วันพุธที่ 20 พฤษภาคม พ.ศ. 2563

เพราะจะอย่างไรแก่นแห้โลหิตนี้ก็ไม่ใช่แก่นแท้โลหิตของราชสี
เหมันต์ครองฟ้าที่บริสุทธึ๋ เขาได้รับมันมาจากสิงโตหิมะ นั่นหมายความ
ว่าแก่นแท้โลหิตนี้ ถึงคำอธิบายจะบอกกล่าวว่าเป็นแก่นแห้โลหิตของ
ราชสีห์เหมันต์ครองฟ้า แต่สังหรณ์ของเขาบอกว่ามันยัง
ไม่,บริสุทธึ๋ถึง
ขีดสุด

แก่นแห้โลหิตนั้นจะเป็นเส้นชีวิตที่สำคัญที่สุดและเปรียบได้ดั่งแก่น
แท้ของสัตว์อสูรตัวนั้นๆ ถึงแม้ว่าแก่นแห้โลหิตนี้จะสามารถใช้ได้ทันที
แต่หากยกระดับให้มันมีความบริสุทธที่มากขึ้น จะอย่างไรผลลัพธ์มันก็
ต้องดีกว่าอยู่แล้ว

แก่นแห้โลหิตที่ลอยอยู่ในเปลวเพลิงนั้น บางส่วนเริ่มระเหยออกมา
เป็นไอ้ ก่อนที่มันจะเริ่มควบแน่นลงเหลือขนาดเพียง
1 ใน 3 ของแก่น
แห้โลหิตหยดเดิม

'ติ๊ง!! ... ขอแสดงความยินดีในการหลอมกลั่นได้รับ ะ แก่นแท้โลหิต
ราชสีห์เหมันต์ครองฟ้า
1 หยด'

แก่นแห้โลหิตนั้นเปลีย่นจากลีแดงฉาย กลายเป็นสีทองส่อง
ประกายวาววับ หลินฟ้านสามารถสัมผัสได้อย่างชัดเจนว่ากลิ่นอายที่
มันแผ่ออกมาครานี้ เหนือกว่าแก่นแท้โลหิตหยดก่อน
ไม่,รู้เท่าไรต่อ
เท่าไร

‘สำเร็จอย่างงดงาม’

หลินฟานรู้ลึกอิ่มเอมใจและเต็มไปด้วยความสุข ถึงแม้ว่าปริมาณ
มันจะลดน้อยลง แต่หากลูกสิงโตตัวน้อยได้กินแก่นแท้โลหิตของ
ราชลึห์เหมันต์ครองฟ้า ที่บริสุทธึ๋ขนาดนี้ มันควรบังเกิดผลลัพธ์ที่ยอด
เยี่ยม

ในยุคปัจจุบันนั้นกล่าวได้ว่า ราชลึห์เหมันต์ครองฟ้าได้สูญพันธ์ไป
แล้ว นั้นมันคงเป็นไป
ไม่,ได้ที่จะทำให้เหล่าสัตว์อสูรที่ลึบเชื้อสายของมัน
มามีความแข็งแกร่งที่เท่าเทียมกับมัน ในยุคบรรพกาล

แม้กระทั่งนิกายเม้งก่าเอง แค่เพียงโอกาสเลี้ยงดูและยกระดับมันให้
แข็งแกร่งชื้นไปกว่าเดิมนั้นยังมีความมั่นใจเพียงเล็กน้อยเท่านั้น เพราะ
เรื่องนี้มันไม่ใช่เรื่องที่สามารถกระท่าได้แน่นอน ยิ่งไปกว่านั้น
ทรัพยากรที่ต้องใช้เพื่อเดิมพันกับโอกาสเล็กน้อยนี่ ก็มากมายมหาศาล
อย่างมาก มันมากถึงขนาดที่ว่าหากนำทรัพยากรนี้ไปให้
ศิษย์สายในใช้
คงยกระดับพวกมันให้ไปถึงระดับสู่สวรรค์อมตะได้ไม่ยาก!

และตอนนี้เองลูกสิงโตหิมะตัวน้อยนั้นก็หันหน้าเล็กๆทั้งที่ยังปิดตา
ชื้นมาทางแก่นแห้โลหิตของราชสิห้เหมันต์ครองฟ้า ก่อนที่มันจะ
พยายามลุกชื้นยืนอย่างยากสำบาก มันพยายามยืนแล้วแตกไม่

สามารถยีนขึ้นมาได้ มันจึงส่งเสียงร้องอ๊าวๆ ออกมาอย่างน่าสงสารอยู่
ครู่หนึ่ง

หลินฟานยิ้มออกมา ก่อนที่จะช่วยเหลีอให้มันได้รับแก่นแท้ไสหิต
หยดนี้ เขาค่อยๆเปิดปากของมันและส่งแก่นแท้ไสหิตเข้าไป "เอาล่ะ
เจ้าตัวน้อย ต่อจากนี้ไปแกจะโหดขึ้นไต้ถึงระดับไหน ก็อยู่ที่สวรรค์แล้ว

107
07

พริบตาที่ลูกสิงโตตัวน้อยรับแก่นแห้โลหิตเข้าไป สีหน้าของมันฉาย
แววทรมานออกมาเล็กน้อย แต่ไม่นานมันก็แสดงท่าทีอิ่มเอมใจออกมา
มันนอนหลับต่อไปอย่างมีความสุข

ผิวที่ขาวราวหิมะเริ่มเปลี่ยนแปลงมันขาวขึ้นเล็กน้อย ไม่สิ มันเริ่ม
ส่องประกายสดใสออกมา ดูมีรัศมีและทรงพลังแตกต่างจากเดิมอย่าง
มาก

หลินฟานเองก็พอใจกับความเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ไม่น้อย เขาวางมัน
ลงในที่นอนที่เขาพึ่งทำออกมาให้มัน

"ท่านประมุขน้อยหลิน ท่านประมุขหยางฝากสิงของพวกนี้มาให้
ท่านขอรับ" ทันใดนั้นเองก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้นมาจากภายนอกบ้านพัก

ของเขา

"เอาล่ะ เข้ามาก่อนสิ"

ชายคนนี้ดูเหมือนจะเป็นดิษย์ส่วนตัวของประมุขหยาง

หลินฟานได้ตรวจสอบสิงที่รับมาและเขาก็พบว่า มันเป็นคู่มือเลี้ยง
สัตว์อสูร และขนสัตว์นุ่มๆบางส่วนของสิงโตหิมะ

หลินฟานจับจ้องไปยังคู่มือเลี้ยงสัตว์อย่างสนใจ ส่วนทางด้านขน
สัตว์นั้นแน่นอนว่าเขาขอมาเพื่อเอาไว้เป็นวัตถุดิบในยามสร้างสิงของ
ด้วยสกิลช่างฟิมือ

เพราะในยามว่างที่หลินฟานไม่มีอะไรทำ บางทีเขาอาจจะสร้าง
อะไรเล็กๆน้อยๆให้แก่สิษย์ของเขาได้ โดยเฉพาะ
ศิษย์ตัวน้อยที่พึ่ง
รับมาใหม่

■ลังแ ... ขอแสดงความยินดีท่านค้นพบ สกิลวิชาชีพนัก'ฝืกสัตว์ ะ
ดิลปะการอบรมสัตว์อสูร ต้องการเรียนรู้หรือไม่
?

"เรียนรู้''

ทันใดนั้นความรู้มากมายก็หลั่งไหลเข้าสู่สมองของหลินฟาน

การอบรมสอนสั่งสัตว์อสูรปกติให้พอเชื่อฟ้งนั้น จะแตกต่างกัน
อย่างสินเชิงสำหรับการอบรมสั่งสอนสัตว์อสูรเพื่อให้มันมาเป็นสัตว์
อสูรพันธะสัญญาคู่ชีวิต

สัตว์อสูรพันธะสัญญาคู่ชีวิตนั้น เป็นความสัมพันธ์ที่พิเศษและเป็น
เอกลักษณ์ระหว่างเจ้านายและสัตว์อสูร เมื่อสัตว์อสูรตัวใดที่ลูกฟิกฝน
จนทำพันธะสัญญาคู่ชีวิตกับเจ้าของแล้ว หากเจ้าของตกตายไป ตัว
สัตว์อสูรจะตกตายไปด้วยพร้อมๆกัน แต่ในทางกลับกัน หากสัตว์อสูร
ตกตายลงไปเจ้าของจะไม่ได้รับผลร้ายหรือเป็นอะไรทั้งสิน...

และฟ้งจากคำอธิบายของสกิลดูเหมือนว่ามันจะมีประโยชน์สำหรับ
ผู้ฟิกตนที่เน้นในเรื่องของการควบคุมสัตว์อสูรเท่านั้น หาได้มีประโยชน์
อะไรกับผู้อื่นไม่ กล่าวไต้ว่าแทบจะไร้ประโยชน์

เพราะไม่มีผู้ฟิกตนคนไหนจะยินยอมเสียสละเวลาอันมีค่าในชีวิต
ไปพยายามดูแลและฟิกฝนสัตว์อสูร

ถึงแม้ว่าสัตว์อสูรจะหาได้ง่ายและพบได้ทั่วไป แต่ตัวที่แข็งแกร่ง
ทรงพลังและดุร้ายนั้นก็พบเจอได้น้อยมาก

เช่นนั้นคนส่วนใหญ่จึงเอาเวลาไปบ่มเพาะฟิกฝนเสริมสร้างให้
ตัวเองแข็งแกร่ง แทนที่จะเอาเวลาไปเสียกับการด้นหาสัตว์อสูรที่
แข็งแกร่ง ที่
ไม่,รู้ว่าจะได้เจอเมื่อไหร่ และเมื่อเจอแล้วก็ไม่รู้ว่าจะ
สามารถฟิกฝนมันได้ไหม...

'ตง!'... วิชาชีพนักฟิกสัตว์ และ วิชาชีพ เมนเทอร์ สามารถหลอม
รวมผสานกันได้ และเมื่อหลอมรวมกันแล้วท่านจะได้รับวิชาชีพ
เทรนเนอร์
? '

ตอนแรกหลินฟานตั้งใจจะศึกษาคู่มือนี้ดูเสียหน่อย แต่เมื่อได้รับ
เลียงแจ้งเดือนจากระบบเขาถึงกับตกตะลึงทันที

เทรนเนอร์ ...

เทรน...

*( คำว่า 7โลก ในเกมส์ออนไลน์นั้น จะหมายถึงการลากมอน
สเตอร์จำนวนมากมายมาใส่ชาวบ้านเค้าจนวงแตก...หากคนไม่เคยเล่น
เกมส์ ให้นึกว่า ท่าน กำลังส้กับวัวอยู่ตัวหนึ่งอย่างดุเดือด แต่อยู่ๆ มี
ใครไม่รู้ลากวัวมาอีก
100 ตัว แล้วฟ้ว...หนีหายไปต่อหน้าต่อตา
ปล่อยท่านยืนรับฝูงวัวมากมายเพียงลำพัง...)

หลินฟานรู้สีกเขินอายเล็กน้อยจนแก้มเริ่มเจือลีแดง เขาพลันนึกไป
ถึงสมัยที่ยังเล่นเกมส์และคุ้นเคยกับคำว่า เทรนเป็นอย่างดี...ก็การลาก
มอนไปใส่จนตี้ชาวบ้านแตกมันฟินนึ่นา ...เขารู้ลีกดีใจและตื่นเต้นอย่าง
มากที่ได้ยินชื่อ สกิล เทรนเนอร์ นี่อีกครั้งซํ้าตอนนี้เขายังสามารถเลือก
ที่จะรับมันได้ด้วย

'แล้วไอ้สกิลเทรนเนอร์นี้มันเป็นยังไงกันน้อ? ฟ้งแล้วมันน่าจะลูดีไม่
น้อยน้า!

หลินฟานเริ่มนึกถึงเรื่องอุตริในอดีต แต่เขายิ้มแฉ่งได้อยู่ครู่หนึ่งเขา
ก็ต้องส่ายหัวไปมาก่อนที่จะทำหน้าตาซึงขังจริงจังออกมา ‘เขี่ยใน
ฐานะประมุขของนิกายปีศาจศักดึ๋สิทธึ๋รุนที่
6 เราจะคิดเรื่องกลั่นแกล้ง
ผู้คนแบบนั้นไต้ยังไง ไม่ได้การแล้ว เลิกๆๆๆ!’

ตั้งแต่วันนี้ไปตัวเขาต้องเป็นคนสูงส่ง! มีคุณธรรม! และเป็นที่
เคารพนับถือของทุกคน! เขาเป็นคนที่จะต้องนำพานิกายปีศาจ
ศักดสิทธึ๋ที่ถูกทำลายให้ผงาดกลับมาเจริญรุ่งเรืองและยิ่งใหญ่กว่าใน
อดต

วิชาชีพที่พึ่งได้ยินมาเมื่อครู่น่ะเหรอ ... หึ! แค่ฟ้งจากเสียงรายงาน
ของระบบก็น่าจะรู้ว่าไม่ควรเป็นวิชาหรือสกิลอะไรที่ดีๆ อยู่แล้ว ใน
ฐานะที่เป็นคนมีคุณธรรมและหลักการที่จะวางตัวใช้ชีวิตอย่างสูงส่ง
แล้ว เขาจะหลอมรวมผสานวิชาที่ฟ้งดูเหมือนวิธีกลั่นแกล้งผู้คนใน
อดีตเช่นนี้ได้อย่างไร
?

ไม่ได้แน่นอน เขาไม่สามารถกระทำเข่นนั้นได้อย่างเด็ดขาด

'หลอมรวมผสาน' แต่หลินฟานได้เลือกหลอมรวมทันทีหลังจากที่
คิดถึงสัจธรรมข้อหนึ่งขึ้นมาได้! เขาได้โยนความลังเลทั้งหมดทั้งมวลทิ้ง
ออกไปทันที

ในโลกนี้ไม่มีสิงใดที่ เลว หรือ ดี ทุกอย่างล้วนขึ้นอยู่กับผู้ใช้ทั้งสิน
การจะตัดสินว่าลิงใดดีหรือเลวนั้น เพียงมุมมองแคบๆของมนุษย์ที่ยัง
ไม่บรรลุเท่านั้น!!

‘มา วิชาชีพเทรนเนอร์ มาให้ท่านประมุขผู้นี้ดูว่าเจ้าจะเป็นวิชาชีพ
เข่นไร และท่าอะไรได้บ้าง ช้าประมุขจะมอบของขวัญให้แก่เหล่าลูก
แกะน้อยๆในโลกมนุษย์ และช้าประมุข ตั้งใจเทรน ให้ทุกคนบนโลก
ได้รับประสบการณ์ที่ดี ’

'ติ๊ง!! ... ขอแสดงความยินดีท่านหลอมรวมผสมผสานสำเร็จ'

'เทรนเนอร์: 16761 0 '

'เทรนเนอร์: สามารถ'ฝืกฝนลี่งมีชีวิตได้ทุกชนิดบนโลก สามารถรีด
เค้นศักยภาพขีดสุดของสิงมีชีวิตออกมาได้ทั้งหมด มีกลิ่นอายของ
เทรนเนอร์แผ่ออกมาอย่างเป็นธรรมชาติ
'

ปล.เทรนเนอร์ กับเทรน ก็ไม่เหมือนกันเลย มันหลอนของมันไปเอง

บทที่ 160 ตัวละครนี้ ไม่ธรรมดา

หลินฟานเงยหน้าขึ้นมองฟ้าก่อนที่จะถอนหายใจออกมา เป็นดั่ง
เช่นเคยเพียงคำอธิบายของวิชาชีพที่ระบบบอกมา เขาไม่สามารถ
เข้าใจได้ทั้งหมด
'เอ่อ ตกลงเทรนเนอร์นี่ ... มันทำอะไรได้มั่ง แล้วใช้
งานยังไงกันแน่วะเนี่ย
?'

หลินฟานรู้สีกกังวลไม่,น้อย ตอนนี้ลูเหมือนระบบในรูปแบบใหม่
มันจะรวบรัดอะไรหลายๆอย่างไปเยอะมาก แม้กระทั้งเขาได้รับวิชาชีพ
ใหม่ ระบบเองก็ไม่อธิบายความสามารถออกมาทั้งหมดให้เขาเข้าใจได้
ง่ายๆ

เขาสามารถค้นหาความสามารถของมันทั้งหมด จากการทดลองใช้
งานดูเองเท่านั้น

หลินฟานไม่,คิดอะไรให้มากความ เขาเปิดประตูและเดินออกไป
ทันที ตอนนี้เขาแค่ลองไปหาใครสักคนที่ไหนก็ได้มาลองทดสอบ
วิชาชีพเทรนเนอร์นี้ตูว่ามันจะทำอะไรได้บ้าง

ทิวทัศน์และบรรยากาศวันนี้ช่างสวยงามและดีงามไม่น้อย

ลูกศิษย์ตัวน้อยของเขายังคงหลับใหลอย่างมีความสุข ตั้งแต่ที่เขา
เป็นคนพานางมา เขาก็ต้องดูแลนางให้ดีที่สุด ไม่ให้นางเจอเรื่องร้ายๆ

หลินฟานมองไปรอบๆ ในที่สุดก็เห็นชั่งเอ้อกั๋วนั่งบ่มเพาะอยู่เพียง
ลำพัง เขานั่งบ่มเพาะอยู่บนก้อนหินที่หลินฟานเคยไปนั่งเหม่อลอย
ก้อนนั้น

หลินฟานเดินมุ่งหน้าไปหาชั่งเอ้อกัวทันที เขาสัมผัสได้ว่าชั่งเอ้อกั๋ว
มี
ความมร้สีกเหงาๆแลดูอ้างว้างออกมา

"เอ้อกั๋วเจ้ากำลังคิดเรื่องราวอันใดอยู่หรือ?" หลินฟานไปยืนอยู่
ด้านหลังชั่งเอ้อกั๋วเบาๆ ก่อนที่จะจ้องมองใบหน้าอัปลักษณ์ของเอ้อกั๋ว
แล้วกล่าวถามออกมา

"ท่านประมุข...ข้าคิดถึงอนาคต"

หลินฟานเริ่มร้สีกไม่,ชอบมาพากลเล็กน้อย เขาไม่เคยคิดเลยว่า
ศิษย์อย่างชั่งเอ้อกั๋วก็มีช่วงเวลากังวลและคิดถึงอนาคตอะไรเช่นนี้


ไม่มีความคิดเห็น :

แสดงความคิดเห็น