็โม่มีความคิดจะหนีต่อไป เขา แค่นเสียงเยนชา “อ่อนแอ? พลังของวิชานี้ต้องใช้เลือดบริสุทธิของสี่ อสูรสักสิทธิเท่าที่มี โอเอฟ'ใช้เลือดบริลุทธโปมากกว่าข้า ตังนั้น พลงจึงยิ่งใหญ่มากกว่า”

ลินลี่หัวเราะและพยักหน้า “เอาล่ะ จวนได้เวลาแล้ว ถ้าข้าโม่ลงมือ ตอนนี้โอเอฟจะมาถึงในอีกไม่นาน” เมื่อได้ยินเช่นนี้ หน้าของออกุล ตาเปลี่ยน

“ลินลี่ย์” ประมุขมหาเทพวิถีชะตาโอเอฟที่ตอนนี้เร่งรีบผ่านมิติป่น ป่วนมาทางพวกเขาด้วยความเร็วสูง ได้ล่งลำนึกเทพบอกเขาอย่าง แตกตื่น แค่เรื่องฟืนคืนอิสรภาพให้มารดาเจ้าไม่โซ่หรือ ก็ได้ ข้าจะ ให้ออกุลตายกเลิกการผูกสัญญากับลระกำเนิดเทวดานั้น”

“โอเอฟ, ดูเหมือนท่านจะกระวนกระวายมากนักนะ” ลินลี่ส่ง สำนึกเทพกลับ “เท่าที่ข้าจำได้ และในความเป็นจริง โอเอฟท่านใน ฐานะเป็นประมุขมหาเทพวิถีชะตา มักจะใช้เวลาหมกมุ่นกับการ คนคว้าอยู่ในอุทยานโอเอฟแดนสวรรค์ เจ้าไม่เคยยุ่งเกี่ยวกับกิจการ ทางโลก ไม่มีใครสามารถรบกวนท่านได้ แต่นัดนี้ เจ้ากระวนกระวาย เสียแล้ว”

“เป็นธรรมดา เขาเป็นสหายที่ดีฃองช้า” โอเอฟส่งลำนึกเทพกลับ “ลินลี่ช้าหวังว่าเจ้าจะไม่ทำอะไรโง่ ลงไป”

“แค่เป็นสหายที่ดีหรือ?” ลินลี่หัวเราะขณะที่ส่งลำนึกเทพตอบ กลับ.... และประมุขมหาเทพวิถีชะตาหน้าเปลี่ยนไปแกน้อย

“เมื่อเห็นออกุลตาใช้ ‘กาลมิติบิดเบือน’ ข้าก็ตระหนักความจริงได้ เจ้าสาบานด้วยคำสาบานจอมเทพ ไม่มีทางที่เจ้าจะสอนกาลมิติ บิดเบือนให้คนอื่นโด้ แต่มีช่องโหว่อยู่อย่างหนึ่ง ถ้าเจ้ากับออกุลตา เป็นคนเดียวกันตั้งแต่แรก อย่างนั้นความลับโดยที่เจ้ารู้ เขากต้องรู้”

ลินลี่ถอนหายใจ “ความจริง, ถ้าข้าโม่รับทูตและโค้รู้ถึงความคงอย่ ของเผ่าบูลา ข้าคงโม่รู้ถึงความ'จริงนี้เร็วนัก เมื่อข้าสู้กับออกุลตาครัง แรกและตระหนักโด้ว่าพลังของเขาเพิ่มขึ้นถึงสิบเท่า สิงที่ข้าคาดดีด ข้าเริ่มสงลัยว่าเขาอาจมีร่างแยกมหาเทพอื่น น่าเสียดายข้าโม่เคยดีด ทั้งโม่กล้าดีดว่าเจ้ากับเขาเป็นคนเดียวกัน!”

ประมุขมหาเทพริถึชะตา โอเอฟเงียบโปชั่วขณะ จากนั้นพูดเสียงเบา “ในเมอเจ้าคาดเดาเรื่องนิ้โด้ เจ้าควรจะรู้สิงที่เจ้าทำ ข้าโม่ ต้องการ...ให้เจ้ากับข้ากลายเป็นศัตรูกัน!” “ใช่, ข้ารู้ว่าควรทำยังโง”

ลินลี่ยิ้มขณะที่เขาโบกมือ กระบี่จอมเทพในมือของเขาฟันใส่อย่าง สวยงาม แสงสีหยกหนาหนึ่งนิ้วพุ่งเป็นแนวโค้งอย่างโปอย่างสวยงาม และฉีกมิติหนาขนาดหนึ่งนิ้วตาม แต่โม่มีระลอกมิติ

พลังงานเข้มข้นระดับสุดยอด

วิชาที่ทรงพลังที่สุดของลินลี่....กระบี่เจตจำนง!

“ฉัวะ” มีรูปรากฏบนศีรษะของออกุลตา ออกุลตาอ้าปากค้าง....แต่ ไม่สามารถเปล่งเสียงได้อีกต่อโป