วันอังคารที่ 28 เมษายน พ.ศ. 2563


141 ล้างสังหาร

พวกเจ้ารนหาที่ตาย!” เชี่ยวเย่ว์เหม่ยกัดฟันแน่นพร้อมตะโกน เสียงเย็น
นางตอนนี้ต้องอยู่กับฉินหยุน ไม่เช่นนั้นนางคงพุ่งเข้า ไปจัดการกลุ่มคน
ตรงหน้าแล้ว

ฮ่าฮ่าฮ่า พวกเราหรือหาที่ตาย? นี่เป็นไปได้? พวกเราก็แค่หา ที่สนุก!
โฉมงามน้อยเอ๋ย จงรีบปรนเปรอให้พวกเราได้สุขสันต์ กันเสีย” เด็กหนุ่ม
ร่างสูงใหญ่เผยรอยยิ้มชั่วร้ายเดินเข้ามาใกล้ เชี่ยวเย่ว์เหม่ย อู๋โยวเสินและ
กลุ่มคนเหล่านี้อยู่ขอบเขตกายวรยุทธ์ระดับที่หก ทั้งยังเป็นศิษย์พี่จาก
สถาบันยุทธ์เทียนเสวียน เป็นธรรมดาที่ พวกเขาจะคิดว่าหากแปดคน
ร่วมมือกัน ย่อมสามารถจัดการ เชี่ยวเย่ว์เหม่ยได้ ต่อให้ฉินหยุนไม่ได้รับ
บาดเจ็บ พวกเขาก็หาได้หวั่นเกรงไม่

ที่นี่คือกลางป่ ากว้างใหญ่ พวกเขาล้วนสามารถทําอะไรก็ได้ เท่าที่อยาก
ตราบเท่าที่ไม่มีผู้ใดแพร่งพรายออกไป นอกจากนี้พวกเขายังจะได้รับ

อุปกรณ์วิญญาณมิติเก็บของและร่างของ สัตว์ปีศาจระดับสูงอีกด้วย ทั้งนี้
พวกเขาเหล่านี้ล้วนนํ้าลายสอเพราะเชี่ยวเย่ว์เหม่ยมา นานยิ่ง นี่ถือเป็น
โอกาสอันดี!

เชี่ยวเย่ว์เหม่ยโกรธขึ้ง ทั้งร่างสั่นเทิ้ม นางตะโกนลั่นพร้อม ควบคุมดาบ
ยาวพุ่งออก มันเชือดเฉือนเด็กหนุ่มร่างสูงกระเด็น ไปนับสิบเมตร!

พลั่ก! เลือดกองใหญ่สาดกระเซ็นแตกกระจายเต็มทั่วพื้น! อู๋โยวเสินและ
คนอื่นชะงักปากหัวเราะไม่ออกกันอีกต่อไป บุคคลที่พวกเขาเพิ่งหัวเราะ
ร่วมกันเมื่อครู่นี้ ถึงกับโดนดาบของ เชี่ยวเย่ว์เหม่ยฟันขาดเป็นสองท่อนไป
แล้ว! เชี่ยวเย่ว์เหม่ยควบคุมดาบยาวของนางพุ่งออก มันพุ่งเข้าใส่ อู๋โยว
เสิน! สิบเมตร!

อู๋โยวเสินและคณะไม่ใช่คนทั่วไป พวกเขาพลันนําเอาอาวุธ ออกมาตั้งท่า
ป้องกัน อาวุธของเซี่ยวเย่ว์เหม่ยหาได้ใช่อุปกรณ์วิญญาณ และตอนนี้ นาง

ยังต้องรับมือกับคนถึงเจ็ดที่โหมโจมตีกันเข้ามา บาดแผล เกิดขึ้นหลาย
แห่ง ดาบของนางตอนนี้หลายเล่มก็ปักอยู่กับพื้น

เย่ว์เหม่ย ถ้ามีอะไรโผล่ออกมา ให้ปรับตัวไปตาม สถานการณ์!” ฉินหยุ
นพลันกระซิบ “อย่าได้ห่วงข้า ทําอย่างที่ เจ้าต้องการทํา!”

อู๋โยวเสินและคณะพุ่งเข้ามา แต่แล้วอย่างกะทันหัน พวกเขา พลันได้เห็น
แสงสว่างวูบสีเงิน มันแปรเปลี่ยนเป็นราชสีห์ขนาด ตัวยาวราวสี่ถึงห้าเมตร

นี่... เป็นหุ่นเชิด ฉินหยุนปลดปล่อยมันออกมา นี่ต้องเป็นมัน ขัดเกลา
ขึ้นมาแน่!” เด็กหนุ่มในชุดสีแดงร้องอุทาน ขณะที่เขา คิดปล่อยกําลัง
ภายในโจมตีตอบโต้ หุ่นเชิดราชสีห์สีเงินก็พลัน พ่นอสนีบาตออกมาสาย
หนึ่งแล้ว

เด็กหนุ่มในชุดสีแดงไม่แม้กระทั่งมีเวลาได้ปล่อยการโจมตีออก ร่างกาย
ท่อนบนโดนอสนีบาตสายหนึ่งฟาดเข้าใส่อย่างรุนแรง! อู๋โยวเสินและคณะ

ถึงกับเผยสีหน้าซีดเผือดและหนักอึ้ง หุ่นเชิด ลึกลับนี้ทรงพลังในสายตา
พวกเขา

เร็วเข้า ไม่งั้นพวกเราได้ตายกันหมดแน่!” พออู่โยวเสินกล่าว คําจบ เขาจึง
ได้เห็นเชี่ยวเย่ว์เหม่ยทะยานร่างเข้าหาพร้อมดาบ ยาวในมือ นางไหวดาบ
ในมือหลายครั้งก่อนพวกมันปรากฏเพิ่มจํานวนขึ้น ดาบจากหนึ่งเล่มพลัน
แบ่งออกเป็นหลายเล่ม พวกมันกว่าสิบ เล่มโผล่พรวดออกพร้อมพุ่งเข้าหา
พวกเขา!

เคล็ดวิชาดาบมายาจําลอง วิชาระดับลึกลํ้าขั้นตํ่า!” อู๋โยวเสิน ร้องตะโกน
แตกตื่น “ใช้พลังจิตรับรู้... ดาบที่ไม่มีออร่าคือของ ปลอม พวกมันทํา
อันตรายไม่ได้” ก่อนจะทันได้กล่าวคําจบ เขาสัมผัสได้ ว่าดาบทั้งหมดที่
บิน ออกมาล้วนเป็นของจริง!

ที่เลวร้ายยิ่งกว่าคือราชสีห์สีเงินทะยานตัวมาทางนี้ด้วย มัน พร้อมฉีก
กระชากคนผู้หนึ่งทันทีเมื่อร่างถูกตะปบได้ “เหอะ กระทั่งว่ามันเป็นเคล็ด
วิชาดังเจ้าว่า แต่นี่ก็คือดาบพลัง จิต เป็นการโจมตีด้วยพลังจิต!”

หลังเชี่ยวเย่ว์เหม่ยเอ่ยคําจบ ดาบมายาทั้งหมดพลันแทงเข้าใส่ร่างของอู๋
โยวเสินและอีกห้า คนที่เหลือ หลังโดนดาบพลังจิตเข้าจู่โจม จิตใจของ
พวกเขาเริ่มเลือนราง ภายในหัวรู้สึกหนักอึ้งขึ้นมา! หุ่นเชิดราชสีห์สีเงินใช้
โอกาสที่เกิดขึ้นนี้พุ่งเข้าใส่กลุ่มคน ด้วย กรงเล็บที่แหลมคมดั่งมีด มันฟาด
หวดเข้าใส่อย่างดุร้าย บาดแผลเป็นร่องลึกเกิดขึ้นที่ร่าง เลือดไหลหลั่งจาก
กายเจิ้ง นองทั่วบริเวณ โดยทันที มันสังหารศิษย์ได้อีกคนหนึ่งแล้ว อู๋โยว
เสินถึงขั้นหวาดกลัวจับจิต เขาคิดอยากหนี แต่เพราะโดน โจมตีด้วยเคล็ด
วิชาดาบมายา เขาทําได้เพียงนิ่งกับที่คล้ายคน มึนเมาสุราไม่อาจเคลื่อน
กาย “อ๊าก!”

ศิษย์อีกคนหนึ่งถูกหุ่นเชิดราชสีห์สีเงินสังหาร! เซี่ยวเย่ว์เหม่ยหัวเราะเย็น
เยือก

เป็นพวกเจ้าคิดอยากทําเรื่อง เลวร้ายต่อข้าก่อน ตอนนี้สํานึกเสียใจบ้าง
หรือยังละ?”

ได้โปรด อย่าฆ่าข้า อย่า...” ศิษย์คนหนึ่งคุกเข่าลงกับพื้นร้อง ขอความ
เมตตาเสียงอ่อนแรง

ข้าผิดไปแล้ว โปรดอภัยแก่ข้า!”

เหอะ! หากข้าไม่อาจต่อต้าน พวกเจ้าหรือจะปล่อยข้า? ไม่มี วัน!” เสี่ยว
เย่ว์เหม่ยกล่าวโกรธแค้น นางควบคุมดาบยาวบิน เข้าที่มแทงศิษย์ที่ร้อง
อ้อนวอนขอชีวิตจนตายตก เชี่ยวเย่ว์เหม่ยผสานรวมกําลังกับหุ่นเชิด
ราชสีห์สีเงิน เพียงไม่ นานก็สังหารศิษย์ทั้งเจ็ดคนเรียบร้อยแล้ว และตอนนี้
คนที่ เหลืออยู่ก็มีเพียงแค่อู๋โยวเสิน

อู๋โยวเสินล้มกับพื้นกรีดร้อง เขามองร่างศพกระจายทั่วพื้นอย่าง หวาดกลัว
สติแทบหลุด เขาทราบชัดเจนว่าเชี่ยวเย่ว์เหม่ยไม่มี ทางปล่อยเขาไปอย่าง
มีชีวิตรอด เป็นเขาสั่นกลัวเพราะหวาดกลัวต่อความตาย!

พวกเจ้าล้วนอายุยี่สิบกันทั้งนั้น แต่ข้ากับฉินหยุน ก็แค่สิบสี่ และสิบห้า
พวกเจ้าทั้งแปดคนคิดปิดล้อมโจมตีพวกเรา ทั้งยัง กล้าคิดกระทําเรื่องตํ่า
ช้าต่อข้า!” ดาบยาวของเชี่ยวเย่ว์เหม่ย พลันจ่อเข้าที่คอของอู๋โยวเสิน

ได้โปรด... ปล่อยข้าไป!” อู๋โยวเสินกรีดร้องอย่างสิ้นหวัง เขา โดนการ
โจมตีทางจิตรุนแรงจนตอนนี้ยังไม่อาจฟื้นคืนอาการใด กลับมาได้

ไม่ได้ เจ้าต้องตาย!” เชี่ยวเย่ว์เหม่ยกล่าวคําไร้เมตตา นาง โคจรพลัง
ปราณไหวมือปล่อยดาบ

ลาขาด!” อู๋โยวเสินร่างล้มนิ่งกับพื้น ดวงตายังเบิกกว้าง ความกลัวยังคง
ฉายชัดที่ใบหน้าแข็งค้างนั่น ศิษย์ทั้งแปดคนจากสถาบันยุทธ์เทียนเสวียน

พวกเขา ครอบครองพรสวรรค์พลังจิตที่ดีเยี่ยมจึงมาถึงจุดนี้ได้ แต่แล้ว
พวกเขาทั้งหมดกลับโดนสังหารสิ้น หากสถาบันรับรู้เรื่องราวนี้ พวกเขาคง
ต้องไล่ล่าสังหารเชี่ยวเย่ว์เหม่ยกับฉินหยุนโดยไม่สน อื่นใดเป็นแน่

ไอ้พวกหน้าโง่ อยู่เฉย ๆ ไม่ได้กันหรือยังไง? ทําไมต้องมาที่นี่ แส่หาความ
ตาย!” เชี่ยวเย่ว์เหม่ยกล่าวคําขณะเช็ดคราบเลือด ที่ดาบในมือออก ฉิน
หยุนตอนนี้กําลังนอนอยู่ข้างต้นไม้ที่แตกหัก เขายิ้ม กระนั้น ในใจก็กังวล
ยิ่ง

ความตายของศิษย์แปดคนไม่ใช่เรื่องเล็ก หาก สถาบันยุทธ์เทียนเสวียน
พบเข้า คงได้เกิดหายนะแน่” “เก็บไว้ไม่พูดก็พอแล้ว! เอาเตาหลอมเจ้า
ออกมา ข้าจะเผาร่าง พวกมัน” เชี่ยวเย่ว์เหม่ยคล้ายไม่คิดเก็บเรื่องนี้มาใส่
ใจ นางอายุเพียงสิบสี่ปี แต่แล้วกลับมีความสามารถในการกระทํา หลาย
ต่อหลายสิ่ง อย่างรวดเร็ว นางจัดการนําทัศนียภาพของ ป่ ากลับคืนโดยไม่
หลงเหลือรอยเลือดแม้สักหยด

รอจนราชสีห์ตัวนี้บาดแผลฟื้นฟู จากนั้นค่อยให้เขาจัดฉาก เผาที่นี่ทิ้งเสีย
เปลวเพลิงเขาต้องแข็งแกร่งไม่น้อยแน่นอน!” เชี่ยวเย่ว์เหม่ยหัวเราะดัง “พี่
หยุนอย่าได้เป็นกังวลมากเกินไปนัก!”

ฉินหยุนพยักหน้ารับบางเบา เขาเริ่มรักษาอาการบาดเจ็บของ ตนเองต่อ
เชี่ยวเย่ว์เหม่ยในช่วงเวลานี้กลับขึ้นขี่หุ่นเชิด นาง กระทั่งพูดจาสนุกสนาน
ไม่หยุดดังอยู่ตลอด กระทั่งว่านางบอก อยากได้สักตัวหนึ่ง กลางดึก ฉิน
หยุนที่นอนอยู่กับพื้นได้มองไปยังหมู่ดาวบน ท้องฟ้า ตอนนี้เขาค่อยได้
ตระหนักได้ ว่าในเทือกเขาเมฆมังกร ส่วนลึกมันยิ่งมีดวงดาวเป็นประกาย
งดงามมากยิ่งขึ้น เขาปลดปล่อยจิตวิญญาณต้นกําเนิดออกมา เพื่อ
ดูดกลืนพลัง ดวงดาวจากท้องฟ้า และทําการฝึกฝนแก่ตัวเอง เชี่ยวเย่ว์
เหม่ยนั่งข้างกายฉินหยุน นางมองที่แขนซ้ายของเขาพร้อมเอ่ยถาม

พี่หยุน แขนของเจ้าดีขึ้นหรือยัง?” ฉินหยุนยิ้มให้

ดีขึ้นมากแล้ว ขยับมันได้ด้วยนะ!”

ขอข้าสัมผัสหน่อย แขนนี้โดนราชสีห์กลืนกินเข้าไป จากนั้น มันค่อยคาย
ออกมา!” เชี่ยวเย่ว์เหม่ยพึมพํา “ข้าไม่คิดว่ามันจะ ปกติได้...”

ราชสีห์อัคคีทองคํานอนอยู่ใกล้เคียง พอได้ยินเสียงกังวลของ เชี่ยวเย่ว์
เหม่ย มันจึงลืมดวงตาดั่งเปลวเพลิงขึ้นและกล่าว “อย่าได้ห่วง ข้ากระทั่ง
ช่วยขัดเกลามัน ทั้งหมดเป็นเพราะโท เทมราชสีห์สวรรค์ในแขนนั่น ข้าจึง
สามารถใช้แก่นเลือดราชสีห์สวรรค์ของข้าบํารุงหล่อเลี้ยงมัน!”

หรือก็คือ แขนของชายคนนี้ครอบครองสายเลือดของราชสีห์ สวรรค์ แต่ก็
เพียงแค่แขน มันไม่ได้ไหลเวียนไปทั่วทั้งร่างกาย แต่อย่างใด

ตอนท
ี่142
บทอดโทเทม

ฉินหยุนยินดีไม่น้อยที่ได้เห็นราชสีห์อัคคีทองคําตื่นขึ้น เขาเอ่ย คําถามโดย
ทันที

ท่านจ้าวราชสีห์ แบบนั้นแล้วเลือดของข้าจะ ไหลเวียนสู่แขนซ้ายได้
หรือ?” ราชสีห์อัคคีทองคํากระพริบดวงตาขนาดใหญ่ เขากล่าว

แน่นอนว่าได้ เมื่อเลือดเจ้าเข้าสู่แขนซ้าย มันแปรเปลี่ยนเป็น เลือดราชสีห์
สวรรค์โดยโทเทมราชสีห์สวรรค์! โดยสรุปก็คือ แขนนี้จะมอบพลังมหาศาล
แก่เจ้า ตัวเจ้าเพียงทําความเข้าใจ พลังของโทเทมราชสีห์สวรรค์ก็พอ”
ตอนที่ฉินหยุนขัดเกลาหุ่นเชิดราชสีห์สีเงินขึ้นมา เขาก็ได้ ตระหนักแล้ว ว่า
โทเทมราชสีห์สวรรค์เป็นผังวิญญาณที่ทรง พลังมากเพียงใด!

ราชสีห์อัคคีทองคํากล่าวต่อ

ข้าคือลูกหลานของเผ่าราชสีห์ สวรรค์โบราณ ข้าครอบครองสายเลือด
ราชสีห์สวรรค์ระดับ หนึ่ง ดังนั้นข้าจึงช่วยเจ้าเรียกใช้โทเทมราชสีห์สวรรค์
ได้ โทเทมคือการสืบทอดความทรงจําของเผ่าพันธุ์ พวกมันทั้งลึกลํ้าและ
ลึกซึ้ง มันเปี่ยมไปด้วยเส้นทางมากมาย มันมากพอที่จะให้ เจ้าได้ศึกษา
พวกมันตลอดทั้งชั่วชีวิต” เชี่ยวเย่ว์เหม่ยอุทานขึ้น

ทรงพลังขนาดนั้น... พี่หยุนไปได้มันมาได้ยังไง?”

ข้าแช่กายในสระราชสีห์สวรรค์อยู่สิบวัน แล้วโทเทมนี่ก็เข้ามา อยู่ในแขน
ของข้าเอง ข้าไม่ทราบเช่นกันว่าเหตุใดมันถึงมาอยู่ที่ ตัวข้า” ฉินหยุนเองก็
สงสัยต่อเรื่องนี้ เขามองราชสีห์อัคคี ทองคําอย่างคาดหวังและเอ่ยถาม

ท่านจ้าวราชสีห์พอจะ ทราบหรือไม่?” ราชสีห์อัคคีทองคํากล่าว

เจ้าคงได้แช่กายในเลือดของราชสีห์ สายเลือดของเผ่าพันธุ์เราจะหล่อ
เลี้ยงมรดกดังกล่าวอยู่เสมอ สําหรับโทเทมราชสีห์สวรรค์ที่ปรากฏในร่าง

ของเจ้า มันหมายความถึงเจ้าได้รับการยอมรับจากสายเลือดราชสีห์
สวรรค์”

ฉินหยุนลอบรู้สึกถึงแขนซ้ายตนเอง เป็นดังที่ว่า เขาสามารถ สัมผัสถึงพลัง
โบราณแกร่งกล้าที่อยู่ภายในได้ เชี่ยวเย่ว์เหม่ยซุกซนยิ่ง นางกระทั่งปีนขึ้น
ร่างของราชสีห์อัคคี ทองคํา นางหัวเราะกล่าว

ท่านราชสีห์ ท่านเองก็มีวิญญาณ ยุทธ์ใช่หรือไม่? วิญญาณยุทธ์ของท่าน
คืออะไร? พอจะบอกต่อ ข้าได้หรือไม่?”

วิญญาณยุทธ์ดวงตะวันทองคํา” ราชสีห์อัคคีทองคําตอบ กลับ ฉินหยุน
และเชี่ยวเย่ว์เหม่ยพลั่นตระหนก วิญญาณยุทธ์ดวง ตะวัน ถือเป็น
วิญญาณยุทธ์แห่งสวรรค์ เชี่ยวเย่ว์เหม่ยแทบไม่เชื่อ นางเอ่ยถามต่อ

จริงหรือ? วิญญาณยุทธ์ของท่านแข็งแกร่งเพียงนี้ แต่ไม่อาจจัดการผีร้าย
นั่นได้ ท่านกระทั่งโดนราชันวิญญาณสัตว์ร้ายจัดการเสียสภาพ ยํ่าแย่!”

ราชสีห์อัคคีทองคําเผยสีหน้าลําบากใจ “มันเป็นตอนที่ข้ากําลัง จะก้าวสู่
พลังระดับถัดไป ข้าถูกราชันวิญญาณสัตว์ร้ายเข้า รบกวน เป็นผลให้ข้า
ได้รับบาดเจ็บ เพราะแบบนั้นมันถึงฉวย โอกาสต่อข้าตอนที่อ่อนแอ
จากนั้น มันก็เริ่มควบคุมร่างกายข้า เข้าสู่ส่วนลึกของแม่นํ้าเมฆมังกรเพื่อ
เตรียมกัดกร่อนพลังจากกายข้า!” เชี่ยวเย่ว์เหม่ยกระโดดลงจากหลัง
ราชสีห์ นางนํากระจกออกมา พร้อมวางมันที่หน้าท้องขนปุยของราชสีห์
อัคคีทองคํา

ท่าน จ้าวราชสีห์ โปรดผ่อนคลายร่าง ให้วิญญาณยุทธ์ข้าส่งพลังสู่ กาย
ท่าน เพื่อรับรู้ถึงวิญญาณยุทธ์... โปรดอย่ากังวล เรื่องราว ล้วนเรียบร้อยดี
ถือว่าเป็นของขวัญแก่ข้าแล้วกัน!”

ถ้าไม่ได้คิดร้ายต่อข้าล้วนไม่เป็นไร จะอย่างไรเจ้าก็ช่วยเหลือ ข้า ถือเป็น
สิ่งตอบแทนเล็กน้อย” ราชสีห์อัคคีทองคําหัวเราะ ออก

ฉินหยุนลอบประหลาดใจ เขาทราบว่าเชี่ยวเย่ว์เหม่ยต้องการ ใช้วิญญาณ
ยุทธ์กระจกลึกลับของนาง เพื่อประทับเอาวิญญาณ ยุทธ์ดวงตะวันทองคํา
สู่กระจก แน่นอนว่า กระจกในมือของเชี่ยวเย่ว์เหม่ยตอนนี้พลันส่องแสง สี
ทองคําออกมา หลังผ่านไปชั่วครู่ มันค่อยหายไป

ฮ่าฮ่า มันได้ผล ข้าได้รับวิญญาณยุทธ์แห่งสวรรค์แล้ว” เชี่ยว เย่ว์เหม่ย
หัวเราะยินดี

เมื่อข้าฝึกฝนพลังจิตได้ดีกว่านี้ ข้าค่อย เปลี่ยนมันเป็นวิญญาณยุทธ์ดวง
ตะวันทองคํา!” ฉินหยุนมีสองวิญญาณยุทธ์ ทั้งคู่ล้วนอยู่ระดับสูงยิ่ง แม้
กระนั้น เขาก็ยังรู้สึกอิจฉาต่อวิญญาณยุทธ์กระจกของเชี่ยวเย่ว์เหม่ย!

ท่านจ้าวราชสีห์ พื้นเพท่านคืออะไรกันแน่ ทั้งแข็งแกร่งและรู้ วิธีการ
สื่อสารด้วย!” เสี่ยวเย่ว์เหม่ยปืนกลับขึ้นหลังราชสีห์และ เอ่ยถาม

แล้วราชันวิญญาณสัตว์ร้าย... ทําไมท่านถึงตกเป็น เป้าแก่มันได้?”
ราชสีห์อัคคีทองคํากล่าวตอบ “ราชันวิญญาณสัตว์ร้ายหลบหนี ออกจาก
แดนฝั่งเซียน ข้ามีหน้าที่รับผิดชอบตรวจสอบแดนฝั่งเซียน โดยเฉพาะกับ
การตามกําจัดวิญญาณร้ายที่หลบหนีออกมา”

ราชันวิญญาณสัตว์ร้ายแท้จริงแล้วมาจากแดนฝังเซียน... หรือ ก็คือ
วิญญาณร้ายที่เข้าสิงสู่ร่างสัตว์ทั้งหลายมาจากที่นั่น! ฉินหยุนและเชี่ยว
เย่ว์เหม่ยถึงขั้นมองหน้ากันเองด้วยอาการ แตกตื่น เชี่ยวเย่ว์เหม่ยเอ่ยถาม
เป็นกังวล

ท่านทราบหรือว่าแดนฝัง เซียนอยู่ที่ใด? พาพวกเราไปได้หรือไม่? สถานที่
แห่งนั้นเปี่ยม ด้วยสมบัติจริงหรือ?” ราชสีห์อัคคีทองคําหัวเราะตอบ

เจ้าต้องข้ามแม่นํ้าเมฆมังกร ไปก่อน ที่นั่นคือแดนฝังเซียน สมบัติล้วนมี
มากมาย แต่หากคิด ครอบครองพวกมันก็ต้องยอมเสี่ยงแลกด้วยชีวิต!”

อีกด้านของแม่นํ้าเมฆมังกร สมควรเป็นเทือกเขาเมฆมังกร เช่นเดิม จะ
เป็นแดนฝังเซียนได้อย่างไร? “ทั่วทั้งเทือกเขาเมฆมังกรคือรอบนอกของ
แดนฝังเซียนหรือ?” ฉินหยุนอดไม่ได้จนกล่าวถามออกมา

ราชสีห์อัคคีทองคําตอบ “อะไรประมาณนั้น! ข้าไม่ทราบว่า หลุมฝังเซียน
อยู่ที่ใด... ไม่นานมานี้ อสูรกายและภูตผีจํานวน มากได้คลุกคลีกับบริเวณ
พื้นที่ฝังศพ ตอนนี้ บ้างก็ฟื้นคืนชีพมา ได้ บ้างก็แปรเปลี่ยนเป็นวิญญาณ
ร้าย ดังนั้นสถานที่แห่งนั้นจึง อันตรายยิ่ง”

ฉินหยุนมีส่วนหนึ่งของแผนที่หลุมฝังเซียน หากเขารวบรวม แผนที่ทั้งหมด
ของหลุมฝังเซียนได้ในภายหน้า เขาจะสามารถ พบเจอได้ว่าแท้จริงหลุม
ฝังเซียนตั้งอยู่ที่ใด ทั้งนี้ เขายัง จําเป็นต้องแข็งแกร่งให้มากพอด้วย
ไม่เช่นนั้นเขาคงไม่ได้มี ชีวิตรอดกลับมา ราชสีห์อัคคีทองคํายืนขึ้นและ
กล่าว “ข้าต้องกลับไปแล้ว ใน ภายหน้า อย่าได้เข้าใกล้บริเวณแม่นํ้าเมฆ
มังกรแถบนี้มัน อันตรายยิ่ง!” เชี่ยวเย่ว์เหม่ยทะยานลงจากแผ่นหลังของ
ราชสีห์กลับไปยืน ข้างฉินหยุน นางกล่าว

ลาก่อนท่านจ้าวราชสีห์ ข้าจะคิดถึงท่าน เมื่อพวกเราพบเจอกันครั้งหน้า
ข้าจะแข็งแกร่งกว่าท่าน ให้ได้” ราชสีห์อัคคีทองคําหัวเราะให้ได้ยิน ร่าง
ใหญ่โตนั้นพ่นเปลว เพลิงทําการเผาไหม้ร่องรอยทั้งหมดรอบบริเวณ
จากนั้นร่าง ใหญ่จึงออกวิ่ง และหายลับกลืนกินไปกับความมืด

พวกนี้คือกระเป๋ ามิติเก็บของที่เจ้าพวกนั้นหยิบยืมมา พวกมัน สังหาร
วิญญาณสัตว์ร้ายไปได้กว่ายี่สิบตัว” เชี่ยวเย่ว์เหม่ย หัวเราะ

ตอนนี้พวกมันเป็นของพวกเราแล้ว!”

พี่ชาย ท่านควรขัดเกลายันต์สะกดวิญญาณเอาไว้ให้มากเพื่อ ไว้ปกป้อง
ตัวเองนะ หากเผชิญหน้ากับวิญญาณสัตว์ร้าย แข็งแกร่ง ยันต์สะกด
วิญญาณจะช่วยได้มากเลยทีเดียว” ตอนแรกเชี่ยวเย่ว์เหม่ยเชื่อว่าของ
อย่างยันต์สะกดวิญญาณไม่ น่าจะใช้งานอะไรได้แต่พอได้เห็นมันกับตา
ตนเอง นางยิ่ง ตระหนักได้ถึงพลังของการสะกดวิญญาณ ฉินหยุนตอนนี้

กําหมัดซ้ายเอาไว้แน่น เขารู้สึกได้ถึงพลังราชสีห์ สวรรค์ที่อยู่ภายใน เขา
ครุ่นคิดกับตนเอง

หากข้าใช้แขนนี้เหวี่ยงค้อนราชันยักษ์วิญญาณ พละกําลังที่ค้อนสามารถ
ถ่ายทอดออกไปได้ต้องมหาศาลแน่ มันจะช่วยให้ข้าได้หลอม อุปกรณ์
ง่ายดายมากขึ้น”

ก่อนอื่น พวกเราควรไปจากที่นี่” ฉินหยุนกล่าวขณะให้เชี่ยว เย่ว์เหม่ยขึ้นขี่
หลังพร้อมใช้ก้าวอัคคีเมฆา เขาทะยานขึ้นสู่ อากาศเพื่อหลบเลี่ยงการ
หลงเหลือรอยเท้าทิ้งเอาไว้ เชี่ยวเย่ว์เหม่ยตอนนี้ยิ่งใกล้ชิดกับฉินหยุน นาง
เกาะติดเขา ประหนึ่งเป็นน้องสาวที่ติดพี่ชายคนหนึ่ง พวกเขาเริ่มออกห่าง
จากแม่นํ้าเมฆมังกร ไม่ช้าจึงมาถึงบริเวณ ป่ าทึบใกล้ภูเขาที่มีภูเขาขนาด
มหึมารายล้อม ยอดเขาของพื้นที่แถบนี้สูงหลายพันเมตร ทั้งยังมีหมอกปก
คลุม หนาตลอดทั้งปี

ฉินหยุนและเชี่ยวเย่ว์เหม่ยพบถํ้าแห่งหนึ่งบนเขาลูกหนึ่งที่ตั้ง ตรงคล้าย
เสายักษ์ พวกเขาตัดสินใจเข้าไปพักกันด้านใน ปากทางเข้าถํ้าอยู่บริเวณ
กึ่งกลางของภูเขายักษ์แล้ว ความสูง จากพื้นดินก็ราวกว่าสองพันเมตร
พิจารณาจากจุดนี้ถือว่าหนาแน่น

ค่อนข้างปลอดภัย กระทั่งสัตว์ปีศาจหรือสัตว์ร้ายก็ไม่มีทาง มาถึงตรงนี้ได้
โดยง่าย

ข้าขอตัวไปขัดเกลายันต์สะกดวิญญาณก่อน เจ้าอยากเล่น อะไรก็ตาม
สะดวกเลย” เมื่อเข้ามาในถํ้า ฉินหยุนจึงนําเตา หลอมออกมา เชี่ยวเย่ว์
เหม่ยยุ้ยปากประท้วง

นี่ท่านพูดเหมือนข้าเป็นเด็ก น้อยคนหนึ่ง... ข้าเองก็อยากช่วยเหลือท่าน
เพื่อทํายันต์บ้าง”

ย่อมได้ ย่อมได้ ช่วยข้าตัดหนังสัตว์พวกนี้แล้วกัน!” ฉินหยุนก ล่าว
จากนั้นช่วยใส่พลังจิตกับพลังภายในเข้าไปเก็บไว้ด้านใน พวกมันด้วย
ละ”

เชี่ยวเย่ว์เหม่ยพยักหน้ารับ นางเริ่มช่วยเขาโดยเป็นลูกมืออย่าง จริงจัง ฉิน
หยุนใช้หนังสัตว์ที่ได้รับมาก่อนหน้านี้ตัดขึ้นรูปเป็นแผ่นยันต์

เย่ว์เหม่ย เจ้ายังไม่มีอาวุธวิญญาณใช้หรือ? ให้ข้าช่วยหลอม สักชิ้นหนึ่ง
แล้วกัน!” ฉินหยุนนึกขึ้นได้ ว่าในระหว่างศึกก่อน หน้านี้ ดาบซึ่งเป็นอาวุธ
วิญญาณครึ่งขั้นของเซี่ยวเย่ว์เหม่ย ปรากฏรอยแตกหลายแห่ง

โอ้.... ท่านคิดขัดเกลาอาวุธวิญญาณแก่ข้า ถือเป็นเรื่องดียิ่ง แล้ว!” เชี่ยว
เย่ว์เหม่ยย่อมอยากได้อาวุธวิญญาณ ทว่านาง เกรงใจเกินกว่าจะร้องขอ
ออกไป นางทราบว่าการขัดเกลาอาวุธวิญญาณไม่ใช่เรื่องง่าย มันต้องใช้
เวลานานไม่น้อยกว่าจะ ทําสําเร็จได้ชิ้นหนึ่ง

ตอนท
ี่143 สมบัติวิญญาณ

ฉินหยุนและเชี่ยวเย่ว์เหม่ยได้สังหารเต่ายักษ์ไปฝูงหนึ่ง พวก เขาได้รับแก่น
ดวงวิญญาณมาจํานวนมาก มันถือเป็นวัตถุดิบ สําคัญยิ่งในการขัดเกลา
สมบัติวิญญาณชิ้นหนึ่งขึ้นมา เชี่ยวเย่ว์เหม่ยกล่าว “อย่างนี้เป็นไร ท่าน
ช่วยข้าขัดเกลาแก่น ดวงวิญญาณขึ้นเป็นดาบวิญญาณสักเล่ม แก่นดวง
วิญญาณที่ เหลือจะเป็นของท่าน”

กระทั่งว่านางไม่ทราบวิธีการหลอมอุปกรณ์ แต่ก็ทราบว่ามันมี ราคาสูงยิ่ง
หากนางสามารถแลกเปลี่ยนเป็นดาบชั้นดีได้สักเล่ม เช่นนั้นก็ถือเป็นการ
แลกเปลี่ยนที่คุ้มค่า

ตามนั้น!” ฉินหยุนพยักหน้ารับ เขาเองก็อยากลองขัดเกลา อาวุธ
วิญญาณขึ้นสักชิ้นหนึ่งเช่นกัน

พอเซี่ยวเย่ว์เหม่ยได้เห็นว่าฉินหยุนตกลงรับ นางกระโดดโลด เต้นด้วย
ความยินดีขณะร้องโพล่งออกมา “ในที่สุดข้าก็จะได้มี อุปกรณ์วิญญาณ
เป็นของตัวเอง ทั้งยังเป็นของอย่างอาวุธ วิญญาณ! ข้าจะมีอุปกรณ์
วิญญาณแล้ว! พี่ชาย เมื่อใดที่ท่าน คิดหลอมมันให้แก่ข้าได้? ท่านต้องใช้
เวลาสักสองปีหรือไม่?”

สองปี?” ฉินหยุนอดไม่ได้ที่จะหัวเราะออก

เช่นนั้น... สักสามปีเป็นอย่างไร ได้ใช่หรือไม่? ข้าอยาก ครอบครอง
อุปกรณ์วิญญาณก่อนอายุสิบหกปีนี่นา!” เชี่ยวเย่ว์ เหม่ยเอ่ยคําเสียงแผ่ว
เบา ฉินหยุนยิ้มกล่าว

ไม่ใช่ว่าเจ้ามีอุปกรณ์วิญญาณมิติเก็บของ แล้วหรอกหรือ?” เชี่ยวเย่ว์
เหม่ยยกสร้อยข้อมือขึ้นมา นางพลันแลบลิ้นขี้เล่น กล่าวหัวเราะ

ข้าหมายถึงอุปกรณ์วิญญาณที่เป็นอาวุธ! ท่าน ช่วยขัดเกลามันแก่ข้า
ภายในสามปีได้หรือไม่?”

ฉินหยุนเข้าไปหยิกแก้มจิ้มลิ้มของนางและยิ้มกล่าว “สามปี หรือ? เจ้า
ประเมินข้าตํ่าเกินไปแล้ว อย่างดีภายในหนึ่งเดือนข้า ก็ขัดเกลามันแก่เจ้า
ได้!” ครั้งล่าสุดตอนเขาสร้างค้อนราชันยักษ์วิญญาณขึ้นมา มันเป็น เรื่องที่
ยาก แต่กระนั้นก็ไม่ได้ใช้เวลามากถึงหนึ่งเดือนแต่อย่างใด

พอได้ยินดังนี้ ใบหน้าของเชี่ยวเย่ว์เหม่ยถึงขั้นเผยความไม่เชื่อ ออกมา
นางพึมพํา

หนึ่งเดือนหรือ? เรื่องนี้เป็นไปได้? ไม่ใช่ว่า การขัดเกลาอุปกรณ์วิญญาณ
จําเป็นต้องใช้เวลานานมากหรอก หรือไร?”

รอข้าทํายันต์สะกดวิญญาณเสร็จสักหนึ่งร้อยแผ่น ถึงตอนนั้น ข้าจะช่วย
เจ้าขัดเกลาอาวุธวิญญาณโดยใช้แก่นดวงวิญญาณ สักชิ้นหนึ่ง ว่าแต่เจ้า

ต้องการอะไร ดาบหรือว่ามีด?” ฉินหยุน เอ่ยถาม ก่อนหน้านี้เขาใช้ค่าย
อาคมยันต์สะกดวิญญาณเพื่อสังหาร ราชันวิญญาณสัตว์ร้าย ดังนั้น
ตอนนี้เขาไม่จําเป็นต้องใช้ค่ายอาคมอีกแต่อย่างใด ตอนนี้เพียงใช้ยันต์
สะกดวิญญาณก็พอ รับมือกับพวกตัวเล็กตัวน้อยได้แล้ว

ข้าอยากได้ดาบ! การขัดเกลาอุปกรณ์วิญญาณง่ายดายหรือ? พี่สาวบอก
ข้าว่าผู้อาวุโสหลายคน ล้วนบอกว่าต้องใช้เวลานาน ยิ่งเพื่อขัดเกลา
อุปกรณ์วิญญาณชิ้นหนึ่งที่ดีขึ้นมาได้” เชี่ยวเย่ว์ เหม่ยขมวดคิ้วเอ่ยถาม

เจ้าคิดว่าค้อนของข้าเป็นอย่างไร?” ฉินหยุนนําคอนราชัน ยักษ์วิญญาณ
ออกมาส่งให้นางพิจารณา เชี่ยวเย่ว์เหม่ยรับไป จากนั้นจึงใส่พลังปราณ
ของนางเข้าสู่ภายใน นางรู้สึกได้ถึงการไหลเวียนพลังอย่างที่ไม่เคยรู้สึกมา
ก่อน ราวกับพลังปราณของนางถูกดูดหายเข้าไปในก้อนจน หมดสิ้นโดย
ไม่มีส่วนให้สิ้นเปลือง

วิเศษ!” เชี่ยวเย่ว์เหม่ยสามารถแยกความแตกต่างคุณภาพ ของอุปกรณ์
วิญญาณได้ นอกจากนี้ นางยังได้ยินข่าวลือเรื่อง ค้อนราชันยักษ์วิญญาณ
ของฉินหยุนมาไม่ใช่น้อย

ฉินหยุนยิ้มรับ “ข้าสร้างมันขึ้นด้วยตัวเองตอนถูกขังอยู่ใน หอคอยทัณฑ์
สวรรค์ หากมีคนบอกต่อเจ้าว่าอุปกรณ์วิญญาณ ต้องใช้เวลาหลอมและ
ขัดเกลานานเพียงนั้น ถ้าไม่ใช่หลอกลวง ต่อเจ้า ก็คงเจอผู้ที่ไม่รู้วิธีการ
หลอมแต่อย่างใดบอกต่อแล้ว ข้า แนะนําให้อย่าได้เชื่อคนพวกนั้นจะ
ดีกว่า”

ในความเป็นจริง อุปกรณ์วิญญาณที่ดีอย่างแท้จริงจําเป็นต้อง ใช้เวลา
หลอมนานยิ่ง ทว่า ฉินหยุนมีศักยภาพที่ดีพร้อมในทุก ด้านเพื่อหลอม
อุปกรณ์ ดังนั้นเขาจึงสามารถจัดทําอุปกรณ์ วิญญาณที่ดีขึ้นมาชิ้นหนึ่งได้
ในเวลาที่สั้นยิ่ง เชี่ยวเย่ว์เหม่ยตอนนี้ตื่นเต้นยินดี นางง่วนกับการ
ช่วยเหลือเขา ตัดแผ่นหนัง ทั้งยังเร่งรีบบอกให้เขาช่วยทํายันต์สะกด
วิญญาณ ให้เสร็จโดยเร็ว เพียงสองวัน ในที่สุดฉินหยุนก็ทํายันต์สะกด

วิญญาณหนึ่งร้อย แผ่นได้เสร็จสิ้น ถึงตอนนี้เขากําลังจะเริ่มช่วยเชี่ยวเย่ว์
เหม่ย หลอมสมบัติวิญญาณขึ้นมาชิ้นหนึ่งแล้ว

ในตอนแรกที่แยกองค์ประกอบของแก่นดวงวิญญาณ เขา พบว่ามันต้อง
ใช้พลังงานไม่ใช่น้อยเพื่อผสานรวมเข้ากับกระดูก เหล็กกล้า เพื่อใช้เป็น
วัตถุดิบ เขาจําเป็นต้องมีประสบการณ์ก่อน เพราะฉะนั้นจึงต้องสํารวจ
ตรวจสอบมันก่อนนํามาใช้งาน

ต้องใช้แก่นดวงวิญญาณพอสมควร ขัดเกลาตาบสักเล่มหนึ่ง น่าจะต้อง
ใช้แก่นดวงวิญญาณแปดสิบเม็ด” ตัวเขาเองยังอยาก หลอมกระบี่ไว้ให้
ตัวเองสักเล่มหนึ่งด้วยเช่นกัน หลังครุ่นคิดอยู่พักหนึ่ง เขาจึงตัดสินใจ
หลอมดาบและกระบี่ ออกมาก่อน ขั้นแรกคือโยนกระดูกเหล็กกล้าและ
แก่นดวงวิญญาณลงเตา หลอม หลังจากหลอมพวกมันเข้าที่ เขาจึงนํา
ออกมาและใช้ ค้อนตีผสานพวกมันเข้าด้วยกัน ไม่ช้า กระดูกเหล็กกล้า
ระดับ ตํ่าและแก่นดวงวิญญาณก็ผสานเข้ากันได้อย่างสมบูรณ์

หลังจากมีอซ้ายเกิดความเปลี่ยนแปลง พละกําลังเพิ่มขึ้น ไม่ใช่น้อยเลย!”
ฉินหยุนตอนนี้ทดสอบใช้ค้อนทุบด้วยมือซ้าย จนต้องประหลาดใจกับ
ผลลัพธ์ เขาจงใจสับเปลี่ยนการทุบด้วยมือซ้ายและขวาสลับกัน เขา
สามารถรับรู้ได้ถึงความต่างของมือซ้ายที่มีแรงมากกว่ามือขวา ราวสอง
เท่าเห็นจะได้ เชี่ยวเย่ว์เหม่ยตอนนี้กําลังช่วยจัดการแผ่นหนังส่วนที่เหลือ

ฉินหยุนเพียงแค่ต้องแกะสลักผังวิญญาณเท่านั้น ใช้เวลาทั้งสิ้นสิบวัน
โครงร่างของดาบและกระบุอย่างหยาบเริ่ม ปรากฏขึ้นบนแท่นหลอม ใน
เมื่อวัตถุดิบมีอย่างจํากัด ฉินหยุนจึงไม่ได้ใส่ใจเรื่องการ หลอมกระบี่ให้
ตนเองมากนัก

วัสดุระดับตํ่า แก่นดวงวิญญาณผสานรวมเข้ากับกระดูก เหล็กกล้าระดับ
ตํ่าอย่างสมบูรณ์” ฉินหยุนลองแทรกพลังจิต เข้าสู่วัสดุระดับตํ่า เขาพบว่า
มันไหลลื่นเป็นอย่างยิ่ง เชี่ยวเย่ว์เหม่ยเองก็เข้ามาทดลอง นางเองก็ยินดี
กับผลที่ได้ไม่น้อยเช่นกัน

ฉินหยุนใช้เวลาอีกสองวันเพื่อตีเหล็กให้ขึ้นรูปเป็นดาบที่ส่อง ประกายแสง
เย็นเยือกออกมา ด้ามดาบมีการแกะสลัก สัญลักษณ์รูปกุหลาบซึ่งเชี่ยว
เย่ว์เหม่ยชอบเอาไว้ ถัดจากนั้น คือขั้นตอนการแกะสลักผังวิญญาณ ฉิน
หยุนนํ้ามีดแกะสลักออกมาและเริ่มลงปลายมีดที่ตัวดาบ

พี่ชาย ผังวิญญาณใดที่ท่านคิดแกะสลัก?” เชี่ยวเย่ว์เหม่ย กําลังมอง
อาวุธวิญญาณชิ้นแรกของนางกําลังเป็นรูปร่าง นาง อดไม่ได้ที่จะยินดีและ
กล่าวถามด้วยความอยากรู้อยากเห็น ฉินหยุนอธิบาย

ข้าจะลงผังแข็งตัว! ผังจิตจะช่วยเสริมกําลัง และกักเก็บพลังจิต ขณะที่ยัง
แข็งตัวจะช่วยให้ตัวดาบมีความ แข็งแกร่งมากขึ้น เป็นเพราะดาบนี้
ค่อนข้างบาง เพื่อให้มันมี ความมั่นคงและคงทน หนึ่งอย่างที่ต้องแกะสลัก
คือผังแข็งตัว” เขาเพียงแกะสลักผังวิญญาณสองประเภทลงไป หากเป็น
เขา เลือกแกะสลักผังวิญญาณสามประเภท แบบนั้นมันจะ กลายเป็น
อาวุธวิญญาณระดับกลางแล้ว

การแกะสลักผังวิญญาณสําหรับเขาไม่ใช่เรื่องยาก นี่ หมายความถึงไม่
จําเป็นต้องใช้เวลาทํานานมากนัก เพียงสองวันเต็มกับการแกะสลักผัง
แข็งตัวและผังจิต ทั้งสองประทับบนตัวดาบเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ถัดจากนั้น
เขาจึงเริ่มแกะสลักผังสัญญาโลหิตที่ด้ามดาบ แม้จะ เป็นผังประเภทที่สาม
แต่ด้วยความพิเศษของสัญญาโลหิต จึง ไม่นับว่าอาวุธวิญญาณชิ้นนี้เป็น
ระดับกลางแต่อย่างใด

ขั้นตอนสุดท้าย ประทับเลือดของเจ้าที่รอยแกะสลัก มีเพียง เจ้าของหยด
เลือดจึงสามารถทําให้ผังวิญญาณภายในทํางาน ไม่เช่นนั้นพวกมันจะ
เป็นได้เพียงแค่ดาบธรรมดาเล่มหนึ่ง”

ท้ายที่สุดฉินหยุนขัดเกลาดาบขึ้นสําเร็จพร้อมส่งมอบแก่เชี่ยว เย่ว์เหม่ย
แม้เป็นอาวุธวิญญาณระดับต้น แต่การที่เจ้าจะ ผสานพลังภายในลงไป
จะง่ายดายยิ่งกว่าชิ้นใด” ใบหน้าจิ้มลิ้มของเชี่ยวเย่ว์เหม่ยประทับด้วย
ความตื่นเต้นยินดี นางแทบหลั่งนํ้าตาชื่นชมดาบซึ่งเป็นอาวุธวิญญาณใน
มือ

หลังนางรับเรียบร้อย นางจึงเร่งร้อนเอ่ยคํา “ขอตั้งชื่อให้มันว่า ดาบ
วิญญาณจันทรา!” คล้ายว่าชื่อนี้เป็นนางคิดไว้นานแล้ว ฉินหยุนยิ้มขณะ
เริ่มงานแกะสลักกระบี่ของตนเอง กระบี่เล่มนี้ ยาวเพียงครึ่งเมตร กล่าวได้
ว่าค่อนข้างสั้นพอสมควร ในเมื่อเขาคิดใช้พลังจิตเพื่อควบคุมมัน ก็ไม่มี
ความจําเป็นต้อง ใหญ่แต่อย่างใด ยิ่งเล็กจะยิ่งง่ายต่อการควบคุม
มากกว่า เชี่ยวเย่ว์เหม่ยไปยืนที่ปากทางเข้าถํ้าขณะควบคุมดาบวิญญาณ
จันทราของนางลอยลิ่วไปไกลนับร้อยเมตร มันพลันสับเข้าที่ ต้นไม้บน
ภูเขาอีกลูกหนึ่งข้างเคียง ต้นไม้ล้มลงง่ายดายราวใช้ มีดตัดหญ้าก็ไม่ปาน
จากนั้นนางค่อยเรียกดาบกลับคืน นางคว้าด้ามของมันไว้ขณะ ขึ้นขี่ด้วย
ตัวของนางบินไปมา

โอ้ ข้าใช้มันบินได้ด้วย!” เสี่ยวเย่ว์เหม่ยหัวเราะคิกคัก นาง คล้าย
สนุกสนานยิ่งที่ได้ละเล่นเช่นนี้

นางใช้เวลาอยู่สองวันก่อนจะสามารถบินไปไหนมาไหนด้วย ดาบ
วิญญาณจันทราอย่างคล่องแคล่ว ฉินหยุนอดไม่ได้ที่จะรู้สึกถึงต่อ

ศักยภาพพลังจิตของเชี่ยวเย่ว์ เหม่ย นี่นับว่าทรงพลังไม่ใช่น้อยแล้ว! เรื่อง
นี้หนึ่งเป็นเพราะอาวุธวิญญาณทําให้พลังจิตแข็งแกร่งขึ้น

นอกจากนี้ยังมีเคล็ดวิชาเทวะควบคุม มันจึงทําให้เชี่ยวเย่ว์ เหม่ยสามารถ
บินด้วยดาบไปไหนมาไหนได้อย่างรวดเร็ว ไม่เช่นนั้นกว่านางจะทําเช่นนี้
ได้คงต้องก้าวถึงของเขตกายวร ยุทธ์ระดับที่เก้าเสียก่อน คน กระบี่สั้นของ
ฉินหยุนก็ขัดเกลาเสร็จเรียบร้อยแล้ว เมื่อเขาไปที่ ปากทางเข้าถํ้าจึงได้
เห็นเชี่ยวเย่ว์เหม่ยเร่งร้อนกลับมาพร้อมสี หน้าแตกตื่น ไกลออกไป นาง
ตะโกนดังขึ้น

พี่ชาย มีกลุ่มวิญญาณสัตว์ร้าย อีกกลุ่มกําลังมา ครั้งนี้พวกมันบินได้ด้วย
ทั้งยังมุ่งหน้ามาทางนี้”

ตอนท
ี่144 วัตถุต้องสงสัย

ฉินหยุนเกิดความสงสัยขึ้น ว่าเพราะอะไรฝูงวิญญาณสัตว์ร้าย ขนาดใหญ่
ถึงไล่ล่าเขา วิญญาณสัตว์ร้ายทั้งหมดที่พวกเขาพบในละแวกแม่นํ้าเมฆ
มังกรล้วนถูกควบคุมโดยราชันวิญญาณสัตว์ร้าย และตอนนี้ ราชัน
วิญญาณสัตว์ร้ายก็ตายไปแล้ว

หรือจะมีราชันวิญญาณสัตว์ร้ายตัวอื่นอยู่อีก? แต่ทําไมต้อง เป็นเราละ?”
ฉินหยุนยืนอยู่ปากทางเข้าถํ้าขณะมองไกลออกไป ถํ้าแห่งนี้อยู่ช่วงตรง
กลางของภูเขาซึ่งสูงกว่าห้าพันเมตร มี เพียงแต่วิญญาณสัตว์ร้ายที่บินได้
จึงสามารถขึ้นมาถึง คล้ายกับ ฝ่ ายตรงข้ามเจาะจงส่งวิญญาณสัตว์ร้าย
บินได้มาเพื่อจัดการ กับเขาโดยเฉพาะ

เชี่ยวเย่ว์เหม่ยเมื่อกลับถึงถํ้า นางเอ่ยถามนํ้าเสียงเป็นกังวล

ตอนข้าออกไปบินเล่นข้างนอก ข้าใช้กระจกสัมผัสได้ถึงดวง วิญญาณ
จํานวนมหาศาลกําลังมุ่งหน้ามาทางนี้ หลังจากนั้น ข้าจึงได้เห็นฝูงนกสีดํา
กําลังบินมา พวกมันเหล่านั้นสมควรเป็น วิญญาณสัตว์ร้าย” ฉินหยุนยืน
ตรงหน้าปากถํ้าขณะมองไกลออกไป เป็นเช่นนั้น จริง เขาเห็นฝูงนกสีดํา
ขนาดใหญ่กําลังบินมาทางนี้ หากมองให้ใกล้เข้าไปอีก ก็จะเห็นว่าเป็นฝูง
อีกา! “

ฝูงอีกาพวกนี้น่าจะบินมาจากทางแม่นํ้าเมฆมังกร หรือเป็น เพราะมาทวง
หนี้แค้นให้ราชันวิญญาณสัตว์ร้าย?” เชี่ยวเย่ว์ เหม่ยยืนด้านหลังฉินหยุ
นขณะเอ่ยถาม

ครั้งนี้พวกเราควรสู้หรือไม่?”

ดูกันก่อนดีกว่า พวกเรามียันต์สะกดวิญญาณอยู่ ทั้งตอนนี้ยัง มีอาวุธ
วิญญาณแล้ว พวกเราไม่น่าจะต้องหวั่นเกรงฝูง วิญญาณสัตว์ร้ายพวกนี้”
ฉินหยุนสํารวจมองฝูงอีกาที่บินเข้า มาอย่างระแวดระวัง ฝูงอีกาเหล่านี้ตัว

ใหญ่กันทั้งสิ้น ปีกของพวกมันกว้างก็ราวสี่ เมตรเห็นจะได้ ดวงตานั้นสี
แดงฉานดั่งโลหิต พวกมันล้วนมี

พลังจิตรุนแรงสั่นกระเพื่อมกระจายออกจากร่าง มองเพียงครั้ง เดียวก็บอก
ได้แล้วว่าเป็นวิญญาณสัตว์ร้าย “พี่ชาย พวกมันอยู่ไกลเพียงนั้นแต่เหตุใด
จึงรู้ว่าท่านอยู่ที่นี่?” เชี่ยวเย่ว์เหม่ยเอ่ยถามด้วยความสับสน

ตัวท่านก็ไม่น่าจะมี อะไรให้พวกมันรู้สึกถึงได้นี่! หรือมีอะไรบางอย่างที่
ดึงดูดความ สนใจของวิญญาณสัตว์ร้ายพวกนี้กัน?” อย่างกะทันหัน ฉิน
หยุนนึกถึงสร้อยข้อมือวิญญาณเทวะเก้า ตะวันขึ้นมา มันคือสิ่งประหลาด
ที่สุดซึ่งเขาครอบครองแล้ว พี่สาวมหาอุปราชเป็นคนมอบแก่เขา ทั้งนี้ตัว
มหาอุปราชก็มี แผนที่หลุมฝังเซียนเอาไว้ในครอบครองด้วย!

เขารู้สึกว่าสร้อยข้อมือวิญญาณเทวะเก้าตะวันสมควรมีความ เกี่ยวข้อง
กับหลุมฝังเซียน! นอกจากนี้ วิญญาณสัตว์ร้าย ทั้งหมดล้วนเป็นวิญญาณ
ร้ายที่มาจากหลุมฝังเซียนกันทั้งสิ้น

ฝูงอีกาพวกนี้น่าจะอยู่ระดับหก ข้าออกไปก่อน แล้วข้าจะ พยายามใช้
ยันต์สะกดวิญญาณยับยั้งพวกมันไว้ จากนั้นเป็น คราวเจ้าลงมือสังหาร
พวกมัน”

ฉินหยุนก้าวเดินออกด้วยก้าว อัคคีเมฆาพุ่งผ่านอากาศอย่างรวดเร็ว เขา
คว้ายันต์สะกด วิญญาณขึ้นมาเตรียมรอไว้ อย่างแรกคือกระตุ้นการ
ทํางานของยันต์สะกดวิญญาณ จากนั้น จึงปล่อยให้ยันต์สะกดวิญญาณ
ปกคลุมร่างกาย ด้วยวิธีการนี้ ฝูงอีกาจะไม่กล้าเข้าใกล้ตัวเขา

ฝูงอีกาเหล่านี้แปลกยิ่ง พวกมันไม่ร้องออกมาแม้สักคํา เมื่อ พวกมันเห็น
ฉินหยุนเข้ามาใกล้ ปีกนั้นกระพือพร้อมปลดปล่อย หมอกสีดําออกมา
เพียงเสี้ยววินาที หมอกสีดําเหล่านั้นที่ปลดปล่อยออกโดยฝูง อีกายักษ์
กว่าร้อยตัวกลับกลายเป็นกลุ่มหมอกขนาดใหญ่ปก คลุมท้องฟ้า

พิษ!” ฉินหยุนตะโกนตื่นตกใจขณะเร่งร้อนขว้างยันต์ธาตุลม ออก ลมที่
ปลดปล่อยออกจากยันต์ได้พัดพาเอากลุ่มอากาศเป็น พิษสีดําลอยหาย
กระทั่งอีกาหลายตัวยังต้องปลิวกระเด็น พร้อมกันนี้ เขาส่งยันต์อีกกว่า
ยี่สิบแผ่นออกมา พวกมันระเบิด ออกท่ามกลางกลุ่มหมอกเป็นผลให้ฝูง
อีกาเกิดความโกลาหล ด้วยพลังของยันต์ที่นําลมกระโชกรุนแรงมา มันปก
คลุมพวก อีกาทั้งฝูงเอาไว้ได้ พร้อมกันนี้ อีกาหลายตัวโดนยันต์สะกด
วิญญาณเล่นงาน พวก มันร่วงหล่นลงสู่พื้นด้านล่าง

เย่ว์เหม่ย ค้างคาวพวกนี้ปล่อยอากาศพิษออกมาได้ ระวังให้ดีด้วย” ฉิน
หยุนตะโกนบอกขณะทะยานร่างลงไป เขานําเอา กระบี่วิญญาณออกมา
พร้อมควบคุมมันให้ฟาดฟันเข้าใส่หัว ของอีกาที่สิ้นสติ เชี่ยวเย่ว์เหม่ยเร่ง
รีบนําดาบของนางออกมาเช่นกัน เมื่อนางอยู่ ห่างจากพื้นราวหนึ่งร้อย
เมตร นางพลันกระโดดลงกลางอากาศ พร้อมควบคุมดาบวิญญาณ
จันทรา และทะยานร่างเข้าหาฝูง อีกาที่ร่วงหล่นลงมาราวลําแสงพุ่งใส่

ฉัวะ ฉวะ ฉัวะ! ดาบวิญญาณจันทราของเสี่ยวเย่ว์เหม่ยคมกริบและ
เคลื่อนไหว ได้อย่างคล่องแคล่ว เมื่อมันแทงทะลุร่างของอีกาไปได้ มันจะ

เปลี่ยนทิศทางไล่ล่าตัวที่เหลือซ้ําแล้วซ้ําเล่า เพียงไม่นาน นางก็สังหาร
พวกมันไปได้กว่าครึ่งแล้ว! ความสามารถในการควบคุมอาวุธวิญญาณ
ของนางเหนือลํ้า กว่าฉินหยุนเพราะเคล็ดวิชาเทวะควบคุม

นอกจากนี้ นางยัง สามารถใช้งานดาบบินเพื่อปลดปล่อยคลื่นพลังของ
เคล็ดวิชา รวมจิตวิญญาณสังหารเพื่อจัดการวิญญาณสัตว์ร้ายโดยตรง
ฉินหยุนอึ้ง เขารู้สึกว่าเขียวเย่ว์เหม่ยตอนนี้สภาพไม่ต่างอะไร กับผู้ล่าล้าง
วิญญาณสัตว์ร้าย

เด็กน้อยผู้นี้ ดูเหมือนจะฝึกเคล็ดวิชาเทวะควบคุมจนถึงขั้น กลางแล้ว!
ทั้งที่เราเพียงเพิ่งขั้นต้นเท่านั้นเอง!”

เมื่อฝึกฝนเคล็ดวิชาเทวะควบคุม คนผู้หนึ่งสามารถควบคุม อาวุธบินเข้า
โจมตีได้ดังต้องการ ทว่ามันก็จํากัดด้วยระยะไม่กี่ สิบเมตรเท่านั้น แต่หาก
เข้าถึงขั้นกลางเมื่อใด คนผู้นั้นจะ สามารถควบคุมอาวุธได้ระยะไกลหลาย
ร้อยเมตรเลยทีเดียว นอกจากนี้ อาวุธที่อยู่ในการควบคุมจะยิ่งรวดเร็วและ

แข็งแกร่ง มากขึ้น ก่อนฝูงอีกาจะร่วงหล่นถึงพื้น พวกมันก็ถูกเขียวเย่ว์
เหม่ยและ ฉินหยุนสังหารเป็นที่เรียบร้อย

ให้ข้าจัดการเรื่องเก็บเอง!” ฉินหยุนนําเอากระเป๋ ามิติเก็บของ ขนาดใหญ่
ออกมาและเดินเข้าไป นี่เป็นสิ่งหนึ่งที่เขาขัดเกลาขึ้นเมื่อไม่นานมานี้ เป็น
เขาเลือกใช้ ศิลาวิญญาณว่างเปล่าจํานวนหนึ่งเพื่อขัดเกลาพวกมันขึ้นมา
ดังนั้นมิติภายในจึงขนาดใหญ่มาก มันใหญ่ขนาดที่ว่าสามารถ เก็บข้างได้
ราวสามถึงสี่ร้อยตัวเลยด้วยซ้ํา ตอนนี้พวกเขารวมกันมีร่างของวิญญาณ
สัตว์ร้ายทั้งสิ้นสอง ร้อยสี่สิบตัว

ฉินหยุนที่เพิ่งนําเอากระเป๋ าใบใหญ่ออกมา ฉับพลันกลุ่มอากาศ สีดําพลัน
ปรากฏออกจากร่างของพวกอีกา ว่าพวกมันเหล่านี้ ไม่ใช่อากาศเป็นพิษ
กลับกัน นี่คือเจตจิตของวิญญาณร้าย!

มนุษย์ จงรีบส่งวิญญาณเทวะเก้าตะวันแก่ข้า ไม่เช่นนั้นเจ้า ต้องถูก
สังหารโดยผู้ครอบครองวิญญาณเทวะเก้าจันทรา!” พอฉินหยุนได้ยินเสียง

นี้ในหัว เขาก็อดไม่ได้ที่จะเกิดความ ตระหนก นี่เป็นการยืนยันข้อ
สมมติฐานของเขาก่อนหน้านี้ วิญญาณสัตว์ร้ายเหล่านี้ไล่ล่าเขาจริง หลัง
ดึงสติกลับคืนได้ เขานําเอายันต์สะกดวิญญาณออกมา และขว้างปาพวก
มันใส่วิญญาณร้ายฉีกกระชากพวกมัน ออกเป็นชิ้น . .

วิญญาณเทวะเก้าตะวัน? มันคืออะไรกันแน่? ดูเหมือน วิญญาณเทวะ
เก้าตะวันจะเกี่ยวข้องกับแดนหลุมฝังเซียนจริง!” เฉินหยุนคิดกับตนเอง

เขาเร่งรีบเก็บร่างอีกาเข้าใส่ในกระเป๋ า จากนั้นจึงค่อยโยนยันต์ สะกด
วิญญาณจํานวนหนึ่งลงกระเป๋ าเช่นกัน นับเป็นการกําจัด วิญญาณร้าย
จากร่างของพวกอีกาจนสิ้นซาก

พวกเรารีบกลับไปที่หุบเขากันเถอะ เทือกเขาเมฆมังกรตอนนี้ ยิ่งมายิ่ง
อันตราย” ฉินหยุนเป็นกังวลว่าจะมีสัตว์ปีศาจทรงพลัง มาตามหาตัวเขา
อีก ทั้งยังเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับวิญญาณเท วะเก้าตะวันที่เขาครอบครอง

อยู่ด้วย หากมีวิญญาณสัตว์ร้ายแข็งแกร่งมากโผล่ออกมา เขาจะ
กลายเป็นตกอยู่ในอันตรายไม่อาจรอดพ้น

อืม!” เสี่ยวเย่ว์เหม่ยเองก็เป็นกังวลอยู่ว่าอาจจะมีอสูรกาย อย่างราชัน
วิญญาณสัตว์ร้ายโผล่ออกมาอีก ตอนนี้พวกเขามีวิญญาณสัตว์ร้าย
เพียงพอแล้ว เป็นเพราะ ตู้ก่วยก่อนหน้านี้บอกว่าการได้รับมาสักหนึ่งร้อย
ร่าง ก็ถือว่าดี ไม่น้อยแล้ว ฉินหยุนและเชี่ยวเย่ว์เหม่ยวิ่งบนพื้นดินขณะ
ความคิดหนักอึ้ง ครอบงําจิตใจ

เขาสงสัยว่าเป็นเพราะตนเข้าใกล้แม่นํ้าเมฆมังกรจนเกินไป

พวกมันจึงสัมผัสได้ถึงอะไรบางอย่างและส่งฝูงอีกาออกไล่ล่า พวกเขา
เชี่ยวเย่ว์เหม่ยที่ตามอยู่ด้านหลังพล้นเอ่ยถาม “พี่ชาย เทือกเขาเมฆมังกร
ยิ่งมายิ่งมีวิญญาณสัตว์ร้ายมากขึ้น พวกมัน ไม่ควรโผล่มาอย่างไร้
เหตุผล” ฉินหยุนกล่าวตอบ

อย่าได้บอกต่อเรื่องระหว่างพวกเรากับจ้าว ราชสีห์แก่ผู้ใด อันที่จริงพวก
เขาน่าจะพอคาดเดากันได้ว่า วิญญาณสัตว์ร้ายจํานวนมากที่โผล่ออกมา
มันอาจหมายถึง แดนฝังเซียนมีเรื่องอะไรเกิดขึ้น” สิ่งที่เขาเป็นกังวลตอนนี้
คือ วิญญาณสัตว์ร้ายจะไล่ล่าเขาแม้ ออกจากเทือกเขาเมฆมังกรแล้วก็
ตามที

ครั้งนี้อันดับหนึ่งสมควรตกแก่พวกเรา ไอ้พวกหน้าโง่จาก สถาบันยุทธ์
เทียนเสวียนโดนจัดการไปกันหมดแล้ว ที่เหลือเป็น คู่แข่งก็แค่คนของ
สถาบันยุทธ์หลิงเสวียน และพวกนั้นยังมีกัน แค่เจ็ดคน ไม่น่าจะสังหาร
วิญญาณสัตว์ร้ายได้มากมายนัก”

เชี่ยวเย่ว์เหม่ยหัวเราะยินดี “ข้าได้รับประสบการณ์เรียนรู้อีก หลายอย่าง
แน่นอนว่าที่ใหญ่ที่สุดคือได้รู้จักพี่ชาย” ฉินหยุนยิ้มกล่าว

เด็กน้อย เจ้าไม่ได้เหยียดหยามข้าเหมือน อย่างผู้อื่น แค่นี้ก็พอบอกได้
แล้วว่าเจ้ายอดเยี่ยมเพียงใด ไม่เช่นนั้นเจ้าคงมีสภาพน่าสังเวชแน่หาก
เผชิญหน้ากับข้า”

เชี่ยวเย่ว์เหม่ยเดาะลิ้น นางนึกถึงเสี้ยและผู้อื่น พวกคน เหล่านั้นมีสภาพ
น่าสังเวชเพราะมีเรื่องกับฉินหยุน ไม่ตายบ้างก็ พิการ เดิมที่นางเองก็มอง
เหยียดหยามฉินหยุนเช่นกัน แต่ เหตุผลที่นางมีท่าทีที่ดีต่อฉินหยุนก็เพราะ
พี่สาวของนาง ระยะเวลาหนึ่งเดือนกับการทดสอบไล่ล่าวิญญาณสัตว์ร้าย
สําหรับฉินหยุนและเชี่ยวเย่ว์เหม่ย พวกเขากลับมาถึงหุบเขา ก่อนถึง
กําหนดห้าวัน

ตอนท
ี่145
น้ ส
ดการทดสอบ

หุบเขาตอนนี้เต็มไปด้วยศิษย์จากสถาบันซานเสวียน พวกเขา เหล่านี้ไม่
กล้าออกไปข้างนอกในช่วงเวลานี้ ทั้งหมดก็เพราะ หวาดเกรงการ
เผชิญหน้ากับวิญญาณสัตว์ร้าย พวกเขาอาจถึง ขั้นเกิดหายนะขึ้นได้
แน่นอน สําหรับฉินหยุน วิญญาณสัตว์ร้ายจํานวนหนึ่งไม่ นับเป็นภัย
คุกคาม เขาและเชี่ยวเย่ว์เหม่ยจัดการไปได้หลาย ร้อยตัวด้วยซํ้า

ระหว่างช่วงเวลานี้ ตู้ก๋วยได้แนะนําศิษย์ของสถาบันซาน เสวียนให้ฝึกฝน
พลังจิต ตอนที่ฉินหยุนกลับมา เขาก็ได้พบเซี่ยอูเฟิ งกําลังทดสอบพลัง จิต
อยู่พอดี อีกฝ่ายตอนนี้สามารถทําให้ศิลานภาลอยล่องจํานวนสามสิบก้อน
ลอยกลางอากาศได้แล้ว กล่าวได้ว่า ความสามารถของเขาเพิ่มขึ้นรวดเร็ว
มาก ตอนนี้ ศิษย์ทั้งหมดต่างสงสัยกันถ้วนหน้า ว่าวิญญาณสัตว์ร้าย ที่ฉิน
หยุนและเชียวเย่ว์เหม่ยจัดการได้รวมแล้วมีจํานวนเท่าใด

ศิษย์ของสถาบันซานเสวียนในปัจจุบันหวาดกลัววิญญาณสัตว์ ร้ายกัน
ทั้งสิ้น เพราะแบบนั้นพวกเขาจึงคาดเดากันว่าลําพังแค่ ฉินหยุนและเชี่ยว
เย่ว์เหม่ยไม่อาจสังหารวิญญาณสัตว์ร้ายได้ มากนัก ไม่เช่นนั้นพวกเขาคง
ไม่รีบกลับมาเร็วเพียงนี้

ฆ่าได้สักห้าตัวก็ดีเหลือแหล่แล้ว!”

พื้นฐานเกี่ยวเย่ว์เหม่ยไม่แย่ หากนางไปกับกลุ่มสถาบันยุทธ์ เทียนเสวียน
นางคงต้องนําอันดับหนึ่งมาให้แก่สถาบันได้เป็นแน่”

ไปกับฉินหยุนก็ไม่ใช่เรื่องแย่ นางกระทั่งได้รับอุปกรณ์ วิญญาณมิติเก็บ
ของ ข้าเองยังอยากได้เลย...” ทุกคนตอนนี้กําลังรับชมฉินหยุนเดินเข้ามา
ในลานกว้างฝึกฝน ขณะพูดคุยกันเองเสียงเบา

เชี่ยวเย่ว์เหม่ยและฉินหยุน ทั้งสองต่างสวมใส่ชุดรัดรูปสีดํา เสื้อผ้าของ
พวกเขาสะอาดหมดจด ขณะทั้งสองเดินมาใกล้ มัน คล้ายทั้งสองมี

ความสัมพันธ์เพิ่มขึ้นกันไปอีกระดับ ตั้งแต่กลับมายังที่นี่ ใบหน้างดงาม
ของเชี่ยวเย่ว์เหม่ยประดับ ความเย็นเยือกอหังการกลับมาอีกครั้ง นี่คือ
โฉมงามภูเขา นํ้าแข็ง ฉินหยุนยิ้มเก้กัง

เขาทราบว่าเชี่ยวเย่ว์เหม่ยเป็นเด็กสาวซุกซน เพียงใด ย้อนกลับไปตอน
เทือกเขาเมฆมังกร นางทั้งหัวเราะและละเล่น ตลอดทั้งวัน นับเป็น
ช่วงเวลาที่นางมีชีวิตชีวายิ่ง ปากจิ้มลิ้มนั้น ทั้งกินและพูดไม่คิดหยุด หาก
เปรียบเทียบกับนางตอนนี้ มัน เสมือนกลับกลายเป็นคนละคน “บังเอิญ
อะไรเช่นนี้ คนจากสถาบันยุทธ์หลิงเสวียนก็กลับมาพร้อมกันพอดี!” อย่าง
กะทันหัน คนผู้หนึ่งโพล่งคําขึ้น ทุกคน หันควับมองไปยังถํ้าทางเข้าหุบเขา
โดยทันที

ฉินหยุนมองตามไปเช่นกัน เขาได้เห็นหกคนที่สภาพยํ่าแย่กําลัง เดินกลับ
เข้ามา บาดแผลเปื้อนเลือดหลายแห่งปรากฏตาม ร่างกาย พวกเขาทุกคน
ล้วนสภาพน่าเวทนายิ่ง ศิษย์จากสถาบันยุทธ์หลิงเสวียน เดิมที่หยิ่งผยอง
ไร้สิ้นสุด แต่ ตอนนี้ พวกเขากลับไม่มีท่าทีเช่นนั้น ทันทีเมื่อพวกเขากลับมา

พวกเขาถึงขั้นล้มลงกับพื้นอย่างหมดสภาพ อาการหวาดกลัว ประดับที่
ใบหน้าอย่างไม่คิดปิดบัง

หากเทียบเปรียบ ฉินหยุนและเชี่ยวเย่ว์เหม่ยดูสะอาดสะอ้าน ราวกับไม่มี
สิ่งใดเกิดขึ้น ความแตกต่างระหว่างสองหน่วยที่ ออกไปช่างแตกต่างกันยิ่ง
นัก

ฉินหยุนกับเชี่ยวเย่ว์เหม่ยก็เพียงแค่ไปเที่ยวเล่น คงไม่ได้ สังหารวิญญาณ
สัตว์ร้ายแม้สักตัว”

คงเป็นเช่นนี้ คนของสถาบันยุทธ์หลิงเสวียนคงล่ามาได้ไม่น้อย”

แต่พวกเขามีกันเจ็ดคนไม่ใช่หรือ? ตอนนี้เหลือแค่หก หรือ ว่า.... ตายไป
คนหนึ่ง?”

ศิษย์ของสถาบันซานเสวียนอดไม่ได้ที่จะสั่นกลัว กระทั่งบุคคล ผู้มีพลังจิต
แข็งแกร่งยังต้องตายไปหนึ่ง หากเป็นพวกเขา คงไม่ ต้องกล่าวถึงแล้ว รอง
อธิการบดีแห่งสถาบันยุทธ์หลิงเสวียนและตู้ก๋วยเร่งรีบเดิน เข้าไปช่วย
รักษาอาการบาดเจ็บแก่พวกเขา เขาเอ่ยถามทั้งคิ้ว ขมวด

เจ้าไม่น่าบาดเจ็บร้ายอะไรใช่หรือไม่? สังหารวิญญาณ สัตว์ร้ายไปได้
เท่าไหร่กัน?”

แปดสิบ!” หัวหน้าหน่วยของสถาบันยุทธ์หลิงเสวียนตอบกลับ ศิษย์ทุกคน
ที่นี่พลันส่งเสียงฮือฮานับถือกันออกมา ในสายตาของพวกเขา กลุ่มคน
จํานวนเท่านั้น สังหารวิญญาณ สัตว์ร้ายได้แปดสิบถือว่าทรงพลังยิ่ง
เพราะหากเป็นพวกเขา คงอาจโดนวิญญาณสัตว์ร้ายฆ่าตายแทนเสียด้วย
ซํ้า

เย่ว์เหม่ย ฉินหยุน พวกเจ้าเล่า?” ตู้ก๋วยหันไปเอ่ยถาม

สอง” เชี่ยวเย่ว์เหม่ยกล่าวคํา

ยี่สิบหรือ? ไม่เลว!” ตู้ก๋วยยิ้ม

ข้าคิดว่า...”

สองร้อยสี่สิบตัว!” เชี่ยวเย่ว์เหม่ยแค่นเสียงขึ้น

ว่าอะไรนะ? สองร้อยสี่สิบตัว?” ดวงตาของตู้ก๋วยถึงกับเบิก ออกกว้าง
เขาคล้ายได้ยินอะไรผิดไป ศิษย์ที่ได้รับบาดเจ็บของสถาบันยุทธ์หลิง
เสวียนล้วนได้ยินคํา กล่าวเหล่านี้ พวกเขาพลันร้องโพล่งขึ้น หัวหน้าหน่วย
ตะโกนขึ้น

เป็นไปไม่ได้! พวกเจ้ามีกันแค่สองคน สังหารวิญญาณสัตว์ร้ายมากมาย
ขนาดนั้นได้อย่างไร?” เชี่ยวเย่ว์เหม่ยหัวเราะเหยียด

อย่าพูดจาไร้สาระ นี่พวกเรา เกียจคร้านจะสังหารแล้ว ไม่เช่นนั้นสองพัน
ก็ไม่ใช่ปัญหา!”

นางนําเอากระเป๋ าใบใหญ่ออกมาพร้อมเผยสีหน้าอหังการเย็น เยือกมอง
บรรดาศิษย์ของสถาบันยุทธ์หลิงเสวียน นางกล่าว อย่างโอ้อวดออกว่า

เพื่อเก็บวิญญาณสัตว์ร้ายจํานวนมาก พี่ หยุนถึงกับต้องขัดเกลาอุปกรณ์
วิญญาณมิติเก็บของเป็นพิเศษ เอาไว้ภายใน!”

นางส่งกระเป๋ ามิติเก็บของแก่ผู้ก่วยและกล่าว “อาจารย์ตู้ ท่าน นําร่าง
วิญญาณสัตว์ร้ายทั้งหมดภายในออกมาเองก็แล้วกัน!”

ตู้ก๋วยรับไปขณะสํารวจมอง เขาถึงขั้นอึ้ง สูดลมหายใจเข้าลึก ก่อนจะนํา
ร่างของวิญญาณสัตว์ร้ายภายในออกมา มันแทบ กองสุมเป็นภูเขาลูกเล็ก

ร่างจํานวนมหาศาลกองสุมเป็นภูเขาโดยหลักแล้วคือพวกอีกา ถัดจากนั้น
จึงเป็นวิญญาณสัตว์ร้ายประเภทอื่น

พวกมันล้วนเป็นวิญญาณสัตว์ร้ายอย่างไม่ต้องสงสัย พวกมัน ทั้งหมดยัง
มีคลื่นพลังจิตในร่างหลงเหลือ” กระทั่งได้เห็นด้วย ตาตัวเอง เขายังแทบไม่
เชื่อ ศิษย์ของสถาบันซานเสวียนยิ่งอึ้งยิ่งกว่า! เป็นเพราะในสายตาพวก
เขา วิญญาณสัตว์ร้ายน่าสะพรึงยิ่ง กับฉินหยุนและเชี่ยวเย่ว์เหม่ย พวกเขา
ถึงขั้นสังหารพวกมันได้ กว่าสองร้อยตัว เซี่ยอูเฟิ ง ฮั่วจง และมู่หรงต้าเหริน
ล้วนไม่แปลกใจ เพราะพวก เขาทราบถึงความสามารถของฉินหยุนเป็น
อย่างดี

อาจารย์ตู้ ข้าไม่ขอปิดบัง ที่มีร่างวิญญาณสัตว์ร้ายอยู่ภายใน จํานวน
มาก เป็นเพราะข้าสามารถบินกลางอากาศ จึงสังหาร พวกมันได้
โดยง่าย!” ฉินหยุนกล่าวสีหน้าหนักแน่น

ข้าคิดว่า ในเทือกเขาเมฆมังกรต้องมีเรื่องใหญ่อะไรเกิดขึ้น มันน่าจะเป็น
จุดนําพาให้วิญญาณสัตว์ร้ายจํานวนมากปรากฏตัวเช่นนี้” ศิษย์ของ
สถาบันยุทธ์หลิงเสวียนพลันโพล่งคําขึ้นด้วยสีหน้า เปี่ยมด้วยความ
หวาดกลัว

อาจารย์ตู้ พวกเราเองก็พบ วิญญาณสัตว์ร้ายในเทือกเขาจํานวนไม่น้อย
พวกเราทําได้ เพียงวิ่งหนีเสียส่วนหนึ่ง หนึ่งในพวกเรากระทั่งเสียชีวิต
ระหว่างหลบหนี” ตู้ก๋วยพยักหน้ารับ

พวกเราจะรอให้ศิษย์ของสถาบันเทียน เสวียนกลับมา ก่อนอื่นให้ข้าได้
ตรวจสอบร่างวิญญาณสัตว์ร้ายที่พวกเจ้าสังหารมา” หัวหน้าหน่วยหลิง
เสวียนนําร่างของวิญญาณสัตว์ร้ายของพวก เขาออกมา เป็นจริงดังคํา
กล่าว พวกเขาได้มาแปดสิบตัว แต่ หากนําไปเทียบกับฉินหยุนและเชี่ยว
เย่ว์เหม่ย จํานวนเท่านี้ไม่ น่ามีอะไรให้ภูมิใจแต่อย่างใด

ในอีกห้าวัน หากศิษย์ของสถาบันยุทธ์เทียนเสวียนไม่กลับมา เช่นนั้นชัย
ชนะอันดับหนึ่งจะตกแก่ฉินหยุนและเชี่ยวเย่ว์เหม่ย” ตู้ก่วยมองกองร่าง
วิญญาณสัตว์ร้ายทั้งสอง เขาเริ่มกังวลขึ้นมา ฉินหยุนเดินเข้าไปในถํ้า เขา
คิดอยากกลับไปฝึกฝน ทว่ากลับ โดนกัวเจิ้งห้ามไว้

เจ้าไม่ได้รับอนุญาตให้ไปไหน ทําได้เพียงแต่อยู่ที่ลานกว้าง แห่งนี้ ทั้งยัง
ไม่ได้รับอนุญาตให้ติดต่อผู้อื่น นี่ก็เพื่อป้องกันไม่ให้ เจ้าถูกวิญญาณร้าย
เข้าครอบงํา ดังนั้นเจ้าจะต้องอยู่ในการ ควบคุมดูแลของพวกเราอย่าง
น้อยเจ็ดวัน” กัวเจิ้งกล่าวกับฉินหยุนเสียงดัง ตู้ก๋วยเผยสีหน้าหนักแน่น
เขาพยักหน้ารับ

ถูกต้อง วิญญาณ ร้ายสามารถแฝงในร่างมนุษย์ ภายในสิบวันมันจะเกิด
การแปร สภาพ สิ่งสังเกตเห็นได้ชัดเจนคือผิวหนังจะเปลี่ยนแปลง
กลายเป็นสีดํา” เมื่อได้ยินคํากล่าวนี้ ศิษย์ใกล้เคียงล้วนแตกฮือกระจายตัว
หลบ เลี่ยง

ฉินหยุนและเชี่ยวเย่ว์เหม่ยไม่ได้รับบาดเจ็บ ช่างน่าสงสัยนัก!”

หากกลายเป็นวิญญาณร้าย เขาคงโดนสังหารโดยทันที นับเป็นเรื่องที่ดี!”
คนจํานวนหนึ่งคาดหวังให้ฉินหยุนโดนวิญญาณร้ายครอบงํา เป็นเพราะ
พวกเขาริษยาเขาจนเกินไปจึงมีความคิดเช่นนี้ ฉินหยุนและเชี่ยวเย่ว์เหม่ย
เลือกนั่งอยู่ในลานกว้างฝึกฝน พวก เขาทําได้แค่รอคอยอย่างอดทน
ผู้อํานวยการไปอยู่ข้างกายฉินหยุน หากมีการเคลื่อนไหวใด อย่าง
กะทันหัน เขาจะสามารถควบคุมฉินหยุนได้ทันเพื่อ ป้องกันไม่ให้ทั่วเจิ้ง
เล่นตุกติกใด เวลาห้าวันผ่านไปอย่างรวดเร็ว สําหรับฉินหยุนนี่คล้ายการ
หลับตาฝึกฝนไปตื่นหนึ่งเท่านั้น เมื่อคืนของวันมาที่ห้ามาถึง กัวเจิ้งจาก
สถาบันยุทธ์เทียนเสวียน ไม่คิดนั่งเฉยอีกต่อไป เขาเดินไปมาในลานกว้าง
สีหน้ากระอัก กระอ่วนยิ่ง

หากดวงตะวันลอยขึ้นฟ้า และคนของเขายังไม่กลับมา ชัยชนะ จะตกแก่
ฉินหยุนและเชี่ยวเย่ว์เหม่ย

ตอนท
ี่146
้ใดฆา่ ได
มากกว่า

กั่วเจิ้งเกลียดชังเชี่ยวเย่ว์เหม่ยและฉินหยุนถึงกระดูกดํา ดังนั้น เขาจึงไม่
คิดให้พวกเขาทั้งสองได้เข้าสู่ค่ายอาคมขัดเกลากระดูก โดยเฉพาะกับ
เชี่ยวเย่ว์เหม่ย ที่ก่อนหน้านี้ปฏิเสธคําแนะนําของ เขา เป็นผลให้เขาเสีย
หน้าใหญ่หลวง ฉินหยุนลอบนับถือเด็กสาวอย่างเชี่ยวเย่ว์เหม่ย นาง
กระทั่งนั่ง เงียบที่นี่ได้ถึงห้าวัน เป็นเขากังวลด้วยซํ้าว่าเชี่ยวเย่ว์เหม่ยจะ
คลั่งไปก่อนหรือไม่ เดิม

เชี่ยวเย่ว์เหม่ยนางคงไม่คิดนั่งเฉย แต่ได้เห็นสีหน้ากระอัก กระอ่วนของกั่ว
เจิ้ง นางยินดียิ่งที่คิดอดทนรอรับชมเรื่องราว ศิษย์ของสถาบันซานเสวียน
เองก็ไม่ได้หลับนอนเช่นกัน เป็น เพราะพวกเขาอยากเห็นว่าหน่วยของอู๋โย
วเสินจะกลับมาพร้อมผลลัพธ์ใด

ด้วยเหตุนี้ ทุกคนในหุบเขาล้วนเงียบตลอดคํ่าคืนเพื่อเฝ้ารอ เวลาผ่านไป
เชื่องช้า ท้องฟ้าสีดํามีดเริ่มสว่างขึ้น ดวงตะวันทั้ง เก้าร้อนแรงปรากฏขึ้น

ในท้องฟ้า สัญญาณบ่งบอกถึงจุดสิ้นสุด การทดสอบล่าสังหารวิญญาณ
สัตว์ร้ายมาถึง

หมดเวลาแล้ว หน่วยของอู่โยวเส้นพลาดเพราะกลับมาไม่ ทันเวลา พวก
เขาจึงถูกคัดออก ผู้ชนะจึงตกเป็นของฉินหยุน และเชี่ยวเย่ว์เหม่ย” ขณะ
ตู้ก่วยกล่าวคํา รองอธิการบดีแห่งสถาบันยุทธ์หลิงเสวียน ลั่วเค่อพลัน
โพล่งคําขึ้น “รอเดี๋ยว!”

รองอธิการลั่วมีเรื่องอันใดหรือ? ผลลัพธ์ที่ชัดเจนกันแล้วนี่!” ตู้ก่วยกล่าว
คํา ลั่วเค่อกล่าวถาม

อาจารย์ตู้ หากมีการได้รับแก่นดวงวิญญาณ สักหนึ่ง จะนับผลลัพธ์เป็น
เช่นไร? ศิษย์ของสถาบันยุทธ์หลิง เสวียนเราได้สังหารวิญญาณสัตว์ร้าย
ทรงพลังไป เป็นเพราะร่างของวิญญาณสัตว์ร้ายตัวนั้นใหญ่นัก พวกเขาจึง
นํามาได้ เพียงแก่นดวงวิญญาณภายในร่าง”

ฉินหยุนและเชี่ยวเย่ว์เหม่ยมองกันเองด้วยสายตาเปี่ยมด้วย ความ
เดียดฉันท์และนึกขึ้น นั่นเป็นเพราะพวกเขามีแก่นดวง วิญญาณจํานวน
มากอยู่ในมือ เมื่อตู้ก๋วยได้ยินเช่นนี้ เขาขมวดคิ้วกล่าว

หนึ่งแก่นดวง วิญญาณนับเป็นห้าสิบวิญญาณสัตว์ร้าย!” ลั่วเค่อหันมอง
หัวหน้าหน่วยหลิงเสวียนและตะโกนขึ้น

เจ้าไม่ ต้องเก็บซ่อนไป แม้แก่นดวงวิญญาณลํ้าค่า แต่หากเจ้าสามารถ
เข้าค่ายอาคมขัดเกลากระดูก เจ้าจะได้ก้าวสู่ขอบเขตกายวร ยุทธ์ระดับที่
เจ็ด ถึงตอนนั้นเจ้าจะสังหารวิญญาณสัตว์ร้ายที่ ทรงพลังยิ่งกว่านั้นเพื่อ
ได้รับแก่นดวงวิญญาณได้” ฉินหยุนแค่นเสียงในใจ แค่มองเขาก็บอกได้
เลยว่าเหตุใดลั่วเค่อหยิบยกเรื่องนี้ขึ้นมา ต้องเป็นเขาแอบมอบแก่นดวง
วิญญาณ แก่ศิษย์เพื่อโกงผลการตัดสินอย่างแน่นอน กัวเจิ้งยิ้มกล่าวคํา

วิญญาณสัตว์ร้ายที่สามารถก่อดวง วิญญาณขึ้นได้ทรงพลังยิ่ง สมควร
นับได้เทียบเท่าวิญญาณสัตว์ ร้ายห้าสิบตัว หากศิษย์ของสถาบันยุทธ์หลิง

เสวียนได้รับแก่นดวงวิญญาณ เช่นนั้นสถาบันยุทธ์เทียนเสวียนของข้าก็
ยินดี ยอมรับผลลัพธ์นี้”

เขายิ้มกล่าวจากใจ ทว่าภายในสบถก่นด่าลั่วเค่อร้ายแรงแล้ว หากอู่โย
วเสินกลับมาทันเวลาและมีโอกาสได้รับชัยชนะ เขา ต้องคิดค้านการ
เคลื่อนไหวครั้งนี้แน่ แต่ตอนนี้อู๋โยวเสินและคณะยังไม่กลับมา อีกทั้งเขา
ยังไม่ ต้องการเห็นฉินหยุนและเชี่ยวเย่ว์เหม่ยได้รับชัยชนะ ดังนั้นเขา จึง
คิดสนับสนุนความคิดของลั่วเค่อ หัวหน้าหน่วยของสถาบันยุทธ์หลิง
เสวียน นําเอาแก่นดวง วิญญาณสีเขียวสี่เม็ดออกมา เขาส่งมอบแก่ผู้ก่วย
และกล่าว

อาจารย์ตู้ สิ่งนี้นับเป็นวิญญาณสัตว์ร้ายสองร้อยตัวใช่ หรือไม่?” พอชั่ว
จงได้เห็นดังนี้ เขาสบถออกเสียงเบา

สารเลว พวกเรา จะปล่อยให้พวกมันพลิกกระดานเช่นนี้หรือ สารเลวนัก!”
ตู้ก๋วยเผยสีหน้าลําบากใจ ทําไมเขาจะไม่พบเห็นเรื่องราวเบื้อง ลึก
เบื้องหลัง? ทว่าเขาไม่ทราบว่าควรทําอย่างไรได้

อาจารย์ต้ ท่านคือกรรมการ โปรดรีบประกาศผลลัพธ์ หน่วย ของสถาบัน
ยุทธ์หลิงเสวียนเราตอนนี้เทียบเท่าล่าวิญญาณสัตว์ ร้ายมาได้สองร้อย
แปดสิบตัว ฉินหยุนและเชี่ยวเย่ว์เหม่ยได้ เพียงสองร้อยสี่สิบ ชัยชนะย่อม
ตกแก่พวกเรา!” ลั่วเค่อยิ้ม กล่าวอหังการ บรรดาศิษย์ของสถาบันซาน
เสวียนที่ริษยาอยู่เป็นทุนเดิม อด ไม่ได้ที่จะหัวเราะออก ฉินหยุนและเชี่ยว
เย่ว์เหม่ยสุดท้ายก็ พลาดชัยชนะ เรื่องนี้ทําพวกเขาสุขใจยิ่ง

สถาบันยุทธ์หลิงเสวียน...” คําพูดของตู้ก๋วยชะงักไปเมื่อได้เห็นฉินหยุน
เดินเข้ามาพร้อมแก่นดวงวิญญาณสองเม็ดในมือ ทุกคนล้วนดวงตาแทบ
ถลน ฉินหยุนถึงขั้นมีแก่นดวงวิญญาณ เช่นกัน นอกจากนี้แล้วยังเป็นเม็ด
ที่สว่างไสวกว่าของสถาบัน ยุทธ์หลิงเสวียน

อาจารย์ตู้ พวกเราคิดเก็บมันเอาไว้ แต่พวกเราไม่มีทางเลือก จนต้องนํา
ออกมาเพื่อชัยชนะ! แก่นดวงวิญญาณสองเม็ดนี้ สามารถเทียบเท่า
วิญญาณสัตว์ร้ายหนึ่งร้อยตัว เท่ากับพวกเรา ได้ไปสามร้อยสี่สิบตัวถูก
หรือไม่ขอรับ?” ฉินหยุนยิ้มกล่าว ลั่วเค่อสบถภายใน เขาไม่คิดว่าฉินหยุน
จะมีแก่นดวงวิญญาณ เช่นกัน กระทั่งกัวเจิ้งยังต้องตื่นตะลึง! ทางด้าน
ศิษย์ของสถาบันยุทธ์หลิงเสวียนที่ครอบครองแก่นดวง วิญญาณ ชัดเจน
ว่าพวกเขาได้รับมอบให้เก็บไว้นานแล้ว นอกจากนี้แก่นดวงวิญญาณของ
ฉินหยุนยังสว่างไสวยิ่งกว่า ไม่ ว่าใครต่างก็บอกได้ว่านี่เป็นสิ่งของเพิ่งได้
รับมา!

ฉินหยุนและเชี่ยวเย่ว์เหม่ยถึงขั้นสามารถล่าและสังหาร วิญญาณสัตว์ร้าย
ทรงพลังได้! ตู้ก๋วยลิ้งขณะถอนหายใจทวนซํ้าในใจ ศิษย์ของสถาบันยุทธ์ห
ลิงเสวียนนําแก่นดวงวิญญาณอีกสี่เม็ด ออกมา

แท้จริงพวกเรายังเก็บซ่อนไว้ ครานี้นับเพิ่มเป็นอีก สองร้อย”

พอฉินหยุนเห็นดังนี้ เขาจึงยิ้มขณะนําออกมาอีกสี่เม็ด พอทุกคนเห็นดังนี้
พวกเขาล้วนร้องออกด้วยอาการตระหนก! ก่อนหน้านี้เป็นการแข่งขัน
จํานวนวิญญาณสัตว์ร้าย แต่คราวนี้ เป็นการแข่งขันจํานวนแก่นดวง
วิญญาณ!

เอาออกมาให้หมด!” ลั่วเค่อเผยสีหน้ากระอักกระอ่วน เป็น เพราะแก่น
ดวงวิญญาณเหล่านี้จะตกเป็นของตู้ก่วย เพราะงาน ครั้งนี้เป็นตู้ก๋วยยอม
ถ่ายทอดเคล็ดวิชาแก่ทุกคนที่เข้าร่วม ตู้ก๋วยลอบยินดี เขากําลังจะได้รับ
แก่นดวงวิญญาณจํานวนมาก ศิษย์ของสถาบันยุทธ์หลิงเสวียนกัดฟัน
แน่นขณะนําเอาแก่น ดวงวิญญาณอีกหกเม็ดออกมาในคราวเดียว ครั้งนี้
พวกเขามี รวมกันทั้งสิ้นสิบสี่เม็ด พอฉินหยุนได้เห็นดังนี้ เขาจึงนําอีกแปด
เม็ดออกมาเช่นกัน จํานวนรวมเป็นสิบสี่เท่ากัน!

ฮ่าฮ่า พวกเจ้ามีอีกหรือไม่?” ฉินหยุนยิ้มกล่าว

ปากของลั่วเค่อกระตุก แก่นดวงวิญญาณสิบสี่เม็ดนี้จะ กลายเป็นสูญ
เปล่าเสียแล้ว ศิษย์ของสถาบันยุทธ์หลิงเสวียนไม่อาจรับได้ไหวอีก ตู้ก๋วย
ยินดี ยิ่งขณะรับเอาแก่นดวงวิญญาณไป ก่อนประกาศให้ฉินหยุน และ
เชี่ยวเย่ว์เหม่ยเป็นผู้ชนะ! เฉินหยุนหาได้รู้สึกเจ็บปวดใดไม่ที่ต้องมอบแก่น
ดวงวิญญาณ ออกไป เป็นเพราะเขายังมีพวกมันอยู่อีกหลายสิบในมิติเก็บ
ของ นอกจากนี้เขายังยินดีมอบด้วยซํ้า เพราะตู้ก๋วยคือผู้ที่มอบ เคล็ดวิชา
เทวะควบคุมและรวมจิตวิญญาณสังหาร แท้จริง ผู้อาวุโสเช่นตู้ก่วย
และกัวเจิ้งต่างตระหนักได้ดี ฉินหยุน และเชี่ยวเย่ว์เหม่ยลําพังกําลังตนเอง
ได้รับแก่นดวงวิญญาณ หมายความว่าพวกเขายังสมควรต้องมีที่ไม่นํา
ออกมาอีก พละกําลังระดับนี้ชวนตื่นตะลึงจนเกินไป!

อ๊าก!” อย่างกะทันหัน คนหนึ่งจากหน่วยของสถาบันยุทธ์หลิง เสวียน
พลันร้อง ผิวหนังแปรเปลี่ยนเป็นสีดํา ดวงตาแดงกํ่าด้วยเลือด เส้นผมปลิว
ไปมาคล้ายลอยขึ้นได้ ออร่าสีดําปกคลุมร่างกาย

วิญญาณเทวะเก้าตะวัน วิญญาณเทวะเก้าตะวัน” ศิษย์ คนนั้นร้องขึ้น
ราวบ้าคลั่ง

รีบสังหารมันเร็วเข้า!” ฉินหยุนเร่งร้อนตะโกนออกจากใจ วิญญาณร้ายที่
ลึกลับพวกนั้นกระทั่งตามเขามาถึงที่นี่!

ใครจะลงมือ? ข้าหรือ?” เชี่ยวเย่ว์เหม่ยกล่าวคํา

ข้าเอง!” หลังตู้ก๋วยกล่าวคําจบ ดวงตานั้นทอประกายสว่าง วาบ
ปลดปล่อยพลังจิตแรงกล้าส่งถ่ายเข้าสู่สมองของศิษย์คน ดังกล่าว ทวาร
ทั้งเจ็ดของศิษย์ผู้นั้นเลือดไหลทะลัก เขาตายในทันที!

ศิษย์ที่ออกไปล่าวิญญาณสัตว์ร้ายเกิดความเปลี่ยนแปลงหลัง กลับมาได้
หกวัน

ฉินหยุนได้รับคําบอกกล่าว ว่ากระบวนการเปลี่ยนแปลงจะ เกิดขึ้นภายใน
เจ็ดวัน เขาคิดว่านี่เป็นเพียงกล่าวเพื่อป้องกันไว้ ก่อน เขาไม่คิดเลยว่าจะมี
คนโดนวิญญาณร้ายเข้าครอบงําจริง

พวกเจ้าต้องอยู่ที่นี่อีกหนึ่งวัน” ตู้ก๋วยเผยสีหน้าหนักแน่น

โดยปกติ ผู้ที่โดนวิญญาณร้ายครอบงําจะไม่อาจสะกดกั้นได้ เกินหกวัน
แต่เพื่อความมั่นใจ พวกเราจะรอจนกระทั่งเจ็ดวัน” ฉินหยุนและเชี่ยวเย่ว์
เหม่ยไม่คิดกังวลอันใด กระทั่งราชัน วิญญาณสัตว์ร้ายยังโดนพวกเขา
สังหาร ดวงวิญญาณร้ายเล็ก จ้อยย่อมไม่อาจย่างกรายพวกเขา อย่าได้
พูดถึงการครอบงําเลยด้วยซํ้า

หลังผ่านวันที่เจ็ด การทดสอบจึงสิ้นสุดอย่างเป็นทางการ เรื่อง นี้ทําผู้คน
ถอนหายใจโล่งอกได้ ฉินหยุนและเชี่ยวเย่ว์เหม่ยถือ เป็นหน่วยแกร่งกล้า
ท้ายที่สุดพวกเขาได้รับชัยชนะอย่างหมดจด!

หน่วยที่นําโดยอู๋โยวเสินจากสถาบันยุทธ์เทียนเสวียน ยังไม่ กลับมาแม้
ผ่านไปแล้วเจ็ดวัน

หรือพวกเขาตายกันหมด?” คนหนึ่งเอ่ยกระซิบกระซาบขึ้น

เป็นไปได้! หากพวกเขาไม่โดนกําจัด อย่างน้อยก็ต้องมีหนึ่ง หรือสองคน
กลับมาบ้าง!” พอกัวเจิ้งได้ยินการคาดเดาเช่นนี้ ในใจเขาพลันโดนไฟร้อน
แห่ง ความกังวลเผาไหม้ ท่ามกลางศิษย์ทั้งหมดจากสถาบันยุทธ์ เทียน
เสวียนที่เข้าร่วม ที่เหลือรอดกลับมีแต่เชี่ยวเย่ว์เหม่ยซึ่ง เขาเกลียดชังอย่าง
ถึงที่สุด!

ข้าขอตัวกลับสถาบันยุทธ์เทียนเสวียนก่อน! พี่หยุน ท่านต้อง เข้าร่วม
สถาบันยุทธ์ชิงเสวียนให้ได้ เมื่อเวลานั้นมาถึง พวกเรา จะได้เข้าค่ายอาคม
ขัดเกลากระดูกร่วมกัน!” เชี่ยวเย่ว์เหม่ยก ล่าวคําเสียงเบา

ข้าก็จะเดินทางกลับแล้ว สถาบันยุทธ์เทียนเสวียนเป็น ทางผ่านพอดี ให้
ข้าได้ส่งเจ้าก็แล้วกัน!” ตู้ก๋วยหัวเราะกล่าว ฉินหยุนพยักหน้ารับขณะมอง
พวกเขาจากไป อีกทางหนึ่ง กัวเจิ้ง เขาเดินทางเข้าสู่เทือกเขาเมฆมังกร
ด้วย ตนเอง จะอย่างไรแล้ว ศิษย์ในหน่วยที่ออกไปนั้น พวกเขาล้วนมา

จากตระกูลหรือสํานักชื่อดังทั้งสิ้น เรื่องนี้เขาไม่อาจปล่อย ความ
รับผิดชอบไปได้

ตอนท
ี่147 เซย
ี่ ฉ
ีโหรว

หน่วยที่นําโดยอู๋โยวเสิน โดนฉินหยุนและเชี่ยวเย่ว์เหม่ยสังหาร ไป
เรียบร้อยแล้ว ทั้งยังกลับกลายเป็นเถ้าธุลี กัวเจิ้งไม่มีทางหา พวกเขาได้
พบแม้จะออกไปด้วยตนเองก็ตาม

ในที่สุดก็ได้พัก!” ฉินหยุนไม่คิดรอที่จะหยดเลือดลงบนแผนที่หลุมฝัง
เซียน เขา สงสัยเป็นอย่างยิ่งว่าเซี่ยวเย่ว์หลาน ขี่เม่ยเหลียน และมหา
อุปราชผู้งดงามของเขา พวกเขาเหล่านั้นล้วนได้รับโชคชะตา มาเพราะ
หยดเลือดลงบนแผนที่ มู่หรงต้าเหรินเดินเข้ามาและยิ้มกล่าวคํา

น้องหยุน โปรด อย่าได้แปรเปลี่ยนเป็นวิญญาณสัตว์ร้ายเชียว พี่ใหญ่เซี่ย
ของ เราตอนนี้เรียนรู้เคล็ดวิชาสังหารวิญญาณแล้วนะ... ฮ่าฮ่าฮ่า”

ฉินหยุนยิ้มกล่าว “นี่ศิษย์พี่คิดว่าข้าอ่อนแอขนาดโดนพวกมัน ครอบงําเลย
หรือ?” ฮั่วจงหัวเราะลั่น

แน่นอนว่าไม่ น้องหยุนของเราแข็งแกร่งนัก กระทั่งสังหารวิญญาณสัตว์
ร้ายได้เสมือนตัดหญ้าในสวน!” เซี่ยอู่เฟิ งโล่งใจยามที่เห็นฉินหยุนยัง
สบายดีอยู่ เขาเข้ามาในถํ้า เพื่อร่วมแสดงความยินดีแก่ฉินหยุน ฉินหยุน
ตอนนี้อยู่ในโถงเล็กของถํ้าในภูเขา เขาได้เห็นโต๊ะที่เต็ม ไปด้วยอาหารที่
วางเรียงราย จากนั้น เขาจึงเริ่มดื่มและกิน อย่างไม่คิดมากมารยาท
ใบหน้าหล่อเหลาของมู่หรงต้าเหรินเปี่ยมด้วยรอยยิ้มชั่วช้า ขณะหยอกเย้า
ฉินหยุน

น้องหยุนช่างยอดเยี่ยมนัก กระทั่งทํา ให้โฉมงามภูเขานํ้าแข็งเชี่ยวเย่ว์
เหม่ยนอบน้อมด้วยได้ ข้า ประทับใจยิ่งนักที่ฝีไม้ลายมือของน้องหยุนดี
เยี่ยมเพียงนี้ ปกติ แล้วเจ้าคงไม่ได้เปิดเผยตัวตนงั้นสินะ เป็นข้าประเมิน
ตํ่าเกินไป จริงๆ”

ข้าขอพูดความจริง! เชี่ยวเย่ว์เหม่ย เด็กน้อยผู้นั้นและข้ารู้จัก กันตั้งแต่ยัง
เด็ก กระทั่งนางยังเคยเรียกหาข้าเป็นพี่ชายมาก่อน ความสัมพันธ์ของพวก
เราเป็นทางนั้น! ข้าสาบานว่าจะมอบ อุปกรณ์วิญญาณมิติเก็บของแก่นาง

เพราะแบบนั้นนางจึงยอม ให้อันดับหนึ่งการประลองยุทธ์มังกรซ่อนเร้นแก่
ข้า กระทั่งว่า ข้าประมือกับนางจริง แต่นั่นก็แค่ละครฉากหนึ่ง ศิษย์พี่ก็ควร
ได้ ยินมาบ้างว่าพวกเราไม่ได้ใช้อาวุธใด” เขาเอ่ยคําอธิบายที่ดู
สมเหตุสมผลออกมา

นี่เป็นเจ้าแต่งเรื่องหลอกลวงข้าแล้ว” มู่หรงต้าเหรินเอ่ยถาม ทั้งสีหน้าไม่
เชื่อ ฉินหยุนยิ้มกล่าว “เช่นนั้นท่านคิดว่าข้าไม่ใช่ผู้ที่หลอมสร้อย ข้อมือมิติ
เก็บของหรือ? ข้าหลอมมันไว้นานแล้ว...”

เขานําเอาสร้อยข้อมือมิติเก็บของออกมาและกล่าว “ท่านดูนี่ ข้ายังมีอีก
หนึ่ง สิ่งนี้เป็นของเสี่ยวเม่ยเหลียน นางก็เป็น น้องสาวข้าผู้หนึ่ง!”

เชี่ยอูเฟิ งประหลาดใจไม่น้อย “ชี่เม่ยเหลียน? ได้ยินว่าวิญญาณ ยุทธ์ของ
นางพิเศษยิ่ง ย้อนกลับไปตอนที่นางยังอยู่ที่นี่ ข้าคือ คนที่เกลี้ยกล่อมให้
นางเลือกสถาบันชิงเสวียน” ฮั่วจงหัวเราะโง่งมกล่าวคํา

นางค่อนข้างเป็นเด็กสาวธรรมดา ทั้งใจดี และยังน่ารักมากอีกด้วย” มู่
หรงต้าเหรินขมวดคิ้ว

วิญญาณยุทธ์ของนางคืออะไร? เรื่อง นี้ไม่เคยมีใครได้รู้” ฉินหยุนก็ไม่เคย
ถามเช่นกัน ดังนั้นพอได้ยินพวกเขาเอ่ยถึง เขา จึงเกิดความสงสัยขึ้น เขา
จึงเอ่ยถาม

พี่ใหญ่เซี่ย วิญญาณยุทธ์ของเสี่ยวเม่ยเหลียน คืออันใด?” ในเมื่อเซี่ยอู
เฟิ งคือผู้ที่ไม่มีวิญญาณยุทธ์มาโดยตลอด เขาจึง ทําการศึกษาวิญญาณ
ยุทธ์และมีความเข้าใจด้านนี้อย่างลึกลํ้า “

ช่างแปลกนัก... วิญญาณยุทธ์ของชี่เม่ยเหลียน... ข้าถึงกับลืม เลือน!” สี
หน้าของเซี่ยอู่เฟิ งแปรเปลี่ยนเล็กน้อย “พอข้านึกถึง เรื่องนี้กลับไม่อาจจํา
อะไรได้เลย ข้าจําได้ว่าข้าเคยเห็นนะ! ทําไมเป็นแบบนี้ไปได้กัน!” มู่หรงต้า
เหรินร้องกล่าวแตกตื่น

ข้าเองก็ลืมเช่นกัน! ข้าจําได้ ว่าตอนนางเข้าสถาบันซานเสวียนและ
ทดสอบวิญญาณยุทธ์ ข้ายังรับชมอยู่จากด้านข้างเลย”

ไว้ค่อยถามนางตอนพวกเราเข้าสถาบันยุทธ์ชิงเสวียนแล้วกัน มาฉลอง
กันต่อดีกว่า!” ฉินหยุนกล่าวไปยิ้มไป ภายในใจของเขาเต็มไปด้วยข้อ
สงสัย เขาเชื่อว่าในเมื่อแผนที่ หลุมฝังเซียนมีความเกี่ยวข้องกับขี่เม่ย
เหลียน วิญญาณยุทธ์ ของนางจะต้องไม่ธรรมดาแน่ เหมือนอย่างเชี่ยวเย่ว์
หลาน นอกจากวิญญาณยุทธ์พลังจิตแล้ว นางยังมีวิญญาณยุทธ์ที่ลึกลํ้า
อยู่อีก! หลังดื่มกินร่วมกัน พอถึงช่วงบ่าย ฉินหยุนค่อยกลับเข้าห้องตนเอง

หลังเข้ามาในห้องแล้ว เขาจึงปิดประตูหินและนําเอาแผนที่ หลุมฝังเซียน
ออกมา

หยดเลือดลงไปก็รู้แล้ว หวังว่าจะไม่มีอะไรผิดปกติเกิดขึ้น จนเกินไปนะ!”
เขาหยดเลือดออกจากปลายนิ้วลงสู่แผนที่หลุมฝังเซียน จากนั้น ดวงตา
เขาค่อยเบิกออกกว้าง ผ่านไปครู่หนึ่ง เขาขมวดคิ้วและกล่าว

ไม่เห็นมีอะไรเลย!” ขณะที่กล่าวคําจบ แผนที่หลุมฝังเซียนว่างเปล่า
ฉับพลันส่อง แสงออก นํ้าเสียงอ่อนโยนและงดงามดังขึ้น

เสี่ยวหยุน? นั่น เจ้าหรือ?”

นี่ พี่สาวมหาอุปราช!! เป็นท่านหรือ?” ฉินหยุนอดไม่ได้ที่จะ ร้องอุทาน
ขณะจ้องมองแผนที่หลุมฝังเซียน นํ้าเสียงนี้ไม่ใช่ใครอื่น เป็นอดีตมหา
อุปราชของฉินหยุน เซี่ยฉี โหรว!

ในที่สุดเจ้าก็ได้รับแผนที่หลุมฝังเซียนของมารดาเจ้า!” เซี่ยฉี โหรวยิ้ม
หวานและอ่อนโยน

พี่สาว ตอนนี้ท่านอยู่ที่ใดกัน?” ฉินหยุนเร่งร้อนเอ่ยถาม “ข้า เป็นห่วงท่าน
มาก!”

ผ่านไปครู่ นํ้าเสียงของเซี่ยฉีโหรวกล่าวออกอย่างอ่อนโยน “ข้า สบายดี
เจ้าอย่าได้ห่วงเรื่องข้า! โอ้จริงด้วย เหตุใดเจ้าจึงหยด เลือดลงบนแผนที่
หลุมฝังเซียนกันเล่า?”

ข้าอยากรู้ว่าจะได้รับอะไรที่น่าสนใจหรือเปล่า?” ฉินหยุนกล่า วอย่างเศร้า
ใจ เช่นกัน เขาอยากทราบว่านางอยู่ที่ใด แต่นางไม่คิดอยากบอก ต่อเขา
เซี่ยฉีโหรวตอบกลับ

แผนที่หลุมฝังเซียนมีบางสิ่งอยู่ภายในจริง แต่ข้านํ้ามันออกมาแล้ว เป็น
วิญญาณเทวะเก้าตะวันที่ข้า ให้ไว้กับเจ้า!” วิญญาณเทวะเก้าตะวัน
แท้จริงถูกนําออกมาจากแผนที่หลุมฝัง เซียน!

ชั่วขณะนี้ ฉินหยุนจึงเข้าใจ ว่าเพราะเหตุใดวิญญาณสัตว์ร้าย ถึงมุ่งเป้ามา
ที่เขา ชัดเจนว่าพวกมันต้องการแผนที่หลุมฝัง เซียน

เสี่ยวหยุน ใช้วิญญาณเทวะเก้าตะวันให้ดี มันจะทําให้เจ้า แข็งแกร่ง
ยิ่งขึ้น พวกเราจะได้พบกันอีกครั้งเมื่อโชคชะตา นําพา!” เซี่ยฉีโหรวกล่าว
คําลาแก่ฉินหยุนพร้อมยิ้มเล็กน้อยให้

พี่สาว” ฉินหยุนตะโกนขึ้นหลายครั้ง ทว่าไม่มีเสียงตอบ กลับอีก เขาเร่ง
ร้อนหยดเลือดลงไปเพิ่ม ทว่ามันก็ไม่มีการ ตอบสนองใดเพิ่มเติม ตอนนี้
เขามั่นใจได้อย่างหนึ่งแล้ว ว่าอาการของเซี่ยฉีโหรวดีขึ้น มาก แต่เขายังไม่
ทราบว่านางอยู่ที่ใด ดูเหมือนจะเป็นสถานที่ ซึ่งห่างไกลกันมาก

เรื่องนี้ต้องเกี่ยวข้องกับหลุมฝังเซียน!” ฉินหยุนคิดแบบนี้กับ ตนเอง เขา
เก็บแผนที่หลุมฝังเซียนไป และนําเอาวิญญาณเทวะเก้า ตะวันออกมาที่
ข้อมือ เขาขมวดคิ้วจ้องมองและกล่าวกับตนเอง

พลังจิตของเราแข็งแกร่งขึ้นมาก ไม่แน่เราอาจเปิดลูกที่สองได้ แล้ว!” หลัง
ผ่านไปกว่าชั่วโมง เขาต้องยอมแพ้เพราะไม่มีปฏิกิริยาใด ตอบสนอง
เพิ่มเติม ตอนแรก เขาคิดถามเซียฉีโหรวเรื่องวิญญาณเทวะเก้าจันทรา

และวิญญาณเทวะเก้าตะวันคืออะไร เป็นเพราะเขาไม่ทราบ อะไรเกี่ยวกับ
พวกมันเลย โดยเฉพาะตอนนี้ มีวิญญาณร้ายที่ไล่ ล่าเขาเพื่อวิญญาณเท
วะเก้าตะวัน

ก่อนอื่นต้องเพิ่มพละกําลังของตัวเอง เรื่องนี้ไว้ผ่านการ ทดสอบค่อยว่า
กันได้ หากทุกอย่างเป็นไปได้ด้วยดี เราจะเข้า ร่วมสถาบันยุทธ์ชิงเสวียน
และจะได้เข้าสู่ค่ายอาคมขัดเกลา กระดูก จากนั้นเราจะได้ก้าวสู่ขอบเขต
กายวรยุทธ์ระดับที่เจ็ด” ด้วยอายุของเขาตอนนี้ หากสามารถก้าวสู่
ขอบเขตกายวรยุทธ์ ระดับที่เจ็ดได้ ศักยภาพของเขาจะไม่ยิ่งหย่อนไปกว่า
เชี่ยวเย่ว์หลาน

เขานําเอาวิชาคลื่นยักษ์ออกมา ขมวดคิ้ว และครุ่นคิด ตอนนี้ เขาไม่มีห
ยางฉีเย่ว์คอยช่วยอธิบายเคล็ดวิชา เขาจําเป็นต้องทํา ความเข้าใจด้วย
ตนเอง สิ่งนี้จําเป็นต้องใช้เวลานานยิ่งกว่าจะ ทําความรู้และเข้าใจได้

เคล็ดวิชาคลื่นยักษ์ เป็นวิชายุทธ์ระดับลึกลํ้า ทั้งยังทรงพลัง ยิ่ง กล่าวว่า
มันเหมาะกับวิญญาณยุทธ์สั่นไหวของเรา เราต้อง เชี่ยวชาญมันโดยเร็ว”
ฉินหยุนได้ยินข่าวลือหนาหูว่าการ ทดสอบนั้นยากเย็นยิ่ง โดยเฉพาะกับ
หน่วยของพวกเขาที่โดน อคติเปี่ยมล้น หน่วยอื่นมีคนมาก แต่หน่วยของ
เขากลับมีเพียงสี่คน เมื่อเวลา นั้นมาถึง กฏเกณฑ์การประเมินจะต้องทํา
ให้พวกเขาเสียเปรียบ อย่างยิ่ง ด้วยเหตุนี้ เขาจําเป็นต้องเชี่ยวชาญวิชา
ยุทธ์ทั้งหมดที่มีก่อน เพื่อเสริมศักยภาพให้แก่ตนเองในเวลาที่เหลือเพียง
หนึ่งเดือนนี้

วิชาคลื่นยักษ์จําเป็นต้องใช้กําลังภายใน แค่จุดเริ่มต้นก็สูงยิ่ง แล้ว หาก
ไม่รู้วิธีใช้กําลังภายใน ก็เท่ากับไม่อาจฝึกฝนวิชานี้ ได้” ฉินหยุนสามารถใช้
วัชระกําลังภายในได้ ดังนั้นเขาจึงสามารถ ฝึกวิชานี้ เขาเพียงต้องทําความ
เข้าใจและจับหลักสําคัญของ เคล็ดวิชาก็เท่านั้นเอง

ตอนท
ี่148
ิชาคล
ื่นยักษ

ไม่กี่วันให้หลัง โต๊ะของฉินหยุนก็เต็มไปด้วยกระดาษจํานวน หลายแผ่น
ทั้งหมดนี้เป็นส่วนที่เขาทําความเข้าใจในช่วงที่ศึกษาวิชาคลื่น ยักษ์ พวก
มันเหล่านี้วางกระจัดกระจาย จําเป็นต้องได้รับการ จัดเรียงเสียใหม่

ตราบเท่าที่เราเชี่ยวชาญพื้นฐานได้ ก็น่าจะพอใจได้แล้ว เรา ต้องทําให้
ได้” ฉินหยุนกล่าวอย่างมั่นใจกับตนเอง ในอีกหลายวันให้หลัง เขามุ่งเน้น
แต่การศึกษาเคล็ดวิชาคลื่น ยักษ์ ศิษย์ผู้อื่นในหุบเขาต่างก็เก็บตัวฝึกฝน
เคล็ดวิชาของตัวเอง เพราะอีกไม่นานแล้ว พวกเขาจําเป็นต้องยกระดับ
พลังเพื่อเข้า ร่วมการทดสอบ!

มีแต่ต้องผ่านการทดสอบจึงสามารถไปจากสถาบันซานเสวียน และมุ่ง
หน้าสู่สถาบันยุทธ์ระดับเสวียนได้ มีเพียงเดินบน เส้นทางนี้พวกเขาจึงจะมี
โอกาสได้ก้าวสู่ขอบเขตกายวรยุทธ์ ระดับที่เจ็ด!

ไม่เช่นนั้น ด้วยพละกําลังของพวกเขา การก้าวขึ้นสู่ขอบเขต กายวรยุทธ์
ระดับที่เจ็ดจะกลายเป็นเรื่องยากเย็น และไม่ สามารถทําได้ในเวลาอันสั้น
ภายในห้อง ฝ่ามือของฉินหยุนประทับกับผนังขณะส่งถ่ายกําลัง ภายใน
เข้าไป มันปล่อยออกเป็นคลื่นกระแทก เขาพึมพํากับตัวเอง

หากอาจารย์หยางอยู่ที่นี่ เราคงจับเคล็ด วิชาคลื่นยักษ์ได้ในเวลาอันสั้น
แล้ว ตอนนี้เรากลับต้องใช้เวลา ถึงสิบวันกว่าจะสําเร็จถึงขั้นต้น”

ตอนนี้ เราทําได้เพียงแค่ปล่อยคลื่นกระแทกออกมาครั้งหนึ่ง เราต้อง
ปล่อยคลื่นกระแทกออกมาให้ได้อย่างน้อยสามครั้งถึง จะเรียกว่าดีได้”

วิชาคลื่นยักษ์ ทราบเท่าที่คนผู้หนึ่งสามารถสร้างคลื่นกระแทก ก็นับได้ว่า
สําเร็จขั้นต้น คลื่นกระแทกที่สองและสามจะเป็น ความยากขึ้นมาอีกระดับ
หนึ่ง พลังอํานาจของเคล็ดวิชาจะยิ่ง แข็งแกร่งรุนแรงมากขึ้น ที่ขั้นกลาง
จะสามารถปลดปล่อยคลื่นกระแทกได้สี่ ห้า หรือว่า หกครั้ง ฉินหยุนฝึกฝน
เคล็ดวิชาคลื่นยักษ์อย่างต่อเนื่อง แม้จะเป็นเพียง แค่คลื่นกระแทก แต่มัน

ทรงพลังยิ่ง เป็นเพราะมันเกิดขึ้นจาก กําลังภายในที่ใช้ออกผ่านเคล็ดวิชา
ไม่เพียงแต่เขาฝึกฝนเคล็ดวิชาคลื่นยักษ์ เขายังฝึกฝนวิชายุทธ์ อื่นด้วย เขา
ได้ฝึกฝนหมัดอ่อนเปลวเพลิง และก้าวอัคคีเมฆาจนถึงขั้น สมบูรณ์!

ทว่า การเรียนรู้จนถึงขั้นสมบูรณ์แบบ มันไม่เพียงแต่ ต้องใช้เวลาเพื่อทํา
ความเข้าใจ แต่ศักยภาพทางร่างกายและ พื้นฐานการฝึกฝนต้องแข็งแกร่ง
พอด้วย

ฝ่ามือพันอาชาและวิชาหานซานยังคงก้าวหน้าอย่างต่อเนื่อง พวกมันเป็น
เคล็ดวิชายากเรียนรู้ นั่นจึงทําให้พลังที่ได้รับไม่ ธรรมดาเช่นกัน ฉินหยุนทํา
ความรู้และเข้าใจเพื่อเรียนรู้วิชายุทธ์หลากหลาย ด้วยตนเอง เป็นผลให้เขา
ยิ่งมายิ่งมีความเข้าใจลึกลํ้าต่อเคล็ด วิชาฝึกฝน มันจะยิ่งทําให้ง่ายต่อการ
เข้าใจเมื่อเขาเรียนรู้เคล็ด วิชาอื่นในภายหน้า เป็นเพราะหยางฉีเย่ว์
บ่อยครั้งจะอ่านตําราวิชายุทธ์นานา ประเภท เพราะแบบนั้นนางจึงมี
ความเข้าใจที่ดีต่อวิชายุทธ์ที่ ค่อนข้างยาก

ในที่สุดก็สําเร็จขั้นต้น วิชาคลื่นยักษ์ที่เราใช้จะนํามาซึ่งคลื่น กระแทก
สามครั้ง” หลังฉินหยุนปลดปล่อยกําลังภายใน คลื่น กระแทกสามวงจึง
บังเกิด พวกมันเป็นคลื่นที่ทะลักพุ่งออก ด้านหน้าด้วยพลังทรงอํานาจ เขา
กล่าวเย้ยหยันตัวเอง “พอมาคิดแล้ว มันถึงกับทําเอาเรา ต้องใช้เวลาครึ่ง
เดือนกว่าจะเชี่ยวชาญพื้นฐานได้!”

เขารู้สึกว่า หากหยางฉีเย่ว์อยู่ที่นี่ เพียงห้าวันตนก็สามารถใช้ คลื่น
กระแทกสามครั้งได้แล้ว ในอดีตที่ผ่านมา เป็นเพราะหยางฉีเย่ว์ชี้แนะ เขา
จึงสามารถ เรียนรู้วิชาฝ่ามือพันอาชาและวิชาหานซานได้อย่างรวดเร็ว
ตอนนี้เขาเชี่ยวชาญฝ่ามือพันอาชาแล้ว และยังสามารถใช้ กําลังภายใน
เพื่อโจมตี นี่เสมือนการใช้พลังของม้านับพันตัวพุ่ง ออก ทว่าก็ต้องใช้กําลัง
ภายในไม่ใช่น้อย และความเชี่ยวชาญของวิชาหานซานนั้น สามารถ
ปลดปล่อย พละกําลังที่สามารถเคลื่อนขุนเขาได้ ถือว่าเป็นพละกําลังที่
ทรง อํานาจยิ่ง

เราเชี่ยวชาญวิชายุทธ์พวกนี้ดีแล้ว ขอบเขตกายวรยุทธ์ระดับ ที่หกทั่วไป
ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเราอีก แต่ไม่รู้ว่าจะเป็นอย่างไรบ้าง หากต้องต่อสู้กับ
ขอบเขตกายวรยุทธ์ระดับที่เจ็ด” ฉินหยุนครุ่น คิดกับตนเอง

ที่เขาคุ้นเคยด้วยที่สุดก็คือวิชาวายุสังหารหกกระบวนท่า และ วิชามังกร
หลอม เป็นเขาใช้งานพวกมันบ่อยครั้ง ดังนั้นจึง เรียนรู้พวกมันและ
เชี่ยวชาญได้อย่างรวดเร็ว เคล็ดวิชาฝึกฝนที่เขาสามารถเรียนรู้ ไม่มากก็
น้อยสําเร็จไปแล้ว ตอนนี้เหลือเวลาอีกสิบวันก่อนถึงการทดสอบ!

เหลืออีกสิบวัน แต่ยังรู้สึกเหมือนมีเวลาไม่พออยู่เลย การ ทดสอบครั้งนี้
จะต้องมีคนเล็งเป้าพวกเราเป็นแน่ ดังนั้นเราต้อง ทําให้ตัวเองแข็งแกร่งขึ้น
ไม่เช่นนั้นก็จะไม่สามารถผ่านการ ทดสอบไปได้”

ฉินหยุนไม่เป็นกังวล เขามั่นใจมากว่าจะต้องมีคนเข้ามาขวาง ตนเองอย่าง
แน่นอน คนของสถาบันยุทธ์เทียนเสวียนและ ตําหนักดวงดาววิญญาณสี
ครามนั้น ไม่ปรารถนาได้เห็นเขาเข้า ร่วมสถาบันยุทธ์ระดับเสวียนอย่างถึง

ที่สุด เขาได้ศึกษาวิชายุทธ์มาตลอดยี่สิบกว่าวันโดยไม่ได้พักเลยสัก นิด
กระนั้น เขาก็ยังคงมีความกังวลว่าตนจะไม่อาจผ่านการทดสอบครั้งนี้
หากเป็นแบบนั้นเขาก็ต้องรอโอกาสหน้าอีกครึ่งปี ด้วยกัน

ยังมีเวลาอีกกว่าสามหรือสี่เดือนก่อนพิธีอภิเษกสมรสจะ เริ่มต้นขึ้น ไว้
เวลานั้นมาถึง พวกนั้นจะต้องตอแยเราแน่ โดยเฉพาะกับนังโฉดชั่ว
จักรพรรดินี นางจะต้องทําให้มั่นใจว่า เราจะได้เข้าร่วมเพื่อรับชมบุตรชาย
ของนางแต่งงานกับเชี่ยว เย่ว์หลาน”

ชั่วขณะนี้ ฉินหยุนกําลังแช่ตัวในอ่างอาบนํ้า เขาปลดปล่อย เปลวเพลิง
ออกมาและทําให้นํ้าร้อนขึ้น นี่ก็เพื่อเป็นการผ่อน คลายร่างกาย การผ่อน
คลายเป็นสิ่งสําคัญ ทั้งยังช่วยฟื้นฟูร่างกาย อย่างกะทันหัน เขามองที่โท
เทมราชสีห์สวรรค์บนแขน เขาอด ไม่ได้ที่จะนึกย้อนถึงคําพูดของราชสีห์
อัคคีทองคํา

จ้าวราชสีห์บอกว่า โทเทมราชสีห์สวรรค์จําเป็นต้องทําความรู้ และเข้าใจ
หมายความว่าเราสามารถรู้และเข้าใจอะไร บางอย่างจากมันได้?”

ด้วยสีหน้าสับสน เขามองสัญลักษณ์โทเทมราชสีห์สวรรค์บน แขนอย่าง
เงียบงัน คล้ายพยายามวิเคราะห์มันออกมา ขณะนั้นเอง เป็นเขาไม่อาจ
ละสายตาไปจากมัน กระทั่งนํ้าใน อ่างอาบนํ้ากลับกลายเป็นเย็นเยือกดุจ
นํ้าแข็งเขายังไม่รู้ตัว “แปลก เหมือนเราจะเห็นราชสีห์ขยับได้!” ฉินหยุนไม่
ทราบว่า ทําไมตนถึงมีความรู้สึกเช่นนี้ มันทําเอาเขาลอบตื่นเต้นขณะ
สํารวจมองมันอย่างสนใจยิ่ง หลายชั่วโมงให้หลัง เขาพลันได้ยินเสียงร้อง
คําราม!

เสียงร้องคํารามราชสีห์ดังในหู!” ฉินหยุนสะดุ้งตื่นก่อน หลับตาลงอีกครั้ง
ในจิตใจของเขา ภาพของโทเทมราชสีห์ สวรรค์คือสิ่งฝังแน่น

โฮก! โฮก! โฮก! เขาสามารถได้ยินเสียงคํารามร้องราชสีห์อย่างชัดเจนหลัง
วาด ภาพโทเทมราชสีห์สวรรค์ภายในใจ เขากระทั่งเห็นเส้นสายเป็น
รูปแบบของโทเทมราชสีห์สวรรค์ คล้ายนี่คือวิธีการใช้กําลังภายใน

เขาเร่งรีบจดจําความเปลี่ยนแปลงของโทเทมราชสีห์สวรรค์ ยามเมื่อมัน
ร้องคําราม “แขนเราตอนนี้เต็มไปด้วยเลือดของราชสีห์สวรรค์ บางทีเรา
อาจควบคุมและฝึกฝนเคล็ดวิชาของราชสีห์สวรรค์ได้!”

ฉิน หยุนเบิกตาโพลงขณะพิจารณานึกย้อนถึงความเปลี่ยนแปลงที่
เกิดขึ้นต่อโทเทมราชสีห์สวรรค์ในใจ ตามความเข้าใจของเขา เขาสามารถ
รับรู้ถึงความเปลี่ยนแปลง ของโทเทมราชสีห์สวรรค์ และควบคุมพลัง
ปราณให้สามารถ ไหลผ่านมาที่ลําคอ เพียงอึดใจ กล้ามเนื้อที่ลําคอของ
เขาคล้ายอดไม่ได้จนต้อง คํารามออกมา

โฮก!” เสียงคํารามนี้เปรียบดั่งเสียงราชสีห์คําราม!

ฉินหยุนตระหนก!

เขาไม่คิดว่าด้วยโอกาสครั้งนี้ เขาจะเรียนรู้เสียงคํารามราชสีห์ นอกจากนี้
ยังไม่ใช่เพียงเสียงคํารามร้องธรรมดา มันยังเป็นคลื่น พลังภายในอัน
แข็งแกร่ง

หากเสียงคํารามร้องนี้ปลดปล่อยออกระหว่างการประลอง ยุทธ์ มันน่าจะ
ส่งผลกระทบไม่มากก็น้อยเลยทีเดียว” เขาอดใจไม่ไหว ความคิดเช่นนี้ทํา
เอาเขาตื่นเต้น เขาหลับตานิ่งขณะทําความรู้และเข้าใจโทเทมราชสีห์
สวรรค์ต่อเนื่อง

หากเราเรียนรู้มันได้อย่างต่อเนื่อง เราอาจสามารถใช้กําลัง ภายในเพื่อ
คําราม พลังของมันจะต้องยิ่งแข็งแกร่งกว่าเมื่อครู่” ไม่นานจากนั้น เขาได้
ทําความเข้าใจต่อเคล็ดวิชายิ่งมายิ่ง กระจ่างชัด นามของวิชานี้คล้าย
ประทับในใจฝังแน่น

เสียง คํารามราชสีห์สวรรค์ทะลวงนภา”

ดูเหมือนเราจะได้รับมรดกสืบทอดของราชสีห์สวรรค์ของจริง! เราต้องทํา
ความรู้และเข้าใจมันอย่างต่อเนื่อง บางทีอาจถึงขั้น เชี่ยวชาญกระบวนท่า
อื่นได้อีก!”

ฉินหยุนสํารวจมองโทเทมราชสีห์สวรรค์ที่แขนต่อเนื่องยาวนาน เขาตั้ง
สมาธิมั่นกับการทําความรู้และเข้าใจวิชายุทธ์อื่นของ ราชสีห์สวรรค์ มรดก
จากโทเทมเป็นสิ่งลึกลับยิ่ง มันเป็นเพียงแค่โทเทม แต่ กลับบรรจุเปี่ยมล้น
ด้วยพลังงานลึกลับที่ทําให้คนผู้หนึ่งสามารถ รู้และเข้าใจวิชายุทธ์จากมัน
ได้ มรดกเช่นนี้ไม่เคยมีบันทึกไว้ในตําราเล่มใด เป็นเพราะมีโอกาส น้อย
มากที่มนุษย์จะสามารถได้รับมรดกโทเทมสัตว์

ตอนท
ี่149 วันส
ดทา
ยทส
ี่ ถาบนั ซานเสวียน

สัตว์ร้ายหุ่นเชิดที่สร้างขึ้นจากโทเทมราชสีห์สวรรค์นั้นทรงพลัง อํานาจยิ่ง
เพียงสิ่งนี้ก็บ่งบอกได้แล้วว่าโทเทมราชสีห์สวรรค์ เดิมมีพลังอันแข็งแกร่ง
สามารถเรียกได้ว่าเป็นผังวิญญาณ

ประเภทหนึ่งที่ทรงพลังอย่างยิ่งได้ ไม่นานนัก ฉินหยุนได้เรียนรู้วิชายุทธ์อีก
หนึ่งจากโทเทมราชสีห์ สวรรค์! “วิชายุทธ์ราชสีห์สวรรค์ กรงเล็บราชสีห์!”
เคล็ดวิชากรงเล็บนี้ทรงพลังยิ่ง มันสามารถใช้กําลังภายใน จําลองกรงเล็บ
แหลมคมของราชสีห์ออกมาได้ และเมื่อใช้งาน มันในสมรภูมิรบ มันจะ
สามารถกลายเป็นกรงเล็บมายาโปร่ง แสงที่ปรากฏบนมือของคนผู้หนึ่ง

เมื่อทําการโจมตี กรงเล็บราชสีห์มายาจะทรงพลังอํานาจ เปรียบเสมือน
กรงเล็บของจริง! ฉินหยุนลองใช้ท่านี้ฝากรอยกรงเล็บเข้าลึกไว้ที่ผนังหิน

มรดกของราชสีห์สวรรค์ กระทั่งมนุษย์กลับสามารถควบคุมได้ นี่แปลก
เกินไปแล้ว!” ด้วยความคิดนี้ฝ่ามือฉินหยุน ประกอบด้วยพลังภายในก่อ
เกิดขึ้นเป็นกรงเล็บราชสีห์ นอกจากนี้ มันยังมีขนาดใหญ่มาก เขารู้สึกว่า
หากคนผู้หนึ่งไม่เตรียมตั้งรับอย่างทันท่วงที พวก เขาเหล่านั้นจะต้องโดน
ตัดออกเป็นชิ้นเพราะกรงเล็บที่แหลม คมเหล่านี้ “ถ้าเราคิดใช้งานมัน ต้อง
ระมัดระวังให้ดี”

กระทั่งเขายังเป็น กังวลว่าตนจะถูกกรงเล็บราชสีห์จากพลังภายในของ
ตัวเองทํา ให้ได้รับบาดเจ็บ เพราะกรงเล็บนี้แหลมคมอย่างถึงที่สุดจริง เขา
เคยได้ยินได้เห็นเคล็ดวิชาคล้ายกันนี้มาบ้าง แต่เขาไม่เคยมี โอกาสได้
เรียนรู้พวกมันเลยสักครั้ง

ด้วยกระบวนท่านี้ เราสามารถใช้งานในสถานการณ์ที่ไม่ สามารถใช้
อาวุธ และยังใช้ร่วมกับวิชาวายุสังหารหกกระบวน ท่าได้อีกด้วย!” กรงเล็บ
ราชสีห์มีสี่กรงเล็บ ก็เปรียบดั่งมีดสี่เล่ม หากเขาใช้วิชา วายุสังหารหก
กระบวน พลังอํานาจของมีดทั้งสี่เล่มแทบ จินตนาการถึงได้

ราชสีห์สวรรค์เป็นราชสีห์อัคคี มันจะช่วยส่งเสริมได้อีกหากใช้ พลัง
ภายในธาตุไฟร่วมเข้าไปด้วย” ฉินหยุนลอบคาดเดาถึงเหตุผลว่า ที่ตน
ได้รับโทเทมราชสีห์ สวรรค์มา อาจเป็นเพราะวิญญาณยุทธ์ไฟระดับทอง
ม่วง ในอีกสองวันให้หลัง เขาไม่ได้รับรู้วิชายุทธ์อื่นใดจากโทเทม ราชสีห์
สวรรค์เพิ่มเติมอีก จึงทําได้เพียงแต่ปล่อยเอาไว้ก่อน โทเทมราชสีห์สวรรค์
นําพามาซึ่งความประหลาดใจแก่เขา ทั้ง ยังรวมถึงความพึงพอใจ ในภาย
หน้า เขาจะสามารถใช้โทเทมราชสีห์สวรรค์เพื่อหลอม หุ่นเชิดสัตว์หรือ
อาวุธที่แข็งแกร่งขึ้นได้

การฝึกฝนเคล็ดวิชาของฉินหยุนเพิ่มพูนขึ้น ผลลัพธ์คือ พละกําลังของเขา
เพิ่มขึ้น กล่าวได้ว่าเขาตอนนี้อยู่ขีดสุดของ ขอบเขตกายวรยุทธ์ระดับที่หก
แล้วก็ว่าได้ ขณะออกจากห้อง เขาได้เห็นเซี่ยอู่เฟิ งอยู่ที่ห้องนั่งเล่น ทั่วทั้ง
หุบเขาตอนนี้ถูกปกคลุมด้วยบรรยากาศตึงเครียด ทุกคน ล้วนตั้งใจเร่ง
เครื่องในช่วงสุดท้าย มีเพียงเซี่ยอู่เฟิ งที่อยู่ เขา เพียงจิบชาและอ่านหนังสือ
ไปเรื่อย แม้มีเพียงมือซ้าย เขาก็ ยังคงมองโลกในแง่ดีเช่นนี้

พี่ใหญ่เซี่ย เหมือนท่านมั่นใจกับการทดสอบครั้งนี้มาก!” กระทั่งเขายัง
รู้สึกวิตกกังวล เซี่ยอู่เฟิ งในชาใส่ถ้วยตัวเองเพิ่มและกล่าวเบาออกมา

การ ประเมินผลครั้งนี้ พวกเราจะเสียเปรียบยิ่งไม่ว่าจะเป็นในแง่ใด พวก
เราจําเป็นต้องทุ่มทั้งหมดที่มี ไม่เช่นนั้นคงไม่มีโอกาสอื่น เหลืออยู่อีก!”

สองวันก่อน ผู้อํานวยการไปมาบอกต่อข้าว่า สถาบันซาน เสวียนกําลังจะ
ถูกเพิกถอนสถานะสถาบันหลังการประเมินผล ในครั้งนี้ ในภายหน้า หาก
ต้องการเข้าร่วมสถาบันยุทธ์ระดับ เสวียน จําเป็นต้องลงนามสัญญา
ข้อตกลงจํานวนมากกับสถาบันยุทธ์ระดับเสวียนเพื่อเข้าร่วม” ฉินหยุนเดิน
ไปรินชามาถ้วยหนึ่ง เขารู้สึกกดดันไม่น้อย! เซี่ยอู่เฟิ งกล่าว

ตอนนี้สถาบันยุทธ์ระดับเสวียนทั้งสามคิด อยากครอบครองศิษย์พี่เหนือ
ลํ้าในช่วงเวลาอันสั้น เพื่อนําพา มาซึ่งผลประโยชน์ที่มากกว่า! ก่อนที่
ตําหนักดวงดาววิญญาณสี ครามจะปรากฏ สถาบันยุทธ์เทียนเสวียนและ

สถาบันยุทธ์หลิง เสวียนล้วนก็เป็นเช่นนี้” เขาพบว่าฉินหยุนวิตกกังวล
ระดับหนึ่ง เขาอดไม่ได้ที่จะหัวเราะ กล่าวคํา

เจ้าต้องผ่อนคลาย ตึงเครียดมากไปจะส่งผลกระทบ ต่อตัวเอง!”

อา ข้าขอออกไปสูดอากาศหน่อยแล้วกัน!” ฉินหยุนพยักหน้า

เซี่ยอูเฟิ งสามารถมองเป็นเรื่องง่ายได้ เพราะเขาเคยเข้าร่วม การทดสอบ
ประเมินผลมาหลายครั้งแล้ว อาจกล่าวได้ว่าเป็นผู้ มีประสบการณ์โชกโชน
ฮั่วจงและมู่หรงต้าเหริน พวกเขายังอยู่ในห้องของตนเอง และ ฝึกฝนอย่าง
อื่นขมต่อวิชายุทธ์ของตนเพื่อให้แข็งแกร่งขึ้นทัน ก่อนการทดสอบเริ่ม
ตอนนี้ พวกเขาไม่ได้เผชิญหน้ากับการทดสอบประเมินผลเพียง ลําพัง
พวกเขาจะรวมกันไปเป็นกลุ่มก้อน!

ด้วยความรับผิดชอบต่อตนเองที่ไม่อยากเป็นภาระของหน่วย พวกเขาจึง
พยายามอย่างหนัก ฉินหยุนเดินออกจากถํ้า เขาได้เห็นความเปลี่ยนแปลง

ไม่มีความคิดเห็น :

แสดงความคิดเห็น