“พละกําลังของอสูรมังกรราชสีห์เหล่านี้ ถือเป็นเลิศในหมู่สัตว์อสูร ไม่มีใคร
บ่มบ่ามเข้าโจมตีพวกมัน” หน่วยของตําหนักดวงดาววิญญาณสีครามเอง
ก็อยู่ที่นี่ หลายหน่วยรวมตัวกันที่นี่ พวกเขาหารือถึงเรื่องนี้ พวกเขาคิด บุก
โจมตีเข้าด้วยกัน เขาเองก็เป็นกังวล ว่าสิ่งที่ได้รับ อาจไม่เทียบเท่ากับสิ่ง
สูญเสีย
ยามต้องจับมือร่วมกับหน่วยอื่นที่มีคนจํานวนมาก โดยรวมแล้ว อย่างน้อย
ก็ต้องหลักร้อยคน กระทั่งว่าจัดการพวกมันลงได้ ผลตอบแทนก็ไม่ได้
มากมายเพียงนั้น นอกจากนี้ นามของอสูรมังกรราชสีห์ยังกว้างไกล หาก
หลาย ร้อยคนเข้าโจมตี กว่าครึ่งย่อมต้องเสียชีวิต หากมีคนจํานวนมาก
ตายกลางคัน เมื่อขาดแคลนกําลังคน เท่ากับว่าพวกเขาอาจโดนกวาดล้าง
จนสิ้น
ดังนั้นแล้ว หลายหน่วยจึงทําได้แต่รับชมจากระยะไกล ไม่คิด กล้าบุกเข้า
ไปโจมตี อสูรมังกรราชสีห์เองก็ทราบว่ามีมนุษย์อยู่ไกลออกไปล้อมเอาไว้
ทว่าพวกมันหาได้หวั่นเกรง พวกมันทราบดีว่าพวกมัน แข็งแกร่ง ดังนั้นจึง
ไม่มีผู้ใดกล้าเข้าโจมตีพวกมัน กลุ่มคนตอนนี้ค่อยตระหนักได้ ว่ามีการ
เคลื่อนไหวจํานวนหนึ่ง เข้าไปใกล้กลุ่มอสูรมังกรราชสีห์!
ฝูงชนที่จับตามองจากระยะไกล โดยทันที พวกเขาค่อยฮือฮา กันขึ้นมา!
ท่ามกลางกลุ่มคนเหล่านี้ มีบางหน่วยที่ประกอบด้วยผู้ฝึกตนวรยุทธ์เต๋า
ล้วน บางหน่วยก็ประกอบด้วยคนนับร้อย กระนั้นก็ไม่มีผู้ใดกล้าเข้าไปใกล้
ฝูงอสูรมังกรราชสีห์ แต่ตอนนี้ พวกเขาได้เห็นคนกลุ่มหนึ่งกําลังเข้าไปใกล้
พวกมัน อย่างเสี่ยงชีวิต!
“คนพวกนี้มาจากไหนกัน? บ้ากันไปแล้วหรือ?”
“กระทั่งว่าทุกคนในหน่วยอยู่ขอบเขตวรยุทธ์เต๋า ก็มีแต่ แสวงหาความ
ตาย!”
“หรือพวกเขาเกรงว่ามังกรพวกนี้จะหิวโซ คิดเข้าโจมตีให้เป็น อาหาร?”
“เร็วเข้า ใช้อุปกรณ์วิญญาณเจ้าตรวจสอบ เป็นพวกไหนกัน? กับคนที่มี
ความกล้าเช่นนี้ ย่อมต้องมีชื่อเสียงแล้ว”
อุปกรณ์วิญญาณหน้าตาคล้ายน้องไม้ไผ่ทําหน้าที่เป็นอุปกรณ์ ส่อง
ทางไกล สามารถเห็นสิ่งที่อยู่ห่างออกไปนับหมื่นเมตรได้ ไม่ช้า คนหนึ่ง
ร้องอุทานขึ้น
“เป็นเหล่าถาน ราชันปืนใหญ่เหล่า ถาน ทว่าปืนใหญ่ราชันวิญญาณไม่ได้
อยู่ในมือเขา อยู่ในมือ ของเด็กหนุ่มคนหนึ่ง!”
“นี่เขามอบปืนใหญ่ทรงอํานาจนั่นให้เด็กน้อยผู้หนึ่งหรือ สมอง เขาโดนลิง
เอาไปกินแล้วหรืออย่างไร?”
“เป็นกลุ่มของเหล่าถานจริง สี่คนเป็นขอบเขตวรยุทธ์เต๋า อีก ทางหนึ่ง เจ้า
หนูนั่น พวกเราไม่รู้ว่าเป็นใคร!”
หลังใช้อุปกรณ์วิญญาณส่องเห็นหน้าฉินหยุน โฮ่วฉิงเฟิงตะโกน ร้องตื่น
ตกใจ “เป็นฉินหยุน! เขาเป็นผู้ถือปืนใหญ่ราชัน วิญญาณ!”
หลันเฟิ งจินเองก็รับชมขณะก่นด่าเสียงเบา “ไอ้หนูนั่น กล้าดี ยังไงบ้าไป
กับคนพวกนั้น! นึกว่าจะหาที่ปลอดภัยกับหน่วย ตัวเอง ที่ไหนได้กลับไป
แสวงหาความตาย!”
หยาวฉีเย่ว์รับอุปกรณ์วิญญาณมา เมื่อนางพบว่าเป็นฉินหยุน นางยิ่ง
ตระหนก “เป็นฉินหยุนจริง! พวกเขาคิดอะไรอยู่กันแน่? อย่าบอกนะว่า
พวกเขาไม่ทราบพลังอํานาจของอสูรมังกร ราชสีห์?”
เซี่ยอู่เฟิงขมวดคิ้ว “กระทั่งว่าน้องหยุนปุ่มบ่ามบ้าบิน แต่เข้า รู้จักประเมิน
ตนเองเป็นอย่างดี! เห็นนั่นไหม? แม้พวกเขาเข้า ใกล้พวกมัน พวกเขาก็ยัง
ไม่ถูกพวกมันพบเจอตัว”
เชี่ยวเย่ว์หลานเองก็ใช้อุปกรณ์วิญญาณของนางส่องฉินหยุน และคณะ
ขณะเอ่ยคํา “เป้าหมายของพวกเขาคือไข่ผลึกแก้ว สัตว์อสูร! ไข่ผลึกแก้ว
มังกรอสูรคือสิ่งลํ้าค่าที่สุดของฝูงนั่น!”
เชี่ยวหยางหลงแค่นเสียงเย็นชา “พวกมันคิดอยากได้ก็ต้องมี กําลัง พวก
เจ้าไม่คิดเข้าไปช่วยหรือ? รับชมอยู่ที่ตรงนี้รอดูมันตายหรือไร?”
“พวกเขาย่อมต้องมีแผนการในใจ พวกเราเข้าไปมีแต่จะฟัง แผนการพวก
เขา!” เชี่ยวเย่ว์หลานแค่นเสียง “แค่รับชม พวก เขาย่อมต้องทําสําเร็จ!”
หลันเฟิ งจินไม่กล่าวคําใดอีก เป็นเพราะนางทราบว่ายันต์สะกด กายของ
ฉินหยุนทรงพลังเพียงใด หากมียันต์สะกดกายมากพอ ก็มีความเป็นไปได้
สูงที่จะทําสําเร็จ! ชายชราที่อยู่ไม่ไกลนักถอนหายใจ
“น่าเสียดายนัก ที่อาวุธ วิญญาณชั้นดีอย่างปืนใหญ่ราชันวิญญาณจะถูก
ทําลายโดยฝูง มังกรราชสีห์! คราวนี้ไฉนเหล่าถานบ่มบ่ามเพียงนี้? ปกติ
เขา เป็นคนระแวดระวังตัวนี่!”
“ทั้งยังนั่นอีก ถึงขั้นให้ของไว้กับเด็กน้อยผู้หนึ่ง! น่าเสียดายนัก พวกเขาไม่
น่ารอด”
“แบบนี้ก็ไม่เลว พวกเราจะได้เห็นกับตาว่าพวกอสูรมังกร ราชสีห์ทรงพลัง
เพียงใด!”
“เหอะ เหอะ เหล่าถานและคณะย่อมตายอย่างคุ้มค่า จะได้ให้ พวกเรา
เห็นถึงอํานาจของอสูรมังกรราชสีห์!”
ยอดฝีมือหลายคนที่รับชมจากระยะไกล เริ่มพูดคุยกันเองสนุก ปาก
เชี่ยวหยางหลงแค่นเสียง “เห็นหรือไม่? คนส่วนใหญ่ล้วนคิดว่า พวกฉิน
หยุนย่อมต้องจบสิ้น พวกเจ้าจงรีบเข้าไปช่วยฉินหยุนเสีย!”
“เจ้าก็แค่คิดชักนําพวกเราไปทําลายแผนการของพวกฉินหยุน!” หลันเฟิ ง
จินแค่นเสียง
“เชี่ยวหยางหลง หุบปากของเจ้า แล้วรับชมไปเงียบ ๆ!” เชี่ยวหยางหลง
หัวเราะตอบ เป็นเขายินดียิ่งที่จะได้เห็นความ ตายของฉินหยุนกับตา
ตนเอง นอกจากนี้ หยางฉีเย่ว์และเชี่ยว เย่ว์หลาน ก็ยังจะได้เห็นความตาย
ของฉินหยุนเช่นเดียวกัน
เขาพลันรู้สึกขึ้นมา ว่าวันนี้กลายเป็นวันที่สนุกสนานที่สุดใน รอบหลายปี
เพราะนํ้ามันสัตว์ผูกเผาไหม้จนสิ้น ศิษย์ของเขายังตายจาก แผนการของ
เขาพังพินาศ เชี่ยวหยางหลงอารมณ์เลวร้ายยิ่ง ตลอดช่วงหลายวันที่ผ่าน
มา แต่วันนี้เขาค่อยได้พบเจอเรื่องที่ จะทําให้อารมณ์ดีขึ้นบ้าง ฉินหยุนไม่
ทราบว่าพวกเซี่ยวเย่ว์หลานกําลังรับชมจาก ระยะไกล ผู้อาวุโสโจวปลด
ปล่อยบอลพลังงานที่ปิดผนึกออร่าของตนเอง ปกคลุมฉินหยุนเอาไว้และ
กล่าว
“อาหยุน บอลพลังงานนี้ สามารถคงอยู่ได้ชั่วระยะเวลาหนึ่ง พวกเราจะทํา
สําเร็จหรือไม่ ล้วนขึ้นอยู่กับเจ้า!” ฉินหยุน ด้วยปืนใหญ่ราชันวิญญาณอยู่
ในมือ เขาแบกรับ ภารกิจหนักหนา ทั้งยังเป็นกุญแจของความสําเร็จหรือ
ล้มเหลว เป็นเขาต้องแบกรับแรงกดดันมหาศาล
“อย่าได้เป็นกังวล พวกเราย่อมต้องทําสําเร็จ! จําจดไว้ อย่าได้ หวงแหน
ยันต์สะกดกายเหล่านั้น ข้าสามารถขัดเกลาให้พวก ท่านได้ใหม่หลังเสร็จ
เรื่องราว!” ฉินหยุนกล่าวอย่างมั่นใจ
ตอนที่ 291 สําเร็จ
เหล่าถานและคณะตอนนี้ ล้วนทราบว่าโชคดีแค่ไหนที่มี อาจารย์จารึก
มากความสามารถร่วมหน่วย กล่าวได้ว่าพวกเขา สามารถวางใจได้มาก
ยามต้องขว้างปายันต์ออกไป สิ่งหนึ่งที่ต้องทราบ หากเป็นหน่วยอื่นต้องใช้
ยันต์ชั้นเลิศเช่นนี้ พวกเขาคงต้องหลั่งน ้าตาเป็นสายเลือด มันจะกลายเป็น
ความ เจ็บปวดราวถูกเฉือนเนื้อหนังที่ต้องขว้างปาพวกมันออก
ฉินหยุนค่อย ๆ ตามหลังฝูงอสูรมังกรราชสีห์ เขายังคงรักษา ระยะยิงของ
ปืนใหญ่ราชันวิญญาณเอาไว้ พร้อมกันนี้ ก็คอย ส ารวจมองเป้าหมายไป
ด้วย อสูรมังกรราชสีห์มีหัวเป็นมังกร กรงเล็บเป็นมังกร ร่างปกคลุม ด้วย
เกล็ดมังกรด า ขนาดตัวใหญ่ที่สุด ยาวราวห้าสิบกว่าเมตร
ขณะที่เล็กที่สุดก็ยาวหลักสิบเมตร หากเทียบกับสัตว์อสูรตัวอื่น พวกมัน
ถือว่าขนาดตัวใหญ่โตยิ่ง เขาคิดไม่ออกว่าอสูรมังกรราชสีห์เหล่านี้ต่อสู้
อย่างไร แต่รู้สึกได้จากขนาดของสัตว์อสูร ว่าพวกมันไม่มีทางปราดเปรียว
ได้
“พลังป้องกันของอสูรมังกรราชสีห์แข็งแกร่ง พวกมันไม่หวั่น เกรงยามต้อง
ปะทะ! หรือก็คือ พอพวกเราเข้าโจมตี ร่างกาย พวกมันจะไม่อาจ
เคลื่อนไหวได้เร็ว เพียงเคลื่อนไหวได้แค่ ร่างกายส่วนหนึ่ง!”
ฉินหยุนส ารวจมองหางของอสูรมังกร ราชสีห์ก่อนสูดลมหายใจเข้าลึก เขา
ครุ่นคิดกับตัวเอง “หาง ของอสูรมังกรราชสีห์สมควรยืดหยุ่นมาก น่าจะ
เป็นหนึ่งใน วิธีการโจมตีของพวกมัน!”
หางของอสูรมังกรราชสีห์ไม่ได้แข็ง กลับกัน มันราวกับเป็นแส้ อ่อนนุ่ม
นอกจากนี้ ยังมีหนามแหลมคมที่หางของมัน หากเขา โดนหางนั่นโจมตี
เข้าสักครั้ง ร่างกายได้แตกออกเป็นเสี่ยงอย่าง แน่นอน
“เหล่าถานกับคนอื่นก็มีประสบการณ์มาก พวกเขาน่าจะคาด เดากันได้ว่า
หางมังกรเป็นอันตราย” ฉินหยุนปล่อยตัวเอง เริ่มหายใจรักษาจังหวะ ผ่อน
คลายร่างกาย
ผู้ที่รับชมจากระยะไกล ล้วนตึงเครียดขณะรับชมไปด้วย กระทั่งว่าไม่ใช่
พวกเขาที่บุกเข้าโจมตีอสูรมังกรราชสีห์ พวก เขาก็ยังกังวลเคร่งเครียดราว
ตัวเองอยู่ในสนามรบ เหล่าถานและคณะตอนนี้ตามติดใกล้ชิดอยู่
ด้านหลัง เมื่อพวกเขาอยู่ห่างจากอสูรมังกรราชสีห์ราวหนึ่งร้อยเมตร
พวกเขาพลันพุ่งตัวออก!
โฮก! เสียงราชสีห์ค ารามทันทีเมื่อสัมผัสได้ถึงออร่าของพวกเหล่าถาน
พร้อมกันนี้ เสียงค ารามของมันราวกับสามารถสะเทือน สวรรค์!
เสียงมังกรค ารามสร้างความตื่นตะลึงแก่ผู้ชมระยะไกล กระทั่ง ว่ามี
ระยะทางนับพันเมตร พวกเขายังต้องพรั่นพรึงต่อออร่า ทรงพลังนี้
ขณะที่เหล่าถานและคณะอยู่ใกล้อสูรมังกรราชสีห์มากที่สุด ยิ่ง ไม่ต้องเอ่ย
ถึงว่าจะรู้สึกเช่นไร!
เมื่อฝูงอสูรมังกรราชสีห์ค ารามร้อง พวกมันน่าสะพรึงเกิน บรรยาย ทว่า
พวกเขามาไกลเพียงนี้แล้ว พวกเขาไม่คิดยับยั้ง ดาบยามต้องปล่อยออก
พวกเขาเชื่อมั่นในตนเอง พวกเขาเชื่อ และมั่นใจพละก าลังของสหายร่วม
หน่วย! ฉินหยุนเป็นคนแรกที่เปิดการโจมตี เขาใส่กระสุนปืนใหญ่ห้านัด
เข้าไปในปืนใหญ่ราชันวิญญาณ เล็งเป้าไปยังหัวของอสูรมังกร ราชสีห์ตัว
ยาวกว่าสี่สิบเมตร!
ตู้ม! ตู้ม! ตู้ม! ตู้ม! ตู้ม! เสียงกระสุนปืนใหญ่ยิงรัวออกที่หัวของอสูรมังกร
ราชสีห์ เกิดขึ้นเป็นแสงระเบิดออก เสียงระเบิดที่ดังขึ้นนี้ ไม่ได้ยิ่งหย่อน ไป
กว่าเสียงร้องของสัตว์อสูรนับร้อยตัว!
กล่าวกันว่า อสูรมังกรราชสีห์มีสายเลือดมังกรอยู่ในตัว พวก มันแข็งแกร่ง
กว่าสัตว์อสูรทั่วไป
ฉินหยุนยิงปืนใหญ่ห้านัดในคราวเดียว เขาท าได้เพียงเรียก เลือดสาด
กระเซ็นจากหัวของอสูรมังกรราชสีห์ หัวนั้นหาได้ ระเบิดออกแต่อย่างใด
“เด็กหนุ่มคนนั้น แม่นย าราวจับวาง! ควบคุมปืนใหญ่ราชัน วิญญาณได้ดี
ยิ่ง!”
“ดวงตาข้างหนึ่งของอสูรมังกรราชสีห์บอดไปแล้ว!”
“พวกเราประเมินเด็กน้อยคนนั้นต ่าเกินไป!”
“หากเหล่ากานให้เด็กคนนี้ควบคุมปืนใหญ่ราชันวิญญาณ พวก เขาจะมี
ก าลังคนไว้เข้าโจมตี ด้วยวิธีนี้ น่าจะพอเป็นไปได้!” ฝูงชนที่รับชมจาก
ระยะไกล เริ่มร้องอุทานกันต่อเนื่องเมื่อได้ เห็นฉินหยุนยิงปืนใหญ่
ทันทีที่เหล่าถานและคณะเข้าถึงตัว อสูรมังกรราชสีห์ทั้งสี่ แต่ ละตัวยาวสี่
สิบเมตร พวกเขาไม่รีรอทุ่งเข้าหาพวกมัน
“กระจาย!” เหล่าถานตะโกน
เหล่าถาน ผู้อาวุโสโจว และโจวต้า เริ่มออกวิ่งกันไปคนละทิศทาง
อสูรมังกรราชสีห์ตัวอื่น รวมถึงอสูรมังกรราชสีห์ระดับเก้านับ ร้อยตัว เริ่ม
ไล่ตามโจวเอ้อ!
กลุ่มนั้นมีอสูรมังกรราชสีห์ระดับวิญญาณ รวมถึงระดับเจ็ดและ แปด
หลายตัว ฝูงอสูรมังกรราชสีห์ก าลังโดนกลยุทธ์กระจายตัวออก! โจวเอ้อ
เมื่อเผชิญหน้ากับอสูรมังกรราชสีห์จ านวนมาก เขาหา ได้หวั่นเกรงไม่
เพราะยังมีฉินหยุนสนับสนุนระยะไกล!
ฉินหยุนบรรจุกระสุนปืนใหญ่ห้านัด ยิงพวกมันออกเข้าใส่อสูร มังกร
ราชสีห์ตัวใหญ่ที่พุ่งเข้าหาโจวเอ้อ!
ตู้ม! ตู้ม! ตู้ม!! ความแม่นย าระดับจับวาง ปะทะเข้าที่ดวงตาของอสูรมังกร
ราชสีห์ ระเบิดเอาดวงตาของมันออกไปข้างหนึ่ง
โฮก! โฮก! โฮก!
ฝูงอสูรมังกรราชสีห์ค ารามร้องบ้าคลั่ง พวกมันยิ่งทวีความดุดัน!
โจวเอ้อขว้างปายันต์สะกดกายออก จัดการสะกดร่างขนาด ใหญ่ของอสูร
มังกรราชสีห์รวมถึงพวกตัวเล็ก ยันต์สะกดกายปก คลุมพื้นที่หลายสิบ
เมตร แต่ก็ได้แค่อสูรมังกรราชสีห์ตัวใหญ่ และตัวเล็กน้อยจ านวนหนึ่ง ด้วย
เหตุนี้ เขาจึงโยนออกไปเพิ่มอีกสองแผ่น! หลังจากอสูรมังกรราชสีห์ตัว
ใหญ่ถูกสะกด เขาจึงสังหารพวก ตัวเล็กก่อน!
ชั่วขณะเวลานี้เอง ฉินหยุนยิงปืนใหญ่อีกครั้งหนึ่ง กระสุนปืน ใหญ่อีกห้า
นัดระเบิดเข้าใส่ดวงตาของอสูรมังกรราชสีห์ตัวใหญ่ เป็นผลให้อสูรมังกร
ราชสีห์ค ารามร้องออกกราดเกรี้ยวแผ่นดินสะเทือน!
เหล่าถานและอีกสองคนที่เหลือ ยิ่งผ่อนคลายได้เพราะ ความเร็วของอสูร
มังกรราชสีห์หาได้รวดเร็วไม่ พวกมันไม่มีทาง ไล่ตามผู้ฝึกตนที่มีวิชาตัว
เบาระดับสูงได้ทัน อสูรมังกรราชสีห์เหล่านี้สามารถพ่นอสนีบาตสีม่วง
ออกมาได้ เรื่องนี้ต้องให้ความสนใจหลบเลี่ยงให้ดี ไม่เช่นนั้นอาจบาดเจ็บ
ได้!
อย่างรวดเร็ว ฉินหยุนบรรจุกระสุนปืนใหญ่อีกครั้งขณะเริ่ม โจมตีใส่อสูร
มังกรราชสีห์ตัวใหญ่ที่ก าลังโจมตีโจวเอ้อ หลังผ่าน ไปราวยี่สิบนัด หัวอสูร
มังกรราชสีห์ท้ายที่สุดค่อยระเบิดแตก กระจาย ร่างใหญ่โตล้มลงกับพื้นดัง
ครืน!
โจวเอ้อตอนนี้ใช้ยันต์สะกดกายไปห้าแผ่น ดังนั้นจึงเหลืออยู่ เพียงสาม!
ทางด้านฉินหยุน เขาเริ่มระดมยิงอสูรมังกรราชสีห์ตัวใหญ่ที่คิด เข้าโจมตี
สหายร่วมหน่วยอย่างต่อเนื่อง! ไกลออกไปหลายพันเมตร หลายคนถึงกับ
อึ้งทึ่งกับสิ่งที่เห็น
“พวกเขาใช้ยันต์สะกดกาย เป็นยันต์สะกดกายระดับสูงล ้ายิ่ง! นี่พวกเขา
ไปเอายันต์สะกดกายเหล่านั้นมาจากที่ใด? ทั้งยังท า ให้เป้าหมายมึนงงไป
ได้หลายวินาที”
“ไม่ประหลาดใจเลยที่พวกนั้นกล้าโจมตีฝูงอสูรมังกรราชสีห์ เพราะมียันต์
สะกดกายชั้นเลิศอยู่ในมือจ านวนมาก!”
“เป้าหมายของพวกเขาย่อมเป็นไข่ผลึกแก้วสัตว์อสูร! เป็นไป ได้สูงว่าพวก
เขาจะลงมือส าเร็จ!”
“แย่แล้วสิ พวกเราท าผิดพลาดไป!”
“หากมียันต์สะกดกาย ย่อมลงมือได้โดยง่าย!”
เหล่าถานและคณะได้รับยันต์สะกดกายจ านวนมากจากที่ใด? ย่อมต้อง
เป็นฉินหยุนมอบให้!
หลันเฟิ งจินและคณะล้วนคาดเดาได้ เพราะฉินหยุนเคยใช้ยันต์ สะกดกาย
มาก่อนตอนการทดสอบด้านนอกต าหนักดวงดาว วิญญาณสีคราม
“เจ้าหนูนั่น ฉินหยุนถึงขั้นขัดเกลายันต์สะกดกายชั้นเลิศขึ้นมา ได้? ผู้
อาวุโสของสถาบันยุทธ์ชิงเสวียนกลับขับไล่เขาออกมา ช่างเป็นพวกคน
โง่เง่าอะไรเช่นนี้!”
โฮวฉิงเฟิ งอดไม่ได้ที่จะสบถ ก่นด่า ครั้งหนึ่งเขาเคยเป็นรองอธิการบดีของ
สถาบันยุทธ์ชิงเสวียน ดังนั้นเขาย่อมทราบดีถึงความหมายที่ฉินหยุน
สามารถ ขัดเกลายันต์วิญญาณชั้นเลิศ
เชี่ยวเย่ว์หลานแค่นเสียงทวนซ ้าขณะมองเชี่ยวหยางหลง “ตอนนี้คงได้เห็น
แล้ว ว่าฉินหยุนและคณะไม่ได้พาตัวเองไป แสวงหาความตายใช่หรือไม่?
หากพวกเราให้เขาเข้าร่วมหน่วย ด้วยยันต์สะกดกายเหล่านั้น จะยิ่งท าให้
เป็นเรื่องง่ายต่อการจับ ตัวสัตว์อสูรระดับวิญญาณ”
เชี่ยวหยางหลงเผยสีหน้าไม่ไหวติง ทว่ามือนั้นก าหมัดเอาไว้ แน่น เป็นเขา
รู้สึกริษยาถึงขั้วหัวใจ ฉินหยุนยังอายุไม่ถึงยี่สิบปี ทั้งยังเป็นอาจารย์จารึกที
สามารถ ขัดเกลายันต์วิญญาณชั้นเลิศขึ้นได้ สถานะของเขาถือว่าเหนือ
ล ้ายิ่งกว่าผู้ฝึกตนขอบเขตวรยุทธ์เต๋าแล้ว! ผู้น าของหน่วยต าหนักดวงดาว
วิญญาณสีครามถอนหายใจ
“ฉินหยุนช่างเป็นอัจฉริยะวิถีจารึกที่หาได้ยากยิ่ง!”
“ดูนั่น อสูรมังกรราชสีห์ตัวใหญ่สุดก าลังจะโจมตีแล้ว!”
อย่าง กะทันหัน คนผู้หนึ่งร้องโพล่งออกมา ฉินหยุนใช้ปืนใหญ่ราชัน
วิญญาณยิงออกอย่างต่อเนื่อง โจมตี เข้าใส่อสูรมังกรราชสีห์ตัวใหญ่ หลัง
จบสิ้นการยิงกระสุนปืนใหญ่ทั้งหมด เขายังไม่อาจสังหารมันลง ได้แต่ท า
ให้หัวของมัน บาดเจ็บเล็กน้อย มันไม่ใช้ปืนใหญ่ราชันวิญญาณไม่
แข็งแกร่งพอ
แต่ร่างของอสูร มังกรราชสีห์แข็งแกร่งจนเกินไป เกล็ดของพวกมัน
แข็งแกร่ง เลือดเนื้อก็แข็งแกร่ง กระดูกยิ่งแข็งแกร่งเกินใดเทียบเปรียบ โจ
วเอ้อสังหารอสูรมังกรราชสีห์ตัวเล็กตัวน้อยไปมาก ตราบ เท่าที่ไม่มีภัย
คุกคามยิบย่อย เขาไม่จ าเป็นต้องใช้ยันต์สะกดกาย!
“เรายิงกระสุนปืนใหญ่ไปหมดแล้ว ได้แต่มุ่งหน้าไป ต้องจบ งานให้เร็ว ฉก
ชิงเอาไข่ผลึกแก้วสัตว์อสูรมา หากลากถ่วง มากกว่านี้ ยันต์สะกดกายของ
พวกเราจะถูกใช้งานจนหมด เสียก่อน!”
ฉินหยุนใช้ก้าวอัคคีเมฆา หลังไล่ตามราวสิบวินาที เขาค่อยไล่ทันโจวเอ้อ
“โจวเอ้อ นี่คือยันต์สะกดกายห้าแผ่น รับไว้!” ฉินหยุนส่งยันต์ สะกดกาย
ให้แก่โจวเอ้อ
“พวกเราจะตั้งยันต้านรับอสูรมังกร ราชสีห์ตัวใหญ่สักพักหนึ่ง!”
อสูรมังกรราชสีห์ตัวใหญ่ ถือเป็นระดับสูงที่สุด และเป็นภัย คุกคามที่สุด
ด้วย ความรับผิดชอบนี้เป็นของโจวเอ้อแล้ว!
“เจ้าหนูนั่นใช้กระสุนปืนใหญ่หมดแล้ว! พวกนั้นคิดปะทะกับ สัตว์อสูร
โดยตรง ไม่เท่ากับหาเรื่องตายหรือนั่น?”
“กระทั่งเอายันต์สะกดกายห้าแผ่นมอบให้ชายอีกคนหนึ่ง เจ้า หนูนี้มาจาก
ที่ใดกันแน่? ดูเหมือนจะถือครองยันต์สะกดกาย เอาไว้ไม่น้อย!”
“ไม่เคยได้ยินมาก่อน ว่าหน่วยของราชันปืนใหญ่เหล่าถานจะมี เจ้าหนู
เช่นนั้นในหน่วย!”
ทุกคนต่างสงสัยหนักหนา เพราะฉินหยุนมียันต์สะกดกาย จ านวนมากอยู่
ในมือ! โจวเอ้อ เร่งรีบวิ่งล่ออสูรมังกรราชสีห์ตัวใหญ่ ด้วยวิธีนี้ อสูร มังกร
ราชสีห์ตัวใหญ่จะไม่อาจกลับไปได้ทันเวลา ทางด้านฉิน หยุน เขาจะ
เผชิญหน้ากับอสูรมังกรราชสีห์ตัวใหญ่เพียงหนึ่งตัว!
แน่นอนว่า ฉินหยุนยังต้องเผชิญหน้ากับอสูรมังกรราชสีห์ระดับ ที่เจ็ดและ
แปดอีกหลายตัว เขาน าเอากระบี่แก่นจิตออกมา ใช้ เคล็ดวิชาเทวะ
ควบคุมสับฟันร่างพวกมัน อสูรมังกรราชสีห์ระดับที่เจ็ดและแปดแบกร่าง
ของคนจ านวน มากไว้บนหลัง
ร่างเหล่านั้นถูกเก็บเอาไว้นานยิ่งจึงติดพันอยู่ที่ แผ่นหลังมันเช่นนั้น อสูร
มังกรราชสีห์เหล่านี้ไม่ว่องไวนักยามเมื่อโจมตีใส่ฉินหยุน
“ไข่ผลึกแก้วสัตว์อสูรอยู่ที่ใดกัน? ตอนนี้อสูรมังกรราชสีห์ก็ เหลืออยู่ในฝูง
แค่ตัวเดียว!” ผู้ชมที่อยู่ไกลออกไปเริ่มฮือฮากันขึ้นมา
“เจ้าหนูนี่บุกเข้าฝูงสัตว์อสูรได้ส าเร็จ สงสัยนักว่าจะหาไข่ผลึก แก้วสัตว์
อสูรเจอหรือไม่!”
“ฝูงนี้มีไข่ผลึกแก้วสัตว์อสูรแน่หรือ?”
“มันต้องมี ไม่เช่นนั้นมันคงไม่เหลืออสูรมังกรราชสีห์เอาไว้เฝ้า ระวังถึงสอง
ตัว!”
ทุกคนตอนนี้ ต่างเร่งรีบค้นหาสถานที่อยู่ของไข่ผลึกแก้วสัตว์ อสูรผ่าน
อุปกรณ์วิญญาณ ฉินหยุนค่อนข้างอยู่ใกล้อสูรมังกรราชสีห์ตัวใหญ่
นอกจากนี้ เขายังต้องเผชิญหน้ากับอสูรมังกรราชสีห์อีกหลายร้อยตัวด้วย!
เชี่ยวเย่ว์หลานและผู้อื่นเป็นกังวลแทนฉินหยุนยิ่ง หลังจากฉินหยุนพุ่งเข้า
ในฝูง เขาใช้วิชาตัวเบาหลบเลี่ยงอสูร มังกรราชสีห์ตัวใหญ่ซึ่งแบกร่างศพ
ของมนุษย์จ านวนมาก เอาไว้บนหลังรอดพ้นไป
“โมโม ไข่ผลึกแก้วสัตว์อสูรอยู่ที่ใด? ข้าไม่เห็นหาเจอ!” เขาเร่ง รีบส่งเสียง
เอ่ยถามภูติอสูรในมิติเก็บของ จากนั้นจึงค่อยลอบปล่อยนางออกมา ภูติ
อสูรหลบซ่อนในเสื้อของฉินหยุน นางมองส ารวจด้านนอก ผ่านช่องว่างตัว
เสื้อ
“อยู่ใต้ท้องของอสูรมังกรราชสีห์ตัวใหญ่ นั่น ลองมองดูให้ดี!”
พอฉินหยุนเห็นอสูรมังกรราชสีห์ตัวใหญ่พุ่งเข้ามา เขาเร่งรีบ โยนยันต์
สะกดกายออกไปหยุดมันไว้!
“เห็นแล้ว ซ่อนไว้อย่างนี้ก็ได้หรือ!” เขาเก็บภูติอสูรใส่มิติเก็บ ของ ควบคุม
กระบี่แก่นจิตบินเข้าหาอสูรมังกรราชสีห์ตัวใหญ่ กระบี่บินมา ปะทะเข้ากับ
หน้าท้องอสูรมังกรราชสีห์ ที่หน้าท้อง ของมัน มีเมือกสีด าคล้ายเกล็ดอยู่!
ฉินหยุนควบคุมกระบี่แก่นจิตบินเข้าไปตัดเอาเมือกเหล่านั้น ออก อย่าง
กะทันหัน แสงสว่างสีทองจึงวูบวาบออกมา! ไข่ผลึกแก้วสัตว์อสูรที่เผย
ออกนี้เป็นสีทอง!
ฉัวะ! ทุกคนล้วนร้องออกตระหนก นี่เป็นไข่ผลึกแก้วสัตว์อสูรสีทอง! หลาย
ต่อหลายคนตื่นเต้นยินดีคิดอยากพุ่งเข้าไป ทว่าไม่มีผู้ใด กล้า เพราะเมื่อ
พวกเขาเข้าไป ก็ต้องเผชิญหน้ากับอสูรมังกร ราชสีห์ที่ดุร้าย!
ฉินหยุนขว้างยันต์อีกแผ่นหนึ่งเข้าหาอสูรมังกรราชสีห์ตัวใหญ่!
หลังจากนั้น เขาใช้เคล็ดวิชาเทวะควบคุม ใช้พลังจิตทรงพลัง เล็งเป้าไปที่
ไข่ผลึกแก้วสัตว์อสูร จัดการดึงพวกมันออกจาก เมื่อก! ไข่ผลึกแก้วสัตว์
อสูรมีทั้งสิ้นสิบฟอง ถือว่าเป็นจ านวนไม่ใช่ น้อย!
ตอนที่ 292 ผังลึกลํ้า
ฉินหยุนยังคงรักษาระยะห่างระหว่างตัวเองและอสูรมังกร ราชสีห์ตัวใหญ่
อย่างไรแล้ว เมื่อเขาใช้เคล็ดวิชาเทวะควบคุม เขาไม่จ าเป็นต้องเข้าไปใกล้
เพื่อฉกชิงเอาไข่ผลึกแก้วสัตว์อสูรมาแต่อย่างใด ผู้ชมจากระยะไกลล้วน
เห็นไข่ผลึกแก้วสัตว์อสูรสีทองสิบฟอง บินเข้าหาฉินหยุน อสูรมังกรราชสีห์
ตัวใหญ่ค ารามร้องโดยทันที เพราะไข่ผลึก แก้วสัตว์อสูรของมันถูกพราก
เอาไป!
ฝูงอสูรมังกรราชสีห์ไม่คาดคิดเช่นกัน ว่าฉินหยุนจะมีวิธีการ เช่นนี้
“ถอยทัพ!” เหล่ากานตะโกน
ฉินหยุนขว้างยันต์สะกดกายออกไปอีกสองแผ่น แช่แข็งร่างอสูร มังกร
ราชสีห์ที่อยู่ใกล้เคียง ใช้พลังภายในปลดปล่อยก้าวอัคคี เมฆาเผ่นหนี
ขณะก้าวออกด้วยก้าวอัคคีเมฆา ทั่วทั้งร่างกายของเขาคล้าย ปกคลุมด้วย
เมฆหนา ราวกับเขาก าลังระบ าอยู่กลางหมู่เมฆ!
พร้อมเสียงลมวูบไหว ร่างของเขาทะยานออกจากพื้น เพียง พริบตา เขาก็
ทะยานกายออกไปกว่าสองร้อยเมตรราวดาวหาง ถือเป็นความเร็วที่น่าทึ่ง!
“ก้าวอัคคีเมฆาขั้นสมบูรณ์แบบ ก้าวดาวตก!” หยางฉีเย่ว์ อุทานร้อง
“เขาถึงขั้นฝึกฝนก้าวอัคคีเมฆาจนถึงขั้นสมบูรณ์แบบ”
หลายคนพอได้ยินนางอุทานดังนี้ อดไม่ได้จนต้องส่งเสียงฮือฮา ระเบิดดัง
ออก เคล็ดวิชาตัวเบาที่เหนือล ้าเช่นนี้น่าสะพรึงอย่างแท้จริง เพียง พริบตา
ถึงขั้นเดินทางได้กว่าสองร้อยเมตร!
“น้องหยุนน่าทึ่งนัก เพียงแค่ขอบเขตกายวรยุทธ์ระดับที่เก้า กลับฝึกฝน
ก้าวอัคคีเมฆาที่เป็นวิชายุทธ์ระดับสูงได้ถึงขั้นนี้!” เซี่ยอี้เฟิงหัวเราะออก
อย่างยินดี
“เจ้าหนูนี่มีหัวใจแห่งวิชายุทธ์ ความรู้และเข้าใจต่อวิชายุทธ์ ของเขา
เป็นไปอย่างลื่นไหลดั่งสายน ้า ความสามารถเช่นนี้ท า ผู้อื่นอิจฉาจนแทบ
ตายตกได้เลยเชียวละ!”
โฮ่วฉิงเฟิงถอน หายใจกล่าว น้อยครั้งฉินหยุนจะเลือกใช้ก้าวดาวตก นี่เป็น
เพราะตกอยู่กลาง ฝูงอสูรมังกรราชสีห์ จึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้อง
หลบหนี ออกมา เพียงสองก้าว เขาก็หนีห่างออกมากว่าสามร้อยเมตรได้
แล้ว
กระนั้นก็ต้องใช้พลังงานจากแก่นภายในทั้งสามไปมาก เหล่าถานและ
คณะเริ่มใช้ยันต์สะกดกาย ต้านทานหยุดยั้งอสูร มังกรราชสีห์ขณะถอยหนี
ไม่ช้า พวกเขาค่อยวิ่งไปในทิศทางเดียวกัน อสูรมังกรราชสีห์ ตัวอื่นไม่มี
เวลามากพอไล่ตามพวกเขาได้ทัน หากพวกมันไล่ ตามต่อ อสูรมังกร
ราชสีห์ตัวที่เหลืออาจโดนกวาดล้างจนหมด ขณะพวกเขารับชมเหล่าถาน
และคณะหนีหายไปไกล พวกเขา ได้แต่ร้องอุทานซ ้าแล้วซ ้าเล่า!
กลุ่มคนที่สามารถบุกโจมตีฝูงอสูรมังกรราชสีห์อย่างกะทันหัน ได้ส าเร็จ
พวกเขาได้รับไข่ผลึกแก้วสัตว์อสูรสิบฟอง ทั้งยัง หลบหนีได้โดยไร้รอยขีด
ข่วน ไม่มีคนใดในหน่วยได้รับบาดเจ็บ ด้วยซ ้า หากพวกเขาไม่ได้เห็นเอง
กับตา พวกเขาไม่มีทางเชื่อแน่! พอนึกย้อนถึงเรื่องราวที่เพิ่งเกิดขึ้น พวก
เขาต่างเต็มไปด้วย อารมณ์อันหลากหลาย!
“เจ้าปีศาจตัวน้อยนั้นสารพัดประโยชน์นัก ก่อนหน้านี้ประเมิน มันต่ำ
เกินไป!”
“ใช่! เจ้าหนูนั่นใช้พลังจิตได้อย่างเหนือชั้น หากเดาไม่ผิด นั่น สมควรเป็น
เคล็ดวิชาเทวะควบคุมของเหล่าตู้! ดูเหมือนจะมีแต่ จิ้งจอกเฒ่าเหล่าผู้จึง
เชี่ยวชาญได้ระดับนี้!”
“ไม่หรอก นอกจากจิ้งจอกเฒ่าผู้นั้น ยังมีอีกคนที่เรียนรู้ได้ดี เพียงนี้ นาม
นั้นคือฉินหยุน!”
พอกล่าวถึงฉินหยุน หลายคนต่างอึ้งทึ่ง!
“ฉินหยุนเป็นศิษย์ของจิ้งจอกเฒ่าตู้ เขาเพิ่งโดนขับไล่ออกจาก สถาบัน
ยุทธ์ไม่นาน ไม่แปลกที่เขาจะมาอยู่ที่นี่!”
“ดูทางนั้น กว่าสิบคนตรงนั้น เป็นคนของต าหนักดวงดาว วิญญาณสีคราม
ดูเหมือนจะรู้จักฉินหยุนดีเสียด้วย!”
“เป็นปีศาจน้อยฉินหยุนผู้นั้นจริง! ข้าคิดว่าเพียงแค่เป็นองค์ ชายรัชทายาท
ที่โดนปั้นยกยอ ใครกันจะคิดว่าเขากลับมี ความสามารถเพียงนี้!”
ไม่มีผู้ใดไม่คุ้นเคยชื่อฉินหยุน อย่างไรแล้ว เขาก็เป็นองค์ชายรัช ทายาท
แห่งจักรวรรดิเทียนฉิน นอกจากนี้ เขายังก่อเรื่องใหญ่ ไว้มากมาย การ
กระท าของเขาล้วนประทับในความทรงจ าผู้คน
ความรู้สึกเกินจะพรรณนาทะลักภายในหัวใจเชี่ยวหยางหลาง ฟันของเขา
ตอนนี้กันจนแน่น มือก็ก าไว้จนแน่นเช่นเดียวกัน!
ฉินหยุนและคณะวิ่งหนีกว่าครึ่งค่อนวัน พอฟ้ามืดพวกเขาจึง ค่อยหยิบยืม
ห้องใต้ดินรกร้างเพื่อพักผ่อน ระหว่างทางที่วิ่งหนี พวกเขาหาได้พูดคุยอัน
ใดกันไม่ ทางหนึ่ง พวกเขาเป็นกังวลว่าอสูรมังกรราชสีห์เหล่านั้นจะไล่ตาม
พวก เขา และอีกทางหนึ่ง พวกเขากังวลว่าหน่วยอื่นจะไล่ตามพวก เขา
เป็นเงาตามตัว ไข่ผลึกแก้วมังกรอสูรสิบฟอง มันเพียงพอให้หลายคนยอม
เสี่ยง ชีวิต โดยเฉพาะกับสถานที่อันบ้าคลั่งแห่งนี้! ฉินหยุนน ้าเอาไข่ผลึก
แก้วมังกรอสูรสิบฟองออกมา
“พวกเรา คนละสองฟอง!” พวกเขามีกันห้าคน แบ่งกันคนละสองถือว่าลง
ตัวพอดี
“ข้าต้องการเพียงหนึ่ง อีกหนึ่งให้แก่เจ้า!” เหล่าถานกล่าว
“เจ้าลงแรงมากที่สุด หากไม่มียันต์สะกดกายจ านวนมากของเจ้า พวกเรา
ไม่มีทางได้รับไข่ผลึกแก้วของอสูรมังกรราชสีห์ จ านวนมากขนาดนี้แน่”
“แต่ข้าก็ไม่อาจส าเร็จหากขาดท่าน พวกเราหน่วยเล็ก ร่วมงานประสานกัน
ถือเป็นสิ่งส าคัญ นี่ก็เพราะการศึกก่อนหน้า นี้ ทุกคนยอมเสี่ยงชีวิตจึง
ส าเร็จ” ฉินหยุนตอบกลับ
ผู้อาวุโสโจวกล่าว “อาหยุน ข้าเองก็ต้องการเพียงหนึ่ง เจ้า อย่าได้มาก
มารยาทกับพวกเรา! พวกเรานั้นก้าวสู่ขอบเขตวรยุทธ์เต๋าแล้ว มีแต่เจ้าที่
อยู่ขอบเขตกายวรยุทธ์ระดับที่เก้า เจ้า ต่างหากที่ต้องการทรัพยากร
มากกว่าพวกเรา!”
ถัดจากนั้น โจวต้าและโจวเอ้อ ทั้งสองต่างก็คิดเห็นเช่นเดียวกัน เหล่าถาน
ยิ้มกล่าว “อาหยุน เจ้าเป็นอาจารย์จารึก เจ้าย่อม ต้องการทรัพยากรอีก
มากในอนาคต ถือว่ารับความช่วยเหลือ จากพวกเรา ให้เจ้าได้พัฒนาวิถี
จารึกแห่งเต๋าได้ดีขึ้น เมื่อเจ้าเป็นอาจารย์จารึกที่แข็งแกร่งขึ้นในภายหน้า
อย่าได้ลืมพวกเรา ก็พอแล้ว!”
“ย่อมไม่!” ฉินหยุนยิ้มรับ “อย่างนั้น ข้าไม่คิดปฏิเสธความหวัง ดีของพวก
ท่าน ทุกท่านล้วนเป็นสหาย หากภายหน้าท่าน ต้องการความช่วยเหลือ
ข้าไม่คิดปฏิเสธอย่างแน่นอน!”
เหล่าถานและคณะค่อยรู้สึกว่าคุ้มค่าต่อการแลกความซื่อสัตย์ กลับมา สิ่ง
นี้จะท าให้อาจารย์จารึกติดหนี้ทางใจต่อพวกเขา ท้ายที่สุด ฉินหยุนได้รับ
ไข่ผลึกแก้วมังกรอสูรมาทั้งสิ้นหกฟอง!
“พักผ่อนกันก่อน พรุ่งนี้ค่อยเดินทางไปยังเมืองมังกรต่อ! อา หยุน ตอนนี้
เจ้าก็มีไข่ผลึกแก้วมังกรอสูรแล้ว ย่อมต้องได้รับ ความช่วยเหลือจากหมอผี
จัดท ายาแก่เจ้าอย่างแน่นอน!” เหล่าถานหัวเราะ
“เหล่าถาน ขอข้าหยิบยืมปืนใหญ่ราชันวิญญาณท่าน ข้าคิด อยากศึกษา
มันให้ดี!” ฉินหยุนน าเอาปืนใหญ่ราชันวิญญาณ ออกมาและยิ้มกล่าว
“เจ้าสิ่งนี้ท าหน้าที่ได้อย่างดีเยี่ยมนัก!”
“เฮ้อ น่าเสียดายที่กระสุนปืนใหญ่ไม่แข็งแกร่งมากพอ หากข้า ขัดเกลา
กระสุนปืนใหญ่ที่แข็งแกร่ง ย่อมสามารถใช้จัดการ สังหารอสูรมังกร
ราชสีห์ได้เพียงไม่กี่นัด!” เหล่าถานกล่าวด้วยความเสียดาย
“เจ้าลองศึกษามันให้ดี หวังว่าเจ้าจะเข้าใจปืน ใหญ่ราชันวิญญาณได้ดีขึ้น
จะได้ท าให้ข้าใช้งานมันได้ดีขึ้น ด้วย!”
ปืนใหญ่นี้เป็นเพียงเหล่าถานได้รับเป็นมรดกจากรุ่นก่อน เขา ไม่ใช่
อาจารย์จารึก ดังนั้นจึงไม่ทราบวิธีการขัดเกลา ความรู้ ความเข้าใจของ
เขาต่อปืนใหญ่ราชันวิญญาณมีอย่างจ ากัด ตลอดมาเขารู้สึกว่าไม่อาจ
แสดงอ านาจเต็มที่ของปืนใหญ่ราชัน วิญญาณได้
ผู้อาวุโสโจวเอ่ยขึ้น “ปืนใหญ่ราชันวิญญาณ เดิมทีตัวกระสุนก็ มีพิมพ์
เขียว ทว่ากลับหายสาปสูญ เพราะเหตุนั้นกระสุนปืน ใหญ่ของเหล่าลาน
จึงอ่อนแรงกว่าที่ควรเป็น!”
ปืนใหญ่ที่อ่อนแรงไปมาก ยังสามารถรับมือกับสัตว์อสูรระดับ วิญญาณ
ได้! ฉินหยุนน าปืนใหญ่ราชันวิญญาณไปยังห้องเก็บของใต้ดิน จากนั้นจึง
ปิดประตูหิน
“ภูติน้อยที่งดงาม!” ฉินหยุนปลดปล่อยภูติอสูรออกมาและยิ้ม กล่าว
“ช่วยข้าจดจ าผังจารึกทั้งหมดนี้ได้หรือไม่?”
โมโมส ารวจมองที่ปืนใหญ่ราชันวิญญาณ จากนั้นจึงบินเข้าไป ด้านใน
กระบอกปืน นางคล้ายสนุกไม่น้อย “ไม่มีปัญหา แต่ว่า ผังจารึกนี้อยู่ระดับ
ลึกล ้า ข้าต้องใช้ พลังงานไม่ใช่น้อยเลย!”
โมโมกล่าว เป็นถึงผังจารึกระดับลึกล ้า! ฉินหยุนตระหนก!
นี่หมายความว่า ปืนใหญ่ราชันวิญญาณขัดเกลาขึ้นเป็น อุปกรณ์ลึกล ้า
แต่เพราะขาดแคลนไปหลายสิ่ง จึงขัดเกลา ออกมาได้เป็นเพียงอุปกรณ์
วิญญาณระดับราชัน!
“ย่อมได้ เร่งมือได้ยิ่งดี!” ฉินหยุนตื่นเต้นไม่น้อย โมโมพยักหน้ารับและบิน
ขึ้นกลางอากาศ ล าแสงสีเขียวถูกยิง ออกจากดวงตาทั้งสองข้างของนาง
ปกคลุมทั่วทั้งปืนใหญ่ ราชันวิญญาณ
“แค่นี้หรือ?” ฉินหยุนถามอย่างประหลาดใจ
“พี่หยุน ช่วยข้าน ้าไข่ผลึกแก้วสัตว์อสูรออกมาและวางไว้ใต้ตัวข้า!” โมโม
กล่าวกระซิบ ฉินหยุนน าเอาไข่ผลึกแก้วสัตว์อสูรออกมาและท าตามที่นาง
ว่า ภูติอสูรลอยตัวลงที่ไข่ผลึกแก้วสัตว์อสูร ดูดกลืนพลังงาน และ ใช้
พลังงานเหล่านั้นอย่างรวดเร็ว ร่างของนางเล็กยิ่ง ขนาดราว ฝ่ามือเพียง
เท่านั้น ทว่าไข่ผลึกแก้วสัตว์อสูรสูงกว่าหนึ่งเมตร นางที่ยืนอยู่บนไข่ผลึก
แก้วสัตว์อสูร ราวกับก าลังยืนบนเนินเขา ก็ไม่ปาน
“ต้องใช้เวลานานขนาดไหน?” ฉินหยุนเอ่ยถาม
“ไม่กี่ชั่วโมง!” โมโมยังคงจับจ้องปืนใหญ่ราชันวิญญาณ ดวงตาของนางไม่
กะพริบ กระนั้นก็เผยร่องรอยของความ เหนื่อยล้าออกมา
ฉินหยุนรอคอยอย่างอดทน ผ่านไปกว่าหนึ่งชั่วโมง ไข่ผลึกแก้วสัตว์อสูร
กลายเป็นก้อนหิน พลังงานภายในของมันหมดสิ้นแล้ว
ฉินหยุนเร่งรีบน าเอาอีกฟองหนึ่งออกมาสับเปลี่ยน เขาเป็น กังวลว่าไข่
ผลึกแก้วสัตว์อสูรอาจไม่พอให้โมโมใช้จนจบสิ้น กระบวนการ โมโมแต่เดิม
คิดว่าสมควรส าเร็จโดยง่ายหากเป็นเพียงผัง วิญญาณ นางไม่เคยคิดว่าฝั่ง
จารึกของปืนใหญ่ราชันวิญญาณ แท้จริงจะเป็นถึงผังลึกล ้า!
ฉินหยุนก่อนหน้านี้เชื่อว่า ผังจารึกของปืนใหญ่ราชันวิญญาณ เป็นเพียง
ผังวิญญาณระดับราชัน หากไม่ใช่เพราะโมโม เขาคง ไม่มีทางทราบว่าจะ
เป็นสิ่งที่หาได้ยากยิ่งอย่างผังลึกล ้า หลายชั่วโมงผ่านพ้นราวกะพริบตา
ท้ายที่สุด โมโมค่อยจดจ า ผังจารึกทั้งหมดของปืนใหญ่ราชันวิญญาณได้
ส าเร็จ ตราบเท่าที่ต้องการ นางสามารถปล่อยบันทึกผังลึกล ้าจาก ดวงตา
เป็นเส้นแสงกลางอากาศได้ จ านวนไข่ผลึกแก้วสัตว์อสูรที่โมโมใช้ไป
จ านวนถือว่าน่าสะพรึง ทั้งสิ้นเจ็ดฟองถูกใช้ ตอนนี้เหลือเพียงแค่หนึ่งฟอง!
ฉินหยุนที่เตรียมการรับไว้ก่อนแล้ว ดังนั้นเขาจึงรู้สึกว่าไม่ เป็นไร โมโมยัง
ไม่ได้ใช้ไข่ผลึกแก้วมังกรอสูร ดังนั้นนี่ถือเป็น เรื่องดี
“โมโม ล าบากเจ้าแล้ว!” ฉินหยุนยิ้ม “ข้าจะศึกษาผังจารึกของ ปืนใหญ่
ราชันวิญญาณเมื่อมีเวลา!”
“นี่ไม่ใช่งานหนัก แต่ข้าต้องใช้ไข่ผลึกแก้วสัตว์อสูรไปมาก” โม โมยิ้มหวาน
“พี่หยุน ยังเหลือไข่ผลึกแก้วสัตว์อสูรอีกฟองหนึ่ง น่าจะพอให้ข้าได้กินอีก
ราวหนึ่งเดือน!” ฉินหยุนเก็บปืนใหญ่ราชันวิญญาณและกล่าว
“ข้ายังมีไข่ผลึก แก้วมังกรอสูรอีกหกฟอง เจ้าสามารถกินพวกมันได้!”
“อย่าได้ ไข่ผลึกแก้วมังกรอสูรจะเป็นส่วนช่วยเหลือใหญ่หลวง ต่อพี่หยุน
ข้ายอมกินแก่นอสูรระดับที่แปดและปวดท้อง ดีกว่า ต้องกินไข่ผลึกแก้ว
มังกรอสูร!”
ฉินหยุนเผยรอยยิ้มอ่อนโยน “เจ้าตัวน้อย อย่าได้ห่วงไป พี่หยุนคนนี้จะไม่
ปล่อยให้เจ้าต้องปวดท้อง! หากข้าไม่อาจหาไข่ผลึก แก้วสัตว์อสูร อย่างไร
ก็ยังมีแก่นอสูรระดับวิญญาณ”
หลังติดตามฉินหยุนมาชั่วระยะเวลาหนึ่ง โมโมจึงทราบถึง พละก าลังของ
ฉินหยุน เขาสามารถได้รับไข่ผลึกแก้วสัตว์อสูร จ านวนมากเพียงระยะเวลา
อันสั้น ดังนั้นนางจึงไม่คิดเป็นกังวล เรื่องอาหารการกินมาเติมเต็มพลัง
ฉินหยุนและเหล่าถานพักผ่อนอยู่ทั้งวันก่อนออกเดินทางกันต่อ ระหว่าง
ทาง ฉินหยุนส่งปืนใหญ่ราชันวิญญาณกลับคืนแก่เหล่าถาน
นอกจากนี้ ยังบอกต่อเขาด้วยว่า ผังจารึกบนตัวปืนใหญ่ ทั้งหมดอยู่ระดับ
ลึกล ้า! เหล่าถานอึ้งไปวูบ ทั้งยังยินดีที่ได้พบว่าปืนใหญ่ราชัน วิญญาณ
ของตน มีศักยภาพเพียงพอที่จะเป็นอุปกรณ์ลึกล ้า เขาคาดหวังอย่างใหญ่
หลวง ว่าเร็ววันนี้ฉินหยุนจะช่วยเขา พัฒนาปืนใหญ่ราชันวิญญาณสู่
อุปกรณ์ลึกล ้า
“หากราบลื่นดี สักห้าหรือหกวัน พวกเราจะถึงเมืองมังกร!” เขาเองก็คิด
อยากไปถึงที่นั่นให้เร็วที่สุดเช่นเดียวกัน
ตอนที่ 293 พ่อมดหมอผี
ฉินหยุนคิดอยากไปเมืองมังกรมานานแล้ว เขาอยากตรวจสอบ สถานที่
ศักดิ์สิทธิ์ในเขตที่หนึ่งโดยเร็วเช่นกัน กล่าวกันว่า บุคคลที่แข็งแกร่งที่สุด
ของเมืองอี้ ได้รวมตัวกัน เพื่อคุ้มกันเมืองมังกรแห่งนั้น
“ในเมืองมังกร มีมังกรซ่อนเร้นมากมาย พยัคฆ์ร้ายก็มี!” ผู้ อาวุโสโจว
กล่าว
“แม้พวกเราเป็นผู้ฝึกตนขอบเขตวรยุทธ์เต๋า พวกเราก็ยังต้องระวังตัวที่นั่น
เพราะเมืองมังกร มีอีกหลายคน ที่แข็งแกร่งยิ่งกว่าพวกเรา บางคนกระทั่ง
มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ที่หาได้ยากยิ่ง!”
“ผู้ใดล้วนสามารถเข้าเมืองมังกร?” ฉินหยุนเอ่ยถาม
“พวกเขา บากบั่นสร้างเมืองเช่นนั้นขึ้น ดังนั้นย่อมต้องเรียเก็บค่าเข้าเมือง
เพื่อรักษาความปลอดภัยไปด้วยในตัวใช่หรือไม่?”
“เป็นเช่นนั้น ปกติพวกเขาจะเรียกเก็บแก่นอสูรระดับที่แปด หนึ่งเม็ดหาก
คิดเข้าไป และจะมีค่าภาษีอีกเล็กน้อย” เหล่าถาน กล่าว
“แก่นอสูรระดับที่แปด ส าหรับพวกเราไม่นับเป็นอะไร” ฉินหยุนมีแก่นอสูร
ระดับที่แปดจ านวนหนึ่ง ทว่าเขาไม่ทราบว่า จะใช้พวกมันได้อย่างไร
“น่าเสียดายที่พวกเราไม่อาจเก็บร่างของอสูรมังกรราชสีห์มา ได้!” ผู้อาวุโส
โจวถอนหายใจ
“ทุกส่วนของร่างอสูรมังกร ราชสีห์ถือเป็นสมบัติ หากได้อาหยุนช่วยขัด
เกลา มันต้อง ออกมาดีอย่างแน่นอน!” ฉินหยุนยิ้มตอบ
“ได้ไข่ผลึกแก้วมังกรอสูร พวกเราก็ท าได้น่า พึงพอใจมากแล้ว!
สถานการณ์ในตอนนั้นค่อนข้างคับขัน พวก เราไม่มีอย่างอื่นที่ท าได้อีก”
เขาเองก็เสียดาย แต่พิจารณาจากสถานการณ์ พวกเขาไม่มี เวลามากพอ
ให้ไปรวบรวมร่างของพวกมันจริง ๆ ผู้อาวุโสโจวพยักหน้ารับ “อาหยุน เจ้า
ช่างเปิดใจกว้างนัก เป็น ข้าที่คิดเสียดายมันมาตลอดทาง!”
“เมื่อพวกเราถึงเมืองมังกร พวกเราต้องเก็บซ่อนตัวตนให้ดี ทางที่ดีอย่าได้
ให้ผู้อื่นจดจ าพวกเราได้ เพราะพวกเราเพิ่งได้รับ ไข่ผลึกแก้วมังกรอสูร
ต้องมีหลายคนคิดอยากปล้นชิงแน่”
เหล่าถานกล่าวย ้าเตือน ตอนพวกเขาต่อสู้กับฝูงอสูรมังกรราชสีห์ หลาย
คนต่างรับชม อยู่ไกลออกไป ท่ามกลางคนกลุ่มนั้น มีหลายคนที่เป็นยอด
ฝีมือ พวกเขาล้วนต้องเคยอยู่ที่เมืองมังกรอย่างแน่นอน หากกลุ่มคน
เหล่านั้นกลับเมืองมังกร
พวกเขาย่อมต้องเผยแพร่ ข่าวนี้ออกไป เพราะเหล่าถานมีปืนใหญ่ราชัน
วิญญาณ ชื่อเสียงของเขามิใช่ ชั่ว หลายคนล้วนจดจ าเขาได้ ดังนั้นเขายิ่ง
ต้องปิดซ่อนตัวตน ให้มากยิ่งขึ้น เดินทางอยู่หลายวัน ในที่สุดฉินหยุนค่อย
เห็นเมืองมังกร ก าแพงของเมืองมังกรสูงนับร้อยเมตร ทั้งยังเป็นสีขาวเงิน
มันดู แข็งแกร่งยิ่ง เมืองขนาดใหญ่แห่งนี้ กล่าวได้ว่าสามารถจุคนได้ นับ
ล้าน
ที่เมืองอี้ ส่วนใหญ่ยอดฝีมือที่รอดชีวิตมาได้ ล้วนอยู่ในเมืองมังกร
เหล่าถานเดินน าหน้าฉินหยุนและคณะสู่ประตูบานเล็ก หากต้องการผ่าน
ประตูนี้ ก็ต้องก้มหัวลงต ่าเพื่อเข้าไป นี่ก็เพื่อ ป้องกันไม่ให้สัตว์อสูรเข้าไป
ได้ กระทั่งผู้เฝ้ายามที่ประตูยังหย่อนความระวังเพราะสัตว์อสูร ขนาดใหญ่
ยากจะผ่านเข้าประตูนี้
หากมีสัตว์อสูรขนาดเล็กเข้า มา ก็ไม่ใช่เรื่องยากจัดการอยู่ดี พวกเขา
น าเอาแก่นอสูรระดับแปด ส่งมอบแก่ยามเฝ้าประตู และเข้าเมืองได้โดยไม่
โดนสอบถามอันใด
ภายในเมืองมังกร มีอาคารปลูกสร้างท าจากเหล็กหลายแห่ง พวกมันล้วน
สูงหลายสิบเมตร กระทั่งร้อยเมตรมีให้เห็น ชัดเจน ว่าพวกมันสร้างขึ้นมา
เพื่อป้องกันฝูงสัตว์อสูร หากโดนบุกโจมตี พวกมันจะไม่อาจพังโดยง่าย ชั่ว
ขณะที่ฉินหยุนเข้ามา เขาถึงกับมึนงงไปเพราะอาคารเหล็ก หลายหลัง
เป็นต าหนักเหล็กกล้าขนาดใหญ่
แม้ว่าสาขาหลักของต าหนักจารึกเทวะจะน่าฟัง แต่ก็ยังคงมี ต าหนักใหญ่
เพียงแค่หนึ่งเดียว ทว่าในเมืองมังกร มีหลาย ต าหนักที่สร้างขึ้นจากเหล็ก
วิญญาณสีเงิน
“เมืองอี้ช่างร ่ารวยทรัพยากรนัก!” ฉินหยุนมองเพียงครั้งเดียว ล้วนบอกได้
ว่าอาคารสิ่งปลูกสร้างที่นี่ ได้รับการคุ้มกันโดยค่าย อาคมใหญ่ โดยเฉพาะ
กับหอสูงซึ่งใหญ่ที่สุด เหล่าถานกล่าว
“เมืองอี้เดิมเปี่ยมด้วยผู้มีพรสวรรค์ เพราะ หลายคนตายจาก ทรัพยากร
จ านวนมากจึงถูกรวบรวมมา! ขั้ว อ านาจใหญ่ของที่นี่ บ่อยครั้งจะส่ง
ก าลังคนนับพันออกสู่ภายนอกไปรวบรวมทรัพยากร บ้านหลายหลังด้าน
นอกถูก ท าลาย หลายสิ่งที่เก็บซ่อนไว้ในห้องเก็บของ ต่างถูกรวมมาที่นี่
สมาคมที่มีสมาชิกกว่าหนึ่งพันคน พวกเขาย่อมเป็นกลุ่มขนาด ใหญ่ ย่อม
ไม่หวาดเกรงอันใด!
“เช่นนั้นแล้วเงินตราที่นี่ใช้อะไร? ยังเป็นเหรียญผลึกหรือไม่?” เฉินหยุนเอ่ย
ถาม
“เหรียญผลึกหรือไม่ก็เหรียญม่วง! อย่างไรแล้ว เพื่อคงสภาพ ค่ายอาคม
ใหญ่ ยังไงก็จ าเป็นต้องใช้เหรียญผลึกจ านวนมาก” ผู้อาวุโสโจวกล่าว
“เหรียญผลึกสามารถใช้ซื้อหาหลายสิ่งได้ ที่นี่ ไข่ผลึกแก้วสัตว์อสูรก็
สามารถซื้อหาได้ แต่พวกมันแพงยิ่ง บางที่ฟองหนึ่งอาจหลายร้อยล้าน”
ฉินหยุนไม่มีเหรียญผลึกมากมายขนาดนั้น ต่อให้เขาคิดอยาก ซื้อหา ก็ไม่
มีเหรียญผลึกพอให้ไปซื้อ
“ไปหาหมอผีกันก่อนดีกว่า!” ฉินหยุนกล่าวขึ้น ตอนพวกเขา อยู่นอกเมือง
พวกเขาปลอมตัวกันอย่างเรียบง่าย โดยเฉพาะ เหล่าถาน ที่ปลอมตัวเอง
เป็นชายชรายิ่ง ผู้อาวุโสโจวกล่าว
“พวกเรายังไม่ไป พวกเราจะเดินไปคุยไป เรื่อยเปื่อย จากนั้นค่อยไปยังโรง
เตี้ยมเทียนอี้ เมื่อถึงเวลา ค่อย ไปพบเจอกันที่นั่น” เหล่าถานพยักหน้ารับ
และกล่าวกับฉินหยุน
“อาหยุน พวกเรา สองคนไปกันก่อน ตามข้าอย่าให้ห่าง!”
หลังบอกลากับผู้อาวุโสโจวและบุตรชายทั้งสอง ฉินหยุนและ เหล่าถานจึง
ใช้ถนนตรอกซอยคับแคบ มุ่งหน้าสู่ทางตอนเหนือของเมือง ตรอกซอยคับ
แคบแห่งนี้มีเสียงดังอีกทึกไม่น้อย มีขายทั้ง กระดูกสัตว์อสูร ของแปลก
ประหลาดนานาชนิด แก่นอสูร รวมถึงอวัยวะของพวกมัน พวกเขาส่วน
ใหญ่ล้วนขายของที่ ได้รับจากสัตว์อสูร
“ที่นี่มีสัตว์อสูรอยู่หลายประเภทนัก!” ฉินหยุนอดไม่ได้ร้อง อุทานออก
เหล่าถานกล่าว
“ใช่! เพราะเมืองอี้เต็มไปด้วยพวกสัตว์อสูร พวกมันสังหารคนไปมาก แต่
มนุษย์ก็สังหารพวกมันไปมาก เช่นเดียวกัน! ทว่าอัตราเกิดใหม่ของสัตว์
อสูรรวดเร็วกว่า ทั้ง พวกมันที่เกิดขึ้นมาก็ล้วนแข็งแกร่ง ไม่ใช่อะไรที่มนุษย์
เทียบ เปรียบได้จริง ๆ”
“อาจารย์ถาน หมอผีผู้นั้นอยู่ที่ใดขอรับ? ต้องใช้เวลาอีกนาน หรือไม่?”
ฉินหยุนเอ่ยถาม ตอนนี้เขาเปลี่ยนวิธีการเรียกหา เหล่าถานเสียใหม่
“ไม่นาน เขาซ่อนตัวอยู่ที่นี่ เพราะเขาต้องการวัตถุดิบจ านวน มากเพื่อ
จัดท ายาวิเศษหลายประเภท” เหล่าถานยิ้ม
“นามคือ อู่ซี่ยง ค่อนข้างมีชื่อเสียงที่นี่” หลังเดินอยู่พักหนึ่ง เหล่าถานค่อย
โบกมือให้ฉินหยุนเข้าไปใน ซอย เขาหันไปพร้อมเข้าซอย เดินผ่านประตู
บ้านหลายหลัง หลังจากเดินเป็นวงกลมรอบหนึ่ง ค่อยเข้ามายังบ้านที่มี
สวน ขนาดเล็ก ประตูนี้ค่อนข้างพิเศษ มันมีกะโหลกสัตว์อสูรแขวนเอาไว้
พร้อมทั้งหัวหมูสองหัวที่เผยฟันขาว
“ปรมาจารย์อู่ผู้นี้ช่างพิเศษนัก!” ฉินหยุนมองหัวหมูและยิ้ม กล่าว อย่าง
กะทันหัน กรามของหัวหมูพลันขยับขึ้นลง มันพูดออกมา “นั่นใคร?”
ฉินหยุนตระหนก!
“เป็นข้า เหล่าถาน!” เหล่าถานยิ้มตอบ
“ข้าพาสหายตัวน้อย มาด้วย ที่เคยเอ่ยถึงครั้งก่อน จ าได้หรือไม่?” หัวหมู
ป่ าเผยดวงตาว่างเปล่า ฉับพลันมีแสงสีเขียวปรากฏ พวกมันปกคลุมร่าง
ฉินหยุนและเหล่าถาน
“อาถาน! ได้ เจ้าผลักประตูให้เปิดออกและเข้ามา” เหล่าถาน เร่งรีบผลัก
ประตูเปิดออก บอกให้ฉินหยุนเร่งเข้าไป พอฉินหยุนเข้ามาแล้ว เขาจึงเห็น
โครงกระดูกคนตั้งเรียงราย สองฟากข้างทางเดิน จะกล่าวว่าเป็นมนุษย์ก็
ไม่ได้ เพราะโครง กระดูกแม้เป็นมนุษย์ แต่แขนขาทั้งสี่กลับไม่ใช่ รวมถึง
หัวด้วย บางหัวก็เป็นของสัตว์อสูร ดูเหมือนจะสร้างขึ้นจากกระดูกมนุษย์
และสัตว์อสูร
“อย่าเข้าไปใกล้ กระดูกพวกนี้แข็งแกร่งนัก!” เหล่าถานเอ่ย เตือนเสียงเบา
“ข้านึกว่าของประดับ!” ฉินหยุนตกใจเล็กน้อย กระนั้นเขาก็หา ได้คิด
เคลื่อนไหวทุ่มบ่ามเช่นกัน พวกเขาเข้ามาในบ้านจนกระทั่งถึงห้องโถง
กว้าง จึงได้เห็นชาย ชราร่างผอมที่มีหางหมูยาวถึงบนฟ้า ชายชราเข้ามา
ใกล้ฉินหยุน หนวดเคราของเขายาวลากพื้น หนวดเหล่านี้ค่อนข้างมี
เอกลักษณ์ยิ่ง บ้างก็ถูกเอาไว้ทั้งยังมี หลายสี ไม่ทราบว่าพวกมันแท้จริงไว้
ใช้ท าอะไรกันแน่
ชายชราร่างเล็กผู้นี้ คือหมอผีนามอู่เซี่ยง แม้เป็นชายร่างเตี้ย และผอม
กระนั้นกลับมีพลังอย่างประหลาด รอยยิ้มผ่านดวงตา ชรานั้นมีประกาย
เปี่ยมด้วยแสง ชายชราประหลาดคนนี้ดูท่าที่สุภาพ เขายิ้มและกล่าวค า
ออก
“นั่งก่อน นั่งก่อน!” ฉินหยุนและเหล่าถานนั่งลงโดยทันที เก้าอี้นี้สร้างขึ้น
จาก กระดูกสัตว์ หลายอย่างในห้องโถงแห่งนี้ล้วนเป็นกระดูกสีขาว มัน
ชวนให้ผู้พบเห็นรู้สึกประหลาด
“อาถานบอกเล่าเรื่องเจ้าให้ข้าฟัง เจ้ายังเยาว์นัก แต่กลับเป็น อาจารย์
จารึกระดับต้น และยังสามารถท ายันต์สะกดกาย ระดับกลางได้!” พ่อมด
มองฉินหยุนอย่างสนอกสนใจ
“ผู้อาวุโสอู่ ตอนนี้ข้าสามารถขัดเกลายันต์สะกดกายชั้นเลิศได้ ขอรับ”
ขณะฉินหยุนกล่าว เขาน าเอายันต์สะกดกายชั้นเลิศที่ ท าขึ้นออกมา ส่ง
ให้แก่อู่เซี่ยง เขายิ้มกล่าว
“นี่ถือเป็นของขวัญ การพบเจอแก่ผู้อาวุโสอู่!” อู่เซี่ยงประหลาดใจ เขาเร่ง
รีบรับยันต์กระดูกไปส ารวจดู กระทั่งแทบแนบเข้าไปตรงหน้าดวงตาจน
เกือบสัมผัส
“ความวิจิตรระดับห้า เจ้าท ามันเองจริงหรือนี่?” อู่เซี่ยงเอ่ย ถามประหลาด
ใจ เป็นเขาตระหนักถึงความวิจิตรได้
“ขอรับ!” ฉินหยุนเองก็ลอบประหลาดใจ หมอผีผู้นี้ถึงขั้น มองเห็นระดับ
ความวิจิตร ชัดเจนว่าเขาต้องค้นคว้าเรื่องอักขระ ประหลาดมาเป็นอย่างดี
“เจ้าท าให้ข้าสักแผ่นได้หรือไม่?” อู่เซียงกล่าว “ข้าทราบ เจ้า มาพบข้า
เพราะอยากก้าวสู่ขอบเขตวรยุทธ์เต๋า ไม่มีปัญหา สบายใจได้!” พอฉิน
หยุนได้ยินดังนี้ เขาค่อยโล่งอก พยักหน้ารับและยิ้มตอบ
“ขอรับ ข้าจะท าที่นี่เดี๋ยวนี้!”
“อาถาน หากเจ้ารู้สึกเบื่อให้ออกไปเดินเล่นได้ อย่าได้ห่วง ข้า ไม่กินเด็ก
น้อยคนนี้หรอก!” ฉินหยุนรู้สึกสยองขวัญยามได้ยิน ค ากล่าวนี้ของอู่เซี่ยง
เหล่าถานหัวเราะแห้งตอบ
“ขอรับ ข้าให้อาหยุนอยู่ที่นี่ ภายหลังข้าค่อยกลับมา อู่เซี่ยงออกไปส่งเหล่า
ถาน ทว่า ชั่วขณะที่กลับมา เขาเห็นฉัน หยุนน าอุปกรณ์เครื่องมือท างาน
ออกมาพร้อมแผ่นกระดูก เป็น เขาตระเตรียมแกะสลักผังวิญญาณ
“ข้าจะเริ่มงานเดี๋ยวนี้!” ฉินหยุนน าเอาปากกาลึกล ้าสะท้อนจิต ออกมา แต่
ขณะที่คิดจรดแกะสลักผังวิญญาณ เขาได้ยินเสียง ร้องประหลาดดังขึ้น
“อ่า! เป็นจารึกวิญญาณ ราชันสัตว์!” อู่เซี่ยงแตกตื่น ดวงตา กลอกมอง
ใบหน้าเปี่ยมด้วยความไม่เชื่อขณะชี้ที่ปากกาลึกล ้า ฉินหยุนตระหนก
ราชันสัตว์ ถือเป็นความลับใหญ่หลวงที่สุด อย่างหนึ่งของเขา ทว่าตอนนี้
กลับถูกมองออกอย่างปรุโปร่ง
“ผู้อาวุโสอู่ ขอร้องท่านอย่าได้พูดต่อเรื่องนี้เ” ฉินหยุนเผยเสียง เป็นกังวล
“อย่าได้ห่วง ต่อให้ข้าสังหารเจ้าที่นี่ ข้าก็ไม่มีปัญญาใช้จารึก วิญญาณ
ราชันสัตว์” อู่เซี่ยงสูดลมหายใจเข้าลึกและถอน หายใจ
ได้ยินดังนี้ ฉินหยุนค่อยวางใจได้มาก เขากล่าว “เป็นเพราะข้า ได้รับ
ปากกาด้ามนี้ ความแม่นย าจึงเพิ่มมากขึ้น เดิมข้าท า ระดับความวิจิตรได้
เพียงสามถึงสี่ขอรับ”
“เท่านั้นก็ดีเยี่ยมแล้ว!” อู่เซียงกล่าว
“ไม่ต้องท าแล้ว ข้าเชื่อว่า เจ้าสามารถท าได้แม่นย าจริงดังว่า! ข้าจะไป
ผสมยาแก่เจ้า หลังจากนี้ แต่เจ้าต้องสัญญาว่าจะช่วยขัดเกลายันต์ให้แก่
ข้าสัก สองแผ่น!”
ตอนที่ 294 อักขระชีวิตมหาวิถีแห่งเต้า
ฉินหยุนเดิมคิดว่าต้องใช้ไข่ผลึกแก้วสัตว์อสูรเป็นสิ่งแลกเปลี่ยน ตอนนี้
เพียงแค่ต้องช่วยเหลือท ายันต์สักสองแผ่น เขาจึงพยัก หน้ายิ้มรับ
“ไม่มีปัญหาขอรับ แต่ยันต์นั้นคงไม่ได้ยากเกินไปใช่ หรือไม่?”
“ไม่ได้ยากเพียงนั้น ข้าคิดว่าเจ้าน่าจะท ามันได้! วางใจเถอะ ข้า จะให้เจ้า
ได้ก้าวสู่ขอบเขตวรยุทธ์เต๋าก่อน แบบนี้เจ้าจะได้ท า ยันต์ง่ายดายขึ้น!”
อู่เซี่ยงหัวเราะ เขาน าเอาถังขนาดใหญ่ออก จากมิติเก็บของ ฉินหยุนไม่
ทราบว่าภายในคืออะไร ที่เห็นคือมัน ด าสนิท ฉินหยุนกล่าวถาม
“ผู้อาวุโสอู่ ด้วยความสามารถของท่าน ท่านสมควรหาอาจารย์จารึกที่
ดีกว่าข้าเพื่อช่วยเหลือท่านท า ยันต์วิญญาณได้ เหตุใดจึงเป็นข้าขอรับ?”
อู่เซี่ยงน าไม้กวนออกมา จุ่มลงและเริ่มคนของเหลวสีด าในถัง พร้อมตอบ
ค า “เพราะข้าไม่เชื่อในตัวอาจารย์จารึก! ข้ากังวล ว่าพวกมันจะขโมยผัง
วิญญาณไปจากข้า!”
ฉินหยุนยิ่งมึนงงกว่าเก่า เขาเอ่ยถามอีกครั้ง “อย่างนั้นแล้ว ข้า เชื่อถือได้
หรือขอรับ?”
อู่เซี่ยงพยักหน้ารับ “ข้ามองคนออกได้อย่างแม่นย า! ข้าเชื่อใน ตัวเจ้า ยิ่ง
ไปกว่านั้น เจ้ามีผังวิญญาณที่ค่อนข้างดีอยู่แล้ว ดังนั้นคงไม่สนผัง
วิญญาณของข้าหรอก”
“ส่วนอาจารย์จารึกคนอื่น ผังวิญญาณที่พวกมันมีล้วนอ่อน ต้อย หากพวก
มันได้รับผังวิญญาณของข้า พวกมันย่อมน าผัง วิญญาณของข้าไปขาย!
ภายหลัง ทุกคนในเมืองนี้จะรู้ว่ายัง วิญญาณของข้าคืออะไร ในเมื่อเจ้า
เป็นผู้ครอบครองผัง วิญญาณระดับสูงจ านวนมาก ย่อมไม่กระท าเช่นนั้น
แน่!”
“ผู้อาวุโสอู่โปรดวางใจ ข้าไม่คิดแพร่กระจายผังวิญญาณของ ท่านออกไป
อย่างแน่นอน” ฉินหยุนยิ้มตอบ
“สิ่งของหายากล้วนมูลค่าสูงล ้า หากผู้อื่นเชี่ยวชาญผังวิญญาณ ยันต์ที่
หลอม ขึ้นโดยใช้ผังวิญญาณย่อมไม่มีค่า” อู่เซี่ยงพยักหน้ารับ
“ถูกต้อง เป็นเช่นนั้น!”
“ผู้อาวุโสอู่ขอรับ สิ่งที่อยู่ในถังนั่น คือยาเหลวที่ท่านผสมขึ้น หรือ? วัตถุดิบ
มันคืออันใดกันขอรับ?” ฉินหยุนเอ่ยถามอย่าง สงสัยขณะมองวัตถุสีด า
สนิท
“ความลับ... แต่ไม่ต้องกังวล ข้าย่อมช่วยเหลือเจ้าก้าวสู่ ขอบเขตวรยุทธ์
เต๋าได้อย่างแน่นอน” อู่เซี่ยงเผยน ้าเสียงมั่นใจ ฉินหยุนยืนข้างถังดังกล่าว
รับชมอู่เซี่ยงผสมตัวยา อู่เซี่ยงคนของเหลวในถังไปเรื่อย ใส่ยาเหลวตัวอื่น
ไปครั้งแล้ว ครั้งเล่า พวกมันล้วนสีสันหลากหลาย กลิ่นยังแปลกประหลาด
ฉินหยุนไม่ทราบว่าพวกมันเหล่านั้นคืออะไร เดิมของเหลวสีด าและข้น
เหนียว ผ่านเวลาไปนานเข้ามันค่อย กระจ่าง!
“น่าทึ่งนัก!” ฉินหยุนเผยเสียงประหลาดใจ
“ใกล้พร้อมแล้ว!” อู่เซี่ยงหัวเราะ จากนั้นจึงใช้เปลวเพลิงสี ม่วงใส่ลงไปใน
ของเหลว ของเหลวในถังขนาดใหญ่นี้กลายเป็นเดือดพล่าน จากนั้นจึง
ค่อยมีสีสันและหนืดน้อยลง เพียงไม่กี่อึดใจ มันกลายเป็นโปร่งแสง
อู่เซี่ยงตักด้วยถังและส่งต่อให้ฉินหยุน “มีห้องลับอยู่ด้านในนั้น เจ้าเข้าไป
แล้ว ให้ผสมถังน ้านมวิญญาณผลึกแก้วในน ้า หลังจากนั้น แช่กายในน ้า
หลังฝึกฝนอยู่หลายวัน วัชระแก่นภายในที่อยู่ในร่าง จะค่อยก่อเกิดขึ้นเป็น
อักขระชีวิตเต๋า และเจ้าจะก่อเกิดแก่นเต๋าขึ้นมาได้!”
ฉินหยุนรับถังน ้านมวิญญาณผลึกแก้ว ภายในใจตอนนี้เปี่ยม ด้วยความ
อึ้งทั้งขณะถาม “มันง่ายผสมขึ้นมาหรือขอรับ?”
“นี่เป็นเพียงกระบวนการผสมระยะสุดท้าย ดังนั้นจึงรวดเร็ว ข้าสะสมของ
หลายอย่างเอาไว้มานานยิ่ง ตอนนี้เหลือไม่มาก แล้ว!” อู่เซียงกล่าว
“โชคดีที่เจ้ามาเร็ว หากมาช้ากว่านี้ อาจ ไม่เหลือแล้วก็ได้!”
ฉินหยุนยินดียิ่งขณะเดินเข้าห้องลับ เขาน าเอาอ่างอาบน ้า ขนาดใหญ่
ออกมา เทน ้านมวิญญาณผลึกแก้ว และเติมน ้าเข้า ไป จากนั้นจึงค่อยแช่
กายในน ้า
“เราต้องแช่ตัวหลายวัน สงสัยนักว่าจะได้ผลดีหรือไม่!” ขณะ แช่กายใน
อ่างน ้า ฉินหยุนหลับตาลงขณะสัมผัสถึงน ้านมผลึก แก้วที่ไหลเวียน เพียง
ไม่นาน ฉินหยุนพลันลืมตาขึ้น เป็นเขารู้สึกหนาวเหน็บถึงขีดสุด
“เกิดอะไรขึ้นกัน? มันหนาวเย็นเพียงนี้?” ด้วยความแตกตื่น เขาเร่งรีบ
โคจรอสนีบาตอัคคีทองม่วงในร่างกายเพื่อขับไล่ ความหนาวเย็นเกิน
พรรณนาออก ทว่า มันไม่ได้ผลอย่างสิ้นเชิง!
“เปลวเพลิงของเรา ไม่อาจต้านทานความเย็นนี้!” ฉินหยุน ตระหนก ขณะ
คิดออกจากอ่างอาบน ้า เขาค่อยรู้ตัวว่าร่างกาย ตอนนี้แข็งที่อไปแล้ว เขา
รู้สึกหนาวเย็นขนาดไม่อาจขยับตัว!
“หมอผีชราผู้นี้มีปัญหาหรือไม่?” เขาอดไม่ได้ที่จะเกิดค าถาม ขึ้นในใจ
ตอนนี้เอง ไม่เพียงแต่ร่างกายไม่อาจขยับ จิตส านึก ของเขายังเริ่มพร่า
เลือนทีละน้อย ฉินหยุนรู้สึกไม่สบายตัวเพราะความหนาวเย็นสุดขั้ว
จากนั้น เขาค่อยสูญเสียจิตส านึกผล็อยหลับไปในอ่างอาบน ้า ผ่านไปห้า
วัน ฉินหยุนตื่นขึ้น ร่างกายสั่นกระตุกรุนแรงขณะ มองรอบด้าน เขายังคง
อยู่ในอ่างอาบน ้า ทว่าน ้าภายในแห้งเหือด ไม่เหลือแม้ สักหยด
“เราหมดสติไปเพราะความหนาวเย็น จากนั้น เกิดอะไรขึ้น กัน?” ฉินหยุน
เดินออกจากอ่างอาบน ้า สวมใส่เสื้อผ้า เป็นเขา งุนงงอย่างยิ่งขณะ
ตรวจสอบวัชระแก่นภายในทั้งสาม พวกมัน ไม่มีแก่นใดที่เลื่อนระดับ ทว่า
เขายังคงรู้สึกได้ถึงร่องรอย เป็นเพราะวัชระแก่นภายในทั้ง สามล้วนเผย
สัญญาณที่แข็งแกร่งขึ้น
“มีอักขระตื้นเขินอยู่บนพื้นผิวของวัชระแก่นภายในทั้งสาม พวกมันสมควร
เป็นอักขระชีวิตของมหาวิถีแห่งเต๋า แต่พวกมัน ยังไม่ได้เผยออกอย่าง
เต็มที่ น่าจะจ าเป็นต้องแซ์ในยาเหลว เพิ่มขึ้นอีก!”
ฉินหยุนตอนนี้มั่นใจ ว่ายาเหลวประหลาดช่วยเหลืออย่าง มหาศาลจริง
ทว่า เพราะครอบครองวัชระแก่นภายในถึงสาม หากเขาต้องการเปลี่ยน
พวกมันทั้งหมด ก็จ าเป็นต้องใช้ยาเหลว มากขึ้น อู่เซี่ยงขว้างปาโครง
กระดูกที่ห้องโถงด้านนอก พอเห็นฉินหยุนออกมา เขาค่อยเดินเข้ามาด้วย
ความยินดี ชั่วขณะที่เดินเข้ามา เขาสัมผัสได้ถึงพลังงานที่ผันแปรในร่าง
ฉินหยุน สีหน้าแปรเปลี่ยนขณะร้องอุทาน
“เจ้ายังไม่เลื่อน ระดับ!”
“เรื่องนี้ ข้าไม่ทราบว่าเพราะอะไร แต่ข้ารู้สึกว่ายาของท่านมี ประโยชน์
อย่างยิ่ง!” มันไม่ใช่เรื่องง่ายที่ฉินหยุนจะบอกความจริงออกไป เขาไม่
ต้องการให้ผู้อื่นทราบว่ามีวัชระแก่นภายใน ถึงสาม
“แปลก! ด้วยสถานการณ์ตามปกติ เรื่องนี้ไม่สมควรเกิดขึ้น!” อู่เซี่ยงขมวด
คิ้ว
“ผู้อาวุโสอู่ ข้ามีเพียงหนึ่งเส้นวิญญาณ เรื่องนี้เกี่ยวข้องหรือไม่ ขอรับ?”
ฉินหยุนเอ่ยถาม เขารู้สึกได้เลือนรางระหว่างแช่กาย ในยาเหลว ดังนั้นเขา
จึงไม่ทราบว่าวิญญาณเทวะเก้าตะวัน ช่วยเหลือเรื่องดูดกลืนพลังงานทั้ง
เก้าหรือไม่
“ไม่! ยาของข้าพิเศษมาก เส้นวิญญาณล้วนไม่ใช่ข้อจ ากัด!” อู่ เซี่ยงเดิน
วนรอบตัวฉินหยุน ดวงตาที่ลึก เฉียบแหลม และชรา ภาพนั้นส ารวจมอง
ฉินหยุน เขาลูบครางครุ่นคิดเผยสีหน้าสับสน
“ในเมื่อเกิดเรื่องแบบนี้ มี ความเป็นไปได้เพียงหนึ่ง นั่นคือเจ้าฝึกฝนวัชระ
แก่นภายในถึงสอง! ทว่า ที่ตันเถียนของเจ้า ข้าสัมผัสได้เพียงหนึ่งเท่านั้น
นี่!” ใจฉินหยุนเต้นรัวเร็ว เขาไม่คิดว่าอู่เซี่ยงจะคาดเดาได้ ปราดเปรื่อง
เพียงนี้
“ผู้อาวุโสอู่ ข้ามีวัชระแก่นภายในอยู่สองจริง” ผ่านไปการ ครุ่นคิดครู่หนึ่ง
ฉินหยุนจึงค่อยกระซิบกล่าว
“ขออภัยต่อผู้ อาวุโส ที่ข้าไม่ได้แจ้งเรื่องนี้ต่อท่านก่อน! วัชระแก่นภายใน
อีก หนึ่งของข้าอยู่ที่แขนซ้ายขอรับ!” อู่เซี่ยงก็ทราบ ว่าฉินหยุนฝึกฝนโท
เทมราชสีห์สวรรค์ พอได้ยิน ค าของฉินหยุน คราแรกเขาประหลาดใจ ก่อน
จะยิ้มออกและ กล่าวตอบ
“ไม่เป็นไร มันไม่ใช่เรื่องที่ควรแพร่งพรายอยู่แล้ว ในเมื่อเจ้ามีวัชระแก่น
ภายในถึงสอง ข้าจะช่วยเจ้าผสมยาเหลว อีกชนิดหนึ่ง ซึ่งข้าเองก็ยังไม่
เคยลองมาก่อน
“ผู้อาวุโสอู่ ท่านต้องใช้เวลาผสมยาเหลวนานเพียงใดหรือ ขอรับ?” ฉิน
หยุนเอ่ยถาม
“ไม่กี่วัน!” อู่เซียงตอบ
“เอาอย่างนี้เป็นไรขอรับ ระหว่างท่านผสมยาเหลว ข้าช่วย ท่านท ายันต์ทั้ง
สองแผ่นนั้น ต่อให้ท่านไม่อาจช่วยข้าเลื่อน ระดับ ข้าก็ยังยินดีท ายันต์สอง
แผ่นนั้น อย่างไรแล้ว ผู้อาวุโสอีก ใช้วัตถุดิบไปมาก!”
ฉินหยุนอยากประหยัดเวลา และใช้เวลาที่มีหลายวันท ายันต์ ให้แก่อู่เซี่ยง
ไปด้วย อู่เซี่ยงเดินไปมาในห้องโถงพักหนึ่งจึงค่อยตอบ
“เจ้ามั่นใจหรือ ว่าท าได้?” ฉินหยุนส่ายศีรษะ
“ข้าไม่อาจทราบขอรับ ต้องให้ข้าพิจารณา ผังจารึกเหล่านั้นก่อน!”
“เจ้าสามารถใช้ผังสะกดกายระดับสูง เพื่อท าเป็นยันต์สะกด กายชั้นเลิศ
เพียงเรื่องนี้ ก็เป็นหลักฐานแล้วว่าระดับของเจ้า สูงส่งเพียงใด!” อู่เซียงก
ล่าวต่อ
“ข้าเชื่อในตัวเจ้า ว่าต้องท าได้ อย่างแน่นอน!” เขาน าเอาแผ่นหนังสัตว์
ขนาดใหญ่ออกมา วางไว้ด้านบนโต๊ะ วงกลม
“นี่คือผังวิญญาณชั้นเลิศ ยากหรือไม่? กล่าวตามตรง กระทั่งอาจารย์
จารึกระดับสูงหลายคนก็ไม่น่าท ามันได้ มีแต่ อาจารย์จารึกระดับ
วิญญาณจึงมั่นใจที่จะท ามันขึ้นมาได้เ”
“กล่าวตามตรง ไม่ใช่ข้าไม่เชื่อใจอาจารย์จารึกผู้อื่น แต่เพราะ พวกนั้นไม่มี
ก าลังพอจะท ามันได้ อาจารย์จารึกระดับสูงหลาย คนล้วนเป็นพวกลูกเป็ด
ไม่ได้เชี่ยวชาญถึงครึ่งทางเลยด้วยซ ้า!”
ฉินหยุนส ารวจมองพิจารณาอักขระประหลาดบนโต๊ะ เขา หมกมุ่นกับมัน
พักหนึ่ง ก่อนจะเผยใบหน้าด้วยความตื่นตกใจ
อู่เซี่ยงต้องการเห็นใบหน้าเช่นนี้ ดังนั้นจึงไม่คิดรบกวนและรอ คอยอย่าง
อดทน “ผู้อาวุโส ท่านบอกข้าได้หรือไม่ว่าผังวิญญาณพวกนี้ใช้ท ายัน
วิญญาณอันใด?”
ฉินหยุนเอ่ยถามเสียงเครียด “โอ ข้าไม่อาจบอก ต้องขออภัยแล้ว!”
อู่เซี่ยงล าบากใจที่จะ กล่าว ฉินหยุนกระซิบกล่าว “ผังวิญญาณเหล่านี้ คือ
การต่อชีวิต ใช่ หรือไม่ขอรับ?” ร่างกายของอู่เซี่ยงพลันสั่นเทิ้ม!
“เจ้า.... เจ้าทราบได้อย่างไร? มีผังวิญญาณเช่นนี้เหมือนกัน หรือ?” อู่เซี่ย
งแตกตื่น
“เป็นไปไม่ได้ ผังวิญญาณนี้โบราณยิ่ง ข้าต้องใช้ความพยายามไป
มากกว่าจะได้รับมันมา!” ฉินหยุนกล่าว
“การท ายันต์นี้ขึ้นมา จ าเป็นต้องใช้วัสดุพิเศษ! หากท่านไม่มีวัสดุพิเศษ ก็
ไม่อาจท าขึ้นมาได้” อู่เซี่ยงเร่งรีบพยักหน้ารับ น าเอาแผ่นกระดาษสองแผ่น
ออกมา ฉินหยุนรับพวกมันไว้ในมือและลอบทิ้ง นี่เป็นเพราะกระดาษ สอง
แผ่นนี้ เหมือนอย่างที่หลันเฟิ งจินเคยมอบให้แก่เขา
“วัสดุนี้หาได้ยากยิ่ง กระทั่งว่าเจ้ามีผังวิญญาณชีวิต แต่ไม่มี วัสดุพิเศษ ก็
ไม่มีทางขัดเกลายันต์วิญญาณชีวิตขึ้นมาได้!” อู่เซี่ยงถอนหายใจกล่าว
“ข้าใกล้จะตายแล้ว ชีวิตของข้าแทบ หมดสิ้น มีแต่วิธีนี้ข้าจึงสามารถต่อ
ชีวิต! หากเจ้าท าได้ส าเร็จ ข้าจะอยู่ต่ออีกได้ราวสามสิบถึงสี่สิบปี หาก
ไม่เช่นนั้น อีกสอง หรือสามปีข้าก็ตายแล้ว!”
“ท่านได้รับวัสดุเหล่านี้มาได้อย่างไรขอรับ?” ฉินหยุนเอ่ยถาม อย่างสงสัย
“ข้าไม่ทราบ กล่าวไปแล้ว ผังวิญญาณชีวิตเหล่านี้ ข้าได้รับมา พร้อม
กระดาษพวกนี้ ทั้งหมดมีเพียงห้า อีกสามล้วนสูญเปล่า เพราะการจัดท าที่
ผิดพลาดล้มเหลว” เซี่ยวกล่าวด้วยสีหน้า เจ็บปวด
ฉินหยุนกล่าว “ผู้อาวุโสอู่ ขอกล่าวตามตรง ข้ามีฝั่งวิญญาณนี้ ทว่ามัน
ซับซ้อนกว่าที่ท่านมี! มันคือผังวิญญาณชีวิตระดับราชัน แต่พละก าลังของ
ข้ามีอย่างจ ากัด สามารถขัดเกลาได้แต่ ยันต์วิญญาณชั้นเลิศ”
อู่เซี่ยงพอได้ยิน ร่างกายของเขาเริ่มสั่นเล็กน้อย เขาพึมพ าออก “จริงหรือ?
นี่มันช่าง...”
ตอนที่ 295 งานฉลองตําหนักศักดิ์สิทธิ์
อู่เซี่ยงคือขอบเขตวรยุทธ์เต๋า พิจารณาได้ว่าเขาคือหนึ่งในผู้ แข็งแกร่งใน
ภูมิภาคชายแดนแห่งนี้ แต่ไม่ว่าจะแข็งแกร่ง เพียงใด เขาไม่อาจหลีกหนี
โชคชะตา ท้ายที่สุด เขาต้องอดทน ใช้ช่วงเวลาที่มีจนกระทั่งถึงแก่ความ
ตาย เขาเองก็ทราบว่าเวลาของตนมีอย่างจ ากัด เขากระทั่งคิดอยาก ฆ่า
ตัวตายหลายต่อหลายครั้งเพื่อจบความหวาดกลัวต่อความ ตาย
เขาเลือกฝากความหวังทั้งหมดเอาไว้กับผังวิญญาณนี้ เขาได้ สืบหา
อาจารย์จารึกหลายต่อหลายคน แต่พวกเขาทั้งหมดล้วน ท าพลาด
ท้ายที่สุดพวกเขาไม่อาจขัดเกลายันต์วิญญาณชีวิต และตอนนี้ พอเขาได้
ยินว่าฉินหยุนสามารถท ามันได้ เขายินดี จนแทบจะร้องออกมา
“เรื่องนี้เป็นความจริงขอรับ” ฉินหยุนตอบค า “ผู้อาวุโสอู่ ท่าน สามารถ
วางใจผสมยาของท่านไป! เมื่อท่านออกมา ข้าก็ท า ยันต์สองแผ่นนี้เสร็จ
เรียบร้อยแล้ว!”
“ข้าไปแล้ว ข้าไปแล้ว!” อู่เซี่ยงเร่งรีบเข้าห้องตนเอง เป็นเขา ตื่นเต้นยินดี
มากมายจริง ๆ พอฉินหยุนได้เห็นเช่นนี้ เขาอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจออก
มนุษย์ช่างอ่อนแอนักยามเผชิญหน้ากับความตาย อู่เซี่ยงเป็นที่รู้จักกันใน
นามพ่อมดหมอผี ดังนั้นเขาจึงรู้สึกว่า โลกนี้มีอีกหลายเรื่องน่าตื่นเต้น เขา
ยังไม่อยากตายไปทั้งแบบนี้ อย่างไรแล้ว หากเขายังศึกษาต่อไปอีกหลาย
ปี บางทีเขาอาจ ค้นพบตัวยาที่ยืดขยายชีวิตจริงก็เป็นได้ ฉินหยุนน าเอา
แผ่นกระดาษพิเศษทั้งสองเข้าห้องลับไป
“ล่าสุดเราช่วยพี่หลันท ามันขึ้นมา เพราะแบบนั้นจึงสามารถ ประเมินมัน
ได้ นอกจากนี้ เรายังมีปากกาลึกล ้าสะท้อนจิตที่ครั้ง ก่อนไม่มี!” ฉินหยุนม
องปากกาสีขาวราวหิมะงดงามด้ามสั้นใน มือ เขายิ่งมองก็ยิ่งหลงรักมัน
เขาหลับตาลง เริ่มพิจารณาผังวิญญาณชีวิตระดับราชันในใจ
ผ่านไปสองชั่วโมง เขาค่อยสูดลมหายใจเข้าลึกและตั้งสมาธิ ใช้ พลังใน
ปริมาณที่พอเหมาะถือปากกาลึกล ้า เขาถือมันไว้โดยไม่ เบาหรือหนักมือ
จนเกินไป หลังจากนั้นจึงเริ่มโคจรพลังจิต วิญญาณโลหิต ปากกาลึกล ้าใน
มือราวกับผสานเป็นมือของเขา ฉินหยุนตั้งจิตมุ่งมั่น ท าให้ตัวเองสามารถ
ด าดิ่งไปกับการ แกะสลัก อย่างไม่ทันรู้ตัว เขาท ายันต์วิญญาณชีวิตชั้น
เลิศส าเร็จ และมัน ก็ผ่านมาแล้วถึงสองวัน!
“ท าส าเร็จอีกครั้งแล้ว!” ฉินหยุนมองแผ่นยันต์และเผยรอยยิ้ม พึงพอใจ
ออกมา
“ดีกว่าครั้งก่อนมาก! หากเราก้าวสู่ขอบเขต วรยุทธ์เต๋า บางที่อาจท ายันต์
วิญญาณระดับราชันขึ้นมาได้!” เขาเก็บยันต์วิญญาณชีวิตและนั่งลงที่
เก้าอี้ หลับตาลงเพื่อพักผ่อน
หลังพักอยู่นาน เขาค่อยกลับมามีสภาพสมบูรณ์พร้อมอีกครั้ง จากนั้นเขา
จึงเริ่มท ายันต์วิญญาณชีวิตอีกครั้งหนึ่ง ครั้งนี้ เขา ใช้เวลาสองวัน
เหมือนเดิม ทุกอย่างเป็นไปอย่างไหลลื่น!
“ผู้อาวุโสอู่เซี่ยงต้องดีใจแน่ถ้าทราบว่าเราท าส าเร็จทั้งคู่!”
ฉิน หยุนไม่คิดรบกวนผู้อาวุโสอู่ เขารู้สึกได้ถึงความเชื่อใจ ดังนั้น แล้วจึง
ลอบยินดียามที่คิดว่าผู้อาวุโสอ๋จะได้มีชีวิตอยู่ต่อไปอีก
“ผู้อาวุโสอ าน่าจะยังไม่เสร็จ เราพักก่อนแล้วกัน!” ฉินหยุนพักผ่อนในห้อง
ลับครึ่งวันค่อยออกมา อู่เซี่ยงตอนนี้อยู่ในห้องโถงแล้ว เขาก าลังเดินไปมา
อย่างว้าวุ่น พอเห็นประตูห้องลับเปิดออก เขาเร่งรีบวิ่งเข้ามาถามไถ่
“เป็น อย่างไรบ้าง?”
“ส าเร็จขอรับ!” ฉินหยุนน ายันต์วิญญาณชีวิตทั้งสองแผ่น ออกมา เขายิ้ม
กล่าว
“ผู้อาวุโสอู่รับชมมันดู!” มือของอู่เซี่ยงสั่นเทิ้มด้วยความตื่นเต้น น ้าตา
ถึงกับหลั่งออก เขาเอาแต่พูดกล่าว “วิเศษ วิเศษ วิเศษ”
หลังยินดีชั่วระยะเวลาหนึ่ง เขาเร่งรีบน าเอาถังขนาดใหญ่ที่มี น ้านม
วิญญาณสีทองออกมา “อาหยุน ข้าใช้วัตถุดิบทั้งหมดที่ รวบรวมไว้ หาก
เจ้ายังไม่อาจเลื่อนระดับ ข้าคงต้องไปจากที่ แห่งนี้โดยทันทีเพื่อรวบรวม
วัตถุดิบขึ้นมาใหม่ ข้าจะท าจนกว่า เจ้าจะเลื่อนระดับได้ เพราะข้าไม่เคย
เจอผู้ใดที่มีวัชระแก่น ภายในถึงสองมาก่อน ข้าจึงไม่ทราบว่ามันจะส าเร็จ
หรือไม่”
“ผู้อาวุโสอู่ ล าบากท่านแล้วขอรับ!” ฉินหยุนเปิดใจกว้าง ยอมรับเรื่องราว
ด้วยรอยยิ้ม เขายกถังน ้านมวิญญาณขึ้นและ เข้าห้องลับไป ครั้งนี้ ฉินหยุ
นอยู่ในห้องลับถึงสิบวันจึงค่อยออกมา ก็เหมือนครั้งก่อน เขาสลบไป
เพราะความหนาวเย็น หลังจาก นั้น ราวกับหลับใหลไป พอรู้ตัวตื่นขึ้นมา
อ่างน ้าก็แห้งเหือดแล้ว
“ยังไม่ส าเร็จ!” ฉินหยุนส ารวจแก่นภายในทั้งสาม เขาประหลาดใจที่พบว่า
มี รอยจ านวนมากบนพื้นผิวของแก่นทั้งสาม พวกมันยังไม่อาจออกมา
อย่างสมบูรณ์ ราวกับมีเยื่อบางอยู่บนพื้นผิวของแก่น ท าให้มันไม่อาจยื่น
ขยายออกมาได้
“อักขระเต๋าแห่งชีวิตนี้ เป็นเมล็ดพันธุ์ที่จะเติบโตออก แต่เป็น เรื่องยากที่
มันจะผุดขึ้นมาเหนือพื้นดินได้!” ฉินหยุนมีแก่นภายในถึงสาม สองในนั้น
ได้รับการหล่อเลี้ยงโดย รอยสักโทเทม แก่นภายในตะวันทมหยิ่งลึกลับ
และทรงพลัง มากกว่า ดังนั้นแล้ว เขารู้สึกได้ว่าแก่นภายในทั้งสามทรง
พลัง อักขระเตาแห่งชีวิตบ่งบอกว่าพวกมันได้รับการบ ารุงเลี้ยงเป็น อย่าง
ดี แต่เขาต้องการพลังงานมากกว่านี้หากคิดท าให้พวกมัน เติบโตขึ้น
“อีกแค่นิดเดียว อีกแค่นิดเดียวอักขระชีวิตบนแก่นทั้งสามจะ ทะลวง
เปลือกออกมาได้! ไม่เลว!” ฉินหยุนถอนหายใจเบา จากนั้นค่อยเดินออก
จากห้องลับ อู่เซี่ยงรอคอยที่ห้องโถงให้ฉินหยุนออกมา
“ได้ผลหรือไม่?” อู่เซี่ยงไม่อาจสัมผัสถึงออร่าของฉินหยุน ดังนั้นภายในใจ
จึงหนาวเหน็บ
ฉินหยุนส่ายศีรษะ ทว่าเขายิ้มออกและกล่าวตอบ “ผู้อาวุโสอู่ แม้ข้าไม่อาจ
เลื่อนระดับได้ส าเร็จ แต่ข้าพึงพอใจต่อเรื่องราว ตอนนี้มาก! อย่างน้อย
พลังภายในของข้าก็เพิ่มขึ้นอย่าง มหาศาล และวัชระพลังภายในก็เพิ่มขึ้น
เช่นเดียวกัน ผลลัพธ์นี้ ถือว่าดีเยี่ยมขอรับ”
อู่เซี่ยงรู้สึกผิดขณะกล่าว “นี่ไม่ได้ เจ้ารักษาสัญญา ช่วยข้าขัด เกลายันต์
ทั้งสองแผ่น แต่ข้าไม่อาจช่วยเจ้าเลื่อนระดับ ข้าจะ ออกจากเมืองมังกร
เดี๋ยวนี้ เพื่อค้นหาวัตถุดิบท าการขัดเกลา น ้านมวิญญาณที่เหมาะสมแก่
เจ้า!”
“ผู้อาวุโสอู่ขอรับ อย่าได้แล้ว” ฉินหยุนเร่งรีบออกปากห้ามอู่ เซี่ยง
“ผู้อาวุโส หากท่านรู้สึกผิด ท่านช่วยเหลือข้าอย่างอื่น ได้ขอรับ!”
อู่เซี่ยงเร่งรีบกล่าว “อันใดกัน? บอกออกมา! กระทั่งว่าบุกน ้า ลุยไฟ ข้า
ช่วยได้ก็ยินดี!”
ฉินหยุนยิ้มตอบรับ “ผู้อาวุโสอู่ขอรับ ท่านจริงจังเกินไปแล้ว ข้าเพียง
ต้องการให้ท่านช่วยรวบรวมแร่เหล็กลึกล ้า หลังผ่านไป ชั่วระยะเวลาหนึ่ง
ข้าจะกลับมาที่นี่เพื่อน ากลับไปขอรับ”
“ไม่มีปัญหา ข้าจะช่วยเจ้ารวบรวมเป็นอย่างดี!” อู่เซี่ยงพยัก หน้ารับ และ
จดจ าเรื่องนี้เอาไว้ให้ขึ้นใจ นี่ถือเป็นหนึ่งในสิ่งที่ เขาต้องท าในภายหน้า
อย่างแน่นอน หลังจากนั้น อู่เซี่ยงจึงมอบไข่ผลึกแก้วสัตว์อสูรแก่ฉินหยุน
ห้า ฟอง
ตอนนี้ ฉินหยุนก าลังขาดแคลนไข่ผลึกแก้วสัตว์อสูรอยู่พอดี ดังนั้นจึงไม่คิด
ปฏิเสธ เดิมเขาคิดอยากไปเดินดูรอบเมืองมังกร สักครั้งหนึ่ง แต่เพราะต้อง
เร่งรีบกลับไปยังต าหนักจารึกเทวะ ดังนั้นเขาจึงไม่อาจอยู่ต่อได้นาน อู่เซี่ย
งเรียกเหล่าถานมา จากนั้นพวกเขาทั้งสองจึงออกไปส่ง เขานอกเมือง
มังกร และออกจากเมืองอี้ในที่สุด ฉินหยุนบอกลาต่อผู้อาวุโสทั้งสอง
จากนั้นจึงเร่งรีบใช้ก้าวอัคคี เมฆาเดินทาง
เขาต้องรีบกลับไปยังต าหนักจารึกเทวะ ทางหนึ่งเพราะอยาก ทราบ
เรื่องราวของน ้ามันสัตว์ และอีกทางหนึ่ง กระทั่งว่าเขา ได้รับบันทึกผังลึก
ล ้าของปืนใหญ่ราชันวิญญาณ เขาก็ยังต้อง ศึกษาถึงขั้นตอนกระบวนการ
ขัดเกลาปืนใหญ่ราชันวิญญาณขึ้นมา
ฉินหยุนเดินทางออกจากเมืองอี้ หลังเดินป่าอยู่หลายวัน ใน ที่สุดเขาค่อย
กลับถึงต าหนักจารึกเทวะ ระหว่างทางเขาพบเจอ ฝูงสัตว์อสูรไม่น้อย พวก
มันล้วนมีสัตว์อสูรระดับวิญญาณเป็น ผู้น า ดังนั้นเขาจึงได้แต่หลบเลี่ยง
ทันทีเมื่อเขากลับถึงต าหนักจารึกเทวะ และขณะก าลังจะเข้า ห้องชุดไป
นั้นเอง จ้าวฉวนก็มาพบเขาอย่างเร่งรีบ
“ผู้อาวุโสใหญ่ มีเรื่องอันใดหรือขอรับ?” ฉินหยุนเอ่ยถามด้วย รอยยิ้ม
ขณะรีบเชื้อเชิญจ้าวฉวนเข้าไปในห้องรับแขก
“เจ้าหนู เจ้าช่างน่าทึ่งนัก! ข้าได้ยินว่าเจ้าเข้าร่วมหน่วยจนคว้า เอาไข่ผลึก
แก้วมังกรอสูรมา!” จ้าวฉวนหัวเราะออก “ตาเฒ่าหลายคนมาหาข้า พวก
เขาล้วนต้องการเส้นสายของข้าเพื่อซื้อ ไข่ผลึกแก้วมังกรอสูร เจ้าสนใจ
ขายหรือไม่?”
ของดีเช่นนี้ เป็นปกติที่เขาจะเก็บไว้ใช้เอง ไม่มีผู้ใดคิดอยาก ขาย
เว้นเสียแต่พวกเขาเหล่านั้นต้องการทรัพยากรอื่น
“ข้าคิดอยากเก็บมันเอาไว้ขอรับ!” ฉินหยุนตอบ
“เป็นเช่นนี้ เจ้าเองก็ไม่ได้ขาดเงินแต่อย่างใด นอกจากนี้ เจ้าก็ อยู่ขอบเขต
กายวรยุทธ์ระดับที่เก้า หากเจ้าก้าวถึงขอบเขตวร ยุทธ์เต๋า มันจะช่วย
ส่งเสริมเจ้าในภายหน้าได้อย่างมหาศาล!” จ้าวฉวนพยักหน้ารับ ฉินหยุน
เอ่ยถาม
“มนุษย์อสูรช่วงนี้ได้เคลื่อนไหวใหญ่อะไร หรือไม่ขอรับ?” จ้าวฉวน ก่อน
หน้านี้เคยอยู่ที่นครราชาปีศาจชั่วระยะเวลาหนึ่ง เขาตอนนี้ยืนขึ้น เดินไป
มาในห้องโถงก่อนถอนหายใจ
“มีการ เคลื่อนไหวครั้งใหญ่ มนุษย์อสูรกลุ่มใหญ่ก าลังรุกรานหลาย
จักรวรรดิ”
“ราชาปีศาจ ขณะได้น ากองทัพออกไปและกลับสู่นครราชา ปีศาจแล้ว เจ้า
วางใจได้!” ฉินหยุนพยักหน้ารับและยิ้มตอบ
“แผนการของต าหนัก ตะวันตกพังพินาศเพราะพวกเรา สงสัยนักว่าตอนนี้
พวกนั้น รู้สึกอย่างไรกันแน่?”
จ้าวฉวนหัวเราะ “แผนการใหญ่นั่น นอกจากนี้ยังเกี่ยวข้องกับ อนาคตว่า
พวกมันจะควบคุมต าหนักดวงดาววิญญาณสีคราม ในภายหน้าได้หรือไม่
ตอนนี้พังพินาศ ย่อมต้องอารมณ์เลวร้าย เกินบรรยาย!”
ฉินหยุนนึกย้อนถึงสิ่งที่ได้รับจากการเข้าเทือกเขามนุษย์อสูร เขาอดไม่ได้ที่
จะรู้สึกยินดี ขวดที่เขาได้รับมา คล้ายมีน ้ามันสัตว์ ปริมาณมหาศาลไร้
สิ้นสุดอยู่ภายใน ทว่า พอนึกถึงเรื่องที่เชี่ยวหยางหลงเอ่ยถึงครั้งอยู่ใน
เทือกเขา มนุษย์อสูร ว่าเขาคิดแต่งงานกับหยางฉีเย่ว์โดยเร็วที่สุด เพื่อให้
นางเป็นเตาหลอมแก่การฝึกฝนของมัน เพื่อให้มันได้หล่อเลี้ยง ตัวเอง
หัวใจของเขายิ่งมายิ่งหนักอึ้ง
เขาไม่ทราบว่าจะช่วยหยางฉีเย่ว์ผ่านพ้นวิกฤตครั้งนี้ได้หรือไม่
“ว่าไป ฉินหยุน ต าหนักดวงดาววิญญาณสีครามวางแผนคิด จัดงานเฉลิม
ฉลองครั้งใหญ่ เพื่อแสดงความยินดีต่อต าหนัก ศักดิ์สิทธิ์ที่จัดตั้งครบห้า
พันปี เมื่อถึงเวลานั้น จะมีการประลอง ยุทธ์ และการประลองจารึก เจ้าคิด
อยากเข้าร่วมหรือไม่?” จ้าวฉวนเอ่ยถาม
“หากเจ้าอยากเข้าร่วมการประลองจารึก เจ้า สามารถลงทะเบียนผ่าน
ต าหนักจารึกเทวะได้!” ฉินหยุนเอ่ยถาม
“ข้าเข้าร่วมได้หรือขอรับ? หากข้าเข้าร่วมการ ประลองยุทธ์ เช่นนั้นคู่ต่อสู้
จะเป็นผู้ใด?” จ้าวฉวนตอบ
“ข้าคิดว่าคงมีแต่เจ้าที่เข้าร่วมการประลองจารึก หากเป็นการประลองยุทธ์
เป็นเรื่องปกติที่จะต้องประลองกับ ขอบเขตกายวรยุทธ์ระดับที่เก้าหลาย
ต่อหลายคน! กล่าวกันว่า จะมีนักบุญจากต าหนักศักดิ์สิทธิ์วิญญาณสี
ครามเข้าร่วมด้วย พละก าลังของพวกเขา ข้าไม่มั่นใจนัก โดยสรุปคือไม่
อ่อนแอ อย่างแน่นอน!”
“ขอรับ เช่นนั้นข้าคิดอยากเข้าร่วมการแข่งขันประลองยุทธ์ จริงด้วย
รบกวนท่านช่วยข้าลงทะเบียนการประลองจารึกด้วย ขอรับ!” ฉินหยุนยิ้ม
กล่าว
“ในเมื่อเป็นงานเฉลิมฉลองที่จัดขึ้น โดยต าหนักดวงดาววิญญาณสีคราม
รางวัลย่อมต้องดีไม่น้อยแน่!”
จ้าวฉวนประหลาดใจไม่น้อย “เจ้าคิดอยากเข้าร่วมทั้งหมดเลย หรือ? ถึง
ตอนนั้น ในการประลองทั้งสองอย่างนี้ มันมีโอกาสที่ เวลาจะชนกันได้นะ!”
“เรื่องนั้นถึงเวลาค่อยว่ากันดีกว่าขอรับ ข้าจะตัดสินใจไปตาม
สถานการณ์” ฉินหยุนรู้สึกว่า ศักยภาพทางวิถียุทธ์และจารึก ของตนมีไม่
น้อย หากจัดสรรเวลาให้ดี อันดับหนึ่งย่อมตกแก่ตน
“ย่อมได้! กล่าวกันว่าผู้ที่เข้าร่วมการประลองจารึก ล้วนอยู่ ระดับกลาง
และสูง ด้วยระดับของเจ้า น่าจะมีโอกาสมากที่จะได้ อันดับต้น!” จ้าวฉวน
ยิ้มตอบ
“เจ้าหนู เจ้าช่างโลภนัก คิด อยากชนะทั้งสองการแข่งขันในคราวเดียว!”
ฉินหยุนบุ้ยริมฝีปากรับค า “ผู้อาวุโสใหญ่ ท่านคิดว่าพื้นฐาน ของข้า ยังไม่
สูงพอรับประกันได้อันดับหนึ่งหรือขอรับ?”
ตอนที่ 296 นักบุญ
“ฉินหยุน การประลองจารึกจัดขึ้นโดยตําหนักศักดิ์สิทธิ์ วิญญาณสีคราม
ดังนั้นจึงมีอาจารย์จารึกภายในตําหนักพวก เขาเข้าร่วมด้วย ย่อมต้องมี
หลายคนที่เชี่ยวชาญ บรรดาตาเฒ่า เหล่านั้น ล้วนแบกรับหน้าที่การ
แกะสลักของตําหนักดวงดาว วิญญาณสีคราม พื้นฐานพวกเขาย่อมสูงส่ง
หากเจ้าคิดอยาก ได้รับอันดับหนึ่ง ย่อมเป็นเรื่องยาก!”
จ้าวฉวนไม่ได้คาดหวังต่อฉินหยุนไว้สูงเพียงนั้น อย่างไรแล้ว เขาก็ยังเด็ก
ฉินหยุนสีหน้ากลายเป็นจริงจังขณะเอ่ยถาม “อาจารย์จารึก ระดับสูงของ
ตําหนักจารึกเทวะ จะเข้าร่วมการแข่งขันนี้ด้วย หรือไม่ขอรับ?”
“แน่นอน! ตราบเท่าที่มีเวลาว่าง พวกเขาย่อมเข้าร่วมแน่ นี่ก็ เพราะพวก
เขาต่างอยากเปิดหูเปิดตา เพื่อได้เห็นว่าอาจารย์จารึกตําหนักดวงดาว
วิญญาณสีครามอยู่ระดับใด!”
จ้าวฉวน ตอบกลับ ฉินหยุนกลายเป็นรู้สึก ว่าอันดับหนึ่งคงไม่ใช่ง่ายดังที่
เขาคิด แล้ว “จัดขึ้นเมื่อใดขอรับ?”
ฉินหยุนเดิมคิดอยากขัดเกลาปืนใหญ่ ราชันวิญญาณขึ้นเสียก่อน
“จะเริ่มในอีกไม่กี่วัน ข้าจะตามเจ้าไปยังตําหนักดวงดาว วิญญาณสีคราม
ด้วย เป็นเจ้าก่อเรื่องกับตําหนักตะวันตกเอาไว้ เยอะ ดังนั้นอย่าได้ห่วง
ด้วยข้าร่วมทางไปด้วย พวกมันย่อมไม่ กล้าแตะต้องเจ้า!” จ้าวฉวน
หัวเราะ
“เช่นนั้นออกเดินทางกันเลยดีกว่าขอรับ พวกเราต้องเร่งรีบไป ให้ถึง
ตําหนักดวงดาววิญญาณสีคราม ข้าแทบอดใจรอไม่ไหว แล้ว!” ฉินหยุนก
ล่าวด้วยความตื่นเต้น อักขระเตําแห่งชีวิตที่ เขาได้รับมาบนผิววัชระแก่น
ภายในใกล้เสร็จสมบูรณ์แล้ว
หมายความถึง ระดับการฝึกฝนของเขาถึงขีดสุดของกายวร ยุทธ์ระดับที่
เก้าแล้ว เขาคิดอยากเห็น อยากเปรียบเทียบตนเองกับนักบุญของ ตําหนัก
ศักดิ์สิทธิ์วิญญาณสีคราม จ้าวฉวนนําฉินหยุนออกจากหอหลัก จากนั้นจึง
มุ่งหน้าไปยัง ตําหนักดวงดาววิญญาณสีคราม
ตําหนักดวงดาววิญญาณสีครามตั้งอยู่ในเทือกเขาเมฆมังกร ด้านนอกของ
ตําหนักดวงดาว ครั้งแล้วครั้งเล่า พวกสัตว์อสูรจะ ปรากฏตัวและออกล่า
ศิษย์ของตําหนักดวงดาววิญญาณสีคราม ที่ออกสู่ภายนอก หากโชคร้าย
พวกเขาอาจถูกสังหาร
ฉินหยุนและจ้าวฉานใช้เวลาสองวันจึงค่อยมาถึงหน้าตําหนัก ดวงดาว
วิญญาณสีคราม ตอนนี้เป็นช่วงเวลาเย็น พระอาทิตย์ ใกล้ตกดินแล้ว ด้วย
แสงพระอาทิตย์ที่สะท้อนกับผลึกแก้วสีนํ้า เงิน มันให้ความรู้สึกงดงามยิ่ง
ในเวลานี้ หอคอยผลึกแก้วสีนํ้าเงินของตําหนักดวงดาว วิญญาณสีคราม
ถือเป็นที่น่าจับตามองอย่างยิ่ง
ด้วยจ้าวฉวนออกนํา ฉินหยุนสามารถเข้าสู่ตําหนักดวงดาว วิญญาณสี
ครามได้โดยไร้ซึ่งปัญหา ระหว่างทาง เขายังได้รับ คําอธิบายถึงการแข่งขัน
ทั้งสองอย่างละเอียด ผู้คนส่วนใหญ่เข้าร่วมการแข่งขันประลองยุทธ์ใน
นามสถาบันที่ สังกัด
กล่าวกันว่าหากได้รับชัยชนะ ไม่เพียงแต่จะได้รับรางวัล จากตําหนัก
ศักดิ์สิทธิ์วิญญาณสีคราม พวกเขายังจะได้รับ รางวัลจากสถาบันต้นสังกัด
ด้วย สําหรับฉินหยุน เขาเป็นเพียงผู้เดียวที่เข้าร่วมด้วยตนเอง หาได้ มี
สังกัดใดไม่ อีกทางหนึ่ง การแข่งขันวิถีจารึก ก็เป็นสิ่งที่เขาเข้าร่วมโดย
ตนเองเช่นเดียวกัน ตําหนักดวงดาววิญญาณสีครามค่อนข้างใหญ่โต ทว่า
จ้าวฉวน คล้ายคุ้นเคยกับภายในเป็นอย่างดี ไม่ช้าเขาจึงนําฉินหยุนเข้าสู่
ด้านในตําหนักดวงดาว มุ่งหน้าสู่ตําหนักศักดิ์สิทธิ์
ตําหนักดวงดาว ประกอบด้วยสี่ตําหนักรายล้อม เหนือ ใต้ ตะวันออก และ
ตะวันตก ที่ใหญ่ที่สุดและอยู่ตรงกลาง คือ ตําหนักศักดิ์สิทธิ์วิญญาณสี
คราม ตําหนักศักดิ์สิทธิ์วิญญาณสีคราม คือตัวตนอันแข็งแกร่งที่สุด ของ
ทั่วทั้งตําหนักดวงดาว
ศิษย์ของพวกเขาล้วนเหนือชั้น ช่วย นําพามาซึ่งทรัพยากรมหาศาล อาคม
ใหญ่ของตําหนักดวงดาว ก็อยู่ภายใต้การดูแลของอาจารย์จารึกที่สังกัด
ตําหนักศักดิ์สิทธิ์ เช่นเดียวกัน
“ตําหนักศักดิ์สิทธิ์ เปรียบเสมือนเมืองแห่งหนึ่งภายในเมือง ใหญ่อีกที่หนึ่ง
ทั้งยังมีกําแพงสูงล้อมเอาไว้!”
ฉินหยุนยืนอยู่ ตรงหน้าประตูของตําหนักศักดิ์สิทธิ์วิญญาณสีคราม
สายตา มองขึ้นไปยังกําแพงสูงนับร้อยเมตร เขาอดไม่ได้ที่จะถอน หายใจ
ออก
“ไม่แปลกใจเลยที่ตําหนักตะวันตกคิดอยาก ปกครองทั้งตําหนักดวงดาว
วิญญาณสีคราม กล่าวได้ว่าตําหนัก แห่งนี้ยามมองดูคงทําพวกเขาไม่
พอใจเอาเรื่อง!”
“เป็นเรื่องปกติ ทั้งสี่ตําหนักต่างต่อสู้กันทั้งทางเปิดเผยและทาง ลับ พวก
เขากระทั่งคิดร่วมมือกันเข้าสะกดตําหนักศักดิ์สิทธิ์ ด้วยซ้ํา! มีแต่ตําหนัก
ตะวันออกและตําหนักศักดิ์สิทธิ์ที่มีสัมพันธ์อันดีต่อกัน” จ้าวฉวนกล่าว
ทันทีที่ผู้เฝ้าตําหนักเห็นจ้าวฉวน พวกเขาจึงให้เขาเข้าสู่ด้านใน โดยทันที
ด้านในของตําหนักศักดิ์สิทธิ์วิญญาณสีคราม มันแตกต่างจาก ภายนอก
อย่างสิ้นเชิง ที่ตรงกลางของตําหนักซึ่งก็คือหอคอยสี นํ้าเงิน มันตระหง่าน
อย่างงดงามและศักดิ์สิทธิ์ สําหรับตําหนัก อื่นและสิ่งปลูกสร้างทั้งหลาย
พวกมันล้วนเป็นผลึกแก้วสีนํ้า เงินที่ส่องประกายแสงสีทองออกมา เมื่อมี
ผู้ใดเข้ามา พวกเขาจะสัมผัสได้ถึงความรู้สึกที่อาคารภายในล้วนศักดิ์สิทธิ์
และแตกต่างจากภายนอกอย่างสิ้นเชิงโดย ทันที นอกจากนี้ พลัง
วิญญาณ ณ ที่แห่งนี้ยังเข้มข้นยิ่งกว่า ด้านนอก อากาศก็บริสุทธิ์ยิ่งกว่า
“ตําหนักศักดิ์สิทธิ์ช่างแตกต่างยิ่งนัก!” ฉินหยุนอุทานเสียงเบา ออกมา
“ถูกต้องแล้ว อันที่จริงศิษย์ของสี่ตําหนัก ล้วนอยากเข้าตําหนัก ศักดิ์สิทธิ์
กันทั้งสิ้น แต่การทดสอบของตําหนักแห่งนี้ค่อนข้าง เข้มงวด ยกเว้นก็แต่
ตําหนักตะวันออก จ้าวตําหนักทั้งสามจะ ไม่ได้ยินยอมให้ศิษย์ที่โดดเด่น
ของตนเองได้เข้าร่วมตําหนัก ศักดิ์สิทธิ์”
จ้าวฉวนนําฉินหยุนสู่ตําหนักข้างหอคอยสีนํ้าเงิน หอคอยสีนํ้าเงินนี้ ไม่ได้
ตรงอยู่ตรงกลางของตําหนักศักดิ์สิทธิ์ แต่อยู่ใกล้ทางเข้ามาก เมื่อเข้ามา
สิ่งที่จะได้เห็นประตูของ หอคอยที่ปิดแน่นสนิท ใกล้เคียงหอคอย มีลาน
ต่อสู้กว้างขวาง รวมถึงตําหนักขนาด มหึมาอีกหลายแห่ง พวกมันคล้าย
เป็นอาคารสําคัญยิ่งที่ราย ล้อมหอคอยเอาไว้ ตําหนักที่จ้าวฉวนพาฉิน
หยุนเข้ามา นามว่าตําหนักยุทธ์ วิญญาณ เมื่อเข้ามา พวกเขาได้ยินเสียง
อื้ออึง เป็นคนเกือบ สามพันคนกําลังรวมตัวอยู่ในห้องโถง
ภายในห้องโถง กว้างขวางเป็นอย่างยิ่ง ศิษย์จากทั้งสี่ตําหนัก รวมถึงศิษย์
จากสถาบันยุทธ์ระดับเสวียน ทั้งสาม พวกเขาล้วนพูดคุยสัพเพเหระ
ดังนั้นห้องโถงหลักแห่ง นี้จึงมีชีวิตชีวายิ่ง พอฉินหยุนและจ้าวฉวนเดินเข้า
มา ก็มีหลายคนพบเห็นพวก เขา
มีอาจารย์และศิษย์จํานวนไม่น้อยของสถาบันยุทธ์ชิงเสวียน ที่ จดจําฉิน
หยุนได้อย่างรวดเร็ว ฉินหยุนสวมใส่ชุดสีดําตัวใหญ่ แม้เขามีหนวดเคราที่
ใบหน้า บ้าง กระนั้นหลายคนที่จดจําใบหน้าเขาได้เป็นอย่างดี ต่างก็
ทราบโดยทันทีว่าเขาคือใคร
“ไม่ใช่ฉินหยุนหรือนั่น?” “เขาอยู่กับผู้อาวุโสใหญ่ของตําหนักจารึกเทวะ
หลังโดนขับไล่ ออกจากสถาบันยุทธ์ชิงเสวียน ก็ไปยังตําหนักจารึกเทวะ
ตอนนี้เป็นผู้อาวุโสใหญ่พามาที่นี่ ดูเหมือนที่ตําหนักจารึกเทวะ เขาจะไป
ได้ด้วยดีไม่น้อย!”
“ได้ยินมาว่า ฉินหยุนใช้ยันต์สะกดกายชั้นเลิศไปมากเพื่อฉกชิง เอาไข่ผลึก
แก้วมังกรอสูรมา พวกเราควรระวังเอาไว้ให้ดีตอน ประลองกับหมอนี่!”
“เขาเป็นอาจารย์จารึกระดับต้น ดังนั้นยันต์สะกดกายชั้นเลิศ เหล่านั้นย่อม
ไม่ใช่เขาขัดเกลาขึ้น สมควรเป็นผู้อาวุโสใหญ่ จ้าวฉวนขัดเกลาให้แก่เขา
บางทีผู้อาวุโสใหญ่น่าจะช่วยเหลือ เขาเพราะได้รับผังสะกดกายเป็นสิ่ง
ตอบแทน!”
น้อยคนนักจะทราบว่าฉินหยุนเป็นอาจารย์จารึกระดับสูง แม้ บรรดาผู้
อาวุโสของสถาบันยุทธ์ซิงเสวียนทราบ
ทว่าพวกเขาไม่ กล้าป่าวประกาศ พวกเขาไม่ต้องการให้ผู้อื่นหัวเราะเยาะ
พวก เขาที่ขับไล่อาจารย์จารึกระดับสูงไปพ้นจากสถาบันยุทธ์
“เจ้าจะได้รับการทดสอบที่นี่ ข้าขอตัวไปยังตําหนักวิญญาณ จารึกก่อน!”
จ้าวฉวนกล่าว เฉินหยุนตอนนี้ลงทะเบียนและได้รับเหรียญตรายืนยัน
ตัวตน เรียบร้อย ก็เหมือนอย่างผู้อื่น เขาต้องรอคอยที่นี่ให้การทดสอบ เริ่ม
ขึ้น
กล่าวกันว่าการทดสอบนี้ จัดขึ้นเพื่อคัดกรอง และป้องกัน ไม่ให้ผู้ไม่พึง
ประสงค์บางคนลักลอบเข้ามา ทั้งหมดก็เพื่อหยุดพวกเขาไม่ให้เข้ารอบไป
เกินกว่านี้
“สงสัยนักว่าพวกศิษย์พี่ฮั่วจงจะมาด้วยหรือไม่!” ฉินหยุนยืนที่ มุมหนึ่ง
เขากําลังรับฟังเสียงผู้คนจํานวนมากเอ่ยถึงเรื่องของ เขา กระนั้นเขาก็หา
ได้เก็บมาใส่ใจไม่ ไม่ไกลออกไป คนหนึ่งกล่าวขึ้น
“ได้ยินมาว่า นักบุญทุกคนล้วน แข็งแกร่ง การทดสอบนี้ไม่จําเป็นแก่พวก
เขา พวกเขาจะเข้าไป รออยู่ที่รอบถัดไป!”
“การประลองยุทธ์มีทั้งสิ้นห้าด่าน ได้ยินมาว่าด่านสุดท้ายถึง เป็นการ
ประลองยุทธ์ของจริง!”
“ว่าอะไร? เช่นนั้นพวกเราต้องผ่านสี่ด่านแรกไปให้ได้ก่อน หรือ?”
“เป็นเอาการแข่งขันออกมามากมายเพียงนี้ กล่าวโดยสรุป นี่ คือการ
ทดสอบพละกําลังของผู้ฝึกตนครั้งใหญ่!”
ฉินหยุนลอบลิ้งไป เขานึกว่าจะได้เข้าร่วมการประลองยุทธ์ โดยเร็วเสียอีก
เสียงอื้ออึงในห้องโถงพลันเงียบลงเพราะอะไรบางอย่าง ทุกคน หันมองไป
ยังประตูห้องโถงใหญ่เป็นตาเดียว กลุ่มเด็กหนุ่มใน ชุดสีนํ้าเงินทองคํา
กําลังก้าวเดินเข้ามา สาดส่องประกายแสง พร้อมพลังอย่างเปี่ยมล้น
“ศิษย์ของตําหนักศักดิ์สิทธิ์วิญญาณสีคราม! พวกเขาล้วนอยู่ ขอบเขต
กายวรยุทธ์ระดับที่เก้าหรือ? ทรงพลังนัก!”
“ทุกคนยังดูเด็กไม่น้อย ไม่มีแม้สักคนที่อยู่ช่วงวัยกลางคน!”
“ไร้สาระ หากวัยกลางคนที่ขอบเขตกายวรยุทธ์ระดับที่เก้า สามารถเข้า
ร่วม เช่นนั้นตําหนักศักดิ์สิทธิ์ก็กลายเป็นที่หัวเราะ เยาะแล้ว!”
“ในกลุ่มนั้นมีขอบเขตวรยุทธ์เต๋าอยู่ด้วย คงแค่พาพวกเขา เหล่านั้นมา
ลงทะเบียน ชักสงสัยแล้วสิ ขอบเขตกายวรยุทธ์ระดับที่เก้าเหล่านั้นจะ
แข็งแกร่งเพียงใดกัน?”
“ผู้ฝึกตนวัยเยาว์หลายคนขนาดนี้ ช่างน่ากลัวนัก!”
ฉินหยุนมองกลุ่มคน เขาพบเซี่ยอูเฟิงอยู่ในกลุ่ม เขาลอบยินดี ขณะเร่งรีบ
เดินเข้าไป ชั่วขณะที่เซี่ยอู่เฟิ งเดินเข้ามา เขาได้ยินคนกล่าวถึงว่าฉินหยุนก็
มาด้วย ดังนั้นเขาจึงกวาดสายตามองหา จึงพบฉินหยุนกําลัง เดินเข้ามา
หาด้วยความรวดเร็ว
“พี่ใหญ่เซีย ท่านลงทะเบียนด้วยหรือ? วิเศษนัก บางทีข้าอาจ ได้สู้กับท่าน
สักคราหนึ่ง!” ฉินหยุนยิ้มกล่าวขณะเดินเข้าใกล้
“น้องหยุน ข้าก้าวสู่ขอบเขตวรยุทธ์เต๋าแล้ว ดังนั้นจึงไม่อาจ เข้าร่วม ข้ามา
ที่นี่ เพราะพาพวกเขามาเข้าร่วมและรับชม เรื่องราวเท่านั้น”
เซี่ยอู่เพิ่งหัวเราะออกจากใจ คํากล่าวของเขา ทําเอาสถาบันยุทธ์ระดับ
เสวียนทั้งสามกาย แข็งที่อ!
เซี่ยอู่เฟิ งคือชายแขนเดียวไร้ซึ่งวิญญาณยุทธ์ ทั้งยังมีเส้น วิญญาณเพียง
สอง และยังติดอยู่ที่สถาบันซานเสวียนมานาน หลายปียิ่ง เพราะเหตุนั้น
เขาจึงมีชื่อเสียง และตอนนี้ เขาก้าวสู่ขอบเขตวรยุทธ์เต๋า ด้วยอายุที่ยังไม่
แม้แต่ จะถึงสามสิบ นี่ออกจะเหลือเชื่อเกินไปแล้ว ทุกคนต่างรู้สึก ว่าวิถี
ดาบของเขายิ่งลึกลับกว่าครั้งก่อนที่พวก เขาทราบ!
ประหลาดใจไปครู่ ฉินหยุนค่อยยิ้มยินดีและกล่าวออก “พี่ใหญ่ เซี่ย
ความก้าวหน้าของท่านช่างน่าทึ่งนัก! ผู้ฝึกตนดาบที่อยู่วรยุทธ์เต๋า
แข็งแกร่งเช่นไรบ้าง? ข้าคิดอยากเห็นพละกําลังของ ท่านนัก!”
“ต้องมีโอกาสอย่างแน่นอน!” เสี่ยอู่เฟิ งยิ้มบาง ตบไหล่ฉินหยุน เบามือ
ตามปกติ เขามักเย็นชาและอหังการ เป็นเขาภาคภูมิในวิถีดาบ ของตนเอง
ไม่มีความคิดเห็น :
แสดงความคิดเห็น