เพราะจะอย่างไรแก่นแห้โลหิตนี้ก็ไม่ใช่แก่นแท้โลหิตของราชสี
เหมันต์ครองฟ้าที่บริสุทธึ๋ เขาได้รับมันมาจากสิงโตหิมะ นั่นหมายความ
ว่าแก่นแท้โลหิตนี้ ถึงคำอธิบายจะบอกกล่าวว่าเป็นแก่นแห้โลหิตของ
ราชสีห์เหมันต์ครองฟ้า แต่สังหรณ์ของเขาบอกว่ามันยังไม่,บริสุทธึ๋ถึง
ขีดสุด
แก่นแห้โลหิตนั้นจะเป็นเส้นชีวิตที่สำคัญที่สุดและเปรียบได้ดั่งแก่น
แท้ของสัตว์อสูรตัวนั้นๆ ถึงแม้ว่าแก่นแห้โลหิตนี้จะสามารถใช้ได้ทันที
แต่หากยกระดับให้มันมีความบริสุทธที่มากขึ้น จะอย่างไรผลลัพธ์มันก็
ต้องดีกว่าอยู่แล้ว
แก่นแห้โลหิตที่ลอยอยู่ในเปลวเพลิงนั้น
บางส่วนเริ่มระเหยออกมา
เป็นไอ้ ก่อนที่มันจะเริ่มควบแน่นลงเหลือขนาดเพียง 1 ใน 3 ของแก่น
แห้โลหิตหยดเดิม
'ติ๊ง!! ...
ขอแสดงความยินดีในการหลอมกลั่นได้รับ ะ แก่นแท้โลหิต
ราชสีห์เหมันต์ครองฟ้า 1 หยด'
แก่นแห้โลหิตนั้นเปลีย่นจากลีแดงฉาย
กลายเป็นสีทองส่อง
ประกายวาววับ หลินฟ้านสามารถสัมผัสได้อย่างชัดเจนว่ากลิ่นอายที่
มันแผ่ออกมาครานี้ เหนือกว่าแก่นแท้โลหิตหยดก่อนไม่,รู้เท่าไรต่อ
เท่าไร
‘สำเร็จอย่างงดงาม’
หลินฟานรู้ลึกอิ่มเอมใจและเต็มไปด้วยความสุข
ถึงแม้ว่าปริมาณ
มันจะลดน้อยลง แต่หากลูกสิงโตตัวน้อยได้กินแก่นแท้โลหิตของ
ราชลึห์เหมันต์ครองฟ้า ที่บริสุทธึ๋ขนาดนี้ มันควรบังเกิดผลลัพธ์ที่ยอด
เยี่ยม
ในยุคปัจจุบันนั้นกล่าวได้ว่า
ราชลึห์เหมันต์ครองฟ้าได้สูญพันธ์ไป
แล้ว นั้นมันคงเป็นไปไม่,ได้ที่จะทำให้เหล่าสัตว์อสูรที่ลึบเชื้อสายของมัน
มามีความแข็งแกร่งที่เท่าเทียมกับมัน ในยุคบรรพกาล
แม้กระทั่งนิกายเม้งก่าเอง
แค่เพียงโอกาสเลี้ยงดูและยกระดับมันให้
แข็งแกร่งชื้นไปกว่าเดิมนั้นยังมีความมั่นใจเพียงเล็กน้อยเท่านั้น เพราะ
เรื่องนี้มันไม่ใช่เรื่องที่สามารถกระท่าได้แน่นอน ยิ่งไปกว่านั้น
ทรัพยากรที่ต้องใช้เพื่อเดิมพันกับโอกาสเล็กน้อยนี่ ก็มากมายมหาศาล
อย่างมาก มันมากถึงขนาดที่ว่าหากนำทรัพยากรนี้ไปให้ศิษย์สายในใช้
คงยกระดับพวกมันให้ไปถึงระดับสู่สวรรค์อมตะได้ไม่ยาก!
และตอนนี้เองลูกสิงโตหิมะตัวน้อยนั้นก็หันหน้าเล็กๆทั้งที่ยังปิดตา
ชื้นมาทางแก่นแห้โลหิตของราชสิห้เหมันต์ครองฟ้า ก่อนที่มันจะ
พยายามลุกชื้นยืนอย่างยากสำบาก มันพยายามยืนแล้วแตกไม่
สามารถยีนขึ้นมาได้
มันจึงส่งเสียงร้องอ๊าวๆ ออกมาอย่างน่าสงสารอยู่
ครู่หนึ่ง
หลินฟานยิ้มออกมา
ก่อนที่จะช่วยเหลีอให้มันได้รับแก่นแท้ไสหิต
หยดนี้ เขาค่อยๆเปิดปากของมันและส่งแก่นแท้ไสหิตเข้าไป "เอาล่ะ
เจ้าตัวน้อย ต่อจากนี้ไปแกจะโหดขึ้นไต้ถึงระดับไหน ก็อยู่ที่สวรรค์แล้ว
|
ล |
107แ
07
พริบตาที่ลูกสิงโตตัวน้อยรับแก่นแห้โลหิตเข้าไป
สีหน้าของมันฉาย
แววทรมานออกมาเล็กน้อย แต่ไม่นานมันก็แสดงท่าทีอิ่มเอมใจออกมา
มันนอนหลับต่อไปอย่างมีความสุข
ผิวที่ขาวราวหิมะเริ่มเปลี่ยนแปลงมันขาวขึ้นเล็กน้อย
ไม่สิ มันเริ่ม
ส่องประกายสดใสออกมา ดูมีรัศมีและทรงพลังแตกต่างจากเดิมอย่าง
มาก
หลินฟานเองก็พอใจกับความเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ไม่น้อย
เขาวางมัน
ลงในที่นอนที่เขาพึ่งทำออกมาให้มัน
"ท่านประมุขน้อยหลิน
ท่านประมุขหยางฝากสิงของพวกนี้มาให้
ท่านขอรับ" ทันใดนั้นเองก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้นมาจากภายนอกบ้านพัก
ของเขา
"เอาล่ะ
เข้ามาก่อนสิ"
ชายคนนี้ดูเหมือนจะเป็นดิษย์ส่วนตัวของประมุขหยาง
หลินฟานได้ตรวจสอบสิงที่รับมาและเขาก็พบว่า
มันเป็นคู่มือเลี้ยง
สัตว์อสูร และขนสัตว์นุ่มๆบางส่วนของสิงโตหิมะ
หลินฟานจับจ้องไปยังคู่มือเลี้ยงสัตว์อย่างสนใจ
ส่วนทางด้านขน
สัตว์นั้นแน่นอนว่าเขาขอมาเพื่อเอาไว้เป็นวัตถุดิบในยามสร้างสิงของ
ด้วยสกิลช่างฟิมือ
เพราะในยามว่างที่หลินฟานไม่มีอะไรทำ
บางทีเขาอาจจะสร้าง
อะไรเล็กๆน้อยๆให้แก่สิษย์ของเขาได้ โดยเฉพาะศิษย์ตัวน้อยที่พึ่ง
รับมาใหม่
■ลังแ ...
ขอแสดงความยินดีท่านค้นพบ สกิลวิชาชีพนัก'ฝืกสัตว์ ะ
ดิลปะการอบรมสัตว์อสูร ต้องการเรียนรู้หรือไม่?
"เรียนรู้''
ทันใดนั้นความรู้มากมายก็หลั่งไหลเข้าสู่สมองของหลินฟาน
การอบรมสอนสั่งสัตว์อสูรปกติให้พอเชื่อฟ้งนั้น
จะแตกต่างกัน
อย่างสินเชิงสำหรับการอบรมสั่งสอนสัตว์อสูรเพื่อให้มันมาเป็นสัตว์
อสูรพันธะสัญญาคู่ชีวิต
สัตว์อสูรพันธะสัญญาคู่ชีวิตนั้น
เป็นความสัมพันธ์ที่พิเศษและเป็น
เอกลักษณ์ระหว่างเจ้านายและสัตว์อสูร เมื่อสัตว์อสูรตัวใดที่ลูกฟิกฝน
จนทำพันธะสัญญาคู่ชีวิตกับเจ้าของแล้ว หากเจ้าของตกตายไป ตัว
สัตว์อสูรจะตกตายไปด้วยพร้อมๆกัน แต่ในทางกลับกัน หากสัตว์อสูร
ตกตายลงไปเจ้าของจะไม่ได้รับผลร้ายหรือเป็นอะไรทั้งสิน...
และฟ้งจากคำอธิบายของสกิลดูเหมือนว่ามันจะมีประโยชน์สำหรับ
ผู้ฟิกตนที่เน้นในเรื่องของการควบคุมสัตว์อสูรเท่านั้น หาได้มีประโยชน์
อะไรกับผู้อื่นไม่ กล่าวไต้ว่าแทบจะไร้ประโยชน์
เพราะไม่มีผู้ฟิกตนคนไหนจะยินยอมเสียสละเวลาอันมีค่าในชีวิต
ไปพยายามดูแลและฟิกฝนสัตว์อสูร
ถึงแม้ว่าสัตว์อสูรจะหาได้ง่ายและพบได้ทั่วไป
แต่ตัวที่แข็งแกร่ง
ทรงพลังและดุร้ายนั้นก็พบเจอได้น้อยมาก
เช่นนั้นคนส่วนใหญ่จึงเอาเวลาไปบ่มเพาะฟิกฝนเสริมสร้างให้
ตัวเองแข็งแกร่ง แทนที่จะเอาเวลาไปเสียกับการด้นหาสัตว์อสูรที่
แข็งแกร่ง ที่ไม่,รู้ว่าจะได้เจอเมื่อไหร่
และเมื่อเจอแล้วก็ไม่รู้ว่าจะ
สามารถฟิกฝนมันได้ไหม...
'ตง!'... วิชาชีพนักฟิกสัตว์
และ วิชาชีพ เมนเทอร์ สามารถหลอม
รวมผสานกันได้ และเมื่อหลอมรวมกันแล้วท่านจะได้รับวิชาชีพ
เทรนเนอร์? '
ตอนแรกหลินฟานตั้งใจจะศึกษาคู่มือนี้ดูเสียหน่อย
แต่เมื่อได้รับ
เลียงแจ้งเดือนจากระบบเขาถึงกับตกตะลึงทันที
เทรนเนอร์ ...
เทรน...
*( คำว่า 7โลก ในเกมส์ออนไลน์นั้น
จะหมายถึงการลากมอน
สเตอร์จำนวนมากมายมาใส่ชาวบ้านเค้าจนวงแตก...หากคนไม่เคยเล่น
เกมส์ ให้นึกว่า ท่าน กำลังส้กับวัวอยู่ตัวหนึ่งอย่างดุเดือด แต่อยู่ๆ มี
ใครไม่รู้ลากวัวมาอีก 100 ตัว
แล้วฟ้ว...หนีหายไปต่อหน้าต่อตา
ปล่อยท่านยืนรับฝูงวัวมากมายเพียงลำพัง...)
หลินฟานรู้สีกเขินอายเล็กน้อยจนแก้มเริ่มเจือลีแดง
เขาพลันนึกไป
ถึงสมัยที่ยังเล่นเกมส์และคุ้นเคยกับคำว่า เทรนเป็นอย่างดี...ก็การลาก
มอนไปใส่จนตี้ชาวบ้านแตกมันฟินนึ่นา ...เขารู้ลีกดีใจและตื่นเต้นอย่าง
มากที่ได้ยินชื่อ สกิล เทรนเนอร์ นี่อีกครั้งซํ้าตอนนี้เขายังสามารถเลือก
ที่จะรับมันได้ด้วย
'แล้วไอ้สกิลเทรนเนอร์นี้มันเป็นยังไงกันน้อ?
ฟ้งแล้วมันน่าจะลูดีไม่
น้อยน้า!
หลินฟานเริ่มนึกถึงเรื่องอุตริในอดีต
แต่เขายิ้มแฉ่งได้อยู่ครู่หนึ่งเขา
ก็ต้องส่ายหัวไปมาก่อนที่จะทำหน้าตาซึงขังจริงจังออกมา ‘เขี่ยใน
ฐานะประมุขของนิกายปีศาจศักดึ๋สิทธึ๋รุนที่ 6 เราจะคิดเรื่องกลั่นแกล้ง
ผู้คนแบบนั้นไต้ยังไง ไม่ได้การแล้ว เลิกๆๆๆ!’
ตั้งแต่วันนี้ไปตัวเขาต้องเป็นคนสูงส่ง!
มีคุณธรรม! และเป็นที่
เคารพนับถือของทุกคน! เขาเป็นคนที่จะต้องนำพานิกายปีศาจ
ศักดสิทธึ๋ที่ถูกทำลายให้ผงาดกลับมาเจริญรุ่งเรืองและยิ่งใหญ่กว่าใน
อดต
วิชาชีพที่พึ่งได้ยินมาเมื่อครู่น่ะเหรอ
... หึ! แค่ฟ้งจากเสียงรายงาน
ของระบบก็น่าจะรู้ว่าไม่ควรเป็นวิชาหรือสกิลอะไรที่ดีๆ อยู่แล้ว ใน
ฐานะที่เป็นคนมีคุณธรรมและหลักการที่จะวางตัวใช้ชีวิตอย่างสูงส่ง
แล้ว เขาจะหลอมรวมผสานวิชาที่ฟ้งดูเหมือนวิธีกลั่นแกล้งผู้คนใน
อดีตเช่นนี้ได้อย่างไร?
ไม่ได้แน่นอน
เขาไม่สามารถกระทำเข่นนั้นได้อย่างเด็ดขาด
'หลอมรวมผสาน' แต่หลินฟานได้เลือกหลอมรวมทันทีหลังจากที่
คิดถึงสัจธรรมข้อหนึ่งขึ้นมาได้! เขาได้โยนความลังเลทั้งหมดทั้งมวลทิ้ง
ออกไปทันที
ในโลกนี้ไม่มีสิงใดที่
เลว หรือ ดี ทุกอย่างล้วนขึ้นอยู่กับผู้ใช้ทั้งสิน
การจะตัดสินว่าลิงใดดีหรือเลวนั้น เพียงมุมมองแคบๆของมนุษย์ที่ยัง
ไม่บรรลุเท่านั้น!!
‘มา วิชาชีพเทรนเนอร์
มาให้ท่านประมุขผู้นี้ดูว่าเจ้าจะเป็นวิชาชีพ
เข่นไร และท่าอะไรได้บ้าง ช้าประมุขจะมอบของขวัญให้แก่เหล่าลูก
แกะน้อยๆในโลกมนุษย์ และช้าประมุข ตั้งใจเทรน ให้ทุกคนบนโลก
ได้รับประสบการณ์ที่ดี ’
'ติ๊ง!! ...
ขอแสดงความยินดีท่านหลอมรวมผสมผสานสำเร็จ'
'เทรนเนอร์: 16761 0 '
'เทรนเนอร์: สามารถ'ฝืกฝนลี่งมีชีวิตได้ทุกชนิดบนโลก สามารถรีด
เค้นศักยภาพขีดสุดของสิงมีชีวิตออกมาได้ทั้งหมด มีกลิ่นอายของ
เทรนเนอร์แผ่ออกมาอย่างเป็นธรรมชาติ'
ปล.เทรนเนอร์ กับเทรน ก็ไม่เหมือนกันเลย มันหลอนของมันไปเอง
บทที่ 160 ตัวละครนี้
ไม่ธรรมดา
หลินฟานเงยหน้าขึ้นมองฟ้าก่อนที่จะถอนหายใจออกมา
เป็นดั่ง
เช่นเคยเพียงคำอธิบายของวิชาชีพที่ระบบบอกมา เขาไม่สามารถ
เข้าใจได้ทั้งหมด 'เอ่อ
ตกลงเทรนเนอร์นี่ ... มันทำอะไรได้มั่ง แล้วใช้
งานยังไงกันแน่วะเนี่ย?'
หลินฟานรู้สีกกังวลไม่,น้อย
ตอนนี้ลูเหมือนระบบในรูปแบบใหม่
มันจะรวบรัดอะไรหลายๆอย่างไปเยอะมาก แม้กระทั้งเขาได้รับวิชาชีพ
ใหม่ ระบบเองก็ไม่อธิบายความสามารถออกมาทั้งหมดให้เขาเข้าใจได้
ง่ายๆ
เขาสามารถค้นหาความสามารถของมันทั้งหมด
จากการทดลองใช้
งานดูเองเท่านั้น
หลินฟานไม่,คิดอะไรให้มากความ
เขาเปิดประตูและเดินออกไป
ทันที ตอนนี้เขาแค่ลองไปหาใครสักคนที่ไหนก็ได้มาลองทดสอบ
วิชาชีพเทรนเนอร์นี้ตูว่ามันจะทำอะไรได้บ้าง
ทิวทัศน์และบรรยากาศวันนี้ช่างสวยงามและดีงามไม่น้อย
ลูกศิษย์ตัวน้อยของเขายังคงหลับใหลอย่างมีความสุข
ตั้งแต่ที่เขา
เป็นคนพานางมา เขาก็ต้องดูแลนางให้ดีที่สุด ไม่ให้นางเจอเรื่องร้ายๆ
หลินฟานมองไปรอบๆ
ในที่สุดก็เห็นชั่งเอ้อกั๋วนั่งบ่มเพาะอยู่เพียง
ลำพัง เขานั่งบ่มเพาะอยู่บนก้อนหินที่หลินฟานเคยไปนั่งเหม่อลอย
ก้อนนั้น
หลินฟานเดินมุ่งหน้าไปหาชั่งเอ้อกัวทันที
เขาสัมผัสได้ว่าชั่งเอ้อกั๋ว
มีความมร้สีกเหงาๆแลดูอ้างว้างออกมา
"เอ้อกั๋วเจ้ากำลังคิดเรื่องราวอันใดอยู่หรือ?" หลินฟานไปยืนอยู่
ด้านหลังชั่งเอ้อกั๋วเบาๆ ก่อนที่จะจ้องมองใบหน้าอัปลักษณ์ของเอ้อกั๋ว
แล้วกล่าวถามออกมา
"ท่านประมุข...ข้าคิดถึงอนาคต"
หลินฟานเริ่มร้สีกไม่,ชอบมาพากลเล็กน้อย
เขาไม่เคยคิดเลยว่า
ศิษย์อย่างชั่งเอ้อกั๋วก็มีช่วงเวลากังวลและคิดถึงอนาคตอะไรเช่นนี้
ไม่มีความคิดเห็น :
แสดงความคิดเห็น