วันเสาร์ที่ 2 พฤษภาคม พ.ศ. 2563

2200-2300

ตอนที่ 271 ราชันสัตว์
ฉินหยุนเปี่ยมด้วยความสงสัยต่อเซี่ยฉีโหรว แต่เขาก็ทราบว่า มันเป็น
ความลับที่นางต้องการเก็บไว้ ซึ่งจะต้องเกี่ยวข้องเป็น วงกว้างอย่าง
แน่นอน หากเขาไม่มีพลังเพียงพอ ก็ไม่มีสิทธิ์มี ส่วนรู้เห็นด้วยได้
ในเวลาอีกเกือบปี เราจะตัดสินศึกสุดท้ายกับเชี่ยวหยางหลง” ฉินหยุน
ก้าวเดินต่อไปขณะมองที่ทะเลสาบหมื่นดาราด้วยหัวใจ หนักอึ้ง ภูติอสูรใน
มิติเก็บของของเขา ตอนนี้กําลังกินแก่นอสูรระดับ วิญญาณอย่างสุขใจ
ข้างกายนางตอนนี้มีแก่นอสูรระดับ วิญญาณอยู่อีกสองเม็ด นางกระทั่ง
ประหลาดใจไม่น้อย ที่ฉินหยุนสามารถได้รับแก่น อสูรระดับวิญญาณมา
ให้นางได้รวดเร็วเพียงนี้ถึงสามเม็ด เป็นผลให้นางยินดี คิดว่าอีกสามสิบ
วันถัดจากนี้คงไม่ต้องทนหิวจน แทบตายอีกแล้ว
เมื่อบินออกพ้นทะเลสาบหมื่นดารา ฉินหยุนมุ่งหน้าตรงไปยังภูเขา
วิญญาณ ด้วยไม่มีหลันเมิ่งจินร่วมทาง เขาไม่กล้าออกเดินทางช่วง
กลางวัน ส่วนใหญ่จะเลือกเดินทาง โดยใช้พลังเงาในช่วงเวลา กลางคืน ที่
ประหลาดใจเขาที่สุดก็คือ ภูติอสูรภายในมิติเก็บของ สามารถ สัมผัสถึง
สัตว์อสูรระดับวิญญาณที่ภายนอกได้ ตราบเท่าที่มีสัตว์อสูรอยู่ใกล้เคียง
นางจะร้องเตือนต่อเขา ทํา ให้ฉินหยุนสามารถหลบเลี่ยงได้ทัน ด้วยการ
เดินทางเพียงช่วงกลางคืน ฉินหยุนต้องใช้เวลาหลาย วันกว่าจะมาถึงยอด
เขาวิญญาณ ฉินหยุนตอนนี้ลอยอยู่เหนือหมู่เมฆ กําลังมองไปยังหอใหญ่
ของ ตําหนักจารึกเทวะ ที่ซึ่งแสงดวงดาวและจันทราสาดส่องลงมา
มันงดงามถึงขั้นทําเอาเขาลืมเลือนตัวตนไปวูบหนึ่ง แม้นี่ไม่ใช่ ครั้งแรก
ที่มาที่นี่ กระนั้นก็ยังต้องทําให้เขาต้องทิ้งได้อยู่ดี หอใหญ่ตั้งอยู่บนยอดเขา
วิญญาณ ด้วยภาพลักษณ์ที่เด็ดเดี่ยว และหนักแน่น จากระยะไกล เขา
สามารถรู้สึกได้ถึงแรงกดดันได้ เทียมทานโถมเข้ามา กระทั่งเป็นสัตว์อสูร
บินได้ ยังไม่กล้าเข้าไปใกล้ ฉินหยุนบินไปยังประตูทางเข้าของม่านพลัง
เข้าสู่ด้านในม่าน พลัง เดินตามทางสู่ถนนกว้างข้างเขาวิญญาณ เพื่อมุ่ง
หน้าสู่ยอดเขา
เขาตอนนี้สวมใส่ชุดสีดําและหมวกปีกกว้าง ผู้อื่นย่อมจดจํา ไม่ได้ เมื่อเข้า
สู่หอหลักของตําหนักจารึกเทวะแล้ว เขาค่อยนําเหรียญ ตราอาจารย์จารึก
ระดับสูงออกมา เพื่อเข้าสู่เส้นทางพิเศษ มัน เป็นบันไดวนมุ่งหน้าสู่ห้องชุด
หรูหรา ทั้งหมดนี้ตระเตรียมเอาไว้ เพื่ออาจารย์จารึกระดับสูงโดยเฉพาะ
ฉินหยุนเข้าห้องชุดหรูหรา เดินมายังหน้าต่างบานใหญ่ พร้อม นําภูติอสูร
ปล่อยไว้ที่ข้างหน้าต่าง เมื่อภูติอสูรออกมาแล้ว นางมองไปยังทะเลหมอก
กว้างไกลที่ ประดับด้วยแสงดวงดาวและจันทรา อดไม่ได้ที่จะอุทานออก
งดงามนัก ที่นี่คือที่ใดกัน?”
หอหลักของตําหนักจารึกเทวะ เป็นสถานที่พิเศษของอาจารย์ จารึก” ฉิน
หยุนยิ้มตอบ
ที่นี่ปลอดภัยมาก”
พี่หยุน ข้ามีความสามารถพิเศษ สามารถพบเห็นผังจารึกซ่อน เร้น ทั้งยัง
ทราบวิธีใช้ผังจารึกเหล่านั้น ท่านเป็นอาจารย์จารึก ข้าสามารถช่วยเหลือ
ท่านได้” ด้วยยืนบนไหล่ฉินหยุน นางเอ่ย กระซิบใส่ใบหูของเขาด้วยความ
ยินดี ฉินหยุนสะท้าน ภูติอสูรตัวนี้มีความสามารถท้าทายสวรรค์ จนเกินไป
แล้ว กระทั่งสามารถพบเห็นผังจารึกที่ซ่อนเร้น
โมโม เจ้ารู้เรื่องวิถีจารึกแห่งเต๋าด้วยหรือ?” เขาเอ่ยถามเร่ง รีบ
ข้าไม่ทราบนัก ทว่า ข้าสามารถบันทึกผังจารึก และนําเสนอ ให้ท่าน
รับชม เพียงเท่านั้น... เท่านั้นก็ต้องใช้พลังงานมหาศาล แล้ว มันจะทําให้
ข้าหิวไม่ใช่น้อย” โมโมกล่าวกระซิบพร้อมสูบ ที่หน้าท้องของนาง
ไม่เห็นเป็นไร!” ฉินหยุนวางร่างนางที่ฝ่ามือ ยิ้มตอบกลับ
เพียงแค่ช่วยให้ข้าได้เห็นเส้นมีด ก็ทําให้ข้าสามารถเข้าใจถึง ผังจารึกทรง
พลังได้แล้ว มันถือเป็นการช่วยข้าได้อย่างมหาศาล ไม่สําคัญเลยว่าเจ้า
จะต้องกินมากขึ้นอีกเพียงใด”
โมโมยิ้มหวานตอบ “ ข้าก็ยินดีนักที่ช่วยเหลือพี่หยุนได้!”
ฉินหยุนพลันนึกอะไรขึ้นมาได้ จึงนําเอาแผ่นหินออกมา มันคือ ชุดผัง
วิญญาณระดับราชันที่ผ่านการแกะสลักมาแล้ว สิ่งนี้หลันเฟิ งจินมอบ
ให้แก่เขา ครั้งนั้น เป็นนางขอให้เขา ช่วยเหลือขัดเกลายันต์วิญญาณระดับ
ราชันขึ้นมา เขาวางแผ่นหินลงกับโต๊ะ “โมโม พอจะบอกได้ไหมว่าผังจารึก
ประหลาดนี้คืออันใด? มันมีความสามารถในการทําอะไร?”
ภูติอสูรตัวน้อย บินลงที่แผ่นหิน นางหลับตาลง แสงสว่างอ่อน จางสีขาว
กระจายออกจากร่าง ราวกับม่านหมอก แสงสีขาวปก คลุมฝังวิญญาณ
ระดับราชันบนแผ่นหินอย่างรวดเร็ว ไม่นานจากนั้น โมโมลืมตาขึ้น
สิ่งนี้คือผังวิญญาณระดับราชัน เรียกขานกันว่าเป็นผังวิญญาณชีวิต มัน
สามารถเพิ่มอายุขัยคน ผู้หนึ่งได้! ทว่า มีเพียงผู้ที่อายุน้อยกว่าห้าร้อยปีจึง
สามารถใช้ มันเพื่อเพิ่มอายุขัย”
แล้วมันสามารถเพิ่มขึ้นได้เท่าใด?" หางตาของฉินหยุนกระตุก เป็นเขา
รู้สึกตกตะลึงภายในใจ
หลายสิบปีหรือมากกว่านั้น โดยหลักแล้วขึ้นอยู่กับอาจารย์ จารึกว่า
สามารถทําให้ผังวิญญาณปลดปล่อยพลังออกได้เท่าใด ผังวิญญาณนี้ใช้
งานได้มากมายนัก อย่างไรแล้ว การเพิ่ม อายุขัยคนผู้หนึ่งถือเป็นการท้า
ทายสวรรค์”
ภูติอสูรคล้ายตก ตะลึงต่ออํานาจของผังวิญญาณนี้เช่นเดียวกัน
ในที่สุดฉินหยุนก็ได้ทราบ ว่าผังวิญญาณระดับราชันที่หลันเฟิง จินให้แก่
เขา มันเอาไว้ใช้ทําอะไร เขาไม่อาจเข้าใจว่าเหตุใดห ลันเฟิ งจินต้องปิด
ซ่อนเรื่องนี้ต่อเขาด้วย
สําหรับข้า ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะใช้ผังวิญญาณประเภทนี้ทํายันต์ ขึ้นมา มัน
จําเป็นต้องใช้วัสดุพิเศษอย่างมากเลยทีเดียว”
ฉินหยุ นกล่าวตอบขณะเก็บแผ่นหินกลับคืน หลันเฟิ งจินขอให้เขาช่วยทํา
ยันต์นี้ครั้งก่อน เป็นนางที่ส่งมอบ กระดาษยันต์พิเศษให้แก่เขา ประเภท
ของยันต์กระดาษนั้นพิเศษมาก เขาไม่ทราบว่ามันทําขึ้นจากอะไร โมโม
หัวเราะ
พี่หยุน หนทางท่านยังอีกยาวไกล ท่านคงไม่ จําเป็นต้องเร่งรีบขัดเกลา
ยันต์นี้หรอกกระมัง?”
ฉินหยุนตอบ “ถูกต้อง ข้าไม่จําเป็นต้องเร่งรีบใช้ยันต์นี้ ทว่า หากข้า
สามารถขัดเกลามันได้ จะทําให้ข้าสามารถได้รับ ทรัพยากรอย่างมหาศาล
ข้าสามารถใช้ยันต์เหล่านี้เพื่อ แลกเปลี่ยนเป็นไข่ผลึกแก้วสัตว์อสูร หรือสิ่ง
อื่นที่เทียบเคียงกัน ได้”
พอนางได้ยินคําไข่ผลึกแก้วสัตว์อสูร ดวงตาพลันเป็นประกาย ขึ้น ทว่าก็ได้
เพียงแต่คิดเท่านั้น “ข้าไม่ได้กินไข่ผลึกแก้วสัตว์อสูรมานานนัก ครั้งข้าอยู่
สถาบัน ยุทธ์ชิงเสวียน พวกนั้นให้ข้ากินแต่แก่นอสูรระดับแปดหรือไม่ก็
เก้า ทําเอาท้องข้าปวดไปนานยิ่ง”
ขณะโมโมนึกถึงเรื่องราวใน อดีต ใบหน้าเล็กจ้อยนั้นเปี่ยมด้วยความ
หวาดกลัว ดวงตาสี เขียวของนางถึงกับต้องหมั่นแสงด้วยความโศก ฉิน
หยุนลูบเส้นผมของนางเบามือและยิ้มกล่าว
โมโม เจ้าไม่ ต้องทุกข์ทรมานเช่นนั้นแล้วเมื่ออยู่กับข้า! ข้าให้สัญญาว่าจะ
ไม่ ปล่อยให้เจ้าต้องปวดท้อง”
อืม ข้าย่อมเชื่อพี่หยุน” โมโมพยักหน้ารับยิ้มหวาน จากนั้น จึงบินเล่นไป
รอบห้อง ฉินหยุนมองที่วัสดุซึ่งตนเก็บเอาไว้และกล่าวออก
โมโม ข้าคิด ตระเตรียมการหลอมหุ่นเชิดสัตว์ร้าย คิดว่าน่าจะใช้เวลาสัก
ระยะหนึ่ง แต่อย่าได้ห่วงไป ข้าจะเตรียมแก่นอสูรระดับ วิญญาณไว้ให้พอ
ก่อนเริ่มงาน”
โมโมรู้สึกสบายขึ้นมากตั้งแต่อยู่กับฉินหยุน นางไม่เคยต้องทน ทุกข์หิวอีก
เลย ก่อนอื่น ฉินหยุนขัดเกลายันต์สะกดกายสามแผ่น ก่อนจะนําไป
แลกเปลี่ยน ที่นี่มีแก่นอสูรระดับวิญญาณไม่มาก ดังนั้นเขาจึง ต้องใช้ยันต์
สะกดกายระดับสูงหนึ่งแผ่น เพื่อแลกเปลี่ยนเป็น แก่นอสูรระดับวิญญาณ
สองเม็ด ตอนนี้ มีแก่นอสูรระดับวิญญาณสี่เม็ดไว้ให้โมโมได้กินสํารอง
นับว่าเพียงพอสําหรับสี่สิบวัน
สี่สิบวัน น่าจะพอให้เราหลอมหุ่นเชิดสัตว์ร้ายขึ้นมาสักตัว หนึ่งกระมัง?”
ฉินหยุนรู้สึกว่าน่าจะประมาณนี้ เมื่อไปพบจ้าวฉ วน เขาจึงขอให้อีกฝ่าย
ช่วยเหลือ เมื่อกลับถึงห้องชุดแล้ว เขาจึงเข้าห้องลับ นําเอากระดูกสัตว์
อสูรระดับวิญญาณ และเหล็กวิญญาณระดับราซันออกมา เขา คิดอยาก
ขัดเกลากระดูกเหล็กกล้าระดับราชันขึ้นมาจํานวนหนึ่ง
หุ่นเชิดสัตว์ร้ายที่สร้างขึ้นจากกระดูกเหล็กกล้าระดับราชัน น่าจะเพียงพอ
ให้ยืนหยัดรับการโจมตีจากสัตว์อสูรระดับ วิญญาณ ไม่น่ามีปัญหาอะไร
หากต้องต่อสู้กับสัตว์อสูรระดับ เก้า” ฉินหยุนนํากระดูกสัตว์ระดับ
วิญญาณจํานวนมากใส่เตาหลอม หลังเผาไหม้ชั่วระยะเวลาหนึ่ง เขาจึง
นําออกมาวางไว้บนแท่นหลอม
การขัดเกลากระดูกเหล็กกล้าระดับราชันจํานวนมาก เป็น กระบวนการที่
ต้องใช้ระยะเวลา ฉินหยุนทํางานเช่นนี้อยู่สิบห้า วันจึงค่อยหลอมกระดูก
เหล็กกล้าได้ตามจํานวนที่ต้องการ กระดูกเหล็กกล้าระดับราชันที่เขาขัด
เกลาขึ้น ทั้งหมดล้วนเป็น สีนํ้าเงิน นํ้าหนักมากกว่าหลายพันจิน กระดูก
เหล็กกล้าระดับ ราชันทั้งสิ้นหนึ่งหมื่นจิ้น ได้ถูกหลอมรวมให้กลายเป็น
ราชสีห์สี คราม
ร่างของราชสีห์ไม่ใหญ่ ยาวเพียงสองถึงสามเมตร ถือว่าเล็ก กว่าราชสีห์สี
เงินที่เคยหลอมก่อนหน้านี้ แม้ไม่ใหญ่ แต่ก็ไม่ได้ หมายความว่าไม่
แข็งแกร่ง
ฉินหยุนรู้สึกว่า หากขัดเกลาให้เล็กลงสักเล็กน้อย มันน่าจะ คล่องตัว
มากกว่า นอกจากนี้แล้วยังจะประหยัดกระดูก เหล็กกล้าระดับราชันได้ไม่
น้อยเลยด้วย ภายในของราชสีห์สีครามตอนนี้ว่างเปล่า โดยหลักแล้ว
ราชสีห์ สีครามจําเป็นต้องมีไข่มุกนานาชนิดซึ่งมีความสามารถพิเศษใน
ตัวเอง ยกตัวอย่างไข่มุกกักเก็บพลังงาน ไข่มุกอสนีบาตอัคคีที่ เอาไว้
ระเบิดปล่อยพลังอสนีบาตและอัคคี หรือไข่มุกรวมพลัง วิญญาณ ที่ทํา
หน้าที่ชักนําพลังวิญญาณมารวบรวม และส่วนสําคัญที่สุดของหุ่นเชิดสัตว์

ร้ายก็คือ การแกะสลักผัง โทเทม ส่วนนี้ต้องใช้เวลานานเป็นอย่างมาก
ท่านคิดแกะสลักผังโทเทมหรือ?” โมโมที่อยู่ร่วมกับฉินหยุน จึงเอ่ยถาม
ชักชวนพูดคุย นางหาได้รู้สึกเบื่อใด ทั้งยังอยากรู้ เรื่องกระบวนการหลอม
หุ่นเชิดสัตว์ร้ายด้วย “ถูกต้องแล้ว นี่ถือเป็นขั้นตอนที่ยากยิ่ง” ฉินหยุนเผยสี
หน้า เคร่งเครียดขณะถือปากกาลึกสะท้อนจิตเอาไว้แน่น
เขามองที่ปากกาด้ามในมือและเอ่ยถาม “โมโม เจ้าเคยได้ยิน เรื่องจารึก
วิญญาณหรือไม่?”
พานต้าเหว่ยบอกต่อเขาก่อนหน้านี้ ว่าภูติอสูรที่สามารถสัมผัส ถึงจารึก
วิญญาณ จึงมีความสามารถในการค้นหาจารึก วิญญาณ หากได้รับภูติ
อสูรเช่นนี้มา ก็มีสิทธิ์ที่จะหาจารึก วิญญาณได้พบ ตั้งแต่ได้รับภูติอสูรตัว
น้อย หลายเรื่องราวเกิดขึ้น จนทําเขาลืม เลือนเรื่องนี้เสียสนิท โมโมพยัก
หน้ารัวเร็ว
แน่นอนว่าข้าเคยได้ยิน มันคือร่าง วิญญาณที่เกิดขึ้นจากจารึก ทั้งยังหา
ได้ยากอย่างยิ่ง กล่าวกัน ว่าทุกหนึ่งหมื่นปี จารึกสามารถก่อเกิดเป็นจิต
วิญญาณขึ้นมา ได้”
เคยได้ยินชื่อจารึกวิญญาณราชันสัตว์หรือไม่?” ฉินหยุนเอ่ยถาม
ราชันสัตว์” โมโมร้องแตกตื่น “จารึกวิญญาณนั่นแข็งแกร่ง ยิ่ง! ตราบ
เท่าที่ได้รับจารึกวิญญาณนั้นมา เมื่อแกะสลักเป็นโท เทมสัตว์ร้าย ท่าน
สามารถสําเร็จงานได้สองเท่าด้วยความพยายามเพียงครึ่งเดียว”
ฉินหยุนเร่งรีบส่งปากกาลึกลํ้าในมือแก่โมโมและเอ่ยถาม “ครั้ง ข้าได้รับสิ่ง
นี้ มีจารึกวิญญาณนามว่าราชั้นสัตว์ ได้ผสาน รวมเข้ากับปากกาลึกลํ้า
ด้ามนี้ ช่วยข้าตรวจสอบมันว่ามีจารึก วิญญาณอยู่ด้านในจริงหรือไม่!”
นางหลับตาลงเพื่อสัมผัส เส้นผมสีฟ้าเริ่มส่องประกายแสงสีฟ้า ออกมา
เพียงไม่นาน นางพลันลืมตาขึ้น ดวงตาสีเขียวตอนนี้เปี่ยมด้วยความตื่น
ตะลึง !
จริง... สิ่งนี้คือราชันสัตว์ พี่หยุน มันมีจารึกวิญญาณอยู่ ภายในจริง เป็น
ราชันสัตว์!” โมโมร้องบอกด้วยอาการแตกตื่น
ท่านได้รับมันมาอย่างไรกัน?”
จารึกวิญญาณนี้ เป็นของดีจริงงั้นสินะ!” ฉินหยุนยิ้มกว้าง อย่างอดไม่ได้
เขาเร่งรีบเอ่ยถาม “ข้าจะใช้งานมันได้อย่างไร?”
โดยปกติแล้ว จารึกวิญญาณสามารถใช้งานได้หลังผสานรวม กับคนผู้
หนึ่ง แต่ตอนนี้ จารึกวิญญาณราชันสัตว์ได้ผสานรวม กับสิ่งนี้ไปแล้ว
ดังนั้นข้าจึงไม่อาจทราบ” โมโมมองที่ปากกา ลึกลํ้าขณะขมวดคิ้วตอบคํา
บางทีคงแค่ใช้มันแกะสลักผังโทเทม ลองดูแล้วกัน” ฉินหยุน ถือปากกา
ลึกลํ้าไว้ในมือ ผสานรวมพลังจิตวิญญาณโลหิตเข้า ไป เริ่มกระบวนการ
แกะสลักผังโทเทมราชสีห์สวรรค์ เขาเคยหลอมหุ่นเชิดราชสีห์สีเงินมาก่อน
ทั้งยังเคยใช้ผังโทเทม ราชสีห์สวรรค์มาก่อน ดังนั้นจึงมีประสบการณ์ฝัง
แน่น ตอนนี้ เป็นการแกะสลักที่กระดูกเหล็กกล้าระดับราชัน มันยิ่งเท่าทวี
ความยากมากขึ้นหากเทียบกับครั้งก่อน ตอนนี้ เขาคือผู้ฝึกตนขอบเขต
กายวรยุทธ์ระดับที่เก้า นอกจากนี้ยังมีปากกาลึกลํ้า เรื่องราวจึงง่ายดาย
ขึ้นเยอะ เขาเริ่มแกะสลักผังโทเทมราชสีห์สวรรค์ มันรู้สึกยากอยู่บ้าง
กระนั้นก็ยังสามารถอดทนได้อยู่ อย่างไรแล้ว การแกะสลักผัง โทเทมก็ไม่มี
ทางใช่เรื่องง่ายมาตั้งแต่แรก
จารึกวิญญาณนี้ไม่ทํางานหรือ?” ฉินหยุนสับสน เขาได้แต่ แกะสลักต่อไป
เรื่อย ๆ เพื่อดูว่าจะมีอะไรเปลี่ยนแปลงบ้าง หรือไม่
ตอนที่ 272 ราชันราชสีห์วิญญาณ
ตามที่โมโมบอกมา จารึกวิญญาณราชันสัตว์ สามารถทําให้ ผู้คนเข้าใจ
และใช้งานผังวิญญาณประเภทสัตว์ หรือผังโทเทมป ระเภทสัตว์ได้ดีมาก
ขึ้น ปากกาลึกลํ้าสะท้อนจิต บรรจุเอาไว้ซึ่งจารึกวิญญาณราชัน สัตว์ ทว่า
โมโมไม่อาจบอกได้ ว่าแท้จริงแล้วมันใช้งานได้ อย่างไร ผ่านไปหลาย
ชั่วโมง ฉินหยุนตอนนี้หลั่งเหงื่อ การแกะสลักผังโทเทมบนกระดูก
เหล็กกล้าระดับราชัน ต้องใช้แรงอย่างมาก เขาใช้พลังจิต วิญญาณโลหิต
ไปอย่างมหาศาลเพื่อแกะสลักผังโทเทมลงไป
หุ่นเชิดสัตว์ร้ายที่เขาหลอมขึ้นครั้งนี้ แตกต่างอย่างมหาศาลกับ ที่หลอม
ขึ้นครั้งล่าสุด ครั้งนี้ หลังจากที่หลอมทั้งร่างของราชสีห์แล้ว เคล็ดวิชา
พิเศษ จะถูกใช้เพื่อแกะสลักผังโทเทมราชสีห์สวรรค์สู่กระดูกเหล็กกล้า
ระดับราชัน มันจะเป็นการผสานเข้ากับกระดูกเหล็กกล้าอย่าง สมบูรณ์
แบบ แม้วิธีการนี้ทําให้หุ่นเชิดแข็งแกร่งขึ้น แต่กระบวนการแกะสลัก ผังโท
เทม จะยากขึ้นเป็นเงาตามตัว “เราไม่น่าใช้กระดูกเหล็กกล้าระดับราชัน
เลย หากเราใช้เพียง ชั้นเลิศ น่าจะง่ายกว่านี้มาก”
ฉินหยุนรู้สึกว่าตนสามารถทํา สําเร็จได้ แต่กระนั้นต้องใช้เวลานาน
มหาศาลยิ่ง แต่แล้วขณะที่เขากําลังคิดยอมแพ้ ฉับพลัน เขารู้สึกได้ว่า
จิตสํานึกตนเองได้ผสานเข้ากับปากกาลึกลํ้าสะท้อนจิต มันให้ ความรู้สึก
ราวกับเขาสามารถพบเห็นสิ่งที่อยู่เบื้องล่างของ ปลายปากกา ราวกับเป็น
ดวงตาที่ปลายปากกา
ถึงตอนนี้เอง ปากกาลึกลํ้าสะท้อนจิตได้ผสานรวมกับร่างกาย และจิตของ
เขา! ที่ประหลาดใจที่สุดก็คือ ในจิตของเขา มันปรากฏชุดผังโทเทม
ราชสีห์สวรรค์ที่สมบูรณ์ ด้วยอะไรไม่อาจทราบ แขนราชสีห์ สวรรค์ของเขา
เริ่มเคลื่อนไหวรวดเร็วเมื่อถือปากกาลึกลํ้าเอาไว้ พลังที่ถูกใช้งาน มันมา
จากแก่นในแขนราชสีห์สวรรค์ พลังงาน ประหลาดที่ถูกปลดปล่อยออก
ไม่ใช่พลังจิตวิญญาณโลหิต แต่ มันเป็นอะไรที่เหนือยิ่งกว่าจิตวิญญาณ
โลหิต!
พลังของสายเลือดราชสีห์สวรรค์!” ฉินหยุนอุทานยินดี จารึก วิญญาณใน
ที่สุดก็ทํางาน อย่างลื่นไหล เขาไม่รู้สึกถึงแรงกดดันจากทางสมาธิอีกต่อไป
ทั้ง ยังไม่ต้องคร่ําเคร่งยามแกะสลักผังโทเทมราชสีห์สวรรค์ มันราวกับเป็น
พลังประหลาดที่ส่งเสริมศักยภาพให้แก่เขา ทํา ให้เขาสามารถแกะสลักผัง
โทเทมราชสีห์สวรรค์ได้รวดเร็ว กระบวนการแกะสลักเป็นไปอย่างไหลลื่น
ทั้งยังแม่นยําสูงลํ้า
ที่น่าสะพรึงกลัวกว่านั้นก็คือ วิญญาณเทวะเก้าตะวันกําลัง ดูดกลืน
พลังงานเก้าตะวันอย่างบ้าคลั่ง หล่อเลี้ยงพลังที่เสียไป ของแก่นภายใน
บํารุงสายเลือดราชสีห์สวรรค์ในแขนราชสีห์ สวรรค์ เป็นผลให้สายเลือด
สามารถคงสภาพพลังงานให้ เพียงพอเอาไว้ได้
ได้ผล!” โมโมที่นั่งอยู่ด้านข้าง กลายเป็นยินดียิ่งขณะบินไปมา
พี่หยุน ข้ารู้สึกได้ว่าจารึกวิญญาณทํางานอย่างดีเยี่ยม ราวกับ มันมีชีวิต
เป็นของตัวเอง”
ใช่!” ฉินหยุนเองก็รู้สึกได้ทั้งยังยินดี เดิมเขานึกว่าคงไม่อาจ แกะสลักผัง
โทเทมถัดไปได้สําเร็จเสียแล้วด้วยซํ้า ด้วยความช่วยเหลือของจารึก
วิญญาณ ฉินหยุนแกะสลักผังโท เทมราชสีห์สวรรค์ด้วยความแม่นยํา
เหนือลํ้าและรวดเร็ว เป็น ผลให้ผังโทเทมยิ่งสําแดงพลังอํานาจยิ่งกว่า
เพียงชั่วพริบตา กว่าสิบวันได้ผ่านพ้น หุ่นเชิดสัตว์ร้ายตัวที่ฉินหยุนเมิ่งขัด
เกลาขึ้น ในที่สุดก็สําเร็จ เป็นเขาใช้เวลาทั้งเดือนกว่าจะทําสําเร็จได้
ตอนนี้ ราชสีห์สีครามกําลังเดินไปมาในห้อง โดยมีโมโมนั่ง ประจําการที่
หัวของราชสีห์
ราชสีห์สีครามนี้มองดูไม่ดีนัก มันสามารถเปลี่ยนสีได้ หรือไม่?” โมโมเอ่ย
ถาม “มันออกจะแปลกเกินไป”
ที่เจ้าพูดก็จริง!” ฉินหยุนนึกอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะผสานเปลว เพลิงสีทองเข้า
สู่ชั้นผลึกแก้วใสกระจ่างของกระดูกเหล็กกล้า เป็นผลให้ราชสีห์เริ่ม
แปรเปลี่ยนเป็นสีแดงทอง นอกจากนี้ ทั่วทั้งร่างยังเกิดขึ้นเป็นเปลวเพลิง
ราวกับราชสีห์อัคคีสวรรค์ ประโยชน์สูงสุดของหุ่นเชิดสัตว์ร้ายก็คือ
ความสามารถในการ ต่อสู้ ยิ่งวัสดุดีเท่าใด พลังป้องกันและพละกําลังก็ยิ่ง
มากขึ้น เท่านั้น
และสิ่งที่ฉินหยุนเลือกใช้เพื่อขัดเกลามันขึ้นมา ก็คือกระดูก เหล็กกล้า
ระดับราชัน กล่าวไปแล้ว กระทั่งอุปกรณ์วิญญาณ ระดับราชันยังไม่อาจ
ทําลายมันได้ด้วยซํ้า
เรียกเจ้าตัวนี้ว่า ราชันราชสีห์วิญญาณ!” ฉินหยุนตบที่หัว ของราชสีห์
พลางหัวเราะกล่าว “ด้วยเจ้าตัวนี้ การออกล่าสัตว์ อสูรระดับวิญญาณจะ
ยิ่งง่ายดายขึ้น”
ที่จริงแล้ว สิ่งที่ฉินหยุนต้องการที่สุดคืออุปกรณ์วิญญาณระดับ ราชัน
เหมือนอย่างปืนใหญ่ราชันวิญญาณ พอนึกถึงปืนใหญ่ราชันวิญญาณแล้ว
เขาอดไม่ได้ที่จะมองภูติ อสูรของตัวเอง!
ภูติอสูรสามารถมองเห็นเส้นมืด ทั้งยังจดจําได้รวดเร็ว นี่ หมายความถึง
ผังจารึกของอุปกรณ์วิญญาณ สามารถให้นางรู้ เห็นและจดจํากลับมาได้!
ตราบเท่าที่เขาได้รับผังจารึกของปืนใหญ่ราชันวิญญาณ เขา ย่อมสามารถ
ลอกเลียนมันมาได้! “ดูเหมือนคงต้องไปที่ศูนย์กลางของเมืองอี้ และหยิบ
ยืมปืน ใหญ่ราชันวิญญาณมาศึกษาเสียหน่อยแล้ว”
ฉินหยุนตอนนี้ พร้อมออกเคลื่อนไหว หากเขาครอบครองอุปกรณ์
วิญญาณ รวมถึงยันต์สะกดกายจํานวนหนึ่ง เขาย่อมสามารถกวาดล้าง
ฝูงสัตว์อสูรด้วยตัวเองได้แม้ไม่มีหน่วยร่วมสังกัด แค่เพียงนึกถึงก็ทําเอา
เขาตื่นเต้นขึ้นมาแล้ว! ฉินหยุนเก็บราชันราชสีห์วิญญาณและโมโม
จากนั้นจึงออกจาก ห้องชุด มุ่งหน้าสู่โถงหลักของตําหนักจารึกเทวะ
สอบถามผู้ อาวุโสอื่นว่าจ้าวฉวนกลับมาหรือยัง
จ้าวฉวนกลับมาแล้ว ทันทีเมื่อทราบว่ามีอาจารย์จารึกระดับสูง ต้องการ
พบ เขาจึงเร่งรีบมุ่งหน้าไปยังห้องรับรองลับ เมื่อพบว่า เป็นฉินหยุน เขาอด
ไม่ได้ที่จะหัวเราะให้
ฉินหยุน ในที่สุดก็ตัดสินมาที่หอหลักได้ เป็นข้าสงสัยนักว่าเจ้า จะไปที่ใด
หลังออกมาจากสถาบันยุทธ์ชิงเสวียน” จ้าวฉวน หัวเราะขณะลูบหนวด
เครายาว
ผู้อาวุโสใหญ่ ท่านทราบด้วยหรือว่าข้าถูกขับไล่ออกจาก สถาบันยุทธ์ชิง
เสวียน?” ฉินหยุนประหลาดใจไม่น้อย เขานึกว่า ผู้อาวุโสเหล่านั้นจะเก็บ
เงียบเป็นความลับเสียอีก
จ้าวฉวนหัวเราะตอบ “ย่อมรู้! ใช้กว่าพันล้านแต้มเสวียนซื้อหา ภูติอสูรที่มี
ปัญหามาไว้ในครอบครอง แต่เพียงไม่นาน ตาเฒ่า เหล่านั้นกลับพบว่าภูติ
อสูรที่พวกมันคิดว่ามีปัญหา แท้จริงแล้ว เป็นถึงพระแม่ของเหล่าภูติอสูร
แต่แล้วกลับหิวตายไปในมือ ของเจ้า ด้วยความโกรธแค้นรุนแรง พวกนั้น
จึงขับไล่เจ้าออก จากสถาบันยุทธ์ชิงเสวียน”
นี่ต้องเป็นอาจารย์ข้าบอกเล่าออกมาแล้ว” ฉินหยุนยิ้ม มีแต่ ตู้ก่วยกับ
พานต้าเหว่ยจึงทราบรายละเอียดถึงเพียงนี้ จ้าวฉวนพยักหน้าและหัวเราะ
หลายคนต่างคิดว่าเจ้าต้อง ประสบภัยครั้งใหญ่ แต่เห็นเจ้ามีความสุขดี
เช่นนี้ ไม่คล้ายว่าจะ ได้รับผลกระทบอันใดเลยนี่ เจ้าเตรียมจัดศึกประลอง
กับ เชี่ยวหยางหลงในอีกเกือบปีถัดจากนี้ ไม่วิตกกังวลเลยหรือ?”
แน่นอน ข้าจึงต้องเร่งรีบขอรับ!” ฉินหยุนยิ้มเก้กัง
แต่ไม่มี ทางอื่นแล้ว! ข้าต้องการความเสถียรภาพด้วย ข้าไม่อาจ ยอมรับ
อาการบ้าคลั่งได้!”
ใบหน้าของจ้าวฉวนกลายเป็นจริงจังขณะพยักหน้า “เจ้าต้อง รักษา
เสถียรภาพเอาไว้ให้ดี! จริงด้วย เจ้ามีเรื่องอันใดคิดพูดคุย กับข้าหรือ?”
ผู้อาวุโสใหญ่ ข้ามียันต์สะกดกายชั้นเลิศอยู่สองแผ่น รับชม คุณภาพมัน
ก่อนขอรับ!” ฉินหยุนนํายันต์สะกดกายออกมาและ ส่งมอบให้อีกฝ่าย
ข้าต้องการนํามันไปแลกกับอะไร บางอย่าง!” จ้าวฉวนรับไป พิจารณา
สํารวจ กล่าวทั้งขมวดคิ้ว
เจ้าคิด แลกเปลี่ยนยันต์สะกดกายคุณภาพสูงเช่นนี้ กับแก่นอสูรระดับ
วิญญาณสองเม็ดหรือ?”
ขอรับ! ข้าต้องการแลกไข่ผลึกแก้วสัตว์อสูรหากเป็นไปได้!” ฉินหยุนกล่าว
ยันต์สะกดกายชั้นเลิศที่เจ้าขัดเกลาขึ้น คุณภาพเลิศลํ้า การ แกะสลักนี้
คล้ายแม่นยําขึ้นไม่น้อยเลยด้วย!” จ้าวฉวนสํารวจ มองให้ดี ดวงตาต้อง
เบิกกว้างด้วยความตื่นตะลึง ฉินหยุนถามกลับโดยทันที “เพิ่มขึ้นเพียงใด
ขอรับ?”
ผังจารึกที่เจ้าแกะสลักก่อนหน้านี้ อยู่ระหว่างระดับที่สามและ สี่ แต่ครั้งนี้
คือระดับที่ห้า ความคืบหน้าเช่นนี้ออกจะมหาศาล เกินไปแล้ว!”
จ้าวฉวนนําเอากระจกผลึกแก้วออกมา มองดูผัง วิญญาณบนยันต์สะกด
กายชั้นเลิศ กระจกผลึกแก้วตอนนี้ ปรากฏห้าเส้นขึ้นให้เห็น “ความวิจิตร
ระดับที่ห้า!”
จ้าวฉวนสูดลมหายใจเบา “ต่อให้ เป็นข้า ข้าก็เพียงแกะสลักความวิจิตรที่
ระดับหกเท่านั้น และ นั่นคือผลลัพธ์ของความพยายามหนักหนาตลอด
หลายปี แต่ แล้วเจ้า... กลับถึงระดับที่ห้าได้ตั้งแต่วัยเพียงเท่านี้ สัตว์
ประหลาดแล้ว!”
เช่นนั้น ข้าพอจะแลกยันต์สะกดกายชั้นเลิศสองแผ่นนี้ กับ ไข่ผลึกแก้ว
สัตว์อสูรได้หรือไม่ขอรับ?” มันเป็นอาหารที่โมโม ปรารถนาจะได้กินมา
นานยิ่งแล้ว “แน่นอน ข้าเมิ่งได้มาฟองหนึ่งพอดี! กล่าวตามตรง ในช่วง
เวลานี้ ไข่ผลึกแก้วสัตว์อสูรยิ่งมายิ่งยากได้รับ ไข่ผลึกแก้วสัตว์ อสูรจํานวน
มากถูกฟักตัวออก ฝูงสัตว์อสูรยิ่งขยายใหญ่ขึ้น ทั้ง ยังแข็งแกร่งมากขึ้น
ด้วย”
จ้าวฉวนถอนหายใจขณะนําเอาไข่ผลึกแก้วสัตว์อสูรสีแดงม่วง ออกมา
และส่งให้แก่ฉินหยุน พลังงานภายในไข่ผลึกแก้วสัตว์อสูร ถือว่ามี
ประโยชน์อย่างยิ่ง แก่ผู้ฝึกตน สําหรับผู้ที่อยู่ระดับต่ํากว่าขอบเขตวรยุทธ์
เต๋า พวก เขาทําได้เพียงดูดกลืนพลังงานเบาบางจากมัน
ฉินหยุน เจ้าต้องการไข่ผลึกแก้วสัตว์อสูรไปทําอะไรหรือ?” จ้าวฉวนเอ่ย
ถามด้วยความสงสัย
ข้าคิดนําไปแลกเปลี่ยนเป็นวัตถุอื่นต่อผู้อื่นขอรับ!” ฉินหยุน ตอบ ไข่ผลึก
แก้วสัตว์อสูร อันที่จริงใช้เพื่อจุดประสงค์ดังกล่าวจริง ผู้ ฝึกตนหลายคน
ยินดียิ่งหากจะได้ถือครองไข่ผลึกแก้วสัตว์อสูร
จ้าวฉวนพยักหน้ารับ “น่าเสียดายที่พระแม่ของภูติอสูรตาย จาก ไม่เช่นนั้น
เจ้าคงได้รับสมบัติลํ้าค่าไปประการแล้ว!”
พระแม่ของภูติอสูร นางทรงพลังเพียงนั้นเลยหรือขอรับ?” ฉินหยุนเอ่ย
ถาม
มันสามารถทําให้ผังโทเทมวิวัฒนาการได้! ผังโทเทมมีหลาย ระดับ และ
ผังโทเทมที่เจ้ามีอยู่ตอนนี้ ถือว่าเป็นพื้นฐานที่สุด กล่าวได้ว่าการ
วิวัฒนาการผังโทเทมถือเป็นเรื่องยากเย็นอย่าง ยิ่ง หากพวกเราได้รับ
ความช่วยเหลือจากพระแม่ของเหล่าภูติ อสูร เรื่องราวจะง่ายดายขึ้นมาก”
เช่นกัน พระแม่ของภูติอสูรยังสามารถซ่อมแซมโทเทมและผัง จารึกที่
เสียหายได้ ยกตัวอย่าง มีอุปกรณ์วิญญาณโบราณ จํานวนมากที่มีโทเทม
หรือผังจารึกแกะสลักเอาไว้ที่ตัวพวกมัน ทว่าเพราะกาลเวลาไหลผ่าน ผัง
จารึกได้รับความเสียหาย หาก ไม่เข้าใจเรื่องผังจารึกที่แกะสลักไว้ ย่อม
เป็นเรื่องยากแก่การ ซ่อมแซม ทว่าพระแม่ของเหล่าภูติอสูรไม่จําเป็นต้อง
เข้าใจผัง จารึก ก็สามารถใช้พลังปาฏิหาริย์ช่วยซ่อมแซมพวกมันได้”
จ้าวฉวนหัวเราะ “แน่นอนว่า พวกเขาสามารถซ่อมแซมผัง จารึกและ
ทําลายมันได้ การที่ตายไปเช่นนั้นถือเป็นเรื่องน่า เสียดายนัก!”
ฉินหยุนยินดีขึ้นมา เป็นเขาเก็บสมบัติได้ประการหนึ่งจริง ๆ เขาลอบสบถ
ต่อพวกผู้อาวุโสเฒ่าชราที่บังอาจปล่อยให้โมโมหิว โซ ทั้งยังทําให้โมโม
ต้องปวดท้องเป็นเวลานานจนกระทั่งเกือบ หิวจนแทบตายตกไปจริง ยาม
เมื่อนึกถึงภูติอสูรที่น่าเวทนา กับต้องทนอาการปวดท้อง นานนับ พร้อมทั้ง
อาการหิวโหย มันช่างเกินจะกล่าวจริง ๆ กับภูติอสูรที่น่ารักน่าชังตัวนั้น
ต้องอดทนต่อความทรมาน ร้ายแรง เพียงแค่นึกก็ทําเอาเขาหัวใจเจ็บชํ้า
มหาศาล ฉินหยุนตอนนี้วางแผนอยู่ที่ตําหนักชั่วระยะเวลาหนึ่ง เขา
ต้องการได้รับทรัพยากรให้มากที่สุดเท่าที่จะทําได้ ขณะพูดคุยไปพลาง
หัวเราะร่วมกับจ้าวฉวน พวกเขาค่อยเดิน ออกมาที่โถงรับรอง จึงได้เห็น
กลุ่มคนไม่น้อยที่อยู่ด้านนอกโถง หลัก ร่างกายพวกเขาเต็มไปด้วย
บาดแผล
ผู้อาวุโสใหญ่!” ชายชราท่าที่ลําบากใจเมื่อพบจ้าวฉวน เร่ง รีบเดินเข้ามา
และกล่าวคําออก “พวกเราโดนโจมตี! ห้าร้อยลี้ จากภูเขาวิญญาณ เมืองที่
พวกเรารับหน้าที่คุ้มกัน ถูกโจมตี อย่างกะทันหันโดยฝูงสัตว์อสูรทรงพลัง
ยิ่ง หลังพวกเราไปถึง พวกเราไม่อาจโค่นล้มฝูงสัตว์อสูรดังกล่าว เป็นผลให้
มี ผู้เสียชีวิตจํานวนมาก”
ฉินหยุนพิจารณามองกลุ่มคนที่ได้รับบาดเจ็บ พวกเขาล้วนสวม ใส่ชุด
เกราะของตําหนักจารึกเทวะ และถูกส่งออกไปเฝ้าระวัง เมืองที่ทํางาน
ให้แก่ตําหนักจารึกเทวะ ตอนนี้ องครักษ์ทั้งหมดที่ถูกส่งออกไป ล้วนได้รับ
บาดเจ็บหนัก หนากลับมา บาดแผลบนร่างกายเกิดขึ้นจากวัตถุมีคม
ชัดเจน ว่าต้องโดนกรงเล็บของสัตว์อสูรข่วนเข้าให้
ไม่ใช่พวกเจ้าหย่อนความระวังหรือ!? รู้ว่าฝูงสัตว์อสูร แข็งแกร่งเพียงใด
เช่นนั้นก็ควรต้องเร่งรีบกลับมาขอความ ช่วยเหลือ!” จ้าวฉวนขมวดคิ้ว
กล่าว
ผู้อาวุโสใหญ่ ท่านไม่ทราบ! ฝูงสัตว์อสูรนี้เหลี่ยมจัดนัก พวก มันถึงขั้น
ติดตั้งกับดักและกลยุทธ์นานาชนิด” ชายชรากล่าว ตอบอย่างเสียมิได้
จ้าวฉวนอึ้งไปวบ จากนั้นจึงตะโกนขึ้น
ครั้งนี้ข้าไปเอง ผู้จัดการตําหนัก ให้เรียกองครักษ์ชั้นหัวกะทิติดตามข้าไป
ด้วย”
ผู้อาวุโสใหญ่ ให้ข้าร่วมทางด้วยขอรับ!” ฉินหยุนเองก็อยาก เห็น ว่าฝูง
สัตว์อสูรเหล่านี้เหลี่ยมจัดได้เช่นไร
ตอนที่ 273 พิสูจน์
จ้าวฉวนพยักหน้าแก่ฉินหยุน “พละกําลังของเจ้าไม่เลว ร่วม ทางไปกับ
พวกเราย่อมไม่เป็นไร เมื่อถึงเวลา พวกเราจะให้เจ้า ได้ต่อสู้กับสัตว์อสูร”
ไม่นานจากนั้น องครักษ์ชั้นหัวกะทิจํานวนหนึ่งร้อยคน จึง รวมตัวกันที่หอ
หลักของตําหนักจารึกเทวะ พวกเขาเหล่านี้ล้วนสวมใส่ชุดเกราะ
ระดับกลาง อาวุธล้วนเป็น ระดับสูง ส่วนใหญ่เป็นชายวัยกลางคนที่
ขอบเขตกายวรยุทธ์ ระดับที่เก้า ทั้งสิ้นแล้ว พวกเขาแบ่งกันออกเป็นสิบ
หน่วย ฉินหยุนพิจารณาจากพลังและประสบการณ์ของสาขาตําหนัก
จารึกเทวะในภูมิภาคแถบนี้ ลําพังเพียงแค่องครักษ์ชั้นหัวกะทิ เหล่านี้ ก็
เพียงพอให้ข่มขู่ขั้วอํานาจทั้งหลายในพื้นที่ชายแดน ของเก้าแดนอ้างว้าง
ออกเดินทางได้!” จ้าวฉวนก็เพียงตามพวกเขาไป หาได้ออก นําแต่อย่าง
ใด เขาเองก็อยู่ภายใต้การบัญชาการของหัวหน้า องครักษ์เช่นกัน ฉินหยุน
และจ้าวฉวนตามหลัง พวกเขาบินลัดผ่านอากาศ มุ่ง หน้าสู่เมืองที่ห่าง
ออกไปราวหนึ่งพันลี้
ผู้อาวุโสใหญ่ ท่านเคยเห็นสัตว์อสูรใดอยู่ใกล้เมืองใดหรือไม่? จากที่ข้า
ทราบ หากพวกมันไม่มีพลังมากพอ พวกมันจะไม่เสี่ยง หรือเป็นข้าที่จํา
ผิดพลาด?” ฉินหยุนเอ่ยถาม
มันเคยเกิดขึ้นมาก่อน แต่คนของเราจัดการได้รวดเร็วพอ นี่ เป็นครั้งแรกที่
เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น!” จ้าวฉวนรู้สึกแปลกไม่น้อย เช่นกัน ดังนั้นเขาจึง
เดินทางมาด้วยตนเอง สัตว์อสูรย่อมมีพวกที่ทรงพลังสุดแกร่ง แต่สัตว์อสูร
เหล่านั้น โดยปกติไม่คิดเสนอหน้าออกมา ไม่เช่นนั้นแล้ว พวกมันจะถูก
ปิดล้อมโดยยอดฝีมือมนุษย์โจมตีเข้าใส่ ตอนนี้ สัตว์อสูรที่โจมตีเมือง
ใกล้เคียงภูเขาวิญญาณ ถือได้ว่า เป็นตัวตนที่แกร่งกล้าไม่น้อยจึงกล้าก่อ
การ
ไม่นานนัก ฉินหยุนได้ยินเสียงคํารามร้องสะท้อนในท้องฟ้า องครักษ์ชั้นหัว
กะทิที่แนวหน้าพลันลดระดับลงไป เบื้องล่างหมู่เมฆ เป็นเมืองขนาดกลาง
ที่นี่คือเมืองฉีเฟิง เมืองนี้คงอยู่อย่างอิสระ ไม่ได้ตกอยู่ภายใต้ประเทศใด ที่
แห่งนี้คือเหมืองแร่เหล็กวิญญาณหลัก และคอยป้อนแร่เหล็ก วิญญาณ
พร้อมวัสดุอีกหลายอย่างสําหรับการหลอมอุปกรณ์ แก่ตําหนักจารึกเทวะ
ผลลัพธ์ที่ได้ เมืองแห่งนี้จึงได้รับตําหนัก จารึกเทวะเข้าปกป้อง ฉินหยุน
และจ้าวฉวนสามารถพบเห็นได้ชัดเจน ว่ามีสัตว์อสูร กว่าพันตัวอยู่
ด้านล่างนั้น นอกจากนี้แล้ว ทั้งหมดยังเป็นสัตว์ อสูรที่แตกต่างกันไป ทั้งมี
พวกที่เหมือนจระเข้ หมาป่า กระทั่ง หมีป่า พวกที่คล้ายราชสีห์ก็มี รวม
แล้วมีกว่าแปดถึงเก้าสาย พันธุ์รวมอยู่เข้าด้วยกัน ตอนนี้ในเมืองถึงกับ
กลายเป็นแหล่งชุมนุมสัตว์อสูรนานาชนิด!
ไม่ใช่พวกนั้นพูดหรือว่ามีสัตว์อสูรแค่หลักร้อยตัว? เท่าที่เห็น ตอนนี้
มากกว่าพัน ทั้งส่วนใหญ่ยังเป็นสัตว์อสูรระดับเก้า!” จ้าวฉวนอุทานร้องตื่น
ตกใจ ฉินหยุนก้มมองลงไปยังฝูงสัตว์ที่บุกเข้าโจมตีเมือง ถึงตอนนี้เอง เขา
ค่อยตระหนักได้
พวกมันโจมตีอย่างมีแบบแผน! แบบแผนทั้งหมดนี้เป็นกองทัพมนุษย์ที่
เชี่ยวชาญ สัตว์อสูรเหล่านี้เล่ห์ เหลี่ยมเยอะจริงด้วย!”
องครักษ์ชั้นหัวกะทิเริ่มทะยานเข้าสู่ตัวเมือง! “ผู้ใดเปิดประตูเมือง? พวกที่
เฝ้ายามประตูเมืองถึงกับโง่งมได้ เพียงนี้ ประตูเมืองไม่บุบสลายแต่อย่าง
ใด นี่ต้องเป็นการเปิด ออกจากภายในแน่”
จ้าวฉวนสบถโกรธแค้นขณะพุ่งลงไป พร้อมกันนี้ เขาค่อยหันกลับมายังฉิน
หยุนและกล่าว “เจ้าไป ช่วยพวกที่โดนสัตว์อสูรไล่ล่า!”
ฉินหยุนพยักหน้ารับ ลงจากท้องฟ้าเหนือเมือง เขาค่อย ตระหนักได้ว่า
อาคมใหญ่คุ้มกันถูกถอนออก “มีคนทรยศ! ประตู เมืองเปิดขึ้นจากด้านใน
อาคมคุ้มกันเมืองถูกเพิกถอน นี่ต้องมีคนให้ความร่วมมือกับสัตว์อสูรแล้ว
หรือคนกลุ่มนี้คิดจัดฉาก อันใดอยู่กันแน่?”
หากไม่ใช่กรณีดังกล่าว ไม่ว่าสัตว์อสูรที่นี่จะมากมายเพียงใด พวกมันไม่มี
ทางทะลวงผ่านอาคมใหญ่คุ้มกันเมืองได้ในเวลาอัน สั้น ฉินหยุนร่อนลงที่
ตัวเมืองด้านล่าง นํากระบี่ของตนออก ใช้ เคล็ดวิชาเทวะควบคุม บังคับ
กระบี่บินและล่าสังหารสัตว์อสูร หมาป่า สัตว์อสูรที่กําลังไล่ล่ามนุษย์อยู่
ตอนนี้ คือพวกตัวเล็กอย่างหมาป่า
สัตว์อสูรตัวอื่น รับผิดชอบด้านการทําลายกําแพงเมือง และ ต่อสู้กับผู้ฝึก
ตนซาวมนุษย์ พวกมันมีการแบ่งพรรคพวกอย่างชัดเจน ราวกับมีคนบง
การ พวกมันอยู่ โดยเฉพาะรูปแบบการเข้าโจมตีของพวกสัตว์อสูร เหล่านี้
มันทําเอาผู้คนยิ่งอึ้งทึ่งมากขึ้น
สัตว์อสูรหมาป่าพวกนี้ ทั้งหมดอยู่ระดับเก้า ผู้ฝึกตนขอบเขต กายวรยุทธ์
ระดับเก้าที่อ่อนแอ ไม่มีทางเทียบพวกมันได้ ลําพัง อะไรกับผู้คนทั่วไป"
พอฉินหยุนบินออกไป จึงพบเห็นหลายคน กําลังถูกกัดกินจนตาย หลัง
สัตว์อสูรหมาป่าสังหารร่างนั้นจนสิ้นใจ มันจึงโยนร่างนั้น ลงกับพื้น พร้อม
เริ่มบุกโจมตีไปด้วยอีกระลอกหนึ่ง พวกมันหาได้กินร่างมนุษย์ไม่ ดังนั้น
ชัดเจนว่าพวกมันคิดกัก เก็บร่างเอาไว้สําหรับใช้ในภายหลัง
กระบี่ฉินหยุนคมกริบ ภายใต้การควบคุมของเคล็ดวิชาเทวะ ควบคุม
กระทั่งว่าเป็นสัตว์อสูรที่หนังหนายิ่ง พวกมันก็ยังไม่ อาจรับมือกับพลังจิต
อันแข็งแกร่งได้ เพียงไม่นาน สัตว์อสูรหมาป่ ากว่าสิบตัว จึงถูกสังหารทิ้ง
จนสิ้น ร่างกายพวกมันเป็นฉินหยุนนําเก็บกลับไป สัตว์อสูรหมาป่ ารับ
หน้าที่ออกล่าและสังหารมนุษย์ กระนั้นกลับ ถูกฉินหยุนขัดขวาง พวกมัน
ไม่อาจโจมตีมนุษย์ด้วยความ โหดเหี้ยมอีกต่อไปแล้ว
พวกมันรวมกําลังกัน คิดพุ่งเข้าบดขยี้ฉินหยุน “แน่จริงก็เข้ามา ไอ้พวกหมา
ป่าหน้าโง่!”
ฉินหยุนพบเห็นร่างสี เทาของสัตว์อสูรหมาป่ากําลังใกล้เข้ามา โดยไร้ซึ่ง
ความ หวาดกลัวอันใด เขานําเอายันต์สะกดกายระดับสูงออกมา จํานวน
หนึ่ง ขว้างปาพวกมันออกเข้าหากลุ่มหมาป่า จากนั้นจึงทะยานร่างพุ่งเข้า
เตรียมปะทะ ยันต์สะกดกายระดับสูง ถือว่าเพียงพอที่จะใช้รับมือกับสัตว์
อสูร ระดับเก้า ยันต์สะกดกายจํานวนหนึ่งถูกปล่อยออก เผยซึ่งตาข่าย
พลัง สะกดกาย ปกคลุมล้อมฝูงหมาป่ าเอาไว้โดยสมบูรณ์ หมาป่าจํานวน
หลายสิบตัวพลันพบ ว่าพวกมันไม่อาจขยับ เขยื้อน
ขณะเดียวกันนี้ กระบี่แก่นจิตของฉินหยุนก็ลอยมา เริ่ม ล้างสังหาร
เรียบร้อยแล้ว ด้วยฉินหยุนใช้ก้าวอัคคีเมฆาราวกับราชสีห์อัคคีพิโรธ เขา
พุ่ง เข้าหาฝูงสัตว์อสูรหมาป่าที่ร่างกายแข็งค้าง นําเอาค้อนราชัน ยักษ์
วิญญาณออกมา ทุบฟาดเข้าใส่หัวของพวกหมาป่า
แผละ!
แต่ละครั้งที่การโจมตีลั่นออก หัวหมาป่าจะระเบิดตาม เพียง พริบตา ด้วย
การโจมตีห้าครั้ง ก็ปลิดชีพหมาป่าไปได้ห้าตัว! ที่ สะพรึงกว่านั้นคือ เขายัง
ควบคุมกระบี่ด้วยพลังจิต สังหารสัตว์ อสูรหมาป่ าไปอีกห้าตัวในเวลา
เดียวกัน เพียงอึดใจเดียว หมาป่าทั้งสิ้นสี่สิบตัวถูกเขาสังหารจนสิ้น!
เรื่องนี้ทําเอาผู้ฝึกตนขอบเขตกายวรยุทธ์ระดับเก้าในที่นี้ ล้วน อึ้งทึ่งจนพูด
กันไม่ออก พวกเขาสัมผัสได้ถึงออร่าของฉินหยุน และทราบว่าฉินหยุนอยู่
ขอบเขตกายวรยุทธ์ระดับที่เก้าเช่นเดียวกัน กระนั้นแล้ว พละกําลังที่เขา
ครอบครองกลับชวนสะพรึง เมื่อฤทธิ์ของยันต์สลายตัว ยังมีหมาป่าราว
แปดตัวยังรอดชีวิต ทว่าชีวิตพวกมันไม่อาจยืนยาว ฉินหยุนใช้เวลาเพียง
ไม่กี่ชั่วลม หายใจ ใช้งานกระบี่และค้อนราชันยักษ์วิญญาณจบชีวิตพวก
มันลง
ฉินหยุนเก็บร่างของสัตว์อสูรใส่มิติเก็บของ มุ่งหน้าเข้าสู่ สมรภูมิรบที่ห่าง
ออกไปหลายร้อยเมตร กลุ่มคนตอนนี้กําลังโดน ล้อมและโจมตีโดยหมา
ป่าหลายสิบตัว พละกําลังของคนกลุ่มนี้ไม่นับว่าแย่ มีผู้ฝึกตนขอบเขต
กายวร ยุทธ์ระดับที่เก้าจํานวนหนึ่ง ที่เหลือล้วนเป็นระดับเจ็ดและแปด
พวกเขาสามารถตั้งรับการโจมตีของฝูงหมาป่าได้ไม่ยากเย็น จนเกินไปนัก
ชั่วขณะที่ฉินหยุนใกล้เข้ามา เขาจึงส่งกระบี่แก่นจิตออก เขาปลิดปลงหัว
ของสัตว์อสูรหมาป่าทั้งสองตัว เพียงพริบตาเดียว เขาก็สังหารพวกมันไป
ได้สองตัวแล้ว
ถัดจากนั้น ด้วยมือเปล่า เขาต่อยหมัดออกด้วยเคล็ดวิชาระเบิด ปราณ ส่ง
ร่างหมาป่าที่กําลังโจมตีหญิงสาวคนหนึ่งกระเด็นไป ไกลนับสิบเมตร กลุ่ม
คนตอนนี้ยิ่งอึ้งยามได้เห็นพละกําลังเหนือชั้นของฉินหยุน นี่เป็นเพราะ
พวกเขาล้วนเห็นว่าฉินหยุนยังเยาว์ พลังก็คงมี เทียบได้กับขอบเขตกายวร
ยุทธ์ระดับที่เก้าทั่วไป
ดวงตาเฉียบคมหลายคู่ต่างมองกระบี่ที่บินไปมา ด้วยความที่ มันเป็น
อาวุธพลังจิต มันคือสิ่งที่ทุกคนปรารถนาคิดอยากได้ไว้ ในครอบครอง!
หลายคนไม่เคยได้ยินถึงอาวุธพลังจิตมาก่อน ดังนั้นแล้วพวก เขาจึงไม่
ทราบว่ามันจําเป็นต้องใช้พลังจิตเพื่อให้ทํางาน เป็น พวกเขาหลงผิดคิดไป
เอง ว่าผู้ใดล้วนสามารถควบคุมกระบี่ ดังกล่าว เช่นนี้พวกเขาจึงเกิดความ
โลภคิดอยากครอบครองมัน ขึ้นมา ไม่ช้า ฉินหยุนจึงกําจัดสัตว์อสูรหมาป่ า
ที่เหลือกว่าสิบตัวจน ครบถ้วน
ขอบคุณนายน้อยที่ช่วยเหลือ ไม่เช่นนั้นเด็กสาวผู้นี้คงได้รับ บาดเจ็บ
สาหัสโดยพวกหมาป่าไปแล้ว! เด็กสาวผู้นี้นามหลินห ยิน ขอข้าทราบนาม
ของนายน้อยได้หรือไม่?”
เด็กสาวสวมใส่ ชุดกระโปรงสีครามที่ฉินหยุนเร่งรีบเข้ามาช่วยเหลือ เอ่ย
กล่าว คําขอบคุณออกมา
นางเป็นเด็กสาวงดงาม ผอมบาง ดวงตากลมเป็นประกาย ภายใต้คิ้วเรียว
สวย เมื่อรอยยิ้มเผยออก มันกลายเป็นรอยยิ้ม ยั่วยวนชวนให้ผู้คนลุ่มหลง
เรียกข้าว่าอาหยุนแล้วกัน!”
ฉินหยุนยิ้มบางให้เด็กสาว “ข้า มาจากตําหนักจารึกเทวะ เป็นหน้าที่ที่ต้อง
คุ้มครองเจ้า ไม่ จําเป็นต้องตอบแทนอันใด”
ด้านนอกมีสัตว์อสูรอยู่มาก พวกมันล้วนอันตราย ให้ข้าคุ้มกัน เจ้ากลับไป
แล้วกัน!” หลินหยินยิ้มและพยักหน้ารับ จากนั้นจึงมองไปที่ชายวัย
กลางคนและชายหนุ่ม
พวกเราเป็นคนของตระกูลหลินใน เมืองนี้ ทว่าเมืองตอนนี้ถูกบุกทําลาย
ตระกูลของเราแตก กระจายออก นับเป็นเกียรติที่ได้พบนายน้อยอาหยุน
ข้าสงสัย ว่าอาหยุนจะช่วยคุ้มกันพวกเรา ไปยังพื้นที่ซ่อนตัวของผู้อาวุโส
ตระกูลหลินของเราได้หรือไม่?”
ไม่มีปัญหา นําทางได้เลย!” ฉินหยุนรู้สึกว่า ในเมื่อตระกูล หลินเป็น
ตระกูลผู้ฝึกตนในเมืองนี้ ย่อมมีสัมพันธ์กับตําหนัก จารึกเทวะที่ดี ดังนั้น
เขาจึงยอมตกลง ถัดจากนั้น ฉินหยุนจึงตามคนของตระกูลหลิน ออกไป
ด้านนอก ของประตูเมือง มุ่งหน้าสู่เนินเขาที่อยู่ไกลออกไป ตระกูลหลินที่นี้
มีทั้งสิ้นสามสิบคน พละกําลังของพวกเขาเรียก ได้ว่าพอสมควร บางที่อาจ
เป็นเพราะชายวัยกลางคน
พวกเขา เหล่านั้นเมิ่งก้าวถึงขอบเขตกายวรยุทธ์ระดับที่เก้า โชคดีที่ไม่เกิด
ปัญหาใหญ่อะไรขึ้น เขาจึงสามารถออกวิ่งด้วย ความเร็วสูงได้
ไม่นานนักหลังออกจากเมือง ทั้งสองคนที่อยู่ขอบเขตกายวร ยุทธ์ระดับที่
เก้า พลันปลดปล่อยออร่ารุนแรงขณะพุ่งขึ้นนําหน้า ฉินหยุนขมวดคิ้วไล่
ตามหลัง เขาเอ่ยคําเสียงเบาขึ้น “พี่ชาย ช้าลงสักนิด ดึงออร่าของท่าน
กลับคืนด้วย นี่จะเป็นการดึง ความสนใจของสัตว์อสูร!”
เจ้าแข็งแกร่ง ยังต้องเกรงกลัวอันใด? เหตุผลที่พวกเราต้องวิ่ง ให้เร็ว ก็
เพื่อจะได้ไปพบผู้อาวุโสวรยุทธ์เต๋าของตระกูลหลินได้ เร็วขึ้น” ชายวัย
กลางคนใบหน้าอ้วนกลมกล่าวคําด้วยสีหน้าเฉยเมย
ตําหนักจารึกเทวะของเจ้าสมควรปกป้องเราตั้งแต่แรกด้วยซํ้า กระทั่งพวก
เราคิดอยากดึงดูดความสนใจของสัตว์อสูร ก็ไม่ใช่ ธุระกงการอะไรของ
เจ้า”
ชายวัยกลางคนร่างเตี้ยแค่นเสียง ตอบกลับ “ที่เจ้าควรสนใจคือการ
เคลื่อนไหวของสัตว์อสูรรอบ ด้าน เหตุใดยังต้องกังวลเรื่องพวกเราอย่างไร้
ประโยชน์?”
ฉินหยุนพอได้ยิน ความโกรธจึงปะทุสุมภายใน เขาคิดอยากไป จากเสีย
เดี๋ยวนี้ แต่เขากังวลว่าจะไม่อาจอธิบายตัวเองต่อจ้าวฉ วนได้หากเขาคิด
หันกลับทิ้งกลุ่มคนเหล่านี้
ลุงห้าและลุงหก พวกท่านจะมีมารยาทกว่านี้ไม่ได้หรือไร?” เด็กสาวเพียง
ขอบเขตกายวรยุทธ์ระดับที่เจ็ด ดังนั้นนางจึงเริ่ม ตามหลังกลุ่มคนไม่ทัน
ฉินหยุนพบท่าทีที่ดีของหลินหยิน ดังนั้นเขาจึงล่าช้าถอยลงมา วิ่งข้างกาย
นาง “นายน้อยหยุน อารมณ์ของพวกเขาเป็นเช่นนี้ โปรดให้อภัย ด้วย”
หลินหยินถอนหายใจอย่างเสียมิได้ออกมา ฉินหยุนพยักหน้ารับ ไม่ได้
กล่าวคําใดเพิ่มอีก เขาได้แต่ต้องคอย ระแวดระวังตลอด เพื่อตรวจพบสัตว์
อสูรตั้งแต่เนิ่น ๆ จะได้ หาทางรับมือได้ทัน มีหลายคนที่หลบหนีออกจาก
เมือง แต่ไม่มีใครใช้เส้นทางนี้ มีก็ แต่ฉินหยุนและตระกูลหลิน หลินหยิน
ก่อนหน้านี้บอกว่า ทิศทางนี้นําไปสู่เทือกเขา ใน เทือกเขามีโอกาสสูงที่จะ
มีสัตว์อสูรกบดานอยู่ เส้นทางนี้ถือว่า อันตรายเกินไป จนไม่มีผู้ใดคิดกล้า
ใช้ ทว่าตรงหน้าพวกเขาตอนนี้ กลับมีเงาคนปรากฏขึ้น
มีคน!” ฉินหยุนเร่งร้อนกล่าว
กลุ่มคนของตระกูลหลิน เร่งรีบเพิ่มความระมัดระวัง เตรียมรับ ศึกยาม
ต้องเผชิญหน้ากับศัตรูที่ร้ายกาจ ท่าที่ตอบสนองของ พวกเขา ทําเอาฉิน
หยุนประหลาดใจไม่น้อย สําหรับชายวัยกลางคนทั้งสองที่ด้านหน้าซึ่ง
อหังการก่อนหน้านี้ ฉินหยุนนึกว่าพวกเขาเป็นพวกคนขาดซึ่งความระวัง
เสียอีก แต่แล้ว เขาไม่คิดเลยว่าทันทีเมื่อพบเจอผู้อื่นบนเส้นทาง พวก เขา
จะมีท่าทีแปรเปลี่ยนเช่นนี้ได้
ฆ่า!” ลุงห้าตะโกนขึ้นเสียงเบา บุกทะลวงมุ่งตรงไปด้วยความ ดุดัน
ตอนที่ 274 จําแนก
ด้วยสายตาที่ดีเยี่ยม ฉินหยุนพบเห็นกลุ่มคนตรงหน้าตั้งแต่ไกล พวกเขา
ล้วนบาดเจ็บสาหัส อ่อนแรง บาดแผลเลือดไหลโชก นอกจากนี้แล้ว ยังมี
เด็กสาวอายุราวสิบสามถึงสิบสี่อยู่ด้วย ชุด สีขาวของนางเปรอะเปื้อนไป
ด้วยคราบเลือด พอฉินหยุนได้เห็นลุงห้าเกือบโจมตีออก เขาเร่งรีบเข้า
ขวาง กล่าวเสียงเย็นเยือก
ดูให้ดีก่อนลงมือ อย่าได้ฆ่าผู้บริสุทธิ์ ผู้คนตรงหน้าล้วนบาดเจ็บ เหตุใด
ต้องกังวลเรื่องพวกเขา ด้วยกัน?”
ได้ยินคําของฉินหยุน ทั้งสองคนไม่ยินดีเป็นอย่างยิ่ง
หากพวกเขาไม่อาจสัมผัสได้ถึงออร่าชวนสะพรึงของฉินหยุน พวกเขาคง
หาได้สนใจคํากล่าวนี้ไม่ กระนั้นพวกเขาก็ไม่ได้ตอบ คําอันใด ชัดเจนว่าไม่
ไว้หน้าฉินหยุนแม้สักนิด
ฉินหยุนทราบโดยทันที ว่าชายวัยกลางคนทั้งสอง ต้องมีสถานะ สูงส่งใน
ตระกูลหลิน บุคคลเช่นนี้สมควรเป็นชนชั้นสูงที่อหังการ อวดดีตั้งแต่ยัง
เยาว์จึงถูกหล่อหลอมขึ้นมาเช่นนี้ได้ กลุ่มคนตรงหน้า น่าจะใช้ช่วงเวลาที่มี
เพื่อหยุดพักอยู่ คนจํานวนหนึ่งที่แนวหน้าของพวกเขา ล้วนเป็นขอบเขต
กายวรยุทธ์ระดับที่เก้า ทว่าบาดเจ็บสาหัส ผู้อาวุโสสี่คน เด็ก สาวที่ดู
เหมือนเมิ่งหนีออกจากเมือง กลับต้องเผชิญกับศึกอัน ขึ้นขมกับสัตว์อสูร
อย่าได้กังวลไป ข้าไม่ได้มาร้าย!” พอฉินหยุนเห็นผู้อาวุโส สี หน้าพวกเขา
เผยความเป็นปฏิปักษ์ชัดเจน เขาจึงเร่งรีบกล่าว ออก
ข้ามาจากตําหนักจารึกเทวะ!” พอผู้อาวุโสเหล่านั้นได้ยินฉินหยุนกล่าวคํา
ว่ามาจากตําหนัก จารึกเทวะ พวกเขาค่อยวางใจระดับหนึ่ง เมื่อพบว่าฉิน
หยุนยัง เยาว์ทว่าแข็งแกร่งเพียงนี้ พวกเขาจึงเชื่อ เด็กหนุ่มขอบเขตกายวร
ยุทธ์ระดับที่เก้า การจะมีพลังระดับนี้ได้ สมควรต้องเป็นตําหนักจารึกเทวะ
แล้ว
พวกเราบาดเจ็บหนัก เกรงว่าพวกเราจะไปกันต่อไม่ได้แล้ว! เด็กหนุ่มที่
กล้าหาญ ข้าหวังว่าเจ้าจะช่วยดูแลเสี่ยวหงเอ๋อ นาง เป็นหลานสาวข้า
พวกเรายังเป็นกลุ่มเดียวของตระกูลที่เหลือ รอด”
ชายชราที่ถูกตัดแขนไปกล่าวออกด้วยสีหน้าโศกเศร้า ฉินหยุนมองที่หงเอ๋อ
ปาดเช็ดคราบเลือดจากใบหน้าของนาง จากนั้นจึงนําอุปกรณ์ฝั่งธาตุแสง
ออกมาสองชุดและกล่าว
ผู้ อาวุโส พวกท่านต้องประคองอาการตัวเองไว้ก่อนเพราะได้รับ
บาดเจ็บ!” พอตระกูลหลินได้เห็นอุปกรณ์ฝั่งธาตุแสงสองชุด ดวงตาพวก
เขาทอประกายวาบพร้อมเพรียงกัน พวกเขาไม่ยินดีอย่างยิ่ง นี่ ก็เพราะ
พวกเขาต่างก็บาดเจ็บ ทว่าฉินหยุนหาได้คิดนําพวกมัน ออกมาช่วยเหลือ
พวกเขา ต้องทราบว่าอุปกรณ์ฝั่งธาตุแสง สามารถช่วยรักษาบาดแผลได้
รวดเร็ว มันถือเป็นอุปกรณ์วิญญาณที่ลํ้าค่า ผู้ฝึกตนจํานวน มากมาย
ปรารถนาคิดครอบครองมัน
คนของตระกูลหลิน ย่อมรู้ชัดแจ้งถึงมูลค่าของอุปกรณ์ผังธาตุ แสง กระนั้น
เด็กหนุ่มตรงหน้าพวกเขาถึงกับมีสํารองไว้สองชุด!
ขอบคุณเจ้าแล้วเด็กหนุ่มผู้กล้าหาญ” ชายชราที่เสียแขนไป เร่งรีบกล่าว
ตอบยินดี เหตุผลว่าทําไมฉินหยุนไม่ใช้ชุดเกราะผังธาตุแสงแก่ตระกูล
หลิน ประเด็นหลักก็เพราะพวกเขาอวดดีและอหังการจนเกินไป ก่อนหน้า
นี้เขาสังหารหมาป่ าไปหลายตัว ช่วยเหลือกลุ่มคน ท่ามกลางพวกเขา มี
เพียงหลินหยินที่กล่าวขอบคุณ ผู้อื่นล้วน ยุ่งกับการแยกร่างของหมาป่าหา
ได้ตอบสนองใดต่อเขาไม่
เขาไม่เกิดความประทับใจที่ดีใดต่อตระกูลหลิน มีก็แต่หลินหยิน ที่กล่าว
ขอบคุณ หากไม่ใช่เพราะนาง เขาไม่มีทางรับคําเรื่องคุ้ม กันพวกเขา
ออกมาแน่ สําหรับผู้อาวุโสทั้งสี่คนที่ได้รับบาดเจ็บตรงหน้าเขา ท่าทีของ
พวกเขาล้วนดียิ่ง นอกจากนี้ พวกเขายังยินดีสละชีวิตตัวเองเพื่อเด็กสาว
เรื่องนี้ ทําเอาฉินหยุนประทับใจไม่น้อยเลยทีเดียว
ไม่ช้า อาการบาดเจ็บของผู้อาวุโสทั้งสี่คนดีขึ้นมาก พวกเขา ค่อยมีจิต
วิญญาณขึ้นกว่าก่อนหน้านี้อักโข “ ขอบคุณพี่ชาย!”
ท้ายที่สุด หงเอ๋อจึงสวมใส่อุปกรณ์ผังธาตุ แสงรักษาอาการบาดเจ็บของ
นาง จากนั้นจึงค่อยส่งพวกมัน กลับคืนแก่ฉินหยุน หงเอ๋อถักเปียเอาไว้
สองข้าง ด้วยใบหน้ากลมพร้อมดวงตาชุ่ม ขึ้น นางถือว่างดงามและมี
เสน่ห์ กระทั่งว่าสวมชุดขาวเปรอะ เปื้อนคราบเลือด ก็หาได้ส่งผลต่อความ
งามมีชีวิตชีวาของนาง
ยินดีแล้ว ภายหน้า ให้ฝึกฝนวิชายุทธ์ให้ดีจะได้ปกป้องคุณปู่ เหล่านี้ได้!”
ฉินหยุนยิ้มให้ มันทําเอาเขานึกถึงชี่เม่ยเหลียน
นางเองก็ใสซื่อบริสุทธิ์เช่นนี้ เสี่ยวหงเอ๋อพยักหน้ารับ เผยรอยยิ้มหวาน
ตอบกลับมา คนของตระกูลหลินล้วนสีหน้าเฉยชา ชัดเจนว่าพวกเขาไม่คิด
เผยท่าที่เป็นมิตรด้วย
นายน้อยหยุน ตระกูลหลินของพวกเราต่างบาดเจ็บไม่น้อย เช่นกัน ท่าน
พอจะให้พวกเราหยิบยืมอุปกรณ์ฝังธาตุแสงทั้ง สองชุดนั้นได้หรือไม่? พวก
เราจะใช้เหรียญผลึกของพวกเราเอง เพื่อเป็นพลังงานแก่อุปกรณ์ฝังธาตุ
แสง” หลินหยินก้าวเดินเข้ามา เอ่ยถามเสียงเบา ดวงตาเปี่ยมด้วยความ
ร้องขอ ฉินหยุนเกาศีรษะ
เรื่องนี้ อุปกรณ์ตั้งธาตุแสงของข้าไม่อาจ ใช้เหรียญผลึกหล่อเลี้ยง เป็นข้า
ต้องนําวัชระกําลังภายในใส่เข้า ไป เมื่อครู่ ข้ามอบให้ผู้อาวุโสเหล่านี้เพื่อ
ใช้งาน จึงทําให้พลัง ถูกใช้จนหมด หากต้องการใส่พลังเข้าไปเพิ่ม อย่าง
น้อยก็ต้อง รอสักสองหรือสามวัน”
หลินหยินหันมองไปยังลุงห้าของนางและกัดริมฝีปาก นางกล่าว กระซิบ
พวกเราสามารถรอที่นี่สักหลายวันได้ เพื่อให้ท่านได้ หล่อเลี้ยงพลังสู่
อุปกรณ์ฝั่งธาตุแสง! ยิ่งไปกว่านั้น ผู้อาวุโส เหล่านั้นก็ต้องใช้เวลาพักฟื้น
สักหลายวันด้วย”
เช่นนั้นก็ตกลง!” ฉินหยุนพยักหน้ารับ นําเอาอุปกรณ์ผังธาตุ แสงของตน
ออกมา ใส่พลังเข้าไปหล่อเลี้ยง
เขาไม่คิดให้ตระกูลหลินหยิบยืม ชัดเจนว่าพวกเราปรารถนา อุปกรณ์ตั้ง
ธาตุแสง กระนั้นไม่กล้าออกปากเสนอหน้าถามด้วย ตัวเอง กลับส่งหลินห
ยินให้เข้ามาหยิบยืม ที่ทําให้ฉินหยุนรําคาญใจที่สุดก็คือ ลุงห้าและลุงหก
เหล่านี้ ชัดเจนว่าไม่ใช่คนดี ท่าทีของพวกเขาสุดกู่ ทั้งยังหยิ่งผยองอวด ดี
ไม่ปิดบัง
สถานที่ซึ่งพวกเขาอยู่ตอนนี้เป็นทุ่งหญ้าสีเขียวเข้ม มีธารนํ้า ขนาดเล็กอยู่
ไม่ไกลออกไป สภาพแวดล้อมถือว่าดีไม่น้อย และก็เพราะเป็นทุ่งหญ้า
หากสัตว์อสูรปรากฏตัวออกมา พวก เขาจะพบเห็นได้อย่างรวดเร็ว ตระกูล
หลินเริ่มตั้งกระโจมขึ้น กระโจมของพวกเขาอยู่ห่างจาก ฉินหยุนอยู่หลาย
สิบเมตร ทางด้านฉินหยุน เขาอยู่บริเวณที่เสี่ยวหงเอ๋อและคณะอยู่ ชาย
ชราผู้นี้แซ่ติง มีพี่น้องทั้งสิ้นห้าคน
ปู่ ของเสี่ยวหงเอ๋อ เป็นพี่ชายคนโต นามคือติงอี้ เขาเป็นผู้นํา ของตระกูล
ขนาดเล็ก เพราะอยู่ใกล้ประตูเมือง เมื่อพวกสัตว์ อสูรบุกเข้ามา ตระกูลติง
จึงเป็นฝ่ายแรกที่ได้รับความเสียหาย
ผู้อาวุโสติง อาคมใหญ่คุ้มกันเมืองถูกติดตั้งโดยตําหนักจารึก เทวะของ
เรา มันย่อมไม่แตกพังโดยง่ายเพราะพวกสัตว์อสูร ต้องมีคนเจตนาปิดการ
ทํางานของอาคมใหญ่และเปิดประตู ทํา ให้ฝูงสัตว์อสูรเข้ามาในเมืองได้”
ฉินหยุนเอ่ยถาม
ติงอี้และคณะพยักหน้ารับ พวกเขาทราบว่าประตูเมืองถูกเปิด โดยคนใน
เป็นเช่นนั้นจริง แต่พวกเราไม่ทราบว่าผู้ใดที่เปิดประตูเมือง ตอนนั้นเป็น
เวลากลางคืน เพราะอาคมใหญ่คุ้มกันทํางานอยู่ และคนของตําหนักจารึก
เทวะก็บอกพวกเราว่ากองกําลังเสริม กําลังจะมาถึง พวกเราจึงวางใจ
หย่อนความระวังในช่วงค่ําคืน ลง”
ติงอี้ถอนหายใจก่อนจะเริ่มมีโทสะ “หากไม่ใช่เพราะมีคน เปิดประตูเมือง
ตระกูลติงของพวกเราคงไม่มีผู้เสียชีวิตมากมาย เพียงนี้”
พี่รองตระกูลติงถอนหายใจ “รุ่นเยาว์ในตระกูลติงของเรา มีแต่ ติงหงเอ๋อที่
เหลือรอดมาได้!”
เป็นเขาใส่ใจเสี่ยวหงเอ๋อด้วยความรัก ติงหงเอ๋อถือว่าใจกล้าแกร่ง นาง
อดทนต่อความเจ็บปวดที่ต้อง สูญเสียครอบครัว นางรู้สึกเศร้าทว่าเงียบ
งัน หาได้ร้องออก กลางดึก ติงอี้และคณะช่วยกันตั้งกระโจมขึ้น ให้ฉินหยุน
ได้เข้า ไปพักผ่อนร่วมกับพวกเขา พอฉินหยุนเข้ามาแล้ว เขาจึงมอบ
อุปกรณ์ตั้งธาตุแสงทั้งสอง ชุดแก่พวกเขาและกล่าว
พวกท่าน ใช้สิ่งนี้ต่อไปจนกว่าจะ ฟื้นฟูเต็มที่” พอได้ยินดังนี้ ติงอี้อึ้งไปวูบ
เขากระซิบเอ่ยถาม “แล้วพวกเขา เล่า? พวกเขาก็บาดเจ็บไม่น้อยเช่นกัน!”
อย่าได้ห่วงเรื่องพวกเขา พวกนั้นไม่ใช่คนดีเท่าใดนัก เป็นข้า เสียดายยิ่งที่
ร่วมทางกับพวกเขา ท่านทราบหรือไม่ว่าชั่วขณะที่ พวกนั้นพบเจอพวก
ท่าน พวกนั้นคิดสังหารพวกท่านทั้งหมด?” ฉินหยุนตอบคํา
พอติงอี้และคณะได้ยินดังนี้ พวกเขาล้วนมองหน้ากันเองด้วย ใบหน้า
เปี่ยมด้วยความตกตะลึง “ตระกูลหลินเป็นตระกูลที่มีอิทธิพลในเมือง ด้วย
เพราะขาด การติดต่อ พวกเราจึงไม่ทราบสถานการณ์แน่ชัดของกลุ่มศิษย์
ตระกูลหลิน ทว่าพวกเราทราบว่าตระกูลหลิน มีความขัดแย้ง กับตระกูล
อื่นอยู่”
พวกเขาไม่ปฏิเสธความปรารถนาดีของฉินหยุน รับเอาอุปกรณ์ผังธาตุแสง
ไว้เพื่อรักษาอาการบาดเจ็บ ฉินหยุนคิดเติมพลังให้แก่อุปกรณ์วิญญาณผัง
ธาตุแสง ใช้เวลา เพียงไม่กี่ชั่วโมงเท่านั้น เขาไม่จําเป็นต้องใช้สองหรือสาม
วัน
อย่างที่กล่าวอ้างต่อตระกูลหลินแต่อย่างใด ไม่นานนัก อาการบาดเจ็บ
ของผู้อาวุธสตระกูลตึงเริ่มดีขึ้นจน เกือบหายดี ทว่า เพราะติงอี้สูญเสีย
แขนซ้าย จึงเป็นเรื่องยากที่ เขาจะฟื้นฟูได้เต็มที่ เรื่องนี้ทําเอาติงหงเอ๋อ
เศร้าไม่ใช่น้อย
กลางดึก ฉินหยุนยังคงส่งถ่ายพลังแก่อุปกรณ์อย่างต่อเนื่อง ผู้ อาวุโสทั้งสี่
คนของตระกูลติงนั่งขัดสมาธิบนผ้าห่ม หลับตาลง แน่น
ติงหงเอ๋อตอนนี้ นอนอยู่บนผืนหนังสัตว์อ่อนนุ่ม นางผล็อย หลับไปเพราะ
ความเหนื่อยล้าและความโศกที่โถมเข้ามาอย่าง ไม่หยุดยั้ง หลังรุ่งสาง ฉิน
หยุนจึงเริ่มขัดเกลายันต์สะกดกายระดับสูง จํานวนหนึ่งภายในกระโจม
อย่างต่อเนื่อง ทางด้านผู้อาวุโสตระกูลติงทั้งสี่คนและติงหงเอ๋อ พวกเขาไป
กัน อยู่ด้านนอกเพื่อไม่ให้เป็นการรบกวนฉินหยุน ติงหงเอ๋อออกไปเล่นใน
ทุ่งหญ้า เดินไล่ตามนกไปมา พอได้ละ เล่นระบายออก นางค่อยคลาย
ความเศร้าหมองไปได้
อย่างกะทันหัน ชายชราในชุดสีแดงพลันเข้ามาจากระยะไกล เรื่องนี้ทําเอา
หลินหยินและคนของตระกูลหลินที่เหลือต่างยินดี ผู้นี้คือผู้อาวุโสวรยุทธ์
เต๋าของตระกูลหลิน ทันทีเมื่อผู้อาวุโสมาถึง เขาจึงเข้ากระโจมใหญ่ของ
ตระกูลหลิน โดยทันที ติงอี้พอเห็นดังนี้ จึงเร่งรีบบอกต่อฉินหยุนโดยทันที
ฉินหยุนเมื่อได้ยินดังนี้ เขาลอบยินดี ด้วยสถานการณ์ตอนนี้ เขาจะได้ไม่
ต้องอยู่คุ้มกันตระกูลหลินอีกต่อไป
ทางด้านคนของตระกูลหลิน พวกเขาล้วนรอคอยเพื่อใช้งาน อุปกรณ์ผัง
ธาตุแสงจากเขา ดังนั้นจึงปักหลักรอที่นี่ ฉินหยุนอยู่ภายในกระโจม ขัด
เกลายันต์จํานวนหนึ่ง ไม่ทราบ ว่าภายนอกเกิดเรื่องอันใดขึ้น ที่ทุ่งหญ้า
ด้านนอก หลินหยินพลันเดินมาหาติงหงเอ๋อ หลินหยินเป็นเด็กน่ารัก นาง
พูดคุยด้วยดีเสมอ ไม่ช้านางจึงเริ่ม สนิทกับติงหงเอ๋อขึ้นมาบ้าง จึงพากัน
ไปละเล่นตรงนั้นที ตรงนี้
ติงอี้และผู้อาวุโสที่เหลือต่างคิดเห็นกันว่า ทิ้งหงเอ๋อสมควรต้อง มีผู้อื่นรุ่น
เดียวกันให้พูดคุยด้วย พอได้เห็นว่าไปด้วยดีกับหลินห ยิน พวกเขาจึงไม่
คิดกล่าวอันใด
ฟ้าเริ่มหม่นแสง ฉินหยุนพลันได้ยินเสียงร้องเบาดังขึ้น เขา ผู้ ซึ่งอยู่
ระหว่างการขัดเกลายันต์ พลันเร่งร้อนหยุดงานในมือ ทะยานออกไปนอก
กระโจมเพื่อดูว่าเกิดอะไรขึ้น
เป็นเสียงของเสี่ยวหงเอ๋อ นางอยู่ที่ใด?” ฉินหยุนมองหาติงอี้ที่ อยู่
ภายนอกกระโจม เร่งร้อนเข้าไปเอ่ยถาม
นางไปเล่นกับหลินหยินที่ธารนํ้า!” พอติงอี้เห็นสีหน้าแตกตื่น ของฉินหยุน
เขาพลันเกิดความกังวลขึ้นมา ฉินหยุนมั่นใจว่าได้ยินไม่ผิดพลาด พลังจิต
ของเขาแข็งแกร่ง ทําให้มีประสาทการรับฟังเหนือกว่าผู้คนทั่วไป ทําให้แม้
เสียง อ่อนเบาก็สามารถได้ยิน พอทราบว่าติงหงเอ๋อและหลินหยินอยู่
ด้วยกัน เขาจึงเร่งรีบมุ่ง หน้าไปยังกระโจมของตระกูลหลินโดยทันที ติง
และผู้อาวุโสที่เหลือตามติดอย่างเร่งร้อน ฉินหยุนบุกเข้ากระโจมด้วย
ความเร็วสูง เพราะเขาสัมผัสได้ถึง ออร่าของติงหงเอ๋อและหลินหยิน!
ทันทีเมื่อเข้ามาในกระโจม เขาจึงได้เห็นติงหงเอ๋อถูกลากไป ซ้ายทีขวาที่
โดยลุงห้าและลุงหก เสื้อผ้าฉีกกระชากออก คน ของตระกูลหลินที่เหลือ
ต่างดื่มไวน์มัวเมาหัวเราะกันดังไม่หยุด
ติงหงเอ๋อตอนนี้หวาดกลัวรุนแรง นางได้แต่ร้องไห้ เพราะเป็น เด็กสาว
อ่อนแอ นางจึงไม่อาจหลุดพ้นจากเงื้อมมือของปีศาจ เฒ่าขอบเขตกายวร
ยุทธ์ระดับที่เก้าทั้งสองคน หลินหยินถือแก้วไวน์ด้วยสีหน้าแดงกํ่า พอนาง
เห็นฉินหยุนบุก เข้ามา สีหน้าพลันแปรเปลี่ยน นางเร่งรีบเดินเข้าหาฉิน
หยุนคิด กล่าวอธิบาย
นายน้อยหยุน พวกเราเพียงเล่นสนุกกับหงเอ๋อ เท่านั้นเอง ทุกคนต่าง
ขวัญหนีเพราะฝูงสัตว์อสูรตลอดช่วง หลายวัน พอได้ดื่มไปบ้างจึงเกิดนึก
สนุก”
พอนางได้เห็นสีหน้าดํามีดของฉินหยุนอย่างน่าสะพรึง นางอด ไม่ได้ที่จะ
เร่งร้องอลูก
นายน้อยหยุน ทั้งหมดเป็นความผิดข้า โปรดอภัยแก่ข้าที่ไม่ดูแลหงเอ๋อให้
ดี เรื่องนี้ เป็นลุงห้าและลุง หกที่บังคับให้ข้าทํา” ติงอี้และคณะต่างโกรธ
แค้น ดวงตาพวกเขาแดงกํ่า เร่งรีบ ทะยานกายออกเข้าไปคุ้มกันหงเอ๋อที่
ร้องไห้
ตอนที่ 275 ลงทัณฑ์ความชั่วร้าย
ฉินหยุนพอเข้ามา เขากํายันต์กระดูกเอาไว้แน่น เพราะทราบว่า ที่นี่มีผู้
อาวุโสขอบเขตวรยุทธ์เต่ํา เพราะเหตุนี้จึงทําให้ตระกูล หลินยิ่งมายิ่ง
อหังการ “ก็แค่การเล่นสนุกกับเด็กสาวหรือไม่ใช่? เรื่องใหญ่อันใดกัน เป็น
นางโชคดีด้วยซํ้าที่ข้าชอบพอนาง”
พอลุงห้าได้เห็นฉัน หยุนและติงอี้มีโทสะ เขาจึงแค่นเสียงตอบกลับมา
คําพูดเหล่านี้ยิ่งทําฉินหยุนโกรธแค้นมากขึ้น เขาเอ่ยคําเสียง แน่วแน่
ลุงติง นําเสี่ยวหงเอ๋อออกมา!” ติงอี้และคณะ โดยทันที่เข้าไปพาตัวติง
หงเอ๋อออกจากกระโจม พอพวกเขาออกไปแล้ว ฉินหยุนจึงออกจาก
กระโจม เช่นเดียวกัน
แต่พอฉินหยุนกําลังจะก้าวเดินออก ตระกูลหลินพลันตามติด ใกล้ชิด
โดยเฉพาะหลินหยิน นางตามติดด้านหลังฉินหยุน กล่าวคําขอ อภัยครั้ง
แล้วครั้งเล่าให้ยกโทษให้ ทางด้านคนอื่นที่เหลือของตระกูลหลิน ใบหน้า
พวกเขาล้วน เหยียดหยัน โดยเฉพาะกับผู้อาวุโสชุดสีแดงขอบเขตวรยุทธ์
เต๋า
พอเห็นฉินหยุน ดวงตานั้นเปี่ยมด้วยความละโมบ “เด็กสาวผู้นี้พื้นเพไม่
ธรรมดา เพียงแต่งงานกับข้าจะยิ่ง ส่งเสริม” ลุงห้ายิ้มชั่วช้าก้าวเดิน
ออกมาพูดกล่าว ผู้อาวุโสชุดแดง เป็นผู้อาวุโสของตระกูลหลิน เขายืนหยัด
ด้านหน้าตระกูลหลิน ใบหน้าเปี่ยมด้วยรอยยิ้ม
พวกเจ้าคิดทําอะไร!” พวกเขาล้วนเห็นชัดกับตา เพราะ ตระกูลหลินมีผู้
อาวุโสขอบเขตวรยุทธ์เต๋า พวกเขาจึงกล้า อหังการถึงเพียงนี้
อะไรงั้นหรือ? สําเร็จกับหลานสาวเจ้าสักยกสองยกยังไงเล่า! ฮ่าฮ่าฮ่า”
ลุงห้ายิ้มชั่วช้า สายตาจับจ้องที่ฉินหยุน “เหตุใดเจ้า ต้องโกรธ? กระนั้น
แล้วเจ้าทําอะไรได้? แม้เจ้ามาจากตําหนัก จารึกเทวะ ก็แค่ขอบเขตกายวร
ยุทธ์ระดับที่เก้า! ข้าสามารถ จัดการกับเด็กสาวผู้นั้นก่อน จากนั้นค่อยมา
สอนบทเรียนแก่ เจ้า!”
ฉินหยุนมีกระบี่แก่นจิต ทั้งยังมีอุปกรณ์ฝั่งธาตุแสงอีกสองชุด พวกมันล้วน
เป็นวัตถุมูลค่าสูงลํ้า เมื่อผู้อาวุโสขอบเขตวรยุทธ์ เต๋าได้ทราบว่าฉินหยุ
นครอบครองสิ่งเหล่านี้ เขาจึงคิดตัดสินใจ ปลิดชีพฉินหยุนและพวกติงอี้
หากกล้าก้าวเข้ามาอีกเพียงก้าวเดียว อย่าหาว่าข้าไว้ มารยาท!” ฉินหยุ
นมองเย็นเยือกไปยังลุงห้าและกล่าวเสียงเย็น
เจ้าเห็นสถานการณ์ได้ไม่ชัดเจนพอหรือ? ต่อให้เจ้ามีขอบเขต กายวรยุทธ์
ระดับที่เก้าสักสิบคน ก็หาได้ใช่คู่ต่อสู้ของพวกเรา ไม่! ต้องเป็นเจ้าที่คุกเข่า
ต่อพวกเรา ร้องขอความเมตตาเสีย” พร้อมรอยยิ้มชั่วช้า ลุงห้าเดินเข้าหา
ติงอี้ ใบหน้าเปี่ยมด้วย ราคะ ยิ่งทําเอาถึงหงเอ๋อหวาดกลัวถึงขนาดเผย
ออกทางสีหน้า
ฉับพลัน ฉินหยุนนําเอากระบี่แก่นจิตออกมา ประกายคมดาบ แวววาวเย็น
เยือก จิตสังหารนี้ทําเอาคนของตระกูลหลินต้องสะ พริ้ง ทางด้านลุงห้า
ยังคงเดินเข้าหาติงหงเอ๋อด้วยรอยยิ้มชั่วช้าบน ใบหน้า หลินหยินเร่งรีบเข้า
มาดึงแขนฉินหยุนกล่าวกระซิบ
นายน้อย หยุน อย่าได้กระทําการบ่มบ่าม สถานการณ์ตอนนี้ท่าน
เสียเปรียบนัก ท่านสมควรให้ความร่วมมือ!” ผู้อาวุโสในชุดสีแดงหัวเราะ
ออกเสียงดัง
น้องห้า ให้เด็กสาวผู้ นี้ช่วยเหลือตระกูลหลินผลิตเด็กออกมาสักจํานวน
หนึ่ง จะได้ เป็นการบํารุงหล่อเลี้ยงตระกูลหลินเสียบ้าง ฮ่าฮ่า ด้วยข้าอยู่
ที่นี่ ข้ารับประกันว่าไม่มีใครจับต้องได้แม้ชายเสื้อเจ้า!”
หลินหยินคว้าแขนของฉินหยุนเอาไว้แน่น เป็นนางกังวลว่าเขา จะโจมตี
ออกไป! ทางด้านฉินหยุน เขามีโทสะท่วมท้น ใบหน้าเปี่ยมด้วยจิต สังหาร
ขณะกล่าวเสียงลุ่มลึก “เป็นข้าตามืดบอดที่ช่วยเหลือ พวกสารเลวเช่นเจ้า!
กลุ่มคนสารเลวถึงกับตอบแทนความหวัง ดีเช่นนี้”
เจ้าคือคนที่ช่วยเหลือพวกเรา แต่แล้วมีสิทธิ์อะไรมาบอกให้ พวกเราทํา
อะไรตามใจ? หากเจ้าอยากไปให้พ้นทาง จงส่ง กระบี่เล่มนั้นพร้อม
อุปกรณ์ฝั่งธาตุแสงออกมาเสีย ฮ่าฮ่าฮ่า!” ลุงหกหัวเราะออกอย่างหาได้
ยี่หระไม่
พ้นทางบิดาเจ้า!” ฉินหยุนตะโกนกลับเสียงเย็นเยือกด้วย ความโกรธแค้น
ตามมาพร้อมจิตสังหารท่วมท้นแผ่กระจายทุก ทิศทาง กระบี่ในมือเขา
พลันหลุดลอยออก พุ่งเข้าหาลุงห้าพร้อมลําแสง เย็นเยือกดุจนํ้าแข็ง เพียง
เสียงตวัดดาบดังขึ้น ลําแสงกระบี่เย็นเยือกพาดผ่าน หัว ของลุงห้ากลิ้งกับ
พื้น นํ้าพุโลหิตพุ่งสาดกระเซ็นเต็มอากาศ ลุงห้าที่ชั่วช้าของตระกูลหลิน
ถูกฉินหยุนลงมือสังหารแล้ว! คนของตระกูลหลินล้วนกายแข็งที
ลุงห้าของพวกเขา เป็นผู้ฝึกตนขอบเขตกายวรยุทธ์ระดับที่เก้า กระทั่งว่า
ร่างกายได้รับบาดเจ็บ ก็ไม่ใช่อะไรที่ผู้อื่นจะสังหารได้ ในทันทีเช่นนี้
ละ-ลุงห้า...” ดวงตาหลินหยินเปี่ยมด้วยความตกตะลึง นาง จับจ้องหัว
ของลุงห้าที่แน่นิ่งกับพื้น ผู้อาวุโสชุดแดงตระหนก เขาไม่เคยคิดว่ากระบี่
ฉินหยุนสามารถ รวดเร็วเพียงนี้ นอกจากนี้ยังบินออกไปได้โดยไม่มี
สัญญาณ เตือนใดจนกระทั่งตัดหัวลุงห้าสําเร็จ
หากเจ้าสังหารผู้คนตระกูลหลินของข้า ข้าจะทําให้เจ้ามีชะตา เลวร้ายยิ่ง
กว่าความตาย!” ผู้อาวุโสในชุดแดงโกรธแค้นพร้อม พุ่งเข้าปะทะฉินหยุน
คนอื่นของตระกูลหลินตอนนี้ต่างก็พุ่งเข้า ปะทะกับติงอี้และคณะ
เช่นเดียวกัน ฉินหยุนหลบด้านข้าง ขว้างปายันต์สะกดกายชั้นเลิศออก แช่
แข็งร่างของผู้อาวุโสชุดแดงที่คิดพุ่งเข้ามา!
ชั่วขณะที่ชายชราชุดแดงถูกหยุดไว้โดยยันต์สะกดกาย เขา แตกตื่นล้นพ้น
ทราบว่านี่เป็นยันต์ที่ทรงอํานาจแข็งแกร่ง
ฉินหยุนควบคุมกระบี่ในมือสับฟันจนเกิดเสียงโหยหวนของสาย ลม ตัด
เอามือและเท้าของชายชราชุดแดง จากนั้น จึงนําก้อน ราชันยักษ์
วิญญาณออกมาในมือ ปลดปล่อยวิชามังกรหลอม หกกระบวน!
ค้อนที่ฟาดทุบลงมา ราวอสนีบาตจากท้องฟ้า มาพร้อมพายุลม รุนแรง
และเสียงดังสนั่น เป็นผลให้พื้นแผ่นดินสั่นสะเทือนไหว หวั่น พลังอํานาจ
ระดับนี้ ทําเอาผู้คนในพื้นที่ล้วนตกตะลึง! เด็กหนุ่มขอบเขตกายวรยุทธ์
ระดับที่เก้า ถึงกับครอบครองพลัง อํานาจระดับนี้ มันเกินกว่าทุกคนที่นี้จะ
จินตนาการถึงได้!
อย่าได้สังหารข้า! ข้ามไข่ผลึกแก้วสัตว์อสูร ข้ามอบให้แก่เจ้า ได้!” ชาย
ชราชุดแดงอย่างไรแล้วก็เป็นขอบเขตวรยุทธ์เต๋า เขา ไม่ตายแม้โดนโรมรัน
โจมตีบ้าคลั่งโดยฉินหยุน กระนั้น อาการ บาดเจ็บสาหัสยิ่ง แขนขาทั้งสี่ถูก
ตัดออก แก่นภายในเกิดรอย ร้าว ตันเถียนแตกกระจาย
นํามันออกมา แล้วข้าจะไว้ชีวิตตํ่าช้าของเจ้า!” ฉินหยุน ตะโกนบอกเสียง
เย็นเยือก
ติงอี้และคณะเร่งรีบเข้ามาอยู่ด้านหลังฉินหยุน เมื่อตระกูลหลินได้เห็นผู้
อาวุโสตนเองมีสภาพเช่นนี้ พวกเขาไม่ อาจหาญกล้าเข้าใกล้ฉินหยุน
ความหวาดกลัวเผยชัดที่ใบหน้า ชายชราชุดแดงคร่ําครวญ นําเอาไข่ผลึก
แก้วสัตว์อสูรสองฟอง ออกมาจากอุปกรณ์วิญญาณมิติเก็บของ ฉินหยุน
รับไข่ผลึกแก้วสัตว์อสูรไว้ เตะร่างชายชราชุดแดง กลับคืนกลุ่มคนตระกูล
หลิน
จงรีบสังหารมันแก่ข้า! ด้วยพละกําลังของพวกเจ้า ร่วมมือกัน ย่อม
จัดการมันลงได้!” หลังชายชราชุดแดงได้ลุงหกรับตัวไว้ เขาตะโกนออก
อย่างกราดเกรี้ยว
ผู้ใดสังหารมันได้ ข้าจะมอบ อาวุธวิญญาณ กระทั่งให้เป็นผู้นําตระกูล
หลิน!” คนของตระกูลหลินกลายเป็นยินดีขึ้นมาเพราะคําพูดของชายชรา
ชุดแดง พวกเขาไม่ลังเลพุ่งเข้าปะทะฉินหยุนและคณะ
รับมือ!” ติงอี้ที่สะกดข่มความโกรธไว้นาน ตอนนี้เขาได้เห็น แล้วว่าผู้ฝึก
ตนขอบเขตวรยุทธ์เต๋าไม่อาจเข้าร่วมการต่อสู้ได้อีก เช่นนี้เขาจึงไม่ลังเล
คิดต่อสู้
พวกเขาล้วนเป็นผู้ฝึกตนเฒ่าชราที่ขอบเขตกายวรยุทธ์ระดับที่ เก้า ดังนั้น
พละกําลังจึงย่อมแข็งแกร่งกว่าผู้ฝึกตนวัยกลางคน ระดับหนึ่ง
ทางด้านฉินหยุน เขาคิดควบคุมกระบี่เข้าโจมตีของคนตระกูล หลินจาก
ระยะไกล แต่แล้วขณะเขาคิดเคลื่อนไหว เสียงหนึ่งพลันดัง
กรี้ด!” เป็น เสียงของติงหงเอ๋อ! ฉินหยุนหันควับกลับมองทางติงหงเอ๋อที่
อยู่ด้านหลัง เป็นนาง โดนหลินหยินจับตัวเอาไว้เC% มีดในมือของหลินห
ยิน พาดอยู่ที่ลําคอของติงหงเอื้อพร้อม ตะโกนร้องบอก
อาหยุน รีบส่งมอบไข่ผลึกแก้วสัตว์อสูรที่เมิ่ง ได้รับออกมา ทั้งกระบี่นั่น
อุปกรณ์วิญญาณมิติเก็บของ รวมถึง อุปกรณ์ตั้งธาตุแสงด้วย!” ฉินหยุน
กัดฟันแน่น แม้เขาตั้งระวังหลินหยินเอาไว้แล้ว เขาไม่ คิดว่านางจะกระทํา
เพียงนี้ การกระทําตอนนี้เป็นสิ่งที่เขาไม่ คาดคิดมาก่อน
หลินหยิน เป็นข้ามองเจ้าผิดไป! ข้าเห็นอยู่ว่าเจ้าไม่ใช่คนดี กระนั้นก็ไม่
คิดว่าจะต่ําช้าเลวทรามได้เพียงนี้!” ฉินหยุนตะคอก กลับ
ติงอี้และพลพรรค ผู้เมิ่งเข้าศึกโจมตีออก ต่างเกิดความลําบาก ใจ พวกเขา
เร่งรีบกลับสู่ข้างกายฉินหยุน คนของตระกูลหลินเร่งเข้ามา ปิดล้อมฉิน
หยุนและผู้อาวุโส ตระกูลติง สายตาพวกเขาตอนนี้เปรียบดั่งผู้มีชัย
เด็กน้อยทําได้ดี! ให้เจ้าหนูนี่ส่งทุกอย่างที่มันมีออกมา!” แม้ ชายชราชุด
แดงบาดเจ็บสาหัส กระนั้นชั่วขณะนี้ก็ยังมีแรงเผย ความตื่นเต้นยินดี
ออกมา
อาหยุน หากเจ้าไม่รีบและนําของเหล่านั้นออกมา ข้าจะ เปลื้องผ้าเด็ก
สาวนี่!” ใบหน้าของหลินหยินเปี่ยมด้วยความโฉด
พี่ชาย อย่าได้ห่วงข้า รีบพาพวกคุณปู่หนีไป!” ติงหงเอ๋อซื้อ รั้นตะโกนออก
ไป!”
หุบปาก!” ลุงหกโกรธแค้น เดินเข้ามาตบที่ใบหน้าของติง หงเอ๋อไปฉาด
หนึ่ง แม้ตึงหงเอ๋อโดนตบที่ใบหน้า นางหาได้ร้องออกแต่อย่างใด เป็นนาง
มองฉินหยุนด้วยสายตาเด็ดเดี่ยว คาดหวังให้พวกเขา หลบหนีไปโดยเร็ว
ฉินหยุนโกรธแค้นจนหัวใจแทบหลั่งเลือดหยดออก ฟันกัดแน่น เขาโยน
กระบี่ให้พวกมัน หลินหยินได้เห็นกระบี่ที่เท้า จึงตะโกนขึ้นยินดีกล่าวคํา
ลุงหก เก็บมันขึ้นมา ให้ข้าได้เชยชม!”
ลุงหกเผยท่าทียินดี เก็บเอากระบี่งดงามขึ้นมาและส่งให้แก่ หลินหยิน ทุก
คนต่างทราบ ว่ากระบี่เล่มนี้แข็งแกร่งเพียงใด มันสามารถ บินออกและ
สังหารสัตว์อสูรระดับเก้าได้ ทุกคนของตระกูลหลินต่างคิด ตราบเท่าที่มี
กระบี่เล่มนี้ พวก เขาย่อมสามารถสังหารสัตว์อสูรระดับที่เก้าได้โดยง่าย!
หลินหยินคว้าจับด้ามกระบี่ แต่เมื่อนางรู้สึกถึงพลังจิตทรงพลัง แทรกเข้าสู่
ร่าง มันไหลขึ้นสู่สมองของนางโดยทันที เป็นผลให้ ทัศนวิสัยของนางมืด
มัว ทั้งร่างกลายเป็นไร้เรี่ยวแรง ติงหงเอ๋อเร่งรีบสลัดหลุดพ้นจากหลินหยิน
กลับหาบริเวณที่ พวกฉินหยุนยืนอยู่! ลุงหกตอบสนองรวดเร็ว โดยทันทีมือ
เอื้อมออกคว้าเข้าที่ติง หงเอ๋อ แต่แล้วอย่างกะทันหัน กระบี่แก่นจิตพลัน
เคลื่อนไหว ฉินหยุนสะบัดสับตัดหัวของลุงหก! “อ๊าก!”
ลุงหกกรีดร้องออกอย่างเจ็บปวด! ขณะกรีดร้อง หัวนั้นหลุดออกเพราะ
กระบี่เรียบร้อยแล้ว! ติงหงเอ๋อ ท้ายที่สุดจึงวิ่งกลับมาถึงอ้อมแขนติงอี้จน
ได้
ให้ข้าจัดการเอง!” ขณะฉินหยุนพูดกล่าว เขากวัดแกว่งกระบี่ ออก พร้อม
พุ่งเข้าใส่กลุ่มคนตรงหน้า!
พอคนของตระกูลหลินได้เห็นกระบี่บินมาทางพวกเขา ด้วย ความ
สะพรึงกลัว พวกเขาตัดสินใจกระจายตัวกันออกทั่วทิศ ทว่า ไม่ว่าพวกเขา
รวดเร็วเพียงใด ก็ไม่อาจเร็วกว่ากระบี่บินได้ เสียงกรีดร้องเจ็บปวดดังล้น
พ้น คนของตระกูลหลินโรยรากันไป คนแล้วคนเล่า พวกเขาล้วนมี
บาดแผลฉกรรจ์ทั่วตัวเพราะ กระบี่แก่นจิต หลินหยินเป็นเพียงผู้ฝึกตน
ขอบเขตกายวรยุทธ์ระดับที่เจ็ด นอกจากนี้นางยังหย่อนความระวังต่อการ
โจมตีทางจิตของฉิน หยุน เป็นผลให้สิ้นสติไป
พอนางตื่นขึ้น ได้เห็นร่างโชกเลือดของคนตระกูลหลินกองเต็ม ไปหมด
นางกรีดร้องออกด้วยความหวาดกลัว
นายน้อยหยุน โปรดอย่าได้สังหารข้า อย่าได้สังหารข้า! ข้า เพียงทําตาม
คําสั่ง ท่านสามารถทําอะไรกับข้าก็ได้ โปรดอย่าได้ สังหารข้า อย่าได้
สังหาร” ใบหน้าของหลินหยินเปี่ยมนํ้าตา โอดครวญขอความเมตตา
หืม? สังหารเจ้า? ข้าไม่คิดให้กระบี่ข้าเปรอะเปื้อนสวะเช่น เจ้า!” พอฉิน
หยุนนึกถึงเรื่องที่หลินหยิน ล่อลวงติงหงเอ๋อด้วย การละเล่นด้วย พอนึกถึง
สิ่งที่หลินหยินข่มขู่เขาด้วยติงหงเอ๋อ ก่อนหน้านี้ ความโกรธพลันสุมในอก
เขารุนแรง เมื่อนางพบฉินหยุนมีโทสะคิดระบายออก หลินหยินเร่งรีบ
ตะโกนร้อง
ท่านมาจากตําหนักจารึกเทวะ พวกเราอยู่ภายใต้ การคุ้มครองของ
ตําหนักจารึกเทวะ ท่านไม่อาจสังหารพวก เรา!” ชายชราชุดแดงตะโกนขึ้น
เช่นกัน
ตําหนักจารึกเทวะมีอํานาจ กว้างไกล เจ้าถึงขั้นลงมือสังหารผู้บริสุทธิ์!”
พวกเจ้าหาได้ใช่ผู้บริสุทธิ์ไม่! แต่กลับเป็นผู้ร้าย!” ฉินหยุน แค่นเสียงตอบ
กลับ นําเอายันต์จํานวนหนึ่งออกมา ตอนนี้เอง กลุ่มคนพลันปรากฏอยู่
ไกลออกไป! เมื่อชายชราชุดแดงเห็นดังนี้ เขาร้องออกด้วยความตื่นเต้น
ยินดี
เป็นองครักษ์ชั้นหัวกะทิของตําหนักจารึกเทวะ! พวกเรารอดแล้ว!”
จ้าวฉวนร่วมทางมาด้วย เขากําลังนําองครักษ์ชั้นหัวกะทิ จํานวนสิบคนเร่ง
รีบเข้ามา!
ตอนที่ 276 มนุษย์อสูร
พอฉินหยุนพบว่าเป็นจ้าวฉวน เขาจึงไม่เร่งรีบลงมือแต่อย่างใด จ้าวฉวน
และคนร่างกํายํากว่าสิบคนในชุดเกราะสีทองลงมาที่ พื้น พวกเขาถึงขั้น
สับสนยามได้เห็นกลุ่มคนร่างเต็มไปด้วย บาดแผล “ผู้อาวุโสใหญ่ ท่าน
ต้องช่วยพวกเรา! คนผู้นี้อ้างว่าเป็นคนของ ตําหนักจารึกเทวะ ไม่พอ เขา
ยังลงมือโหดเหี้ยมต่อพวกเรา กระทั่งต้องการข่มขืนหญิงสาวของตระกูล
เราด้วย!”
ชายชรา ชุดแดงที่แขนขาทั้งสี่ถูกตัดออก ร้องโอดครวญอยู่กับพื้นดังขึ้น “ผู้
อาวุโสใหญ่ โปรดช่วยเหลือข้า! ปีศาจตนนี้คิดอยากข่มขืน ข้า! กระทั่งว่า
เขายังหนุ่มเพียงนี้ แต่กลับวิตถารยิ่งนัก!” หลินห ยินเร่งรีบคลานเข้าหา
เท้าของจ้าวฉวน ร้องโอดครวญอย่างน่า สังเวช
หลินหยินและชายชราชุดแดง รวมถึงคนของตระกูลหลินที่ ได้รับบาดเจ็บ
ล้วนหันไปทางจ้าวฉวนร้องขอความช่วยเหลือ พวกเขาอธิบายถึงความชั่ว
ร้ายของฉินหยุนกันออกมาไม่หยุด
พวกมันล้วนโกหก! พี่ชายไม่ใช่คนเช่นนั้น!” ติงหงเอ๋อร้อง ออก นาง
เดือดร้อนแทนจนกระทั่งเร่งรีบตะโกนบอกต่อจ้าวฉวน
หลินหยินชี้หน้าฉินหยุนสบถสาปแช่งออกมา “เป็นเขาที่ตัณหา กลับ คิด
อยากข่มขืนข้า ต้องการได้เห็นเรือนร่างงดงามของข้า เพราะเหตุนั้นมันจึง
โจมตีคนของตระกูลข้า! กระทั่งบอกว่าจะ นําตัวข้ากลับไปเป็นภรรยา!”
จ้าวฉวนมองฉินหยุนและเอ่ยถาม “ฉินหยุน เกิดเรื่องอะไรขึ้น? ไม่ใช่ว่าเจ้า
มีธิดาแห่งสวรรค์อย่างเชี่ยวเย่ว์หลานเป็นภรรยาอยู่ แล้วหรือ?”
หลินหยินกลายเป็นมึนงงเมื่อได้ยินคํากล่าวของจ้าวฉวน! ชายชราชุดแดง
คนของตระกูลหลิน รวมทั้งผู้อาวุโสตระกูลติง ทั้งติงหงเอ้อ ล้วนจ้องมอง
ฉินหยุนอย่างสับสน!
ตอนนี้ พวกเขาจึงได้ทราบ ว่าเหตุใดเด็กหนุ่มจากตําหนักจารึก เทวะผู้นี้ถึง
น่าสะพรึงได้เพียงนี้ เป็นเพราะนี่คือเด็กหนุ่มในตํานานผู้หนึ่ง ที่ซึ่งกล้าท้า
ทาย ตําหนักตะวันออกวิญญาณสีคราม ทั้งยังเป็นองค์ชายรัชทายาทแห่ง
จักรวรรดิเทียนฉิน!
หลินหยินอึ้งรุนแรง นางไม่คิดว่าอาหยุนผู้นี้จะเป็นฉินหยุน!
ทุกคนล้วนทราบ ฉินหยุนมีหญิงงามราวสวรรค์ประทานราย ล้อม ผู้หนึ่งที่
ไม่เอ่ยถึงไม่ได้เด็ดขาดย่อมเป็นเชี่ยวเย่ว์หลาน ทั้ง ยังมีเมิ่งเฟยหลิง และ
เสวี่ยซือเยี่ย พวกนางล้วนหาได้ธรรมดา ไม่!
ผู้อาวุโสใหญ่ เรื่องราวเป็นเช่นนี้” ฉินหยุนอธิบายโดยคร่าว ถึงเรื่องราวที่
เกิดขึ้นแก่จ้าวฉวน จ้าวฉวนหันมองตระกูลหลิน ยิ้มเย็นเยือกเผยออก
เป็นพวก เจ้าสร้างเภทภัยแก่ตนเอง!”
หลังกล่าวคําจบ องครักษ์ชั้นหัวกะทพลันก้าวเดินออก กวัด แกว่งดาบยาว
สีทองในมือ สับฟันเข้าใส่คนของตระกูลหลิน อย่างไม่ปราณี เดิมหลินหยิน
และคณะล้วนมีความหวังยามได้เห็นจ้าวฉวน มาถึง แต่คราวนี้พวกเขาสิ้น
หวังอย่างไม่อาจสิ้นหวังกว่านี้ได้ เพราะไม่ใช่ฉินหยุนที่สังหารพวกเขา แต่
เป็นคนของตําหนักจารึกเทวะเสียเอง!
ก่อนหลินหยินตาย นางเสียใจที่ไม่อาจหักห้ามความโลภเอาไว้ หากไม่แล้ว
นางคงไม่มีทางรั้งตัวติงหงเอ๋อและข่มขู่ฉินหยุน เช่นนั้น นางจะไม่ถูก
สังหารเช่นนี้ แต่จะได้เป็นมิตรสหายที่ดีต่อ ฉินหยุน
จ้าวฉวนโยนยันต์อัคคีจํานวนหนึ่งเผาร่างเหล่านั้นทิ้ง “ฉินหยุน กลับกันได้
แล้ว ข้ามีเรื่องสําคัญต้องบอกต่อเจ้า!” ฉินหยุนพยักหน้ารับ ตามหลัง
จ้าวฉวนกลับตําหนักจารึกเทวะที่ ยอดเขาวิญญาณ
จ้าวฉวนให้สัญญาแก่ฉินหยุน ว่าจะจัดการติงอี้และคณะให้มี งานทําใน
ตําหนักจารึกเทวะ เมื่อกลับถึงตําหนักจารึกเทวะ ฉินหยุนและจ้าวฉวนจึง
เข้าห้อง ลับเพื่อสนทนา จ้าวฉวนดูเป็นกังวลขณะถอนหายใจ เขาดื่มชา
เข้าไปอีกใหญ่ ก่อนกล่าวคําออก
แม้พวกเราจัดการสัตว์อสูรไปมาก แต่เมือง ก็ยังถูกทําลาย พวกเราพบว่า
มีคนจงใจปล่อยให้สัตว์อสูรเข้ามาในเมือง!”
ผู้อาวุโสใหญ่ ท่านบอกว่ามีเรื่องสําคัญบอกต่อข้า? เรื่องอันใด หรือ
ขอรับ? เกี่ยวข้องกับการรุกรานเมืองหรือ?” ฉินหยุนเอ่ย ถาม
เกี่ยวข้อง! เจ้ารู้หรือว่าผู้ใดเป็นตัวการการบุกโจมตีครั้งนี้?” จ้าวฉวนกล่าว
ข้าเป็นกังวลถึงเรื่องนี้ไม่น้อย!” เฉินหยุนตระหนักและส่ายศีรษะ “ถึงกับมี
กลุ่มคนก่อการ เบื้องหลังการรุกรานของฝูงสัตว์อสูร? หากเป็นเช่นนั้น ก็น่า
กลัวเกินไปแล้ว!”
จ้าวฉวนพยักหน้า “เข้าเรื่องเลยแล้วกัน พวกมันไม่ใช่มนุษย์! ผู้ที่วางแผน
ให้สัตว์อสูรบุกรุกไม่ใช่ผู้อื่นเว้นแต่มนุษย์อสูร! ตาม เบาะแสที่ได้รับมา
มนุษย์อสูรเหล่านี้อาศัยความสามารถพิเศษ ทําให้พวกมันสามารถ
ควบคุมสัตว์อสูรได้!”
สําหรับฉินหยุน มนุษย์อสูรไม่ใช่เรื่องแปลก จักรวรรดิเทียนฉิน ต้องเผชิญ
ภัยคุกคามจากมนุษย์อสูรอยู่เสมอ เขากระทั่งเกือบ ถูกส่งตัวไปยัง
ชายแดนเพราะเรื่องนี้ด้วยซํ้า ไม่มีผู้ใดทราบว่ามนุษย์อสูรปรากฏขึ้นมาได้
อย่างไร พวกเขาทราบว่ามนุษย์อสูรพูดจาภาษามนุษย์ ทั้งยังสามารถ เดิน
ได้ด้วยสองขาเหมือนอย่างมนุษย์ พวกมันมีตัวตนเฉพาะ ทางแยกไปตาม
เผ่าพันธุ์ ทว่ารูปลักษณ์ที่คล้ายมนุษย์คือสิ่ง เด่นชัดที่สุด
มนุษย์อสูรก็เหมือนอย่างมนุษย์ ฝึกฝนวิชายุทธ์ เพื่อได้รับพลัง ที่แข็งแกร่ง
ที่น่ากลัวกว่านั้นคือ มนุษย์อสูรเจริญพันธุ์ขยายจํานวน ประชากรรวดเร็ว
ดังนั้นพวกมันจึงเป็นภัยคุกคามต่อมนุษย์ยิ่งโชคดี ตลอดหลายปีมานี้
มนุษย์ได้สะกดการขยายพลังอํานาจ ของมนุษย์อสูรเอาไว้ได้
เรื่องนี้จริงหรือขอรับ?” ฉินหยุนเข้าใจถึงความสําคัญของ เรื่องราวที่จ้าวฉ
วนคิดบอกต่อแล้ว
หากมนุษย์อสูรสามารถควบคุมฝูงสัตว์อสูรทรงพลังได้จริง เช่นนั้นมนุษย์ก็
ยากจะสะกดพวกเขาเอาไว้ได้ เพราะการปรากฏตัวของสัตว์อสูรจํานวน
มาก มนุษย์ไร้ทางเลือกจนได้แต่หลบซ่อนตัวในเมือง พวกมนุษย์อสูรผู้ซึ่ง
ไม่ อาจเข้าชายแดนได้ อาจใช้โอกาสทางสถานการณ์ตอนนี้เข้า ผ่าน
ชายแดนมา ด้วยวิธีการนี้ มนุษย์อสูรจึงมาถึงเมืองชาวมนุษย์ได้ หาก
มนุษย์อสูรสามารถควบคุมสัตว์อสูรจํานวนมากที่ระดับเก้า เผ่าพันธุ์
มนุษย์ก็จะยากต่อกรพวกมัน!
จักรวรรดิเทียนฉินของเจ้าไม่ได้ถอนกําลังจากชายแดน! มนุษย์อสูร
ควบคุมสัตว์อสูรได้ กองทัพที่ชายแดนตอนนี้ ถือว่า อยู่ในสถานการณ์
อันตรายยิ่ง!” จ้าวฉวนกล่าว
สัตว์อสูรมอง มนุษย์เป็นอาหาร หากกองทัพที่ชายแดนไม่อาจจัดการ
มนุษย์ อสูรและสัตว์อสูร ทหารเหล่านั้นจะกลายเป็นอาหาร เมื่อพวก มันมี
อาหารเพียงพอ เมื่อนั้นรายถัดไปคือเมืองใหญ่ของ จักรวรรดิ!”
เหมือนว่าข้าต้องเดินทางไปที่ชายแดนแล้ว!” ฉินหยุนขมวด คิ้วกล่าว “ข้า
เกรงว่าแม่ทัพที่นั่นจะไม่ทราบเรื่องนี้ และอาจ พลั้งเผลอให้กับพวกสัตว์
อสูรเข้าให้!” จ้าวฉวนพยักหน้ารับ
ระวังตัวระหว่างเดินทางด้วย! ด้วย พละกําลังของเจ้า ตราบเท่าที่ไม่ใช่
สัตว์อสูรระดับวิญญาณ ย่อมไม่เป็นภัยคุกคามแต่อย่างใด ข้าจะอยู่ที่นี
คอยสืบหาว่า สามารถใช้หนทางใดรับมือพันธมิตรระหว่างมนุษย์อสูรและ
สัตว์อสูร สิ่งสําคัญที่สุดคือ ต้องหาตัวคนที่เปิดประตูเมืองให้เจอ”
สายลับเช่นนั้น ย่อมต้องมีมูลค่าสูงยิ่งต่อเผ่าพันธุ์มนุษย์อสูร เรื่องนี้
จะต้องเป็นระดับสูงของมนุษย์อสูรสั่งการ ให้เข้าโจมตี เมืองใหญ่ที่ทรง
พลัง ทั้งยังจะต้องมีคนขายชาติร่วมอยู่ด้วย”
จ้าวฉวนโกรธแค้นนักยามเอ่ยถึงเรื่องนี้ เมืองที่พวกเขาไปกวาดล้างมา
ก่อนหน้านี้ มีความสําคัญต่อ สาขาหลักของตําหนักจารึกเทวะ ทั้งยังมีการ
ป้องกันแข็งแกร่ง หากไม่ใช่เพราะมีสายลับลอบเร้นปิดอาคมคุ้มกัน และ
เปิด ประตูเมืองให้สัตว์อสูรเข้ามา การที่พวกมันจะเข้ามาได้ถือเป็น เรื่อง
ยากเย็นยิ่ง
หากท่านมีข่าวคราวใด โปรดติดต่อข้าด้วย! จริงด้วย ผู้อาวุโส ใหญ่ ช่วย
ข้าบอกลาแก่เสี่ยวหงเอ๋อ บอกให้นางมาพบข้าเมื่อ ข้ามีเวลาด้วยขอรับ!”
ฉินหยุนเอ่ยคํา
เข้าใจแล้ว เด็กสาวผู้นั้นพื้นฐานไม่เลว คุ้มค่าแก่การฝึกฝน ข้าจะจัดแจง
ฝึกฝนให้นางก้าวสู่ขอบเขตวรยุทธ์เต๋า!” จ้าวฉวน พยักหน้ารับ เฉินหยุนไป
จากภูเขาวิญญาณด้วยหัวใจหนักอึ้ง มุ่งหน้ากลับสู่จักรวรรดิเทียนฉิน
ตระกูลเมิ่งของเมิ่งเฟยหลิง และอีกหลายตระกูลรับหน้าที่คุ้ม กันชายแดน
ตลอดหลายปีมานี้ พวกเขารับหน้าที่ปะทะกับ กองทัพมนุษย์อสูรและ
กองทัพสัตว์อสูรหลายครั้งครา แต่ครั้งนี้แตกต่างออกไป มนุษย์อสูร
ควบคุมสัตว์อสูรทรงพลัง เป็นแนวหน้า หากเผ่าพันธุ์มนุษย์ไม่ทราบ
แผนการนี้ของพวก มัน ย่อมเสียหายใหญ่หลวง
ภายในมิติเก็บของที่ไข่มุกเม็ดแรก โมโมกําลังบินไปมา นาง อารมณ์ดียิ่ง
นักเพราะตอนนี้มีไข่ผลึกแก้วสัตว์อสูรถึงสามฟอง เพียงพอให้นางได้กินอีก
ระยะเวลานานเลยทีเดียว ฉินหยุนออกเดินทางในช่วงเวลากลางคืน ทั้งยัง
คอยสํารวจมิติ เก็บของของตนด้วย เขาเอ่ยถาม

ไม่มีความคิดเห็น :

แสดงความคิดเห็น