วันอาทิตย์ที่ 3 พฤษภาคม พ.ศ. 2563

การแข่งขันรอบที่สาม มีเพียงแค'ยี่สิบห้าคนที่ผ่านเชัารอบถัดไป!

ฉินหยุนคาดเดาไว้ว่าสมควรมีราวสามสิบ ถือว่าห้อยกว่าที่คิด
ค่อนชัางมาก

การแข่งขันพอจบลง ฉินหยุน หถันเฟิงจิน และคณะจึงค่อยกลับไป
ยังห้านพักในป้าห้อย

เมื่อกลับมาแล้ว ฉินหยุนจึงได้เห็นหยางฉีเย่ว์กำถังบินท่ามกลางหมู่
ไล้ เป็นนางกำถังใช้วิชาตัวเบาที่ยอดเยี่ยม

“เป็นล้าวดาราเร้นลับ แต่ท่าเห้ายังสูยุ่งเหยิง ลมหายใจยังไม่ลื่นไหล
น่าจะเพิ่งเรียนรู้มัน” หถันยัวอวี้ที่เห็นแต่ไกลจึงกล่าวคำออกมา

“ล้าวดาราเร้นลับค่อนช้างยากควบคุม ต่างคนต่างก็มีท่าเห้าแตกต่าง
ถันไป เคล็ดวิชาตัวเบานี้จะแตกต่างไปตามลักษณะเฉพาะของแส่ละ
คน!” ช้าวฉวนหัวเราะ

ฮั่วจง ม่หรงต้าเหริน และเสวี้ยซือเยี่ย พวกเขาต่างก็ได้รับล้าวดารา
เร้นลับ พวกเขาต่างก็เริ่มศึกษาลันห้างแล้ว

ฉินหยุนเองก็ถามต่อพวกเขา วิธีการที่ทราบคือ ค่อนช้างแตกต่างลัน
อย่างมาก

หยางฉีเย่ว์บินมาทางนี้ ทักทายช้าวฉวนและหลันยัวอวี้อย่างมีมารยาท

“แม่นางหยาง เจ้าเป็นผูชี้แนะแก่ฉินหยุน ก่อนเริ่มรอบที่สี่ มีเวลา
สามวันให้ชี้แนะแก่เขาใช่หรือไม่?”

การประลองยุทธ์รอบที่สี่ จะจัดขึ้นในอีกสามวัน

นี่ก็เพราะรอบที่สามคือการทดสอบผ่านค่ายอาคมสังหาร ผูฟืกตน
หลายคนได้รับบาดเจ็บ พวกเขาต้องใช่เวลาหลายวันจึงค่อยฟืนคืน
สภาพ

หยางฉีเย่ว์พยักหห้ารับ “ข้ายังไม่มั่นใจว่าการแข่งขันรอบที่สี่เป็นอัน
ใด แต่ความยากย่อมต้องเพิ่มขึ้น และรอบสุดห้ายชืงเป็นการประลอง
ยุทธ์ของจริงที่หลายคนต่างรอคอย!”

“ตำหนักสักดสิทธวิญญาณสีครามของท่านช่างเข้มงวดนัก รอบที่สาม
ของทั้งสองการแข่งขันหาไสัมีรางวัลอันใดไม่!” ฉินหยุนกล่าวออก
มา “ชัดเจนเลยว่า พวกเขาไม่คิดจ่ายรางวัลออกใช่หรือไม่? ช่าง
ตระ หนี่เกินไปแต้ว!”

ตอนที่ 313 : ผังจารึกดวงดาว

พอยกเรื่องรางวัลขึ้นมา หลันเฟิงจินเองก็รู้สึกไม่พอใจ นางกล่าว
ออก “ตำหนักสักดสิทธวิญญาณสีคราม ไม่น่าจะขาดแคลนรางวัล
หรือไม่ใช่กัน?”

หลันฮัวอวี้หัวเราะตอบ “แน่นอนว่าไม่! รอบที่สามย่อมมีรางวัล แต่
มันจะถูกรวบยอดไว้กบรอบที่สี่ หากต้องการได้รับรางวัล เช่นนั้นก็
ต้องทำผลงานในรอบที่สี่ใหด ไว้ถึงเวลาแต้วเจ้าจะไต้รู้เอง!”

หยางฉีเย่ว์หัวเราะ “ฉินหยุน หากเจ้าต้องการรางวัลสึกลับนั่น จ้าจะ
ใบ้เจ้ารึเกซ้อมอย่างหนักเพื่อรอบที่สี่! ในฐานะผูชี้แนะ จ้าเองก็จะ
ไต้รับรางวัลด้วย!”

“อาจารย์โปรดสอนก้าวดาราเร้นลับแก่จ้าด้วยขอรับ!” ฉินหยุนเร่ง
ร้อนกล่าว

“เจ้าเพิ่งกลับจากการแข่งขันจารึก ไม่คิดพักผ่อนหรือ?” หยางฉีเย่ว์
ถาม

“ย่อมไม่ จ้าตอนนี้มีจิตวิญญาณแห่งการต่อสู้ลุกท่วมนัก!” ฉินหยุน
ยิ้มตอบ

ลัดจากนั้น หยางฉีเย่ว์จึงกลับเจ้าบ้านใบ้พร้อมฉินหยุน และเริ่มทำ
การอธิบายถึงพื้นฐานของก้าวดาราเร้นลับ

สำหรับหลันเฟิงจิน นางกำลังจึเกฝนวิธีการทำลายค่ายอาคมผนึก
เพราะนางลัมลงที่ตรงนี้ ดังนั้นจึงคิดหาทางแกไห้ได้

ภายในห้านไห้ฉินหยุนกำลังตั้งอกตั้งใจ รับพีงหยางซีเย่ว์อธิบายวิชา
ยุทธ์ให้ฟ์'ง

หยางฉีเย่ว์กล่าว “ก้าวดาราเร้นลับค่อนข้างแปลก เมื่อไข้งาน มันจะ
แตกต่างออกไปตามแต่วิญญาณยุทธ์ในร่างกายของผูป็กตน”

“ยกตัวอย่าง ข้ามีวิญญาณยุทธ์จันทรา ระหว่างกลางวัน เมื่อข้าไข้ก้าว
ดาราเร้นลับ ข้าจะไข้ได้เพียงแค'เพิ่มความเร็วการเคลื่อนไหว แต่ยาม
กลางคืน เมื่อแสงจันทราสาดส่อง เมื่อข้าสัมผัสถึงดวงจันทร์ได้จะ
ทำให้ร่างกายของข้าสูดกลืนแสงจันทรา ทำให้ง่ายต่อการบินอย่าง
ยิ่ง!”

“ข้ามีวิญญาณยุทธ์อสนีบาตอัคคีทองม่วง และวิญญาณยุทธ์สั่นไหว
พวกมันจะส่งผลแก่ข้าหากไข้ก้าวดาราเร้นลับอย่างไรขอรับ?” ฉิน
หยุนกลายเป็นสงสัยอย่างยิ่ง

“ข้าไม่ทราบ เข้าด้องเชี่ยวชาญมันก่อนจึงสามารถทราบได้” หยางซี
เย่ว์ยิ้ม “สำหรับขั้นต้นของก้าวดาราเร้นลับ หนึ่งคือต้องมีเอกลักษณ์
การเคลื่อนไหวส่วนตัว ข้าเพียงยืนยันได้ว่า เคล็ดวิชาเคลื่อนไหว
ของข้าจะมีเอกลักษณ์อย่างมากในตอนกลางคืน”

ฉินหยุนพยักหน้า รับฟ์'งการบรรยายจากหยางฉีเย่ว์ถึงความยากลำบาก
ของก้าวดาราเร้นลับ

ก้าวดาราเร้นลับ เป็นวิชายุทธ์ระดับโลกา มีแต่ขอบเขตวรยุทธ์เต๋าจึง
สามารถใช้งาน

สำหรับผูป็กตนขอบเขตกายวรยุทธ์ระดับที่เก้า มันเป็นเรื่องหลีกเลี่ยง
ไม่ได้ที่จะก้องใช้พลังงานมหาศาลยามคิดใช้งานวิชายุทธ์ระดับโลกา
นอกจากนี้ พวกเขายังก้องใช้ขุมพลังภายในขั้นสูงก้วย
พอไก้ยินดังนี้ ฉินหยุนจึงเริ่มเช้าใจเรื่องราวโดยคร่าว

หลังจากนั้น เขาจึงเริ่มใช้งานวิชาลับพลังของแก่นภายใน ไหลเวียน
สู่ทั่วร่างกาย จากนั้นจึงพุ่งเน้นไปที่ขา

เขาพยายามทำทบทวนซํ้าไปมาเพื่อสร้างความก้นเคยให้ลับตนเอง
ช่วงกลางคืน หยางฉีเยวออกไปก้านนอกเพื่อฝืกฝนก้าวดาราเร้นลับ
เป็นนางค่อย ๆ เพิ่มพูนพละกำลังขึ้นไปทีละขั้น

ฉินหยุนจึเกฝนตลอดทั้งคืน และในช่วงเช้าของวันที่สอง เขาก็ยังคง
จึเกฝนอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งเกือบบ่าย เขาค่อยไก้มีเวลาหายใจพัก
นี่ก็เพราะ การแข่งขันจารึกรอบที่สี่จะจัดขึ้นในช่วงบ่ายวันนี้
การประลองยุทธ์ในรอบที่สาม จะชัดขึ้นในอีกสามวัน แต่การ
แข่งขันจารึกไม่มีหยุดเช่นนั้น

“ฉินหยุน ข้าคงไม่ได้ไปรับชมการแข่งขันจารึก ข้ารู้ว่าเข้าย่อมทำ
อย่างเต็มที่อยู่แล้ว!” หยางฉีเย่ว์นำจานติ่มซำที่ทำขึ้นได้แก่เขาเป็น
การได้กำลังใจ

ฉินหยุนยินดีขณะลัดกินพวกมันเข้าไป ทั้งยังพยักหนัารับคำหลาย
ต่อหลายครั้ง

เมื่อกินเสร็จเรียบร้อย เขา หลันเฟิงจิน หลันยัวอวี้ และข้าวฉวน ต่าง
มุ่งหด้าไปยังตำหนักวิญญาณจารึก

รอบที่สี่ มีอาจารย์จารึกเข้าร่วมเพียงยี่สิบด้าคน เพราะเหตุนี้ ลาน
กข้างจึงยิ่งมายิ่งกข้างมากขึ้นเพราะจำนวนคนที่ลดด้อยลง
ผู้ที่สามารถเข้าสู่รอบที่สี่ ย่อมมีสถานะสูงส่ง

ท่ามกลางผู้เข้าร่วม มีแส่ฉินหยุนที่อยู่ขอบเขตกายวรยุทธ์ระดับที่เล้า
สำหรับผู้อื่นนั้น ล้วนเป็นอาจารย์จารึกระดับสูงขอบเขตวรยุทธ์เต๋า
ลันทั้งสิ้น

พวกเขาส่วนใหญ่มาจากตำหนักดวงดาววิญญาณสีคราม มีเพียงด้อย
นิดที่มาจากสถาบันยุทธ์ระดับเสวียน และตำหนักจารึกเทวะ

เด็กหนุ่มเช่นฉินหยุน กลายเป็นโดดเด่นโดยทันทีเมื่ออยู่ท่ามกลาง
กลุ่มอาจารย์จารึกเฒ่าชรา

เรื่องนี้เป็นการยืนยัน ถึงระดับอาจารย์จารึกของฉินหยุน ว่าก้าวลํ้า
กว่าอาจารย์จารึกระดับสูงส่วนใหญ่

“การแข่งขันจารึกในรอบที่สี่ จะเป็นการทดสอบความเชี่ยวชาญของ
อาจารย์จารึกต่อผังวิญญาณและอุปกรณ์วิญญาณ” หลันฮัวอวี้กล่าว
“เมื่ออาจารย์จารึกทำการขัดเกลา ความผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้นเป็นสิ่ง
ไม่อาจหลีกเลี่ยง ความผิดพลาดส่วนใหญ่จะเกิดขึ้นระหว่างการ
แกะสลักผังวิญญาณ ซึ่งมันอาจส่งผลให้อุปกรณ์วิญญาณกลายเป็น
สิ่งไร้ค่า”

“ทว่า อุปกรณ์วิญญาณเช่นนั้นสามารถซ่อมแซมไดั นั่นจะเป็นบท
ทดสอบครั้งใหญ่ต่อความสามารถของอาจารย์จารึก”

“การแข่งขันในรอบนี้ ก็เพื่อให้ทุกคนไก้ซ่อมแซมอุปกรณ์วิญญาณ
ชั้นเลิศที่ถูกทอดทิ้งเหล่านั้น”

“ทุกคนวางใจไก้ บริเวณที่อุปกรณ์วิญญาณที่ลูกทิ้งเหล่านี้ผิดพลาด
ส่วนใหญ่จะอยู่ในส่วนเส้นสว่าง ตราบเท่าที่สามารถซ่อมแซมแก้ไข
เส้นสว่างที่ผิดพลาด ก็เท่าลับสามารถนำอุปกรณ์วิญญาณชั้นเลิศ
กลับมามีชีวิตไส้อีกครั้ง เพียงเท่านี้ก็จะสามารถเข้าสู่รอบสุดห้ายไส้!”
“อาจารย์จารึกผู้ซึ่งซ่อมแซมอุปกรณ์วิญญาณชั้นเลิศสำเร็จไส้มาก
ที่สุด จะไส้รับผังจารึกพิเศษจากตำหนักศักดลิทธของพวกเรา นี่ถือ
เป็นผังจารึกที่พิเศษมากจริง ๆ !”

รางวัลในรอบที่สี่ถึงกับลํ้าค่าเพียงนี้ มันคือผังจารึกดวงดาวในตำนาน

ผู้คนที่แพิไนรอบก่อนถึงขั้นใจสลาย พวกเขาต่างคิดว่าเหตุใดพวก
ตนไม่อาจเข้าสู่รอบที่สี่ ไม่เช่นนั้นพวกเขาอาจสามารถได้รับผัง
จารึกดวงดาว!

เพราะเรื่องนี้ ตำหนักจารึกวิญญาณจึงเดือดพล่าน

สำหรับฉินหยุน ผังจารึกดวงดาวหาได้แปลกไม่!

ภายในผังจารึกอันลึกลับ นอกจากผังวิญญาณ ผังลึกลํ้า และผังเต๋า
มันยังมีผังพิเศษอย่างอื่น นั่นก็คือผังจารึกดวงดาว ผังจารึกจันทรา
และผังจารึกตะวัน

ผังจารึกดวงดาว ถือเป็นผังพิเศษที่ค่อนข้างธรรมดา แต่แม้ว่าพวกมัน
ธรรมดา ก็ไม่ใช่ว่าสามารถได้รับมันมาโดยง่าย
สำหรับผังจันทราและผังตะวัน พวกมันหาได้ยากยิ่งกว่า

ผังจารึกดวงดาวมีความสามารถเช่นไร? ไม่มีผู้ใดทราบถึงความพิเศษ
และความลึกลับนี้ กระนั้นอาจารย์จารึกทั้งหลายต่างก็ปรารถนาผัง
จารึกดวงดาวในครอบครอง

“เพื่อให้ได้รับผังจารึกดวงดาว คนผู้นั้นจำเป็นต้องซ่อมแซมอุปกรณ์
วิญญาณขั้นเลิศจำนวนมากที่สุด หากทุกคนสามารถซ่อมอุปกรณ์

วิญญาณชั้นเลิศได้เพียงหนึ่ง เช่นนั้นก็เท่ากับไม่มีผูใดสามารถได้รับ
รางวัลนี้!”

“ระยะเวลาจำกัดที่สองชั่วยาม!”

สองชั่วยาม นี่ถือเป็นระยะเวลาที่ยาวนานที่สุดในการแข่งขันหลาย
รอบที่ผ่านมา พิจารณาจากเรื่องนี้ ก็บ่งบอกได้แล้วว่ามันยากเย็น
เพียงใด!

ฉินหยุนกำลังคาดหวังถึงรางวัลในรอบที่ห้า

หากรางวัลในรอบที่สี่ถือผังจารึกดวงดาว เช่นนั้นรางวัลในรอบที่ห้า
ย่อมต้องดีกว่าผังจารึกดวงดาวอย่างแน่นอน!

เขามีผังวิญญาณ ผังลึกลํ้า ผังเต๋า ทั้งหมดล้วนอยู่ระดับสูง กระนั้นก็
ไม่มีผังจารึกดวงดาว ดังนั้นแล้วผังจารึกดวงดาวจึงดึงสูดความสนใจ
แก่เขายิ่ง

หลันฮัวอวี้นำเอาอุปกรณ์วิญญาณชั้นเลิศจำนวนมากออกมา รวม
แล้วทั้งสิ้นกว่าหกลิบชิ้นงาน พวกมันล้วนเป็นดาบหรือไม่ก็กระบี่
จะมีสัอนและหอกปะปนมาห้างเล็กห้อย

“สหายและซัาได้ถือครองสิ่งของเหล่านี้มานานหลายปื พวกเราทำ
ผิดพลาดตอนแกะสลักเล้นสว่าง พวกเราสามารถซ่อมแซมได้ แต่

ความผิดพลาดของพวกเราค่อนข้างพิเศษ ดังนั้นจึงเก็บพวกมันเอาไข้
เพื่อคอยยํ้าเตือนตัวเอง ยํ้าเตือนแก่ศิษย์ของพวกเรา บอกต่อพวกเขา
ว่าอย่าได้ทำความผิดพลาดเช่นนี้ออกมา และตอนนี้ พวกเราตัดสินใจ
นำมันออกมาให้ทุกคนได้ลองสูว่าสามารถซ่อมแซมได้หรือไม่”

หลันฮัวอวี้เริ่มให้อาจารย์จารึกที่เข้ารอบ เข้ามาเลือกหยิบอุปกรณ์
วิญญาณชั้นเลิศตรงหนัา

ฉินหอุนเองก็เลือกหนึ่งในนั้นมา ขณะลือในมือ เขาพบว่ามันเป็น
เรื่องยากที่จะบอกว่ามีตรงไหนผิดพลาด

เมื่อใส่พลังภายในเข้าไปในอุปกรณ์วิญญาณ เขาพบถึงความไม่
เสถียรอย่างรุนแรงภายในอุปกรณ์วิญญาณ และตัวอุปกรณ์วิญญาณก็
ไม่อาจสูดกลืนและปลดปล่อยพลังงานออกมามากกว่านั้นได้อีก

ก็เหมือนดังอาจารย์จารึกหลายท่าน ฉินหยุนเลือกชิ้นงานที่ใหญ่ นี่จะ
ทำให้ง่ายต่อการสังเกตผังวิญญาณที่ตัวชิ้นงาน

หากเป็นอุปกรณ์วิญญาณชิ้นเล็ก ผังวิญญาณที่แกะสลักเอาไข้ก็ย่อม
ต้องแน่นชิดติดลัน ทำให้ยากต่อการสำรวจพิจารณา

ที่ฉินหยุนเลือกลือดาบใหญ่สีแดงสว่างเล่มหนึ่ง เส้นสว่างของมัน
บนพื้นผิวค่อนข้างเหนือชั้น ทั้งยังแกะสลักออกมาอย่างดีเยี่ยม
ชัดเจนว่ามันลือผังอสนีบาตและอัคคี

หลังจากอาจารย์จารึกท่านอื่นเลือกอุปกรณ์วิญญาณเรียบร้อยแล้ว
หลันฮัวอวี้จึงประกาศเริ่มการแข่งขันอย่างเป็นทางการ!

กระทั่งว่าอาจารย์จารึกทั้งยี่สิบห้าคนเลือกหยิบอาวุธวิญญาณกันขึ้น
มาแล้ว ก็ยังมีอาวุธวิญญาณชั้นเลิศอยู่บนโต๊ะยาวอีกมาก หากอาจารย์
จารึกใดสามารถทำงานไล้รวดเร็ว พวกเขาสามารถเดินกลับไปหยิบ
ชิ้นงานอื่นมาทำเพิ่ม

ที่จุดเริ่มต้นของการแข่งขัน อาจารย์จารึกแต่ละท่านต่างเร่งรีบหา
ความผิดพลาดบนผังวิญญาณของตัวอุปกรณ์

ฉินหยุนใช้พลังจิตตรวจสอบดาบใหญ่สีแดงสว่างหลายต่อหลายครั้ง
เขากำลังสำรวจพิจารณาหาชัอผิดพลาดที่ผังวิญญาณ

การล้นหาความผิดพลาดของผังวิญญาณจำเป็นต้องใช้เวลามาก แต่
เมื่อพบแล้ว เขาจะสามารถเริ่มการซ่อมแซมพวกมันไต้อย่างรวดเร็ว

การแข่งขันเช่นนี้ ลือเป็นบททดสอบประสบการณ์ของอาจารย์จารึก
ในเรื่องการแกะสลักผังวิญญาณ

ภายในมิติเก็บของ โมโมทราบว่าภายนอกเกิดเรื่องอันใดขึ้น นางจึง
กล่าวคำออก “พี่หยุน หากซัาสามารถออกไปไต้ซัาสามารถช่วยท่าน
สันหาซัอผิดพลาดของผังวิญญาณไต้อย่างรวดเร็ว!”

ฉินหยุนก็ทราบว่าโมโมมีความสามารถเช่นนี้ เขาเพียงยิ้มและตอบ
กลับ “ไม่เป็นไร ข้าคิดอยากทดสอบความสามารถตัวเองด้วย! หาก
ข้ามีโอกาสในภายหน้า ย่อมขอให้เข้าช่วยซ่อมอุปกรณ์วิญญาณอย่าง
แน่นอน!”

การซ่อมอุปกรณ์วิญญาณ ก็ถือเป็นทักษะหนึ่งที่อาจารย์จารึกพึงมี

พลังจิตของฉินหยุนค่อนข้างแข็งแกร่งยิ่ง กระทั่งอาจารย์จารึกระดับสูง
ที่ขอบเขตวรยุทธ์เต๋า ก็ยังไม่มีพลังจิตแข็งแกร่งเทียบเท่าเขา

ขณะกวาดสายตาพิจารณา เขาพบถึงความผิดพลาดของผังวิญญาณ
อย่างรวดเร็ว!

เขาหยิบมีดแกะสลักพิเศษสำหรับการแข่งขันขึ้นมา ใส่พลังจิต
วิญญาณโลหิตเข้าไป จากนั้นจึงเริ่มทำการซ่อมแซมผังวิญญาณที่
ผิดพลาด!

หลันเฟิงจินที่อยู่ด้านนอกสนามแข่งขัน อดไม่ได้ที่จะกล่าวด้วย
ความตื่นตะลึง ยามเมื่อเห็นฉินหยุนเริ่มคข้าจับมีดแกะสลัก “ฉิน
หยุนสันหาความผิดพลาดได้รวดเร็วเพียงนี้?ข้าเคยพยายามช่วยท่าน
ปซ่อมแซมอุปกรณ์วิญญาณพวกนี้มาก่อน ในตอนนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย
เลยที่จะหาจุดผิดพลาด! มันต้องไข้เวลาอยู่นานกว่าข้าจะหาจุดผิดพลาด
ได้พบ!”

จ้าวฉวนพยักหน้ารับ “เป็นเช่นนั้น การสันหาจ้อผิดพลาดของผัง
วิญญาณ จำเป็นต้องใชัเวลามาก ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย! แต่สำหรับฉิน
หยุน ดูเหมือนเขาจะพบเจอมันเรียบจ้อยแต้ว!”

อาจารย์จารึกที่ถูกคัดออก ต่างก็รับชมการแข่งขันรอบนี้จากต้าน
นอกสนามแข่ง พวกเขาต้วนอึ้งทึ่ง

นี่เป็นครั้งแรกที่ฉินหยุนไต้ทำการซ่อมแซมอุปกรณ์ที่ล้มเหลว เขา
อาลัยภูมิความจ้ที่ไต้รับจากตำราออกมาทดลอง

เขาไม่เคยคิดเลยเช่นคัน ว่าพลังจิตของตนจะสารพัดประโยชน์ไต้
ขนาดนี้ เขาเพียงตามการไหลของเต้นสว่างบนตัวคมดาบ ไม่จ้าจึง
สามารถพบจุดผิดพลาด

“ไม่ทราบว่าผูใดแกะสลักมันขึ้นมา ระดับของความวิจิตรไม่สูงนัก
และมีหลายจุดที่พลังจิตวิญญาณโลหิตค่อนจ้างขาดไป ผลลัพธ์ที่ไต้
จึงทำใน้นั้งผังวิญญาณเกิดเศษเสี้ยวที่รวมกันจนเป็นความผิดพลาด
ทั้งชิ้นงาน”

ขณะฉินหยุนครุ่นคิด เขาใช้มีดแกะสลักทำการแกะสลักผังวิญญาณ
ตรงส่วนที่เป็นปัญหา โดยอาลัยเต้นสว่างเดิมที่มีอยู่

พลังจิตวิญญาณโลหิตเปัรียบดั่งหมึก หากไม่มีพลังจิตวิญญาณโลหิต
เพียงพอ อาจารย์จารึกก็เหมือนพู่กันที่ขาดนั้าหมึก

“เขาพบตำแหน่งผิดพลาดแล้วจริง!”

พอจ้าวฉวนไล้เห็นฉินหยุนแกะสลักผังวิญญาณอย่างครั้าเคร่ง เขา
กล่าวล้วยความแตกตื่น “กระทั่งอาจารย์จารึกที่ขัดเกลาอุปกรณ์
วิญญาณชิ้นนั้น กว่าจะพบข้อผิดพลาดยังยากเย็น เขาทำไล้อย่างไร
ลัน?”

ไม่ใช่เพียงแต่จ้าวฉวนที่ประหลาดใจ กระทั่งอาจารย์จารึกระดับสูงที่
สูงวัยทั้งหลายก็ประหลาดใจเช่นลัน

พวกเขาลอบสงสัยส่อฉินหยุนที่มีเคล็ดวิชาลับอันแข็งแกร่งเพียงนี้

หลันเฟิงจินเผยดวงตาเป็นประกายล้วยความยินดี นางนับฉินหยุน
เป็นอาจารย์เช่นนั้นนางย่อมไล้เรียนรู้ความสามารถนี้ในภายหนัา
พลังจิตของเขาแข็งแกร่งเหนือลํ้า และความรู้ความเข้าใจต่อผังจารึก
ของเขาเองก็เหนือลํ้าเช่นเดียวลัน!

ตอนที่ 314 ซ่อมแซมอุปกรณ์

พอฉินหยุนเริ่มแกะสลักผังวิญญาณ ด้วยสัญชาตญาณของเขา เขาจึง
ทำมันออกมาได้ดีเช่นที่เคยเป็น นี่ก็เพราะพรสวรรค์ของตัวเขาเอง
ในเวลาเพียงหนึ่งชั่วยาม ฉินหยุนทำการซ่อมแซมอุปกรณ์วิญญาณ
ชั้นเลิศได้สำเร็จ เป็นเขารวดเร็วที่สุด!

ทว่าตอนนี้ ยังเหลือเวลาอีกราวครึ่งหนึ่งของการแข่งขัน
สำหรับอาจารย์จารึกท่านอื่น พวกเขาได้แต่ทำการซ่อมแซมอุปกรณ์
วิญญาณชั้นเลิศอย่างยากลำบาก

หรือก็ลือ ผลลัพธ์ในทำยที่สุด พวกเขาอย่างลีก็สามารถซ่อมแซม
อุปกรณ์วิญญาณชั้นเลิศได้ ผลลัพธ์ที่ได้ก็ลือเสมอลัน
ด้วยเหตุผลนี้ จะไม่มีผูใดคว้าอันดับแรกไปครอง!

เสมอลัน หมายความถึงไม่มีผูใดได้รับผังดวงดาวจากตำหนัก
สักดลิทธ!

ถึงตอนนี้ อาจารย์จารึกหลายคนต่างลอบสบถภายใน พวกเขาถึงขั้น
ด้องเสียเวลามากมาย เพราะไม่อาจซ่อมแซมอุปกรณ์วิญญาณชั้นเลิศ
ได้โดยง่าย

อาจารย์จารึกระดับสูง ปกติทำการขัดเกลาก็ไสัแต่อุปกรณ์วิญญาณ
ระดับสูง ดังนั้นย่อมด้องไม่เคยซ่อมแซมอุปกรณ์วิญญาณชั้นเลิศ

ตอนนี้ พวกเขาได้แต่ลองดูและเร่งรีบราวกับเป็ดคิดจะโบยบิน ทำ
การฟินตนเองเพื่อกระทำสุดความสามารถ

ท้ายที่สุด อาจารย์จารึกที่ทำการซ่อมแซมอุปกรณ์วิญญาณชั้นเลิศได้
สำเร็จ ย่อมทำได้เพียงหนึ่งชิ้นงาน นั่นถือเป็นศักยภาพที่ดีที่สุดเท่าที่
พวกเขาจะสามารถกระทำแล้ว

ม่หรงด้าเหรินฮึมฮัมขึ้นมา “ตำหนักศักดสิทธวิญญาณสีครามช่าง
ตระหนี่นัก พวกเขาบอกว่าจะมอบรางวัลในรอบที่สามและสี่พร้อม
กัน แต่กลับนำเสนอเสักชิ้นใหญ่ที่ได้แต่มองไม่อาจกินได้!”

ฮั่วจงกล่าว “ท้องหยุนทำได้รวดเร็วยิ่ง ตอนนี้พวกเราก็นั่นใจแล้วว่า
เขาสามารถเข้าสู่รอบที่ท้าได้อย่างแน่นอน!”

หลันเฟิงจินถอนหายใจเบา “หากข้าสามารถเข้าร่วมรอบนี้ ก็คงถูก
กัดออกเช่นกัน หลังผ่านมาหลายรอบ พวกเราได้เห็นกันชัดเจนแล้ว
ถึงพรสวรรค์วิถีจารึกของฉินหยุน ว่ามันน่าสะพรึงกลัวเพียงใด
กระนั้น เขากลับยังเยาว์เพียงนี้!”

ข้าวฉวนพยักหท้ารับโดยทันที “พรสวรรค์ระดับสัตว์ประหลาด
เช่นนี้ กระนั่งแดนยุทธ์ด้างข้างยังยากพบเห็น”

ฉินหยุนเริ่มทำการซ่อมแซมอุปกรณ์วิญญาณชั้นเลิศชิ้นที่สองแล้ว

ด้วยความเป็นอาจารย์จารึก เขาย่อมต้องสนใจต่อผังจารึกดวงดาว
เป็นพิเศษ เขาคิดอยากเห็น ว่าผังจารึกดวงดาวเป็นอย่างไร สูว่าพวก
มันมีพลังอำนาจดังตำนานกล่าวด้างจริงหรือไม่

อาวุธที่เขาเลือกครั้งนี้เป็นดาบสั้น มันเป็นสีนํ้าเงินทั้งเล่ม และยัง
ปลดปล่อยประกายรัศมีสีนํ้าเงินสุกสว่างออกมา ลือได้ว่าวิจิตร
งดงามไม่ใช่น้อย ตัววัสดุก็ลือว่าใกล้เลียงกับกระสูกเหล็กกด้าชั้นเลิศ
เพราะแบบนั้นมันจึงปรากฏเป็นสีนํ้าเงินสุกสว่าง

“อาจารย์จารึกที่ขัดเกลาดาบสั้นเล่มนี้ขึ้น ย่อมมีฟิมือสูงส่ง เหมือนจะ
เป็นผู้อาวุโสหลันฮัวอวี้ที่หลอมมันขึ้นมา หรือก็คือ ดาบเล่มนี้หาได้
มีซัอผิดพลาดอันใดมากมาย”ฉินหยุนสำรวจมองดาบสั้นและพิจารณา

พอหลันฮัวอวี้ไสัเห็นฉินหยุนเลือกดาบสั้นเล่มนี้ เขายิ้มบางเบาออก
เป็นเขาหลอมมันขึ้นมาจริง

“อาวุธวิญญาณชั้นเลิศเล่มนั้น เป็นท่านปหลอมขึ้น” หลันเพิงจินกล่าว
เสียงเบา เป็นนางจดจำได้

อาจารย์จารึกของตำหนักดวงดาววิญญาณสีครามกล่าวออก “สวรรค์
โปรด ฉินหยุนถึงชั้นเลือกอุปกรณ์วิญญาณชั้นเลิศที่ขัดเกลาขึ้นโดยผู้
อาวุโสหลัน มันเป็นเรื่องยากเย็นยิ่งที่จะพบเจออุปกรณ์วิญญาณที่
หลอมโดยผู้เชี่ยวชาญเช่นนั้น ลือว่าหาได้ยากยิ่ง!”

“หากเป็นเช่นนั้น กระทั่งผู้อาวุโสหลันก็คงไม่ทราบว่ามันผิดปกติ
อันใด”

“ครั้งปรมาจารย์หลันหลอมอุปกรณ์วิญญาณขึ้น เขาย่อมต้องตั้งใจ
และแกะสลักผังวิญญาณอย่างลึกลํ้าขึ้นมา หากไม่มีระดับความรู้
ความเข้าใจถึงขั้น ย่อมไม่ทราบแต้วว่ามันผิดพลาดที่ตรงไหน!”

ผู้คนส่วนใหญ่กำลังสนทนาลัน พวกเขาต่างเป็นอาจารย์จารึก ผู้ที่ไม่
รู้เรื่องการจารึก เพียงมารับชมเรื่องราวที่นี่ และรับพีงลึงบทสนทนา
ของอาจารย์จารึกเพื่อหาประสบการณ์ให้แก่ตนเอง

ข้าวฉวนพยักหห้ารับ “เป็นเช่นนั้น หลังข้าทำการหลอมอุปกรณ์
วิญญาณผิดพลาด บางครั้งก็เป็นเรื่องยากเย็นยิ่งที่จะสันหาอุปกรณ์ที่
ทำขึ้น ว่ามันผิดพลาดที่ตรงไหน เพราะเป็นตัวข้ามั่นใจยิ่งต่อการ
แกะสลักอันสมบูรณ์แบบ กระนั้นหลังทำมันเสร็จ กลับพบว่าไม่อาจ
ทำให้มันตื่นขึ้นมาไต้”

สาเหตุที่ฉินหยุนเลือกอุปกรณ์วิญญาณชิ้นนี้ ก็เพราะมันถูกหลอมขึ้น
โดยรึเมือระดับปรมาจารย์

กล่าวไต้ว่าเป็นเขาทดลองเสี่ยงโชค หากพบว่าเป็นความผิดพลาด
เล็กห้อย ก็เพียงแต้ไขความผิดพลาดเล็กห้อย เพียงเท่านั้นก็จะสามารถ
ซ่อมแซมอุปกรณ์วิญญาณไต้สำเร็จ

“ผู้อาวุโสหลัน ท่านมั่นใจหรือว่าผังวิญญาณนี้ผิดพลาดที่เส้นสว่าง?
นี่คืออุปกรณ์วิญญาณชั้นเลิศ หากมีความผิดพลาดขึ้นจริง ย่อมไม่ใช่
เรื่องง่ายที่ผู้อื่นจะพบเห็นแส้ว”

หนี่งในอาจารย์จารึกเฒ่าชราที่แส้ผ่านไปนานไม่อาจพบเจอความ
ผิดพลาด เขาเผยสีหน้างงงันขณะเอ่ยถามออก
“ย่อมเป็นเช่นนั้น หากผิดพลาดที่เส้นมืด อย่างนั้นแส้วให้ทดสอบใส่
พลังเข้าไปในตัวอุปกรณ์ หากพบว่าตัวอุปกรณ์เสียหาย ก็เป็นเช่นนั้น
แส้ว!”

“อุปกรณ์วิญญาณที่ต้องซ่อมแซมเหล่านั้น ทั้งหมดไต้รับการทดสอบ
โดยพวกเรา และพวกมันสามารถสูดกลืนพลังงานที่แข็งแกร่งเข้าไป
ไต้ ไม่มีใดในพวกมันที่เสียหายจากพลังงาน ดังนั้นในส่วนของเส้น
มืดจึงไม่มีปัญหา ที่จะมีปัญหาก็คือเส้นสว่าง!”

เพราะเป็นอุปกรณ์วิญญาณชั้นเลิศอาจารย์จารึกระดับสูงหลายคน
ไม่เคยพบเจอต้วยตัวเองมาก่อน พวกเขาไต้แต่สงสัยว่าพวกตนไม่มี
ความรู้และเข้าใจดีพอแต้ว

อาจารย์จารึกจำนวนหนี่งไม่อาจหาความผิดพลาดของผังจารึก แส่
แต้วฉินหยุนกลับซ่อมแซมอุปกรณ์วิญญาณไปเรียบร้อยแต้ว ความ
แตกต่างที่เผยใน้เห็นนี้ ก็ทำเอาหลายคนต้องทอดถอนใจด้วยความ
นับถือลันออกมา

ฉินหยุนถือดาบสั้นสีนํ้าเงินเอาไว้แน่น ด้วยเสียงลูอี้ในลำคอ เขา
ปลดปล่อยพลังภายในแข็งแกร่งออกมา ใส่เข้าไปในตัวดาบสั้น

พอทุกคนเห็นดังนี้ พวกเขาอดไม่ได้ที่จะอุทานร้องออกด้วยความ
ตระหนก เพราะนี่คือขุมพลังภายในขั้นสูงอันแข็งแกร่ง!

ดาบสั้นสูดกลืนขุมพลังภายในขั้นสูงปริมาณมหาศาล มันเริ่มสั่น
เล็กน้อย ฉินหยุนใข้โอกาสนี้ผสมผสานพลังจิตเข้าในตัวดาบ เพื่อ
สันหาสิ่งกีดขวางหรืออุดตันภายในตัวดาบ

หลังจากดาบสั้นสูดกลืนพลังงานเข้าไป มีเพียงผังสามชุดที่ไม่สว่าง
ขึ้น หมายความว่าความผิดพลาดเกิดขึ้นตรงบริเวณแกนกลางของผัง
ทั้งสามชุดดังกล่าว

อุปกรณ์วิญญาณขั้นเลิศ มีผังวิญญาณถูกแกะสลักเอาได้หลายชุด
น้างก็ทับข้อนลันและลัน หากพวกมันไม่สว่างขึ้น ก็หมายความถึงมี
ความผิดพลาดขึ้นที่ผังวิญญาณชุดดังกล่าว

ตอนนี้ฉินหยุนทำการตัดผังวิญญาณที่ทำงานได้ออก และตรวจสอบ
หที่งในที่ไม่ได้สว่างขึ้น

อาจารย์จารึกท่านอื่นเห็นดังนี้ พวกเขาทำตามฉินหยุน ทว่า พวกเขา
สัมเหลว ผังวิญญาณบนตัวอุปกรณ์วิญญาณไม่ส่องสว่างขึ้นมา
หมายความถึงมีปัญหาต่อผังวิญญาณทั้งหมด

พอพวกเขาเห็นแบบนี้จึงตัดสินใจเข้าเปลี่ยนเอาอุปกรณ์วิญญาณชั้น
เลิศชิ้นอื่นขึ้นมาแทน ด้วยวิธีการนี้ พวกเขาจะได้สามารถหาความ
ผิดพลาดได้ง่ายดายขึ้น

ด้วยพลังจิตที่มีเอกลักษณ์ ฉินหยุนพบปัญหาอย่างรวดเร็ว อันที่จริง
มันคือจุดที่เสันสว่างของผังทั้งสามชุดมาพบลัน

สาเหตุหลักที่ผังวิญญาณถูกแทรกแซง กระบวนการแทรกแซงคือ
การทำลายโครงสร้างผังวิญญาณอื่น ตราบเท่าที่จุดที่ได้รับความ
เสียหายลูกแด้ไข ก็เท่าลับพวกมันลูกซ่อมแซมเรียบร้อย

นาฬิกาทรายยังคงไหลลงอย่างต่อเนื่อง เวลาก็ผ่านไปอย่างต่อเนื่อง
เช่นเดียวลัน!

อาจารย์จารึกที่เข้าแข่งขัน สัวนหลั่งเหงื่อราวสายฝนสาดซัดเข้าใส่
พวกเขาสัวนหมดสิ้นเรี่ยวแรง ทำการใข้พลังจิตเพื่อซ่อมแซม
อุปกรณ์วิญญาณชั้นเลิศลันอย่างหนักหน่วง

“หมดเวลา!” หลันยัวอวี้มองที่นาฬิกาทราย พร้อมประกาศขึ้น

ฉินหยุนเร่งรีบวางดาบสั้นในมือลง เขาซ่อมแซมมันสำเร็จแล้ว แต่ยัง
ไม่สมบูรณ์ เพียงทำได้แค'ให้เส้นสว่างมีแสงเจือจางขึ้นมา เขาจึงไม่
ทราบว่ามันสำเร็จลีหรือไม่

“อาจารย์จารึกที่ไม่อาจซ่อมแซมอุปกรณ์วิญญาณได้สำเร็จ โปรด

ออกไปด้วย!” หลันฮัวอวี้ตะโกนขึ้น

มีอาจารย์จารึกทั้งสิ้นยี่สิบห้าคนออกจากสนามแข่งขัน!

เท่ากับว่า เหลืออาจารย์จารึกเพียงห้าคนที่ทำได้สำเร็จ!

ท่ามกลางห้าคนนี้ สองคนสวมใส่ชุดสีนํ้าเงินเข้ม พวกเขาเป็นอาจารย์
จารึกของตำหนักดวงดาววิญญาณสีคราม อีกสองคนสวมใส่ชุดสีนํ้า
เงินทองคำ พวกเขาเป็นคนของตำหนักสักดสิทธวิญญาณสีคราม

และอีกหนึ่งก็คือฉินหยุน เด็กหนุ่มที่สามารถเข้ารอบสุดห้าย
พรสวรรค์ระดับนี้ทำเอาหลายคนต้องอุทานแก่เขาอีกครั้งหนึ่ง!

“พวกเข้าสามารถซ่อมแซมอุปกรณ์วิญญาณชั้นเลิศได้เพียงหนึ่ง
ดังนั้นจึงเสมอกัน เท่ากับว่าไม่มีผูใดได้รับผังจารึกดวงดาว ได้แต่
สิทธในการเข้าสู่รอบสุดห้าย!” หลันฮัวอวี้กล่าวอย่างเย็นชา

“เกณฑ์การประเมินว่าซ่อมแซมสำเร็จหรือไม่ คือการทำให้เส้นสว่าง
สว่างขึ้นมาใช่หรือไม่ขอรับ?” ฉินหยุนเอ่ยถาม

“ถูกต้อง!” หลันฮัวอวี้พยักหนัา “ข้าจะตรวจสอบอุปกรณ์วิญญาณที่
เข้าซ่อมแซมอย่างถี่สัวน”

หลันฮัวอวี้เดินเข้าไป พิจารณาอุปกรณ์วิญญาณที่ไสัรับการซ่อมแซม
แต่ละชิ้น

ผังวิญญาณทั้งหมดส่องสว่างขึ้น กระนั้นพวกมันก็มีความสว่างน้อย
กว่าที่ควรเป็น กล่าวได้ว่าซ่อมแซมไดใม่ลีนัก อุปกรณ์วิญญาณชั้น
เลิศเช่นนี้ ถือว่าคุณภาพตำ ไม่อาจขายในราคาแพงได้

“ทำได้ดี ระดับนี้ถือว่าลี มีความเหมาะสมที่จะเป็นอาจารย์จารึก
ระดับวิญญาณ!” หลันฮัวอวี้หัวเราะและกล่าว “มีรางวัลหรือไม่ด้วน
ไม่ใช่ประเด็น ในรอบที่ห้า รางวัลย่อมทรงคุณค่า!”

“ผู้อาวุโสหลัน ท่านยังไม่ได้ทดสอบดาบสั้นของขำนะขอรับ!” ฉิน
หยุนโพล่งคำออกเสียงเบา

“ว่าอะไร? เจ้าซ่อมแซมดาบสั้นสำเร็จหรือ?” หลันฮัวอวี้เผยความ
แตกตื่น

อาจารย์จารึกท่านอื่นมองฉินหยุนด้วยอาการแตกตื่น จากนั้นสายตา
เบนมองไปที่ดาบสั้นตรงหน้าของเขา!

หากเขาซ่อมแซมได้สำเร็จสองชิ้นงานจริง เท่ากับว่าเขาได้รับอันดับ
หนึ่ง และเขาจะได้รับผังจารึกดวงดาว!

หลันสัวอวี้ควบคุมดาบสั้นผ่านอากาศให้ลอยมา เขาคจ้าด้ามจับตัว
ดาบเอาไจ้และใส่พลังเจ้าไป ผังหลายชุดเริ่มส่องสว่างขึ้น!

ฉินหยุนถึงชั้นซ่อมแซมชิ้นงานที่สองได้สำเร็จจริง!

ผังจารึกดวงดาว เขาถึงขั้นได้รับผังจารึกดวงดาวของตำหนักสักดสิทธ
วิญญาณสีคราม!

กล่าวได้ว่า ตำหนักสักดสิทธวิญญาณสีคราม มีผังจารึกดวงดาวใน
ครอบครองจำนวนหนึ่ง พวกมันด้วนถูกประเมินเป็นสมบัติ หาก
ไม่ได้รับอนุญาต จะไม่มีทางส่งต่อพวกมันได้!

คราครั้งนี้ คนนอกผู้หนึ่งถึงขั้นได้รับผังจารึกดวงดาว!

นี่เป็นสิ่งที่แมักระทั่งอาจารย์จารึกของตำหนักดวงดาววิญญาณสี
คราม ยังต้องเผยความริษยาออกมาอย่างเปืยมด้น!

ฉินหยุนยิ้มกว้าง “ผู้อาวุโสหลัน ผังจารึกดวงดาว!”

“เรื่องนี้...” หลันยัวอวี้ไม่คิด ว่าจะมีคนสามารถซ่อมแซมอุปกรณ์
วิญญาณขั้นเลิศสองชิ้นได้ภายในสองชั่วยาม

ชัดเจนว่า เป็นโชคของฉินหยุนที่สามารถซ่อมแซมอุปกรณ์วิญญาณ
ชิ้นที่สอง กระนั้น พื้นฐานระดับนี้ก็ถึอว่าไม่ธรรมดา

ไม่เช่นนั้นแล้ว ไม่ว่าจะด้วยโชคมากด้นเพียงใด หากไม่มีความ
สามารถเพียงพอ เขาไม่มีทางคว้าโอกาสเช่นนี้เอาไว้ได้
“ท่านคงไม่กลับคำหรอกนะขอรับ?”ฉินหยุนเอ่ยถามสีหนัาเคร่งเครียด
หลันยัวอวี้ยิ้มลำบากใจ “ย่อมไม่... กระนั้น... แส่ว่า...”

ทันใดนั้นเอง คนกลุ่มใหญ่พลันมาถึง ผู้ที่เดินนำหน้ามา คือผู้ชราสี่
คนที่ทรงพลังยิ่ง ท่ามกลางพวกเขา มีหญิงชราอยู่ด้วย
เหล่านี้ด้วนเป็นจ้าวตำหนักทั้งสี่!

นอกจากนี้ เชี่ยวหยางหลงยังอยู่ในกลุ่มคน เขากำลังเดินตามหลังจ้าว
ตำหนักหยางแห่งตำหนักตะวันตก!

จ้าวตำหนักทั้งสี่พลันปรากฏตัว ชัดเจนว่าพวกเขารับชมการแข่งขัน
ครั้งนี้อยู่ภายในห้องของตำหนักวิญญาณจารึก

กระนั้น ก็ไม่มีผู้ใดไม่ทราบ ว่าที่พวกเขาปรากฏตัวอย่างกะทันหัน
เช่นนี้ ย่อมต้องข้องเกี่ยวลับผังจารึกดวงดาว

หญิงชรากล่าว “ฉินหยุน เพื่อได้รับผังจารึกดวงดาว เจ้าต้องเข้าร่วม
ตำหนักดวงดาววิญญาณสีครามของพวกเรา! มีเพียงเป็นศิษย์ของ
ตำหนักดวงดาว จึงสามารถได้รับผังดวงดาว หากไม่แต้ว พวกเขาคง
ไม่อาจมอบมันแก่เจ้าได้มีแต่ต้องทำตามเงื่อนไขนี้!”

“ข้าคือจ้าวตำหนักตะวันออก เย่ว์หลานและฉีเย่ว์ ทั้งสองต่างจึเกฝน
ในตำหนักตะวันออกก่อนเข้าร่วมตำหนักสักดสิทธ ข้าสามารถ
รับประกันได้ ว่าเจ้าจะสามารถจึเกฝนได้ด้วยลีในตำหนักตะวันออก
ด้วยพรสวรรค์ระดับเจ้า ย่อมต้องสามารถได้รับทรัพยากรอัน
มหาศาล!”

จ้าวตำหนักอีกสามคนที่เหลือต่างลอบไม่ยินดี ตำหนักตะวันออกจะ
ได้รับฉินหยุน ไม่ต้องสงสัยเลยว่านี่เปรียบดั่งได้รับสมบัติประการ
หนึ่ง ตราบเท่าที่หล่อเลี้ยงเขาจนเติบใหญ่ พวกเขาย่อมได้รับ
ผลประโยชน์มหาศาลแก่ตำหนักตะวันออกในภายหนัา

“ย่อมได้จ้าจะเจ้าร่วมตำหนักดวงดาววิญญาณสีครามในอีกไม่ช้า”
ฉินหยุนมองที่จ้าวตำหนักทั้งสี่พลางถอนหายใจ

จ้าวตำหนักตะวันออกยิ้มอ่อน “ยินดีต้อนรับสู่ตำหนักตะวันออก
ของพวกเรา!”

ฉินหยุนมองที่จ้าวตำหนักหยางและกล่าว “ก่อนหน์านี้ จ้าเคยกล่าว
เอาได้ว่าคิดประลองกับเชี่ยวหยางหลง และยึดครองตำแหน่งหัวหน์า
ศิษย์! ดังนั้นแล้วช้าจะเจ้าร่วมตำหนักตะวันตก!”

ตอนที่ 315 พิธีพิเศษ

รอยยิ้มของจ้าวตำหนักตะวันออกแข็งข้าง กลับกลายเป็นรอยยิ้ม
ลำบากใจขึ้นมาแทน

แน่นอนว่า นางจดจำได้ถึงศึกที่จะเกิดขึ้นระหว่างฉินหยุนและเชี่ยว
หยางหลงที่หนัาประตูตำหนักดวงดาว

เดิมพวกเขาตกลงลันเอาไว้ที่สองปื กระนั้นผ่านมาปืกว่า หลายคน

กลับไม่คิดว่าเรื่องนี้จริงจัง

แต่จากที่เห็นตอนนี้ ฉินหยุนเอาจริง!

หยางฉีเย่ว์ไม่อยู่ที่นี่ หากไม่แล้ว นางย่อมต้องช่วยเกลี้ยกล่อมฉินหยุน

หลันเพิงจินก็คิดคล้ายพูดอะไรออกมา แต่นางก็ชะงักตัวเองเอาไล้

เซี่ยลู๋เฟิงและคณะ ล้วนเป็นสหายของฉินหยุน ย่อมทราบถึงความดื้อ
รั้นของเขา พวกเขาไม่คิดเกลี้ยกล่อม

จ้าวตำหนักหยางอึ้งไปวูบ จากนั้นจึงหัวเราะเสียงดัง “ตำหนัก
ตะวันตกของพวกเรายินดีต้อนรับยิ่ง! ฉินหยุน เช่นนั้นก็เริ่มพิธี โขก
ศีรษะต่อหัวหนัาศิษย์จากนั้นค่อยโขกศีรษะต่อข้า!”

“มีพิธีเช่นนั้น? เหตูใดข้าไม่เคยได้ยิน?” ฉินหยุนเอ่ยถามเสียงเย็น

“แน่นอนว่ามี กับผู้อื่นอาจไม่มีประโยชน์ แต่กับเจ้า เจ้าย่อมต้องทำ
พิธีนี้ เพราะเจ้าคืออัจฉริยะที่หาไต้ยากยิ่ง พิธีการนี้จะมีก็แต่อัจฉริยะ
ที่พิเศษเท่านั้น ย้อนกลับไปครั้งก่อน เชี่ยวหยางหลงเองก็โขกศีรษะ
และคุกเข่าเพื่อรับตำแหน่งจากอดีตหัวหน์าศิษย์” จ้าวตำหนักหยาง
ของตำหนักตะวันตกหัวเราะคิกกัก

หกันฮัวอวี้กล่าว “เป็นจริง หากเจ้ายอมรับ พวกเขาจะดูแลเจ้าใน
ตำหนักตะวันตกในภายหน์าเป็นอย่างดี พิธีการรับศิษย์ของสี่ตำหนัก
ล้วนแตกต่างกันออกไป”

“พิธีย่อมสามารถเปลี่ยนแปลงกันไต้! ฉินหยุน ขำทราบว่าเจ้าอหังการ
และดื้อรั้นเพียงใด ดังนั้น เจ้าสามารถทำพิธีอย่างอื่น! หากเจ้ายืนนิ่ง
ไม่ขยับ ต้านรับการโจมดีของหัวหน์าศิษย์เจ้าไม่จำเป็นต้องคุกเข่า
ต่อหน์าเขา หรือว่าจ้าเพื่อเป็นศิษย์ตำหนักตะวันตกแต่อย่างใด”

“กระนั้น การดูแลที่ได้รับจะไม่ลีนัก จะเป็นเช่นศิษย์ทั่วไปของ
ตำหนักตะวันตก เจ้าสามารถเลือกไต้!” เสียงนัวเราะนี้ชัดเจนว่า
สะใจ มันปลดปล่อยออร่าที่มืดมนออกมา

เชี่ยลู๋เฟิงเดินถึงจ้างกายฉินหยุน กล่าวด้วยนั้าเสียงลุ่มลึก “น์องหยุน
อย่าไต้ยอมรับ! เชี่ยวหยางหลงคือขอบเขตวรยุทธ์เต๋า หากเจ้ายืนเฉย
รับการโจมดีจากเขาครั้งหนิ่ง ย่อมบาดเจ็บสาหัสแล้ว!”

หากฉินหยุนคิดท้าประลองเชี่ยวหยางหลง เขาก็ต้องเข้าตำหนักตะวันตก
ไม่เช่นนั้นแต้วจะไม่มีโอกาสใท้ไต้เปิดศึกกับเชี่ยวหยางหลง

“ฉินหยุน เข้าพิจารณาตัดสินใจไท้ดี!” ข้าวตำหนักหญิงแห่งตำหนัก
ตะวันออกเร่งกล่าว “อย่าว่าแต่เข้า กระทั่งฝ่ฟิกตนขอบเขตวรยุทธ์เต๋า
ยังไม่คิดกต้ารับการท้าทายเช่นนี้!”

“เชี่ยวหยางหลง เข้ามา!” หลังพิจารณาแต้ว ฉินหยุนกล่าว “เข้าโจมดี
ไต้แต่ท่อนบนของร่างกายข้า และไม่ใช่หัว เช่นนี้เป็นอย่างไร?”

เชี่ยวหยางหลงถอดเสื้อคลุมสีนั้าเงินตัวนอกออก รอยยิ้มชั่วร้ายเผย
ชัดที่ใบหท้า “ไม่มีปัญหา! ข้าร้ว่าเข้ากต้าหาญเพียงใด มีแต่เข้าร่วม
ตำหนักตะวันตกผ่านพิธีนี้ จึงค่อยไต้เป็นศิษย์ตำหนักตะวันตก และ
ค่อยมีสิทธท้าทายข้า!”

“ท้องหยุน นี่เข้า...” เชี่ยลู๋เฟิงถอนหายใจ เมื่อไต้เห็นสีหท้าเด็ดเดี่ยว
ของฉินหยุน เขาไม่คิดกล่าวคำใดเพิ่มอีก

“ฉินหยุน จงรีบถอดเสื้อคลุม อุปกรณ์วิญญาณป็องกันไม่อนุญาตไท้
ใช้งานไต้!” ข้าวตำหนักตะวันตกกล่าว

ฉินหยุนถอดชุดคลุมร่างกายท่อนบนออกโดยทันที เผยซึ่งกต้ามเนื้อ
แข็งแกร่งและงดงาม ผสานรวมกับสีหท้าเด็ดเดี่ยวนี้ มันเผยซึ่งออร่า
ความน่าเกรงขามออกมา

“เข้ามา!” ฉินหยุนกล่าวเสียงเย็น

ทางด้านสหายของฉินหยุน เชี่ยลู๋เฟิงและคณะย่อมตระหนักถึงตัวตน
ของเขาเป็นอย่างดี พวกเขาไม่คิดกล่าวคำอื่นใดอีก เพียงแต่ถอยไป
อยู่ด้านข้าง หวังว่าฉินหยุนจะสามารถผ่านพ้นไปได้
“ให้ข้าเป็นกรรมการ เข้าไม่อาจโจมดีส่วนหัว ไม่อาจโจมดีด้วยอาวุธ
ได้แต่โจมดีร่างกายท่อนบน และโจมดีไสัเพียงครั้งเดียว หากฝ่าฟิน
ข้อตกลงเหล่านี้ ข้าจะเข้าแทรกแซง!” หลันฮัวอวี้กล่าว
ตำหนักวิญญาณจารึกกลายเป็นสนามแข่งขัน ผู้ชมต่างก็ให้ความ
สนใจกันไม่ห้อย

ตอนนี้ ไม่มีผูใดกล้าเอ่ยกล่าวข้อสรุปกันออกมา!

เชี่ยวหยางหลงยกสองนิ้วมือขึ้น แนบชิดพวกมันเอาไข้แน่น!

เสียงตะโกนถูกปล่อยออก นิ้วนั้นสั่นเทิ้ม พลังภายในสีทองหลุดลอย
ออกจากปลายนิ้ว!

“เป็นดัชนีทะลวงถูผา!” เชี่ยลู๋เฟิงตะโกนข้องแตกตื่น

พอพวกเขาได้ยินคำ ‘ดัชนีทะลวงถูผา’ ผู้คนต่างสูดลมหายใจเย็นเข้า
ลึก นี่คือวิชายุทธ์ระดับโลกาชั้นเลิศที่มีชื่อเสียงโด่งดังยิ่ง
ทันทีเมื่อลูกปล่อยออก ขุมพลังจะควบรวมกันแน่นจนสามารถ
ทะลวงภูเขาได้!

“ฉินหยุน ระวังด้วย!” จ้าวฉวนขมวดคิ้วตะโกนขึ้น “ดัชนีทะลวงภู
ผาไม่ใช่เล่น เป็นวิชายุทธ์ทรงพลังที่สังหารได้แม้กระทั่งผูป็กตน
ขอบเขตวรยุทธ์เต๋า!”

“กระทั่งว่าตัวผูฟิกตนมีวิชายุทธ์ปองลันอันแข็งแกร่ง กายยังสามารถ
ถูกทะลวงได้!” จ้าวตำหนักตะวันตกเผยรอยยิ้มอ่อน “ฉินหยุน กระทั่ง
ว่าเจ้าได้รับบาดเจ็บสาหัส ก็ถือว่าเป็นศิษย์ของตำหนักตะวันตก
แน่นอนว่า หากเจ้าไม่อาจผ่านการทดสอบภายในระยะเวลาหัาปื ก็
จะถูกพวกเราขับไล่ออกไป!”

ในช่วงเวลาปกติ ระหว่างการแข่งขันประลองยุทธ์ กระทั่งว่าเชี่ยว
หยางหลงอยากใช่ดัชนีทะลวงภูเขา เขาก็ไม่มีเวลามากพอใหัรวบรวม
กำลังภายใน

แต่ตอนนี้ เขามีเวลามากพอใหัรวบรวมพลัง!

“เชี่ยวหยางหลง เริ่มได้แล้ว!”หลันยัวอวี้กล่าวเร่ง“หากเจ้าเอาแต่ทำ
แบบนี้ อย่าได้บอกต่อช่าว่าคิดจะสะสมพลังไปตลอดทั้งวัน?”

“เดี๋ยวนี้แหละ!” เชี่ยวหยางหลงหัวเราะออกเสียงดัง พุ่งเช่าหาฉินหยุน
ราวสายปาวูบหนี้ง!

เชี่ยวหยางหลงโจมตี ผู้คนตระหนัก หวาดกลัว และแตกตื่น พวกเขา
พยายามคาดเดาว่าเชี่ยวหยางหลงคิดโจมตีฉินหยุนที่ตำแหน่งใด!

ตันเลียน? หรือหัวใจ? หรือจะเป็นแขนราชสีห์สวรรค์?

เชี่ยวหยางหลงปรากฏตัวต่อหน้าฉินหยุนในพริบตา นิ้วนั้นประสาน
กันด้วยขุมพลังภายในขั้นสูง กระทั่งพื้นยังตัองสั่นไหว!

สองนิ้วควบแน่นเอาได้ด้วยพลังงานรุนแรง ด้วยความรวดเร็วยิ่ง มัน
แทงเข้าใส่หน้าอกของฉินหยุน

เป็นดังที่หลายคนคาดเดาเชี่ยวหยางหลงเลือกโจมตีหัวใจของฉินหยุน!

ฉินหยุนครั้งหนึ่งไข้หญ้าหัวใจลึกลํ้าป็กฝนวิถีหัวใจเหลืองดำ นี่ลือ
หนี่งในเหตุผลที่เขาแข็งแกร่ง

หัวใจลือเป็นแกนหลักของสามมหาวิถี เมื่อถูกโจมตีอย่างหนัก มัน
ย่อมส่งผลต่อวิถีวิญญาณ และวิถีกระดูก รวมถึงวิถีหัวใจอย่างสาหัส!

ดัชนีทะลวงภูผาของเชี่ยวหยางหลง ทิ่มแทงเข้าใส่หัวใจของฉินหยุน
ด้วยเสียงดังสั่น!

ร่างกายฉินหยุนปลิวกระเด็น กระแทกกำแพงหินของน้องโถงอย่าง
รุนแรง กำแพงหินถึงกับแตกกระจาย ร่างนั้นถูกฝังเอาได้
ทุกคนต่างมองที่ฉินหยุนด้วยความตื่นตระหนก

โดยเฉพาะสี่ข้าวตำหนัก พวกเขาข้องมอบฉินหยุนที่ร่างปลิวกระเด็น
ด้วยสายตาเบิกออกกด้าง!

กระทั่งเชี่ยวหยางหลง ยังเผยสีหน้าเปืยมด้วยความไม่เชื่อ!

เพราะดัชนีทะลวงภูผาหาได้สร้างแรงปะทะใด หากจะทำ ก็ต้องเป็น
สร้างรูขึ้นที่ร่างกายของผู้ภูกวิชา!

ฉินหยุนร่างกระเด็น หมายความถึงพลังของดัชนีทะลวงภูผาไม่อาจ
เจาะทะลวงร่างกายเขาไปได้!

พลังของดัชนีทะลวงภูผาถูกขัดขวาง ดังนั้นร่างกายจึงไม่เป็นรู เพียงแต่
ร่างกระเด็นไปเท่านั้น

หน้าอกของฉินหยุนเปลือยเปล่า หาได้สวมใส่ชุดเกราะใด กระนั้น
เขากลับสามารถต้านรับการโจมตีที่น่าสะพรึงนี้!

จ้าวฉวนรวดเร็วที่สุด แทบในพริบตา เขาไปอยู่ตรงหน้าฉินหยุน
หลันฮัวอวี้ก็เร่งรีบเจ้าไป พวกเขาทั่งสองรวมกันช่วยตรวจสอบ
อาการบาดเจ็บของฉินหยุน

ฉินหยุนนอนลับพื้น สภาพอ่อนแรงยิ่ง ปากเต็มไปด้วยเลือด เนื้อ
บริเวณหัวใจถูกฉีกขาด กระนั้นกลับรักษาตัวอย่างรวดเร็วมหาศาล!

“อาหลง เมื่อครู่เกิดอะไรขึ้น?” จ้าวตำหนักตะวันตกเอ่ยถามเสียงทุม
ลึก “เจ้าไม่ไดไช้พลังเต็มที่? โอกาสหาได้ยากเช่นนี้ เหตุใดไม่คจ้า

เอาไวิไหัดี!”

“จ้าวตำหนัก จ้าทุ่มสุดตัวแล้ว!” เชี่ยวหยางหลงขมวดคิ้ว

ทุกคนผสานสายตามองไปทางเชี่ยวหยางหลง

เขาพบว่านิ้วทั้งสองของตัวเอง กลับกลายเป็นแดงทั้ไและบิดเบี้ยว
มือนั้นถึงกับสั่นเทิ้มราวกับเพิ่งทิ่มแทงของแข็ง ถึงขั้นไล้รับอาการ
บาดเจ็บเป็นผลล้อนกลับ

“การป็องกันของนัองหยุนช่างน่าสะพรึงกลัวนัก! ถึงขั้นไม่อาจถูก
ทะลวงโดยดัชนีทะลวงภูผา!” ม่หรงล้าเหรินสูดลมหายใจเจ้าลึก
“นิ้วของเชี่ยวหยางหลงถึงกับหักงอ!”

“เกิดอะไรขึ้นกันแน่? กระทั้งเป็นขอบเขตวรยุทธ์เต๋า ก็ไม่ใช่เรื่องง่าย
ต้านรับการโจมตีนี้!” ฉิวยอี้ฮวยจ้องอุทานขึ้น “กระทั้งซัาก็ไม่อาจ
ขัดขวางการโจมตีนี้ได้!”

สีหนัาเชี่ยวหยางหลงซีดเผือดราวคนตาย ชัดเจนว่าเขาเองก็ตื่นตกใจ
ต่อเรื่องที่เกิดขึ้น “ตอนจ้าโจมตีเจ้าไป พลังของดัชนีทะลวงภูผาของ
จ้าคล้ายจมลงในมหาสมุทร สาเหตุที่เขาร่างกระเด็น เพราะจ้าใช้
กำลังภายผสานร่วม ร่างนั้นจึงกระเด็น!”

ร่างกายของฉินหยุนแข็งแกร่งตั้งแต่ตัน หากเขาไม่ใช้พลังภายใน
กระต้น มันก็เทียบเท่าลับการทิ่มแทงเหล็กกล้าที่แข็งแกร่ง!

“ผู้อาวุโสหลัน ข้าเป็นศิษย์ของตำหนักตะวันตกแล้ว ท่านมอบผัง
จารึกดวงดาวแก่ข้าไล้หรือยังขอรับ?” ฉินหยุนเผยรอยยิ้มอ่อนแรง
ถามออกมา

“นี่!” หลันฮัวอวี้ถอนหายใจ ส่งมอบชิ้นหนังสัตว์ให้แก่ฉินหยุน

ฉินหยุนเร่งรีบเก็บมันโดยไม่คิดเปิดสู เขาเป็นกังวลว่าผู้อื่นจะพบ
เห็นเข้า

“ฉินหยุน ผังจารึกดวงดาว ถือไล้ว่าเป็นสมบัติลํ้าค่าที่สุดของตำหนัก
ดวงดาววิญญาณสีครามของเรา หากเข้าเผยแพร่มันออกไป ผลที่
ตามมาย่อมน่าสะพรึงกว่าผู้ใดคาดคิด!” ข้าวตำหนักตะวันตกล้าวเดิน
ออกมา มองไปทางข้าวฉวนและกล่าว

“ข้าวตำหนัก ข้าเป็นศิษย์ของตำหนักตะวันตกแล้ว ไม่คิดมอบอะไร
แก่ข้าหรือ?” ฉินหยุนเอ่ยคำ

“ผู้อาวุโสลั่วรับหนัาที่นี้ ไปพบเขาก็แล้วลัน!” เมื่อเข้ามาใกล้เขาจึง
ไล้ทราบ ว่าฉินหยุนเพียงบาดเจ็บผิวเผิน และมีอาการบาดเจ็บภายใน
เล็กห้อยเท่านั้น

เขาและเชี่ยวหยางหลงแทบหห้าเขียวคลํ้า พวกเขาไม่มีโอกาสไล้ทำ
ให้ฉินหยุนต้องพิการ!

ตอนนี้ ผู้คนต่างได้ทราบแล้ว ว่าฉินหยุนได้เก็บงำกำลังเอาไล้เป็น
เขาฝ็กฝนเคล็ดวิชาที่ลึกลับและทรงพลังอย่างยิ่ง!

ตันเกียนของฉินหยุนมีแก่นภายในตะวันทมิฬหัวใจมีแก่นภายใน
สั่นไหว พวกมันทั้งสองเป็นปราการป็องกันอันแข็งแกร่ง

เมื่อครู่ เขาผสานพลังของตะวันทมิฬเข้าปกป็องหัวใจ ดังนั้นจึงเพียง
แค'บาดเจ็บเล็กน้อยเท่านั้น!

เชี่ยวหยางหลงที่นิ้วหัก กล่าวขึ้นด้วยเสียงอันดัง “มิตรสหายทุกท่าน
นี่ถือเป็นโอกาสยากที่ทุกคนจะรวมตัวลันเช่นนี้ในตำหนักสักดสิทธ
วิญญาณสีคราม หลังจบสิ้นงานเฉลิมฉลองครั้งใหญ่ ข้ายินดีเชิญ
ชวนทุกท่านอยู่ต่ออีกสักหลายวัน ถึงตอนนั้น จะเป็นงานอภิเษก
สมรสครั้งใหญ่ระหว่างข้าและหยางฉีเย่ว์สหายทุกท่าน โปรดเห็น
แก่หน้าข้าเข้าร่วมฉลองงานครั้งนี้ด้วย”

ฉินหยุนทราบนานแล้ว ว่าเชี่ยวหยางหลงลิดจัดงานอภิเษกสมรส
ครั้งใหญ่หลังจบสิ้นงานเฉลิมฉลองใหญ่ของตำหนักสักดลิทธ!

เสียงนี้ดังลัอง สีหน้าของทุกผู้คนชัดเจนว่าต้องการเข้าร่วม

เชี่ยวหยางหลงและหยางฉีเย่ว์นั้งสองต่างเป็นผูฟิกตนเยาว์วัยของ
ภูมิภาคชายแดนแห่งนี้ ได้อยู่ร่วมลัน พวกเขาเหมาะสมลันยิ่ง
กระนั้นความสัมพันธ์ของทั้งสองหาได้ลีเท่าใดนัก

กระนั้นฝงชนก็ไม่คิดอันใดมากความ พวกเขาเพียงแต่แสดงความ



ฉินหยุนที่บาดเจ็บ กำหมัดเอาไว้แน่น

สาเหตุที่เขาคิดต่อสู้อับเชี่ยวหยางหลงก่อนเวลา ก็เพื่อหยุดงานแต่ง
ในครั้งนี้!

ฉินหยุนยังไม่ก้าวสู้ขอบเขตวรยุทธ์เต๋า กระนั้นเขากลับก้องท้าประลอง
เชี่ยวหยางหลง โอกาสที่เขาสามารถชนะถือไก้ว่าน้อยนิด!

เชี่ยวหยางหลงมองที่ฉินหยุนก้วยรอยยิ้มเยาะ ก่อนจะหันกลับและ
จากไป

สู้คนทราบอย่างชัดเจน ถึงความขัดแย้งระหว่างฉินหยุนและเชี่ยว
หยางหลง

สู้คนทราบ ว่าเขาถือศิษย์ของหยางฉีเย่ว์เป็นปกติที่จะไม่ยินดีต่อการ
ที่เชี่ยวหยางหลงคิดแต่งงานลับหยางฉีเย่ว์ดังนั้นเขาจึงคิดน้าทาย
เชี่ยวหยางหลง

แส่ตอนนี้ ฉินหยุนกำลังจะได้แส่เฝัามองหยางฉีเย่ว์แส่งลับเชี่ยวหยาง
หลงอย่างไร้ทางช่วยเหถือ!

สาเหตุว่าเหตุใดหยางฉีเย่ว์คิดแต่งงานลับเชี่ยวหยางหลง ก็เพราะ
เชี่ยวหยางหลงครอบครองวิธีการบีบบังคับนางเอาไว้

“กลับกันก่อน พรุ่งนี้จะมีการแข่งขันจารึกรอบที่ห้า ยังมีพอระยะเวลา
ให้ได้พกที่น!” จ้าวฉวนกล่าว เขาเองก็รู้สึกได้ถึงอารมณ์ที่ซับซ้อน
ในตัวฉินหยุนซ็งดำเนินอยุ่

ตอนที่ 316 พิมพ์เขียวลึกลับ

แม้ฉินหยุนได้รับผังจารึกดวงดาว กระนั้นความรู้สึกเขากลับดิ่งวูบ
ระหว่างทางกลับ เขาไม่กล่าวคำใดออก
หลันเพิงจินและจ้าวฉวน ต่างก็ทราบว่าเขาอารมณ์ไม่ดี
หลังงานฉลองครั้งใหญ่ เชี่ยวหยางหลงจะแต่งงานกับหยางฉีเย่ว์
สำหรับฉินหยุน เขาแทบไม่อาจทำอะไรได้

แม้จ้าวฉวนและคณะแข็งแกร่งยิ่ง กระนั้นพวกเขาก็ไม่อาจแทรกแซง
เรื่องราวนี้ เจ้นแต่พวกเขาจะสังหารเชี่ยวหยางหลง!

สังหารเชี่ยวหยางหลงไม่ใช่เรื่องง่าย ทางหนึ่ง มียอดัฟิมือจากตำหนัก
ตะวันตกวิญญาณสีครามคุ้มลัน และอีกทางหนึ่ง เป็นไปไม่ได้ที่จะ
คิดก่อการภายในตำหนักดวงดาววิญญาณสีคราม

เมื่อกลับถึงม้านพักในป้าม้อย ฉินหยุนที่บาดเจ็บและหมดแรงจึง
กลับม้องตนเองเพื่อพักผ่อน เขายังสวมใส่ชุดผังธาตุแสง ดังนั้นจึง
สามารถพินดัวจากอาการบาดเจ็บได้รวดเร็วยิ่ง

ระหว่างที่หยางฉีเย่วฟิกฝนด้าวดาราเร้นลับในป้า นางพลันพบ
หลันเพิงจินเดินเจ้ามา

“เฟิงจิน เป็นอย่างไรบ้าง? ฉินหยุนเข้ารอบถัดไปหรือไม่? รางวัล
รอบที่สี่คืออะไร?” หยางฉีเย่ว์ ผู้ซึ๋งสวมใส่ชุดสีขาวงดงามเอ่ยถาม
นางกำถังบินลงมาเชื่องข้าราวภูตสวรรค์นางเผยรอยยิ้มที่ใบหบ้า
ขณะเอ่ยถามนํ้าเสียงเบาและนุ่มนวล

“เข้ารอบสุดบ้ายแล้ว แต่เกิดเรื่องขึ้น!” หถันเฟิงจินถอนหายใจ
ออกมาเสียงเบา จากนั้นจึงเริ่มอธิบายสิ่งที่เกิดขึ้นระหว่างการแข่ง
แก่หยางซีเย่ว์

บ้ายที่สุด สีหบ้าของหยางซีเย่ว์ค่อยแปรเปลี่ยน นางมีโทสะแต่ไม่
อาจทำอะไร คล้ายนางเองก็รู้สึกเศร้าเช่นเดียวกับฉินหยุน

“เฮอ ข้าหวังว่าฉินหยุนจะไม่ไล้รับผลกระทบจากเรื่องนี้!” หยางซี
เย่ว์ถอนหายใจ “ข้ายอมรับชะตากรรมของตนเองแล้ว แต่ฉินหยุนยัง
ไม่คิดยอมแบ้เป็นข้าประทับใจต่อความดื้อรั้นของเขานัก!”

หถันเฟิงจินกล่าว “ซีเย่ว์เจ้ายังสามารถหนี! ข้าจะช่วยเจ้าหลบหนี
จากตำหนักดวงดาววิญญาณสีครามเอง!”

หยางชืเย่ว์ส่ายศีรษะ เผยรอยยิ้มเศร้าสร้อย “ตลอดหลายปืมานี้ ข้า
สามารถหนีไล้ทุกเมื่อ เชี่ยวหยางหลงไม่เคยกังวลว่าข้าคิดหนี นั่นก็
เพราะ... เฮ้อ... ข้าว่าเจ้าคงเดาไล้อยู่แล้ว”

หลันเล้งจินไม่ถามต่อ นางเองก็อยากช่วยหยางฉีเย่ว์อย่างไรแล้ว
ตำหนักสักดสิทธวิญญาณสีคราม ก็มีผูฟิกตนเยาว์วัยไม่มากนัก

“ฉินหยุนตอนนี้เป็นศิษย์ตำหนักตะวันตกวิญญาณสีคราม ข้ากังวล
ว่าเขาจะเร่งรีบเกินไปเพราะงานแต่งงานของเข้า เขาจะล้าทายเชี่ยว
หยางหลง ทั้งที่อยู่ขอบเขตกายวรยุทธ์ระดับที่เล้า!” หลันเล้งจิน
กล่าวดัวยความกังวล

“ข้าจะพยายามเกลี้ยกล่อมเขา...”หยางฉีเย่ว์กล่าว “ยังเหลือการ
แข่งขันประลองยุทธ์อีกสองรอบ น่าจะต้องไข้เวลาอีกหลายวัน
ระหว่างช่วงเวลานี้ ข้าจะทำไล้เขาไต้รู้แข้งเอง ต้วยพรสวรรค์ระดับ
เขา ภายหล้าย่อมไต้กลายเป็นตำนานบทหนี้ง ข้าไม่คิดอยากไล้เขา
ถูกทำลายโดยเชี่ยวหยางหลงเพราะข้า!”

“เข้าสามารถเกลี้ยกล่อมเขาไต้จริงหรือ?” หลันเล้งจินเผยรอยยิ้มอับ
จน

“หากเย่ว์หลานออกจากการเก็บตัว นางย่อมเกลี้ยกล่อมฉินหยุนไต้!”
หยางฉีเย่ว์กล่าว

ขณะหญิงสาวทั้งสองพูดคุย ล้องฟ์าก็เริ่มมืดลงแล้ว

หยางฉีเย่ว์ตามหลันเล้งจิน กลับสู่ล้านไล้ ทั้งสองเริ่มแบ่งปัน
ความคิดซงลันและลัน

ฉินหยุนเดิมสิ้นหวัง แต่หลังจากคิดให้ดี หากเขาขาดความกล้า
ความหวังเพียงหนึ่งเดียวของหยางฉีเย่ว์ก็ต้องเลือนหาย!

“เราจะปล่อยให้อาจารย์หยางผิดหวังในตัวเราไม่ไล้! กระทั่งว่าอยู่
ขอบเขตกายวรยุทธ์ระดับที่เล้า เราก็ยังมีวัชระแก่นภายในถึงสาม
อักขระชีวิตที่พื้นผิวของแก่นภายในทั้งสามก็กระจ่างชัด พวกมัน
เหลืออีกเพียงลัาวเดียวจึงเลื่อนถึงขอบเขตวรยุทธ์เต๋า เราล้องโค่นล้ม
เชี่ยวหยางหลงไล้แน่!”

ประกายความมั่นใจถูกจุดขึ้น ดวงตาของเขาเปืยมด้วยความไม่

ยินยอม มันทั้งสว่างวาบและแหลมคม

ขณะนอนบนเตียง เขาหลับตาลงและผล็อยหลับ

รุ่งสาง ฉินหยุนตื่นขึ้น ชำระกายตนเอง จากนั้นจึงสวมใส่ชุดสีขาว
สะอาด เปืยมไปด้วยจิตวิญญาณแห่งการต่อสู้ ความรู้สึกล้านลบเมื่อ
วาน ลูกขจัดไปหมดสิ้นแล้ว

ฉินหยุนล้าวเดินออกจากห้านไมั เขาพบหลันฮัวอวี้ เขาจึงยิ้มกล่าว
“อรุณสวัสดขอรับสู้อาวุโสหลัน วันนี้มีการแข่งขันจารึกรอบที่ห้า
รางวัลย่อมดีกว่าผังจารึกดวงดาวใช่หรือไม่ขอรับ?”

จ้าวฉวน หยางฉีเย่ว์และหลันเพีงจินต่างก็อยู่ที่นี่ พวกเขารู้สึกวางใจ
ขึ้นมาเมื่อไล้เห็นฉินหยุนยังมีชีวิตชีวา

เด็กหนุ่มที่เปรียบดั่งดวงตะวัน ทั้งเด็ดเดี่ยวและมั่นใจ นี่จึงเป็นคนที่
พวกเขาคุ้นเคย!

“ข้าคิดว่ารางวัลในรอบที่ห้า ย่อมดีกว่าผังจารึกดวงดาว! อย่างไรแห้ว
ผังจารึกดวงดาวก็แค่พิเศษเล็กห้อย และยากพบเห็น ส่วนว่ามันจะ
แข็งแกร่งเพียงใด ห้วนขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของแต่ละคนแห้ว!
สำหรับเรื่องราวในรอบที่ห้า เหอะเหอะ เจ้าจะไห้รู้เมื่อเวลานั้น
มาถึง!” หลันฮัวอวี้ยิ้มลึกลับกล่าวคำตอบ

“ขอรับ ข้าจะตั้งตารอ!” ฉินหยุนยิ้มบาง “อาจารย์วันนี้ท่านไปรับชม
ข้าแข่งขันหรือไม่ขอรับ?”

“ข้าย่อมไม่ไป แต่ข้าหวังว่าเจ้าจะทำไห้สำเร็จ จดจำเอาไห้อย่าไห้ทำ
ให้ตนเองเต็มไปห้วยบาดแผลอีก เมื่อเจ้ากลับมาในตอนบ่าย เมื่อนั้น
จะไห้เรียนรู้ห้าวดาราเร้นลับอย่างจริงจังเสียที!” หยางฉีเย่ว์ยิ้ม
อ่อนโยนตอบ

ฉินหยุนพยักหนัารับ ม่งหห้าไปยังตำหนักวิญญาณจารึก พร้อมกับ
หลันฮัวอวี้และคณะ

ทันทีเมื่อพวกเขาเข้าสู่ห้องโถงกห้างใหญ่ พวกเขารู้สึกไห้ ถึงออร่าที่
แข็งแกร่งและคุ้นเคย จ้าวตำหนักของสี่ตำหนัก ห้วนปรากฏตัวรอบ
สนามแข่งขัน

คราครั้งนี้ พวกเขาคิดอยากเห็นศักยภาพของฉินหยุน ในรอบที่ห้า
ด้วยตาตัวเองในระยะใกล้!

ผู้ที่สามารถเข้าถึงรอบที่ห้า ทั้งหมดล้วนเหนือชั้นกันทั้งสิ้น

นอกจากฉินหยุนแล้ว ยังมีผู้อาวุโสอีกสี่คน สองคนมาจากตำหนัก
ตะวันตกและตำหนักใด้ ส่วนอีกสองคนมาจากตำหนักศักดสิทธ

จากที่เห็น ตำหนักตะวันตกและตำหนักใต้ อาจารย์จารึกของพวกเขา
รึเมือมากลํ้ากว่าของตำหนักเหนือและตำหนักตะวันออก และก็เป็น
ตำหนักตะวันออกที่อ่อนด้อยที่สุด

อาจารย์จารึกทั้งห้าคน ล้วนมาถึงสนามแข่งขันแล้ว

หลันฮัวอวี้เอง ก็เริ่มประกาศเนื้อหาของการแข่งขัน “สำหรับรอบที่
ห้า ไม่ใช่เรื่องยากทำสำเร็จ กระทั้นก็ไม่ใช่เรื่องง่ายทำสำเร็จเช่นกัน!
รางวัลทั้งสิ้นมีสอง ส่วนจะได้รับอันใดนั้น ล้วนขึ้นอยู่กับความ
สามารถ!”

เขานำเอากล่องสีนํ้าเงินสุกสว่างสองกล่องออกมาและกล่าว “ภายใน
กล่องทั้งสองนี้ คือพิมพ์เขียวอุปกรณ์ลึกลํ้า และนี่ก็เป็นรางวัลของ
รอบที่ห้า!”

พิมพ์เขียวอุปกรณ์ลึกลํ้า มันคือสิ่งที่เอาไว่ไช้สร้างอุปกรณ์ลึกลํ้า
รวมถึงผังจารึกระดับลึกลํ้าด้วย!

รางวัลนี้ สมควรแล้วที่กล่าวว่าดีกว่าผังจารึกดวงดาว!

ล้อนราชันยักษ์วิญญาณของฉินหยุน เป็นเพียงอุปกรณ์วิญญาณ
ระดับราชัน มันย่อมมีขีดจำกัด

อุปกรณ์ลึกลํ้า ถือว่าแตกต่างออกไป หากล้าวลึงขอบเขตวรยุทธ์เต๋า
และไล้ครอบครองอุปกรณ์ลึกลํ้า พละกำลังของผู้ครอบครองย่อมไม่
อาจมองข้าม

บิดาของฉินหยุน ฉินหลงเองก็ครอบครองหอกราชามังกร เพราะ
เหตุนั้นยอดวัเมือเฒ่าชราหลายคนจึงหวั่นเกรงเขา!

หลันยัวอวี้กล่าว “นี่คือพิมพ์เขียวทั้งห้า พวกมันล้วนเหมือนกัน!

พวกเข้าล้องหลอมกุญแจขึ้นโดยล้างอิงพิมพ์เขียวและผังวิญญาณ ผู้ที่
รวดเร็วที่สุด และเหมาะสมที่สุด จะไล้รับสิทธในการเปิดกล่อง!”

“กุญแจนี้ แม้สหายข้าที่เชี่ยวชาญบางคนจะสามารถขัดเกลาขึ้นไล้
กระนั้นพวกเขาก็ไม่อาจเปิดกล่อง!”

ฉินหยุนรับพิมพ์เขียวไข้และเอ่ยถาม “เหตุใดจึงเปิดไม่ไล้ขอรับ?
หรือจะมีสาเหตุอื่น?”

หลันยัวอวี้ยิ้ม หาไล้กล่าวคำตอบใดกลับ เขาเพียงส่ายศีรษะ “พวก
เข้าล้องสันพบมันล้วยตนเอง นี่คือการทดสอบ!”

“เตาหลอมและมีดแกะสลัก ทั้งหมดเป็นพวกเราจัดหา วัสดุตามแต่
พวกเจ้า!”

อาจารย์จารึกของตำหนักศักดสิทธเอ่ยถาม “ใช้วัสดุอันใดหรือ?”

“วัสดุที่ใชัสามารถพิจารณาด้วยตัวเอง เวลามีทั้งสิ้นสามชั่วยาม!”

หลันฮัวอวี้กล่าว “หากอัมเหลวและมีเวลา สามารถกลับไปขัดเกลา
มันขึ้นใหม่อีกครั้ง จากนั้นค่อยมาลองเปิดกล่อง ตราบเท่าที่กล่องยัง
ไม่ถูกเปิดออกภายในสามชั่วยาม การหลอมกุญแจครั้งแล้วครั้งเล่า
สามารถทำได้!”

ฉินหยุนขมวดคิ้ว มองที่พิมพ์เขียว มันสูเรียบง่ายอย่างยิ่ง ผังวิญญาณ
ที่ใช้เองก็ธรรมดา โดยมีผังแปรธาตุรวมอยู่ด้วย กุญแจนี้ใหญ่ราวนิ้ว
มือ รูปลักษณ์ก็เรียบง่าย

ไม่ว่าเขาจะมองอย่างไร มันก็เป็นกุญแจที่หลอมได้ง่ายดายยิ่ง!

“หรือจะมีความลึกลับซุกซ่อนเอาได้ภายในสองกล่องนั่น?” ฉินหยุน
มองกล่องทั้งสอง รูกุญแจก็คล้ายจะปกติดี
หลันยัวอวี้ตะโกนขึ้น “การแข่งขันรอบที่ห้า เริ่มขึ้นได้!”

นาฬิกาทรายขนาดใหญ่พลิกกลับ เวลาเริ่มลูกนับแล้ว
สามชั่วยาม ถือเป็นการแข่งขันยาวนานที่สุดของทั้งห้ารอบ

เมื่อเริ่มการแข่ง อาจารย์จารึกเฒ่าชราทั้งสี่ นำเอาวัสดุออกมา เริ่มทำ

การขัดเกลากุญแจตามแบบพิมพ์เขียว

มีแต่ฉินหยุนที่พิจารณาพิมพ์เขียวในน้วงความคิด

“นี่มันง่ายดายยิ่งกว่าอาวุธวิญญาณระดับตั้ไ หรือก็คือ มันเป็นอาวุธ
วิญญาณครึงขั้น!รึเมือของอาจารย์จารึกอาวุโสเหล่านี้ อย่างน้อย
ภายในสามชั่วยามย่อมต้องขัดเกลาพวกมันออกมาได้จำนวนหนี่ง!”

“แตนคือการแข่งขันรอบที่น้า เรื่องราวต้องไม่ง่าย มันมีความลับอัน
ใดซุกซ่อนอยู่ลันแน่?”

ฉินหยุนขมวดคิ้ว รู้สึกลันที่หัวใจแต่ไม่ทราบควรเกาเช่นไร

“ฉินหยุน เร่งมือไต้แต้ว อย่าได้คิดมากจนเกินไป หลอมกุญแจขึ้นมา
ก่อน!” หลันเพิงจินตะโกนจากต้านนอกสนามแข่งขัน เพราะผู้
อาวุโสอีกสี่คนตอนนี้ ต่างเริ่มลงมือลันเรียบร้อยแต้ว

เซี่ยลู๋เฟิงมองยังจ้าวฉวนและเอ่ยถาม “ผู้อาวุโสจ้าว เรื่องนี้มีอันใด
สึกลับซุกซ่อนไต้ลันแน่? ท่านทราบหรือไม่?”

จ้าวฉวนส่ายศีรษะ “ข้าไม่ทราบเลย! แต่ชัดเจนว่าไม่ง่ายดังที่เห็น
แน่!”

“บางที ผู้อาวุโสหลันอาจตั้งใจสร้างความลับลวงขึ้น ทำให้ผู้อนคิด
มากจนเกินเหตุ” ม่หรงต้าเหรินกล่าว “น้องหยุน เริ่มลงมือไต้แต้ว

อย่าได้คิดมากจนเกินไป นี่จะด้องเป็นกลลวงของผู้อาวุโสหลันให้
คิดมากแน่!”

ผู้อาวุโสหลันหัวเราะ นี่ยิ่งเป็นการสร้างความสับสนมากขึ้น

ในเมื่อผู้ชมที่เป็นอาจารย์จารึกไม่อาจเห็นพิมพ์เขียว พวกเขาก็ได้แต่
คาดเดาแล้ว

“วัสดุที่จำเป็นคงแทบไม่ต้องเอ่ยถึง ผังจารึกที่ต้องการก็มีแต่ผัง
แข็งตัวลับผังแปรธาตุระดับตา ตัวกุญแจแกะสลักแค'สองผังวิญญาณ
นี้ลงไป กระทั่งว่าตำแหน่งของผังวิญญาณบนตัวกุญแจระบุเอาได้
จะบอกว่าให้ใส่ใจที่รายละเอียดหรือยังไงลันนะ?” ฉินหยุนคิดถึงขั้น
ลงลึกในรายละเอียด แต่อีกทางหนงก็พบว่าไม่น่าใช่

เขาพลิกหห้ากระดาษซํ้าแต้วซํ้าเล่า พิจารณาสำรวจมัน แตกไม่อาจ
พบเห็นอะไร

“ได้แต่ต้องขัดเกลามันขึ้นก่อนละนะ!” ฉินหยุนไม่อาจเซัาใจ เขา
นำเอากระดูกเหล็กกต้าระดับตั้าออกมา จากนั้นจึงโยนใส่เตาหลอม

ไม่ช้า กระดูกเหล็กกต้าระดับตั้าเริ่มอ่อนนุ่ม จากนั้นเขาจึงนำมัน
ออกมา และเริ่มการทุบหลอมขึ้นรูปกุญแจให้เป็นไปตามพิมพ์เขียว

กระบวนการง่ายดาย ผ่านไปเพียงครู่ก็สำเร็จ หลังทำให้เย็นตัว
เรียบร้อย รูปลักษณ์กุญแจที่ได้ต้วนเหมือนตามพิมพ์เขียว

ถัดไปคือการแกะสลัก

กระบวนการแกะสลักง่ายดายยิ่ง ฉินหยุนแทบแกะสลักได้เสร็จทันที
เลยด้วยซํ้า

แม้เขาเริ่มด้วยการใช้ความคิดไปพักหนึ่ง จึงทำให้ลงมือทีหลัง

กระนั้นก็สามารถไล่ตามทันอาจารย์จารึกท่านอื่น

เขาใช้เวลาเพียงแค'ครึงชั่วยามก็ขัดเกลากุญแจขึ้นมาเสร็จแม้ว!

พอทุกคนเห็นเขาเดินไปยังกล่องสีนั้าเงินทั้งสอง พวกเขาต่างเบิกตา
กว้างรับชมเรื่องราวลันอย่างเต็มที่

ฉินหยุนสอดกุญแจเข้าไปในรูกุญแจ หมุนมัน ทว่าไม่อาจหมุนได้!
เขาทำพลาด!

“ข้าสามารถฟินบิดมันไต้หรือไม่ขอรับ?” ฉินหยุนเอ่ยถาม
“แน่นอน!” หลันฮัวอวี้พยักหห้าตอบ

ฉินหยุนลัดพีนแน่น รวบรวมกำลังกายบิดกุญแจเต็มที่ ถึงตอนนี้ เขา
ค่อยตระหนัก ว่ากุญแจนี้ไม่อาจเปิดกล่องได้จริง

ตอนนี้เอง อาจารย์จารึกเฒ่าชราอีกหลายคน เร่งรีบมุ่งหห้าไปยังอีก
กล่องหนึ่ง เมื่อสอดใส่กุญแจเข้าไปในช่อง ก็เป็นดังฉินหยุน พวกเขา
ไม่อาจบิดกุญแจไขเปิดได้

ฉินหยุนบิดกุญแจด้วยแรงเต็มที่แล้ว เขาไม่เหลือทางเลือกอื่นให้ลอง
มีแต่ต้องดึงมันกลับ ด้วยความสงสัยเต็มเปียมในหัวใจ เขากลับไป
จมดิ่งหนัาเตาหลอม

“ชัดเจนว่าเราทำตามพิมพ์เขียวแล้ว แต่เพราะอะไรถึงไม่อาจเปิด
มัน?” เขามองไปยังอาจารย์จารึกเฒ่าชราจากตำหนักตะวันตก ผู้ซึ่ง
ฟินบิดจนกุญแจเสียรูป ถึงแบบนั้นก็ยังไม่อาจเปิดกล่องออกได้

ไม่มีความคิดเห็น :

แสดงความคิดเห็น