วันพฤหัสบดีที่ 19 มีนาคม พ.ศ. 2563
ตอนที่361: วงเวท (2) แปลนิยาย.วันเสาร์ ที่19 พฤษภาคม 2018 มิลานและเซธไม่ได้แปลกใจเมื่อรู้ระดับปัจจุบันของแองเจเล่ความ คืบหน้าของเขาไม่ได้ดูเหมือนว่าจะเร็ว พวกเขาคิดว่าแองเจเล่เป็นลูก ชายที่แท้จริงคนเดียวของวิเวียนและมีสายเลือดที่เข้าถึงระดับสองได้ใน ไม่ช้า แต่ความคืบหน้าของแองเจเล่ก็อยู่ใกล้เคียงกับพ่อมดที่มีระดับ พรสวรรค์ธรรมดา ทั้งสามยังคงคุยกันในขณะที่พวกเขาเดินเข้าไปในโบราณสถานใต้ภูเขา ไฟ เมื่อผ่านอุโมงค์แองเจเล่ก็พาทั้งสองไปห้องเล็กๆที่เป็นผนังหิ น ผนังสีดำของห้องราบเรียบและไม่มีคริสตัลเรืองแสง ตรงกลางห้องมีโต๊ะหินที่มีลูกแก้วสีแดงลอยอยู่ข้างบน ลูกแก้วแสงลอยอยู่บนผิวของโต๊ะ มีเสียงแปลกๆสะท้อนออกมาเป็น คลื่นพลังงานอย่างต่อเนื่องจากลูกแก้วแสง แองเจเล่ปิดประตูห้องหลังจากที่มิลานและเซธเข้าห้อง หลังจากนั้นเขา ก็วางฝ่ามือบนผิวของประตูอย่างระมัดระวัง แค๊รก ในไม่ช้าประตูก็ผสานกับผนังราวกับว่าไม่เคยมีประตูอยู่ที่นั่น มิลานนั่งลงข้างโต๊ะและถอดหน้ากากออกซึ่งทำให้เห็นริมฝีปากสีชมพูที่ สดใสของเธอ "เรามารอมอร์เรี่ยนกันเถอะ" "ตกลง ยังไงพวกเจ้าทั้งสองคนก็เป็นคนที่ออกคำสั่ง" เซธยักไหล่ ใน ขณะเดียวกันเขาก็ดูพูดไม่ออกนิดหน่อย แองเจเล่ไม่ได้พูดอะไร เขาเพียงแค่นั่งรออย่างอดทน ประมาณสิบนาทีต่อมาประตูรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าก็ปรากฏบนผนังหิน อย่างช้าๆ แค๊รก ประตูถูกเปิดออกและมีชายล่ำสันหูยาวเดินเข้าห้อง "พวกเจ้ากำลังรอข้าอยู่ใช่ไหม เอาล่ะ งั้นเรามาเริ่มกันเลย เราสามารถ ใช้สระพลังงานขนาดเล็กที่นี่เพื่อติดต่อกับนิโก้ได้" หลังจากที่ประตูผนึกอีกครั้งเขาก็เดินไปที่โต๊ ะ ทั้งสี่นั่งฝั่งตรงข้ามกั น มอร์เรี่ยนมองไปที่แองเจเล่และพยักหน้า "แองเจเล่ เราได้พบกันครั้ ง เดียวผ่านกล้องดูดาวเท่านั้น นี่ควรจะเป็นครั้งแรกที่เราได้พบหน้ากัน ถ้าเจ้าต้องการความช่วยเหลือใดๆเกี่ยวกับแกนแม่น้ำมัลเท็นหรือว่าเจ้า กำลังเผชิญกับปัญหาใดๆก็มาพูดกับข้า คำพูดของข้ามีน้ำหนักมากใน ภาคตะวันตกเฉียงเหนือ" ด้วยการดีดนิ้วของเขาก็มีจุดแสงสีดำบินไป หาแองเจเล่ แองเจเล่ไม่ได้พยายามหลบมันแต่เขายกมือซ้ายขึ้นมาแทน มันลงบน กลางฝ่ามือของเขา มีรูนสื่อสารสีดำปรากฏบนนิ้วโป้งของเขา มันเป็น ฮูกเรืองแสงสีดำ "ขอบคุณมอร์เรี่ยน" แองเจเล่ยิ้ ม "ข้าสามารถช่วยเจ้าได้เช่นกัน แม้ว่าตระกูลมิลานจะอ่อนแอกว่าองค์กร ของเราแต่ข้าก็ยังสามารถช่วยเจ้าจัดการกับเรื่องเล็กๆน้อยๆได้เจ้าไม่ ควรจะยุ่งกับท่านวิเวียนมากนักเนื่องจากเธอกำลังยุ่งอยู่กับสงคราม เรา มาพูดเรื่องของเราแทน" มิลานยิ้มเมื่อเธอส่งรูนสื่อสารให้แองเจเล่ มีแสงสีม่วงกะพริบบนนิ้วชี้มือซ้ายของเขา มันเป็นรูนเรืองแสงที่ดู เหมือนกิ้งก่ายักษ์ที่มีเพียงสองขาเท่านั้น "ขอบคุณมิลาน" แองเจเล่รู้ว่ามอร์เรี่ยนและมิลานกำลังพูดความจริงกับ เขา วิเวียนได้รับพวกเขาเป็นนักเรียนและพวกเขาได้รับประโยชน์อย่าง มากจากองค์กร พวกเขาต้องการหาวิธีตอบแทนเธอ "เอาล่ะ เรามาเข้าเรื่องกันเถอะ" มอร์เรี่ยนพูด สีหน้าของเขาเริ่มเคร่ง ขรึม รอยยิ้มที่อ่อนโยนบนใบหน้าของมิลานหายไปด้วยเช่นกัน เซธขยับเก้าอี้ให้ห่างเล็กน้อยและกะพริบตาให้แองเจเล่ แองเจเล่ขดริมฝีปากและตัดสินใจที่จะละเลบพฤติกรรมของเขา "พวกเจ้าควรรู้ว่าทำไมข้าต้องรวมตัวพวกเจ้าที่นี่มันเกี่ยวกับตระกูลของ นิโก้" มอร์เรี่ยนเริ่มอธิบาย "ข้าไม่รู้เรื่องมากนัก" มิลานย่นคิ้ว "นิโก้กำลังเดือดร้อน เธอต้องการ ความช่วยเหลือของพวกเรา" "ใช่เจ้าพูดถูก" มอร์เรี่ยนพยักหน้า "นิโก้เข้าร่วมการแข่งขันในตระกูล ของเธอและถูกลากเข้าไปยุ่งเรื่องน้องชายของเธอ เธอเตรียมตัวได้อย่าง ดีเธอคาดการณ์ว่าจะเกิดบางอย่างขึ้นและนั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมข้าจึง มีวัสดุหลายอย่างสำหรับสระพลังงานที่จะส่งให้เธอ" "วัสดุมาจากตระกูลบาตัน ข้าคิดว่ามันไม่จำเป็นแต่ข้าก็ยังส่งคริสตัล พลังงานสองก้อนจากถ้ำของกรีนแลนด์ไปให้เธอ ข้าไม่เคยคาดหวังว่า สถานการณ์จะเลวร้ายแบบนี้" มิลานพูดเสริม "เธอต้องสร้างสระ พลังงานซึ่งหมายความว่ามันย่อมเป็นปัญหาใหญ่" "เซธ เจ้าเป็นทายาทของตระกูลที่มีมรดกวงเวทใช่ไหม" หลังจากลังเลชั่ว ครู่มิลานก็หันไปมองเซธ เซธไม่ได้สนใจในปัญหาของนิโก้เลยแม้แต่น้อยแต่เขาก็รีบตอบเมื่อได้ ยินคำถามของมอร์เรี่ยน "ข้าได้เรียนวงเวทแล้วแต่มันก็มีพลังเพียง 20% ของพลังดั้งเดิมเท่านั้น" "แล้วเจ้าล่ะมิลาน" มอร์เรี่ยนหันไปด้านข้าง "ประมาณ 25 เปอร์เซ็นต ์ข้ายังไม่ได้เชี่ยวชาญมัน" มิลานพยักหน้า "ข้ า เพิ่งเริ่มเรียนรู้ " มอร์เรี่ยนหลับตาและตัดสินใจ "ด้วยความช่วยเหลือของบัพเราสามารถ ยกระดับวงเวทมรดกของเราได้วงเวทของข้าจะทำหน้าที่เป็นวงเวท หลัก ข้าจะนำทางไปสถานที่นั้น โปรดระมัดระวัง เราจะลงมือเมื่อมัน จำเป็นเท่านั้น" "แน่นอน โชโซและเจ้ามักจะหาจังหวะที่ถูกต้องเสมอ ข้านับถือเจ้า" มิ ลานยิ้ ม แองเจเล่นั่งอยู่ด้านหนึ่งและเฝ้าดูทั้งสามวางแผนกัน เขารู้ว่าไม่มีอะไรที่ เขาสามารถช่วยได้มากนัก พ่อมดที่ครอบครองวงเวทมรดกจะเข้าร่วมการต่อสู้ที่เกิดขึ้นในสถานที่ อื่นด้วยความช่วยเหลือของสระพลังงาน นั่นเป็นวิธีที่ลอร์ดยักษ์พายุ โจมตีวิเวียน วงเวทมรดกจะไม่เพิ่มความเสียหายของคาถามากนักแต่มันก็มักจะมี คุณสมบัติที่ลึกลับ นอกจากนี้วงเวทมรดกทั้งหมดสามารถใช้เป็นฐาน ของสระพลังงานได้ พลังของสระพลังงานสามารถช่วยพ่อมดในการร่ายคาถาของพวกเขา ได้ในสถานที่ที่กำหนด พลังคาถาของพวกเขาที่ออกไปจะไม่ลดลงเพียง เพราะปัญหาที่เกี่ยวข้องกับระยะทาง พ่อมดที่สามารถใช้วงเวทมรดกได้จะสามารถเปลี่ยนผลของการต่อสู้ หรือสงครามได้ อย่างไรก็ตาม ตลอดทั้งอายุขัยของพ่อมดสามารถควบคุมวงเวทมรดก ได้เพียงวงเดียวเท่านั้น ถ้าวงเวทถูกทำลายวิธีเดียวที่จะฟื้นฟูมันก็คือ การซ่อม พ่อมดที่ครอบครองวงเวทนั้นจะไม่สามารถแทนที่ได้ด้วยวง เวทมรดกอันอื่น เฉพาะตระกูลหรือองค์กรที่มีทรัพยากรเพียงพอที่จะสร้างและสนับสนุ น วงเวทขนาดใหญ่เหล่านั้น มันจะใช้เวลาหลายร้อยปีเพื่อให้องค์กร เหล่านั้นสร้างขึ้นมาหนึ่งวงและจำนวนวัสดุที่มหาศาลเป็นสิ่งจำเป็น ส่วนมากวิธีเปิดใช้งานวงเวทเมื่อมันเสร็จสิ้นมีวิธีเดียวคือผ่านขีดจำกัด ทางสายเลือด วงเวทมรดกจะให้เฉพาะผู้อาวุโส หัวหน้าหรือทายาทของตระกูลเท่านั้น แองเจเล่ไม่มีวงเวทมรดกดังนั้นเขาจึงไม่สามารถเข้าร่วมการต่อสู้ผ่าน สระพลังงานได้เขามาที่นี่เพื่อรวบรวมข้อมูลเท่านั้น เขายังเป็นพ่อมดที่อ่อนแอที่สุดที่นี่ แองเจเล่เคยเห็นเซธเปิดใช้งานวงเวทมรดกครั้งหนึ่งและยืนอยู่ใน สถานที่หนึ่งโดยไม่ต้องเคลื่อนไหว การไหลเวียนพลังงานที่น่ า สะพรึงกลัวสามารถปิดกั้นการโจมตีส่วนใหญ่ของศัตรูได้ เมื่อเทียบเซธกับเทอร์รี่แม่มดที่เขาพบที่หุบเขาอเวจีเซธจะสามารถลบ ล้างเธอได้อย่างง่ายดายถ้าเขาสามารถเปิดใช้งานวงเวทมรดก พลังขอ งวงเวทมรดกอยู่ในระดับที่ต่างออกไป ถ้าใครสามารถเปิดใช้งานวงเวทมรดกของพวกเขาได้อย่างเต็มที่ก็จะ ได้รับอนุภาคพลังงานอย่างไม่มีที่สิ้นสุ ด กล่าวอีกนัยหนึ่งก็คือฝ่ายตรง ข้ามจะต้องแข็งแกร่งกว่ามากๆเพื่อที่จะชนะ นี่คือในกรณีที่พวกเขา ไม่ได้ครอบครองวงเวทมรดก ตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับพ่อมดที่ไม่มีวงเวทมรดกคือการหนีแม้ว่าระดับ ของพวกเขาจะสูงกว่าฝ่ายตรงข้ามที่ครอบครองวงเวทมรดกก็ตาม นอกจากนี้พ่อมดที่มีวงเวทมรดกมักจะเป็นสมาชิกที่มีสถานะยิ่งใหญ่ใน ตระกูลหรือองค์กรและมีแนวโน้มที่จะพกอุปกรณ์เวทมนต์หรือ สิ่งประดิษฐ์เวทมนต์ที่น่ากลัว มีสองวิธีที่เป็นไปได้สำหรับแองเจเล่ที่จะได้รับวงเวทมรดก หนึ่งคือสร้าง ด้วยตัวเองแต่มันจะต้องใช้เวลาและทรัพยากรจำนวนมาก อีกทางคือ ได้รับมรดกจากวิเวียน อย่างไรก็ตาม วิเวียนอาจจะไม่ยอมให้เขาได้รับมรดกนี้ตราบใดที่เธอยัง มีชีวิตอยู่ ปัจจุบันสิ่งเดียวที่แองเจเล่สามารถทำได้คือการรอให้ทั้งสามจบการ สนทนา เขายังอ่อนแอเกินไปที่จะช่วยนิโก้ พ่อมดทั้งสามเริ่มเตรียมตัวหลังจากที่วางแผน มอร์เรี่ยนยกมือขวาขึ้น เขาชี้ไปที่ลูกแก้วที่กำลังลอยและปล่อยแสงสี เหลืองอ่อนจากกลางฝ่ามือของเขา แสงปกคลุมผิวของลูกแก้ ว หลายนาทีต่อมามอร์เรี่ยนก็ค่อยๆลดมือลง พ่อมดทั้งสี่มองที่ลูกแก้วแสงอย่างเงียบๆ ทันใดนั้นลูกแก้วขนาดเท่าหัว ก็เริ่มต่ำลงช้าๆและสัมผัสกับผิวของโต๊ะแล้วมันก็จมลงไปในโต๊ะเหมือน ปลาที่กระโดดลงไปในแม่น้ำ มีคลื่นพลังงานปกคลุมผิวของโต๊ะหิน มีวงกลมสีขาวก่อตัวตรงกลาง ของคลื่นพลังงาน มีทุ่งหญ้าสีเขียวปรากฏในวงกลมสีขาว มันรู้สึกเหมือนกับว่ากำลังมอง ลงมาจากยอดเขาเล็กๆ หญ้าดูไม่มีที่สิ้นสุด เงาภายใต้ต้นไม้ที่สูงตระหง่ายได้แบ่งทุ่งหญ้าเป็น หลายส่วน กองกำลังทหารม้ากำลังเดินหน้าอย่างช้าๆ แองเจเล่มองเห็นว่าพวกเขา กำลังข้ามทุ่งหญ้าในขณะที่ตั้งแถวเป็นรูปสี่เหลี่ยม พลทหารม้าเหล่านี้กำลังสวมชุดเกราะสีขาวและกางเกงสีน้ำเงินกับ หมวกเหล็กสีเงิน พวกเขากำลังถือหอกยาวที่มีหัวหอกสีดำ ม้าของพวกเขายังสวมชุดเกราะสีเงิน แสงที่สะท้อนออกมาทำให้มองไม่ เห็น หนึ่งในทหารม้าที่แนวหน้ากำลังถือธงสงครามเหล็กสีดำซึ่งมีสีฟ้าและสี เงินจากบนลงล่าง มันถูกแบ่งด้วยเส้นตรง กองกำลังทหารม้ากำลังเดินไปข้างหน้าอย่างช้าๆแต่มั่นคงโดยไม่ได้พูด แม้แต่คำเดียว "นี่คือสิ่งที่นิโก้กำลังมองเห็นอยู่" มอร์เรี่ยนอธิบายเสียงเบา "กองทัพ กำลังเดินทัพและในไม่ช้าก็จะปะทะกับกองกำลังพลังงาน ตอนนี้เรา จะต้องรอ" เขามองไปที่มิลานและเซธ "เจ้าควรรู้ว่ามันแพงแค่ไหนในการสร้างสระ พลังงานที่ใช้ได้ครั้งเดียวแบบนีจำนวนทรัพยากรที่เราใช้สามารถ ประคับประคององค์กรขนาดเล็กได้หลายปีดังนั้นข้าหวังว่าพวกเจ้าจะ เข้าใจว่าเราโจมตีได้ครั้งเดียวเท่านั้นและสระพลังงานก็จะถูกทำลาย เราจะต้องประสบความสำเร็จ" ทั้งสองพยักหน้าเล็กน้อย เซธไม่ได้หัวเราะหรือเยาะเย้ยอีกต่อไป สีหน้า ของเขาเริ่มมืดมน จากนั้นมอร์เรี่ยนก็หันไปทางแองเจเล่ "แองเจเล่มีบางอย่างที่ข้าจะต้องให้เจ้าทำเช่นกัน โปรดทำให้แน่ใจว่า ห้องนี้ปลอดภัยและไม่สามารถตรวจพบได้ " "ตกลง" ตอนที่362: คาดไม่ถึง (1) แปลนิยาย.วันอาทิตย์ที่20 พฤษภาคม 2018 แองเจเล่ลุกขึ้นยืน เขาเดินไปที่ประตูหินและมองไปที่พ่อมดทั้งสาม พวกเขากำลังนั่งอยู่ที่โต๊ะพร้อมกับหลับตารอเวลา ห้องเงียบจนทำให้เขาได้ยินเสียงลมหายใจของทั้งสาม แองเจเล่เปิดประตูและออกไปข้างนอก อุณหภูมิในอุโมงค์ใต้ดินสูงและมีกลิ่นกำมะถันที่รุนแรง เขาตัดเนื้อ จิ้งจกภูเขาไฟเป็นชิ้นๆและผสมกับเห็ดเพื่อทำซุป เขาแยกซุปออกเป็น สามส่วนและกลับไปที่ห้องหิน "กินอาหารบ้าง ดูเหมือนว่าพวกเจ้าจะต้องรออีกสักพัก" มอร์เรี่ยนและมิลานกำลังพูดเสียงเบา เซธกำลังงีบอยู่บนเก้าอี้ของเขา "ขอบคุณแองเจเล่เราไม่อยากทำให้เจ้ามีปัญหามากนักแต่..." มอร์เรี่ ย นมองที่แองเจเล่และขอโทษ "ไม่เป็นไร ไม่มีอะไรที่ข้าสามารถทำให้นิโก้ได้ข้าจึงพยายามที่จะ ช่วยเหลือในเรื่องอื่นๆให้ดีที่สุด" แองเจเล่ยิ้ ม แองเจเล่วางซุปบนโต๊ะและกลับไปที่นั่งของตัวเอง เขามองไปที่วงกลมสี ขาวอย่างละเอียดลออ ฉากในวงกลมสั่นเล็กน้อย ดูเหมือนนิโก้กำลังขี่ม้าและต้นไม้ด้านข้างก ็ กำลังเคลื่อนที่ไปข้างหลัง "เธอจะเดินทางบนถนนต่อไปอีกประมาณสามวัน กองทัพของนิโก้กำลัง ย้ายไปที่หุบเขาขนาดใหญ่ในขณะที่ตระกูลของเธอกำลังต่อสู้กับศัตรู อยู่ที่นั่น ตามข้อความที่นิโก้ส่งมาเมื่อไม่นานมานี้มีคนมากกว่า 10,000 คนกำลังต่อสู้ในสงครามและกองทัพของเธอเป็นกำลังเสริมสุดท้ายที่ น้องชายของเธอมีถ้ากองทัพของนิโก้ถูกกำจัดตระกูลของเธอก็จะถูก ทำลาย" มอร์เรี่ยนหยุดชั่วครู่และอธิบายต่อ "เราจ้องรอจนศัตรูของนิโก้พยายาม ที่จะโจมตีพวกเขาก่อนที่เราจะสามารถร่ายคาถาของเราผ่านสระ พลังงานได้ " มิลานพยักหน้าและปลุกให้เซธตื่นมากินอาหาร แองเจเล่นั่งลงและรอทั้งสามกินอาหารเสร็จ จากนั้นเขาก็เอาจานเปล่า กลับไปที่ห้องครัวและล้างจาน แองเจเล่กลับไปที่ห้องหินอีกครั้งและเริ่ ม สังเกตสระพลังงาน มันเป็นครั้งแรกที่เขาเห็นพ่อมดสนับสนุนระยะไกล ด้วยสระนี้และเขาต้องการรวบรวมข้อมูลให้มากที่สุด สามวันมันไม่มีค่าอะไรสำหรับพ่อมด เวลาได้ผ่านไปและสามวันก็ผ่านไปภายในพริบตา บรรยากาศในห้องหินเริ่มหนักขึ้นเรื่อยๆ มอร์เรี่ยนจ้องไปที่วงกลมและมิลานก็กำลังหลับตาทำสมาธิ เซธนั่งอยู่ ด้านข้าง เขากำลังเล่นกับลิงแดง ลิงกระโดดไปมาบนไหล่ของเขาใน ขณะที่มันร้อง แองเจเล่ก้มหน้าลง มีจุดแสงสีน้ำเงินกำลังกะพริบข้างหน้าสายตาของ เขา "เอาล่ะ เตรียมตัว มันใกล้ถึงเวลาแล้ว" ทันใดนั้นมอร์เรี่ยนก็ตะโกน ทั้งสามหยุดสิ่งที่พวกเขากำลังทำและมองไปที่วงกลมสีขาวทันที ดูเหมือนนิโก้ได้เข้าสู่สนามรบและฉากก็ยังคงสั่น มีทหารม้าในชุดเกราะ สีน้ำเงินเต็มไปหมด พวกเขากำลังขี่ม้าสีดำ ทหารม้าทุกคนที่เข้าสู่ สายตาของนิโก้ได้ถูกระเบิดเป็นชิ้นๆราวกับว่าพวกเขาโดนระเบิดแล้ว ได้กลายเป็นหมอกเลือด "ท่านนิโก้! มีใครบางคนกำลังมาหาเรา!" มีเสียงกังวลดังมาจากที่ ห่างไกลจากข้างหลัง นิโก้รีบหันไปและมองไปที่เนินเขาเล็กๆข้างหน้า มีชายชุดดำสองคน กำลังโจมตีชายชุดน้ำเงินบนยอดเขา ชุดคลุมน้ำเงินกำลังพยายามอย่างสุดกำลังเพื่อปกป้องรถม้าสีเงิน ภายใต้ธงสงคราม กระแสไฟฟ้า พลังงานสีม่วงและเลเซอร์ได้บินอยู่ ใกล้ๆทั้งสามคน "บัดซบ!" เสียงของนิโก้ดังมาจากวงกลมสีขาว เธอเริ่มพุ่งไปที่เนินเขาเล็กๆทันที มีลูกลาวาสามลูกถูกปล่อยออกมาจากมือขวาของเธอและพวกมันก็บิน ผ่านอากาศไปที่เนินเขา ผิวของลูกลาวาเป็นสีแดงและมีลาวาสีทองไหลผ่านรอยแตกเล็กๆ ทหารรอบๆกำลังหวาดกลัว พวกเขารีบหลบไปด้านข้างอย่างรวดเร็ว ม้า ของพวกเขากำลังวิ่งด้วยความกลัว เส้นทางข้างหน้าของนิโก้ได้ถูกกวาดล้างและเธอสามารถผ่านไปอย่าง ง่ายดาย ตูม ตูม ตูม มีเสียงดังก้องอยู่ในอากาศเมื่อลูกลาวาทั้งสามลูกระเบิดเปลี่ยนเป็นเงา สีทองสามเงา เงาสีทองบินตรงไปหาคนชุดดำเหมือนสายฟ้าฟาด ด้วย เหตุบางอย่างหยดลาวาไม่ได้กระเด็นไปรอบๆ "มูเซสจงเจริญ!" หนึ่งในชุดดำตะโกน มีเงามิโนทอร์ปรากฏข้างหน้าเขา มันใหญ่มาก มิโนทอร์เปิดปากของมันและคำราม ฟึบ มีลำแสงสีทองเจาะเงาสีทองทั้งสาม พวกมันเปลี่ยนเป็นจุดสีทองนับไม่ ถ้วนแล้วหายไปในอากาศ "เสียงคำรามของมิโนทอร ์นี่เป็นครั้งแรกที่ข้าเห็นความสามารถนี้เปิดใช้ งานได้สำเร็จ" มิลานประทับใจ "มีโอกาสเพียงเล็กน้อยที่เจ้าสามารถ เรียนความสามารถนี้เมื่อฝึกฝนเทคนิคการทำสมาธิขั้นสูงที่ชื่อว่า พิธีกรรมของมิโนทอร ์นอกจากนี้เจ้ายังไม่สามารถได้ดีแม้ว่าเจ้าจะ สามารถเปิดใช้งานมันได้ความสามารถนี้อาจจะถูกกระตุ้นเมื่อผู้ร่าย พยายามที่จะขยับอนุภาคพลังงาน ฝ่ายตรงข้ามของนิโก้โชคดี " ภายในวงกลมแสงสีทองได้บินตรงไปยังนิโก้หลังจากที่ทำลายลูกลาวา เซธยกมือซ้ายขึ้นและมีจุดแสงสีแดงปรากฏระหว่างนิ้วมือของเขา "เดี๋ยวก่อน!" มิลานหยุดเขา "แต่...." เซธเริ่มกังวล "เชื่อใจนิโก้เธออ่อนแอกว่าโชโซและข้าแต่เธอก็จะไม่แพ้ง่ายๆ จำไว้ว่ า เธอยังเป็นหนึ่งในนักเรียนของท่านวิเวียน" มอร์เรี่ยนพูดเสียงเบา "แสงศักดิ์สิทธ์ิ" เสียงของนิโก้ดังมาจากวงกลมอีกครั้ ง มีลูกแสงสีแดงปรากฏข้างหน้านิโก้ลูกแสงมีขนาดเท่ากำปั้นและมันก ็ กะพริบสองครั้ ง มีใยขนาดใหญ่ปกคลุมรูนขนาดเท่ากำปั้นและสายถูกสร้างข้างหน้าของ นิโก้โดยอนุภาคพลังงานภายในไม่กี่วินาที สายทุกเส้นเชื่อมต่อกับลู ก แสงตรงกลาง ชี่ ลำแสงได้โดนใยขนาดใหญ่อย่างแรง ใยสีแดงและลำแสงสีทองเริ่มปะทะกัน อนุภาคพลังงานสีทองที่ไม่มีที่สิ้นสุดค่อยๆเปลี่ยนสีของใยสีแดงเป็นสี ทอง น่าแปลกที่มันดูเหมือนว่าใยกำลังดูดพลังของลำแสงสีทองและมั น ก็กำลังขยายตั ว แม้ว่าใบกำลังขยายแต่ความแรงของลำแสงสีทองก็ได้ทะลวงในอัตราที่ รวดเร็วขึ้น ชี่ ในที่สุดลำแสงสีทองก็ผ่านใยขนาดใหญ่ได้ แต่ว่าใยได้ซื้อเวลาให้นิโก้พอที่จะหลบการโจมตี เธอขยับไปทางซ้าย และยังคงพุ่งไปข้างหน้า คนทางขวายังคงต่อสู้อยู่กับชายชุดน้ำเงินและ ชายชุดดำอีกคนก็ได้ปล่อยโกเล็มห้าธาตุแล้ว สองตัวเป็นโกเล็มดินและพวกมันก็ดำสนิท โกเล็มมีร่างที่แข็งแกร่งและ พวกมันก็พุ่งไปทางนิโก้ในขณะที่พวกมันเปิดปาก ยังมีโกเล็มลมอีกสามตัวที่สูงประมาณหนึ่งเมตร พวกมันล้อมรอบโก เล็มดินและกำลังหัวเราะ โกเล็มลมดูเหมือนริบบิ้นสีเขียวสามอัน ทหารม้าบางคนใกล้ๆเป็นอัศวินขั้นสูงสุด แองเจเล่มองเห็นแสงสีขาวที่ ล้อมรอบร่างกายของพวกเขา พวกเขาพยายามโจมตีโกเล็มดินแต่อาวุธ ของพวกเขาก็ถูกปิดกั้นได้อย่างง่ายดาย จากนั้นทหารม้าก็ถูกโกเล็มดิน คว้าและโยนไปที่พื้น พวกอัศวินได้รับบาดเจ็บสาหัสและเลือดพวกเขาที่ ไหลออกมาก็เปลี่ยนเป็นบ่อเล็กๆบนพื้น พื้นดินเริ่มสั่นเมื่อโกเล็มดินทั้งสองตัววิ่งไปทางนิโก้ ใบหน้าของมอร์เรี่ยน เซธและมิลานเริ่มเคร่งเครียดหลังจากที่เห็นฉากนี "ศัตรูของนิโก้เตรียมตัวได้ดี...." มิลานพึมพำ ในขณะนั้นเสียงของนิโก้ก็ดังมาจากวงกลมสีขาวอีกครั้ ง "มอร์เรี่ยนและมิลาน มันถึงเวลาแล้ว ทำลายเนินเขานั้นให้ข้า" ทั้งสามสบตากันและพยักหน้าเล็กน้อย "ไฟปฐพี" มอร์เรี่ยนยกมือขวาขึ้นและเอื้อมไปที่วงกลม มีกะโหลกสีแดง ที่น่ากลัวปรากฏข้างหลังเขา มีเปลวไฟสีดำกำลังลุกไหม้ในดวงตาของ กะโหลก "แสงแห่งรัตติกาล" มิลานยกมือขึ้นด้วยเช่นกันและมีคู่ดวงตาสีม่วง ปรากฏข้างหลังเธอ เซธก็ทำสิ่งเดียวกัน เปลวไฟสีดำเริ่มเผาไหม้บนแขนขวาของเขา "สลาย" พวกเขาค่อยๆขยับมือไปที่ตรงกลาง ชี่ มือทั้งสามผสานกันเมื่อพวกมันสัมผัสกัน ฉากนี้ค่อนข้างแปลก มือของพวกเขาดูเหมือนลูกแป้งโดว์ขนาดใหญ่แป้งโดว์เปลี่ยนเป็นมือ ขนาดยักษ์ที่กว้างประมาณครึ่งเมตรแล้วจมลงไปในโต๊ะและไปถึงเนิน เขาเล็กๆในสายตาของนิโก้ สายตาของแองเจเล่เบิกกว้างและเขารู้สึกได้ว่าร่างกายของเขาชา มีพลังงานที่น่ากลัวล้อมรอบพ่อมดในห้องหิน แองเจเล้เปิดปากและ พยายามสูดลมหายใจแต่เขาก็ไม่รู้สึกถึงอากาศ มันรู้สึกเหมือนอากาศในห้องแข็งตัวและแองเจเล่คิดว่าเขาเป็นแมลงที่ ติดอยู่ในอำพัน ค่าสถานะของเขาสูงมากแต่เขาก็ไม่สามารถขยับได้ (สำหรับคนไม่รู้เรื่องอำพันค้นผ่าน google เลยครับ) แองเจเล่จ้องไปที่หน้าจอภายในวงกลมแสงและรูม่านตาของเขาก็หดลง ในที่สุดเขาก็เข้าใจพลังที่แท้จริงของวงเวทมรดก บนที่ราบขนาดใหญ่ของหุบเขา ทหารม้าสีน้ำเงินกำลังต่อสู้กับทหารม้าสีดำ มีเสียงคำรามและเสียง กลองศึกเป็นเสียงพื้นหลังของพวกเขา มีสาวสวยคนหนึ่งในชุดรบสีขาวกำลังต่อสู้บนสนามรบ เธอคือนิโก้ชุด ของเธอโชกไปด้วยเลือด เธอมองไปที่เนินเขาเล็กๆข้างหน้าอย่างสงบพร้อมกับกำสร้อยคอแน่น มี แสงสีน้ำเงินไหลออกมาจากช่องว่างระหว่างนิ้ว แสงมาจากคริสตัลสีน้ำ เงินรูปเพชร "มอร์เรี่ยนและมิลาน มันถึงเวลาแล้ว ทำลายเนินเขานั้นให้ข้า" เธอพูด เสียงเย็นชา คริสตัลรูปเพชรได้สว่างขึ้นและมีลำแสงสีน้ำเงินปลดปล่อยออกมา หลังจากที่เธอพูดจบ แสงได้พุ่งไปในอากาศทิ้งร่อยรอยสีน้ำเงินไว้ข้าง หลัง ร่องรอยได้หายไปช้าๆหลังจากผ่านไปหลายวินาที ทันใดนั้นแสงแดดก็หายไปจากแผ่นดินและท้องฟ้าก็ปกคลุมไปด้วยเมฆ สีดำ เมฆได้เปลี่ยนเป็นกระแสน้ำวนขนาดใหญ่ที่เริ่มหมุนบนยอดเนินเขา อย่างช้าๆ สนามรบถูกปกคลุมไปด้วยเงา ทหารได้หยุดต่อสู้พร้อมกัน พวกเขาเงย หน้าขึ้นและจ้องไปที่ท้องฟ้า คนที่อยู่ใต้เงารู้สึกถึงแรงกดดันที่น่ากลัวที่มาจากท้องฟ้า ทหารแทบจะ ไม่สามารถขยับได้ภายใต้แรงกดดันที่หนักอึ้ง มันดูเหมือนพวกเขากำลัง ติดอยู่ในบึง คนที่อยู่บนเนินเขาเป็นคนที่ได้รับผลจากแรงกดดันโดยตรง คนชุดดำสองคนและคนชุดน้ำเงินกำลังเคลื่อนไหวเหมือนเต่า มันดู เหมือนฉากสโลว์โมชั่นในหนัง มันทำให้พวกเขาใช้เวลาสองวินาทีเพียง เพื่อเคลื่อนไหวง่ายๆให้สำเร็จ มันใช้เวลาประมาณสิบวินาทีในการยกมือขวาขึ้น มีความกลัวถูกเขียน อยู่บนใบหน้าของเขา โกเล็มดินและโกเล็มลมยังช้าลง พวกมันกำลังเคลื่อนที่ไปข้างหน้าอย่าง ยากลำบาก นิโก้มองไปที่เนินเขาด้วยความหดหู่"แม็คเวลล ์ตระกูลจะจดจำความ เสียสละของเจ้า" เสียงของเธอดังก้องในท้องฟ้า ชายชุดน้ำเงินได้ยอมรับความตายแล้ว เขาดูมีความสุขหลังจากที่ได้ยิน เสียงของนิโก้ ตุ้บ วินาทีต่อมาก็มีมือขนาดยักษ์ปรากฏตรงกลางของกระแสน้ำวนขนาด มหึมาและโดนยอดของเนินเขา มือดูเหมือนเสาหินสีขาวที่ตกลงมาจาก ท้องฟ้า ตอนที่363: คาดไม่ถึง (2) แปลนิยาย.วันอาทิตย์ที่20 พฤษภาคม 2018 โคลนและใบหญ้าถูกเป่าขึ้นไปในอากาศพร้อมกับชิ้นเนื้อ วิสัยทัศน์ของ นิโก้ถูกปิดกั้นด้วยเศษหินที่ถูกระเบิด ทุกสิ่งทุกอย่างกระเด็นไปเหมือนฝนตก หลังจากนั้นสักครู่มันก็ตกลงไป ที่พื้น ทุกอย่างกลับสู่สภาพปกติอีกครั้ง มือขนาดยักษ์และเมฆสีดำได้ หายไปอย่างรวดเร็วจนดูเหมือนว่ามันไม่เคยมีมาก่อน ท้องฟ้าได้สดใสและแสงแดดก็ส่องลงบนพื้นดินอีกครั้ง มีรอยฝ่ามือขนาดยักษ์อยู่ที่ตำแหน่งเดิมของเนินเขาเล็กๆ ทุกสิ่งทุก อย่างภายในขอบเขตของมือนั้นได้แบนอย่างสมบูรณ์ จากรถม้า ทหาร ม้าศึก ธงรบและพ่อมดทั้งสาม ทุกอย่างได้หายไป แค๊รก มีเสียงที่คมชัดดังก้องในอากาศ คริสตัลรูปเพชรได้แตกเป็นชิ้นๆและหายไปในสายลมเหมือนว่ามันถูก บดเป็นผงสีขาว นิโก้นิ่งชั่วครู่และมองไปรอบๆ จากนั้นเธอก็ยกมือขึ้น "ยอมจำนนแก่ข้า" "ยอมจำนนแก่ข้า!" เสียงของเธอดังไปทั่วสนามรบ ภายในห้องหิน ในที่สุดบรรยากาศก็กลับสู่สภาพเดิม แองเจเล่หายใจเข้าลึกๆและเฝ้าดูวงกลมสีขาวหายไปจากโต๊ะ มือของมอร์เรี่ยน เซธและมิลานได้แยกออกจากกันและวางมันลงพร้อม กัน "มันเสร็จแล้ว" มิลานถอนหายใจด้วยความโล่งอก "เจ้าเป็นไรไหมเซธ" ใบหน้าของเซธซีดราวกับว่าเขาใช้พลังจิตมากเกินไป "ข้าไม่เป็นไร การโจมตีนั้นได้ตัดสินผลของการต่อสู้แล้ว ปัญหาได้ถูก แก้ไข ข้าจะไปฟื้นตัวถ้าเจ้าให้ข้ากินเนื้อหนอนนั้น" เขามองที่แองเจเล่ เขาขยิบตา แองเจเล่ยักไหล่แต่เขาพูดไม่ออกเล็กน้อย ในที่สุดเขาก็ได้ค้นพบว่าวงเวทมรดกทรงพลังแค่ไหนหลังจากที่เห็นการ รวมกันของทั้งสาม วงเวทมรดกของวิเวียนเป็นวงเวทแรงโน้มถ่วงที่เกือบจะถูกทำลายจาก แผนของเฮนน ์ในเวลานั้นแองเจเล่ไม่เคยคิดเรื่องนี้มากนักเมื่อเฮนน ์ ขอให้เขาทำลายวงเวท แต่หลังจากที่ได้เห็นผลของวงเวทที่เพิ่มพลังของ พ่อมดในระดับที่แตกต่างไปอย่างสิ้นเชิง มันเป็นประสบการณ์ที่เปิดตา "แองเจเล่เจ้าเคยเห็นวงเวทแรงโน้มถ่วงของท่านวิเวียนไหม มันดึงพลัง ขึ้นมาจากดินและเพิ่มความเสียหายของคาถาอย่างมาก ด้วยระยะของ คาถาที่น่าเหลือเชื่อของเธอมันจะทำให้เธอสามารถทำลายทุกสิ่งทุ ก อย่างภายในพื้นที่ของเส้นผ่าศูนย์กลางหลายกิโลเมตร และเธอยังมี พลังจิตมากพอที่จะใช้คาถาอย่างต่อเนื่อง กองทัพจะถูกกวาดล้าง ภายในเสี้ยววินาทีพ่อมดที่ระดับต่ำกว่าไม่มีโอกาสต่อต้านเธอ ท่านวิ เวียนเคยทำลายกองทัพทหารมากกว่า 100,000 คนด้วยความ ช่วยเหลือของวงเวทแรงโน้มถ่วง" มอร์เรี่ยนอธิบายอย่างกระตือรือร้น เมื่อเทียบกับที่ใช้บนโลก'กิโลเมตร'ของโลกพ่อมดนั้นต่างออกไป "อย่างงั้นหรือ" แองเจเล่สูดลมหายใจอย่างรวดเร็วแต่หลังจากนั้นก็สงบ ลง ในที่สุดเขาก็เข้าใจว่าองค์กรที่มีอำนาจสามารถชนะสงครามกับศัตรู ได้อย่างไร วงเวทมรดกเป็นเพียงสิ่งเดียวที่ช่วยองค์กรในการปกครองของพวกเขา เกือบจะเป็นไปไม่ได้สำหรับสมาชิกทั่วไปขององค์กรที่จะทำลายกฎของ คนที่ลำดับชั้นสูงกว่า นั่นเป็นเหตุผลที่ทำให้องค์กรใหญ่สามารถอยู่ได้ นับร้อยปีในทวีปกลาง "เอาล่ะ เราต้องไปพักก่อน แองเจเล่เจ้าจะไปทำอะไรก็ได้ตามที่เจ้า ต้องการ" มอร์เรี่ยนรู้ว่าแองเจเล่ตกใจ เขาจบการสนทนาด้วยเรื่องนี้และ หลับตาลงแล้วเริ่มฟื้นตัวเช่นเดียวกับเซธและมิลานที่กำลังทำอยู่ ในตอนนี แองเจเล่ลุกขึ้นยืน เขาโค้งให้พ่อมดทั้งสามและก้าวออกจากห้อง ประตูปิดในขณะที่เขาเข้าไปในอุโมงค์สีแดงอีกครั้ง อุณหภูมิภายใน อุโมงค์สูง มันอยู่ในระดับที่พอทนได้และเสียงรบกวนเพียงอย่างเดียวคื อ ลาวาใต้ดิน แองเจเล่ยังคงขบคิดเกี่ยวกับการต่อสู้ที่เขาเพิ่งได้เห็นและคำพูดที่มอร ์ เรี่ยนพู ด 'วงเวทมรดก มันแตกต่างกันมาก ข้าโชคดีที่พ่อมดที่ข้าต่อสู้ไม่ได้ ครอบครองพลังเช่นนี้....' เขาเช็ดฝุ่นออกจากชุดคลุมก่อนที่เขาจะมุ่งหน้าไปพื้นที่หอพัก ปัจจุบันมีเพียงคนสี่คนในโบราณสถาน วิเวียนกำลังต่อสู้อยู่ในแนวหน้า มีการปะทะและการต่อสู้เกิดขึ้นหลายครั้ง นอกจากนี้เธอยังต้องสั่ง กองทัพและจัดการกับองค์กรพสุธาทมิฬ เธอไม่มีเวลามากนักก่อนที่ทุ ก อย่างจะถูกแก้ไข แองเจเล่ปีนขึ้นบันไดและกลับไปที่ห้องเก่าของเขา เขาปิดประตู หลังจากที่เข้าไป เขาต้องวางแผนสำหรับอนาคตของเขา แองเจเล่นั่งลงข้างโต๊ะและเอาม้วนหนังเปล่าออกมา เขาคว้าปากกาขน นกและจุ่มขวดหมึกที่ตั้งอยู่ด้านหนึ่งของโต๊ะ เขากดมันลงบนกระดาษและหมึกก็ทำให้มีจุดสีดำบนม้วน 'นี่คือข้า ดังนั้น-' เขาลากเส้นไปทางด้านซ้ายของจุดและเริ่มเขียนคำ ไม่กี่คำ '-เฮนน์และพระราชวังลอร์ดเงา ข้าต้องการเวลามากกว่านี้' จากนั้นเขาก็ลากเส้นไปอีกข้างหนึ่งของจุดและเขียนคำไม่กี่คำใน ตอนท้ายของข้อความ 'สงครามของหอคอยพ่อมดมืด พสุธาทมิฬและ หัตถ์ธาตุข้าจะต้องให้ความสำคัญกับพวกมันมากขึ้น' 'ดินแดนฝันร้าย' ถูกใช้เพื่อระบุบรรทัดที่สามที่เขาเขียนไว้ แองเจเล่วางปากกาขนนกลงและเริ่มคิด คนส่วนใหญ่รู้ว่าเขาเป็นลูกชายเพียงคนเดียวของผู้อาวุโสสามและถูก กักบริเวณจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับทายาทของพสุธาทมิฬ อย่างไรก็ตาม ผู้คนไม่คิดว่าเขาเป็นสมาชิกหัวกะทิของหอคอยพ่อมด มืดและได้สร้างป้อมปราการขึ้นในดินแดนฝันร้าย เขาถูกติดตามโดย ลอร์ดเงาเพราะเฮนน์ที่พักอยู่ในร่างกายของเขา บางทีถ้าไม่มีเฮนน์ชีวิต ของเขาก็คงจะง่ายกว่านี แองเจเล่รู้อยู่แล้วว่าลอร์ดเงาจะพบเขาในไม่ช้าก็เร็วตราบเท่าที่เขา ยังคงอยู่ในโลกหลั ก มันเป็นไปได้อย่างมากสำหรับนักพยากรณ์ระดับสูงที่อยู่ในกองกำลัง ของพระราชวังลอร์ดเงา นักพยากรณ์จะร่ายคาถาติดตามเมื่อพวกเขา ค้นพบร่องรอยใดๆที่เขาทิ้งไว้นักพยากรณ์ต้องการข้อมูลของเป้าหมาย เพียงเล็กน้อยและกระบวนการนี้ทำได้ง่ายขึ้นหากเป้าหมายของพวก เขาเป็นพ่อมดระดับต่ำ 'ข้าทำสิ่งที่ถูกต้องที่หุบเขาอเวจีข้าควรจะไม่เป็นไรถ้าข้าอยู่ในอาณา เขตขององค์กร' แองเจเล่นึกถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อเร็วๆนี้และสงบลง แองเจเล่ต้องชะลอความคืบหน้าของเขาและใช้เวลาสำรวจพื้นที่อื่นใน ดินแดนฝันร้ายชั่วคราว เขาสามารถรวบรวมสายเลือดมากขึ้นเพื่อการ วิจัยของเขาด้วยเช่นกัน แต่แผนนี้ของเขาได้ถูกทำลายโดยเฮนน ์ ชี่ แองเจเล่หยิบกระดาษขึ้นมาและเผาเป็นขี้เถ้าด้วยอนุภาคพลังงานและ โยนเศษที่เหลือไปในถังขยะที่อยู่ด้านหนึ่ง เขาลุกขึ้นยืนและวางมือขวาไว้บนโน้ตดนตรีตรงกลางหน้าอก มีแสงสีแดงกะพริบในอากาศ แองเจเล่หายไปจากห้อง ดินแดนฝันร้าย มีเงาดำค่อยๆออกมาจากพื้นที่ว่างข้างแม่น้ำแนส แสงแดดที่สดใสได้ส่องลงบนผมยาวของเขา มันสะท้อนสีแดงสด "มันยังคงใกล้เคียง ความแตกต่างสิบเมตรเป็นที่ยอมรับได้" แองเจเล่ พยักหน้ า แองเจเล่มองไปที่คฤหาสน ์มีรอยยิ้มที่อ่อนโยนปรากฏบนใบหน้าของ เขา เขารีบมุ่งหน้าไปที่คฤหาสน์ซึ่งมีหญิงสาวกระโดดเข้าไปในอ้อมแขนของ เขาหลังจากที่เขาก้าวเข้าไปในบาเรียที่ล้อมรอบมัน "กรีน ท่านไปไหนมา ท่านได้จากไปนานในครั้งนี้" เฟรย่ากอดแองเจเล่ แน่น "ข้าจะไม่ให้อภัยท่านถ้าท่านไม่ได้นำขนมอร่อยๆมาให้ข้า" "แน่นอน มานี่สิคนสวย ครั้งนี้ข้ามีของดี" แองเจเล่เอาขวดขนาดเล็ก ออกมาจากแขนเสื้อของเขา ขวดนี้ปิดผนึกด้วยจุกไม้และเต็มไปด้วยลูก อมหลากสีเขาส่ายขวดก่อนที่จะให้เฟรย่า หญิงสาวสวมชุดสีดำและกางเกงไหม ด้วยเสื้อโค้ทสีขาวและหมวกสี ขาวเฟรย่าดูเหมือนหญิงสาวจากตระกูลขุนนาง สิ่งเดียวที่ขาดหายไปคือร่ม แองเจเล่ถูแก้มนุ่มๆของเฟรย่า ผิวของเธอเย็นและยืดหยุ่น มันรู้สึก เหมือนกำลังแตะผิวของวุ้นผลไม้ "ไม่มีอะไรเกิดขึ้นที่นี่ใช่ไหม" แองเจเล่เดินเข้าไปในอาคารหลักในขณะที่ เฟรย่ากอดแขนรอบคอของเขาและห้อยร่างกายเหมือนหมีโคอาล่า "ใช่ ข้าได้ใช้เวลาไปมากกับการดูแลดอกไม้และอ่านหนังสือ" เฟรย่ า ตอบ "ข้าไม่สามารถก้าวออกจากโล่ได้ " "ไม่เอาน่า" แองเจเล่ก้มหน้าลงเพื่อให้เฟรย่าลงพื้นอย่างปลอดภัย เขา ยกมือขึ้นแล้วเรียกฟีนิกซ ์ "ไปเล่นกับฟีนิกซ์" แองเจเล่ปล่อยฟีนิกซ์ไปในอากาศอย่างระมัดระวัง นกได้ลงไปที่บนหมวกของเฟรย่า เธอกรีดร้องและพยายามไล่มั น ออกไปแต่ฟีนิกซ์ไม่ขยับ แองเจเล่ส่ายหัวเล็กน้อยแล้วเข้าไปในห้องนั่งเล่น ในที่สุดเขาก็ค้นพบวิธี ที่จะส่งตัวเองกลับมาที่คฤหาสน์เมื่อเขาไปที่พื้นที่อื่นในโลกหลั ก เขานั่งลงบนโซฟาและเริ่มดูข้อความผ่านๆจากรูนสื่อสาร ความเร็วในความคืบหน้าของเขาใกล้เคียงกับพ่อมดทั่วไป ชิปทำอะไร ได้ไม่มากนัก เขาต้องใช้เวลามากขึ้นเพื่อที่จะเชี่ยวชาญขั้นที่สี่ ความแตกต่างระหว่างเขาและพ่อมดทั่วไปคือเขามีชิปที่สามารถช่วย เขาได้เมื่อเขาถึงคอขวด ทันใดนั้นใบหน้าของแองเจเล่ก็ตึงขึ้นเมื่อรูนสื่อสารหนึ่งที่ดูเหมือนหงส ์ ดำที่จางลงจากหนึ่งในนิ้วโป้งของเขา "ครูส เจ้าเป็นหัวหน้าของแผนกทรัพยากรมนุษย์" เขาได้ทำงานร่วมกับ ครูสหลายปีดังนั้นพวกเขาจึงรู้จักกันค่อนข้างดี อย่างไรก็ตาม ถ้ารูนสื่อสารจางหายไป.... แองเจเล่รีบแตะหงส์ดำอย่างรวดเร็ว มีจุดสีดำทิ้งไว้บนเล็บและลงบนโต๊ะข้างหน้าเขาแล้วเปลี่ยนเป็น กระดาษหนังสีดำที่มีข้อความเขียนสั้นๆ 'ถึงท่านแองเจเล่โปรดไปที่บทเพลงเงือกและเข้าร่วมงานศพของ หัวหน้าแผนกครูสวันท่ี่20 ตุลาคม ครูสพยายามที่จะก้าวไปสู่ระดับที่ สามเมื่อวันที่13 กรกฎาคมแต่เขาก็ล้มเหลวและเสียชีวิต' แองเจเล่รู้ว่าพ่อมดหลายคนได้หยุดยั้งความคืบหน้าใดๆเมื่อไปถึงระดับ ที่สอง บางคนหมดศักยภาพแล้วในขณะที่บางคนแก่เกินไปแล้วที่จะ ก้าวหน้า แต่ปัญหาที่ใหญ่ที่สุดที่พวกเขาเผชิญคือการฝึกเทคนิคการทำ สมาธิขั้นสูงที่ไม่เหมาะสมกับตัวพวกเขา พวกเขาเสียเวลาและ ทรัพยากรเพื่อฝึกเทคนิคที่ไม่เหมาะกับพวกเขามากที่สุด พ่อมดหลาย คนได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตเมื่อพยายามที่จะเลื่อนไปสู่ระดับต่อไปทุก ครั้ง แต่แองเจเล่ไม่ได้คาดหวังว่าครูสจะสัมผัสกับสิ่งเดียวกันและจบชีวิตลง ด้วยวิธีนีพวกเขาทำงานร่วมกันมาสิบปีแล้วดังนั้นนี่จึงเป็นข่าวที่ร้าย นอกจากนี้ยังมีข้อความที่ถูกส่งมาจากร็อค มันบอกว่าเขาล้มเหลวด้วย เช่นกันและร่างกายของเขาได้รับความเสียหายถาวรดังนั้นเขาจึง ตัดสินใจที่จะจบชีวิตในฐานะพ่อมดและกลับไปที่บ้านเกิดของเขา ร็อค ได้แจ้งเพื่อนของเขาเกี่ยวกับสถานการณ์ของเขาก่อนที่จะออกเดินทาง เขา มินโคล่าและแองเจเล่เข้าหัตถ์ธาตุพร้อมกันแต่การเดินทางของเขา ก็จบลงตรงนี แองเจเล่ถอนหายใจด้วยความรู้สึกที่หลากหลาย เขาปิดใช้งานรูน สื่อสารหลังจากที่ตรวจสอบข้อความ โชคดีที่เขามีชิปที่สามารถคำนวณอัตราความสำเร็จให้เขา นอกจากนี้ ยังสามารถสร้างแผนเพื่อช่วยแองเจเล่พัฒนาขึ้น ระดับพรสวรรค์ของ แองเจเล่ต่ำกว่าปกติมันเป็นเรื่องยากสำหรับเขาที่จะถึงระดับที่สองถ้า ไม่มีชิป ตอนที่364: งานศพ (1) แปลนิยาย.วันพุธที่23 พฤษภาคม 2018 แองเจเล่ยังอยู่ในคฤหาสน์อีกสักพักและตรวจสอบสถานการณ์ของข่าย เวทมนต ์บัตรคริสตัลยังสามารถสนับสนุนได้อีกประมาณครึ่งปีดังนั้ น พวกมันจึงยังไม่จำเป็นต้องเปลี่ยน เขาให้อาหารกับเฟรย่าอีกและ กลับไปที่โลกหลั ก มอร์เรี่ยน เซธและมิลานได้ออกไปจากโบราณสถานหลังจากที่พักผ่อน หลายวัน พวกเขาทิ้งของขวัญของวิเวียนให้กับแองเจเล่ก่อนที่จะออกไป แองเจเล่วางของขวัญไว้ในกระเป๋าเดินทางและออกจากโบราณสถาน แล้วมุ่งหน้าไปยังบทเพลงเงือก ระยะทางจากโบราณสถานไปบทเพลงเงือกมันสั้นดังนั้นมันจึงทำให้เขา ใช้เวลาเดินทางประมาณสิบวันบนถนน เมืองได้วุ่นวาย คนมากมายกำลังร้องไห้บนถนน ในเมืองมีงานศพสามงานและบรรยากาศมันก็หนักอึ้ง แองเจเล่เดินไปตามถนนหลัก เขาเห็นคนกำลังแบกโลงศพสีขาวและสี ดำ เขาหันไปทางซ้ายและเข้าไปในถนนแคบๆ คนเดินเท้าส่วนใหญ่บนถนน เป็นผู้หญิงและเด็กซึ่งแทบจะไม่มีชายหนุ่มอยู่ในสายตา แองเจเล่กำลังสวมชุดคลุมสีดำยาว เขาเดินไปตามถนนที่ปูถนนเป็นสี น้ำตาลและมุ่งหน้าไปตามทิศทางที่ระบุไว้ในข้อความจากรูนสื่อสาร เมื่อมาสุดถนนก็มีทุ่งหญ้าขนาดใหญ่มันเต็มไปด้วยป้ายหลุมศพ แสงสีส้มจากดวงอาทิตย์ที่กำลังตกได้ส่องลงบนป้ายหลุมศพ สถานที่นี้ เงียบสงบ มีคนชุมนุมอยู่ที่สุสานและมีคนกำลังเอาโลงศพเข้าไปในหลุมอย่าง ระมัดระวัง นอกจากนี้ยังมีพ่อมดอ่านคำสรรเสริญและบรรณาการให้ คนตาย แองเจเล่เดินไปที่กลุ่มคนที่กำลังยืนอยู่ข้างป่า ส่วนใหญ่สวมชุดสีดำและพวกเขาทุกคนมีสีหน้าที่เคร่งเครียด มีคนประมาณสามสิบคนและพวกเขาทุกคนกำลังถือดอกไม้สีขาวในมือ มีวงดนตรีเล็กๆกำลังเล่นดนตรีด้วยไวโอลินและพิณของพวกเขา ผู้คนยังมาสุสานแม้ว่าจะมีแสงแดดสลัวก็ตาม พ่อมดกำลังเตรียมอ่านคำสรรเสริญพร้อมกับหนังสือสีดำในมือ ขณะที่แองเจเล่เดินไปทางกลุ่มคนพ่อมดก็สังเกตเห็นเขาและเริ่ม ทักทายเขา "ท่านแองเจเล่" "ท่านแองเจเล่ท่านมาแล้ว" แองเจเล่พยักหน้าขณะที่เขาเดินตรงไปยังโลงศพ โลงศพถูกเปิดและอดีตหัวหน้าแผนกครูสก็กำลังนอนอยู่ภายใน ร่างกายของเขาปกคลุมไปด้วยดอกไม้ที่มีกลีบสีดำและผ้าไหมสีดำ ครูส ถูกสวมชุดสีดำพร้อมกับมีทับทิมรูปดวงตาวางอยู่ที่หน้าอกของเขา มีดอกไม้สีขาวหลายสิบดอกล้อมรอบโลงศพ ขณะที่แองเจเล่ยืนอยู่ข้างหน้าโลงศพเขาก็ได้ยินเสียงร้องไห้ของญาติ ครูส เขาโค้งเล็กน้อยและเอากล่องสีดำเรียบๆออกมาจากแขนเสื้อของเขา เขาก้มตัวลงและวางกล่องไว้ด้านขวาของร่างกายครูส จากนั้นเขาก็ลุกขึ้นยืนและเดินไปที่ตระกูลของครูส ด้านขวามีเด็กผู้ชายอายุห้าขวบและผู้หญิงสองคน พวกเขาทุกคนมีผม สีบลอนด์และมีใบหน้าที่น่ารัก แองเจเล่ลูบหัวของหญิงสาวคนหนึ่งเบาๆ เธออายุประมาณ 17-18 ปี "จูเลีย บอกให้ข้ารู้ถ้าเจ้าต้องการความช่วยเหลือใดๆ ไม่ต้องห่วง ข้า เป็นเพื่อนของพ่อเจ้าและข้าเคารพเขามาก" แองเจเล่พูดเสียงเบา "ขอบคุณค่ะ..." จูเลียเป็นคนที่แก่ที่สุด ดวงตาของเธอเปลี่ยนเป็นสีแดง และเธอพยายามที่จะไม่ร้องไห้อีกครั้ง "ขอบคุณท่านแองเจเล่" แองเจเล่มองไปที่เด็กทั้งสาม เขาส่ายหัวและถอนหายใจด้วยอารมณ์ ที่ หลากหลาย เขาหันกลับไปและกลับไปที่กลุ่ ม มีชายร่างสูงที่ดูสะดุดตาอยู่ในกลุ่ม เขาสวมชุดนักดาบสีเขียวเข้มและ เขากำลังพูดกับพ่อมดคนอื่นเบาๆ เมื่อเขาเห็นแองเจเล่เดินไปหาเขาเขาก็จบการสนทนากับพ่อมดคนอื่น และหันไป "ท่านแองเจเล่ไม่ได้เจอกันนาน" เขากอดแองเจเล่เล็กน้อย "อาจารย์ใหญ่แบร์รี่มันไม่ได้นานเพียงแค่สองปีเท่านั้น เกิดอะไรขึ้น มัน เป็นแค่อุบัติเหตุจริงๆหรือ" แองเจเล่ย่นคิ้ว "ครูสดูไม่เหมือนคนที่ พยายามที่จะก้าวหน้าโดยไม่ได้เตรียมตัว" "ข้าขอโทษแต่นั่นคือสิ่งที่เกิดขึ้น" อาจารย์ใหญ่แบร์รี่เป็นอาจารย์ใหญ่ ของหนึ่งในสามโรงเรียนในเมืองบทเพลงเงือก เขาเป็นหนึ่งในผู้ถือ ผลประโยชน์ในเมือง ชายชราอายุหลายร้อยปีและเขาเป็นเพื่อนของครูส "ครูสกำลังจะตายและเขาก็ต้องลองดูถ้าเขาประสบความสำเร็จอายุขัย ของเขาก็จะเพิ่มขึ้นอีกครั้ ง แต่ว่า...." แบร์รี่ถอนหายใจ "ภรรยาของเขา ได้จากไปนานแล้วและเขาก็เป็นห่วงเรื่องลูกๆของเขา" แองเจเล่รู้ว่าแบร์รี่หมายความว่าอย่างไร "ใช่นั่นเป็นปัญหา จูเลียและ เด็กอีกสองคนไม่ได้มีพรสวรรค์และตระกูลของครูสอาจจะไม่ดูแลพวก เขา ข้าเข้าใจว่ามันเป็นกฎของทวีปกลาง.....เด็กๆที่ไม่มีพรสวรรค์จะไม่ สามารถถือว่าเป็นสมาชิกอย่างเป็นทางการของตระกูล สถานการณ์จะ เลวร้ายลงเมื่อครูสจากไปแล้ว แผนของท่านคืออะไร" แบร์รี่หันไปมองเด็กทั้งสาม "ข้าไม่มีลูกและข้าต้องพานักเรียนของข้าไป แนวหน้า ข้าไม่คิดว่าข้าสามารถดูแลพวกเขาได้ข้ากำลังขอความเห็น เจ้าและเพียตโต้ เจ้าทั้งสองใกล้ชิดกับครูสใช่ไหม" แองเจเล่พยักหน้า "ไม่มีปัญหา ครูสปฏิบัติกับข้าอย่างดีและถึงแม้ว่าเรา จะเลือกเส้นทางที่ต่างกันแต่ข้าก็เคารพคนที่เสียสละชีวิตของพวกเขา เพื่อความฝันของพวกเขา ข้าจะช่วยดูแลลูกของเขาและชีวิตที่สงบสุข น่าจะเป็นสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับพวกเขา" "ใช่.....หนึ่งร้อยปีไม่มีค่าอะไรกับเรา.....อย่างไรก็ตาม พวกเขาเป็นเพียง ปุถุชนและพวกเขาไม่สามารถแม้แต่จะมีชีวิตได้นานขนาดนั้น" แบร์รี่ ถอนหายใจ "ไม่ต้องห่วง ข้าจะจัดการเอง" สายตาของแองเจเล่ตกลงไปที่เด็กทั้งสาม ที่อยู่อีกฝั่ง พวกเขาทำให้แองเจเล่นึกถึงเฟรย์และเฟรย่าในดินแดนฝัน ร้าย ความแตกต่างคือคนที่อายุน้อยที่สุดที่นี่เป็นผู้ชายและไม่มีใครมี พรสวรรค์เหมือนเฟรย ์ แองเจเล่และแบร์รี่เพียงยืนอยู่ที่นั่นและหยุดพูดแต่ไม่มีพ่อมดคนอื่น พยายามเข้าใกล้พวกเขา แองเจเล่เป็นลูกชายของผู้อาวุโสสาม แบร์รี่เป็นพ่อมดที่แข็งแกร่งที่ มี ตำแหน่งสูง ผู้คนต้องการที่จะพูดกับพวกเขาแต่พวกเขารู้ว่ามันไม่ใช่ ตัวเลือกที่ชาญฉลาดที่จะเข้าใกล้พวกเขาในขณะนี งานศพเริ่มในอีกไม่กี่นาทีต่อมา พ่อมดหัวล้านชุดดำที่มีเครื่องแต่งตัวสีทองเดินไปที่โลงศพ เขายืนอยู่ ข้างหน้าคนและในมือของเขาก็มีหนังสือสีดำหนา "ครูส ไอส์เบิร์น เขาทำงานอยู่ในไอซ์แลนด์เหนือสี่ปีและเขาตายใน ตำแหน่งหัวหน้าของแผนกทรัพยากรมนุษย์ในบทเพลงเงือก...." ชาย ชราเริ่มแสดงความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ของครูสด้วยเสียงทุ้ ม วงดนตรียังคงเล่นแต่มันเป็นเพลงเศร้า เสียงของไวโอลินและพิณพร้อม กับฉากนี้มันทำให้เศร้าใจ คนที่มาร่วมงานศพได้โรยผงสีเงินไว้เหนือร่างกายของครูสหลังจากที่พ่ อ มดชราพูดจบ ผงสีเงินที่กำลังเรืองแสงค่อยๆตกลงไปและเคลือบผิวของ ร่างกายอย่างรวดเร็ว ผงนี้มีชื่อว่าผงกอบกู้วิญญาณและมันใช้เพื่อปกป้องผู้ตายจากเนโค รแมนเซอร์ พ่อมดที่แข็งแกร่งได้ออกแบบเมื่อหลายร้อยปีก่อน มันเริ่มมืดและลมก็แรงขึ้น ท้องฟ้าค่อยๆปกคลุมไปด้วยเมฆ อีกไม่กี่วินาทีต่อมาก็มีฝนขนาดเท่าถั่วตกลงมาจากท้องฟ้ า ฟึบ คนรอบๆโลงศพกางร่มสีดำของพวกเขา แองเจเล่ยกมือขวาขึ้นและสร้างร่มโลหะสีดำเพื่อป้องกันไม่ให้ฝนโดนหัว ของเขา ร่มดูคล้ายกับของคนอื่นๆ ร่มได้โดนผิวของร่มและมันเกิดเสียง "ท่านแองเจเล่ท่านอยู่ที่นี่หรือ" มีพ่อมดหนุ่มหลายคนทักทายแองเจเล่ ในขณะที่พวกเขาเดินเข้ามาหาเขาจากข้างหลัง "ร็อค เกิดอะไรขึ้นกับงานศพทั้งหมดในบทเพลงเงือก" แองเจเล่เฝ้าดูโลง ศพหลายโลงลงไปในหลุมฝังศพและถามชายหนุ่มโดยใช้อนุภาค พลังงาน "ข้าเพิ่งมาถึงและข้าไม่รู้สถานการณ์ " พ่อมดหนุ่มเหล่านี้เป็นสมาชิกของแผนกทรัพยากรมนุษย์และพวกเขามี คนมากกว่ายี่สิบคนทำงานให้พวกเขา พวกเขาทุกคนเป็นพ่อมดระดับ หนึ่งและพวกเขาเป็นกองกำลังหลักที่ นี่ ชายที่ชื่อร็อคมีรอยยิ้มที่ขมขื่นบนใบหน้าหลังจากที่ได้ยินคำถาม "สถานการณ์ในเมืองกลองสงครามแย่กว่าเมืองเงือกมาก" ร็อคเริ่ม อธิบาย "หนึ่งในกองทหารที่อยู่แนวหน้าถูกซุ่มโจมตีโดยกองกำลังหลัก ของพันธมิตร มีคนหลายพันคนได้ตายไป เหลือเพียงไม่กี่ร้อยคนเท่านั้น ที่ยังรอดชีวิต...." "จริงหรือ พวกสุนัขพันธมิตรเหล่านั้น...." แองเจเล่สบถและมองไปที่ร็อค "จัดการลูกของครูสให้ข้า พวกเขาเป็นปุถุชนและข้าต้องการให้พวกเขา มีชีวิตที่สงบสุข" ร็อคมองไปที่โลงศพและมีร่องรอยความกลัวในดวงตาของเขา "ข้าคิดว่า พ่อมดเป็นสิ่งมีชีวิตที่แข็งแกร่งที่สุดในโลกนี้และเราสามารถรับสิ่งต่างๆ ที่เราต้องการในชีวิตของเราได้มากที่สุด ข้าไม่เข้าใจว่าทำไมเราควรจะ ก้าวหน้าจนข้าได้ยินการตายของท่านครูส...." แองเจเล่มองไปที่เขาแต่ไม่ได้พูดอะไรอีก ฝนเริ่มตกหนักขึ้น โลงศพเข้าไปในหลุมฝังศพอย่างรวดเร็วและปกคลุม ด้วยดอกไม้ ผู้คนรอบๆเริ่มจากไป เมื่อเหลืออยู่ไม่กี่คนแองเจเล่ก็ตัดสินใจที่จะจากไปด้วยเช่นกัน "ท่านแองเจเล่" มีเสียงหญิงสาวหยุดเขาจากข้างหลัง แองเจเล่หันกลับไปและเขาเห็นจูเลียกำลังยืนอยู่ข้างหน้าพร้อมกับเด็ก อีกสองคน น้องสาวและน้องชายได้จับมือพี่สาวแน่นในขณะที่พวกเขา จ้องที่แองเจเล่ "เกิดอะไรขึ้นจูเลีย" แองเจเล่ถาม ตอนที่365: งานศพ (2) แปลนิยาย.วันพฤหัสบดี ที่24 พฤษภาคม 2018 "ท่านพาเราไปกับท่านได้ไหมท่านแองเจเล่" จูเลียขอร้องในขณะที่เธอ จับมือกับน้องสาวและน้องชายของเธอ "ขอโทษด้วย" แองเจเล่ส่ายหัวเล็กน้อย "ข้าไม่สามารถพาเจ้าไปได้" เขารู้ว่าครูสมีศัตรูทางการเมืองมากมายเมื่อเขายังมีชีวิตอยู่ในฐานะ เพื่อนเขาต้องการช่วยลูกของชายคนนี้แต่ไม่ได้ตั้งใจที่จะรับเลี้ยงและ ปฏิบัติกับพวกเขาเหมือนลูกของตัวเอง นอกจากนี้เขายังรู้ว่าไม่ใช่ครั้งแรกที่จูเลียพยายามจะขอให้พ่อมดรับ พวกเธอไป แต่ว่าไม่มีใครต้องการเป็นเป้าหมายของศัตรูทางการเมือง ของครูส วิธีที่ดีที่สุดคือการช่วยให้เด็กทั้งสามออกจากการต่อสู้นีผู้คน จะไม่สนใจตราบใดที่พวกเขาเป็นปุถุชน แองเจเล่ถอนหายใจ "ไปพูดกับท่านแบร์รี่และเรียนในโรงเรียน เจ้าจะได้ งานที่ดีในเมืองหลังจากที่จบการศึกษาแล้ว" หลังจากพูดแบบนั้นเขาก็จากไป แองเจเล่ไม่ได้เป็นหัวหน้าแผนกหลังจากการตายของครูส สำนักงาน ใหญ่ได้ส่งใครบางคนมาแทนที่ครูสและแองเจเล่ก็ยังทำงานต่อในฐานะ ผู้ช่วย เขาปฏิเสธทุกคำเชิญงานเลี้ยงจากเพื่อนร่วมงานของเขาและกลับไปที่ คฤหาสน์ข้างแม่น้ำแนส แองเจเล่ตัดสินใจที่อยู่ในคฤหาสน์และมุ่งมั่นกับการฝึกแกนแม่น้ำ มัลเท็น ความต้องการของรูนและวงเวทสำหรับขั้นสี่ยากมากและเขายังมี ปัญหาในการทำความเข้าใจกับพวกมันอยู่ เขาต้องการใช้เวลาศึกษาวงเวท การสำรวจดินแดนฝันร้ายและใช้เวลา กับเฟรย่าให้มากขึ้น เมืองท่าอากาศยานที่ขอบหุบเขาอเวจี ภายใต้แสงสลัวหุบเขาอเวจีดูเหมือนรอยแยกขนาดใหญ่ในแผนดินที่ มี อากาศหนาวเย็นออกมาจากความมืด แสงสีส้มจากดวงอาทิตย์ที่กำลังตกได้ส่องลงบนพื้นและเมฆรูปบันไดก ็ ถูกย้อมเป็นสีทอง แค๊รก มีรองเท้าบู้ทหนังสีขาวก้าวลงบนก้อนหินขนาดเล็กทำให้มันแบนลง มันเป็นผู้หญิงที่มีหน้าอกขนาดใหญ่และใบหน้าที่มีเสน่ห ์เธอสวมชุด คลุมยาวแน่นและใบหน้าของเธอก็มีสีหน้าเย็นชา ผิวของเธอสะอาด ใบหน้าของเธอสวยและหูขวาของเธอยาวและขาว มันปกคลุมไปด้วยขนสีเทา ผู้หญิงคนนี้มองไปรอบๆ "นี่เป็นสถานที่สุดท้ายที่ข้าตรวจพบสัญญาณชีวิตของเทอร์รี่" เธอพึมพำ มีชายสองคนในชุดคลุมสีขาวอยู่ข้างหลังเธอ หนึ่งในนั้นก้มตัวลงและสัมผัสกับพื้นเพื่อตรวจสอบฝุ่น "คลื่นความตายได้สิ้นสุดลงเมื่อไม่นานมานีมันได้ลบสิ่งมีชีวิตทั้งหมด ออกจากพื้นที่และเราไม่สามารถหาฆาตกรได้" คิ้วของเขาย่น "ท่านเออร ์ วิน ข้าคิดว่าเราเสียเวลาเปล่าๆ เราควรหาท่านจูเลี่ยนและ..." "เจ้ากำลังตั้งคำถามกับการตัดสินใจของข้างั้นหรือ" ผู้หญิงที่ชื่อเออร์วินหันกลับไปและมองไปที่ชายคนนั้น "ใช่" ชายคนนั้นลุกขึ้นยืนและตอบเสียงเย็นชา "ท่านจะเสียเวลาเปล่า" ตู้ม หัวของพ่อมดชายระเบิดเหมือนแตงโม สมองของเขาได้ผสมกับกระดูก ที่แตกและมันได้กระจายไปทั่ ว เออร์วินลดมือขวาของเธอลงอย่างสงบ "มันเป็นเวลา 500 ปีแล้วตั้งแต่ที่มีคนตั้งคำถามกับการตัดสินใจของข้า ...." เธอหันกลับไปและจ้องไปในเหวอีกครั้ ง ร่างกายของพ่อมดที่ตายได้ตกลงไปที่พื้น มีเส้นควันสีดำออกมาจากศพ และก่อเป็นใบหน้าของมนุษย ์ไม่มีจมูกหรือหูบนใบหน้าและฉากนี้มัน ค่อนข้างน่ากลัว "ท่านเออร์วิน สิ่งที่ท่านเพิ่งทำไม่เป็นที่ยอมรับและข้าจะรายงาน สถานการณ์ให้กับท่านฟิล" ใบหน้ามนุษย์คำรามด้วยความโกรธและ ค่อยๆหายไปในอากาศ เออร์วินไม่ได้กังวลว่าใบหน้านั้นจะพูดอะไร เธอยังมองไปที่เหว พ่อมด ชายอีกคนไม่ได้ตอบสนองใดๆต่อเหตุการณ์และมันดูเหมือนว่าเขาไม่ สนใจเรื่องคนที่ถูกฆ่ า "เทอร์รี่....ข้าจะแก้แค้นให้เจ้า...." เออร์วินพูดเสียงเบา "นายหญิง พ่อมดระดับสี่ในเมืองท่าอากาศยานต้องการพูดกับท่านผ่าน รูนสื่อสาร ท่านคิดว่าอย่างไร" ชายคนนั้นถาม "ไม่เขาเป็นเพียงพ่อมดระดับสี่ที่ไม่มีวงเวทมรดกและข้าแน่ใจว่าเขาไม่ มีเรืองสำคัญ ทุกคนคิดว่าเทอร์รี่และซีน่าถูกฆ่าโดยเผ่าใต้ดินแต่ข้าเห็น บางอย่างที่ต่างออกไป พวกเขาจะต้องถูกใครบางคนฆ่า" "ครับ นายหญิง" ชายคนนั้นโค้งและจากไปโดยทิ้งร่างของชายอีกคนไว้ บนพื้น ************************* ดินแดนฝันร้ายในคฤหาสน์ข้างแม่น้ำแนส แองเจเล่ยืนอยู่เงียบๆตรงกลางของห้องนั่งเล่นและเริ่มคิดเรื่องแผง ควบคุมของข่ายทั้งสองข้างหน้า ฟีนิกซ์กำลังยืนอยู่บนไม้ยืนนกตรงมุมของห้องนั่งเล่น มันกำลังร้องเพลง ด้วยเสียงแปลกๆ นกตัวนี้มันทำความสะอาดขนด้วยปากของมันและ ร่างกายของมันก็ใหญ่ขึ้นกว่าก่อนหน้านีมันล้อมรอบไปด้วยแสงสีทอง แสงแดดยามเช้าได้ส่องผ่านหน้าต่างและตกลงบนพื้น มันได้แบ่ง ห้องนั่งเล่นออกเป็นสองส่วน ด้วยความช่วยเหลือของซีโร่แองเจเล่สามารถวิเคราะห์ความคืบหน้า ของเขาได้'ความคืบหน้ากับแกนแม่น้ำมัลเท็นช้าลงอีกครั้ง มันอาจจะ ใช้เวลาสี่ถึงห้าปีเพื่อไปถึงคอขวดของขั้นที่สี่' พ่อมดต้องหาวิธีการของตัวเองเพื่อทำลายคอขวดแต่บางคนต้องใช้ เวลาอย่างน้อยหนึ่งร้อยปีเพื่อคิดให้ออก แม้ว่าแองเจเล่จะได้รับความ ช่วยเหลือจากชิปแต่มันก็ยังต้องใช้เวลาอีกสักพักเพื่อก้าวไปสู่ระดับ ต่อไป 'ศัตรูของข้าจะพบข้าในไม่ช้านีข้าจะต้องหาวิธีอื่นเพิ่มพลังของข้า' แอง เจเล่นึกถึงฉากที่เขาเห็นในห้องหินและมันก็ทำให้เขารู้สึกตื่นเต้น 'ซีโร่การวิเคราะห์ข่ายคลื่นน้ำแข็งเสร็จสิ้นหรือยัง' แองเจเล่ถาม เขาได้ ใช้เวลาส่วนใหญ่ฝึกแกนแม่น้ำมัลเท็นดังนั้นเขาจึงบอกให้ซีโร่วิเคราะห ์ ข่ายให้เขา [งานเสร็จสิ้น ข่ายคลื่นน้ำแข็งได้รับการวิเคราะห์บางส่วน กำลังสร้าง รูปแบบพื้นฐาน] มีกราฟง่ายๆของข่ายถูกแสดงอยู่ข้างหน้าเขา มันเป็นภาพรูปเพชรที่มีจุดสีน้ำเงินห้าจุด สี่จุดก่อเป็นรูปเพชรและอีกจุดที่อยู่ตรงกลางก็กำลังกะพริ บ จุดทั้งหมดเชื่อมต่อกันด้วยสายพลังงาน 'นี่เป็นหน่วยพื้นฐานของข่ายคลื่นน้ำแข็งหรือ' กราฟโครงสร้างสำหรับข่ายที่ซับซ้อนมักจะมีหน่วยพื้นฐานหลายหน่วย และมันยากที่จะเข้าใจแต่ซีโร่สามารถวิเคราะห์ให้เขาได้ดีแองเจเล่ สามารถศึกษาโครงสร้างได้ด้วยตัวเองตลอดเวลาแต่นั่นอาจจะต้องใช้ เวลามากและเขาก็อาจจะเบื่อมันก่อน มันทำให้ซีโร่ใช้เวลาห้าเดือนในการสร้างรูปแบบพื้นฐานสำหรับหน่วย พื้นฐานของข่ายคลื่นน้ำแข็งและมันทำให้กราฟเข้าใจได้ง่ายขึ้นมาก แองเจเล่มองไปที่กราฟที่เรียบง่ายของข่ายและมันก็เป็นกราฟที่เรียบ ง่ายที่สุดของข่ายที่เขาเคยเห็น หนังสือที่เกี่ยวข้องกับข่ายไม่สามารถสอนเขาได้แบบนี 'แสดงข้อมูลให้ข้าดู ' เขาสั่ง ติ๊ง มีแถวข้อมูลที่ซับซ้อนแสดงอยู่ภายใต้กราฟสีน้ำเงิ น ข้อมูลสำคัญส่วนใหญ่คือฟังก์ชั่นและการใช้พลังงานของข่าย [ฟังก์ชั่น: ปลดปล่อยพลังคลื่นกระแทก ความเสียหาย ศูนย์ เหมาะ สำหรับการเตือน ระยะขึ้นอยู่กับการใช้พลังงาน] [พลังงานที่ใช้: 1.52 หน่วย/ชั่วโมง] แองเจเล่มองไปที่กราฟที่เรียบง่ายและถอนหายใจด้วยอารมณ์ ที่ หลากหลาย 'ข่ายคลื่นน้ำแข็งที่มีประสิทธิภาพสร้างขึ้นด้วยหน่วยพื้นฐานที่น้อย เช่นนี้...' เขาเดินไปที่โซฟาและนั่งลง เขาเอาหินเวทมนต์ปกติออกมาห้าก้อน เขา วางพวกมันไว้บนโต๊ะเหมือนกับห้าจุดบนกราฟและใช้น้ำสะอาดสร้าง สายพลังงานและเชื่อมต่อกับหิ น หลังจากหินทุกก้อนเชื่อมต่อกันแองเจเล่ก็ใช้นิ้วชี้มือขวาไปแตะบนหิน เวทมนต์ตรงกลางของข่ายพื้นฐาน มีคลื่นกระแทกโปร่งใสปลดปล่อยออกมาจากตรงกลางของ่ขายและมั น ก็เริ่มขยายไปทุกทิศทุกทาง คลื่นกระแทกปกคลุมทั้งห้องนั่งเล่นอย่าง รวดเร็ว แองเจเล่พอใจกับผลลัพธ ์ 'นั่นเป็นหน่วยพื้นฐานของข่ายคลื่นน้ำแข็ง ซีโร่วิเคราะห์หน่วยพื้นฐาน ของข่ายกระเพื่อมให้ข้าและหาแก่นพลังงานทั้งสองของมั น นอกจากนี้ ลองรวมหน่วยพื้นฐานทั้งสอง' เขาต้องการสร้างศูนย์พลังงานโดยใช้ข่ายทั้งสองและเขาต้องการ เชื่อมต่อข่ายทั้งสองเพื่อให้ใช้บัตรคริสตัลใบเดียวในการส่งพลังงาน ให้กับพวกมัน เป้าหมายสูงสุดคือการเชื่อมต่อข่ายทั้งหมดในพื้นที่และใช้พลังงาน ทั้งหมดผ่านบัตรคริสตัลใบเดียว [สร้างงาน เริ่มการวิเคราะห์....] เสียงของซีโร่ดังก้องในหูของเขา แองเจเล่มุ่งหน้าไปที่ชั้นสองและเข้าห้องอ่านหนังสือ ห้องอ่านหนังสือถูกสร้างใหม่เป็นห้องทดลอง เฟรย่าไม่ได้รับอนุญาตให้ เขาห้องอีกต่อไปและมีวงเวทป้องกันถูกตั้งไว้ภายนอกประตู ขวดขนาดต่างๆถูกตั้งในห้องและมีขวดคริสตัลมากมายที่มีของเหลว เรืองแสงอยู่ภายใน มีฐานสีขาวตรงกลางห้องอ่านหนังสือ มีผู้หญิงที่มีร่างผอมและสู ง ครึ่งหนึ่งของผู้ใหญ่นอนอยู่บนฐานอย่างเงียบๆด้วยดวงตาที่ปิดอยู่ ผู้หญิงคนนี้มีคู่ปีกโปร่งใสเหมือนแมลงปอและผมของเธอเป็นสีเงิน เธอเป็นศพของสายพันธุ์ที่ไม่รู้จักและแองเจเล่ศึกษาร่างกายของเธอมา สักพักหนึ่ ง ศพล้อมรอบไปด้วยสนามพลังล่องหน มันมีเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ สองเมตรและไม่มีสิ่งมีชีวิตใดๆสามารถเข้าพื้นที่ได้ แองเจเล่ยังไม่พบวิธีทำลายสนามพลัง เขาได้ซื้อข่ายดูดกลืนพลังงาน ขนาดเล็กจากตลาดและเขาคิดว่าสนามพลังจะหายไปถ้าหากไม่มี พลังงานใดๆสนับสนุนมั น เขาอาจจะพยายามทำลายสนามพลังด้วยกำลังแต่เขาไม่ต้องการสร้าง ความเสียหายแก่ร่างกายนั้น แองเจเล่เดินไปที่ร่างกายและพยายามสัมผัสกับศพ เป๊าะ เสียงมันเหมือนฟองสบู่ถูกแทงด้วยนิ้ ว แองเจเล่รู้ว่าสนามพลังไม่ได้ถูกสนับสนุนด้วยพลังงานที่เพียงพออี ก ต่อไป เขายกมือขวาขึ้น แองเจเล่สร้างมีดเงินขนาดเล็กแล้วพยายาม แทงเข้าไปในอกของศพ แต่ก่อนที่ปลายของมีดจะสัมผัสกับผิวหนังของศพ.... ฟู่ มีลูกไฟสีม่วงปกคลุมทั้งร่างกายของศพ แองเจเล่ไม่ได้คาดคิดว่ามันจะเกิดแบบนี้และนิ้วของเขาก็เกรียมจาก เปลวไฟสีม่วง สีหน้าของเขาเปลี่ยนไปและเขาถอยหลังไปหลายก้าว อย่างรวดเร็ว มีแสงสีเขียว สีขาวและสีแดงบนร่างกายของแองเจเล่และเปลวไฟสีม่วง ก็ค่อยๆดับลง ปลายนิ้วชี้ของเขาได้เปลี่ยนเป็นสีม่วงและมันแข็งเหมือน คริสตัล ศพยังปกคลุมไปด้วยเปลวไฟสีม่วงในขณะที่มันหลอมละลายและเริ่ ม ระเหย "บัดซบ" แองเจเล่ไม่แน่ใจว่าเขาทำอะไรผิด แต่เปลวไฟสีม่วงทำให้เขา นึกถึงอะไรบางอย่าง เขารีบยกแขนขวาขึ้นและปลอกแขนสีแดงเข้มก็มีแสง วู้ดด ปลอกแขนเริ่มดูดเปลวไฟสีม่วงจากร่างของศพ
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น
(
Atom
)
ไม่มีความคิดเห็น :
แสดงความคิดเห็น