วันพฤหัสบดีที่ 12 มีนาคม พ.ศ. 2563

ตอนที่ 291: การเดินทางครั้งใหม่ (2)
แปลนิยาย.วันเสาร์ที่ 10 มีนาคม 2018
ในที่สุดเฮนน์ก็ตื่นขึ้นมาในตอนที่ดวงอาทิตย์เริ่มขึ้น
'หืม สนามพลังอุณหภูมิสูงหรือ เลือกได้ดี' เธอไม่ได้แปลกใจ 'นี่เป็น
รายละเอียดเกี่ยวกับรูปแบบคาถา เนื่องจากเจ้ารู้พื้นฐานทั้งหมดแล้ว
เจ้าก็ควรเชี่ยวชาญมันอย่างรวดเร็ว'

'ข้าต้องการสร้างอาวุธเวทมนต์ท่านมีคำแนะนำหรือไม่'แองเจเล่ถาม
และแอบสั่งให้ชิปบันทึกการสนทนา
'อาวุธเวทมนต์ส่วนใหญ่นั้นอ่อนแอถ้าเจ้าต้องการผลเวทมนต์ที่ดีเจ้า
จะต้องหาวัสดุคุณภาพสูง ไม่มีใครพึ่งพาตัวเวทมนต์เนื่องจากมันต้อง
ใช้เวลามากเกินไปเพียงเพื่อเติมพลังงานที่จำเป็นสำหรับการใช้งาน
หากเจ้าสามารถหาวงเวทที่ช่วยเติมเต็มพลังงานได้มันก็จะเป็น
ทางเลือกที่ดีนั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมอุปกรณ์เวทมนต์ถึงสามารถใช้งาน
ได้มากกว่าหนึ่งครั้งแม้ว่าพวกมันจะมีคูลดาวน์ภายใน'เฮนน์อธิบาย
'ทักษะการลงเวทมนต์ของเจ้าอ่อนแอเกินไปถ้าปราศจากความรู้เรื่อง
วงเวทเจ้าก็จะเสียวัสดุไปหมด'
'เอาล่ะ ข้าจะคิดเรื่องนี้ไม่มีใครสามารถเป็นผู้เชี่ยวชาญการลงเวทมนต์
ได้ในวันเดียว การแกะสลักรูนของสนามพลังอุณหภูมิสูงเป็นสิ่งสำคัญ
ของข้า'แองเจเล่ตอบด้วยความสงบเขามีสีหน้านิ่งเฉย
'ตกลงข้ามีคาถาระดับสองที่ดีให้เจ้าเมื่อเจ้าเสร็จสิ้นขั้นตอน'เฮนน์พูด
ต่อ'หลังจากที่โอนรายละเอียดของคาถาระดับสองให้เจ้าข้าก็จะต้อง
พักผ่อนอีกครั้งนั่นหมายความว่าเจ้าจะอยู่คนเดียวสักพักกระบวนการ
ส่งจะทำให้ข้าใช้พลังงานจำนวนมากหาเวลาที่จะเชี่ยวชาญมัน
หลังจากที่เจ้าไปถึงอาณาเขตของหัตถ์ธาตุ'

เฮนน์ส่งข้อมูลที่สมบูรณ์ของรูปแบบคาถาให้แองเจเล่หลังจากที่เธอพูด
จบ
'มีอะไรที่ข้าต้องระวังอีกไหม' แองเจเล่สงสัย
'มันยังเร็วไป ข้าจะพูดกับเจ้าหลังจากที่ข้าตื่น' เฮนน์หยุดตอบหลังจาก
นี้ ดูเหมือนว่ากระบวนการนี้จะทำให้เธอใช้พลังงานส่วนใหญ่ไป
'ท่านเฮนน์' แองเจเล่พยายามพูดกับเธออีกครั้งแต่เธอไม่ตอบ
เขาหรี่ตา เขาลุกออกจากเตียงและมุ่งหน้าไปยังห้องยา
มีกระเป๋าเดินทางสีดำอยู่หลังประตู เขาเปิดกระเป๋าอย่างระมัดระวัง
และปกคลุมทั้งห้องด้วยสนามพลังของเขาเพื่อป้องกันไม่ให้คลื่นพลังจิต
ที่ล่วงลํ้าเข้ามาตรวจพบของพิเศษของเขา
ของในกระเป๋าปกคลุมไปด้วยผ้าคลุมสีดำ
แองเจเล่ดึงผ้าคลุมสีดำออกมาและมีแสงหลากสีส่องลงบนใบหน้าของ
เขา
ภายใต้ผ้าคลุมมีขวดยาและหลอดทดลองนับไม่ถ้วน แสงสีนํ้าเงิน แดง
เหลืองและทองมาจากของเหลวและผงภายในภาชนะ
แองเจเล่ใช้เวลาทดสอบเพื่อตรวจสอบว่าเฮนน์รู้หรือไม่ว่าเขากำลังทำ
อะไรอยู่ในขณะที่เธอกำลังพักผ่อน แล้วเขาก็คิดออกว่าคลื่นพลังจิตที่
ล่วงลํ้าของเฮนน์ทำหน้าที่อย่างไร

เขาต้องการซ่อนยาพิเศษของเขาจากเฮนน์เนื่องจากหนึ่งในนั้นมีเลือดที่
สกัดจากสิ่งมีชีวิตในดินแดนฝันร้าย เขาไม่แน่ใจว่าเฮนน์สามารถรับรู้ได้
หรือไม่แต่เพื่อป้องกันเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดเขาจึงทำเช่นนี้
แองเจเล่ตรวจสอบสภาพของยาในกระเป๋าและคว้าหลอดแก้วสีเขียวที่
มีของเหลวเหนียวสีเขียวจากมุมบนขวา
'ข้าต้องแกะสลักและทำให้พลังจิตของข้าเสถียรให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำ
ได้ วันที่มินโคล่าบอกข้ามันกำลังใกล้เข้ามาเรื่อยๆ เวลาของข้ามีจำกัด
แต่ข้ายังต้องการวิเคราะห์ตัวอย่างเลือด...' แองเจเล่ปิดกระเป๋าใน
ขณะที่เขาคิดเรื่องนี้ เขาซ่อนกล่องไว้หลังประตูและปกคลุมมันด้วย
อนุภาคพลังงานเพื่อตั้งการแจ้งเตือนแบบง่ายๆ
แองเจเล่ยืดหลังตรงและม่งหน้าไปยังห้องทดลอง
*************************
สิบวันต่อมา
ท้องฟ้าเต็มไปด้วยเมฆหนา
ฝนตกลงมาบนพื้นดินอย่างต่อเนื่องทำให้วิสัยทัศน์ภายนอกนั้นแย่
ข้างถนนหลักนอกเมืองมีแม่นํ้ากว้างสองเมตรไหลผ่านพื้นดินที่ปกคลุม
ไปด้วยหญ้า

ฝนขนาดเท่าถั่วตกลงบนผิวของนํ้าและหญ้าสูงก็สั่นไหวท่ามกลางสาย
ลมที่รุนแรง
การไหลของแม่นํ้าช้าแต่สมํ่าเสมอ มีคนเดินเท้าหลายคนสวมชุดกันฝน
และมีรถม้ากำลังวิ่งไปตามถนนหลัก
มีชายสูงสวมชุดกันฝนสีเทายืนข้างแม่นํ้าที่กำลังไหล ฮู้ดสีเทาปกคลุม
ใบหน้าของเขาแต่มันดูเหมือนว่าเขากำลังจ้องไปที่นํ้าอย่างเงียบๆ
ทันใดนั้นก็มีแสงสีขาวกะพริบบนหลังมือขวาของเขา
มีเสียงเข้มดังก้องอยู่ในหูของเขา
'สามโมง กรีน ซ่อนคลื่นพลังจิตของเจ้า'
'ตกลง' แองเจเล่ตอบเสียงเบา
'มีกลุ่มพ่อมดมากกว่าสองกลุ่มกำลังทำภารกิจเดียวกับเรา เจ้าต้องรีบ'
เสียงนั้นพูดต่อ
'รู้แล้ว' แองเจเล่ตัดการสื่อสาร
หลังจากผ่านไปสิบวันและลองทั้งหมดสามสิบครั้งในที่สุดเขาก็แกะสลัก
รูนตัวแรกบนคริสตัลพลังจิตสำเร็จ
จากนั้นเขาก็ตัดสินใจที่จะทดสอบผลใหม่ของสนามพลังโลหะทันที

แองเจเล่ยอมรับภารกิจลอบสังหารจากโรงแรม เป้าหมายเป็นพ่อมด
ที่มาจากตระกูลหนึ่ง
มันเป็นพ่อมดที่อ่อนแอที่ตัดสินใจที่จะสืบทอดธุรกิจของตระกูลหลังจาก
ที่ล้มเหลวในการก้าวไปสู่ขั้นต่อไป เขาได้จ้างทหารรับจ้างที่แข็งแกร่ง
หลายคนเป็นผู้คุ้มกันในระหว่างทางไปที่เมือง
ฝนที่ตกเริ่มหนักขึ้นเรื่อยๆ แองเจเล่แทบจะมองไม่เห็นวัตถุที่อยู่ห่าง
ออกไปสิบเมตรและสิ่งเดียวที่เขามองเห็นคือฝนที่ตกลงมา
เขาเงยหน้าขึ้นและฝนเย็นๆก็โดนใบหน้าของเขา แองเจเล่หายใจเข้า
ลึกๆ อากาศชื้นแต่มันสดชื่น
ทันใดนั้นเขาก็ได้ยินเสียงที่รุนแรงจากกีบเท้าม้าที่มาจากถนนสายหลัก
กุบกับ กุบกับ กุบกับ
ท่ามกลางสายฝนมีรถม้าสีขาวที่มีม้าสีดำสองตัวกำลังวิ่งอยู่ข้างหน้าวิ่ง
ด้วยความเร็วเต็มที่ ไม่มีคนขับรถม้าข้างหน้ามันและล้อของมันก็
ล้อมรอบไปด้วยอนุภาคพลังงานสีเขียว
แองเจเล่หันไปมองรถม้าที่ดูเหมือนเงาสีเทากำลังเคลื่อนที่
เขาหรี่ตาและเริ่มเดินไปที่รถม้า
หลายวินาทีต่อมาแองเจเล่ก็ยืนอยู่ข้างถนนกำลังจ้องไปที่รถม้าที่กำลัง
ใกล้เข้ามา

เสียงกีบเท้าม้าที่ผสมกับเสียงฝนเริ่มดังขึ้นเรื่อยๆ
ถนนไม่ได้เรียบดังนั้นรถม้ากำลังสั่น
แองเจเล่ค่อยๆปลดดาบปลายโค้งสีเงินออกจากเข็มขัดและจับด้วยมือ
ขวาแน่น
ตู้ม
มีลำแสงสีเงินถูกปล่อยออกมาจากมือของแองเจเล่ รถม้าถูกพัดปลิวไป
จากแรงกระแทกและกลิ้งหลายครั้งบนหญ้าเหมือนลูกบอล รถม้าหยุด
ขยับหลังจากที่ตกลงบนบ่อขนาดใหญ่
แองเจเล่ไม่พบการเคลื่อนไหวใดๆจากรถม้าที่ควํ่า
ม้าสีดำสองตัวกำลังร้องด้วยความเจ็บปวดบนหญ้า เลือดสีแดงที่ไหล
ออกมาจากร่างกายของพวกมันถูกทำให้หายไปด้วยฝนอย่างรวดเร็ว
แองเจเล่เดินไปที่รถม้าอย่างรวดเร็วและผูกดาบปลายโค้งต้องสาปกับ
เข็มขัดของเขาโดยใช้สายโลหะ จากนั้นเขาก็ยกมือขวาขึ้นและสร้าง
ดาบเงิน
ดาบได้เปลี่ยนเป็นสีแดงด้วยความร้อน
นํ้าฝนระเหยทันทีที่พวกมันโดนดาบทำให้มีเสียงดังชี่
ดาบยาวประมาณสองเมตรและปลายของมันก็กว้างกว่าใบดาบ

มีจุดแสงสีนํ้าเงินข้างหน้าสายตาของแองเจเล่ในขณะที่เขาเดินไปที่รถ
ม้า
มีชายหัวล้านสวมชุดหนังสีเขียวติดอยู่ภายในรถม้าและมีเลือดไหลลง
มาจากคางของเขา
ใบหน้าของชายคนนี้เริ่มซีดเนื่องจากหน้าอกของเขาหัก
แองเจเล่ยกดาบขึ้นสูงและเหวี่ยงลงมา
มีเงาดำกระโดดออกมาจากรถม้าและป้องกันใบดาบ
แองเจเล่กระโดดไปข้างหลังและก้าวถอยหลัง
แสงสีนํ้าเงินรอบดวงตาของเขาจางหายไป
'75 หน่วย' เขาทำการวิเคราะห์อย่างง่ายๆ สนามพลังโลหะที่ลงเวท
มนต์และระดับความแข็งแกร่งที่สูงของเขาเพิ่มความเสียหายที่เกิดขึ้น
จากอาวุธเล็กน้อย
เงาดำกระเด็นไปจากแรงกระแทก มันเป็นชายชราสวมชุดสีดำ มีเลือด
ไหลออกมาจากตาและจมูกของเขา ฉากนี้มันดูน่ากลัว
"บัดซบ" ชายชราสบถในขณะที่เขาไอ
"ผู้คุ้มกันของเจ้าอยู่ไหน เจ้าได้รับบาดเจ็บได้อย่างไร" แองเจเล่
สังเกตเห็นว่าสถานการณ์ซับซ้อนเล็กน้อย เขาเล็งไปที่ม้าและรถม้าเมื่อ

เขากำลังจะโจมตี จุดประสงค์ของเขาคือการปล่อยให้สนามพลังทำงาน
ของมันและทำลายโล่พลังของพ่อมดชรา
"คนของเจ้าฆ่าพวกเขาทั้งหมด" ชายชราตอบ "ชายหนุ่ม พวกเขา
จ่ายเงินเจ้าเท่าไหร่ในการฆ่าข้า ข้าจะให้สองเท่าถ้าเจ้าปล่อยข้าไป เจ้า
จะว่ายังไง"
ชายชรามองไปที่แขนขวาและมันก็ถูกไหม้ ปลอกแขนเวทมนต์ที่ถูกมอบ
ให้เขาจากผู้อาวุโสในตระกูลแตกเป็นเสี่ยงๆหลังจากที่ปิดกั้นการโจมตี
โล่พลังงานของเขาที่สร้างด้วยสนามพลังก็ถูกทะลุได้อย่างง่ายดาย มัน
จะต้องใช้เวลาอย่างน้อยสี่ปีเพื่อฟื้นฟูจากอาการบาดเจ็บ
'แต่...'
ชายชราลูบแขนขวา
มันไม่ใช่ปัญหาใหญ่ถ้าเขาสามารถรอดชีวิตไปได้ เขาต้องหาวิธีที่จะ
โน้มน้าวพ่อมดหนุ่มข้างหน้าเขา
ชายชราเงยหน้าขึ้นและจ้องไปที่แองเจเล่
"เจ้าคิดอย่างไรกับข้อเสนอของข้า"
แองเจเล่แกว่งดาบในมือหลายครั้ง ใบดาบของมันยาวกว่าความสูงของ
เขา

"ช่างมันเถอะ ดูเหมือนว่าวันนี้ข้าโชคดี ข้าต้องจัดการเจ้าก่อนที่คนอื่น
จะมา" แองเจเล่ไม่สนใจเรื่องข้อเสนอของชายชราเลย
"เจ้า...เดี๋ยว ข้าจะให้สามเท่า! สามเท่า!" ชายชราตะโกนด้วยความกลัว
ฟึบ
ดาบยาวได้ฟันหัวของชายชราอย่างง่ายดาย
ใบดาบที่ร้อนได้เผาเนื้อในขณะที่มันฟันผ่านหัวของเขา
แองเจเล่พอใจกับผลลัพธ์ที่ได้ เขาก้มตัวลงและหยิบถุงกระเป๋าหนังสีดำ
จากเข็มขัดของชายชราเพื่อพิสูจน์ว่าเขาทำภารกิจเสร็จสิ้น
แองเจเล่ได้ยินเสียงที่เกิดจากีบเท้าของม้ากำลังมาจากถนนหลัก มีชาย
สวมผ้าคลุมสีดำสองคนกำลังขี่ม้าสีนํ้าตาลมาทางเขาด้วยความเร็ว
เต็มที่
ชายคนข้างหน้าล้อมรอบไปด้วยสนามพลังและฝนที่กำลังตกลงมาก็ถูก
มันปิดกั้น คลื่นพลังจิตที่ปลดปล่อยออกมาจากเขามันแข็งแกร่งและ
ลึกลับ
ดวงตาสีแดงของม้าสองตัวกำลังเรืองแสง ร่างกายลํ่าสันของพวกมัน
ค่อนข้างแปลก

แองเจเล่สังเกตพ่อมดสองคนที่กำลังใกล้เข้ามาหลายวินาที ตอนนี้เขา
ค่อนข้างสับสนและเขาก็ส่ายหัว จากนั้นเขาก็หันกลับไปและหายตัวไป
ในสายฝน
ตอนที่ 292: หัตถ์ธาตุและวิเวียน (1)
แปลนิยาย.วันจันทร์ที่ 12 มีนาคม 2018
'เป้าหมายของข้าคือการทดสอบสนามพลังใหม่และเสร็จสิ้นภารกิจ ดู
เหมือนว่าทุกสิ่งทุกอย่างเป็นไปตามแผนของข้า'
แองเจเล่ได้ปรับความถี่พลังจิตของเขาและพูดกับเฮนน์ เขาเดินอย่าง
รวดเร็วในฝนที่กำลังตกอย่างหนัก เขาเดินไปใกล้ๆเมืองและพบถนน
เล็กๆ
'ถึงเวลาที่ข้าต้องไปพบกับมินโคล่าและกลุ่ม รูปแบบคาถาระดับสองที่
ท่านสัญญากับข้าไว้ล่ะ' เขาถาม
'ไม่ต้องห่วง ข้าจะมอบมันให้เจ้าในเวลาที่เหมาะสม' เฮนน์หัวเราะเบาๆ
โดยการให้คำตอบที่คลุมเครือ
แองเจเล่ได้ทวงเฮนน์หลายครั้งเรื่องรูปแบบคาถาหลังจากที่เธอตื่นแต่
เธอก็ไม่บอกเขาว่าเมื่อไหร่
แองเจเล่กลับไปที่โรงแรมความฝันเพื่อเอารางวัลของภารกิจและจากไป
ทันที เขาเดินไปตามถนนข้างแม่นํ้าและเข้าไปที่ร้านเหล้าใกล้ๆมุม

มีคนเดินเท้าหลายคนกำลังวิ่งตามถนนและไม่มีใครรออยู่หน้าร้านเหล้า
เนื่องจากฝนที่ตกหนัก
เขาเปิดประตู
กรุ๊งกริ๊ง
เสียงระฆังบนประตูดังเมื่อแองเจเล่ก้าวเข้าไปในร้านเหล้า
มีกลิ่นของไวน์ลอยอยู่ในอากาศ ลูกค้าประจำของร้านเหล้ากำลังคุยกัน
และตะโกนเสียงดัง นอกจากนี้ยังมีคนเล่นไพอยู่ตรงมุมหนึ่ง
แองเจเล่ย่นคิ้ว เขามองไปรอบๆและเดินตรงไปที่มุมที่อยู่อีกด้าน
มีคนประมาณห้าหกคนที่นั่งใกล้ๆโต๊ะ ชุดที่โดดเด่นของพวกเขา
แตกต่างจากลูกค้าประจำในร้านเหล้า
มินโคล่า โรสและผู้หญิงผมขาวกำลังนั่งด้วยกันใกล้โต๊ะตัวหนึ่ง
ผู้หญิงคนนั้นชี้ไปที่ม้วนหนังสีเหลืองอ่อนบนโต๊ะ
เสียงฝีเท้าของแองเจเล่ดึงดูดความสนใจของขาประจำ บางคนกำลัง
มองมาที่เขา
อย่างไรก็ตามพวกเขาไม่ได้พูดอะไรเนื่องจากเป็นคนแปลกหน้า
มินโคล่าลุกขึ้นยืนก่อน
"เฮ้ กรีน! ในที่สุดเจ้าก็มาที่นี่"

โรสและผู้หญิงคนนั้นเพียงแค่พยักหน้าและยิ้มเล็กน้อย
แองเจเล่เดินไปที่โต๊ะและนั่งลงข้างมินโคล่า
"ขอบคุณสำหรับคำแนะนำ โรส มันช่วยข้าอย่างมากในระหว่างที่ปฏิบัติ
ภารกิจ" เขามองไปที่โรส
"ไม่เป็นไร แม้ว่าทักษะการต่อสู้ของข้าจะอ่อนแอแต่ข้าก็ยังอยากพิสูจน์
ตัวเอง" โรสตอบเสียงเบา
"คนนี้เป็นใคร" แองเจเล่หันไปหาผู้หญิงที่นั่งอยู่ข้างโรส
เส้นผมของเธอยาวและเรียบเนียนเหมือนสายไหม ผมยาวสีขาวของเธอ
พาดอยู่เหนือไหล่ของเธอ เธอเขียนขอบตาสีแดงและสวมชุดเดรสสีขาว
ทั้งร่างกายของเธอดูอ่อนเยาว์และน่าดึงดูด ข้างเก้าอี้ของเธอมีไม้เท้าสี
ดำที่ยาวมาก
"ข้าชื่อเซลีน ยินดีที่ได้รู้จักพ่อมดกรีน" ผู้หญิงที่ชื่อเซลีนยกมือขวาขึ้น
เพื่อทักทาย
"ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกันแม่มดเซลีน" แองเจเล่ยกมือซ้ายขึ้นและแตะเบาๆ
บนฝ่ามือของเธอ "ข้ายังคงพยายามที่จะใช้ท่าทางทักทายที่แปลก
ประหลาดนี้ให้ชิน มันค่อนข้างเป็นเอกลักษณ์" (ยกมือแล้วเอามือตีกัน
นั่นแหละ)

"ฮ่าๆ ข้าเข้าใจ" เซลีนยิ้มและพยักหน้า เธอขยับม้วนหนังเล็กน้อยเพื่อให้
ทุกคนรอบโต๊ะสามารถมองเห็นมันได้
"เรากำลังคุยถึงเส้นทางที่ดีที่สุดในการไปหัตถ์ธาตุ นี่เป็นแผนที่ที่ข้า
ได้รับจากพ่อมดท้องถิ่น มันไม่ได้ถูกต้องทั้งหมดแต่เราก็ได้วางแผนไว้
หลายอย่างแล้ว ดูนี่สิพ่อมดกรีน"
แองเจเล่พยักหน้าและก้มหน้าไปดูแล้วเริ่มตรวจสอบแผนที่
มีเส้นสีแดงสามเส้นถูกทำเครื่องหมายไว้บนม้วนและมีจุดสีดำแสดง
ตำแหน่งอยู่
เมืองถูกทำเครื่องหมายด้วยจุดสีดำด้วยเช่นกันและปลายทางของพวก
เขาก็คือจุดสีดำขนาดใหญ่
"มีอะไรผิดปกติกับเส้นทางที่สั้นที่สุด" แองเจเล่ถามออกมา เขา
สังเกตเห็นว่าหนึ่งในเส้นทางนั้นสั้นกว่าอีกสองเส้นทางซึ่งเขา
สันนิษฐานว่ามันอาจมีอันตราย
"มันมีปัญหาใหญ่กับเส้นทางนั้น มันเป็นเส้นทางเดียวกับกลุ่มพ่อมดที่
แข็งแกร่งเคยใช้ มีข่าวลือออกมาว่ามีคนต้องการที่จะฆ่าพวกเขาและ
เอาตราของพวกเขาไป เราอาจจะมีปัญหาถ้าเราเลือกทางนี้"
"ทำไมเราไม่รอสักสองสามวันก่อนที่จะไปแทนล่ะ" แองเจเล่มองไปที่
แผนที่

"เราต้องไปให้ถึงหัตถ์ธาตุถึงกำหนดเส้นตายดังนั้นเราจึงไม่สามารถรอ
ได้ พ่อมดหลายคนถูกลอบสังหารบนเส้นทางนี้เมื่อปีที่แล้วขณะมุ่งหน้า
ไปยังองค์กรที่ชื่อว่าไลคร่า นั่นเป็นเส้นทางเดียวกับที่พวกเขาใช้
นอกจากนี้พื้นที่รอบๆมันยังเป็น...."
"เจ้ากำลังทำให้มันซับซ้อนเกินไป เหตุผลหลักที่เราไม่สามารถใช้
เส้นทางนี้ได้เป็นเพราะมีนักฆ่าที่เล็งไปที่พ่อมดที่ต้องการเข้าร่วมไลคร่า
และพวกเขาอาจจะเข้าใจผิดว่าเราเป็นเป้าหมายของพวกเขา" โรสขัด
"มีคนบอกว่านักฆ่าเหล่านั้นมีความสามารถในการฆ่าพ่อมดระดับสอง
ข้าไม่คิดว่าเราจะสามารถต่อสู้กลับได้เลยเมื่อเราถูกซุ่มโจมตีโดยพวก
เขา"
"งั้นมาเลือกเส้นทางอื่นกันเถอะ" แองเจเล่พยักหน้าเล็กน้อย "ความ
ปลอดภัยคือความสำคัญของเรา"
"ข้าเห็นด้วย เราจะตายกันหมดถ้านักฆ่าเหล่านั้นแข็งแกร่งเหมือนข่าว
ลือ มาเลือกเส้นทางที่สองกันเถอะ มันยาวกว่าเล็กน้อยแต่มันก็
ปลอดภัย" มินโคล่าชี้ไปที่เส้นสีแดง
"พวกเจ้าคิดว่ายังไง" เขาถาม
แองเจเล่และโรสพยักหน้าพร้อมกัน
"ตกลง แล้วเราจะออกไปเมื่อไหร่" เซลีนสงสัย

"ทุกคนเตรียมตัวพร้อมหรือยัง" มินโคล่ามองไปที่สมาชิก
"ข้าพร้อมแล้ว" โรสยักไหล่
"ข้าต้องเก็บกระเป๋าเดินทางของข้า" แองเจเล่ตอบ
"ข้าด้วยเช่นกัน" เซลีนพยักหน้า "บอกเวลามาสิ"
"งั้นไปกันเลยไหม เรามีเวลาเหลือไม่มากใช่ไหม" แองเจเล่หัวเราะเบาๆ
"ตกลง" คนอื่นๆเห็นด้วยกับเขา
ทั้งสี่คนไปเอากระเป๋าเดินทางหลังจากที่ออกจากร้านเหล้า ฝนมันยังตก
อยู่แต่พวกเขาก็รวมตัวกันนอกประตูเมืองอย่างรวดเร็ว
มินโคล่าได้จ้างรถม้าสี่คันสำหรับพ่อมดแต่ละคน พวกเขาแต่ละคนเข้า
รถม้าของตัวเองและรีบออกจากเมืองในพายุฝนที่กำลังตกอย่างหนัก
เสียงจากกีบเท้าและล้อม้าถูกเสียงฝนกลบจนหมด
*******************************
แองเจเล่กังวลเรื่องกลุ่มของพวกเขาที่จะโดนโจมตีตามทางแต่มันก็ไม่
เกิดอะไรขึ้น
ทั้งสี่ไม่ได้มีปัญหาใดๆในระหว่างการเดินทาง
สิ่งเดียวที่แองเจเล่ทำคือการจัดการกับหินที่แตกและต้นไม้บนถนน เขา
ไม่ได้พบกับสัตว์อสูรกลายพันธุ์ใดๆ

แองเจเล่มียาสารอาหารเพียงพอที่จะนำมาใช้ทดแทนอาหารของเขา
พวกเขามาถึงอาณาเขตของหัตถ์ธาตุ
ทางเข้าขององค์กรมีศิลาสีนํ้าตาลขนาดใหญ่ที่สูงตระหง่าน
ผิวของศิลาแกะเป็นใบหน้ามนุษย์ขนาดมหึมา ใบหน้าปิดตาในขณะที่
มันเปิดปาก มันเป็นทางเข้าสู่อาณาเขตขององค์กร
มีรถม้าที่เดินทางเข้าและออกจากทางเข้า มันถูกแบ่งเป็นสองประเภท
คือรถม้าขนส่งทรัพยากรและรถม้าขนส่งสมาชิกใหม่
สมาชิกส่วนใหญ่ที่ได้รับเลือกมาใหม่เป็นพ่อมดฝึกหัดในขณะที่ส่วนที่
เหลือเป็นพ่อมดทางการ มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่อยู่ระดับเดียวกับแองเจ
เล่
พ่อมดฝึกหัดทุกคนที่ถูกนำตัวเข้าไปในองค์กรจะมีจดหมายแนะนำตัว
ของพวกเขาและถูกพาตัวไปโดยพ่อมดทางการ
พ่อมดเหล่านี้ถือตราองค์กรหรืออุปกรณ์เวทมนต์พิเศษ
สมาชิกแต่ละคนของทีมลาดตระเวนของหัตถ์ธาตุกำลังขี่นกขาวพิเศษ
สัตว์บินเหล่านี้ได้ขึ้นลงที่ทางด้านขวาของทางเข้าอย่างต่อเนื่อง
ผู้เชี่ยวชาญได้ถูกจ้างดูแลนกเหล่านี้แม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้อยู่ทีม
ลาดตระเวน

พ่อมดทั้งสี่คนได้เสร็จสิ้นการลงทะเบียนอย่างรวดเร็วและได้รับตราที่ดู
ต่างกันหลังจากที่พวกเขาได้ถูกยอมรับว่าเป็นสมาชิกทางการของ
องค์กร
ขั้นตอนการลงทะเบียนทำได้ง่ายเนื่องจากหัตถ์ธาตุได้คลุกคลีกับ
หอคอยพ่อมดมืดผู้อาวุโสบางคนของหัตถ์ธาตุถูกรับมอบหมายโดย
หอคอยพ่อมดมืด
ตราที่แองเจเล่ได้รับระหว่างการแข่งขันแตกต่างจากคนที่ไม่ได้เป็น
สมาชิกของหอคอยพ่อมดมืด
เขาคิดว่าเขาจะต้องเผชิญกับความท้าทายมากมายก่อนที่เขาจะได้รับ
การยอมรับเป็นสมาชิกอย่างเป็นทางการ
มีถ้ำและอุโมงค์หลายแห่งที่อยู่ภายในอาณาเขตของหัตถ์ธาตุมันคล้าย
กับรังมดแต่ละถ้ำทำหน้าที่ของตัวเองคนส่วนใหญ่ที่แองเจเล่พบใน
อุโมงค์เป็นพ่อมดฝึกหัด
อุโมงค์หลักเชื่อมต่อทางเข้าขององค์กรกับฐานบนยอดเขา นี่เป็นที่ตั้ง
ของโถงสภาของหัตถ์ธาตุและรูปลักษณ์ของมันคล้ายกับพระราชวัง
ขนาดเล็ก
ในฐานะที่เป็นสมาชิกใหม่องค์กรต้องการให้เขาหาสถานที่เพื่ออยู่
อาศัยภายในอาณาเขตและสอนพ่อมดฝึกหัดหลายหลักสูตรนอกจากนี้

แองเจเล่ยังต้องทิ้งรูนสื่อสารของเขากับสภาเพื่อให้ผู้อาวุโสสามารถ
สื่อสารกับเขาได้เมื่อจำเป็น
ข้อกำหนดทั้งหมดสามารถทำได้อย่างง่ายดาย
แองเจเล่ โรส เซลีนและมินโคล่าได้พูดกับพ่อมดระดับสองหลายคนจาก
สภา พวกเขาเป็นพ่อมดที่แข็งแกร่งที่สุดขององค์กร
พวกเขารู้สึกสับสนเล็กน้อยเนื่องจากกระบวนการทั้งหมดดูเรียบง่าย
เกินไปหน่อยและคนที่สูงกว่านี้ของหัตถ์ธาตุก็ดูเหมือนจะยุ่งกับเรื่องอื่น
พวกเขาตัดสินใจที่จะหาสถานที่ที่จะอยู่อาศัยก่อน แองเจเล่ได้รู้ว่ามีพ่อ
มดอีกสิบกว่าคนที่เข้าร่วมองค์กร
แองเจเล่คิดชั่วครู่และเข้าใจเหตุผล องค์กรจะไม่ไว้ใจพวกเขา
เช่นเดียวกับที่พวกเขาเชื่อใจพ่อมดฝึกหัด พ่อมดสามารถทำทุกอย่างที่
ต้องการได้เนื่องจากแทบไม่มีข้อจำกัดในอาณาเขต
อาณาเขตของหัตถ์ธาตุค่อนข้างซับซ้อนและแบ่งออกเป็นสามส่วนคือ:
ภูเขานํ้าค้างดารา แม่นํ้าแบสและถํ้าใต้ดิน ทั้งอาณาเขตมีขนาด
ใกล้เคียงกับโนล่า
แองเจเล่ตรวจสอบแผนที่ที่เขาได้รับจากพ่อมดฝึกหัดที่โต๊ะลงทะเบียน
และพื้นที่ที่อยู่อาศัยถูกทำเครื่องหมายไว้อย่างชัดเจน มีเมืองสำคัญ
ประมาณสิบเมืองในอาณาเขตและแต่ละเมืองก็มีประชากรประมาณ
ครึ่งล้าน

แองเจเล่เลือกพื้นที่ห่างไกลที่ใกล้แม่นํ้าแบสและสร้างบ้านไม้ขนาดเล็ก
การป้องกันของบ้านมีเพียงรั้วไม้รอบๆเท่านั้น
เฮนน์รักษาคำมั่นสัญญาที่ให้ไว้ อย่างไรก็ตามเมื่อเธอตรวจสอบ
ข้อกำหนดของคาถาเธอก็ตระหนักว่าแองเจเล่จะต้องจบหลักสูตร
พื้นฐานหลายตัวก่อนที่เขาจะเข้าใจรูปแบบคาถาระดับสองได้
ตอนที่ 293: หัตถ์ธาตุและวิเวียน (2)
แปลนิยาย.วันอังคารที่ 13 มีนาคม 2018
ในช่วงหลายเดือนต่อมาแองเจเล่ก็ได้ประจำอยู่ที่ที่พักของเขาและ
มุ่งมั่นกับการเรียนหลักสูตรพื้นฐานที่เฮนน์ส่งให้เขา เขาบอกให้พ่อมด
ฝึกหัดจากสำนักงานใหญ่ส่งอาหารและนํ้าให้เขาทุกๆวัน
เขาสื่อสารกับมินโคล่าผ่านกล้องดูดาวและรูนสื่อสาร นอกจากนี้แอง
เจเล่ได้ส่งข้อความหลายฉบับไปหาฮิคาริ สติกม่าและเรย์ไลน์ผ่านเสา
สัญญาณโอเบลิสก์
สติกม่าตอบกลับสองครั้งแต่ทั้งฮิคาริและเรย์ไลน์ตอบเพียงครั้งเดียว ดู
เหมือนว่าพวกเขากำลังยุ่งกับภารกิจของตัวเอง
นอกจากนี้แองเจเล่ยังได้ส่งข้อความไปหาอิซาเบลและแนนซี่ ข้อความ
จะถูกส่งผ่านเสาสัญญาณโอเบลิสก์ในสำนักงานใหญ่แล้วส่งไปที่เสา
สัญญาณในพื้นที่มัลเท็นไรว์ ข้อความถึงฝั่งตะวันตกจะถูกส่งไปเมื่อ
พวกเขาได้รับข้อความที่เพียงพอเพื่อประหยัดค่าใช้จ่าย

การส่งข้อความไปฝั่งตะวันตกผ่านวิธีนี้มีราคาแพงเกินไปและจะใช้เวลา
ประมาณสองปีในการส่งข้อความ
แองเจเล่ไม่ได้บอกแนนซี่เกี่ยวกับสถานการณ์ในปัจจุบันของเขาแต่เขา
บอกเธอว่าจะตอบข้อความของเขาอย่างไร
เขาต้องการทำให้แน่ใจว่าผู้คนจะรู้ว่าเขายังมีชีวิตอยู่เพื่อให้แนนซี่และ
ตระกูลของเขายังได้รับการคุ้มครอง
เฮนน์พักผ่อนอีกสองเดือนหลังจากที่ส่งหลักสูตรพื้นฐานให้แองเจเล่แต่
เธอบอกให้แองเจเล่ไปที่ภูเขานํ้าค้างดาราก่อนและหาแม่มดที่ชื่อวิเวียน
ถ้าไม่เธอก็จะไม่โอนรูปแบบคาถาระดับสองให้เขา
แองเจเล่ใส่ตราบนชุดคลุมของเขาและมุ่งหน้าไปยังภูเขานํ้าค้างดารา
*************************
เทือกเขาที่ภูเขานํ้าค้างดารา
ในช่วงเช้าตรู่
บนยอดภูเขามีส่วนหนึ่งของหินดำที่ปกคลุมไปด้วยหิมะสีขาว
ในใจกลางภูเขาหรือภูเขาไฟนั้นมีหมอกหนาสีขาวค่อยๆออกมาจากบ่อ
แม็กม่า

มีลมพัดหิมะบางส่วนขึ้นไปในอากาศ มีกลิ่นเหม็นที่เหมือนไข่เน่า
เนื่องจากกำมะถันลอยอยู่ในอากาศ
มีชายสวมเสื้อคลุมหนาสีขาวค่อยๆขึ้นไปมุ่งหน้าไปยังด้านบนสุดของ
ภูเขาไฟ เส้นทางแคบๆปกคลุมไปด้วยหิมะทำให้ลื่นเล็กน้อย
เขาสวมฮู้ดสีขาวและกำลังถือไม้เท้าสีเงินในมือขวา
ผิวของเส้นทางปกคลุมไปด้วยชั้นนํ้าแข็งบางๆและมันก็ถูกปกคลุมไป
ด้วยหิมะหนา
"ฮ่า..." ชายคนนี้ถอนหายใจในขณะที่เขาหยุด เขาหันไปทางด้านข้าง
อย่างระมัดระวังและมองลงไป
เขาแทบจะมองไม่เห็นตีนเขาเลย เมฆหนาปิดกั้นสายตาของเขาอย่าง
สมบูรณ์
"กำลังล้อข้าเล่นใช่ไหม.....มันสูงมากกว่าเก้าพันเมตร..." ชายคนนี้เอา
ฮู้ดออกทำให้เห็นผิวที่เรียบเนียนและดวงตาของเขา ชายคนนี้คือแองเจ
เล่
หิมะสีขาวตกลงบนผมและคิ้วของเขาแต่วินาทีต่อมามันก็หายไปอย่าง
รวดเร็ว
แองเจเล่ใช้อนุภาคพลังงานไฟเพื่อทำให้ร่างกายของเขาอุ่น ด้วยเหตุนี้
หิมะที่อยู่ใกล้เขาจึงระเหยไป

'ท่านเฮนน์ ท่านแน่ใจนะว่าใช่สถานที่นี้ มันบ้ามาก...' แองเจเล่ส่ายหัว
'ข้าแน่ใจว่าตำแหน่งนั้นถูกต้อง สภาพแวดล้อมในบริเวณนี้แย่ที่สุดแต่
มุมมองก็เยี่ยมยอด นอกจากนี้ก็มีภูเขาไฟเพียงแห่งเดียวในเทือกเขา
ของภูเขานํ้าค้างดารา ปีนต่อไป เจ้าจะรู้ว่าทำไมเมื่อเจ้าไปถึงยอดเขา
แล้ว'
'ท่านพูดจริงหรือ' แองเจเล่มองลงไปอีกครั้งแต่สิ่งเดียวที่เขามองเห็นได้
มีเพียงเมฆเท่านั้น เขาเริ่มรู้สึกวิงเวียนเล็กน้อย 'ความสูงมันสูงกว่าเรือ
เหาะ...'
แองเจเล่หายใจเข้าลึกๆและเริ่มไปข้างหน้าอีกครั้ง เขาทิ้งรอยเท้าลึกไว้
ข้างหลังเนื่องจากมันยากที่จะเดินบนทางที่เต็มไปด้วยหิมะ
'ข้าไม่ได้วางแผนที่จะใช้สนามพลังอุณหภูมิสูงในลักษณะนี้แต่อุณหภูมิ
คือ....' มีจุดแสงสีนํ้าเงินข้างหน้าสายตาของแองเจเล่
อุณหภูมิปัจจุบันแสดงอยู่ในสายตาของเขา
'-81.5 องศาเซลเซียส'
'ข้าสงสัยว่าข้าสามารถอยู่รอดในสภาพแวดล้อมที่แปลกประหลาดนี้ได้
หรือไม่โดยไม่ใช้สนามพลัง นั่นคือเหตุผลที่ข้าไม่ได้เห็นสิ่งมีชีวิตปกติ
ใดๆที่นี่' ลมหนาวที่นี่ทำให้รู้สึกเหมือนมีดที่กำลังฟันผิวหนังของเขา

อนุภาคพลังงานที่เก็บไว้ในชิปถูกนำมาใช้เพื่อสนับสนุนสนามพลัง สิ่งที่
ดีคือแองเจเล่สามารถฟื้นฟูอนุภาคพลังงานได้อย่างง่ายดาย
หลังจากใช้เทคนิคการบีบอัดพลังจิตตอนนี้แองเจเล่ก็สามารถดูดซับ
อนุภาคพลังงานได้ในอัตราที่รวดเร็วกว่าเดิม
ปัญหาเดียวคือมีอนุภาคพลังงานไฟไม่มากพอในสภาพแวดล้อมเช่นนี้
ทำให้มีเพียงพลังงานประมาณ 10 หน่วยที่ฟื้นฟูทุกชั่วโมง อย่างไรก็
ตามมันก็ยังลดการบริโภคของคาถา
เขายังเดินต่อไปตามเส้นทางหิมะที่คดเคี้ยว
มันเกือบจะดูเหมือนกับมดสีขาวที่กำลังพยายามปีนขึ้นไปยอดของ
ภูเขาขนาดมหึมา
หลังจากผ่านไปประมาณครึ่งชั่วโมงในที่สุดเขาก็มาถึงปล่องของภูเขา
ไฟ
ปล่องภูเขาไฟปกคลุมไปด้วยหินสีดำ แองเจเล่ไม่เห็นหิมะเลยแม้แต่
น้อย อุณหภูมิในสถานที่นี้สามารถละลายเกล็ดหิมะที่กำลังตกลงมาได้
อย่างง่ายดาย อย่างไรก็ตามชั้นนํ้าแข็งบางๆยังปกคลุมพื้นที่บางส่วน
ของปล่องภูเขาไฟ
แองเจเล่ยืนอยู่บนปล่องภูเขาไฟและหรี่ตา เขาต้องการเห็นสิ่งที่อยู่
ภายในแม็กม่า

'ท่านเฮนน์ สถานที่นั้นใช่ไหม' เขาถาม
'ใช่' เฮนน์ตอบทันที 'ผู้อาวุโสของหัตถ์ธาตุกำลังจัดการกับบางสิ่ง
บางอย่างอยู่ในขณะนี้ดังนั้นพวกเขาจึงไม่มีเวลาในการตรวจสอบ
กิจกรรมของสมาชิกทางการ สถานที่นี้น่าจะเป็นพื้นที่สำหรับพบปะของ
สมาชิกรุ่นเยาว์แต่มันดูเหมือนว่าพวกเขาไม่ได้มาที่นี่บ่อยๆ ไม่มีใคร
ฟื้นฟูข่ายอุณหภูมิ'
'สมาชิกรุ่นเยาว์ ท่านเกี่ยวข้องกับพวกเขาหรือ'
'ใช่....พวกเขาเป็นสมาชิกในตระกูลของข้าและข้าเป็นอาจารย์ของพวก
เขา การบรรยายมันจะจัดขึ้นที่นี่แต่ผ่านมาหลายปีแล้ว.....ข้าคิดว่าฟิน
ได้จากไปแล้วและทิดาเนียก็ยังหายไป ข้าไม่รู้ว่ามีกี่คนที่ยังมีชีวิตอยู่....'
เฮนน์ตอบด้วยเสียงหดหู่
'แล้วตอนนี้ล่ะ ที่นี่ยังมีคนอยู่หรือไม่' แองเจเล่กังวลเรื่องนี้เนื่องจากเขา
ใช้เวลานานพอสมควรในการมาถึงภูเขาไฟแต่เขาไม่ต้องการให้ความ
พยายามของเขาไร้ผล
'ควรจะมีคนอยู่ที่นี่ถ้าเจ้าโชคดี อย่างเช่น....วิเวียน'
'แล้วข้าควรบอกอะไรพวกเขา'
'บอกพวกเขาว่าเจ้าเป็นหนึ่งในนักเรียนของข้า มันพิสูจน์ได้ง่ายดังนั้น
จึงไม่ต้องห่วงเรื่องนี้' เฮนน์ตอบ

'ทำไมท่านไม่ออกมาจากร่างกายของข้าและพูดกับพวกเขา'แองเจเล่
ขดริมฝีปาก
'ไม่มีเหตุผลที่ข้าต้องทำเช่นนั้น ตอนนี้ข้าอ่อนแอเกินไปพวกเขาจะ
เข้าใจและแม้แต่พ่อมดโบราณก็ไม่รู้วิธีเปลี่ยนตัวเองเป็นรูปแบบดวง
วิญญาณข้าไม่ต้องการกลายเป็นหนูทดลองของพ่อมดบางคน ชีวิต
ของเจ้าเชื่อมต่อกับดวงวิญญาณของข้าดังนั้นเราจึงอยู่บนเรือลำ
เดียวกัน'เฮนน์หัวเราะเบาๆ'อริสม่าไม่ใช่ศัตรูคนเดียวของข้าเท่านั้น
เจ้ารู้อยู่แล้วว่าข้าได้สูญเสียร่างกายอย่างไร'
'ข้าต้องระมัดระวังมากขึ้น'แองเจเล่พูดไม่ออก
'ข้าได้ใช้เวลาไปมากในการสอนนักเรียนทั้งหมดแต่มีคนไม่มากที่รู้
ตัวตนของข้ามีเฉพาะนักเรียนที่แข็งแกร่งที่สุดเท่านั้นที่รู้ว่าข้าเป็นใคร
และทุกคนเป็นสมาชิกหลักของหัตถ์ธาตุ'เฮนน์อธิบาย'ข้าไม่รู้เรื่องคน
อื่นแต่วิเวียนจะช่วยเจ้าอย่างแน่นอน'
'เธอเป็นคนที่ซื่อสัตย์ที่สุดหรือ'แองเจเล่สงสัย
'ซื่อสัตย์หรือไม่ข้าไม่รู้แต่พ่อแม่ของเธอเสียชีวิตเมื่อเธอยังเด็กและด้วย
เหตุนั้นเธอจึงปฏิบัติต่อลูกชายของเธอเป็นอย่างดีลูกชายของเธอเป็น
หนึ่งในนักเรียนของข้าแต่ไม่มีใครรู้ว่าวิเวียนมีลูกชายวิเวียนคิดว่าลูก
ชายของเธอตายในระหว่างปฏิบัติภารกิจแต่ข้าสามารถโน้มน้าวให้เธอ
เชื่อได้ว่าลูกชายของเธอยังมีชีวิตอยู่'เฮนน์หัวเราะเบาๆ

'หมายความว่าไง' แองเจเล่หรี่ตา 'อย่าบอกข้านะว่าท่านกำลังจะบอก
เธอว่าข้าเป็นลูกชายของเธอ...'
'มันเป็นแผนที่ดีใช่ไหม' เฮนน์ลดเสียง 'จากนี้ไปเจ้าจะเป็นลูกชายของวิ
เวียน เฟนเรอร์และนักเรียนของข้า ตอนนี้ตรวจสอบไหล่ขวาของเจ้า'
หลังจากที่ลังเลหลายวินาทีแองเจเล่ก็ดึงเสื้อไปด้านข้าง
เสียงเตือนของซีโร่ดังก้องอยู่ในหูของเขา 'พบพลังงานที่ผิดปกติตรงไหล่
ขวาของคุณ ต้องการกำจัดมันหรือไม่'
มีปานสีแดงเข้มค่อยๆปรากฏบนไหล่ขวาของเขาและมันดูค่อนข้าง
แปลก
แองเจเล่บอกให้ซีโร่ไม่ต้องทำอะไรและตอนนี้เขารู้สึกโล่งใจด้วยความ
จริงที่ว่าชิปสามารถเตือนเขาเรื่องพฤติกรรมที่ผิดปกติของเฮนน์ได้
'ท่านกำลังทำอะไรกับร่างกายของข้า' เขาถามเสียงเย็นชา แองเจเล่ม
ไม่ได้โกรธเลยแต่เขาต้องการข้อมูลเพิ่มเล็กน้อย
'อย่าโกรธ ลูกชายของเธอไม่ได้ตายระหว่างภารกิจ เขาได้รับความทุกข์
ทรมานจากโรคพิเศษและข้าก็ไม่สามารถช่วยเหลือเขาได้แต่ข้ารู้ว่ามี
ปานบนไหล่ขวาของเขา วิเวียนควรรู้เรื่องปานนี้เช่นกันดังนั้นเธอควรจะ
เชื่อเจ้า'

'ท่านแน่ใจหรือว่ามันเป็นเพียงแค่โรคอย่าบอกข้านะว่าท่านฆ่าเขา'
แองเจเล่ยังคงถามต่อ เขาบอกให้ซีโร่ตรวจสอบร่างกายของเขาเพื่อให้
แน่ใจว่าเฮนน์ไม่ได้ทำอย่างอื่น
'มันเป็นเพียงอุบัติเหตุ...'เฮนน์ไม่ได้กังวล 'วิเวียนได้สูญเสีย
ความสามารถในการมีบุตรเนื่องจากปัญหาที่เกิดขึ้นระหว่างการทดลอง
ดังนั้นเธอจะมีความสุขมากเมื่อเธอรู้ว่าลูกชายของเธอยังมีชีวิตอยู่'
'ท่านแน่ใจหรือว่ามันจะได้ผลเธอจะไม่เชื่อข้าเพียงเพราะปานนี้
นอกจากนี้มันก็ยังมีช่องโหว่มากเกินไปในแผนนี้'
'ไม่ต้องกังวล เจ้ามีข้า ข้ารู้เรื่องลูกชายของวิเวียนมากกว่าตัววิเวียนและ
เจ้ายังมีสายเลือดของฮาร์ปี้อยู่ในเส้นเลือดของเจ้าดังนั้นมันจึงเป็นเรื่อง
ยากที่เธอจะทำการทดสอบใดๆคลื่นพลังจิตของข้าจะปิดกั้นคาถา
ตรวจสอบวิญญาณทั้งหมดถ้าเจ้าอนุญาตให้ข้าเข้าถึงคลื่นพลังจิตของ
เจ้าข้าก็สามารถปรับเปลี่ยนมันเพื่อให้มันคล้ายกับคลื่นของลูกชายเธอ'
'น่าสนใจท่านจะพักอย่างยาวนานหลังจากช่วงเวลานี้หรือ'แองเจเล่หรี่
ตา'แสดงให้ข้าเห็นรูปแบบคลื่นพลังจิตข้าสามารถทำได้ด้วยตัวเอง'
'ตกลง ยังไงก็ตามข้าเพียงแค่ทำการแลกเปลี่ยนที่ยุติธรรมกับเจ้า
เนื่องจากข้าต้องการให้เจ้าแข็งแกร่งขึ้นและฆ่าอริสม่าให้ข้าข้าก็จะไม่
ทำอันตรายใดๆกับเจ้าข้าจะทำให้เจ้าเป็นผู้สืบทอดของข้าและให้
ความรู้ทั้งหมดที่ข้ามีแล้วเจ้าจะกลัวอะไร'เฮนน์หัวเราะเยาะอีกครั้ง

'มันฟังดูสวยงามแต่ข้าจะตายในระหว่างภารกิจที่ท่านบอกให้ข้าทำถ้า
ข้าไม่ระมัดระวังพอ ท่านกำลังซ่อนอะไรมากมายจากข้า' แองเจเล่เองก็
รู้ว่าไม่มีของฟรีในโลกนี้แต่เขาก็ไม่สามารถทำอะไรก็ตามที่เฮนน์ขอให้
ทำได้
ตอนที่ 294: ซากปรักหักพังใต้ภูเขาไฟ (1)
แปลนิยาย.วันพุธที่ 14 มีนาคม 2018
'เจ้าเด็กเนรคุณ...' เฮนน์ดูไม่พอใจเมื่อได้ยินคำพูดของแองเจเล่ ' เอาล่ะ
ข้าจะโอนรูปแบบดวงวิญญาณและวิธีเปลี่ยนคลื่นพลังจิตให้เจ้า'
แองเจเล่ไม่ได้กังวล เขากำลังยืนอยู่ท่ามกลางลมแรงแล้วยกมือขวาขึ้น
มีลูกบอลแสงสีขาวขนาดเล็กที่ถูกร่ายไว้เหนือฝ่ามือของเขา ลูกบอล
แสงดูเหมือนลูกบอลแก้วโปร่งใสที่กำลังหมุนและมีแมลงสีดำแปลกๆ
ภายใน
แมลงดูคล้ายแมงป่อง มันมีสองกรงเล็บและเข็มที่หางของมัน สิ่งที่ต่าง
ออกไปคือหนามสีดำบนหลังของมัน
แองเจเล่หรี่ตาและสังเกตลูกบอลแก้ว
'นี่คืออะไร' เขาถาม
'มันเรียกว่าแมงป่องหนาม นี่เป็นเพียงแบบอย่าง แมงป่องนี้หาได้ง่าย
ในป่าแต่มันก็มีหลายรูปแบบ ส่วนหนึ่งของดวงวิญญาณของเด็กผู้ชาย

ถูกขังอยู่ในแบบอย่างนี้ ที่จริงแล้วมันไม่ใช่แมงป่องจริงๆแต่มันเป็น
เพียงสัญลักษณ์' เฮนน์ตอบทันที
'พูดอีกนัยหนึ่งก็คือนี่เป็นเครื่องหมายดวงวิญญาณของลูกชายของเธอ
ข้าได้เสียร่างกายไปแต่ข้าก็ได้รับความสามารถในการแยกดวงวิญาณ
มาแทน เจ้าคิดว่ายังไง' เธอพูดต่อ
มีสุดแสงสีนํ้าเงินข้างหน้าดวงตาของแองเจเล่ เขารีบสแกนแมงป่องโดย
ใช้ชิปเพื่อทำให้แน่ใจว่ามันไม่เป็นภัย
'งั้นให้ข้าควบคุมสิ่งนี้ด้วยตัวเอง ข้าคิดว่าข้าสามารถทำได้'
'ตกลง' เฮนน์หัวเราะและเธอก็หยุดพูด
ลูกบอลแก้วค่อยๆลงบนฝ่ามือของแองเจเล่และแสงสีขาวก็จางหายไป
เขามองไปที่ลูกบอลแก้ว เขาลังเลชั่วครู่และเขาสัมผัสลูกบอลด้วยนิ้ว
ของเขา
ชี่
ลูกบอลแก้วจมลงไปในนิ้วของเขาทันที
แองเจเล่ส่ายหัวด้วยความมึน
เสียงของซีโร่ดังก้องในหูของเขา

[ตรวจพบพลังงานที่ไม่รู้จักพยายามเข้าไปในสมองของคุณ จะกำจัด
หรือไม่]
'ใช่' แองเจเล่สั่ง
มีจุดแสงสีนํ้าเงินในดวงตาของเขาและลูกตาของเขาก็ดูเหมือนไพลิน
สองเม็ด
[กำจัดล้มเหลว เป็นอนุภาคพลังงานที่ไม่รู้จัก พยายามขัดขวางด้วย
คลื่นพลังจิตหรือไม่] ซีโร่รายงานกลับหลังจากผ่านไปหลายวินาที
แองเจเล่ตกใจ นี่เป็นครั้งแรกในระยะเวลาอันยาวนานที่ซีโร่พบพลังงาน
แระเภทใหม่
'ใช่ ใช้คลื่นพลังจิต' เขาหลับตาและปรับคลื่นพลังจิตของเขาทันทีเพื่อให้
เฮนน์ไม่ค้นพบสิ่งที่เขาทำ ไม่เพียงแค่นั้น เขายังเริ่มที่จะตรวจสอบ
คุณสมบัติของพลังงานที่ไม่รู้จักนี้
[พบพลังงานประเภทใหม่ โปรดตั้งชื่อ อนุภาคพลังงานถูกปิดกั้นด้วย
คลื่นพลังจิต] ซีโร่ให้ข่าวดีแก่เขา
'ชื่อ'พลังวิญญาณ' ' แองเจเล่ตั้งชื่อตรงๆ
เขารู้สึกถึงสิ่งที่หนาวเย็นกำลังเคลื่อนที่ในสมองของเขา
'ใช้พลังวิญญาณ พลังจิตเพิ่มขึ้นเป็น 77.5'

หลังจากผ่านไปประมาณครึ่งชั่วโมงแองเจเล่ก็จำลองพลังวิญญาณ
เสร็จสิ้น ดวงตาของเขาถูกล้อมรอบไปด้วยแสงสีทองอีกครั้ง
'เอาล่ะ ตอนนี้เจ้าควรรู้แล้วใช่ไหมว่าข้าไม่ได้โกหกเจ้า' เฮนน์พูดใน
ช่วงเวลาที่เหมาะสม
'ข้าเพียงแค่ระมัดระวังตัว อย่าคิดมากสิ' แองเจเล่ขดริมฝีปากเป็น
รอยยิ้ม ง 'ข้าควรทำอะไรต่อ'
'เจ้าเห็นควันเหล่านั้นที่ออกมาจากบ่อแม็กม่าไหม สัมผัสมันด้วยมือ
ของเจ้า'
แองเจเล่จ้องไปที่ควันสีขาวที่ออกมาจากปล่องภูเขาไฟ เขาได้กลิ่น
กำมะถันในอากาศ ในขณะที่เขาก้าวไปข้างหน้าเขาก็รู้สึกถึงความร้อน
เขายกมือขวาขึ้นและสัมผัสฉากสีขาว
'เจ้ารู้สึกถึงมันไหม ดึงออกมา!' เฮนน์พูดต่อ
แองเจเล่ขยับมือไปรอบๆและพบแท่งยาวที่ดูเหมือนเส้นเลือด
เขาจับเส้นเลือดแน่นและดึงมันออกมา มีควันบางส่วนที่ติดมากับเส้น
เลือดและหายไปในอากาศ
'เอาล่ะ เจ้าเพียงแค่รออยู่ที่นี่ จะมีคนมารับเจ้าแต่เจ้าอาจจะเผชิญหน้า
กับปัญหาบางอย่าง ข้าจะต้องตัดการเชื่อมต่อตอนนี้ดังนั้นจึงจะได้ไม่มี
ใครรู้ว่าข้ายังมีชีวิตอยู่ เจ้าเป็นเด็กฉลาดดังนั้นเจ้าควรรู้ว่าจะทำอย่างไร

เพียงแค่ตอบคำถามก็จะช่วยให้เจ้าพิสูจน์ตัวตนของเจ้าได้แม้ว่าเจ้าจะ
บอกว่ามาจากฝั่งตะวันตกและเจ้าเคยเป็นปุถุชน มันไม่สำคัญอีกต่อไป
เนื่องจากเจ้ามีรูปแบบดวงวิญญาณ นอกจากนี้เจ้าจะต้องตรวจสอบ
รายละเอียดข้อมูลเกี่ยวกับลูกชายของเธอที่ข้าส่งไปให้เจ้าในตอนนี้
ขอให้โชคดี' เฮนน์ตัดการสื่อสารทันทีหลังจากที่เธอพูดจบ
ข้อมูลที่เฮนน์ส่งให้เขาค่อนข้างซับซ้อน เขาเก็บไว้ในฐานข้อมูล
การแสดงออกของแองเจเล่เริ่มเคร่งขรึม เขารออย่างเงียบๆอยู่ที่นั่นโดย
ไม่แน่ใจว่าจะเกิดอะไรขึ้น
ทันใดนั้นก็มีเสาหินค่อยๆออกมาจากพื้นด้านหลังเขา เสาหินแทบจะไม่
ทำให้เกิดเสียงใดๆ
เสาหินสูงประมาณสองเมตร
ครืด
เสามีรอยแตกออกแต่ไม่เห็นอะไรนอกจากความมืด
มีผู้หญิงสวมชุดคลุมยาวที่บริสุทธิ์ก้าวออกมาจากเสาหิน ใบหน้าของ
เธอดูสะอาดสะอ้านและมีเสน่ห์ ผมบลอนด์เข้มที่เรียบเนียนและมันวาว
อยู่บนไหล่ของเธอ
แองเจเล่ได้ยินเสียงนี้ทำให้เขาหันกลับไปในขณะที่สายตาที่เย็นชาของ
ผู้หญิงคนนั้นมองที่เขา

"เจ้าเป็นใครและทำไมถึงมาที่นี่" ผู้หญิงคนนั้นถามเสียงเย็นชา
"ข้าเป็นนักเรียนคนที่เก้าของท่านเฮนน์ ท่านเฮนน์บอกให้ข้ามาที่นี่" แอง
เจเล่โค้งให้เธออย่างสุภาพ เขาสังเกตชุดคลุมสีขาวที่ผู้หญิงคนนั้นสวม
มันไม่ได้มีการตกแต่งลวดลายใดๆเพียงแค่สีขาวธรรมดา
'เฮนน์.....ท่านเฮนน์' ผู้หญิงคนนั้นมองมาที่แองเจเล่พร้อมกับย่นคิ้ว
"เจ้าชื่ออะไร"
"ข้าชื่อแองเจเล่ ริโอ" แองเจเล่มองไปที่เท้าของผู้หญิงคนนั้นขณะที่เขา
ตอบ
เธอสวมรองเท้าบูทยาวสีขาว ด้วยเหตุบางอย่างมันไม่มีเสียงเมื่อเธอ
ก้าวไปบนหิมะสีขาว
"ตามข้ามา" ผู้หญิงคนนั้นหันกลับไปและหายไปในความมืดภายในเสา
หิน
แองเจเล่ตามไปอย่างรวดเร็ว พื้นที่เล็กๆภายในเสาหินเพียงพอสำหรับ
ผู้ใหญ่สองคน ภายในเป็นความมืดและเงียบสนิท
เสาหินค่อยๆจมลงไปในพื้นและหายไปในโขดหินสีดำ
***************************
แองเจเล่รู้สึกราวกับว่าเขากำลังยืนอยู่ในลิฟต์ นอกจากนี้มันก็แตกต่าง
จากสิ่งที่เขาคาดไว้ พื้นที่ภายในมันใหญ่จริงๆ

ผู้หญิงคนนั้นยืนอยู่ข้างผนังระยะห่างระหว่างสองคนอยู่ที่ประมาณ
หนึ่งเมตร
เสาหินลงไปอย่างรวดเร็วแม้ว่าจะมีการสั่นเล็กน้อย
แองเจเล่รู้สึกราวกับว่าแรงโน้มถ่วงหายไปชั่วครู่
"ข้าชื่อวิเวียน เฟนเรอร์เจ้าสามารถเรียกชื่อข้าได้โดยตรงถ้าเจ้าเป็น
นักเรียนของท่านเฮนน์อย่างไรก็ตามข้าจะต้องทดสอบเจ้าก่อน เจ้าควร
รู้ว่ามันจะเกิดอะไรขึ้นถ้าข้าพบว่าเจ้าหลอกข้า"วิเวียนมองที่แองเจเล่
"ข้าไม่ได้โกหกท่าน" ด้วยการดีดนิ้วของเขามันก็มีลูกไฟสีม่วงขนาดเล็ก
ปรากฏที่ปลายนิ้วชี้ที่มือขวาของแองเจเล่ เขาขยับนิ้วเล็กน้อยและเปลว
ไฟสีเหลืองก็ออกมาจากลูกไฟสีม่วง
"นี่เป็นการประยุกต์พื้นฐานของเทคนิคซ้อนไฟที่ท่านเฮนน์สอนข้า"แอง
เจเล่พูดหลังจากที่ลูกไฟหายไป
"พื้นฐานของเจ้าแข็งแกร่งเจ้าฝึกฝนมานานแค่ไหนแล้วสิบปีหรือ"การ
แสดงออกของวิเวียนผ่อนคลายลง
"ที่จริงแล้ว 11ปีข้าได้ใช้ความพยายามอย่างมาก"แองเจเล่ไม่คิดที่จะ
คุยเรื่องนี้ต่อไปอย่างไรเขาได้เรียนรู้เทคนิคซ้อนไฟเมื่อเฮนน์ขอให้เขา
เชี่ยวชาญสิ่งนี้เนื่องจากเป็นข้อกำหนดของคาถาระดับสองด้วยความ

ช่วยเหลือของชิปเขาก็เชี่ยวชาญเทคนิคนี้ในหลายวัน เฮนน์จะต้อง
ตกใจถ้าเธอเห็นสิ่งที่แองเจเล่ทำ
ความเร็วของเสาหินค่อยๆช้าลง แม้ว่าเธอยังจะถามมาเป็นชุดแต่เธอก็
เริ่มเชื่อใจแองเจเล่แล้วหลังจากที่เธอเห็นเขาใช้เทคนิคซ้อนไฟ
เฮนน์ได้โอนข้อมูลจำนวนมากมาให้เขาและแองเจเล่ก็ไม่มีปัญหาใน
การตอบคำถามเหล่านี้ทั้งหมด
วิเวียนไม่ได้คุยกับเขาเหมือนคนแปลกหน้าอีกต่อไป
"ขอโทษด้วยแต่ด้วยเหตุบางอย่างมันเหมือนว่านี่จะไม่ใช่ครั้งแรกที่เรา
พบกัน ท่านทำให้ข้านึกถึงคนบางคนที่คุ้นเคย..." ตอนนี้แองเจเล่พูดคำ
ที่เขาเตรียมไว้
"หา" ทันใดนั้นวิเวียนก็เริ่มลังเล
ตึง
เสาหินมาถึงปลายทางของมันและลงจอดบนพื้น รอยแตกที่แองเจเล่
เห็นก่อนหน้านี้เป็นประตูและอุโมงค์สีแดงยาวก็อยู่ข้างหน้าเขา
มีกลิ่นเหม็นเหมือนไข่เน่าของกำมะถันแรงมากกว่าข้างนอก
แองเจเล่ย่นหน้าผากและขมวดคิ้วตามหลังวิเวียนออกจากเสาหิน

"พูดตามตรงข้าก็มีความรู้สึกแบบเดียวกัน"วิเวียนพยักหน้าเล็กน้อย
ขณะที่ก้าวไปข้างหน้า "นี่เป็นสถานที่ที่ท่านเฮนน์สอนทุกสิ่งทุกอย่างแก่
ข้าแต่ตอนนี้มีข้าเพียงคนเดียวที่ยังเหลืออยู่..." เธอดูหดหู่
"ข้าได้เรียนรู้มากมายจากท่านเฮนน์แต่ข้าก็สูญเสียสิ่งต่างๆมากมายใน
ระหว่างการเดินทางที่ยาวนานของข้ามันเป็นเรื่องที่โชคร้ายแต่มันก็
อาจจะเกิดขึ้นกับเจ้าเช่นกัน"
มันดูเหมือนว่าแผนการของแองเจเล่ได้ผล
แองเจเล่ไม่ได้ตอบเขารู้สึกว่าวิเวียนได้ทำคลื่นพลังจิตที่น่ากลัวเล็ด
ลอดออกมามันไมได้มุ่งมาที่เขาแต่มันก็ทำให้เขารู้สึกเย็นยะเยือกแอง
เจเล่มั่นใจว่าถ้าเธอต้องการฆ่าเขามันก็แทบเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะ
หลบหนีนอกจากนี้เขาก็รู้สึกคุ้นเคยเหมือนตอนที่อยู่บนเรือเหาะที่ถูก
โจมตีโดยเจ้าแห่งจิตวิญญาณพายุ
อุณหภูมิในอุโมงค์เพิ่มขึ้นเมื่อเดินหน้าต่อ อากาศเบาบางลงทำให้แอง
เจเล่สังเกตเห็นควันสีเหลืองแปลกๆที่ลอยอยู่รอบๆ
"สถานที่นี้"วิเวียนหันไปทางซ้ายและก้าวเข้าไปในประตูหินสีดำ
ใบหน้าของแองเจเล่เปลี่ยนเป็นสีแดงซีโร่เริ่มส่งข้อความเตือนเมื่อตรวจ
พบอุณหภูมิที่สูงกว่า 50องศาเซลเซียสกำมะถันในอากาศมีความ
หนาแน่นสูงจนตอนนี้เขามีปัญหาในการหายใจแองเจเล่คิดว่าเขากำลัง
จะเป็นลม

อย่างไรก็ตาม เขารู้สึกสดชื่นหลังจากที่วิเวียนเข้าไปในประตูหิน อากาศ
มันดีและบริสุทธิ์
แองเจเล่หายใจเข้าลึกๆ ตอนนี้เขารู้สึกดีขึ้นมาก อุโมงค์นี้เกือบจะ
เหมือนกับโลกอีกโลกหนึ่ง
ตอนที่ 295: ซากปรักหักพังใต้ภูเขาไฟ (2)
แปลนิยาย.วันพฤหัสบดีที่ 15 มีนาคม 2018
(ตอนก่อนๆที่ตั้งมายังใช้คำว่า'ซากปรักหักพัง'ได้แต่ว่าตั้งแต่ตอนนี้ไป
ผมจะเปลี่ยนเป็น'โบราณสถาน')
___________________________________________
อีกด้านของประตูเป็นห้องเล็กๆที่สร้างขึ้นจากหิน มีเสาหินกว้างตั้งอยู่
ตรงมุม มีรูนสีเหลืองกำลังหมุนช้าๆเหนือวงเวท
มีแปลงดอกไม้สีแดงและสีเขียวที่กำลังบานถูกปลูกไว้บนฐานหินตรง
กลางห้อง ใบไม้ของต้นแมงมุมได้พันรอบพืชแห้งที่กำลังห้อยลงมาจาก
ฐาน มีเห็ดสีม่วงและสีขาวโตอยู่ตรงช่องว่างระหว่างต้นไม้
รูนคริสตัลสีแดงสี่ตัวถูกฝังอยู่ในผนังแต่ละด้าน
รูปแบบของรูนดูเหมือนสมอเรือขนาดใหญ่ที่มีโซ่ล้อมรอบมัน คริสตัล
เรืองแสงและแสงสีแดงได้ส่องลงบนห้องหิน

วิเวียนเดินไปที่รูนสีเหลืองและขยับมือของเธอไปรอบๆมันอย่าง
ระมัดระวัง
แสงของรูนหายไปครั้งหนึ่งแล้วมันก็สว่างขึ้นอีกครั้งเมื่อเธอเติมพลังงาน
เสร็จ
หลังจากผ่านไปหลายนาทีเธอก็ยืดหลังและหันกลับมาหาแองเจเล่ "รีบ
ขึ้นเสาและยืนตรงกลางของวงเวท ข้ายังต้องการให้เจ้าเข้าร่วมการ
ทดสอบอีกนิดหน่อย"
แองเจเล่ปฏิบัติตามคำสั่งของเธอและยืนตรงกลางวงเวท
วิเวียนอธิบายเสียงสงบ "ข่ายเวทมนต์นี้จะถูกนำมาใช้เพื่อยืนยันตัวตน
ของเจ้า ถ้าเจ้าเป็นนักเรียนของท่านเฮนน์วงเวทก็จะปลดปล่อยลำแสงสี
เหลืองที่ทำให้ตาบอดออกมา มันยังสามารถใช้ทดสอบการเชื่อมต่อของ
เจ้ากับสิ่งมีชีวิตหรือคนได้อีกด้วย มีหลายสิ่งที่ข้าต้องการ..."
ทันใดนั้นลำแสงสีเหลืองก็ออกมาจากวงเวทก่อนที่วิเวียนจะอธิบาย
เสร็จและมันก็เปลี่ยนเป็นกระบอกแสงพุ่งไปด้านบนของห้อง
วิเวียนดูประหลาดใจ อย่างไรก็ตามเธอยังสงบและกำลังจะดึงแองเจ
เล่ออกจากกระบอกแสงสีเหลือง
ชี่
ทันใดนั้นวงเวทก็เริ่มทำปฏิกิริยาอีกครั้ง

ลำแสงสีแดงได้ผ่านแสงสีเหลืองและส่องลงบนใบหน้าของวิเวียน
"เดี๋ยว....เป็นไปได้อย่างไร!" สีหน้าของวิเวียนเปลี่ยนไปอย่างมากจนทำ
ให้เธอกัดฟัน "แสงสีแดงหมายถึง....ข้า มันควรจะเป็นครั้งแรกที่ข้าพบ
เจ้าแต่ปฏิกิริยาของวงเวทระบุว่าเจ้า....เกี่ยวข้องกับข้า"
หลายวินาทีต่อมาวิเวียนหรี่ตาและค่อยๆสงบลง เธอรีบแตะบนผิวของ
เสาหิน
ชี่
กระบอกที่ทำจากแสงเกิดเสียงแปลกๆและเริ่มหดตัว แองเจเล่ยังยืนอยู่
ตรงกลางของวงเวท
"ขอแสดงความยินดีด้วย เจ้าผ่านการทดสอบแรก" วิเวียนสีหน้านิ่งเฉย
แต่แองเจเล่มองเห็นสายตาที่ฝืนทนในดวงตาของเธอ "ยังมีสิ่งที่ข้า
ต้องการถามเจ้า อยู่ที่นี่และอย่าขยับ"
"ตกลง" แองเจเล่รู้อยู่แล้วว่าวิเวียนกำลังคิดอะไรและรู้ว่าแผนของเฮนน์
ได้ผล
วิเวียนชี้ไปที่ไหล่ของแองเจเล่
ชี่
มีแสงสีแดงรอบๆ'ปาน'ของแองเจเล่

"มันเป็นความจริง..." วิเวียนกำลังพึมพำภายใต้การหายใจอย่างแรง
เธอเอาแหวนสีดำขนาดเล็กออกมาจากถุงกระเป๋าของเธอและโยนมัน
ไปในอากาศ
แหวนสีดำบินไปทางแองเจเล่และเริ่มบินรอบตัวเขาด้วยความเร็วสูง
มันเกือบจะดูเหมือนว่าแหวนกำลังสั่นหลังจากที่ถูกโยน เสียงของมันดัง
ก้องอยู่ในห้อง
เสียงมันทำให้แองเจเล่ปวดหัวและด้วยเหตุบางอย่างร่างกายของเขา
เริ่มตอบสนองกับแหวน กะโหลกศีรษะของเขาเริ่มชาและผิวของเขาก็
กำลังสั่น
การสั่นสะเทือนของแหวนเริ่มแรงขึ้นและเสียงก้องก็มีมากกว่าเดิม
หลายวินาทีต่อมาแมงป่องสีดำก็ปรากฏตรงกลางของแหวน
แนวรูปหนามสีดำอยู่บนหลังของแมงป่อง
วิเวียนดูตกใจและในขณะเดียวกันก็มีความสุขเมื่อแมงป่องปรากฏ
เธอหายใจเข้าลึกๆและชี้ไปที่แหวน
ชี่
แมงป่องหายไปจากตรงกลางของแหวนและแหวนก็กลับเข้าไปในมือ
ของวิเวียน

"เจ้าเป็นจริงๆ...." วิเวียนพูดไม่จบ เธอเองก็รู้ว่ามันยังไม่ถึงเวลาที่จะพูด
ตอนนี้มีรอยยิ้มที่อ่อนโยนบนใบหน้าของเธอในขณะที่เธอจ้องที่แอง
เจเล่ด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความรัก
"เจ้าชื่อแองเจเล่ใช่ไหม" เธอลดเสียงลง
"ใช่" แองเจเล่รู้ว่าทำไมวิเวียนถึงพูดในนํ้าเสียงและการแสดงออกที่ต่าง
ออกไป ทุกสิ่งทุกอย่างเป็นไปตามแผนที่วางไว้
"เจ้าจำได้ไหมว่าแม่ของเจ้าเป็นอย่างไร" วิเวียนถามเสียงเบา
"ท่านวิเวียน....ข้า....ไม่" การแสดงออกของแองเจเล่เปลี่ยนไปทันทีที่เขา
ได้ยินคำถาม ตอนนี้ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความสับสน "ท่านถาม
ทำไม"
"ข้ารู้ว่ามันเป็นคำถามที่แปลกที่ต้องถาม....แต่..." วิเวียนไม่แน่ใจว่าจะ
ทำให้มันชัดเจนได้อย่างไร "เอาล่ะ ข้าต้องการให้เจ้าช่วยข้าเสร็จสิ้นพิธี
ที่สำคัญในภายหลังและข้าจะให้รางวัลเป็นสิ่งประดิษฐ์เวทมนต์กับเจ้า
เจ้าคิดว่าอย่างไร" เธอหยุดชั่วครู่ก่อนที่จะพูดต่อ "ตอนนี้เจ้าออกจาก
เสาได้แล้ว ที่จริงแล้วเจ้าสามารถบอกสิ่งต่างๆที่เจ้าได้ทำไปเร็วๆนี้และ
ประสบการณ์ของเจ้ากับท่านเฮนน์ได้หรือไม่"
"แน่นอน" แองเจเล่พยักหน้าและกระโดดออกจากเสาหิน

วิเวียนโบกมือขวาและมีหินสีดำสองก้อนออกมาจากพื้น หินเหล่านั้นได้
ก่อรูปเป็นเก้าอี้สีดำสองตัวทันที
เธอบอกแองเจเล่ให้นั่งลงและเธอก็เริ่มถามคำถามเกี่ยวกับทุกสิ่งทุก
อย่างที่แองเจเล่เคยผ่านมาหลายปี
แองเจเล่ใช้ประสบการณ์ของตัวเองผสมกับข้อมูลที่เกี่ยวกับลูกชายของ
วิเวียนเพื่อตอบคำถามทั้งหมด เขาไม่ได้พูดถึงเรื่องดินแดนฝันร้ายและ
สายเลือดโบราณเนื่องจากมันเป็นความลับที่เขาปกป้องมากที่สุด เขา
ไม่เคยเห็นแม่ของเขาในโลกนี้เมื่อกลับมาเกิดในโลกนี้ จากเรื่องเล่าของ
เขามันดูเหมือนว่าวิเวียนจะไม่พบช่องโหว่ใดๆ
วิเวียนถามคำถามที่ต้องการให้เขาให้รายละเอียดเพิ่มเติมแต่เธอก็ให้
ความสำคัญกับความเป็นส่วนตัวของแองเจเล่ซึ่งช่วยให้แองเจเล่
หลีกเลี่ยงคำถามยากๆได้ แองเจเล่ไม่รู้ว่าวิเวียนอายุเท่าไหร่แต่ทักษะ
ทางสังคมของเธอก็ดีกว่าพ่อมดส่วนใหญ่
เวลาได้ผ่านไปในขณะที่พวกเขายังคุยกันในห้องหิน
แองเจเล่เกือบเล่าเรื่องราวทั้งชีวิตของเขากับวิเวียนแต่ทันใดนั้นก็ได้ยิน
เสียงบางอย่างระเบิดข้างนอก อย่างไรก็ตามมันดูเหมือนว่าไม่มีอะไร
เกิดขึ้น
เขาตรวจสอบเวลาผ่านชิป มันเกือบจะตีสองแล้ว

"มันค่อนข้างดึกแล้ว ข้าคิดว่าตอนนี้ข้าควรต้องไปก่อน" แองเจเล่พูด
อย่างสุภาพในขณะที่เขาลุกขึ้นยืน
"เจ้ามาที่นี่จากทางแม่นํ้าแบสใช่ไหม เจ้าสามารถพักผ่อนอยู่ที่นี่ได้ ตาม
ข้ามาสิข้าจะพาไปหาห้อง" วิเวียนคว้ามือของแองเจเล่และยิ้ม "สถานที่
นี้เป็นโบราณสถานที่ถูกทอดทิ้งในสมัยโบราณซึ่งถูกสร้างขึ้นภายใต้
ปล่องภูเขา ท่านเฮนน์พบโบราณสถานนี้และเปลี่ยนเป็นฐานลับของเรา
สถานที่แห่งนี้ใหญ่กว่าที่เจ้าคิดไว้ มันมีห้องทดลอง สวนและแม้แต่เขต
ระบบนิเวศน์ที่นี่ ทุกสิ่งทุกอย่างถูกขับเคลื่อนด้วยความร้อน อุปกรณ์ใน
โบราณสถานสามารถรับรองคนได้มากกว่ายี่สิบคนพร้อมกัน"
"ขอบคุณท่านวิเวียน ที่นี่เป็นโบราณสถานในสมัยโบราณจริงหรือ" แอง
เจเล่ถามด้วยความอยากรู้อยากเห็น "มันเป็นประเภทไหนกัน"
"ตามข้ามาสิ ข้าจะพาไปดูรอบๆ" วิเวียนไม่ได้ยิ้มอีกต่อไปแต่เธอก็ยังจับ
มือของแองเจเล่
พวกเขาออกจากห้องหินพร้อมกันและประตูหินก็ปิดด้วยตัวมันเอง
พ่อมดทั้งสองเดินไปสุดอุโมงค์และเดินลงบันได พวกเขาเลี้ยวที่มุม
หลายครั้งก่อนที่พวกเขาจะไปถึงทางเดินสีแดงเข้ม
"ที่นี่เป็นพื้นที่ที่อยู่อาศัย" วิเวียนชี้ไปที่ทางเดิน "เจ้าเห็นบันไดทั้งสอง
ด้านหรือไม่ ปีนขึ้นบันไดและเจ้าจะเห็นประตูหินที่นำไปสู่ห้องนอน
เลือกห้องที่เจ้าต้องการ"

แองเจเล่สังเกตทางเดิน
มีบันไดสีแดงประมาณ 20 ที่และด้านบนของแต่ละบันไดมีประตูหินสี
แดงเข้มซึ่งมีตัวเลขต่างกัน
แล้ววิเวียนก็พาเขาไปที่สวน มีพืชและดอกไม้นับไม่ถ้วนอยู่ภายใน แอง
เจเล่ได้ยินเสียงนกร้องในขณะที่วิเวียนเปิดประตู บรรยากาศมันอุ่นและ
ชื้น มีกลิ่นดอกไม้ลอยอยู่ในอากาศ แองเจเล่มองเห็นแม้แต่หิ่งห้อยที่
กำลังบิน
ภายในสวนมันมืด มีหิ่งห้อยสีนํ้าเงินกำลังบินไปรอบๆเหมือนนํ้าฝนที่
กำลังตกลงมา การเฝ้าดูฉากที่สวยงามนี้ทำให้แองเจเล่รู้สึกผ่อนคลาย
เขตระบบนิเวศน์และห้องทดลองไม่ได้พิเศษ พวกมันดูเหมือนห้องที่แอง
เจเล่เห็นในพื้นที่หกวงแหวน
แองเจเล่กลับไปที่พื้นที่ที่อยู่อาศัยกับวิเวียนหลังจากที่เยี่ยมชมทุกพื้นที่
ในโบราณสถาน เธอออกจากทางเดินและมุ่งหน้าไปที่ห้องทดลอง
หลังจากที่บอกให้แองเจเล่เลือกห้องที่เขาต้องการ
แองเจเล่นั่งอยู่ในทางเดินอย่างเงียบๆและทำให้แน่ใจว่าวิเวียนออกจาก
พื้นที่นี้แล้ว เขาหันกลับไปและปีนขึ้นบันไดไปแบบสุ่มๆแล้วเปิดประตู
แอ๊ดด

มันไม่ต้องใช้แรงมากในการเปิดประตูและแองเจเล่ก็เข้าห้องอย่าง
รวดเร็ว
ห้องมันเรียบง่ายแต่กว้างขวาง
มีทับทิมเรืองแสงรูปเพชรสองตัวที่ทำให้ห้องสว่างขึ้นและมีเตียงสีขาว
ขนาดใหญ่อยู่ข้างผนัง แสงสีแดงจากทับทิมส่องลงบนผ้าห่มสีขาวทำให้
มันดูเหมือนสีชมพู
อีกด้านของห้องมีโต๊ะและตู้สีดำ
แองเจเล่ปิดประตูและล็อคทันที
'เธอไปแล้ว' เขาเปลี่ยนคลื่นพลังจิตและพยายามพูดกับเฮนน์ 'เอาล่ะ
ท่านเฮนน์ ท่านไม่ได้พักใช่ไหม แผนจริงๆของท่านคืออะไร บอกข้ามา'
'แผนจริงไหน' เฮนน์ตอบทันที 'แผนจริงอะไร วิเวียนกำลังเตรียมพิธี
รูปแบบดวงวิญญาณที่สมบูรณ์แบบ เธอยังไม่ค่อยเชื่อใจเจ้าและเธอจะ
ขอให้คนตรวจสอบภูมิหลังของเจ้าและตรวจสอบความถูกต้องของ
ข้อมูลที่เจ้าบอกเธอ'
'ข้าไม่แน่ใจเรื่องนี้' แองเจเล่ย่นคิ้ว
'ไม่ต้องกังวลเด็กน้อย ข้าเป็นคนที่รู้จักเธอมากที่สุดในโลกที่น่าเศร้านี้'
เฮนน์ตอบ 'หลังจากทำพิธีเธอจะเชื่อสิ่งที่เจ้าพูดทั้งหมดแล้วเจ้าก็จะรู้ว่า
มันเป็นการตัดสินใจที่ดีที่เจ้าทำ'

'วิเวียนอยู่ระดับอะไร ท่านรู้ทุกเรื่องของเธอใช่ไหม ข้ามีปัญหาในการ
ตรวจสอบระดับพลังจิตของเธอ' แองเจเล่เดินไปที่ตู้สีดำแลเปิดลิ้นชัก มี
ชุดคลุมยาวหลายตัวอยู่ข้างใน
'ข้าไม่รู้ว่าตอนนี้เธอแข็งแกร่งแค่ไหนแต่เธอก็ได้ถึงระดับสามแล้วใน
ตอนที่ข้าจากไป อืมม.....อย่างน้อยเธอก็ควรเป็นแม่มดระดับสี่หลังจาก
ผ่านมาหลายปี...' แองเจเล่ตกใจกับการคาดเดาของเฮนน์
'ระดับสี่....แม่มดอรุณ...' เขาคิด การแสดงออกของเขาเปลี่ยนไปใน
เวลาเดียวกัน
ตอนที่ 296: อุบัติเหตุ (1)
แปลนิยาย.วันเสาร์ที่ 17 มีนาคม 2018
'พิธีรูปแบบวิญญาณที่ถูกทำโดยแม่มดระดับสี่...ข้าไม่คิดว่าข้าจะเข้าใจ
รูนที่เธอใช้ ถ้าเกิดอะไรขึ้นเราก็จะตายทั้งคู่' แองเจเล่ขดริมฝีปาก
'ไม่ต้องกังวล มันจะไม่มีอะไรเกิดขึ้น' เฮนน์ฟังดูมั่นใจ 'เจ้าจะผ่านพิธี
โดยไม่มีปัญหา วิเวียนจะถือว่าเจ้าเป็นลูกชายที่แท้จริงของเธอเมื่อถึง
ตอนนั้น'
'แล้วรูปแบบคาถาระดับสองที่ท่านสัญญากับข้าไว้ล่ะ' แองเจเล่ถาม

'ข้าจะมอบให้เจ้าแต่การโอนมันจะต้องทำให้ข้าใช้พลังงานจำนวนมาก
หลังจากนั้นข้าจะต้องพักผ่อนเป็นเวลานาน เจ้าแน่ใจหรือว่าเจ้า
ต้องการมันตอนนี้' เฮนน์ถาม
'แน่นอน มันเป็นการแลกเปลี่ยนที่ยุติธรรม' แองเจเล่ที่สงบลงในขณะที่
เขาพูดเสียงเบา
'เอาล่ะ ข้าจะส่งให้เจ้าหลังจากที่เจ้าผ่านพิธี' เฮนน์หยุดพูดทันที
หลังจากที่เธอพูดจบ
แองเจเล่เดินไปรอบๆห้องเพื่อตรวจสอบโครงสร้างทั้งหมด เขาชำระ
ร่างกายของเขาด้วยนํ้าแล้วก็ไปนอนเพื่อพักผ่อน
ในอีกสิบวันต่อมาแองเจเล่ก็รออย่างอดทนในโบราณสถาน ในที่สุดวิ
เวียนก็เตรียมตัวทำพิธีเสร็จสิ้น
วงเวทดูคล้ายกับตัวที่แองเจเล่เคยใช้ในห้องหิน เขาก้าวเข้าไปในวงเวท
แสงที่ออกมายังเป็นสีเหลืองและสีแดงเหมือนเดิม
เมื่อยืนยันข้อสันนิษฐานของเธอวิเวียนก็เริ่มเลี้ยงดูแองเจเล่ดีกว่าก่อน
หน้านี้ เธอยอมให้แองเจเล่เข้าถึงสิ่งอำนวยความสะดวกส่วนใหญ่ใน
โบราณสถานแม้ว่าเธอจะยังมีข้อสงสัยอยู่เนื่องจากเรื่องทั้งหมดนั้นยาก
ที่จะเชื่อ ทัศนคติของวิเวียนการเปลี่ยนไปอย่างฉับพลันทำให้แองเจเล่รู้
อึดอัดเมื่อเขาสังเกตเห็นเหตุการณ์นี้ในช่วงหลายวันต่อมา

ตอนแรกแองเจเล่ยังเป็นคนแปลกหน้ากับวิเวียนดังนั้นเธอจึงพูดกับชาย
หนุ่มด้วยนํ้าเสียงที่ดูธรรมดา แต่เธอก็เลี้ยงดูแองเจเล่เหมือนลูกชายของ
เธอหลังจากเสร็จพิธี แองเจเล่รู้สึกถึงความคาดหวังที่เธอมีต่อเขาและรู้
ว่าวิเวียนรู้สึกดีใจมาก นั่นคือรักแท้ของแม่ที่ให้กับลูกชายของเธอ
เมื่อใดก็ตามที่เธอพูดกับแองเจเล่เธอมักจะมีรอยยิ้มที่อ่อนโยนบน
ใบหน้า
********************************
ห้าวันต่อมาหลังจากพิธี
วิเวียนและแองเจเล่เดินผ่านอุโมงค์ด้วยกัน เสียงฝีเท้าของพวกเขา
สะท้อนอยู่ในอุโมงค์
"ข้าได้แสดงให้เจ้าเห็นสิ่งอำนวยความสะดวกพื้นฐานในโบราณสถาน
แล้ว ตอนนี้ข้าจะพาเจ้าไปยังพื้นที่อันตราย ในพื้นที่เหล่านั้นจะมีสัตว์
อสูรกลายพันธุอยู่และกำมะถันในอากาศก็หนาแน่นมาก ข้าไม่ต้องการ
ให้เจ้าเข้าพื้นที่เหล่านั้นโดยบังเอิญ" วิเวียนนำทางไปในขณะที่อธิบาย
สถานการณ์ให้แองเจเล่
"ข้ายังไม่ได้สำรวจทุกๆพื้นที่อย่างสมบูรณ์เนื่องจากมีปัจจัยที่ไม่รู้จัก
มากมายดังนั้นอย่าเข้าไปพื้นที่ที่ไม่เคยสำรวจเพียงเพราะเจ้าอยากรู้"

"เข้าใจแล้ว" แองเจเล่พยักหน้า ถ้าพ่อมดระดับสี่บอกว่าพื้นที่เหล่านั้น
อันตรายเขาก็จะไม่ทดสอบโชคของเขา
วิเวียนนำแองเจเล่ไปพื้นที่ทางใต้ของโบราณสถานที่เกือบทุกส่วนถูก
หวงห้าม
แองเจเล่เห็นคุกว่างและหินสีดำขนาดใหญ่ภายในห้องพิเศษ สถานที่ทั้ง
สองแห่งดึงดูดความสนใจของเขา
หลังจากให้แองเจเล่ดูพื้นที่หวงห้ามวิเวียนก็พาเขาไปที่ห้องว่างขนาด
ใหญ่ที่ผนังถูกปกคลุมไปด้วยเส้นเลือดสีดำและใบไม้
มีใบหน้ามนุษย์สีเทาที่้ล
้อมรอบไปด้วยเส้นเลือดตรงกลางของผนังราว
กับว่าเส้นเลือดเหล่านี้ป้องกันไม่ให้มันตื่นขึ้น
แองเจเล่สังเกตใบหน้าอย่างระมัดระวังและแม้แต่ซีโร่ก็สแกนแต่เขาก็
ตระหนักว่ามันเป็นเพียงภาพแกะสลักเท่านั้นและไม่มีการตรวจพบ
พลังงานชีวิต
"ผนังที่แกะสลักนี้สร้างขึ้นด้วยวัสดุพิเศษ" วิเวียนยิ้ม "ผนังนี้สามารถดูด
ซับความเสียหายที่ได้รับจากคาถาระดับสาม เจ้าสามารถมาฝึกฝน
คาถาของเจ้าที่ได้เมื่อเจ้ามีเวลา"
แองเจเล่พยักหน้า "เข้าใจแล้วครับท่านวิเวียน"

"เจ้าเรียกข้าว่าวิเวียนก็ได้หรือ..." วิเวียนลังเล เธอรู้ว่ามันยังเร็วเกินไปที่
จะบอกแองเจเล่ว่าเธอเป็นแม่ของเขา "ไม่ก็เรียกข้าว่าพี่สาว"
การแสดงออกของแองเจเล่เปลี่ยนไป เขารู้ว่าในไม่ช้าวิเวียนก็จะบอก
เขาเกี่ยวกับความจริงแต่มันยังก็ยากสำหรับเขาที่จะเรียกเธอว่าพี่สาว
วิเวียนที่สังเกตเห็นความลังเลของแองเจเล่ก็โบกมือของเธอ เธอ
มองเห็นสิ่งที่แองเจเล่กำลังคิด "ข้าไม่ได้บังคับให้เจ้าเรียกข้าว่าพี่สาว ไม่
ต้องกังวลเรื่องนี้"
"นอกจากนี้ข้ายังมีห้องสมุดส่วนตัวที่นี่ที่ข้าเก็บของสะสมส่วนใหญ่ไว้
ข้างใน เจ้าสามารถไปอ่านหนังสือได้ถ้าเจ้าต้องการแต่อย่าไปถึงส่วนที่
เกินขีดจำกัดพลังจิตของเจ้า" เธอพูดเสริม
"ครับ" แองเจเล่ตอบอย่างสุภาพ
"ไม่เอาน่า ไม่ต้องจริงจังมาก" วิเวียนลูบแก้มของแองเจเล่และลูบศีรษะ
ของเขาหลายครั้ง
แองเจเล่ไม่เคยได้รับการปฏิบัติเหมือนเด็ก เขาไม่ได้พยายามหลบหรือ
หนีมัน
"เรียนรู้ที่จะยิ้มมากขึ้นแต่อย่าไปบังคับมัน เจ้ารู้จักคำของพ่อมดที่ว่า'
การยิ้มจะช่วยทำให้อารมณ์ของเจ้าดีขึ้นไหม' การแสดงออกทางสีหน้า
ของเจ้าจะส่งผลต่อความรู้สึกของเจ้าดังนั้นการยิ้มจะทำให้เจ้ารู้สึกดีขึ้น

แม้ว่าเจ้าจะรู้สึกหดหู่ใจก็ตาม" วิเวียนพูดเสียงเบา "นั่นคือสิ่งที่ข้าทำ
เมื่อใดก็ตามที่ข้าเศร้า..." เธอจ้องมาที่แองเจเล่พร้อมกับรำลึกถึงอดีต
ชี่
มีเสียงที่เหมือนกับมีคนจุดไฟ
มีลูกไฟสีเขียวปรากฏเหนือไหล่ขวาของวิเวียน ลูกไฟมีขนาดเกือบเท่า
กำปั้นกำลังหมุนช้าๆแต่แองเจเล่ไม่ได้รู้สึกถึงความร้อนที่มาจากมัน
วิเวียนตรวจสอบลูกไฟ
"เอาล่ะ ตอนนี้ข้าจะต้องไปที่สำนักงานใหญ่ของหัตถ์ธาตุ มีสิ่งที่ข้า
จะต้องไปจัดการ สำรวจโบราณสถานตามสบายแต่อย่าไปที่พื้นที่
อันตรายที่ข้าบอกเจ้า นอกจากนี้เจ้ายังสามารถออกโบราณสถานได้ถ้า
เจ้าต้องการแต่ข้าจะมีความสุขมากขึ้นถ้าเจ้าสามารถใช้เวลากับข้าได้
มากกว่านี้" มีรอยยิ้มที่มีเสน่ห์บนใบหน้าของเธอ
"อืม..." วิเวียนพยายามที่จะถูแก้มของแองเจเล่อีกครั้งแต่ตอนนี้เขา
พยายามหลบ
"เจ้าน่ารักมาก..." วิเวียนหัวเราะเบาๆ "ตอนนี้ข้าต้องขอตัวก่อน ขอให้
สนุกในโบราณสถาน"

เธอหันกลับไปและชุดคลุมยาวของเธอก็เริ่มลุกไหม้ เปลวไฟได้กลืน
ร่างกายของเธอและมันก็หดลงเป็นลูกไฟขนาดเล็กแล้วมันก็ระเบิดและ
หายไปในอากาศ
'ไปที่ห้องสมุดก่อน เจ้าจะพบสิ่งที่เจ้าต้องการที่นั่น' เสียงของเฮนน์ดัง
ก้องในหูของแองเจเล่
"ตกลง" แองเจเล่หันกลับไปและมุ่งหน้าไปยังห้องสมุด
'เจ้าเห็นห้องที่ถูกปิดผนึกในพื้นที่หวงห้ามของห้องสมุดไหม ถ้าเจ้าทำ
...' ทันใดนั้นเฮนน์ก็หยุดพูด
ปึก
มีใครบางคนสัมผัสไหล่ของแองเจเล่จากข้างหลัง
"เดี๋ยวก่อน! มีอีกเรื่องหนึ่ง!" เสียงของวิเวียนดังมาจากข้างหลัง
แองเจเล่สั่นด้วยความตกใจเพราะเขาถูกจับโดยไม่รู้ตัว เขารีบหัน
กลับไปและมองไปที่วิเวียน
มีรูปปั้นคริสตัลของแมงป่องถูกจับอยู่ในมือขวาของเธอซึ่งเธอได้ยื่นมัน
ให้แองเจเล่
"รับมันสิ นี่เป็นสิ่งประดิษฐ์เวทมนต์ที่ข้าสัญญากับเจ้า" วิเวียนหยุดยิ้ม
การแสดงออกของเธอเคร่งขรึม "ข้าไม่รู้ว่าทำไมแต่ข้าคิดว่าเจ้ากำลังถูก
ดวงวิญญาณบางอย่างติดตาม สิ่งประดิษฐ์นี้จะช่วยซ่อนพลังจิตของ

เจ้าดวงวิญญาณมันดูค่อนข้างคุ้นเคย.....มันราวกับว่าเป็นคนที่มาจาก
แกนแห่งกาลเวลา เจ้าบอกว่าเจ้าได้สำรวจซากปรักหักพังที่ถูกทอดทิ้ง
ขององค์กรนี้ใช่ไหม ยังไงก็ตามสิ่งประดิษฐ์เวทมนต์นี้จะช่วยป้องกัน
ไม่ให้ดวงวิญญาณติดตามเจ้าได้สมาชิกของแกนแห่งกาลเวลาเป็นคน
ที่วิกลจริตโดยสมบูรณ์ บางคนได้ฆ่าตัวตายและบางคนก็มีแนวโน้มที่
จะกินคนข้าจะตรวจสอบรายละเอียดกับร่างกายของเจ้าในภายหลัง
ดังนั้นจึงไม่ต้องกังวล"
"ขอบคุณครับ" แองเจเล่รับแมงป่องคริสตัล
"ยินดีเป็นอย่างยิ่ง"วิเวียนหัวเราะเบาๆขณะที่เธอลูบแก้มของแองเจเล่
เบาๆ
ชี่
เปลวไฟสีแดงล้อมรอบเธออีกครั้งและเธอก็หายไปในอากาศหลังจากที่
เปลี่ยนเป็นลูกไฟ
แองเจเล่มองไปที่แมงป่องคริสตัลมีแถวรูปหนามบนหลังของมัน มันดู
คล้ายกับรูปแบบดวงวิญญาณของลูกชายของวิเวียน
'ท่านเฮนน์สิ่งนี้มีผลกับท่านหรือไม่'เขาลูบผิวของคริสตัลที่เย็นและ
เรียบด้วยความระมัดระวังเขายังได้กลิ่นหอมจากร่างกายของวิเวียน
จากมัน

ไม่มีใครตอบ
'ท่านเฮนน์' แองเจเล่กำลังสับสน
เขามองไปที่คริสตัล หลังจากที่คิดหลายวินาทีเขาก็รีบวางแมงป่อง
คริสตัลลงบนพื้น
'....รูปปั้น....เจ้า.....โยน...มันทิ้งไป! เร็วเข้า...!' เสียงของเฮนน์ไม่ชัดเจน
และฟังดูกังวล
ในที่สุดแองเจเล่ก็เข้าใจในสถานการณ์ปัจจุบันแล้วเขาก็ก้าวถอย
ออกไปสิบก้าว
เสียงของเฮนน์ชัดอีกครั้ง
'...บัดซบ! บัดซบ!' เธอสบถหลายครั้งแสดงให้เห็นว่าเธอโกรธมากแค่
ไหน 'ของบัดซบ! รูปปั้นนี้สามารถป้องกันการเชื่อมต่อของข้าได้อย่าง
สมบูรณ์! เธอทำอะไรมาตลอดหลายปีนี้....! เธอไปพบสิ่งนี้ที่ไหน!'
'หา มันได้ผลหรือ' แองเจเล่หรี่ตาด้วยความอยากรู้
'ดวงวิญญาณของเจ้าจะอ่อนแอลงด้วยของสิ่งนี้! ข้าขอแนะนำให้เจ้า
อย่าเก็บมันไว้กับตัว สิ่งที่สำคัญที่สุดคือมันจะตัดการเชื่อมต่อระหว่าง
เรา' เฮนน์เตือนด้วยเสียงหนาวเย็น
'นี่เป็นสิ่งประดิษฐ์เวทมนต์ที่ดี ข้าต้องการมันจริงๆ' แองเจเล่เดินไปที่รูป
ปั้นและหยิบมันขึ้นมา เสียงของเฮนน์หายไปอีกครั้ง

'เธอกำลังโกหกแน่นอน ฮ่าๆๆ...' แองเจเล่ส่ายหัวในขณะที่เขาเก็บรูป
ปั้นแมงป่องคริสตัลในถุงกระเป๋าของเขา เขาหันกลับไปและมุ่งหน้าไปที่
ห้องสมุด
ตอนที่ 297: อุบัติเหตุ (2)
แปลนิยาย.วันอังคารที่ 20 มีนาคม 2018
การปรากฏตัวของเฮนน์กลายเป็นปัญหากับแองเจเล่ ตอนนี้เขาแทบจะ
ไม่มีเวลาทำยา ศึกษาสายเลือดโบราณหรือแม้แต่การเข้าไปในดินแดน
ฝันร้าย
เขาเดินไปที่ห้องสมุดพร้อมกับแมงป่องคริสตัลในถุงกระเป๋า แองเจเล่
สงสัยว่ามีวิธีอื่นในการสื่อสารกับเฮนน์ไหม เขาเอากล่องดำที่เขาได้รับ
ในเมืองหมอกขาวออกมาและเปิดมันอย่างระมัดระวัง
ภายในกล่องมีควันดำ
'กรีน เจ้าเด็กเลว...'
ปึก
แองเจเล่ปิดกล่อง
เสียงของเฮนน์หายไป
เขาเปิดกล่องอีกครั้ง

'กรีน เจ้าอยากมีปัญหาใช่ไหม'เสียงของเฮนน์ดังก้องในหูของเขาอีก
ครั้ง'ข้าได้บอกเจ้าไปแล้วว่าสิ่งนี้จะทำให้เจ้าอ่อนแอลง'
'ข้ารู้ว่ามันเป็นอันตรายต่อท่านแต่มันช่วยข้าอย่างมาก'แองเจเล่ตอบ
ด้วยท่าทีที่เฉยเมยเขาได้สังเกตเห็นแล้วว่าเฮนน์ทำให้เขาทำสิ่งต่างๆได้
อย่างจำกัด'นี่มันดีกว่ามากข้าต้องการความเป็นส่วนตัวและมันก็แทบ
จะเป็นไปไม่ได้ที่จะโยนกล่องนี้ทิ้งไปท่านคิดว่าอย่างไร'
'จริงหรือ เจ้ากังวลเรื่องความเป็นส่วนตัวตอนนี้เนี่ยนะ'เฮนน์หยุดชั่วครู่
ก่อนที่จะพูดต่อ 'แต่เจ้าต้องสัญญาว่าจะอนุญาตให้ข้าเข้าถึงคลื่นพลัง
จิตของเจ้าเป็นครั้งคราวมันจะมีปัญหาใหญ่ถ้าเจ้าไม่ปล่อยให้ข้าทำ
เช่นนั้น'
'เอาล่ะ'แองเจเล่ไม่ได้คาดหวังว่าเฮนน์จะเข้าใจความกังวลของเขาได้
อย่างง่ายดายดังนั้นเขาจึงตัดสินใจที่จะทำตามคำขอของเธอ
เขาปิดกล่องและเอาสิ่งประดิษฐ์เวทมนต์ออกมาเขาตรวจสอบ
สิ่งประดิษฐ์นี้เพื่อทราบวิธีการเปิดใช้งานมันและพบปุ่มที่ปลายหางของ
แมงป่องอย่างรวดเร็ว
แองเจเล่แตะที่ปุ่มแล้วเขาก็บอกให้ซีโร่สแกน
รายละเอียดของสิ่งประดิษฐ์เวทมนต์ถูกโอนเข้าสู่สมองของเขาทันที

ชื่อของสิ่งประดิษฐ์นี้คือแมงป่องหนาม สิ่งประดิษฐ์นี้สามารถสะท้อน
ความเสียหายได้จำนวนหนึ่ง ความสามารถหลักของมันคือการป้องกัน
คลื่นพลังจิตที่แทรกแซง พลังวิญญาณและคาถาติดตาม
จากนั้นเขาก็เข้าไปในห้องสมุด ตู้หนังสือถูกปกป้องด้วยบาเรียพลังงาน
แต่ด้วยคลื่นพลังจิตในปัจจุบันของเขาทำให้แองเจเล่สามารถตรวจสอบ
ได้เพียงแค่สองตู้ ส่วนใหญ่เป็นหนังสือทฤษฎีและประวัติการผจญภัย
ของพ่อมด
แองเจเล่ตรวจสอบหนังสือบางเล่มแต่ก็ไม่พบอะไรที่สำคัญ
เขาต้องการจะดูว่ามีรูปแบบคาถาระดับสองใดอยู่ที่นี่บ้าง
อย่างไรก็ตาม มันดูเหมือนว่าคาถาระดับสองที่อ่อนแอเกินไปเนื่องจาก
ของสะสมส่วนใหญ่ของวิเวียนเป็นทฤษฎีที่เข้าใจได้ยากและแองเจเล่ไม่
มีพื้นฐานเพียงพอ
ทันใดนั้นเขาก็นึกถึงหินสีแดงภายในห้องตอนที่เขาสำรวจโบราณสถาน
คลื่นพลังงานที่ออกมามันช่างคุ้นเคย
'มันอาจจะเป็นหินพิภพ' เขาคิด
แองเจเล่ตรวจสอบแผนที่ที่เขาสร้างโดยใช้ชิปและกลับไปที่ห้องนั่น
อย่างรวดเร็ว
เขามองเห็นได้อย่างชัดเจนว่าอะไรอยู่ในห้องผ่านประตูกระจก

หินสีแดงขนาดใหญ่ปกคลุมไปด้วยเส้นและรูนที่ซับซ้อน มีทางเดินที่อีก
ด้านของห้อง
มีประตูสีดำที่มีการแกะสลักสีทองบนผิวของมันที่สุดทางเดิน
แองเจเล่ต้องการสังเกตหินพิภพแต่ด้วยเหตุผลบางอย่างดวงตาของเขา
ถูกตรึงอยู่กับประตูนั้น
เขานึกถึงคำพูดที่วิเวียนบอกกับเขา
"ประตูดูเหมือนกับการแกะสลักบนหิวขนาดใหญ่ ข้าคิดว่ามันเป็นเพียง
แค่การตกแต่งเพราะมันเป็นไปไม่ได้ที่จะเปิดมัน บางทีมันอาจจะถูกทิ้ง
ไว้ที่นี่โดยเจ้าของเดินของโบราณสถาน อย่าไปที่ทางเดินนั้นและอย่า
แม้แต่พยายามจะเปิดประตู ข้าคิดว่าอะไรก็ตามที่อยู่ข้างหลังมันเป็นสิ่ง
ที่อันตราย" นี่เป็นสิ่งที่วิเวียนบอกเขา
แองเจเล่กะพริบตา เขารู้สึกถึงตราภาพลวงตาที่อ่อนแอของฮาร์ปี้ยักษ์
กำลังตื่นเต้นราวกับว่าทางเดินนั้นเกี่ยวข้องกับสายเลือดโบราณใน
ร่างกายของเขา
วิเวียนได้แนะนำให้เขาไม่เข้าไปในทางเดินเนื่องจากมันมีปัจจัยที่ไม่รู้จัก
มาเกินไปและมันเป็นหนึ่งในพื้นที่หวงห้ามในโบราณสถาน
อย่างไรก็ตาม แองเจเล่สนใจทางเดินนั้นอย่างมากและไม่สามารถหยุด
มองได้

เขารู้สึกถึงบางอย่างที่คุ้นเคยจากพื้นที่นั้น
'ใช่ มันเป็นความรู้สึกแบบเดียวกับที่ข้าเจอเมื่อตราตื่นขึ้น!' ในที่สุดแอง
เจเล่ก็พบคำตอบ
'ข้าไม่รู้ว่าตราที่อ่อนแอยังสามารถพาข้าเข้าไปดินแดนฝันร้ายได้อีกครั้ง
หรือไม่ นี่อาจจะเป็นโอกาสของข้า' เขาจ้องไปที่ทางเดินและคิดเรื่องนี้
'ซีโร่ ตรวจสอบคลื่นพลังงานและทำการจำลอง'
[สร้างงาน กำลังวิเคราะห์...] ซีโร่รายงานกลับทันที
แองเจเล่เปิดประตูและเดินไปที่ทางเดินในขณะที่มีจุดแสงสีนํ้าเงินอยู่
ข้างหน้าสายตาของเขา
หลายวินาทีต่อมาก็มีรอยยิ้มที่ขมขื่นบนใบหน้าของเขา
'เอาล่ะ ดูเหมือนว่าข้าจะต้องไปดูด้วยตัวเอง'
วิเวียนจะไม่ยอมให้เขาเข้าไปในพื้นที่หวงห้ามเมื่อเธอกลับมาและเขา
คิดว่าคลื่นพลังงานลึกลับนั้นจะปล่อยออกมาถ้าเขาอยู่ที่นี่เพียงคน
เดียว มันไม่มีอะไรเกิดขึ้นเมื่อเขาเดินผ่านห้องนี้ในขณะที่อยู่กับวิเวียน
ดินแดนฝันร้ายมีอันตรายอย่างมากแต่ก็มีโอกาสที่ยอดเยี่ยมมากมาย
เขาต้องการเข้าดินแดนนั้นโดยไม่เสียตรา

เขาตรวจสอบอุปกรณ์ของเขาหลังจากที่เขาตัดสินใจที่จะเข้าไป แองเจ
เล่ตรวจสอบให้แน่ใจว่าเขาสามารถดึงดาบปลายโค้งต้องสาปให้เร็ว
ที่สุด
เขาเดินตรงไปทางเดินนั้นแต่ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น
อย่างไรก็ตามคลื่นพลังงานลึกลับกำลังรุนแรงขึ้นเรื่อยๆในขณะที่เขาเข้า
ไปใกล้ประตู
เมื่อแองเจเล่ยืนอยู่หน้าประตูลวดลายสีทองบนผิวของมันก็เริ่ม
เคลื่อนไหวอย่างช้าๆ
รูนและเส้นสีทองนับไม่ถ้วนรวมตัวกันตรงกลางของประตูเหมือนสายนํ้า
แองเจเล่มองไปที่ของเหลวสีทองอย่างเงียบๆแล้วเขาก็ยกมือขวาขึ้น
และสัมผัสผิวของของเหลวด้วยนิ้วชี้ของเขา
ตู้มมม
ของเหลวสีทองก่อตัวเป็นลูกไฟขนาดเล็กและระเบิดซึ่งมันทำให้เปลวไฟ
กระจายไปทั่ว
************************
สำนักงานใหญ่ของหัตถ์ธาตุ
ภายในห้องโถงสีขาวขนาดใหญ่

ที่พื้นมันเรียบเหมือนกระจกและมีโคมระย้าที่หรูหรา มีโต๊ะหินขนาด
ใหญ่รูปไข่ตั้งอยู่ตรงกลางของโถง
มีพ่อมดห้าคนที่นั่งรอบโต๊ะ
ผมบลอนด์ยาวสีเข้มของวิเวียนพาดอยู่เหนือไหล่ของเธอและชุดคลุม
ยาวสีแดงที่เธอสวมมันก็พอดีกับตัวเธอ เธอกำลังนั่งเท้าคางอยู่ทาง
ด้านขวาของโต๊ะ
"....เรารอดมาได้ในครั้งนี้แต่องค์กรของเราก็จะอ่อนแอลงเรื่อยๆ ทุกคนรู้
เรื่องนี้ดี" ชายชราที่มีผมและเคราสีขาวกำลังอ่านบทพูด "เราได้ปฏิบัติ
ตามคำสั่งสามคำสั่งที่มอบโดยสภาพและเราต้องทำห้าเป้าหมายให้
เสร็จสิ้นในอนาคต เราจะต้องทำให้แน่ใจว่าองค์กรนั้นยังดึงดูดสมาชิก
ใหม่และเราจะต้อง...."
เนื่องจากบทพูดนั้นน่าเบื่อเกินไปจึงมีชายวัยกลางคนคนหนึ่งในหมู่
ผู้เข้าร่วมประชุมกำลังหาวด้วยความเบื่อหน่าย
ชายชรามองไปที่ชายวัยกลางคน "เงียบ! การประชุมดำเนินต่อไป"
"เอาล่ะๆ..." ชายวัยกลางคนพยักหน้า
"ไม่เอาน่าร็อคกี้ เจ้า......" วิเวียนหัวเราะแต่สีหน้าของเธอก็เปลี่ยนไป
ก่อนที่เธอจะพูดจบ

"ขอโทษด้วยท่านผู้อาวุโส มีสิ่งไม่ดีเกิดขึ้นกับห้องทดลองของข้า ข้าต้อง
ขอตัวก่อน" เธอลุกขึ้นยืนทันทีและดันเก้าอี้ออกไปด้วยสีหน้าเคร่งขรึม
"มันแย่แค่ไหน" ชายชราถามเสียงเข้ม
"เลวร้ายมาก"
"เอาล่ะ เจ้าไปได้"
วิเวียนพยักหน้าและหันกลับไป ร่างกายของเธอเปลี่ยนเป็นลูกไฟขนาด
ใหญ่และหายไปในอากาศ
******************************
แองเจเล่ที่กังวลกำลังมองไปที่ลูกไฟสีทองข้างหน้าเขา
มันก่อตัวทันทีหลังจากที่ระเบิดลูกแรกไป ปัจจุบันมันยังลอยอยู่ใน
อากาศอย่างเงียบๆ
หลังจากทีเขาพยายามเปิดประตูโดยใช้ตราภาพลวงตาที่เขา
ครอบครองก็มีรูนแปลกๆถูกส่งเข้าไปในสมองของเขาผ่านคลื่นพลังงาน
ของเขา อย่างไรก็ตามประตูยังถูกป้องกันด้วยลูกไฟสีทองที่อันตราย
'เกิดอะไรขึ้น....' แองเจเล่รู้ว่าเขาควรดำเนินการด้วยความระมัดระวัง
เขาทำพลาดด้วยการไปสัมผัสกับของเหลวโดยตรง
"ฮ่าๆๆ..."

ทันใดนั้นเขาก็ได้ยินเสียงหัวเราะภายในเปลวไฟ
แองเจเล่ถอยหลังไปหลายก้าวทันที
ลูกไฟบินมาหาเขาพร้อมกับคลื่นความร้อนที่รุนแรง
ความต้านทานไฟของแองเจเล่ควรจะสูงแต่ผิวหนังของเขากำลังถูกเผา
ไหม้
วู้ดดดด
ลูกไฟเริ่มหดลงและกระบวนการนี้ก็วนซํ้าหลายครั้ง
"เจ้าต้องออกไปเดี๋ยวนี้! มันกำลังจะระเบิด!" วิเวียนปรากฏข้างหน้าของ
แองเจเล่ "ข้าบอกเจ้าว่าอย่าเข้ามาที่ทางเดินใช่ไหม ทำไมเจ้าถึงไม่ฟัง
ข้า" เสียงตะโกนด้วยความโกรธ
"ออกไป! เจ้าอ่อนแอเกินไปกับการต่อสู้กับสิ่งนี้!"
แองเจเล่ไม่ได้คิดว่าวิเวียนจะกลับมาหาเขา
"ข้า..." เขาต้องการอธิบายแต่การทำเช่นนั้นจะเปิดเผยความลับของเขา
แองเจเล่รู้ว่าลูกไฟอันตรายแค่ไหนและมันกำลังจะระเบิดแต่เขาคิดว่า
เปลวไฟจะไม่ก่อความเสียหายใดๆกับเขา ตราภาพลวงตาบนฝ่ามือ
ซ้ายของเขาตอบรับกับการเรียงร้องของลูกไฟสีทอง นอกจากนี้เขายังมี
ความตั้งใจที่จะสัมผัสกับเปลวไฟโดยตรง

"ออกไป!" วิเวียนตะโกนและยกมือขึ้นเพื่อร่ายโซ่เปลวไฟยาวระหว่างฝ่า
มือของเธอ
แองเจเล่รู้ว่าเขาไม่มีเวลาที่จะอธิบายดังนั้นเขาจึงเริ่มวิ่งไปที่ประตูห้อง
เขาได้ยินเสียงระเบิดจากข้างหลังในตอนที่เขาออกไปจากทางเดิน
เปลวไฟสีทองและเปลวไฟสีแดงปะทะกัน เสียงหัวเราะแปลกๆจาก
ลูกไฟสีทองดังก้องไปทั่ว
แองเจเล่ปลิวไปจากแรงกระแทกที่รุนแรงของระเบิด เขาบินห่างไปและ
กลิ้งบนพื้นหลายครั้งจนชนกับผนังหินนอกประตู
ในไม่ช้าเขาก็ได้ยินเสียงที่เกิดจากผนังที่ยุบตัวและวิสัยทัศน์ของเขาก็
เบลอเนื่องจากมีฝุ่น
แองเจเล่เห็นห้องที่มีหินพิภพอยู่ข้างในและสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ
อีกหลายอย่างถูกฝุ่นหนาปกคลุม
การระเบิดทำลายห้องไปหลายห้อง
"ข้าทำผิดพลาด" เขาส่ายหัวในขณะที่ถอนหายใจเอนตัวพิงกับผนัง
ตอนที่ 298: ค้นหา (1)
แปลนิยาย.วันอังคารที่ 20 มีนาคม 2018
สถานที่นี้ค่อยๆเงียบลงภายใต้ฝุ่นหนา

วู้ๆๆ
แองเจเล่ได้ยินเสียงลมหอน
ฝุ่นสีเทารวมตัวกันตรงกลางของห้องและก่อเป็นลูกบอลแข็งขนาดเท่า
กำปั้นลอยอยู่เหนือฝ่ามือขวาของวิเวียน
เธอบีบลูกแก้วเบาๆ
ชี่
ลูกบอลสีเทาได้ถูกเผาไหม้ในเปลวไฟสีม่วงทำให้ทั้งห้องสว่างขึ้น ลูก
บอลฝุ่นที่กำลังเผาไหม้เริ่มหลอมหลอละลายจนหายไปอย่างสมบูรณ์
ภายในไม่กี่วินาที
แองเจเล่พยายามที่จะลุกขึ้น ผนังในโบราณสถานถูกสร้างขึ้นด้วยวัสดุ
พิเศษ ถ้าไม่ใช่เพราะสนามพลังและค่าสถานะที่สูงของเขาเขาก็คงจะ
ได้รับบาดเจ็บสาหัสจากแรงกระแทก
วิเวียนเดินมาหาแองเจเล่อย่างรวดเร็ว
เขารู้ว่าวิเวียนจะไม่ยอมให้เขาสัมผัสลูกไฟสีทอง
วิเวียนส่ายหัวในขณะที่เธอจ้องที่แองเจเล่ ตัวเธอสูงกว่าแองเจเล่ สีหน้า
ของเธอเต็มไปด้วยความเย็นชาและดวงตาเต็มไปด้วยความโกรธ

"เจ้าไม่รู้หรือว่าสถานการณ์มันอันตรายแค่ไหน! เจ้าจะถูกเผาจนตายถ้า
ข้ากลับมาไม่ทัน!"
วิเวียนเปิดปากและถอนหายใจ เธอยกมือขวาขึ้นและลูบศีรษะของแอง
เจเล่ในขณะที่เธอใจเย็นลง
"อย่าเสี่ยงชีวิตของเจ้าแบบนั้นอีก"
แองเจเล่พูดไม่ออก เขาไม่ต้องการบอกวิเวียนเรื่องความลับของเขาแต่
มันเป็นวิธีเดียวที่จะอธิบายสถานการณ์ ลูกไฟสีทองได้ถูกทำลายโดย
พ่อมดระดับสี่และวิเวียนมั่นใจว่าลูกชายของเธอไม่สามารถจัดการกับ
มันได้เพียงลำพัง
แองเจเล่คิดว่าวิเวียนกำลังจะลงโทษเขาสำหรับเรื่องนั้นแต่สิ่งเดียวที่เธอ
ทำคือการเตือนเขา หลังจากที่เอามือออกเธอก็หันกลับไปและเริ่มตรวจ
ความเสียหายจากการระเบิด
แองเจเล่ลังเลชั่วครู่ก่อนที่จะตามเธอไป
ทางเดินไม่ได้รับความเสียหายและประตูก็ยังอยู่ที่นั่นแต่อย่างอื่นถูก
ทำลาย หินพิภพได้แตกเป็นหลายชิ้นเหลือเพียงครึ่งหนึ่งที่ยังอยู่ตรง
กลางวงเวท

วิเวียนเดินไปที่หินพิภพแล้วก็ถอนหายใจ เธอสังเกตหินพิภพที่เหลืออยู่
อย่างระมัดระวังแล้วเธอก็มองไปที่แองเจเล่ "แองเจเล่ ตอนนี้เจ้าไปพัก
ได้แล้ว เราไม่ได้เสียอะไรที่สำคัญ"
แองเจเล่ไม่แน่ใจว่าเขาควรจะพูดอะไรเมื่อตัวเขาไม่ได้คาดหวังว่าวิ
เวียนจะกลับมาเร็วเช่นนี้
เขารู้ว่าไม่มีอะไรที่เขาสามารถทำได้ที่นี่ดังนั้นเขาจึงพยักหน้าและ
กลับไปพื้นที่ที่อยู่อาศัย
วิเวียนรอจนแองเจเล่ออกไปก่อนที่จะเดินไปที่ประตูที่อยู่สุดทางเดิน เขา
ค่อยๆลูบรูนที่สลักบนผิวของประตู
"บ้าเอ้ย....ข้าได้ใช้เวลาเป็นสิบปีเพื่อเตรียมตัวสำหรับขั้นตอนสุดท้าย
และข้าต้องการอีกแค่สองปีเท่านั้นแต่ทุกสิ่งทุกอย่างก็หายไป..." เธอ
ถอนหายใจอีกครั้ง
วิเวียนได้ใช้เวลารวบรวมวัสดุเป็นสิบปีเพื่อสื่อสารกับพลังงานลึกลับที่
อยู่อีกด้านหนึ่งของประตูแต่ไม่เคยคาดหวังว่าแองเจเล่จะทำลายมัน
วิเวียนดูหดหู่ อย่างไรก็ตามแองเจเล่เป็นลูกชายเพียงคนเดียวของเธอ
และเขาไม่อยากโกรธเขา
"ช่างมันเถอะตราบใดที่เขาปลอดภัย" เธอพึมพำ "เดี๋ยวข้าจะทำความ
สะอาดสถานที่นี้ก่อน"

ฟู่
ด้วยการดีดนิ้วของเธออนุภาคพลังงานสีเขียวก็เริ่มหมุนในอากาศ
*****************************
ในไม่ช้าแองเจเล่ก็กลับไปที่พื้นที่ที่อยู่อาศัย เขาปีนขึ้นบันไดและกลับไป
ที่ห้องของเขา
เขาเดินไปที่มุมและเอากล่องดำออกมาแล้วเขาก็วางมันไว้บนสุดของตู้
'หินพิภพถูกทำลาย วิเวียนจะต้องเศร้า' เฮนน์พูดทันทีที่กล่องถูกเปิด
'ทำไมมันถึงเป็นเช่นนั้น มันเป็นความผิดของข้า' แองเจเล่ขดริมฝีปาก
'หินพิภพจะเสียฟังก์ชั่นหลักของมันเมื่อมันได้รับความเสียหาย คลื่น
พลังงานที่เล็ดลอดออกมาในไม่ช้ามันก็จะหายไปซึ่งหมายความว่า
ตอนนี้หินพิภพมันก็เป็นเหมือนหินธรรมดา เจ้าเห็นวงเวทในห้องนั้นและ
รูนที่แกะสลักไว้ไหม อย่างน้อยมันก็ต้องใช้เวลาเป็นสิบปี' เฮนน์หัวเราะ
เบาๆ
แองเจเล่มองไปที่กล่อง 'เนื่องจากข้าไม่ได้กดปุ่มบนแมงป่องคริสตัลมัน
ดูเหมือนว่าท่านเห็นเหตุการณ์ทั้งหมด'
'ใช่ ข้ายังไม่รู้ว่าทำไมเจ้าถึงไปตรวจสอบประตูนั้น' เฮนน์หัวเราะเยาะ

'ช่างมันเถอะ ตอนนี้โอนคาถาระดับสองมาให้ข้าได้แล้ว' แองเจเล่ตอบ
เสียงเบา
'ไม่มีปัญหา' เฮนน์ตอบโดยไม่ลังเล
แองเจเล่รู้สึกว่าข้อมูลถูกส่งเข้ามาในสมองของเขาผ่านคลื่นพลังงาน ใน
ขณะเดียวกันก็มีข้อความเตือนของซีโร่ดังก้องในหูของเขา
เขาบอกให้ซีโร่อนุญาตคลื่นพลังงานที่แทรกแซงและยอมรับ
รายละเอียดของคาถาระดับสอง
มีข้อมูลจำนวนมากจนทำให้แองเจเล่รู้สึกมึนเล็กน้อย
มันใช้เวลาประมาณครึ่งชั่วโมงเพื่อให้เฮนน์โอนข้อมูลเสร็จ
แองเจเล่ตระหนักได้ว่าเฮนน์ส่งคาถาระดับสองให้เขาสองคาถา คาถา
แรกเป็นตาไฟและคาถาที่สองเป็นไพโรบลาสต์(มาจากคำว่า Pyroblast
ตัวไหนที่มีชื่อเฉพาะของทับนะครับ)
ตาไฟเป็นคาถาติดตามที่ยากจะตรวจพบโดยบุคคลอื่นนอกเหนือจากผู้
ร่าย มันสามารถซ่อนอยู่ในเปลวไฟใดๆก็ได้ ฉากปัจจุบันพร้อมกับเสียง
จะถูกส่งกลับไปหาผู้ร่ายราวกับว่าผู้ร่ายอยู่สถานที่เดียวกันกับที่คาถา
ใช้
ไพโรบลาสต์เป็นคาถาที่จะทำให้เกิดลูกไฟขนาดมหึมาและสามารถจุด
ระเบิดได้โดยผู้ร่ายในระยะเวลาที่กำหนด มันทรงพลังเมื่อพิจารณาว่า

มันไม่ได้สร้างความเสียหายทางกายภาพเท่านั้นแต่ยังมีความเสียหาย
เวทมนต์ ระยะคาถาอยู่ในระดับที่เหมาะสมและพื้นที่ที่สร้างความ
เสียหายก็อยู่ในระดับสูง
'ข้าชอบสิ่งที่เจ้าทำกับหินพิภพ ฮ่าๆ คาถาที่สองเป็นของแถมให้เจ้า'
เฮนน์หัวเราะ 'ข้าได้แก้ไขคาถาทั้งสองด้วยตัวข้าเอง เจ้าจะเห็นความ
แตกต่างเมื่อเจ้าเชี่ยวชาญรูปแบบคาถา'
แองเจเล่พยักหน้าแล้วปิดกล่องหลังจากที่จบบทสนทนา เขาเอาแมง
ป่องคริสตัลออกมาจากถุงกระเป๋าและเปิดใช้งาน
ชี่
มีคลื่นพลังงานโปร่งใสถูกปลดปล่อยออกมาจากรูปปั้นแมงป่อง
แองเจเล่รู้ว่ามันหมายความว่าเฮนน์ไม่สามารถเฝ้าดูการกระทำของเขา
ได้อีกต่อไป
เขารีบเอาแมงป่องกลับเข้าไปในถุงกระเป๋า จากนั้นแองเจเล่ก็เอา
ปากกาและกระดาษออกมาและเริ่มตรวจสอบข้อมูลเกี่ยวกับคาถา
ระดับสองที่เฮนน์เพิ่งส่งให้เขา
อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นในห้องที่มีหินพิภพเป็นความผิดของแองเจเล่ วิเวียน
สูญเสียทุกสิ่งทุกอย่างและความพยายามที่เธอทุ่มเทไปก็สูญเปล่าแต่
เธอก็ไม่ได้ลงโทษเขา วิเวียนมั่นใจว่ามันไม่ใช่ปัญหาใหญ่

อย่างไรก็ตามแองเจเล่รู้ว่าเธอเพียงไม่ต้องการให้เขารู้สึกผิด เขาทำลาย
ความพยายามที่ทุมเทไปเป็นสิบปีของวิเวียนด้วยเวลาเพียงไม่กี่นาที วิ
เวียนไม่ฆ่าเพียงเพราะเธอคิดว่าแองเจเล่เป็นลูกชายที่แท้จริงของเธอ
ปัญหาที่ใหญ่ที่สุดคือสิ่งเดียวที่แองเจเล่ได้รับมาจากพลังลึกลับคือรูน
แปลกๆและลูกไฟสีทองก็ถูกกำจัดแล้ว
แองเจเล่ตรวจสอบข้อมูลเสร็จสิ้น เขาถอนหายใจและนั่งลงข้างตู้
'โบราณสถานเกี่ยวข้องกับสายเลือดของฮาร์ปี้ยักษ์ วิเวียนอาจจะ
สอดส่องชีวิตประจำวันของข้าหลังจากเหตุการณ์นี้...'
เขาลุกขึ้นยืนและเดินไปที่ประตูแล้วเปิดมัน
มีอนุภาคพลังงานสีแดงขนาดจิ๋วบนขอบของประตูและมันสังเกตได้ยาก
มีจุดแสงสีนํ้าเงินข้างหน้าสายตาของแองเจเล่ เขาจำเจ้าของอนุภาค
พลังงานนี้ได้
'มันเป็นของวิเวียน....เธอทิ้งอนุภาคพลังงานไว้ที่นี่' เขาปิดประตูอีกครั้ง
'วิเวียนจะหาว่าข้าพยายามทำอะไรในพื้นที่หวงห้าม' แองเจเล่ส่ายหัว
'ให้ข้าเรียนรู้คาถาระดับสองเหล่านั้นเสร็จก่อน'
***********************

แองเจเล่ได้ใช้เวลาส่วนใหญ่ศึกษาและใช้ชิปเพื่อทำการจำลอง เขาจะ
กินอาหารกับวิเวียนในห้องอาหารทุกวัน อาหารของพวกเขามันเป็นของ
เรียบง่ายอย่างพวกขนมปัง นม ไข่และผลไม้
ถ้าไม่มีซีโร่แองเจเล่ก็ไม่รู้เวลาในปัจจุบันในตอนที่อยู่ในโบราณสถาน
ชีวิตวนเวียนไปซํ้าๆแต่เขาก็ยังทำได้ดี
แองเจเล่ยังสามารถสำรวจโบราณสถานได้อย่างอิสระหลังจากที่เกิด
เหตุแต่เขาก็สังเกตเห็นว่าอุโมงค์ที่เคยเปิดไว้หลายแห่งถูกผนึกด้วย
กำแพงหิน ตอนนี้มันเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะเข้าถึงพื้นที่หวงห้าม
เขารู้ว่าวิเวียนพยายามปกป้องเขาจากพื้นที่อันตราย
วิเวียนรู้ว่ามีอะไรไม่มากนักที่แองเจเล่สามารถทำได้ในโบราณสถาน
ดังนั้นเธอจึงมอบคาถาประเภทไฟระดับสองให้เขามากมายเพื่อศึกษา
แองเจเล่เก็บข้อมูลทุกอย่างไว้ในฐานข้อมูล
เป้าหมายแรกของเขาคือการได้รับคาถาระดับสองเท่าที่เขาสามารถทำ
ได้และมันควรจะถึงเวลาที่เขาต้องไปแล้ว อย่างไรก็ตามแองเจเล่ได้
ตรวจพบพลังงานลึกลับที่เหลืออยู่ภายในโบราณสถานหลายวัน
หลังจากที่เกิดเหตุดังนั้นเขาจึงตัดสินใจที่จะอยู่ที่นี่อีกสักพัก
***********************
สิบห้าวันต่อมา

ในห้องอาหารของโบราณสถาน
มีโต๊ะสีนํ้าตาลรูปสีเหลี่ยมผืนผ้าอยู่ตรงกลางห้องอาหาร
แองเจเล่และวิเวียนนั่งอยู่ตรงข้ามกันอย่างเงียบๆ โต๊ะอาหารยาว
ประมาณสิบเมตรแต่พวกเขาก็ทำเพียงแค่กินอาหาร
โถงถูกทำให้สว่างด้วยคริสตัลสีแดงเรืองแสงบนผนังซึ่งทำให้ผนังดู
เหมือนลาวาสีแดงเข้ม
แองเจเล่ตัดเนื้อสีแดงบนจานของเขาเป็นชิ้นๆและส่งเข้าปากด้วยส้อม
เนื้อนุ่มและรสชาติของกระเทียมก็ระเบิดในปากของเขา
"มันเนื้อสัตว์อะไรกัน มันเยี่ยมมาก" แองเจเล่มองไปที่วิเวียน
"ข้าดีใจที่เจ้าชอบมัน มันเป็นเนื้อสันนอกของลิซาร์ดไฟ" วิเวียนดื่มนม
ขาวจากแก้วและยิ้ม "ข้ารู้ว่าเจ้ากำลังเบื่อโบราณสถาน เจ้าสามารถ
กลับไปที่บ้านของเจ้าได้ถ้าเจ้าต้องการ ข้าจะไม่บังคับเจ้าให้อยู่ที่นี่ ด้วย
เหตุบางอย่างมันมีพลังงานแปลกๆเคลื่อนไหวในโบราณสถานหลังจาก
ที่เกิดอุบัติเหตุ..."
เธอหยุดชั่วครู่ก่อนที่เธอจะพูดต่อ "เจ้ามีเรืองของตัวเองที่จะต้องจัดการ
เจ้าเข้าร่วมหัตถ์ธาตุใช่ไหม ตรวจสอบให้แน่ใจว่าเจ้าทำงานพื้นฐาน
เนื่องจากผลตอบแทนมันเป็นสิ่งดีสำหรับสมาชิกใหม่ ข้ายังสามารถให้
ความช่วยเหลือแก่เจ้าได้เนื่องจากเจ้าเป็น..."

แองเจเล่ลังเลชั่วครู่แล้วเขาก็ขัดจังหวะ "ที่จริงแล้วข้าไม่เห็นพ่อมดหัตถ์
ธาตุมากนักในตอนที่ข้าเข้าร่วมองค์กร ทำไมมันถึงเป็นเช่นนั้น"
"เจ้าเป็นสมาชิกใหม่ดังนั้นเจ้าจึงยังไม่ได้เห็นอะไร พวกเขาบอกอะไรเจ้า
บ้าง สำนักงานใหญ่ของหัตถ์ธาตุไม่ได้เป็นเพียงแค่สถานที่ที่เจ้าเข้ามา
หอคอยเฝ้าระวัง หุบเขาสายลม ฟาร์มวานเดอเรอร์ แม่นํ้าทองและสภา
เป็นส่วนหนึ่งของสำนักงานใหญ่ขององค์กร มีพ่อมดมากกว่าหนึ่งพันใน
หัตถ์ธาตุแต่พวกเขาอาศัยอยู่ในพื้นที่ต่างกันซึ่งเป็นเหตุผลที่เจ้าไม่ได้
พบพวกเขามากนัก" วิเวียนอธิบาย
"ที่จริงข้าไม่รู้ว่าสำนักงานใหญ่เป็นสถานที่ที่เงียบสงบ ข้าเพียงแค่อยาก
รู้" แองเจเล่ยักไหล่
________
ตอนที่ 299: ค้นหา (2)
แปลนิยาย.วันพุธที่ 21 มีนาคม 2018
"ใช่ พ่อมดส่วนใหญ่ไม่ชอบสถานที่ที่เสียงดังเพราะพวกเขาต้องการ
สภาพแวดล้อมที่เงียบสงบสำหรับการทำวิจัยและการทดลองของพวก
เขา" วิเวียนพยักหน้าขณะที่เธอเอาเนื้อเข้าไปในปาก

ทันใดนั้นก็มีดวงตาสีแดงปรากฏข้างร่างกายของเธอ มันกำลังลอยอยู่
ในอากาศ
มันเป็นดวงตาที่ทำจากเปลวไฟ
วิเวียนหันไปมองที่ดวงตาและตรวจสอบ
"มีใครบางคนจากสภามาที่นี่ มากับข้า ข้าจะแนะนำเจ้ากับพวกผู้อาวุโส
ขององค์กร"
"ตกลง" แองเจเล่ตอบทันที
ภายในไม่กี่วินาทีพวกเขาก็รับประทานอาหารกลางวันเสร็จ
แล้ววิเวียนก็ยกมือขึ้น จานและเครื่องเงินทั้งหมดจมลงไปในโต๊ะและ
ของเหลือก็รวมกันในอากาศและกลายเป็นลูกบอลสีเหลือง ลูกบอลตก
ลงไปบนโต๊ะหลังจากผ่านไปหลายวินาทีและในไม่ช้าก็หายไป
พวกเขาออกจากห้องอาหารพร้อมกันและเดินผ่านอุโมงค์จนไปถึงห้อง
ประชุมที่กว้างขวาง
มีพ่อมดและแม่มดสวมชุดคลุมดำยาวกำลังยืนอยู่ที่นั่นอย่างเงียบๆ
วิเวียนพาแองเจเล่ไปที่นั่งของเขาและเธอก็นั่งลงทันที
"อะไรทำให้เจ้ามาที่นี่" เธอถามพ่อมดทั้งสองเสียงเบา
พ่อมดทั้งสองสวมของแปลกๆภายใต้ชุดคลุมของพวกเขา

พ่อมดสวมหน้ากากสีขาวที่ลึกลับซึ่งมีดวงตาแคบสีแดงสองดวงแต่ไม่มี
ปากหรือจมูกถูกทาไว้
"ท่านเฟนเรอร์" ผู้ชายก้าวไปข้างหน้า "ข้ามาที่นี่เพื่อแจ้งให้ทราบว่าการ
ลงทะเบียนของลูกชายท่านแองเจเล่เสร็จสิ้นเรียบร้อยแล้ว"
"ท่านเฟนเรอร์' มีอีกเสียงพูดขึ้น เธอมีผมบ๊อบที่มันยาวไม่เท่ากัน "สภา
อาวุโสต้องการให้ข้าส่งข้อมูลบางอย่างให้ท่าน"
"รออยู่ที่นี่" เธอมองไปที่ชายสวมหน้ากากแล้วพยักหน้า จากนั้นเธอก็ชี้
ไปที่แม่มด "ตามข้ามา แองเจเล่ เจ้าจะพูดกับเขาก็ได้ถ้าเจ้าต้องการ"
แองเจเล่พยักหน้าและเฝ้าดูพวกเธอออกจากห้องประชุม
"เชิญนั่งก่อน" แองเจเล่ชี้ไปที่เก้าอี้ที่วิเวียนเพิ่งนั่ง
"ไม่เป็นไร ขอบคุณ" ชายสวมหน้ากากตอบอย่างสุภาพ
"ตกลง" แองเจเล่ตอบ "ข้ามีคำถาม เมืองไหนที่อยู่ใกล้สำนักงานใหญ่ที่
อยู่ภายใต้การควบคุมขององค์กร"
"เมืองที่อยู่ใกล้สำนักงานใหญ่ที่สุดคือเมืองแอนเดียที่มีชื่อเสียงด้านอัญ
มณีและคริสตัล ท่านควรจะแวะไปถ้าท่านสนใจ" ชายสวมหน้ากาก
ตอบทันที
"เจ้าควรจะมาจากสภาที่ถูกพิจารณาให้เข้าโบราณสถานนี้ใช่ไหม" แอง
เจเล่ถาม เขาตรวจสอบชายสวมหน้ากากผ่านคลื่นพลังจิตของเขาแต่

มันก็ล้มเหลวในการกำหนดขั้นที่แน่นอนของชายคนนี้ซึ่งหมายความว่า
ชายสวมหน้ากากแข็งแกร่งกว่าเขา
"ท่านพูดถูก"
"เจ้าช่วยบอกข้าเกี่ยวกับหัตถ์ธาตุได้ไหม"
"แน่นอน"
ชายสวมหน้ากากคิดชั่วครู่แล้วเริ่มอธิบาย
"ในหัตถ์ธาตุหัวหน้าองค์กรและสภามีอำนาจสูงสุด พวกเขาควบคุม
เมืองส่วนใหญ่และสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆภายในอาณาเขตของ
องค์กร แม่ของท่านท่านเฟนเรอร์เป็นผู้อาวุโสลำดับที่สามในสภา แม้ว่า
สถานการณ์ในองค์กรยังมีความซับซ้อนเนื่องจากการต่อสู้ระหว่าง
หัวหน้าองค์กรและสภาพซึ่งกินเวลานานหลายปี"
"แล้วเจ้ามาที่นี่ทำไม...."
แองเจเล่ลุกขึ้นยืนหลังจากที่ชายคนนั้นปฏิเสธข้อเสนอของเขาแล้วพวก
เขาก็คุยกันต่อไปสักพัก
เขาแนะนำตัวเองกับแองเจเล่ ชื่อของชายหน้ากากชื่อว่าไซลิน เขาสวม
หน้ากากเพราะใบหน้าของเขาเสียโฉมอย่างถาวรระหว่างการทดลอง
การโดนแสงแดดจะทำให้เขาต้องทุกข์ทรมาน
แม่มดที่ชื่อว่าพิน่าเป็นกัปตันของกองทัพส่วนตัวของวิเวียน

จู่ๆก็มีจุดแสงสีนํ้าเงินที่ด้านหลังของมือขวาของไซลินเมื่อพวกเขาคุยกัน
เสร็จ
"ขอโทษด้วย"
"ตามสบาย' แองเจเล่ยิ้มแล้วโบกมือ
ดูเหมือนว่าไซลินจะไม่สนใจเรื่องแองเจเล่เพราะเขาไม่ได้ปรับความถี่
คลื่นพลังจิตของเขาแม้แต่น้อย
"เจ้าไม่สนใจว่าข้าจะแอบฟังหรือ" แองเจเล่ผงะเล็กน้อย
"ไม่เป็นไร มันไม่ใช่เรื่องส่วนตัว" ไซลินส่ายหัว "มันควรเป็นมือใหม่ที่มี
พรสวรรค์จากภูมิภาคของข้า"
เมื่อเขายกมือขึ้นเล็กน้อยแองเจเล่ก็ได้ยินเสียงเข้มมาจากรูนสื่อสาร
"ท่านไซลิน ลินด้าและโอเมก้าอยู่ที่นี่ ท่านต้องการเห็นพวกเขาหรือไม่"
เสียงเหมือนผู้หญิงที่พูดด้วยเสียงตํ่า
"โอเมก้าหรือ พวกเขาถูกเรย์โจมตี ไม่มีอะไรที่ข้าสามารถช่วยพวกเขาได้
เพราะเรย์และข้าไม่ได้เป็นเพื่อนกัน พวกเขาต้องหาทางออกด้วยตัวเอง"
ไซลินตอบทันที
"สถานการณ์ตอนนี้มันต่างออกไป น้องสาวของโอเมก้าถูกเรย์จับไป ลิ
นด้าบอกว่าเธอจะมาที่นี่ทุกวันถ้าท่านไม่ช่วยพวกเขา"

"เด็กคนนี้....เขาเป็นคนรักของลูกสาวของข้าแต่นั่นไม่ได้หมายความว่า
ข้าจะดูแลเขาได้ทุกครั้ง"ไซลินพูดไม่ค่อยออก"เอาล่ะ ส่งข้อความไป
หาเรย์และดูว่าเขาพูดอะไรข้าแทบไม่รู้จักเขาดังนั้นข้าจึงไม่แน่ใจว่ามัน
จะได้ผลหรือไม่ นอกจากนี้..."
ไซลินส่ายหัวแล้วมอบคำสั่งใหม่ผ่านรูนสื่อสาร
แองเจเล่รออยู่ข้างๆอย่างเงียบๆดูเหมือนว่าไซลินเป็นชายที่ทรงพลัง
ที่สุดในบางพื้นที่เขาโกรธในตอนแรกแต่เขาก็สงบลงทันทีและเขาก็คิด
ว่าจะทำอะไรได้อย่างรวดเร็วแล้วแผนของเขาก็มีประสิทธิภาพ
ไซลินปิดรูนสื่อสารหลังจากที่ทุกสิ่งทุกอย่างเสร็จสิ้น
"ขอโทษด้วยที่ให้รอ"
"ไม่เป็นไร"แองเจเล่ส่ายหัวเขารู้ว่าพิน่าและไซลินไม่ได้เป็นพ่อมดทั่วไป
ทั้งคู่เป็นส่วนหนึ่งของสมาชิกหลักของหัตถ์ธาตุและทั้งคู่ก็มีขอบเขต
อำนาจภายในอาณาเขต
พวกเขาเริ่มคุยกันอีกครั้ง
ในปัจจุบันไซลินได้รู้มานานแล้วว่าแองเจเล่เป็นคนที่สำคัญที่สุดกับวิ
เวียน แม้ว่าแองเจเล่จะอ่อนแอแต่เขาก็ยังต้องแสดงความเคารพไซลิ
นมีความสุภาพและมีมารยาทในการสนทนาเนื่องจากเขาต้องการทิ้ง
ความประทับใจแรกที่ดีให้กับแองเจเล่

แองเจเล่สังเกตเห็นว่าไซลินไม่ได้สนใจพฤติกรรมของเขาเขาไม่ได้ใส่ใจ
กับกลายเป็นเพื่อนกับคนที่มีอำนาจและทรงพลัง มีหลายสิ่งที่เขาอยาก
ทำในหัตถ์ธาตุและเขาไม่ต้องการพึ่งพาวิเวียนมากเกินไปในอนาคต
แต่การกลายเป็นลูกชายของผู้อาวุโสที่สามก็สะดวกและเขาต้องการที่
จะใช้ประโยชน์จากสิ่งนี้เพื่อพบกับสมาชิกหลักขององค์กร
วิเวียนกลับมาที่ห้องประชุมในขณะที่แองเจเล่ยังสนทนากับไซลิน พ่อ
มดทั้งสองจากไปทันทีหลังจากที่บอกลา
แองเจเล่หาข้ออ้างเพื่อกลับไปที่ห้องของตัวเอง
เขาล็อคประตูและตรวจสอบว่าห้องปลอดภัยหรือไม่
แมงป่องคริสตัลทำให้เขาสามารถปิดกั้นคลื่นพลังจิตที่แทรกแซงของ
เฮนน์ได้ เมื่ออยู่ภายในห้องของตัวเองมันก็ช่วยให้เขาไม่ถูกตรวจพบ วิ
เวียนได้ให้ความเป็นส่วนตัวกับเขาเนื่องจากข้อเท็จจริงที่ว่าเขาไม่ได้
พยายามเข้าสู่พื้นที่หวงห้ามในช่วงหลายวันที่ผ่านมา
เพื่อความปลอดภัยแองเจเล่ตัดสินใจที่จะทำสมาธิในห้องของตัวเอง
หน้ากากปีกทมิฬของเขายังติดอยู่ขั้นแรกและเขากำลังมีปัญหาในการ
คืบหน้าเทคนิคการทำสมาธิขั้นสูงแม้ว่าจะช้าแต่มันก็ยังดีกว่าเทคนิค
การทำสมาธิพื้นฐาน

ถ้าแองเจเล่สามารถก้าวไปสู่ขั้นต่อไปได้ระดับพลังจิตของเขาก็จะ
เพิ่มขึ้นเช่นกัน พลังจิตของเขาจะตรงกับข้อกำหนดในการกลายเป็นพ่อ
มดระดับสองเมื่อเขาประสบความสำเร็จในขั้นที่สองของหน้ากากปีก
ทมิฬนี่คือข้อดีของพ่อมดที่มีเทคนิคการทำสมาธิขั้นสูง
แองเจเล่จะได้รับการแจ้งเตือนถ้ามีการเปลี่ยนแปลงใดๆในคลื่นพลังจิต
ระหว่างการทำสมาธิแต่เขาก็ยังต้องการทำให้แน่ใจว่ามีสิ่งแวดล้อมที่
ปลอดภัย
เขาทำสมาธิอย่างต่อเนื่องจากตอนเที่ยงถึงกลางคืน วิเวียนออกจาก
โบราณสถานและทิ้งข้อความไว้ให้เขาผ่านรูนสื่อสารเธอจะกลับมาใน
อีกหลายวันและเธอถามว่าแองเจเล่ต้องการอะไรจากเมืองแล้ววิเวียนก็
บอกให้แองเจเล่อยู่ในโบราณสถานแต่อย่าเข้าไปพื้นที่หวงห้ามใดๆ
นี่เป็นช่วงเวลาที่แองเจเล่กำลังรอคอย
เขาได้เชี่ยวชาญคาถาระดับสองไพโรบลาสต์แล้ว อย่างไรก็ตามนี่ไม่ใช่
สุดที่สำคัญที่สุดของเขาเขามีแผนอื่นในใจ
แองเจเล่มั่นใจว่าโบราณสถานนี้เกี่ยวข้องกับสายเลือดโบราณของเขา
ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจที่จะเข้าดินแดนฝันร้ายที่สถานที่แห่งนี้เพื่อดูว่าจะ
เกิดอะไรขึ้น

เขาต้องการที่จะทำมันโดยที่วิเวียนและเฮนน์ไม่สามารถตรวจพบได้ วิ
เวียนได้ออกจากโบราณสถานและด้วยความช่วยเหลือของแมงป่อง
คริสตัลเขาก็สามารถเลือกช่วงเวลาและเข้าสู่ดินแดนฝันร้าย
อย่างไรก็ตามถ้าเขาล้มเหลวในการฟื้นฟูพลังงานของสายเลือดระหว่าง
การเดินทางนี่ก็อาจจะเป็นครั้งสุดท้ายที่เขาจะเข้าสู่ดินแดนฝันร้าย
เป้าหมายหลักของแองเจเล่คือการฟื้นฟูพลังงานของสายเลือดโบราณ
ฮาร์ปี้ยักษ์หรือค้นหาสายเลือดโบราณอื่น
******************************
ในช่วงดึก
แองเจเล่นั่งขัดสมาธิอยู่บนเตียงของเขาและหลับตา
แสงสีชมพูถูกปล่อยออกมาจากคริสตัลเรืองแสงบนผนังและห้องก็เงียบ
อย่างสมบูรณ์
"นี่เป็นโอกาสสุดท้ายของข้า" แองเจเล่ตรวจสอบสภาพของแมงป่อง
คริสตัล ยาของเขาและอุปกรณ์ของเขา นอกจากนี้เขายังเก็บคาถา
ระดับสองไว้ในชิปเพื่อให้เขาสามารถใช้ได้ทันทีเมื่อจำเป็น
คาถาระดับสองจะใช้พลังจิตของเขาครึ่งหนึ่ง แม้ว่าเขายังไม่ได้ทดสอบ
คาถาแต่เขาก็เชื่อว่ามันแข็งแกร่งกว่าแสงแห่งหนามของสิ่งประดิษฐ์เวท
มนต์ของเขา แองเจเล่ได้จำลองผลหลายครั้งดังนั้นเขาจึงมั่นใจ

เขาหายใจเข้าลึกๆเพื่อทำให้ใจเย็นลง
มีคลื่นพลังงานสีดำปลดปล่อยออกมาจากตราภาพลวงตาบนมือซ้าย
ของเขา
คลื่นสีดำค่อยๆเติมเต็มห้องและหายไปในอากาศ
'ข้าสามารถสำรวจดินแดนได้ครึ่งชั่วโมง......เวลาน้อยมาก' แองเจเล่
อ่านรายงานจากชิป
พลังที่เหลืออยู่ของสายเลือดช่วยให้เขาได้อยู่ในดินแดนฝันร้ายได้เป็น
ระยะเวลาสั้นๆ
'ช่างมันเถอะ ครึ่งชั่วโมงมันก็ดีพอ แม้ว่าข้าไม่สามารถหาสายเลือดที่ข้า
ต้องการได้ที่นี่ข้าก็ยังสกัดมันได้จากฮาร์ปี้ ปัญหาเดียวคือการพัฒนา
ตรา...' แองเจเล่ส่ายหัว
เขายกมือซ้ายขึ้นและชี้ไปข้างหน้า
ชี่
แองเจเล่หายไปจากเตียงอย่างไร้ร่องรอย
ตอนที่ 300: การสำรวจและความคิด (1)
แปลนิยาย.วันพุธที่ 21 มีนาคม 2018
ชี่

คลื่นพลังงานโปร่งใสปรากฏขึ้นบนเตียงอีกครั้ง
มีผู้ชายนั่งขัดสมาธิบนเตียงค่อยๆออกมาเมื่อคลื่นหายไปในอากาศ
แองเจเล่ค่อยๆลืมตาด้วยความรู้สึกที่สับสน
เขามองเห็นหมอกสีชมพูลอยอยู่ในห้องนอน
สถานที่นี้เงียบอย่างสมบูรณ์ เขาไม่ได้ยินเสียงที่เกิดจากลาวาผ่าน
อุโมงค์ได้อีกต่อไป
แองเจเล่ย่นคิ้วในขณะที่เขาลุกออกจากเตียง
เขาค่อยๆดึงดาบปลายโค้งต้องสาปออกมาและเปิดใช้งานบัพทำให้
พลังงานสีเขียวขึ้นมาตามข้อมือของเขา
'อากาศที่คุ้นเคย....ความรู้สึกนี้.....มันทำให้ข้ารู้สึกกังวลและตื่นเต้นใน
เวลาเดียวกัน...' แองเจเล่หรี่ตา ความกลัวของเขาในดินแดนที่ไม่รู้จักทำ
ให้หัวใจของเขาเต้นแรงขึ้น
ช่วงเวลานี้เป็นเหตุผลหลักที่ทำให้เขาสนุกกับการเป็นพ่อมด
ห้องนอนมันเงียบและสิ่งเดียวที่มีที่นี่คือหมอกแดง
แองเจเล่เดินไปที่ประตูและปลดล็อคอย่างระมัดระวัง
ด้ามจับประตูทองแดงมันแข็งและเย็น
แอ๊ดดด

ประตูถูกเปิดอย่างช้าๆทำให้เห็นอุโมงค์สีแดงเข้มข้างนอก
แองเจเล่ไม่ได้ออกจากห้องทันทีแต่รออยู่ที่ประตูอีกสักพักหนึ่ง
เขาไม่พบการเคลื่อนไหวใดๆที่อยู่ข้างนอก
เขาแตะถุงกระเป๋าของเขาเล็กน้อยและรูนรูปแมงป่องก็ปรากฏที่
หน้าผากของเขา จากนั้นแองเจเล่ก็เอาแสงแห่งหนามออกมาและจับไว้
ในมือแน่น
เขากระโดดออกจากประตูหลังจากที่ทุกสิ่งทุกอย่างพร้อมแล้ว
ปึก
เขาลงบนพื้นของอุโมงค์อย่างปลอดภัย
แองเจเล่มองไปรอบๆ สายตาในอุโมงค์มันเบลอเพราะหมอกสีแดงด้วย
เช่นกัน
เมื่อสูดหายใจเข้าลึกๆเขาก็สังเกตว่ามีกลิ่นกำมะถันลอยอยู่ในอากาศ
เป๊ง
มีเสียงเหมือนค้อนโลหะทุบไปที่ผนัง
'มันเป็นระฆังหรือ...' แองเจเล่ประหลาดใจ เขารีบปกคลุมร่างกายของ
เขาด้วยชั้นโลหะบางๆ
เป๊ง

ระฆังดังอีกครั้งและเสียงมันก็ดังก้องอยู่ในอุโมงค์
'มันอยู่ใกล้ๆ' แองเจเล่หันไปตามทิศทางของเสียงและเริ่มเดินไปอย่าง
ช้าๆ
อุโมงค์พาเขาไปสู่พื้นที่อื่นของโบราณสถานแต่วิสัยทัศน์ของเขาตํ่ามาก
แองเจเล่เดินหน้าไปด้วยความระมัดระวังแล้วเขาก็เลี้ยวซ้ายที่มุมและ
เข้าไปอีกอุโมงค์
หลายวินาทีต่อมาเขาก็พบที่มาของเสียง
อีกด้านของอุโมงค์มีนาฬิกาตู้ไม้โบราณขนาดมหึมา ฐานของตู้มีสีแดง
และนาฬิกามีสีขาว มันค่อนข้างสะดุดตา
โครงสร้างของนาฬิกาค่อนข้างแปลก มีค้อนสีดำโดนเศษโลหะสีแดง
และนั่นคือที่มาของเสียง
แองเจเล่หยุดข้างนาฬิกาและลูบผิวของแผงกระจก มันเย็นแต่ก็เรียบ
เนียน
คิ้วของเขาย่นเข้าหากันในขณะที่เขาก้าวไปข้างหน้าอีกครั้ง รูนลึกลับที่
เขาพบจากประตูนำทางเขาไปยังตำแหน่งหนึ่ง
เสียงจังหวะที่มาจากนาฬิกาก็ยังทำให้เขารำคาญหลังจากที่เขาผ่านไป
หลายอุโมงค์

เป๊ง เป๊ง เป๊ง เป๊ง
ทันใดนั้นเสียงที่มาจากนาฬิกาก็เริ่มรุนแรงขึ้น
เป๊ง เป๊ง เป๊ง เป๊ง เป๊ง เป๊ง เป๊ง เป๊ง เป๊ง เป๊ง
มันเหมือนมีใครบางคนกำลังตีเศษโลหะด้วยค้อนอย่างโกรธเกรี้ยว
แองเจเล่ดึงดาบปลายโค้งในขณะที่เขาหันกลับไปและเริ่มวิ่งกลับไปที่
นาฬิกาโบราณ
ตึกตึก ตึกตึก
เสียงฝีเท้าของเขาดังก้องอยู่ในอุโมงค์และเสียงที่มาจากนาฬิกาก็ดังขึ้น
เรื่อยๆ มันดูเหมือนว่านาฬิกากำลังพยายามถ่ายทอดอะไรบางอย่าง
แองเจเล่ลดตัวลงและเริ่มสแกนพื้นที่ด้วยชิป
เขาย่องไปที่มุมหนึ่งแล้วเขาก็หันกลับไปและพุ่งไปที่อุโมงค์ที่มีนาฬิกา
อยู่
ในขณะนั้นเสียงที่มาจากนาฬิกาก็หายไป
อุโมงค์มันเงียบและว่างเปล่า เขาไม่พบร่องรอยใดๆของนาฬิกาโบราณ
แองเจเล่ถอนหายใจอย่างช้าๆ สิ่งที่อยู่ข้างหน้าเขาเป็นผนังหินที่เรียบ
เนียนและสะอาด
ซ่าา

เขาได้ยินเสียงเหมือนวิทยุกำลังเปลี่ยนความถี่
"นี่คือโคลแมนและยาเสียงสุดท้ายของโคลแมนจะกลายเป็น
ความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตของเขา พ่อบอกว่าข้าจะกลายเป็น
ตำนานและข้ามั่นใจว่า..."
เสียงแปลกๆดังก้องอยู่ในหูของแองเจเล่ เขาถอยหลังไปหลายก้าวด้วย
สีหน้าที่เปลี่ยนไปและเริ่มวิ่ง
เสียงเหมือนเด็กผู้ชายและมันมาจากที่ไหนสักแห่ง
"โคลแมนชอบเกาลัด เขาชอบนํ้าผลไม้ เขาต้องการที่จะอยู่บนเตียง
ตราบเท่าที่เขาสามารถ...."
เสียงของเด็กผู้ชายเปลี่ยนไปและตอนนี้มันฟังดูน่ารัก
แองเจเล่เริ่มมีสีหน้าเคร่งเครียด เขาเร่งความเร็วมากขึ้นเมื่อเสียงมันดู
เหมือนจะทะลุผ่านคิ้วของเขา มันเกือบจะเหมือนกับการถูกแทงด้วย
ส้อมที่ศีรษะ
"อา....ข้าแทงพ่อของข้าโดยบังเอิญ พ่อเลือดออก พ่อจะตายหรือไม่ มัน
ไม่เป็นไรถ้าข้าเปลี่ยนเป็นร่างกายให้เขาและเขาจะมีชีวิตอยู่ตลอดไป!"
"ทำไมพวกเขาถึงกลัวข้า ข้าน่ารักมาก ข้าเกลียดพวกเขา! ข้าเกลียด
ผู้ใหญ่โสโครกเหล่านั้น!"

เสียงของเด็กผู้ชายค่อยๆเงียบลงและหายไปเมื่อแองเจเล่ออกจาก
อุโมงค์
เขารีบหยุด ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยเหงื่อ
เส้นทางข้างหน้ามันมืด เมื่อแองเจเล่หันหัวกลับไปสิ่งเดียวที่เขาเห็นคือ
ความมืด
เขาไม่รู้ว่าตอนนี้เขาอยู่ที่ไหน เสียงของเด็กผู้ชายกำลังจะฆ่าเขาและเขา
แทบจะคิดอะไรไม่ออก พ่อมดต้องมีสมาธิก่อนที่เขาจะสามารถต่อสู้
กลับได้ นั่นเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมเขาถึงหลบหนีจากพื้นที่นั้น
'ซีโร่ แสดงแผนที่ให้ข้าดู'
[กำลังตรวจสอบ......คำเตือน......คำเตือน.....พบเส้นทางที่ไม่คุ้นเคย...]
แผนที่นํ้าเงินถูกแสดงอยู่ข้างหน้าของตาซ้ายของแองเจเล่ที่มีชื่อว่า'แผน
ที่ต้นฉบับโบราณสถาน'
จากนั้นแผนที่สีแดงก็ปรากฏอยู่ข้างหน้าตาขวาของเขาซึ่งเขาไม่เคยเห็น
มาก่อน
แองเจเล่สังเกตทั้งสองแผนที่อย่างระมัดระวัง เส้นทางที่เขาเลือกถูกทำ
เครื่องหมายไว้บนแผนที่สีแดงแต่พื้นที่เดียวที่มีอยู่คือพื้นที่ที่อยู่อาศัย
นอกจากนี้เขาสังเกตเห็นว่าเส้นทางบนแผนที่เป็นเส้นตรง

แองเจเล่มั่นใจว่าเขาได้เลี้ยวหลายครั้งระหว่างทางที่เดิน
เขาเปรียบเทียบแผนที่สีแดงกับแผนที่สีนํ้าเงินและตระหนักว่าพวกมัน
แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง
แองเจเล่หายใจเข้าลึกๆและสงบลง เขาตรวจสอบสภาพแวดล้อม
รอบตัวแต่เขาก็ไม่พบคลื่นพลังงานแทรกแซงใดๆ
เขาจับดาบปลายโค้งแน่นและเริ่มเดินอีกครั้ง
หลายนาทีต่อมาก็มีภาพวาดปรากฏอยู่ทางด้านขวา มันมีขอบสีทอง
ภาพที่มีสีและกรอบที่สะอาด
แองเจเล่หยุดข้างภาพวาดและมองไปที่มัน
เขาเห็นเมืองในภาพวาด มีชายสองคนยืนอยู่ตรงกลางถนน พวกเขาไม่
เข้ากับภาพเพราะไม่มีรายละเอียดบนใบหน้าของพวกเขา
มันรู้สึกเหมือนกับว่าชายสองคนกำลังถูกเด็กดึงแต่เมืองนี้ก็วาดโดย
ศิลปิน
ทันใดนั้นชายสองคนก็เริ่มเคลื่อนไหวในสายตาของแองเจเล่
พวกเขาจับมือกันและเริ่มขยับไปรอบๆเมือง
"อา....ลูกชายข้า....เจ้าจะไปที่ไหน กลับมา.....กลับบ้าน.....อย่าไป...."

เสียงผู้หญิงที่ดูอ่อนโยนดังก้องอยู่ในโถงฟังดูราวกับว่าเธอกำลังพึมพำ
และร้องเพลง
แองเจเล่มองไปรอบๆ สถานที่นี้ว่างเปล่าและไม่มีใครอยู่รอบๆ
เขาเริ่มรู้สึกไม่ดี
เขาตัดสินใจที่จะไปต่อ เสียงของผู้หญิงค่อยๆหายไป
สุดอุโมงค์มีประตูสีชมพู มันเปิดครึ่งหนึ่งและมีแสงสีขาวเล็ดลอด
ออกมา
เขาค่อยๆเดินไปที่ประตูและมองเข้าไปด้านใน
อีกด้านของประตูกำลังมีแมวสองตัวเล่นหมากรุกอยู่มุมหนึ่ง ขนมีสีขาว
แต่ก็มีอุ้งเท้าและขา พวกมันมีแขนขวาของมนุษย์ลํ่าสันที่มีสีเหลือง
พวกมันใช้มือมนุษย์จับตัวหมากรุก
แมวสองตัวกำลังมุ่งมั่นกับกระดานหมากรุกโดยไม่ได้สังเกตเห็นพ่อมด
นอกประตู
แองเจเล่ใช้เทคนิคย่องเบาและก้าวเข้าไปในประตูโดยเคลื่อนที่ไป
ทางขวา
เขาไม่ได้ต้องการที่จะทำให้แมวทั้งสองตัวตกใจ แองเจเล่รู้อยู่แล้วว่า
ดินแดนนี้มันอันตรายแค่ไหน เขามั่นใจว่าระดับความอันตรายของ

โบราณสถานสูงกว่าบ้านของเขาในพื้นที่หกวงแหวนและตอนนั้นเขาก็
เกือบตาย
แองเจเล่เป็นพ่อมดที่แข็งแกร่งกว่าก่อนหน้านี้แต่เขาก็ไม่อยากทดสอบ
โชคกับสิ่งมีชีวิตฝันร้ายกลายพันธุ์เหล่านั้น เต่าชราที่เขาพบข้างแม่นํ้าก็
เกือบทำให้เขาเป็นหิน
แมวสีขาวสองตัวยังมุ่งมั่นกับกระดานหมากรุกหลังจากที่แองเจเล่เข้า
ห้อง ดูเหมือนว่าเทคนิคย่องเบาได้ผล
เขาเดินผ่านห้องอย่างปลอดภัยและพบประตู แองเจเล่เปิดประตูและ
เข้าไปในทางเดิน
แองเจเล่ตระหนักว่าพื้นที่ข้างหน้าเป็นสถานที่ฝึกคาถา วิสัยทัศน์ยังตํ่า
เนื่องจากไม่มีแสงและมีหมอกสีแดง
เขามองไปทางซ้ายและเห็นผนังที่ปกคลุมไปด้วยเถาวัลย์สีดำ ตรงกลาง
ผนังถูกแกะสลักเป็นรูปใบหน้าของผู้หญิง
ผนังที่มีการแกะสลักนั้นสามารถดูดซับความเสียหายของคาถาได้เป็น
จำนวนมากและพวกมันก็เหมาะกับการฝึกคาถา
แองเจเล่เดินไปที่ผนังและตระหนักว่ามีบางอย่างที่ต่างออกไป
ทันใดนั้นดวงตาสีดำบนใบหน้าของผู้หญิงก็กลอกหลายครั้งแล้วจ้องมา
ที่แองเจเล่

กะโหลกของแองเจเล่ชาหลังจากที่เห็นสิ่งที่เพิ่งเกิดขึ้น
"ยินดีต้อนรับเข้าสู่ดินแดนนี้แขกที่รักของข้า" ใบหน้าของผู้หญิงเปิดปาก
และพูดในภาษาสากลโบราณ
"เข้ามาใกล้ๆ อย่ากลัวข้าจะไม่ทำร้ายเจ้า"
แองเจเล่เลียริมฝีปากที่แห้งผากของเขาและก้าวไปข้างหน้าพร้อมกับ
ดาบปลายโค้งในมือ

ไม่มีความคิดเห็น :

แสดงความคิดเห็น