วันเสาร์ที่ 14 มีนาคม พ.ศ. 2563

ตอนที่317: แม่น้ำภูเขาไฟ (2) แปลนิยาย.วันศุกร์ ที่ 6 เมษายน 2018 ถ้าแองเจเล่สามารถหาแม่น้ำที่เป็นพิษและเต็มไปด้วยอนุภาคพลังงาน ไฟข้อกำหนดที่สองก็จะเติมเต็มได้ง่ายเนื่องจากแมงป่องเพลิงมักจะ อาศัยอยู่ในที่แบบนั้น แองเจเล่สังเกตเห็นว่าถึงแม้ว่าจะสำเร็จขั้นที่สองของแกนแม่น้ำมัลเท็น มันก็จะช่วยให้พ่อมดถึงระดับหนึ่งได้ง่ายกว่าวิธีทั่วไปที่มักจะใช้ในฝั่ ง ตะวันตก เขาได้เตรียมการอย่างละเอียดและแม้แต่ดื่มยาหลายครั้งก่อนที่เขาจะ ตรงตามข้อกำหนดในการก้าวไปสู่พ่อมดระดับหนึ่ง การฝึกฝนโดยใช้ เทคนิคการทำสมาธิขั้นสูงเป็นหนึ่งในเหตุผลที่มีพ่อมดทางการมากมาย ในทวีปกลาง 'น้ำที่เป็นพิษต่อร่างกายที่มีอนุภาคพลังงานไฟ.....ในอาณาเขตของหัตถ ์ ธาตุมีเพียงแม่น้ำภูเขาไฟที่รู้จักกันในชื่อแนชเท่านั้นที่ตรงตามเงื่อนไข' แองเจเล่ได้ตรวจสอบแผนที่ที่เก็บไว้ในชิปและได้ข้อสรุปนี แม่น้ำภูเขาไฟนี้ตั้งอยู่ที่อีกฟากของแม่น้ำแบส แม้ว่าจะไม่ไกลแต่มันก ็ ยังใช้เวลาสองวันในการไปถึงสถานที่นั้ น 'ดี มันไม่ได้เป็นภารกิจลับหรืออะไรที่ใกล้เคียง ข้าอาจจะมุ่งหน้าไปที่นั่ น กับลิฟเพื่อไม่ให้วิเวียนต้องเป็นห่วงข้า' แองเจเล่ตัดสินใจและมุ่งหน้าไป ที่ห้องทดลองของลิฟที่อยู่ชั้นล่าง ก๊อก ก๊อก เขาเคาะประตูหลายครั้ง "แองเจเล่หรือ มันดึกแล้ว เกิดอะไรขึ้น" เสียงของลิฟมาจากภายใน ประตู "ข้าต้องการไปที่แม่น้ำภูเขาไฟ อนุภาคพลังงานไฟในสถานที่นั้นจะช่วย ข้าอย่างมากในการทำสมาธิเจ้าต้องการไปกับข้าหรือไม่ข้าวางแผนที่ จะไปพรุ่งนี้" แองเจเล่ถาม "แน่นอน" ลิฟเปิดประตูแล้วมองที่แองเจเล่ปัจจุบันเธอสวมเสื้อคลุมสี ขาวโปร่งใสที่ค่อนข้างโป๊ แองเจเล่ไม่สนใจร่างกายของเธอเพราะเขาไม่ชอบลักษณะของลิฟ หลังจากที่ได้สังเกตเธอตั้งแต่ช่วงแรก ลิฟเป็นแม่มดที่ทรงพลังแต่ดื้อดึงและบอบบาง เธอเกลียดการพ่ายแพ้ที่ จริงเธอไม่เคยบอกใครเกี่ยวกับเรื่องที่เธอซ้อมกับแองเจเล่ "เดี๋ยวก่อน ข้าคิดว่าท่านวิเวียนมีลูกแก้วไฟที่เตรียมไว้ให้เจ้า เจ้าได้ลอง มันหรือยัง" ลิฟถาม "พ่อมดทุกคนที่ฝึกแกนแม่น้ำมัลเท็นต้องใช้ลูกแก้ ว ไฟเหล่านั้น พวกมันเยี่ยมมาก" "ข้าได้ลองใช้ลูกแก้วไฟแล้วแต่มันไม่ได้ผล และข้าไม่ต้องการใช้ราก มังกรแดง ข้าคิดว่าพื้นที่ที่มีอนุภาคพลังงานเข้มข้นจะช่วยเพิ่ม ความก้าวหน้าของข้า ข้ามีแผนของตัวเอง ไม่ต้องห่วงเรื่องนี้" แองเจเล่ต อบด้วยน้ำเสียงผ่อนคลาย "เพียงแค่เตรียมตัวให้พร้อม เราจะออก เดินทางวันพรุ่งนี้ " "เอาล่ะ ข้าจะจัดการทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อที่เราจะได้ออกไปวันพรุ่งนี้" ลิ ฟ ไม่ได้ถามคำถามมากมาย "อา มีอีกเรื่องหนึ่ง งานเลี้ยงอาหารค่ำของท่านโชโซจะจัดขึ้นในตอนเย็น วันอาทิตย ์ตรวจสอบข้อความของเจ้าด้วย" แองเจเล่ลังเลชั่วครู่และยกมือขวาขึ้ น รูนรูปอินทรีเปลวเพลิงสีแดงปรากฏบนเล็บของเขา มีเสียงที่ชัดเจนดังในหูของเขา "วันอาทิตย์ตอนสองทุ่ม งานจะจัดขึ้นที่เมืองโรโฟ ตรวจสอบเวลาด้วย ท่านโชโซบอกว่าเจ้าเป็นแขกรับเชิญหลัก" มันเป็นเซธ แองเจเล่ได้ลืมเรื่องนี้ไปนานแล้วในช่วงที่ทำสมาธิเขาได้ปิดใช้งานรูน สื่อสารในเวลานั้นเพื่อทำให้เขามีสมาธิ เขาเปิดใช้งานรูนอีกครั้งหลังจากที่ลิฟเตือนเขาเรื่องงานเลี้ยง ข้อความ ของเซธได้รับมาเมื่อสองวันก่อน "เรียบร้อย ขอบคุณ ข้าเกือบลืมเรื่องนี้ไปแล้ว" แองเจเล่ถูขมับ "ราตรี สวัสดิ์ " "ราตรีสวัสดิ์" ลิฟหันกลับไปและปิดประตูเสียงดั ง แองเจเล่รู้สึกอึดอัดเล็กน้อย จากนั้นเขาก็ออกจากห้องของลิฟและเดิน ขึ้นบันไดตรงไปยังห้องนอนของตัวเอง 'แม่น้ำภูเขาไฟอยู่ไม่ไกลจากเมืองโรโฟ ข้าจะมุ่งหน้าไปที่แม่น้ำภูเขาไฟ ก่อนแล้วค่อยเข้าเมืองโรโฟ' แองเจเล่ได้วางแผนทุกสิ่งทุกอย่างไว้ในใจ 'ยาหมอกพิษเกือบจะสมบูรณ์แล้วเช่นกัน ข้าต้องส่งไปที่หอคอยพ่อมด มืด รางวัลมันดีกว่าที่ข้าใช้เวลาหาหลายปี' เขาไม่ได้พูดกับเฮนน์ตั้งแต่การสนทนาครั้งล่าสุด มันดูเหมือนว่าภารกิจ ที่ล้มเหลวได้ปลุกเธอขึ้นมา เธอตระหนักว่าความเกลียดชังกำลัง ครอบงำจิตใจเธออยู่ดังนั้นเธอจึงตัดสินใจที่จะสงบสติอารมณ ์ศัตรูตัว ฉกาจของเฮนน์เป็นแม่มดที่ชื่ออริสม่า ดูเหมือนว่าเธอมีบางอย่างที่สำคัญต้องจัดการแต่แองเจเล่ไม่รู้ว่ามันคือ อะไร แองเจเล่ไม่ได้กังวลเกี่ยวกับเพทุบายของเฮนน์เนื่องจากแกนแม่น้ำ มัลเท็นมันสำคัญกับเขามากกว่า เขามีรูปแบบคาถาระดับสองพอและ เขาต้องการเพิ่มพลังจิตของเขาให้ถึง 120 นอกจากนี้เขายังต้องการที่ จะใส่ธาตุลงในพลังจิตของเขา แองเจเล่ยังไม่ได้ตัดสินใจที่จะใช้วงเวทระดับสองตัวไหนแต่ขั้นตอนที่ สองของแกนแม่น้ำมัลเท็นมันสำคัญกับเขาในตอนนี ***************************** สามวันต่อมา.... ทางใต้ของแม่น้ำแบส แม่น้ำภูเขาไฟ จุดสูงสุดของภูเขาแนชปกคลุมไปด้วยทุ่งหญ้าและมันดูเหมือนกระดาษ สีเขียวที่มีรูขนาดมหึมาตรงกลาง แม่น้ำยาวสีเขียวที่อยู่ภายในรูลึก แม่น้ำสะอาดและมันดูเหมือนมรกตโปร่งใส สิ่งที่แปลกคือมันมีควันพุ่ง ออกมาจากแม่น้ำ ท้องฟ้าปกคลุมไปด้วยเมฆหนา มีกลุ่มจุดสีดำขนาดเล็กค่อยๆใกล้เข้า มาที่ยอดเขาและพวกมันก็ดูเหมือนนก สิบนาทีต่อมาจุดสีดำก็เริ่มลงจอด มันเป็นกลุ่มอินทรีสีดำขนาดมหึมา และมีคนชุดคลุมดำนั่งอยู่บนหลังของพวกมัน ตึก อินทรีลงจอดข้างรูลึกบนยอดเขาอย่างปลอดภัย มีชุดคลุมดำกระโดดออกมาจากหลังของอินทรีทีละคนๆและเริ่ม ตรวจสอบสภาพแวดล้อม ชุดคลุมดำได้เอาฮู้ดออกเผยให้เห็นใบหน้าที่ดูธรรมดา เขามีผมสั้นสี น้ำตาลและมีรอยเงินบนผิวของเขา มันเป็นแองเจเล่ที่มีแสงสีแดง ล้อมรอบดวงตาของเขา ชุดคลุมดำคนอื่นได้เอาฮู้ดออกด้วยเช่นกัน ลิฟยืนอยู่ข้างซ้ายของแอง เจเล่และชายหัวล้านที่มีใบหน้าเย็นชายืนอยู่ด้านขวา "สถานที่นี้งั้นหรือ" แองเจเล่มองไปรอบๆและถามเสียงเบา "ที่นี่คือแม่น้ำ ภูเขาไฟใช่หรือไม่" "ใช่แล้ว" ลิฟพยักหน้าเล็กน้อย "ฮาคีมนั้นคุ้นเคยกับพื้นที่นี้ " ชายหัวล้านมีรอยยิ้มแปลกๆบนใบหน้าของเขา "ท่านแองเจเล่ให้ข้า แนะนำพื้นที่นี้ให้กับท่าน มีแมงป่องและจิ้งจกเพลิงมากมายที่นี่ พวก มันอาจะเป็นอันตรายได้หากพวกมันจับท่านออกจากการเฝ้าระวัง เรา จะปลอดภัยถ้าเราไม่โจมตีพวกมันก่อน นอกจากนี้หมอกที่อยู่เหนื อ แม่น้ำเป็นพิษอย่างมาก ถ้าท่านมีความต้านทานต่ำข้าขอแนะนำให้ ท่านอยู่ห่างจากแม่น้ำ จิ้งจกและแมงป่องจะโจมตีถ้าท่านได้รับบาดเจ็บ จากหมอกพิษ" แองเจเล่พยักหน้าเล็กน้อยหลังจากที่ได้ยินคำอธิบาย "มีคนอื่นอยู่ที่นี่ใช่ไหม ข้าตรวจพบคลื่นพลังจิตของพ่อมดคนอื่น" "ใช่ไข่ของจิ้งจกมันมีค่า พ่อมดมักจะมาที่นี่บ่อยๆ ข้าคิดว่าพ่อมด เหล่านั้นมาจากตระกูลขนาดเล็ก" ฮาคีมตอบอย่างรวดเร็ว เขาเป็นพ่อมดระดับสองที่แข็งแกร่งจากยามรักษาการณ์ดังนั้นลิฟจึ ง บอกสำนักงานใหญ่ให้ส่งชายคนนี้มาปกป้องแองเจเล่นอกจากนี้ยังมี พ่อมดระดับหนึ่งขั้นคริสตัลหกคนในทีมคุ้มกันและทุกคนเป็นสมาชิก ของยามรักษาการณ ์ ฮาคีมยังได้นำของมาให้แองเจเล่ที่ส่งมาจากวิเวียน แหวนทับทิมขนาด เล็กที่มีอาคมจากผู้อาวุโสสาม แหวนนี้เป็นแหวนเวทมนต์คุณภาพสูงที่ มีความสามารถป้องกันที่แข็งแกร่ง เนื่องจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อหลายปีก่อนวิเวียนจึงส่งกองกำลังมา กับเขาถ้าเขาต้องการออกจากพื้นที่คฤหาสน ์ "เอาล่ะ งั้นไปแม่น้ำภูเขาไฟกันเถอะ ข้าต้องจับแมงป่องเพลิงสิบตัวแต่ เจ้าไม่ต้องช่วยข้า" แองเจเล่หันไปมองพ่อมด "ภารกิจของเราคือการปกป้องท่านและทำตามคำสั่งของท่าน" แม่มดคน ที่ยืนอยู่ข้างหน้าตอบ "มาชาและโกแลนไปค้นหาแมงป่องเพลิง กรีนแลนด์ใช้ใยแมงมุมของ เจ้าหลังจากที่พบสิ่งมีชีวิตเหล่านั้น!" "ครับหัวหน้า!" พ่อมดตอบอย่างรวดเร็ว มันแสดงให้เห็นว่าพวกเขา ได้รับการฝึกฝนมาดี กรีนแลนด์ออกจากทีมพร้อมกับพ่อมดอีกสามคนและเริ่มค้นหาพื้นที่ รอบแม่น้ำ มาชาและโกแลนเอาม้วนสีดำออกมาสองม้วนและเริ่มร่าย คาถา มีแสงสีขาวบนม้วนและแมลงสีดำนับไม่ถ้วนก็ปรากฏออกมา พวกมัน ผ่านพ่อมดและออกจากที่นั่นทันที ฮาคีมได้เดินมาหาแองเจเล่และอธิบายเสียงเบา "นี่เป็นแมลงพิเศษที่ฝึก โดยยามรักษาการณ ์พวกมันสืบพันธ์ได้อย่างรวดเร็วและพวกมัน สามารถตรวจพบคลื่นพลังงานที่ปลดปล่อยออกมาโดยสิ่งมีชีวิตกลาย พันธุ์ได้อย่างง่ายดาย" "ฟังดูดี" แองเจเล่พยักหน้าและรออย่างอดทนในตำแหน่งเดิมของเขา เวลาได้ผ่านไปอย่างรวดเร็ว ครึ่งชั่วโมงต่อมา "อา!" ทันใดนั้นเขาก็ได้ยินเสียงคนกรีดร้องอยู่ด้านหน้า "เกิดอะไรขึ้น!" หัวหน้าหญิงตะโกน เสียงของเธอถูกเพิ่มขึ้นจากอนุภาค พลังงาน พ่อมดที่ออกจากทีมตอบกลับทันทีโดยใช้รูนสื่อสาร การแสดงออกของหัวหน้าหญิงเริ่มเคร่งเครียด เธอเดินมาหาแองเจเล่อ ย่างรวดเร็วหลังจากที่ตรวจสอบข้อความ "ท่านแองเจเล่มันดูเหมือนว่าเราจะมาที่นี่ในช่วงเวลาที่ไม่ดีมีพ่อมด มากมายจากหลายตระกูลอยู่ที่จุดสูงสุดของภูเขาหลายเดือนและมันดู เหมือนว่าพวกเขากำลังค้นหาบางอย่าง พ่อมดที่ข้าส่งออกไปได้จั บ สมาชิกคนหนึ่งของพวกเขาและนั่นเป็นข้อความที่เขาส่งมา" "หืม" แองเจเล่ประหลาดใจเล็กน้อย "น่าสนใจ ภูมิหลังของตระกูล เหล่านั้นเป็นอย่างไร" "ท่านเป็นสมาชิกคนสำคัญของหัตถ์ธาตุและพวกขาเป็นเพียงสมาชิก ของตระกูลนอกเมืองใหญ่ มันไม่ต้องกังวลเลย" หัวหน้าหญิงตอบ ลิฟหัวเราะในขณะที่เธอก้าวไปข้างหน้า "ข้าได้ยินมาว่ามีคนพบโบราณ สถานที่เต็มไปด้วยสมบัติเมื่อหลายเดือนก่อนและมันดูเหมือนว่าผู้คน มาที่นี่เพื่อสิ่งนั้น....ข่าวลืออาจจะเป็นความจริงมิฉะนั้นพวกเขาก็คงจะ ไม่อยู่ที่นี่เป็นเวลานาน" "สมบัติหรือ" แองเจเล่ไม่สนใจ วิเวียนสามารถหาวัสดุส่วนใหญ่ที่เขา ต้องการได้และเขาสงสัยว่าสมบัติเหล่านั้นมีมูลค่าหรือไม่"ช่างมันเถอะ เราสนใจแค่เรื่องของเราก็พอ" "ค่ะ" หัวหน้าหญิงพยักหน้า มีรูนสีแดงบนหลังมือขวาของเธอและเธอก ็ ส่งคำสั่งไปยังพ่อมดทันที หลายนาทีต่อมาชุดคลุมดำคนหนึ่งก็วิ่งไปหาหัวหน้าอย่างรวดเร็วพร้อม กับชายในมือ มีป่าขนาดเล็กหลายแห่งใกล้ๆรูลึกตรงกลางและแองเจเล่ยังพบภูเขาที่ อยู่อีกด้าน ภูเขาสองลูกเชื่อมต่อกันด้วยฐานแคบๆ เขามองเห็นทะเลต้นไม้สีเขียวเข้มบนยอดของภูเขาอีกลูก มันดูเหมือนว่าชุดคลุมดำได้จับชายคนนี้มาจากป่าที่อยู่อีกด้าน ตอนที่318: สมบัติลับ (1) แปลนิยาย.วันจันทร์ที่9 เมษายน 2018 แองเจเล่เฝ้าดูพ่อมดมาหาเขาแล้วเขาก็มองไปที่คนรอบๆ "ข้าจะปล่อยให้พวกเจ้าจัดการกับพ่อมดที่เราจับมา แจ้งให้รู้แค่เรื่องธุระ ของเราเองก็พอ" เขาสั่ง "ตกลง" ลิฟพยักหน้าตอบ เธอดึงกระดูกคริสตัลไม่กี่ชิ้นออกมาจากถุ ง กระเป๋า เธอทำเป็นวงกลมขนาดใหญ่เมื่อเธอวางกระดูกไว้บนพื้น ฮาคีมดึงดาบของเขาออกมาและเดินไปที่อีกด้านเพื่อให้แน่ใจว่าจะไม่มี ใครมาสอดแนมกลุ่มของพวกเขา หัวหน้าหญิงรอผู้ใต้บังคับบัญชารายงานกลับ เธอเงยหน้าขึ้นทันทีเมื่อ ฟังรายงาน "เราได้จับแมงป่องเพลิงสำเร็จแล้วท่านแองเจเล่" "เอามันมาที่นี่" แองเจเล่พยักหน้าเล็กน้อย "ค่ะ" แล้วหัวหน้าหญิงก็ได้ส่งข้อความไปหาผู้ใต้บังคับบัญชาของเธอและปิด ใช้งานรูนสื่อสาร "พวกเขาจะมาที่นี่ในอีกสิบนาที" เธอมองที่แองเจเล่ แองเจเล่ยืนอยู่ข้างหลุมลึกในขณะที่เขาอดทนรอการมาถึงของพวกเขา ลมหนาวได้พัดผ่านสุดสูงสุดของภูเขาอย่างต่อเนื่อง มันได้พัดผ่านชุด คลุมยาวสีดำของเขาแต่คลื่นความร้อนที่รุนแรงจากแม่น้ำไม่เคยหยุดนิ่ง ประสบการณ์นี้มันคล้ายกับการเปิดน้ำร้อนในช่วงฤดูหนาว พ่อมดได้กลับมาพร้อมกันหลังจากผ่านไปสิบนาทีเป๊ะจากสามทิศทางที่ แตกต่างกัน แมงป่องเพลิงถูกผูกไว้ด้วยเชือกที่มีแสงสีแดง ในขณะเดียวกันหนึ่งในนั้นก็กำลังแบกสองศพที่ถูกเผาไหม้ที่มีรูปร่าง เหมือนมนุษย ์ พวกเขาโค้งให้แองเจเล่พร้อมกันเมื่อพวกเขามาถึง "นายท่าน เราได้จับแมงป่องเพลิงทั้งหมดเจ็ดตัว" หนึ่งในชุดคลุมดำ ตอบ หลังจากที่ตอบสนองด้วยการพยักหน้าแองเจเล่ก็เดินไปที่แมงป่อง เหล่านั้นที่กำลังหมอบอยู่แล้วเริ่มตรวจสอบเปลือกของพวกมัน แมงป่องเพลิงเหล่านี้ดูคล้ายกับแมงป่องแดงทั่วไป อย่างไรก็ตามมันก ็ ใหญ่กว่าและดูดีกว่า เปลือกของพวกมันดูคล้ายเซ็ตชุดเกราะโลหะสี แดง พวกมันไม่ได้กำลังดิ้นหรือขยับแม้แต่น้อยเพราะดูเหมือนว่าพวกมันจะ ถูกทำให้หมดแรงด้วยเชือกสีแดง แองเจเล่กดลงไปที่เปลือกหนึ่งอย่างแรง มันแข็งกว่าที่เขาคิด ความ แข็งแกร่งของเขาควรจะอยู่ในระดับที่ยอดเยี่ยมแต่เขาก็ไม่สามารถทำ ให้เปลือกแตกได้ด้วยมือของเขา นอกจากนี้เมื่อเขาเข้าไปหาแมงป่องเหล่านี้เขาก็รู้สึกได้ถึงกลิ่นแปลกๆ ในอากาศ บรรดาพ่อมดได้เรียงแมงป่องทั้งหมดข้างหน้าแองเจเล่แต่ละคนจับได้ มากกว่าหนึ่งตัวและมันก็ยาวครึ่งเมตร "ปลุกพวกมัน" แองเจเล่ลุกขึ้นยื น "ครับ" พ่อมดคนหนึ่งก้าวไปข้างหน้าและเอาขวดสีดำขนาดเล็กที่เต็มไป ด้วยผงสีเทาออกมาแล้วเขาก็ค่อยๆโรยผงใส่ที่แมงป่อง กลิ่นเหม็นของผงมันเป็นกลิ่นเหมือนผงพริก หลังจากผ่านไปหลายวินาทีแมงป่องเพลิงก็เริ่มขยับอีกครั้ง "ฟ่อ....ฟ่ออออ..." พวกมันเริ่มส่งเสียงทันทีหลังจากที่ตื่ น "พวกมันมีความรู้สึกหรือไม่" แองเจเล่ย่นหน้าผากเมื่อถาม "พวกมันควรไม่มีแต่บางทีพวกมันอาจจะมีวิธีการติดต่อสื่อสารของ ตัวเอง" ลิฟอธิบาย "อืม มีใครรู้วิธีติดต่อสื่อสารกับพวกมันหรือไม่" แองเจเล่มองไปรอบๆ ไม่มีใครตอบ พ่อมดของยามรักษาการณ์ทุกคนเป็นหัวกะทิ ไม่มีใครใน พวกเขาที่จะลดตัวต่ำลงเพื่อเรียนรู้วิธีติดต่อสื่อสารกับสิ่งมีชีวิตระดับต่ำ สำหรับพวกเขาการเรียนรู้ภาษาที่ใช้โดยสิ่งมีชีวิตระดับต่ำเหล่านี้มัน เป็นแค่เรื่องเสียเวลา "ข้าขอโทษแต่..." ฮาคีมก้าวมาข้างหน้าและพูดด้วยเสียงที่เต็มไปด้วย ความรังเกียจ "เนื่องจากพวกเราเป็นพ่อมดสิ่งมีชีวิตเหล่านี้จึงไม่คุ้มค่า กับเวลาของเรา ข้าควรจะใช้เวลาในการสื่อสารกับปุถุชนมากกว่า" "ไม่เป็นไร" แองเจเล่พยักหน้า "ให้ข้าฆ่าพวกมันแล้ว...." "เดี๋ยวก่อน!" มีเสียงชายที่อ่อนแอดังขัดจังหวะจากอีกด้านหนึ่ง เสียงของชายคนนี้ดึงดูดความสนใจของทุกคน มันเป็นพ่อมดที่หมดสติก่อนหน้านี้ที่ถูกจับมา เขาสวมเสื้อผ้าสีเทาที่มีการตกแต่งอย่างหรูหราและดูเหมือนขุนนางที่ เป็นตระกูลที่ดีเขามีผมสีบลอนด ์อย่างไรก็ตามมันก็ดูยุ่งเนื่องจากเขา ได้ถูกแบกมายังสถานที่นี้โดยไม่รู้ตั ว ชายคนนี้มองแองเจเล่ด้วยสีหน้ากังวล "นายท่าน! ข้าสามารถสื่อสารกับแมงป่องเพลิ่งเหล่านี้ได้!" "เจ้างั้นหรือ" แองเจเล่กำลังวางแผนที่จะตั้งคำถามกับชายคนนี้ใน ภายหลังแต่ชายคนนี้ก็ตื่นขึ้นมาเร็วกว่าที่เขาคาดไว้ "ข้ามีเรื่องที่จะขอให้เจ้าช่วย บอกพวกมันว่าให้ทำตามคำสั่งของข้าและ ปลดปล่อยลมหายใจเปลวไฟออกมา เจ้าสามารถทำได้ไหม" เขาถาม "ครับ.....ไม่มีปัญหา...." ใบหน้าของชายคนนั้นซีดแต่ยังตอบทันที "ชื่ อ ของข้าคือแลนซ ์แลนซ ์สเป็นเดอร์" "ข้าไม่สนใจชื่อของเจ้าแต่ถ้าเจ้าสามารถสื่อสารกับแมงป่องให้ข้าได้ จริงๆ...." แองเจเล่หยุดในขณะที่เขาเดินไปที่แม่น้ำ "เดี๋ยวข้ามา" หนึ่งในยามรักษาการณ์คนหนึ่งได้โรยของเหลวสีดำบนตัวแลนซ์และทิ้ง เขาไว้กับแมงป่อง จากนั้นแองเจเล่ก็มุ่งหน้าไปที่แม่น้ำภูเขาไฟอย่าง รวดเร็ว กลุ่มของเขายังคงเดินตามเขาไป พวกเขามาถึงแม่น้ำหลังจากผ่านไปหลายนาที น้ำมันสะอาดและกำลังกระเพื่อม แองเจเล่มองเห็นฝูงปลาสีแดงขนาด เล็กกำลังว่ายระหว่างหญ้าน้ำสีเขียวที่ใต้น้ำ แองเจเล่รู้สึกถึงคลื่นความร้อนที่พุ่งเข้ามาทั่วใบหน้าของเขาและสังเกต ว่ามีกลิ่นกำมะถันจากไอน้ำ เขาหรี่ตาลงและก้มตัวลงข้างแม่น้ำ โคลนสีเข้มภายใต้ฝ่าเท้าของเขายัง มีควันร้อนออกมา เขารู้สึกถึงความร้อนที่รุนแรงจากใต้รองเท้าของเขา แองเจเล่ยังใจเย็น จากนั้นเขาก็เอามือขวาจุ่มเข้าไปในน้ำจากแม่น้ำและ ตักขึ้นมา มีจุดสีเขียวนับไม่ถ้วนกำลังลอยอยู่บนผิวของน้ำซึ่งพวกมันดูคล้ายกับ สปอร์แปลกๆ มีจุดแสงสีน้ำเงินข้างหน้าสายตาของแองเจเล่หลายวินาทีต่อมาสีของ จุดแสงก็ถูกแทนที่ด้วยสีแดง ชี่ ในไม่ช้าสปอร์สีเขียวที่อยู่ในน้ำก็รวมตัวกันตรงกลางฝ่ามือของเขาแล้ว จมลงไปในผิวของเขาภายในไม่กี่วินาทีแต่มันรู้สึกเหมือนมีฝูงแมลงที่น่ า สะพรึงกลัวกำลังคลานเข้าไปในผิวหนังของเขา การแสดงออกของแองเจเล่เปลี่ยนไปทันทีเขารีบสะบัดมือเพื่อเอาน้ำ ของแม่น้ำออก จากนั้นเขาก็ขดริมฝีปากทันทีที่ได้ยินรายงานของซีโร่ "สร้างค่ายที่นี่และปกป้องข้าสามวัน จัดเวลาและหาอาหารกันเอง ข้าจะ อยู่ในแม่น้ำ!" ทันใดนั้นเขาก็ตะโกน "นายท่าน มันอาจจะมีสิ่งมีชีวิตอันตรายใต้น้ำ จิ้งจกและแมงป่อง สามารถอาศัยอยู่ในแม่น้ำได้เนื่องจากพวกมันรู้วิธีว่าย" หัวหน้าหญิง ก้าวมาข้างหน้าและแนะนำเขา "เราสามารถสร้างเขตปลอดภัยข้าง แม่น้ำได้แทน จากนั้นท่านก็สามารถอยู่ในน้ำภายในเขตปลอดภัยได้ ท่านคิดว่าอย่างไร" "ตกลง ฟังดูดี" แองเจเล่พยักหน้ า "ค่ะ" เธอพยักหน้าและเดินไปที่แม่น้ำ "เวกัส...." ทันใดนั้นเธอก็ยกมือขึ้นและชี้ไปที่น้ำ มีอนุภาคพลังงานสีแดงนับไม่ถ้วนรวมตัวกันระหว่างฝ่ามือทั้งสองของ เธอและก่อตัวเป็นนกที่ทำจากอนุภาคสีแดง จิ๊บ เสียงใสของนกดังออกมา มันออกจากมือของหัวหน้าหญิงและเริ่มบิน ไปรอบๆเหนือแม่น้ำโดยทิ้งร่องรอยอนุภาคพลังงานสีแดงไว้ข้างหลัง ในไม่ช้าอนุภาคพลังงานก็รวมตัวกันภายในพื้นที่หนึ่งและก่อตัวเป็น วงกลมล้อมรอบชายฝั่ง หลังจากที่มันเสร็จงานนกสีแดงก็กลับไปที่มื อ ของหัวหน้าหญิง มันลงบนไหล่ซ้ายของเธอในขณะที่ทำความสะอาด ขนของมันด้วยปาก "เสร็จแล้วค่ะนายท่าน" หัวหน้ารายงานแองเจเล่อย่างสุภาพ "ขอบคุณ" แองเจเล่มองไปที่ผิวของแม่น้ำภูเขาไฟ ยามรักษาการณ์สามคนยังอยู่เหนือหลุมลึกเพื่อสร้างค่ายของพวกมัน ในขณะที่ยามรักษาการณ์อีกห้าคนเพียงแค่ยืนอยู่ข้างหลังหัวหน้าหญิง ใกล้ๆกับแม่น้ำไม่มีสิ่งใดปลูกมีเพียงโคลนสีเข้ ม "เอาล่ะ ตอนนี้พวกเจ้าเริ่มลาดตระเวนบริเวณนี้ได้แล้ว" เมื่อแองเจเล่พูด จบเขาก็เริ่มก้าวไปข้างหน้า จ๋อม เขาลงไปในน้ำเกือบทุกส่วนของร่างกายยกเว้นหัวของเขาซึ่งมันยังอยู่ เหนือน้ำ มีไอสีขาวซึ่งมีกำมะถันทำให้ตาของแองเจเล่ปวดดังนั้นเขาจึงหลับตา ลง ด้วยอุณหภูมิของแม่น้ำและปากของเขาที่เริ่มแห้งทำให้เขากังวล สปอร์สีเขียวในแม่น้ำซึมเข้าสู่ผิวหนังของเขาอย่างต่อเนื่อง พวกมันดู คล้ายกับแมลงเล็กๆและพวกมันไม่เคยหยุดเคลื่อนไหว แองเจเล่หายใจเข้าลึกๆเพื่อสงบสติอารมณ ์เขายืนอยู่ในน้ำอย่างเงียบๆ ซึ่งมันเกือบจะดูเหมือนว่าเขาแค่อาบน้ำ ลิฟที่ยืนอยู่ข้างเขตปลอดภัยอ้าปากค้าง "ข้าได้เห็นคนอื่นใช้น้ำที่มีอนุภาคพลังงานไฟเพื่อช่วยทำสมาธิของพวก มันแต่แองเจเล่ตัดสินใจที่จะใช้น้ำพิษในแม่น้ำภูเขาไฟแทน....จุดสีเขียว ในน้ำเป็นพิษและมันพยายามที่จะทำให้ร่างกายของเขาปนเปื้อน ถ้า เขาสามารถจัดการกับความเจ็บปวดนี้ได้มันก็จะช่วยเร่งความคืบหน้า ของเขาอย่างมาก" "ท่านลิฟ ท่านอาจหมายถึงท่านโชโซใช่ไหม ข้าคิดว่าเขาทำสิ่งที่ คล้ายกันมาก่อน" ฮาคีมนั่งอยู่บนก้อนหินข้างหลังลิฟ "คลื่นพลังจิตของ ท่านแองเจเล่ค่อนข้างอ่อนแอ ดูเหมือนว่าท่านจะใช้เทคนิคบางอย่างใน การห่อหุ้มพลังที่แท้จริงของท่านไว้ " "ข้าคิดว่าแองเจเล่กำลังพยายามที่จะสำเร็จขั้นแรก ฮ่าๆ เขาควรที่จะ ชำนาญรูนได้ในไม่ช้านีเขาจะต้องได้รับวิธีการฝึกนี้มาจากท่านวิเวียน" ลิฟส่ายหัว "เอาล่ะ เพียงแค่รออย่างอดทน สามวันมันผ่านไปภายใน พริบตา" ฮาคีมหัวเราะและหลับตา เขาเริ่มทำสมาธิ สามวันผ่านไปอย่างรวดเร็ว พ่อมดมีอายุขัยที่ยาวนานดังนั้นพวกเขาจึงไม่ค่อยสนใจกับเวลาที่ใช้ มากนัก ***************************** สามวันผ่านไป ครืน มีฟ้าแลบในท้องฟ้าและทำให้ยอดเขามันสว่างชั่ววูบตามด้วยเสียง กระหึ่มของสายฟ้ า ท้องฟ้าปกคลุมไปด้วยเมฆหนาตลอดเวลา แหล่งที่มาของแสงไฟเพียง แห่งเดียวคือสายฟ้าฟาดเป็นครั้งคราว มีเสียงลมหอนผสมกับเสียงที่มาจากต้นไม้ที่กำลังสั่นไหวจากอีกด้าน มันทำให้เกิดเสียงที่น่ากลัว ในเขตปลอดภัยของแม่น้ำภูเขาไฟ แองเจเล่ค่อยๆลืมตา จุดแสงสีแดงกะพริบรอบหน้าผากของเขาอย่าง ต่อเนื่อง เขารู้สึกว่าร่างกายของเขาเต็มไปด้วยพลังงานแปลกๆซึ่งมันร้อนและ เย็นพร้อมๆกั น แองเจเล่อ้าปากและหายใจออกมาอย่างช้าๆ ฮ่า ลมหายใจของเขามีกลิ่นกำมะถัน ซู่ แองเจเล่เริ่มขยับไปที่ชายฝั่งอย่างช้าๆ ตอนที่319: สมบัติลับ (2) แปลนิยาย.วันอังคารที่10 เมษายน 2018 มีกองไฟขนาดใหญ่ที่กำลังลุกไหม้อย่างต่อเนื่องข้างแม่น้ำ กลุ่มพ่อมด กำลังนั่งอยู่รอบๆกำลังพูดคุยกั น ยามรักษาการณ์สองคนที่ถูกมอบหมายให้อยู่ใกล้ชายฝั่งกำลังรอให้ แองเจเล่ตื่นขึ้นมาอย่างอดทน "นายท่านตื่นแล้ว!" เมื่อพวกเขาสังเกตเห็นการเคลื่อนไหวของแองเจเล่ พวกเขาก็รีบส่งคำพูดไปที่ค่ายทันทีผ่านอนุภาคพลังงาน "แลนซ์สื่อสารกับแมงป่องเพลิงเสร็จเรียบร้อยหรือยัง" แองเจเล่ก้าวออก จากแม่น้ำและดีดนิ้ว อนุภาคพลังงานขจัดน้ำแม่น้ำจากร่างกายของเขา ทันที "เสร็จแล้วครับ แลนซ์กำลังรออยู่กับแมงป่อง" หนึ่งในชุดคลุมดำตอบ อย่างรวดเร็ว "ขอบคุณสำหรับการรักษาความปลอดภัยให้ข้า" มีรอยยิ้มที่อ่อนโยนบน ใบหน้าของแองเจเล่ "ด้วยความยินดีอย่างยิ่ง" ทั้งสองโค้งให้แองเจเล่เล็กน้อย เห็นได้ชัดว่ า พวกเขาแตกต่างจากพ่อมดคนอื่นที่เขาพบเล็กน้อย เมื่อพ่อมดในค่ายได้รู้ว่าแองเจเล่ได้เสร็จสิ้นการทำสมาธิของเขาแล้ว พวกเขาก็รีบเดินมาหาแองเจเล่พร้อมกับพ่อมดที่ชื่อแลนซ ์ "บอกให้แมงป่องเพลิงเตรียมตัวให้พร้อม ข้าจะบอกให้พวกมันใช้ลม หายใจเปลวไฟของพวกมันในไม่ช้านี้" แองเจเล่พูดด้วยความสงบ "....เข้าใจแล้วครับ...." แลนซ์พยักหน้าหลายครั้ง แองเจเล่กลับไปที่ค่ายเนื่องจากเขายังต้องเตรียมอะไรบางอย่าง "เดี๋ยวก่อน! ท่านพ่อมด! ข้ามีสิ่งสำคัญที่จะบอกท่าน มันเป็นเรื่องสมบัติ ลับภายในภูเขา!" แองเจเล่หรี่ตา คำพูดของแลนซ์ทำให้เขาแปลกใจ "สมบัติลับหรือ" แองเจเล่ทวนซ้ำ "มันเป็นสมบัติที่เราเคยพูดกันไปก่อน หน้านี้ใช่ไหม" เขามองที่ฮาคี ม ฮาคีมพยักหน้าเล็กน้อยและเริ่มอธิบาย "นายท่าน สมบัติลับในแนชมัน มาจากข่าวลือ มันบอกว่ามีสวนของแฟรี่ธาตุอยู่ที่ไหนสักแห่งใกล้ๆกับ แม่น้ำภูเขาไฟ มีของหลายอย่างที่เป็นตำนานอยู่ภายในสวน ถ้าท่านพบ ทางเข้าของสถานที่นี้ผู้สืบทอดแฟรี่ก็จะมอบของขวัญให้ท่านหนึ่งอย่าง ในรายการของเหล่านั้น" "สวนของแฟรี่ธาตุ...." แองเจเล่ลูบคาง เขาเคยได้ยินสถานที่นี้มาก่อน เขาเงยหน้าขึ้นไปมองแลนซ ์ชายคนนี้มีใบหน้าเกลี้ยงเกลาและหล่อ เหลาแต่การแสดงออกของเขาก็ซับซ้อน แลนซ์ฝืนยิ้มทันทีหลังจากที่เห็นแองเจเล่จ้องมาที่เขา "นายท่าน เราได้พบทางเข้าของสวนแล้ว สมาชิกในตระกูลของข้าหลาย คนได้เข้าไปแล้วเช่นกัน เรายังอยู่ที่นี่สักพักหนึ่งเพราะเรากำลังรอการ กลับมาของพวกเขา พวกเขาเป็นเพียงคนที่สามารถพาเราไปที่สมบัติ ลับได้" "ทำไมเจ้าถึงบอกข้าเรื่องนีเจ้าคิดจริงๆหรือว่าข้าจะเชื่อเจ้า" แองเจเล่ รู้สึกอยากรู้อยากเห็นเล็กน้อย "ตอนนี้ตระกูลของข้ากำลังมีปัญหา.....เราจะไม่ได้รับส่วนแบ่งตาม สัญญาของภารกิจ อีกสองตระกูลที่มากับเราอาจได้รับของในตำนาน และใช้ของเหล่านี้เพื่อทำลายตระกูลของข้าหลังจากที่เรากลับไปที่ เมือง" แลนซ์หรี่ตา "ข้ายินดีมอบสมบัติทั้งหมดให้ท่านเพื่อให้อีกสอง ตระกูลไม่สามารถใช้พลังของสิ่งของนั้นมาต่อสู้กับเรา" "ข้าขอพูดตามตรง ข้าไม่สนใจสมบัติฮาคีม ทำไมเจ้าถึงไม่...." "นายท่าน..." ในไม่ช้าการแสดงออกของแลนซ์ก็เปลี่ยนไปและขัดจังหวะ แองเจเล่จากการพู ด เพี๊ยะ หัวหน้าหญิงตบแก้มของแลนซ์อย่างแรงจนเกือบจะทำให้แลนซ์ล้มลง กับพื้น "เจ้ากล้าดียังไงถึงมาขัดนายท่าน" มีแสงสีแดงล้อมรอบดวงตาของเธอ "ไม่เป็นไร" แองเจเล่หยุดจากการที่เธอกำลังจะตบแลนซ์อีกครั้ง "พูดต่อ" ชายคนนั้นกัดฟันแต่เขาก็รีบสงบใจลง แก้มขวาของเขาเปลี่ยนเป็นสี แดงแล้ว "นายท่าน สถานการณ์ค่อนข้างซับซ้อน" เขาตัดสินใจที่จะสื่อสารกับ แองเจเล่ผ่านอนุภาคพลังงาน "สวนของแฟรี่ธาตุเป็นดินแดนศักด์ิสิทธ ์ิ โบราณที่สุดท้ายของแฟรี่ ทุกสิ่งมีชีวิตที่เข้าสวนจะได้รับพรจากพลั ง ศักด์ิสิทธ์ิลึกลับและแฟรี่จะมอบของในตำนานเป็นของขวัญ ที่จริงพ่อ มดที่แข็งแกร่งส่วนใหญ่เพียงต้องการค้นหาสวนเพื่อเอาพร ท่านอาจจะ ได้รับพรเป็นความสามารถพิเศษหรือทักษะหรือแม้แต่สัตว์อสูรกลาย พันธุ ์ข่าวลือยังบอกว่าพรยังเพิ่มความสัมพันธ์กับธาตุอย่างมาก ปัญหา เดียวคือมีเพียงคนห้าคนหรือสิ่งมีชีวิตห้าตัวที่สามารถเข้าสวนได้ใน เวลาเดียวกัน สมาชิกของตระกูลทั้งสามได้เข้าไปในสวนแล้ว เหลืออีก เพียงสองคนที่สามารถผ่านประตูได้ " "น่าสนใจ ข้ารู้เรื่องสถานที่นั้นแต่ไม่เคยได้ยินเรื่องพร" แองเจเล่ไม่สนใจ เรื่องของในตำนานแต่เขาอยากรู้เรื่องพร ความสามารถพิเศษหรือ ทักษะฟรีจะช่วยเขาอย่างมาก นอกจากนี้ถ้าความสัมพันธ์ของเขากับ อนุภาคพลังงานสามารถเพิ่มขึ้นได้มันก็จะเป็นเรื่องง่ายสำหรับเขาที่จะ ใส่ธาตุลงไปในพลังจิ ต แองเจเล่ได้อ่านเรื่องสวนของแฟรี่ธาตุมาจากหนังสือพ่อมด มันบอกว่า บ่อน้ำพุธาตุในสวนสามารถช่วยลบสิ่งเจือปนภายในร่างกายของพ่อมด ได้แต่มันก็เป็นครั้งแรกที่เขาได้ยินเรื่องพรและผลพิเศษของมั น "เอาล่ะ ข้าจะไปตรวจสอบสวนของแฟรี่ธาตุข้าอยากรู้ว่าพรคืออะไรกัน แน่" แองเจเล่หรี่ตา "ลิน บอกให้ยามรักษาการณ์เตรียมตัว" เขาหันไปหาหัวหน้าหญิงที่ชื่ อ ลิน "และตรวจสอบให้แน่ใจว่าแลนซ์ไม่ได้โกหก เขาจะเป็นคนนำทาง ของเรา" "ค่ะนายท่าน" ลินพยักหน้าและรีบตอบ "ดีเราจัดการกับแมงป่องเพลิงเหล่านั้นก่อน มันเป็นสิ่งสำคัญ" แองเจเล่ เดินไปที่แมงป่องที่ยังคงถูกขั ง พวกมันไม่ได้กินเป็นเวลาสามวันแต่มันก็ดูเหมือนเดิม แลนซ์ตามแองเจเล่และสื่อสารกับแมงป่องเพลิง แมงป่องพยักหน้ า หลังจากที่ฟังคำพูดของเขา "เรียบร้อยแล้วนายท่าน" แลนซ์พูดด้วยความเคารพ แองเจเล่พยักหน้า ในไม่ช้าแมงป่องก็ล้อมรอบตัวเขาและพวกมันก็เริ่ม ปลดปล่อยลมหายใจเปลวไฟทีละตั ว ฟู่ เปลวไฟสีเขียวจากแมงป่องตัวแรกโดนร่างกายของแองเจเล่อย่างแรง อย่างไรก็ตามลมหายใจเปลวไฟของแมงป่องเพลิงสามารถสร้างความ เสียหายได้ประมาณสิบหน่วยเท่านั้นดังนั้นมันจึงไม่มีอะไรที่แองเจเล่ ต้องทำ เขาปิดใช้งานสนามพลังเชี่ยวชาญโลหะของเขาและปล่อยให้เปลวไฟสี เขียวโดนร่างกายของเขา แองเจเล่ค่อยๆหลับตาและเริ่มทำสมาธิ เพื่อที่จะเข้าใจรูนของขั้นที่สองของแกนแม่น้ำมัลเท็น แองเจเล่จะต้องตัดสินใจเกี่ยวกับรูปแบบร่างที่สองของเขาเมื่อเริ่มทำ สมาธิในขั้นที่สอง ตั้งแต่ขั้นตอนที่สองของแกนแม่น้ำมัลเท็นแองเจเล่จะต้องสร้างร่างที่ สองโดยใช้พลังงานบริสุทธ์ิหรือวัสดุทางกายภาพ เขาสามารถ ปรับเปลี่ยนรูปร่างหรือคุณสมบัติของร่างได้ตามต้องการแต่ความยาก และเงื่อนไขก็ขึ้นอยู่กับรูปร่างและคุณสมบัติ นอกจากนี้พลังของรูปแบบ สุดท้ายพิจารณาจากหลายปัจจั ย นี่เป็นความสามารถพิเศษที่ได้รับจากเทคนิคการทำสมาธิขั้นสูง แกน แม่น้ำมัลเท็น ร่างที่สองของแองเจเล่จะเติบโตขึ้นในขณะที่เขาก้าวหน้าต่อไปใน อนาคต นกสีแดงที่ควบคุมโดยหัวหน้าหญิงเป็นร่างที่สองของเธอ ดวงวิญญาณ ของเธอยังอยู่รอดได้ในร่างที่สองแม้ว่าเธอจะสูญเสียร่างกายภาพไป วิธี เดียวที่จะฆ่าเธอคือการทำลายร่างที่สองและร่างกายภาพของเธอ เธอ อาจจะอยู่รอดถ้าเธอเปลี่ยนตัวเองเป็นรูปแบบดวงวิญญาณหรือ รูปแบบพลังงานบริสุทธ์ิแต่ความแข็งแกร่งของเธอก็จะหายไปอย่างมาก แองเจเล่จำเป็นต้องตัดสินใจเกี่ยวกับคุณสมบัติและรูปร่างของร่างที่ สองของเขา ความสามารถพิเศษที่แข็งแกร่งอย่างไม่น่าเชื่อนี้คือสิ่งที่ทำ ให้แกนแม่น้ำมัลเท็นมีชื่อเสียง ปัญหาเดียวคือถ้าแองเจเล่ไม่แข็งแกร่งพอเขาก็จะไม่สามารถควบคุม ร่างที่สองได้อย่างเต็มที่ เมื่อเป็นเช่นนั้นการสร้างร่างที่สองของเขาจะไม่ ขึ้นอยู่กับเขาแต่ขึ้นอยู่กับอุปกรณ์ของเขา เวลาผ่านไป เสียงสายฟ้ายังคงดังอยู่ในท้องฟ้าเนื่องจากสายฟ้าได้ผ่าใส่แผ่นดิน อย่างไม่หยุดหย่อน ในที่สุดฝนก็ตกลงมา หลายนาทีต่อมามันก็เปลี่ยนเป็นฝนที่ตกหนัก อย่างน่ากลั ว ฮาคีมชี้ไปที่ผนังหลุมลึกทันทีและสร้างถ้ำขนาดใหญ่ ยามรักษาการณ์สองคนยังอยู่ข้างแองเจเล่เพื่อคุ้มกันในขณะที่ส่วนที่ เหลือเข้าถ้ำเพื่อหลบฝน แองเจเล่นั่งอยู่ตรงกลางของวงล้อมแมงป่องเพลิง ร่างกายของเขา ล้อมรอบไปด้วยแสงสีเขียว เปลวไฟไม่ได้สัมผัสผิวหนังของเขาโดยตรงเนื่องจากพวกมันถูกปิดกั้ น ด้วยบาเรียพลังงานห่างจากร่างกายของเขาหลายเซนติเมตร จุดแสงสีเขียวที่แยกออกมาจากเปลวไฟค่อยๆถูกดูดซึมโดยแองเจเล่ อ ย่างช้าๆ ประมาณสิบนาทีต่อมาพลังงานของแมงป่องเพลิงทั้งหมดก็ถูกใช้ไปจน หมดทำให้มันจางลง แลนซ์รอแองเจเล่เสร็จสิ้นการทำสมาธิอย่างอดทนที่ด้านข้าง ทันใดนั้นก็มีรูนสีแดงเข้มปรากฏบนหน้าผากของแองเจเล่แล้วมันก ็ หายไปหลังจากผ่านไปหลายวินาที วู้ดดด บาเรียพลังงานโปร่งใสหายไปและเปลวไฟสีเขียวทั้งหมดก็ถูกดูดซึมโดย ร่างกายของเขา เสียงของซีโร่ดังก้องในหูของเขา [เชี่ยวชาญขั้นตอนที่สองของแกนแม่น้ำมัลเท็น พลังจิตกำลังเพิ่มขึ้น....] [กำลังตรวจสอบ.....พลังจิตเพิ่มขึ้นเป็ น 91.7] รายงานของซีโร่ทำให้แองเจเล่ตื่นจากการทำสมาธิขาของแองเจเล่ชา ความรู้สึกนี้ค่อนข้างแปลก 'นั่นมัน' แองเจเล่พบว่ามันยากที่จะเชื่อ ความคืบหน้ามันราบรื่นจนทำ ให้เขาไม่รู้สึกถึงความตื่นเต้นของการเชี่ยวชาญขั้นที่สอง นี่เป็นอีกหนึ่งข้อได้เปรียบของพ่อมดที่อาศัยอยู่ในทวีปกลาง 'เสร็จสิ้นการวิเคราะห์ขั้นที่สามหรือยัง' เขาถาม [เวลาโดยประมาณสำหรับการเสร็จสิ้นการวิเคราะห์: 73 ชั่วโมง 21 นาที] แองเจเล่รู้สึกผิดหวังเล็กน้อยเมื่อฟังคำตอบของซีโร่ เขารู้สึกว่ า ความต้านทานของเขาเพิ่มมากขึ้นและตอนนี้เขาสามารถเคลื่อนย้ายไฟ ได้ไกลกว่าก่อนหน้านี ในความคิดของเขาในขณะที่ทำสมาธิมีภาพสลัวของร่างที่สองแต่เขาก ็ ไม่แน่ใจว่ามันดูเป็นอย่างไร ดูเหมือนว่าร่างที่สองจะขึ้นอยู่กับตัวเองเพื่อหารูปแบบที่เหมาะสมที่สุด สำหรับแองเจเล่เนื่องจากเขาไม่แข็งแกร่งพอที่จะสร้างมันด้วยตัวเอง ตามคำอธิบายที่บันทึกไว้ในหนังสือ รูปแบบของร่างที่สองและ คุณสมบัติจะขึ้นอยู่กับอุปนิสัยของเจ้าของ ความปรารถนา ความ แข็งแกร่งของร่างกายและพลังจิ ต อย่างไรก็ตามแองเจเล่จะต้องเชี่ยวชาญขั้นที่สามหรือขั้นที่สี่ก่อนเพื่อให้ เขาสามารถควบคุมร่างที่สองได้ เขาไม่ได้กังวลเรื่องความคืบหน้าของเขากับแกนแม่น้ำมัลเท็นเนื่องจาก มีความช่วยเหลือของซีโร่ แองเจเล่ลุกขึ้นยืนแล้วมุ่งหน้าไปที่ถ้ำพร้อมกับยามรักษาการณ์สองคน และแลนซ ์ "นายท่าน" "ดีใจที่เห็นท่านกลับมา" ฮาคีมและลิฟกำลังทำสมาธิแต่เมื่อพวกเขาสังเกตเห็นแองเจเล่พวกเขา ก็ทักทายเขาทันที "ขอบคุณ พักผ่อนสักหน่อย งานของข้าเสร็จสิ้นเร็วกว่าที่ข้าคิดไว้เราจะ ไปตรวจสอบสมบัติลับในวันพรุ่งนี้" แองเจเล่ยิ้ม "พวกเจ้าคิดอย่างไร" "ตามที่ท่านต้องการนายท่าน" ฮาคีมหัวเราะเบาๆ ลิฟพยักหน้าเล็กน้อยและตอบเสียงเย็นชา "ตกลง" เธอไม่เคยแสดง ความเคารพแองเจเล่เนื่องจากตำแหน่งพิเศษของเธอในยาม รักษาการณ ์ ตอนที่320: การเผชิญหน้า (1) แปลนิยาย.วันพุธที่11 เมษายน 2018 วันต่อมา โคลนรอบแม่น้ำภูเขาไฟก็นุ่มแล้วเนื่องจากฝนที่ตกอย่างหนัก ต้นไม้บนภูเขากำลังแกว่งไปมาอย่างช้าๆในสายลมหนาว ภายในป่ามีเต็นท์สีเทาขนาดใหญ่ตั้งอยู่บนพื้นที่ว่างระหว่างต้นไม้ มีคนหลายคนที่สวมชุดสีขาวแน่นกำลังเอาไม้ใส่เข้าไปในกองไฟและ หมุนตะแกรงโลหะอย่างระมัดระวัง กลิ่นหอมของเนื้อย่างลอยไปใน อากาศ มันยังเป็นช่วงเช้าที่ดวงอาทิตย์กำลังขึ้น มีหมอกสีขาวอยู่รอบๆ เต็นท์ถูกเปิดโดยชายชราที่มีผมยาวสีขาวและมีสีหน้าเย็นชา เขาสวมเสื้อผ้าสีขาวที่เหมาะกับนักดาบ มีมีดสั้นสีดำที่เอวของเขา สองคนที่อยู่ข้างกองไฟมาหาชายชราทันที "ผู้อาวุโสกิล เราได้ขาดการติดต่อสมาชิกในตระกูลของเราเมื่อวานนี้" ผู้หญิงที่อยู่ทางซ้ายรายงาน "มันเกิดขึ้นเมื่อไหร่" กิลหรี่ตา "ข้าได้ส่งทหารยามของเราไปแล้ว แลนซ์ได้ไปที่แม่น้ำภูเขาไฟเมื่อหลาย วันก่อนแต่ไม่เคยกลับมา" ผู้หญิงตอบทันที "แม่น้ำภูเขาไฟ...." การแสดงออกของกิลเริ่มเคร่งเครียด ก่อนที่เขาจะ พูดอะไรอีกเขาก็ตรวจพบการเคลื่อนไหวจากพุ่มไม้ข้างหน้าเขา มีชายคนหนึ่งที่สวมชุดเกราะหนังสีแดงก้าวออกมาพร้อมกับดาบปลาย โค้งสีเงินในมือของเขา ชายคนนี้มีสีหน้านิ่ ง "เจ้าเป็นคนของสเป็นเดอร์ใช่ไหม เราต้องตัดสินใจที่จะส่งใครไปสวน นายท่านของข้าอยากเห็นเจ้าที่ยอดเขาก่อนเที่ยง" ชายคนนี้มองไป รอบๆ ผู้อาวุโสกิลขดริมฝีปาก เขากำลังจะพูดอะไรบางอย่าง อย่างไรก็ตามเขาถูกหยุดโดยผู้อาวุโสอีกสองคนที่เพิ่งออกมาจากเต็นท ์ สีหน้าของกิลเปลี่ยนเป็นสีแดงและเขาก็เริ่มสั่นระริกด้วยความโกรธ คนที่อยู่ใกล้กองไฟไม่พอใจกับวิธีที่ผู้อาวุโสจัดการกับสถานการณ์และ พวกเขาก็ดูกังวลเล็กน้อย หนึ่งในผู้อาวุโสสงบใจลงแล้วก้าวมาข้างหน้ า "โปรดบอกท่านลอฟฟี่ว่าเราจะไปให้ตรงเวลา" เขาตอบเสียงดัง "ดีดูเหมือนว่าดวงตาของเจ้าไม่ได้มืดมัวไปด้วยความโกรธ" ชายคนนั้น พยักหน้าเล็กน้อย "ข้าจะนำข้อความของเจ้าไปส่งให้ท่านลอฟฟี่" เขา หันกลับไปและเดินเข้าไปในพุ่มไม้แล้วเขาก็หายตัวไป ตุ้บ มีรอยแยกลึกปรากฏขึ้นบนพื้นที่ว่างข้างเต็นท ์มันเกิดจากการระเบิด ของพลังงานบริสุทธ ์ิ ผู้อาวุโสกิลลดมือลง เขาโกรธอย่างมากจนต้องหาทางปลดปล่อย ออกมา "พวกมันได้ที่ว่างไปแล้วหนึ่งคนและพวกมันก็ต้องการอีกที่! พวกสาร เลว..." "ฝ่ายตรงข้ามของเราเป็นทายาทคนโตของรังอินทรีน้ำเงิน....พวกเขา ทรงพลังกว่าเรามาก..." ผู้อาวุโสที่อยู่ข้างซ้ายของเขาถอนหายใจด้วย อารมณ์ที่หลากหลาย "ในศึกครั้งสุดท้ายเราได้เสียสมาชิกในตระกูลเรา หลายคนซึ่งสองในนั้นเป็นผู้อาวุโสและมีหลายคนได้รับบาดเจ็บสาหัส .....ตอนนี้เราอ่อนแอที่สุดในสามตระกูล..." "ท่านคาร์ลพูดถูก เราต้องใจเย็นลง พวกเขาพยายามที่จะทำลายตระกูล เราถ้ามีอะไรเกิดขึ้นในระหว่างการประชุม ท่านคิต้ายังอยู่ภายในสวน ดังนั้นเรายังมีความหวัง" ผู้อาวุโสด้านขวาพยักหน้าเล็กน้อย "ใช่" คาร์ลกัดริมฝีปากและถอนหายใจ "ความสำคัญหลักของเราคือทำ ให้แน่ใจว่าคิต้ายังปลอดภัยเมื่อเขาออกจากสวน แม้ว่าความสัมพันธ ์ ระหว่างผู้นำตระกูลจะแย่แต่มันก็ยังเป็นทายาทคนโตของตระกูล คิต้า รู้จักทายาทคนอื่นๆของตระกูลค่อนข้างดีนี่อาจจะเป็นโอกาสของเรา" กิลหายใจเข้าลึกๆและในที่สุดก็สงบใจลงหลังจากที่ผ่านไปหลายนาที "เอาล่ะ ข้ารู้ว่าเราควรทำอะไร เรามีที่ว่างสองที่แต่รังอินทรีน้ำเงินก็ไม่ สนใจกฎที่ระบุไว้ในสัญญา ยังไงก็ตามเราควรที่จะมุ่งหน้าไปที่ประชุ ม ในตอนนีข้าต้องการดูว่าพวกเขากำลังวางแผนอะไร" "เราเพียงแค่ต้องปกป้องคิต้าเท่านั้นและรอให้มันจบ" คาร์ลพยักหน้า "ไปกันเถอะ" กิลยกมือขวาขึ้นและชี้ไปที่ยอดภูเขา สมาชิกในตระกูลเริ่มเตรียมตัวเดินทางระยะสั้นทันที ***************************** ดินโคลนปกคลุมกองใบไม้แห้ง ดินโคลนสีดำเริ่มหายไปในขณะที่แอง เจเล่เดินหน้าไปกับพวกเขา เขาดูเหมือนจะไม่สนใจโคลนบนรองเท้าของเขาในขณะที่เขายังคงเดิน ต่อไป เส้นทางระหว่างต้นไม้ปกคลุมไปด้วยใบไม้สีดำทำให้พวกมันดู เหมือนกับพรมหยาบๆ แองเจเล่อยู่ในตำแหน่งตรงกลางของกลุ่มในขณะที่เดินทางไปตาม เส้นทางแคบๆระหว่างต้นไม้สีเขียวเข้ม จากระยะไกลพวกเขาดูเหมือน มดที่เดินตามพรมยาวสีดำ ชายที่ชื่อแลนซ ์สเป็นเดอร์เป็นคนนำทาง "เราเกือบจะถึงแล้ว มันอยู่บนยอดเขานี้" แลนซ์รู้สึกกังวลเล็กน้อย ว่าแองเจเล่จะฆ่าเขาหลังจากที่ถึงจุดหมายปลายทาง แองเจเล่ไม่ได้ให้ความสนใจแลนซ ์เขากำลังตรวจสอบสภาพแวดล้อม รอบๆอยู่เรื่อยๆ ฮาคีมและลินตามหลังเขาในขณะที่ลิฟกำลังอ่าน หนังสืออยู่ที่ด้านหลังของกลุ่ ม "ข้าชอบสภาพแวดล้อมที่นี่" เมื่อแองเจเล่สูดหายใจเข้าเขาก็ไม่ได้กลิ่ น กำมะถันในอากาศดังนั้นมันจึงทำให้รู้สึกสดชื่น "นายท่าน ป่าไม้ในสถานที่แห้งนี้ทำให้อากาศบริสุทธ์ิ นั่นคือเหตุผลที่ว่ า ทำไมท่านถึงไม่ได้กลิ่นกำมะถัน" แลนซ์ซึ่งเป็นผู้นำกลุ่มอธิบายอย่าง รวดเร็ว "อย่างงั้นหรือ" แองเจเล่มองไปที่หญ้าสีน้ำตาลใต้ต้นไม้ "เจ้าค้นพบ สถานที่แห่งนี้ได้อย่างไร" "ตอนนี้ข้าจะอธิบายสถานการณ์ให้ท่านฟัง" แลนซ์ค่อยๆเดินช้าลงและ มายืนข้างแองเจเล่"มีสามตระกูลใหญ่ในเมืองข้างภูเขาแต่ ความสัมพันธ์ของทั้งสามนั้นไม่ดีอย่างไรก็ตามทายาทคนโตของ ตระกูลของเราที่ชื่อท่านคิต้าไม่ได้รับผลกระทบจากปัญหานี้ เขารู้จั ก ทายาทของตระกูลอื่นค่อนข้างดีและพวกเขามักจะเลี้ยงอาหารค่ำกัน บนยอดเขา ประมาณครึ่งปีก่อนพวกเขาค้นพบสวนของแฟรี่ธาตุโดย บังเอิญและเข้าไปด้วยกัน ตระกูลของเราคิดว่าพวกเขาสูญหายดังนั้น เราจึงได้ส่งทีมค้นหาไปที่ภูเขาแต่พวกเขาก็พบประตูสวน การแกะสลัก ลึกลับรอบสวนเป็นสิ่งที่ช่วยให้เราสามารถระบุได้ว่านี่คือสวนของแฟรี่ ธาตุจากตำนาน" แลนซ์หยุดชั่วครู่และพูดต่อ "ขอโทษด้วย ข้าลืมไปว่าอีกสองตระกูลชื่ อ ว่าตระกูลฟิลิปและตระกูลมอร์แกน สถานการณ์ระหว่างตระกูลทั้งสาม มีความซับซ้อน ผู้อาวุโสในตระกูลตัดสินใจที่จะต่อสู้กันเพื่อสิทธิในการ เข้าสวนแต่ภายหลังก็ตระหนักว่าพวกเขาไม่สามารถเปิดประตูได้และ ต้องรอให้ทายาทของตระกูลทั้งสามออกมาก่อน เพราะฉะนั้นพวกเขา จึงตกลงที่จะพักรบชั่วคราวและผู้อาวุโสก็เริ่มตรวจสอบประตู แต่...." "แต่อะไร" แองเจเล่ย่นคิ้วด้วยความอยากรู้"บอกข้ามาให้หมด" "มีคนอื่นมาเข้าร่วมการต่อสู้...." มีรอยยิ้มที่ขมขื่นบนใบหน้าของแลนซ ์ ***************************** บนยอดของภูเขา มีกลุ่มคนสามกลุ่มกำลังยืนอยู่หน้าประตูโค้งที่ดูเหมือนกระจกสีเงิน ผิวของประตูสะท้อนให้เห็นเมฆสีเทา ไม่มีอะไรอีกนอกเหนือจากประตู ที่ตั้งอยู่บนก้อนหิน ด้านตรงข้ามของตระกูลทั้งสามมีคนอีกกลุ่มที่สวมชุดคลุมยาวสีน้ำเงิน และชุดหนัง มีประมาณยี่สิบนอกจากนี้ยังแยกออกเป็นสามกลุ่มปกป้องเก้าอี้ไม้ตรง กลาง มีชายหนุ่มที่หล่อเหลานั่งอยู่บนเก้าอี้มีหูคล้ายปีกสีเทา ข้างนอกมันยังมืด มีเมฆหนาลอยอยู่เหนือภูเขา ชายคนนี้เอามือขวาเท้าคางกำลังยิ้มอย่างอ่อนโยน เขาสำรวจสมาชิก ของตระกูลทั้งสาม ขนนกบนหูของเขากำลังแกว่งไปมา "ตอนนี้ทุกคนมาที่นี่แล้วงั้นหรือ" เขาค่อยๆลุกขึ้นยืน "งั้นมาตัดสินกัน เถอะว่าใครจะเอาที่ว่างที่สุดท้ายของสวน" สมาชิกของตระกูลสเป็นเดอร์ทุกคนสวมชุดสีขาวและผู้อาวุโสสามคน ยืนอยู่ข้างหน้า ตระกูลมอร์แกนสวมชุดสีเหลืองอ่อนและนำโดยผู้อาวุโสของตระกูลห้า คน สมาชิกของตระกูลฟิลิปยังสวมชุดสีขาวแต่นำโดยผู้อาวุโสสามคนและ หญิงสาวหนึ่งคน แขนขวาของชายชราคนหนึ่งได้บิดในมุมแปลกๆ มันดู เหมือนว่าเขาได้รับบาดเจ็บสาหัส ในไม่ช้าการแสดงออกของชายหนุ่มก็เปลี่ยนไปเมื่อเขาไม่เห็นใครตอบ เขา "ดีถ้าพวกเจ้าไม่มีอะไรจะพูดข้าก็จะตัดสินใจด้วยตัวเอง เราควร ตัดสินใจว่าใครจะเป็นคนสุดท้ายที่เข้าสวนผ่านการต่อสู้ตัวต่อตัว ผู้ชนะ จะได้รับที่ว่างที่สุดท้ายไป พวกเจ้าคิดว่าอย่างไร เดี๋ยวก่อน มีอีกเรื่อง หนึ่ง อย่าประเมินค่าตัวเองสูงเกินไป มันเรื่องดีที่จะถอยออกไปเมื่อรู้ว่า ฝ่ายตรงข้ามแข็งแกร่งกว่าเจ้ามากแค่ไหน ฮ่าๆๆ" แต่คำพูดของชายหนุ่มก็ไม่ได้เปลี่ยนสภาพปัจจุบันที่ยากจะหาทางออก ตัวแทนของตระกูลทุกคนรู้ดีว่าการชนะการแข่งขันไม่ได้สำคัญอะไร สิ่ ง ที่พวกเขาต้องการคือวัสดุและทรัพยากรหายากที่สามารถพบได้ในสวน จำนวนที่พวกเขาได้รับสามารถสนับสนุนองค์กรหรือตระกูลขนาดใหญ่ ได้หลายปีและมันคุ้มค่ามากกว่าพรของสวน นี่เป็นเหตุผลหลักที่ทั้งสามตระกูลไม่ต้องการประนีประนอม ตระกูลสเป็นเดอร์อ่อนแอที่สุดในสามตระกูลและชายคนนั้นกำลังบอก ให้พวกเขาออกไป "เราไม่มีปัญหาอะไรในเรื่องนี้" "ใช่เรามาเริ่มการแข่งขันกันเถอะ" ตัวแทนของตระกูลฟิลิปและตระกูลมอร์แกนเห็นด้วยกับคำตัดสินของ ชายคนนี กิล ผู้อาวุโสของตระกูลสเป็นเดอร์มองไปที่ชายหัวล้านที่ยืนอยู่หน้า สมาชิกของตระกูลมอร์แกน "คริสโตเฟอร ์เจ้าต้องการแบบนี้จริงๆหรือ" เขาถามเสียงต่ำ ชายหัวล้านที่ชื่อคริสโตเฟอร์หัวเราะเยาะแต่ไม่ได้พูอะไร เขาหันหัวไป มองที่ชายหนุ่มที่นั่งอยู่บนเก้าอี กิลส่ายหัวและมองไปที่ตระกูลฟิลิ ป หญิงสาวข้างหน้ามีสีหน้าเรียบเฉย และไม่ได้สบตากับเขา ตอนที่321: การเผชิญหน้า (2) แปลนิยาย.วันศุกร์ ที่13 เมษายน 2018 ก่อนเที่ยงคืนลงอีกสองตอนนะครั บ กิลหายใจเข้าลึกๆ "เอาล่ะ งั้นตระกูลสเป็นเดอร์จะไม่เข้าร่วมอีกต่อไป" เขาพูดเสียงดังใน ขณะที่พยายามสงบใจลง "ไปกันเถอะ!" "เดี๋ยวก่อน เจ้าจะต้องอยู่ที่นี่จนกว่าจะจบการแข่งขัน" ทันใดนั้นชายคน ที่นั่งบนเก้าอี้ก็พู ด "เจ้า!" กิลโกรธและใบหน้าของเขาเริ่มเปลี่ยนเป็นสีแดง "เขาพูดถูก ตำแหน่งของสวนเป็นความลับ เราไม่เชื่อใจเจ้า เจ้าควรรอ อยู่ที่นี่" คริสโตเฟอร์ของตระกูลมอร์แกนพยักหน้าเล็กน้อย "ฮ่าๆ....เมื่อเรามาถึงประตูตอนแรกตระกูลสเป็นเดอร์เป็นตระกูลที่ แข็งแกร่งที่สุดแต่ตอนนี้พวกเขาอ่อนแอที่สุด.....อย่างน้อยเจ้าควรยืน หยัดเพื่อคิต้าเพราะตอนนี้เขายังอยู่ในสวน" ผู้อาวุโสคนหนึ่งของ ตระกูลฟิลิปหัวเราะเยาะในขณะที่เขาส่ายหัว "ช่างน่าขัน" สมาชิกของตระกูลสเป็นเดอร์โกรธอย่างมากจากคำพูดเหล่านั้น บาง คนได้วางมือบนอาวุธ ชายที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ขดริมฝีปากยิ้ม เขานำผู้ใต้บังคับบัญชาของเขามา สถานที่นี้ทันทีหลังจากที่รู้ข้อมูลของสวน พวกเขาได้ซุ่มโจมตีผู้อาวุโสที่ แข็งแกร่งที่สุดของตระกูลสเป็นเดอร์สองคนและฆ่าพวกเขาทำให้สเป็น เดอร์ลดลงอย่างรวดเร็วในเรื่องประสิทธิภาพการต่อสู้ เขาจะเอาทุกสิ่งทุกอย่างจากสวนด้วยตัวเองถ้าไม่ใช่เพราะเขารู้สึกไม่ แน่ใจว่าเขาจะชนะการต่อสู้กับทั้งสามตระกูลได้ สิ่งที่เขาไม่รู้คือทั้งสาม ตระกูลไม่เคยนึกถึงการรวมกลุ่มกันเนื่องจากความสัมพันธ์ที่เลวร้าย ของพวกเขา บรรยากาศเริ่มตึงเครียดมากขึ้น ตระกูลสเป็นเดอร์อยู่ในตำแหน่งที่ยากลำบาก พวกเขาต้องการที่จะ ออกไปแต่อูนอสของรังอินทรีน้ำเงินและอีกสองตระกูลไม่ปล่อยให้พวก เขาไป ถึงแม้ว่าสเป็นเดอร์จะดูเหมือนว่าเริ่มร่วมมือแล้วแต่พวกเขาก็ยังรู้ว่าสิ่ง สำคัญคือการรับประกันความปลอดภัยของคิต้าเพื่อให้สามารถออก จากสวนได้อย่างปลอดภัยและพวกเขาไม่ต้องการเริ่มการต่อสู้ "ไม่เอาน่า....เราสามารถปล่อยตระกูลสเป็นเดอร์ออกไปได้เมื่อทายาท ของตระกูลของพวกเขาออกจากสวน พวกเจ้าคิดว่าอย่างไร" ผู้หญิงผม สีดำยาวที่ยืนอยู่ข้างอูนอสพูด ไม่มีใครตอบคำถามของเธอ อีกสองตระกูลรู้ว่าพวกเขาจะไม่ชนะการ ต่อสู้กับรังอินทรีน้ำเงินถ้าตระกูลสเป็นเดอร์จากไป แผนของกิลคือการหลีกเลี่ยงการต่อสู้แล้วกลับมาเมื่อพลังของอีกสอง ตระกูลอ่อนแอลง เขาต้องการความมั่นใจว่าตระกูลของเขายังอยู่เมื่อ พวกเขากลับไปที่เมือง สถานการณ์ในปัจจุบันวุ่นวายมาก แต่ทันใดนั้นพวกเขาก็ได้ยินเสียงฝีเท้าที่รุนแรงซึ่งดูเหมือนว่าจะเป็นคน ที่กำลังเดินขึ้นมาบนยอดเขา สมาชิกของตระกูลสเป็นเดอร์ดูมีความสุขเนื่องจากสถานการณ์ใน ปัจจุบันกำลังขัดแย้งกัน ความเป็นไปได้ที่เสียงนี้มาจากการแทรกแซง ภายนอกมันจึงทำให้ไม่สมดุล อีกสองตระกูลและอูนอสไม่พอใจกับการเปลี่ยนแปลงนี การแสดงออกของอูนอสเปลี่ยนไปและด้วยการดีดนิ้วของเขาเสียงของ เขาก็ดังมากขึ้นเนื่องจากผลของอนุภาคพลังงาน "เรากำลังมีการประชุมที่ยอดเขา ข้าอูนอสของรังอินทรีน้ำเงิน คนแปลก หน้า โปรดออกจากเขาทันที!" เสียงของอูนอสดดังก้องผ่านเส้นทางแคบๆระหว่างต้นไม้ "ดูปากที่สกปรกของเจ้า เจ้ากำลังพูดกับตัวแทนของหัตถ์ธาตุ!" มีเสียง เย็นชาที่เป็นของผู้หญิงโต้กลับมา หัวหน้าของตระกูลและอูนอสสบตากันเมื่อฟังคำเหล่านั้น พวกเขาไม่ แน่ใจเกี่ยวกับวิธีการตอบสนอง "หัตถ์ธาตุ....เรากำลังมีปัญหา" "พวกเขาพบสถานที่นี้ได้อย่างไร...." "หนึ่งในองค์กรที่ทรงพลังที่สุดในภูมิภาคแม่น้ำทาร์รี่ ฮ่าๆ ตอนนี้มั น น่าสนใจมาก" การแสดงออกของกิลผ่อนคลายลง (ตอนแรกๆที่แองเจเล่มารู้สึกว่าจะแปลไปทาร์รี่ไรว์กับมัลเท็นไรว ์ตอน นั้นก็ไม่แน่ใจเลยทับไปแล้วตอนหลังจากคำว่า riveทางเว็บ eng เปลี่ยนเป็น river เลยแปลเป็นแม่น้ำส่วนอีกคำทับศัพท์เหมือนเดิม) หลายนาทีต่อมาก็มีกลุ่มชุดคลุมสีดำและสีแดงที่เป็นทั้งชายและหญิง มาถึงยอดที่นำโดยผู้หญิงสวมชุดคลุมสีดำที่มีแสงสีแดงที่ดวงตาของ เธอ ที่จริงเธอจะไม่ได้คาดหวังว่าจะเห็นผู้คนจำนวนมากเพื่อแข่งขันกัน เพื่อเข้าประตู "ข้าได้บอกท่านแล้วว่าให้ท่านจัดการกับมันแต่มันดูเหมือนว่าท่านไม่ สนใจ....ข้าจะ....." "ใจเย็นๆลิน นี่เป็นสถานที่สาธารณะและพวกเขามาที่นี่ก่อนเรา" มีเสียง ที่อ่อนโยนที่เป็นของผู้ชายขัดจังหวะพูดของเธอ เมื่ออูนอสฟังเสียงนั้นเขาก็มองไปที่ชายผมสีน้ำตาลที่ยืนอยู่ข้างหลังแม่ มด ชายคนนี้สวมชุดคลุมยาวสีดำ เขาอยู่ในตำแหน่งที่ปลอดภัยที่สุด ของรูปแบบทำให้รู้ว่าเขาเป็นหัวหน้าของกลุ่มนี ชายคนนี้มีใบหน้าธรรมดาแต่ลักษณะโดยรวมของเขาดูสะดุดตา มีแสง สีชมพูล้อมรอบดวงตาของเขาและมีแสงสีเงินที่ผิวหนังของเขา มันเป็นแองเจเล่ในที่สุดพวกเขาก็มาถึงยอดของภูเขา "เราเป็นสมาชิกของหัตถ์ธาตุที่นี่เป็นสวนสมบัติลับ เราจะไม่ทำร้าย พวกเจ้าตราบใดที่พวกเจ้าไม่พยายามทำอะไรโง่ๆ" มีรอยยิ้มที่อ่อนโยน บนใบหน้าของแองเจเล่ คำพูดของเขาเข้าใจได้ง่าย หัตถ์ธาตุเป็นองค์กรที่ทรงพลังกว่าเมื่อเทียบ กับรังอินทรีน้ำเงินและสามตระกูล ด้วยอำนาจและพลังนั้นพวกเขาควร จะเป็นคนที่ครอบครองสมบัติ "หัตถ์ธาตุ....พวกเขาไม่สามารถมาที่นี่และขโมยสมบัติจากใต้จมูกของ เราไปได้" มีสีหน้าที่จริงจังบนใบหน้าของอูนอส "นายท่าน นั่นคือวิธีการที่หัตถ์ธาตุจัดการกับสิ่งต่างๆ ข้าคิดว่าเราควร ..." แม่มดสื่อสารกับอูนอสผ่านอนุภาคพลังงาน "ยอมรับไม่ได้! เราได้พยายามอย่างมากกับแผนของเรา มันสายเกินไป ที่เราจะถอยหลัง พรของสวนจะทำให้ข้าเลื่อนขั้น!" เขาหรี่ตา อูนอสต อบผ่านอนุภาคพลังงาน แองเจเล่ก้าวมาข้างหน้าและยืนอยู่ข้างหน้ากลุ่มของเขามองไปที่ผู้นำ ของทั้งสามตระกูลและรังอินทรีน้ำเงิน เขาคาดหวังว่าพวกเขาจะถอนตัวเมื่อได้ยินชื่อขององค์กรแต่มันก็ไม่ได้ เกิดขึ้น คุณค่าของสวนแฟรี่สูงเกินไปจนทำให้พวกเขาขัดแย้งกับหัตถ ์ ธาตุ "ดูเหมือนว่าเจ้าจะไม่ได้ยินคำพูดของนายท่าน อย่าประเมินตัวเองสูงไป มิฉะนั้นพวกเจ้าจะเสียใจกับการตัดสินใจของพวกเจ้า" ฮาคีมก้าวมา ข้างหน้าด้วยเช่นกัน "นายท่าน มันไม่มีประโยชน์อะไรที่จะต้องต่อรอง กับพวกเขา ขอแค่มีตัวอย่างจากพวกเขา ถ้าพวกเจ้าสามารถชนะเราได้ เราจะแบ่งสมบัติลับให้กับพวกเจ้า" ฮาคีมปฏิบัติตามแผนและพูดคำพูดที่แองเจเล่บอกเขา "แม้ว่าความจริงรังอินทรีน้ำเงินจะอ่อนแอกว่าองค์กรหัตถ์ธาตุ" อูนอส สูดหายใจเข้าอย่างรวดเร็วเพื่อทำให้ตัวเองใจเย็นลง "เราเป็นคนที่ ค้นพบประตูเข้าส่วนลับก่อนและบางส่วนของสมาชิกเรายังอยู่ภายใน เราสามารถต่อรองกันได้เจ้าคิดยังไง" ฮาคีมกำลังจะพูดอีกแต่ก็ถูกแองเจเล่บอกให้พอ แองเจเล่ไม่ได้กลัวการต่อสู้แต่ถ้าสามตระกูลตัดสินใจที่จะเข้าร่วมกอง กำลังกับรังอินทรีน้ำเงินมันก็อาจจะทำให้เกิดปัญหาได้ "ข้าจะขอพูดกับพวกเจ้าตรงๆ ข้าไม่สนใจสิ่งที่เรียกว่าสมบัติลับ ข้ า ต้องการเห็นน้ำพุของแฟรี่พวกเจ้าเป็นเพียงแค่กลุ่มเล็กๆ มันเป็นไป ไม่ได้ที่เราจะเอาสมบัติทั้งหมดไป" บรรยากาศที่ตึงเครียดก่อนหน้านี้เริ่มผ่อนคลายลงเล็กน้อยหลังจากที่ แองเจเล่พูดจบ อย่างไรก็ตามเขาไม่แน่ใจว่าหัวหน้าของตระกูลจะไว้ใจ เขาหรือไม่ แองเจเล่ไม่ได้โกหก สิ่งเดียวที่เขาต้องการคือพรของสวนลับและมันเป็ น น้ำพุของแฟรี่ ถึงแม้ว่าเขาจะมีข้อสงสัยว่าสมบัติลับนี้จะช่วยเขาเพิ่ ม ความคืบหน้าเร็วขึ้นได้หรือไม่ อย่างไรก็ตาม คนเหล่านั้นที่มีความจงรักภักดีกับรังอินทรีน้ำเงินไม่มี ความสุข แผนของพวกเขาจะยุ่งเหยิงถ้าเขาได้รับพรทีหลัง สายตาที่เย็นชาของอูนอสตกลงที่แองเจเล่และเขาก็สื่อสารกับแม่มด ชราข้างหลังเขาด้วยผ่านอนุภาคพลังงาน "เจ้าตรวจสอบพวกเขาเสร็จหรือยัง" "เกือบเสร็จแล้ว พวกเขามีพ่อมดระดับสองสามคนและระดับหนึ่งขั้น คริสตัล ผู้นำของพวกเขาเป็นเพียงพ่อมดระดับหนึ่ง น่าสนใจ ตาม สายตาของพวกเขา พวกเขากำลังฝึกแกนแม่น้ำมัลเท็น" หญิงชราตอบ มีลูกแก้วคริสตัลโปร่งใสบนมือขวาที่กำลังเรืองแสง อูนอสคิดชั่วครู่และพูดออกมา "ระดับสองสามคนเป็นภัยคุกคามที่ใหญ่ ที่สุดของเรา.....การฝึกฝนแกนแม่น้ำมัลเท็นแสดงให้เห็นว่าพวกเขาเป็ น ส่วนหนึ่งของยามรักษาการณ์และเป็นหัวกะทิที่เก่งในการต่อสู้กราเซีย จัดเตรียมทีมซุ่มโจมตีระดับสองสามคน ส่วนที่เหลือกำจัดระดับหนึ่ง ผู้นำของพวกเขาจะต้องเป็นคนสำคัญในหัตถ์ธาตุข้าจะจับเขาด้วย ตัวเอง" เขาส่งข้อความนี้ผ่านอนุภาคพลังงาน "แต่เราจะต้องแจ้งหัวหน้าสาขาก่อน...." ผู้หญิงที่มีผมยาวสีดำ ขัดจังหวะ "ไม่ต้องกังวลเรื่องหัวหน้าสาขา สำนักงานใหญ่ของเราไม่ได้อยู่ในแม่น้ำ ทาร์รี่ดังนั้นมันจึงไม่ใช่ปัญหาใหญ่ถ้าเราสามารถถอนตัวกลับได้ หลังจากที่ชนะการต่อสู้" อูนอสตอบอย่างเย็นชา "ใช้กลยุทธ์ลับและแยก กองกำลังของพวกเขาออกจากกัน มันจะเป็นการต่อสู้ที่ง่าย" "นายท่าน ท่านเพิ่งขึ้นระดับสองไม่นานมานีข้าคิดว่าท่านต้องการ ความช่วยเหลือของข้า...." ผู้หญิงให้คำแนะนำ "ผู้นำของพวกเขาเป็นเพียงพ่อมดระดับหนึ่งขั้นคริสตัล เราได้เตรียมข่าย เวทมนต์ไว้แล้ว ข้าไม่คิดว่ามันจะมีปัญหา" ในขณะที่อูนอสมองแอง เจเล่เขาก็ส่ายหัว แองเจเล่หันไปด้านข้างและยิ้มหลังจากที่สังเกตเห็นว่าสายตาของอูนอ สมองที่เขา "เริ่มต้นการซุ่มโจมตีทันทีที่ประตูเปิด คอยดูมือของข้า" อูนอสขดริม ฝีปาก "เข้าใจแล้วครับ/ค่ะ" ผู้ใต้บังคับบัญชาของเขาตอบทันที ****************************************** แลนซ์มาพร้อมกับสมาชิกของหัตถ์ธาตุที่ยอดภูเขา อย่างไรก็ตามเขาได้ ปฏิบัติตามคำสั่งของแองเจเล่เพื่อกลับไปที่ตระกูลของตัวเองทันที คำพูดของแองเจเล่ได้พลิกสถานการณ์ทั้งหมด ทั้งสามตระกูลไม่ได้ ขัดแย้งกับหัตถ์ธาตุอีกต่อไป "ข้าเห็นด้วยกับที่เจ้าพูด เราควรเริ่มเจรจาต่อรองกันหลังจากที่ประตู เปิด" ริมฝีปากของเขาขดเป็นรอยยิ้ม "ให้ข้าแนะนำตัวเองก่อน ชื่อของ ข้าคือแองเจเล่" เมื่อผู้อาวุโสของตระกูลสเป็นเดอร์กิลได้ยินแองเจเล่แนะนำตัวเองเขาก ็ รีบก้าวมาข้างหน้าเพื่อแนะนำตามมารยาท "ข้าเป็นหนึ่งในผู้อาวุโสของตระกูลสเป็นเดอร ์ชื่อของข้าคือกิล ท่านพูด ถูกท่านแองเจเล่เราควรรอประตูเปิดพร้อมกัน เนื่องจากมันเป็นโบราณ สถานที่อาจจะมีผู้พิทักษ ์เราจะต้องรวมกำลังของเราเพื่อเตรียมพร้อม สำหรับการปะทะ" กิลพูดเสียงดัง ในขณะเดียวกันแลนซ์ที่พาแองเจเล่ มาที่นี่กำลังยืนอยู่ข้างหลังกิล คริสโตเฟอร์ที่เป็นหัวหน้าของตระกูลมอร์แกนฝืนยิ้ม "ตราบใดที่ท่านไม่ ได้มาที่นี่เพื่อเอาทุกสิ่งไปจากเราข้าก็จะยืนอยู่เคียงข้างท่าน" หัวหน้าหญิงของตระกูลฟิลิปพยักหน้าเล็กน้อย เห็นได้ชัดว่าเธอเห็น ด้วยกับแองเจเล่มันเป็นเช่นเดียวกับคนอื่นๆในตระกูลของเธอ เธอ ไม่ได้เป็นคนช่างพูด ภูเขาที่พวกเขาอยู่อยู่ภายใต้อาณาเขตของหัตถ์ธาตุแม้แต่พ่อมด ระดับสูงก็จะต้องตอบคำเรียกของป้อมยามขององค์กร ตามรายงาน ข่าวกรองที่ส่งมาจากสำนักงานใหญ่ระดับของพ่อมดทั้งหมดที่อยู่ ข้างหน้าประตูของสวนลับอยู่ต่ำกว่าระดับสาม ผู้อาวุโสของตระกูล ลิฟ ฮาคีม ลินและอูนอส ทุกคนเป็นพ่อมดระดับ สอง ปัญหาเดียวคือพ่อมดที่ฝึกแกนแม่น้ำมัลเท็นสามารถจดจำได้ง่าย ทุก คนรู้ดีว่ามีเพียงยามรักษาการณ์เท่านั้นที่สามารถเข้าถึงเทคนิคระดับสูง นี้ได้วิเวียนได้ทำให้เจ้าเมืองพ่ายแพ้และยักษ์พายุก็อยู่หน้าเมืองพัน น้ำตกพร้อมกับยามรักษาการณ์ของเธอ ผู้คนจะคิดให้ดีก่อนที่จะ พยายามยุ่งกับกองกำลังที่ทรงพลังนี สมาชิกของยามรักษาการณ์ทุกคนได้ฝึกฝนการฆ่า พวกเขาส่วนใหญ่ได้ ผ่านมาหลายสงคราม พ่อมดทั่วไปไม่มีโอกาสยืนอยู่ต่อหน้ากับพลังที่ ยิ่งใหญ่ของพวกเขา ตอนที่322: เปิดเผยให้รู้ (1) แปลนิยาย.วันศุกร์ ที่13 เมษายน 2018 อีกตอนขอเลื่อนเวลาลงนะครับ ลงประมาณแปดโมง ไม่มีใครอยากจะยุ่งกับหัตถ์ธาตุรวมถึงรังอินทรีน้ำเงิน แองเจเล่มองไปรอบๆ "ดูเหมือนว่าพวกเจ้าเห็นด้วยกับแผนของข้า รอ ให้คนที่เข้าสวนออกมาและถามคำถามพวกเขาก่อน พวกเจ้าคิดว่า อย่างไร" "ข้าเห็นด้วย เรายังต้องตั้งบาเรียและลาดตระเวนรอบภูเขาเพื่อไม่ให้คน แปลกหน้ามาที่นี่และเรียกร้องสมบัติจากเรา" อูนอสขดริมฝีปากและ มองไปที่แองเจเล่ แองเจเล่มีรอยยิ้มที่อ่อนโยน เขาไม่ใส่ใจกับความคิดของคนอื่นเกี่ยวกับ ข้อเสนอของเขา อย่างไรก็ตามลินไม่พอใจกับสิ่งที่อูนอสพู ด "นายท่าน ถ้าเราจะต้องต่อสู้กันเพื่อสมบัติท่านโปรดปล่อยให้ชายที่ชื่อ อูนอสให้ข้าจัดการ ข้าจะตัดลิ้นของเขาออก...." "ใจเย็นๆ" แองเจเล่ตบเบาๆไปที่ไหล่ขวาของลินและหยุดเธอจากการพูด ต่อ ลินเป็นหัวหน้าทีมของยามรักษาการณ์และแองเจเล่ชอบเธอมากกว่า ลิฟ ใบหน้าของเธอน่ารักและร่างกายของเธอก็ดูดีนอกจากนี้เธอยังทรง พลังและไม่เคยถามคำถามเกี่ยวกับการตัดสินใจของแองเจเล่ มันดูเหมือนว่าลินมีเจตนาที่จะเป็นลูกน้องของเขา แองเจเล่มองไปที่สมาชิกของทั้งสามตระกูล พวกเขาต้องคิดว่าแองเจเล่เป็นสมาชิกของยามรักษาการณ์เนื่องจากไม่ มีใครรู้ว่าเขาเป็นลูกชายของผู้อาวุโสสาม "มันเป็นความคิดที่ดีเราไม่ต้องการคนแปลกหน้าที่นี่ข้าเห็นด้วย" แอง เจเล่เพิ่มเสียงของเขา "เราเห็นด้วยเช่นกัน!" ผู้อาวุโสของตระกูลสเป็นเดอร์เห็นด้วยกับ ข้อตกลงเช่นกัน กิลเหมือนคนที่กำลังจมน้ำที่คว้าอะไรก็ได้เพื่อเอาชีวิต รอด แองเจเล่เป็นเหมือนฟางช่วยชีวิต หัวหน้าของอีกสองตระกูลสบตากัน "ตระกูลฟิลิปเห็นด้วยกับแผนนี้" "ตระกูลมอร์แกนจะทำตามด้วยเช่นกัน" หัวหน้าอีกสองคนได้ตัดสินใจ "เอาล่ะ งั้นพวกเราจะต้องส่งกองลาดตระเวนของพวกเราออกไป" อู นอสแนะนำ แต่ละกองกำลังได้เลือกสมาชิกหลายคนเพื่อลาดตระเวนบริเวณ โดยรอบของภูเขา ในขณะที่ส่วนที่เหลือรอประตูเปิดอย่างอดทน เวลาได้ผ่านไปอย่างรวดเร็วและมันก็ถึงบ่ายแล้ว ท้องฟ้าเริ่มมืดและลม หนาวก็แรงกว่าเดิม แองเจเล่บอกให้กลุ่มของเขาสร้างสร้างที่พักไม้บนยอดเขา มีคนหลายคนทำเช่นนั้นในขณะที่คนอื่นๆกำลังเตรียมอาหารเย็น ลิฟ และแองเจเล่ได้สร้างเก้าอี้หินหลายตัวด้วยตัวเองและนั่งลงแล้วเริ่มทำ สมาธิ ทั้งสามตระกูลตัดสินใจที่จะทำเช่นเดียวกันหลังจากที่ได้เห็นการกระทำ ของแองเจเล่ อูนอสยังนั่งอยู่บนเก้าอี้ของเขา ตำแหน่งของกลุ่มของเขาน่าอึดอัดใจ เล็กน้อย แม้ว่าพวกเขาจะอยู่ใกล้ประตูที่สุดแต่ก็มีก้อนหินขนาดใหญ่ กระจัดกระจายอยู่รอบๆพื้นที่ที่พวกเขาอยู่ เขาส่งผู้ใต้บังคับบัญชาของเขาหลายคนเพื่อเตรียมวัตถุดิบสำหรับ อาหารเย็นเมื่อตระหนักว่าไม่มีพื้นที่ที่จะสร้างที่พักไม้ของตัวเอง หลังจากที่คิดชั่วครู่อูนอสก็ตัดสินใจที่จะสร้างกองไฟและมุ่งมั่นไปกั บ การทำอาหาร แองเจเล่ไม่เคยใส่ใจกับสิ่งที่คนอื่นคิด ยอดเขาพวกเขามีที่พักไม้ที่ใหญ่ ที่สุดและส่วนผสมในการปรุงอาหารที่มีคุณภาพที่สูงที่สุด นี่ทำให้ ดู เหมือนว่าพวกเขาไม่ได้มาที่นี่เพื่อสมบัติแต่มาที่นี่เพื่อตั้งแคมป ์ เขายังคงนั่งอยู่เงียบๆบนเก้าอี้หินและทำสมาธิเขาได้วางแผนไว้ในใจ แล้วมันจึงไม่มีอะไรที่ต้องกังวล *************************** ห้าวันต่อมา ประตูของสวนลับยังปิดอยู่สามตระกูล อูนอสและตัวแองเจเล่เองก็ พยายามที่จะเปิดประตูแต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จ คาถา วงเวทและ อุปกรณ์เวทมนต ์ไม่มีอะไรได้ผล ประตูที่เหมือนกระจกยังคงปิดสนิทดังนั้นพวกเขาจึงต้องรอให้ทายาของ ทั้งสามตระกูลออกมา ทั้งสามตระกูลและแองเจเล่สร้างที่พักไม้หลายแห่งทำให้พื้นที่น้อยลง แต่ในทางตรงกันข้าม อูนอสยังไม่ได้สร้างสักหลั ง ในที่สุดประตูของสวนลับก็เริ่มเปลี่ยนไปในตอนบ่าย ผิวที่เหมือนกระจกของประตูได้เปลี่ยนจากสีโปร่งใสไปเป็นแสงสีม่วงทำ ให้ดึงดูดความสนใจของทุกคน แองเจเล่ที่กำลังนั่งอยู่บนเก้าอี้จ้องไปที่ประตูสีม่วงด้วยความอยากรู้ อยากเห็ น "ข้าเดาว่ามันเกือบจบแล้ว พวกเขาจะออกมาในไม่ช้านีแจ้งทุกคน" แอง เจเล่หรี่ตา "เรารอมาห้าวัน!" ฮาคีมหัวเราะ "แต่ก่อนหน้านั้นเราควรจะขับไล่รัง อินทรีน้ำเงิน พวกเขาอยู่ใกล้ประตูมากเกินไป" แองเจเล่ส่ายหัว "ไม่เป็นไร ตามข้อมูลที่ได้จากแลนซ์พวกเขาจะต้องใช้ คาถาพิเศษก่อนที่พวกเขาจะสามารถเข้าประตูได้เราสามารถขัดมันได้ อย่างง่ายดายและเมื่อคาถาถูกหยุดพวกเขาก็จะได้รับบาดเจ็บหนัก เนื่องจากการสะท้อนกลับอย่างรุนแรง ข้าไม่คิดว่าอูนอสจะรู้เรื่องผล สะท้อน" "พวกเขาอาจจะมีวิธีอื่นในการจัดการกับประตู" ลินขดริมฝีปาก "จากคำถามนี้ โครงสร้างของประตูซับซ้อน ความแข็งแกร่งของบาเรีย โบราณเกินความคาดหมายของเจ้า เจ้าจะรู้เมื่อเจ้าเห็นมัน" แองเจเล่ ส่ายหัวเล็กน้อย "เอาล่ะ ดูประตูไว้มันจะเปิดในไม่ช้านี้!" "ครับ/ค่ะ นายท่าน!" กลุ่มของยามรักษาการณ์ตอบพร้อมกันและเดินออกจากที่พักไม้ แองเจเล่กำลังฟังรายงานของซีโร่ในขณะที่มองไปที่ประตู ขั้นที่สามของแกนแม่น้ำมัลเท็นได้วิเคราะห์เรียบร้อยแล้ว ถ้าเขา เชี่ยวชาญมันเขาก็จะก้าวไปสู่การเป็นพ่อมดระดับสอง มีข้อกำหนดสองข้อในขั้นที่สามของเทคนิคการทำสมาธิขั้นสูง ข้อแรก เขาจะต้องมีแหล่งพลังงานที่อุดมไปด้วยอนุภาคพลังงานไฟเพื่ อ ช่วยในการสร้างแกนกลางของร่างที่สอง ความรุนแรงและคุณภาพของ ไฟจะเป็นตัวกำหนดความแข็งแกร่งของร่างที่สอง วิเวียนได้จัดการให้ เขาแล้ว ข้อสอง เขาจะต้องแกะสลักวงเวทที่ซับซ้อนด้วยเทคนิคแกนแม่น้ำ มัลเท็นไว้บนคริสตัลพลังจิตของเขาและใช้มันเพื่อช่วยเพิ่ ม ความก้าวหน้า 'ข้อแรกไม่ใช่ปัญหาแต่ข้อสอง....' แองเจเล่ขมวดคิ้ว 'วงเวทจะต้อง แกะสลักไว้บนคริสตัลพลังจิตของข้าซึ่งหมายความว่าข้าจะต้องทิ้ง คาถาพิเศษไปหนึ่งตัว ข้าสงสัยว่ายามรักษาการณ์จะแก้ปัญหานี้ได้ อย่างไร วิเวียนไม่เคยบอกข้าเรื่องนี้' ลิน ฮาคีมและลิฟเป็นพ่อมดที่เชี่ยวชาญขั้นที่สามของแกนแม่น้ำมัลเท็น อย่างสมบูรณ์ซึ่งหมายความว่าพวกเขายังได้พบปัญหาที่คล้ายกันนี แองเจเล่กำลังคิดหาทางออกที่เป็นไปได้จากพวกเขา เขาได้ตัดสินใจแล้วเปิดใช้งานรูนสื่อสารรูปตัว'Z' ภายในไม่กี่วินาทีเขา ได้ส่งข้อความออกไป มีผ้าห่มถูกใช้เป็นประตูของที่พักไม้คนจะไม่สามารถมองเห็น สถานการณ์จากภายนอกได้แต่แองเจเล่ยังสามารถมองไปข้างนอกผ่าน ช่องว่างได้ หลายนาทีต่อมาลินก็ดึงผ้าห่มไปด้านข้างและเข้าที่พักอย่างสุภาพ "นายท่าน ท่านต้องการที่จะพูดกับข้าใช่หรือไม่" แองเจเล่พยักหน้า "ข้ามีคำถามเกี่ยวกับขั้นที่สามของแกนแม่น้ำมัลเท็ น มันเป็นสิ่งที่สมาชิกทุกคนของยามรักษาการณ์ฝึกใช่ไหม" "ใช่ค่ะ คำถามอะไรคะ" ลินโค้งตอบ "ข้ากำลังตรวจสอบหนังสือและพบสิ่งหนึ่งที่รบกวนจิตใจของข้า มันดู เหมือนว่าข้าจะต้องสลักวงเวทของเทคนิคไว้บนคริสตัลพลังจิตของข้ า ซึ่งหมายความว่าข้าจะต้องทิ้งคาถาพิเศษตัวต่อไปใช่ไหม ข้าต้องการรู้ ว่าทุกคนจัดการกับปัญหานี้อย่างไร" แองเจเล่ถามตามตรง ราวกับว่าลินไม่ได้แปลกใจกับความคืบหน้าที่รวดเร็วของแองเจเล่เธอ ตอบอย่างสงบ "ที่จริงแล้วไม่ใช่เพียงแกนแม่น้ำมัลเท็ น ทุกเทคนิคการ ทำสมาธิขั้นสูงจะใช้ช่องคาถาพิเศษของท่านหนึ่งช่อง ไม่ต้องกังวล วง เวทมีผลพิเศษที่แข็งแกร่งกว่าคาถาพิเศษทั่วไปในแง่ของความสามารถ ในการป้องกันและโจมตีท่านจะไม่ผิดหวังอย่างแน่นอน" "หา" แองเจเล่สับสน "ทุกเทคนิคการทำสมาธิขั้นสูงจะใช้ช่องคาถา พิเศษหนึ่งช่องงั้นหรือ" เขาไม่ได้พบกับข้อกำหนดนี้ในเทคนิคหน้ากาก ปีกทมิฬ "ค่ะ" ลินพยักหน้าอย่างมั่นใจ "มันเป็นสิ่งที่ท่านต้องอยู่กับมัน เทคนิ ค การทำสมาธิขั้นสูงและท่านจะต้องเพิ่มระดับขึ้นและท่านจะต้องทิ้งช่อง คาถาพิเศษไปหนึ่งช่อง" "อย่างงั้นหรือ" สีหน้าของแองเจเล่เปลี่ยนไป "แต่ขั้นที่สามของแกน แม่น้ำมัลเท็นต้องการแค่สลักวงเวทไว้บนคริสตัลพลังจิตของเจ้าใช่ไหม ทำไมมันถึงง่ายแบบนี้ล่ะ" "ง่าย?!" ลินหยุดพูดชั่วครู่เธอดูสับสน "ท่านจะรู้ได้ว่ามันยากแค่ไหนเมื่อ ท่านเริ่มสลักมันไว้บนคริสตัลพลังจิตของท่าน นอกจากนี้ท่านยังต้องใช้ แกนที่อุดมไปด้วยอนุภาคพลังงานไฟ แกนเช่นนั้นยากที่จะพบ" "ข้าได้ยินเรื่องนี้จากลิฟ พ่อมดที่ฝึกฝนเทคนิคแกนแม่น้ำมัลเท็นมักจะ ใช้หินไฟปฐพีเป็นแกนของร่างที่สองใช่ไหม" แองเจเล่ถาม "ถูกต้องแล้ว" ลินพยักหน้า "ข้าสามารถแสดงให้ท่านดูได้" "ขอบคุณมาก" แองเจเล่ยิ้ ม ลินโค้งเล็กน้อยและก้าวถอยหลังสองก้าว เมื่อยืนอยู่ข้างทางเข้าที่พักเธอก็เริ่มวาดเส้นในอากาศ เส้นนี้เป็นอนุภาคพลังงานสีแดงที่กำลังเรืองแสงในอากาศในขณะที่นิ้ว ของเธอยังคงขยับต่อไป ชี่ หลายวินาทีต่อมาก็มีวงเวทปรากฏข้างหน้าของลินใกล้ๆกับเท้าของเธอ และปลดปล่อยลำแสงสีแดงเข้มออกมาเชื่อมกับเส้นที่วาดโดยใช้ อนุภาคพลังงานเข้าด้วยกัน มันเป็นวงเวทสามมิติที่มีรูนสีแดงเข้มกำลัง หมุนรอบมัน ทันใดนั้นรูนสีแดงเข้มทั้งหมดก็รวมตัวกันระหว่างมือของลินเหมือนน้ำ ไหลและก็มีลูกบอลแสงสีแดงเข้มในอากาศ ลูกบอลแสงดูเหมือนลาวาที่หลอมละลายที่ปกคลุมไปด้วยรอยแตกและ มีของเหลวสีทองที่กำลังไหลระหว่างช่องว่าง เมื่อแองเจเล่ลุกขึ้นยืนเขาก็รู้สึกถึงคลื่นความร้อนที่รุนแรงมาโดนใบหน้า ของเขา มีเศษไม้ที่อยู่ใกล้ๆมุมนั้นถูกพัดลอยขึ้นไปในอากาศ เศษเหล่านั้นถูกเผาเป็นขี้เถ้าสีดำเมื่อมันตกลงที่พื้ น คลื่นความร้อนยังถูกปลดปล่อยออกมาทุกทิศทุกทางจากบอลลาวาบน ฝ่ามือของลิน "นายท่าน นี่เป็นความสามารถที่ท่านจะได้รับจากวงเวท พ่อมดทุกคนที่ เชี่ยวชาญขั้นที่สามจะได้รับความสามารถนีรูปร่าง ความแข็งแกร่งและ คุณลักษณะของร่างที่สองอาจจะแตกต่างกันไปแต่นี่เป็นวิธีเดียวที่จะ กำหนดพลังที่แท้จริงของพวกเขานั่นก็คือการตรวจสอบจำนวนขั้นที่ พวกเขาเชี่ยวชาญ พลังจะแตกต่างกันอย่างมากในแต่ละขั้น" "น่าสนใจ นี่ควรเป็นเหตุผลที่พ่อมดที่ฝึกเทคนิคแกนแม่น้ำมัลเท็น สามารถจดจำได้ง่าย.....เทคนิคการทำสมาธิขั้นสูงอื่นๆมีสถานการณ์ที่ คล้ายกันหรือไม่" แองเจเล่ยังคงตั้งคำถาม ตอนที่323: เปิดเผยให้รู้ (2) แปลนิยาย.วันเสาร์ ที่14 เมษายน 2018 "ค่ะ" ลินพยักหน้า "เทคนิคการทำสมาธิขั้นสูงที่มีชื่อเสียงเทคนิคอื่นก็จะ มีคุณสมบัติของเทคนิคที่แตกต่างกัน บอลลาวาบนฝ่ามือของข้าเป็น ความสามารถที่ข้าได้รับเมื่อข้าเชี่ยวชาญขั้นที่สามอย่างสมบูรณ์ มั น เรียกว่า 'ฝนลาวา' เมื่อข้าโยนบอลนี้ไปในตำแหน่งที่ข้ากำหนดและมันก ็ จะระเบิดแล้วมันจะทำให้ฝนลาวาตกลงมา มันเป็นสิ่งที่ดีสำหรับ สงครามใหญ่พลังของความสามารถนี้ขึ้นอยู่กับระดับพลังจิตของผู้ร่าย ถ้าผู้ร่ายมีพลังจิตสูงพอพวกเขาก็สามารถสร้างความเสียหายได้ถึงสอง เท่าและสามเท่า" ลินอธิบายในขณะที่บอลลาวาหายไปจากมือของเธอ "และมันมี ประโยชน์อีกอย่างหนึ่ง ท่านไม่จำเป็นต้องหาคาถาที่ดีที่สุดเมื่อท่าน ได้รับตอนที่เพิ่มระดับ" "ฟังดูดี" แองเจเล่พยักหน้า "นี่ควรเป็นเหตุผลที่บรรดาองค์กรพ่อมดใน ทวีปกลางถึงได้ก่อตั้งพร้อมกับสำเนาที่สมบูรณ์ของเทคนิคการทำสมาธิ ขั้นสูง" "ด้วยความช่วยเหลือของเทคนิคการทำสมาธิขั้นสูงเราสามารถร่าย คาถาที่เหมาะสมกับระดับของเราได้อย่างง่ายดาย มันเป็นความฝันของ พ่อมดทุกคน" ลินเสริม เธอหยุดชั่วครู่และพูดต่อ "ท่านสามารถใช้มันเพื่อยกระดับคาถาพิเศษ ได้เช่นกันด้วยการเน้นไปกับการจัดการของการไหลเวียนพลังงาน นี่เป็น วิธีที่พ่อมดส่วนใหญ่เลือก ท่านสามารถร่ายคาถาพิเศษหลายตัวได้ทันที ในขณะที่ฝ่ายตรงข้ามของท่านยังเตรียมตัวร่ายคาถาแรก มันฟังดูง่าย เกินไปแต่มันก็มีประสิทธิภาพในบางสถานการณ์" "เอาล่ะ ข้าเข้าใจแล้ว" มีจุดแสงสีน้ำเงินข้างหน้าสายตาของแองเจเล่ "ขอบคุณสำหรับการอธิบายอย่างละเอียด ตอนนี้เจ้าไปได้แล้ว ข้าจะหา วิธีที่เหมาะสมกับข้าที่สุด" "ค่ะ" ลินโค้งเล็กน้อยแล้วก้าวออกจากที่พัก แองเจเล่อยู่คนเดียวข้างในแล้วเอากล่องสีแดงขนาดเล็กออกมาจากถุง กระเป๋า มันเป็นกล่องไม้รูปจันทร์เสี้ยวที่มีการแกะสลักสีเงินบนผิวของมัน แองเจเล่เปิดกล่องทำให้เห็นหินสีแดงดำภายใน มันมีผิวเรียบเนียน คล้ายกับหยก เขาเอามันออกมาและตรวจสอบอย่างระมัดระวังหลายครั้ง 'ดังนั้นนี่จึงเป็นหินไฟปฐพี ซีโร่ ตรวจสอบโครงสร้างพลังงาน' เขาสั่ง มีแสงแวววาวที่มีสีน้ำเงินล้อมรอบดวงตาของแองเจเล่และส่องลงบน หินในกล่อง มันใช้เวลาประมาณสิบวินาทีเพื่อให้ชิปเสร็จสิ้น กระบวนการ แองเจเล่รู้สึกแปลกใจหลังจากที่เห็นผล 'มันเป็นหินที่มีพลังงานไฟคุณภาพสูงซึ่งเหมาะสำหรับเทคนิคแกน แม่น้ำมัลเท็น.....หินนี้สามารถดูดซับอนุภาคพลังงานไฟและเก็ บ พลังงานได้ถึ ง 100 หน่วย วิเวียนให้วัสดุที่ดีที่สุดที่เธอมีแก่ข้า....' 'หินไฟปฐพีอย่างนี้เหมาะสำหรับการฝึกแกนแม่น้ำมัลเท็น มันไม่มี เหตุผลที่ข้าจะต้องหาสิ่งอื่น' แองเจเล่พอใจกับหินที่วิเวียนมอบให้เขา และรู้สึกโล่งใจเมื่อคิดว่าไม่ได้เตรียมอะไรไว้สำหรับขั้นที่สาม แม้ว่าพลังของความสามารถพิเศษนี้จะคล้ายคลึงกับพ่อมดคนอื่นที่ ได้รับการฝึกฝนเทคนิคแกนแม่น้ำมัลเท็นแต่ทักษะโจมตีหลักของเขาก ็ ยังเป็นตราจากสายเลือดโบราณ พลังของตราสายเลือดเป็นแหล่งที่มา ของสายเลือด ระดับพ่อมดของเขาไม่สำคัญ ข้อแตกต่างเพียงอย่าง เดียวคือมันทำให้แองเจเล่สามารถดึงสายเลือดที่แข็งแกร่งขึ้นได้ถ้า ระดับพลังจิตของเขาสูงขึ้น พ่อมดโบราณอาศัยสายเลือดโบราณในขณะที่พ่อมดยุคใหม่มุ่งมั่นไป กับคาถาสร้างความเสียหาย แต่แองเจเล่กำลังพยายามปรับปรุงสายเลือดและคาถาสร้างความเสีย หายไปพร้อมๆกัน ปัญหาเดียวก็คือไม่มีใครบอกเขาเรื่องความคืบหน้า ทางสายเลือด มันแทบไม่มีข้อมูลที่ถูกทิ้งไว้โดยพ่อมดโบราณ ในทางตรงกันข้าม สำหรับคาถาเขาได้รับความช่วยเหลือจากหนังสือ พ่อมดและวิเวียน แองเจเล่หายใจเข้าลึกๆในขณะที่มองไปที่หิ น 'ข้าควรลองพยายามเชี่ยวชาญขั้นที่สามก่อนที่ประตูจะเปิด มาดูกันว่า มันยากแค่ไหนที่จะสลักวงเวทไว้บนคริสตัลพลังจิตของข้า' หลังจากที่สงบลงเขาก็โยนหินไปในอากาศ จากนั้นเขาก็รีบวาดรูน พรึ่ บ หินติดไฟในขณะที่ยังลอยอยู่ในอากาศ มันปลดปล่อยคลื่นความร้อน ออกมา ในไม่ช้าสีหน้าของแองเจเล่ก็เริ่มเคร่งเครียด เขายกมืออีกข้างขึ้นและชี้ ไปที่หิน ในขณะที่กำลังตรวจสอบวงเวทที่บันทึกไว้บนหนังสือเขาก็เริ่มสลักส่วน แรกของวงเวท ชี่ เส้นสีแดงนับไม่ถ้วนปรากฏรอบหินไฟปฐพีและเริ่มวาดส่วนแรกของวง เวท เวลาผ่านไปหลายนาทีเส้นได้ชัดขึ้นและวงเวทที่สมบูรณ์ก็ล้อมรอบหิน ไว้ มีเหงื่อเย็นๆหยดลงจากคางของแองเจเล่มันดูเหมือนว่าจะต้องใช้พลัง จิตจำนวนมากระหว่างกระบวนการนี 'นี่เป็นส่วนแรก.....ข้าไม่แน่ใจว่าพลังจิตของข้าสูงพอที่จะทำทั้งหมด หรือไม่....' แค๊รก มีรอยแตกนับไม่ถ้วนปรากฏบนผิวของหินไฟปฐพี เปลวไฟ รูนและเส้นพลังงานทั้งหมดหายไปพร้อมกั น หินไฟปฐพีไม่ได้ อยู่ในอากาศอีกต่อไปราวกับว่าหินได้ระเหิดไป แองเจเล่กำลังหายใจอย่างหนัก 'ข้าคิดว่ากระบวนการนี้ทำได้ง่าย.....วงเวทมีทั้งหมดสามส่วน ข้าเสร็จ สิ้นส่วนแรกและยังคงมีส่วนที่สองและสาม สิ่งที่ดีคือข้ามีชิปเพื่อช่วยข้า คำนวณทั้งหมด พ่อมดคนอื่นๆอาจจะต้องใช้เวลาหลายปีก่อนที่พวก เขาจะเสร็จสิ้นวงเวทแต่ข้าต้องการเวลาประมาณครึ่งเดือนในการ เชี่ยวชาญขั้นที่สาม' การสลักวงเวทเป็นขั้นตอนที่สำคัญในขั้นที่สามของแกนแม่น้ำมัลเท็น เขาสามารถก้าวสู่ระดับต่อไปได้หลังจากที่กระบวนการนี้สมบูรณ์ มันไม่ เหมือนกับการใช้ยา วิธีนี้จะไม่ก่อให้เกิดสิ่งเจือปนมากเกินไป แองเจเล่สังเกตเห็นว่าระดับพลังจิตของเขาเพิ่มขึ้นเล็กน้อยหลังจากที่ เสร็จสิ้นการสลักส่วนแรก และด้วยความช่วยเหลือของซีโร่เขาก็สามารถ หาวิธีที่ดีที่สุดในการแกะสลักโดยไม่ทำให้เกิดข้อผิดพลาด 'ซีโร่สร้างงาน วิเคราะห์วงเวทและคำนวณอัตราความสำเร็จของการ เชี่ยวชาญขั้นที่สาม' แองเจเล่สั่ ง แองเจเล่ได้หยุดอยู่ที่ขั้นคริสตัลเป็นเวลาสามปีความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ ที่สุดของเขาคือการลบสิ่งเจือปนจากพลังจิตของเขา มันถึงเวลาที่เขา จะต้องลองก้าวไปสู่ระดับต่อไป [สร้างภารกิจ กำลังวิเคราะห์....เวลาโดยประมาณ: 12 ชั่วโมง] ซีโร่ รายงานทันที แองเจเล่มีความสัมพันธ์กับอนุภาคพลังงานไฟสูงดังนั้นความก้าวหน้า ของเขากับเทคนิคแกนแม่น้ำมัลเท็นจึงค่อนข้างเร็ว การสำเร็จขั้นที่สามและก้าวไปสู่ระดับต่อไปไม่ใช่ปัญหาใหญ่สำหรับ แองเจเล่ชิปสามารถเสร็จสิ้นการคำนวณที่ซับซ้อนส่วนใหญ่ให้เขาได้ เขาต้องการทำสมาธินานขึ้นอีกเล็กน้อยแต่เขาก็ได้ยินเสียงดังจากข้าง นอก "ท่านคิต้า!" "ในที่สุดท่านก็ออกมา..." "ท่านซูซาน่า!" แองเจเล่กำลังย่นคิ้วในขณะที่เขาก้าวออกจากที่พักไม้ ยามรักษาการณ์ที่กำลังจะเข้าที่พักโค้งทันทีหลังจากที่เห็นแองเจเล่ "นายท่าน ประตูสู่สวนได้เปิดแล้ว!" แองเจเล่พยักหน้า "ข้ารู้" เขาเงยหน้าขึ้นและมองไปที่ประตู มีพ่อมดสามคนกำลังยืนอยู่ข้างหน้าประตูที่เหมือนกระจก มีแม่มดหนึ่งคนและพ่อมดสองคน ทุกคนอายุประมาณ 15 ปีเสื้อผ้า ของพวกเขายุ่งมากและมีรอยแผลบนใบหน้าของพวกเขา พ่อมดสองคนกำลังสวมชุดคลุมสีดำและแม่มดกำลังสวมชุดสีขาวแต่ พวกมันได้รับความเสียหายทั้งหมด ทั้งสามล้อมรอบไปด้วยตระกูลและองค์กร พวกเขาดูหงุดหงิดเล็กน้อย เพราะดูเหมือนว่าพวกเขากำลังพยายามกลับไปที่ตระกูลของตัวเอง แองเจเล่สังเกตเห็นร่างกายของวัยรุ่นทั้งสามคนที่โปร่งใสด้วยเหตุผล บางอย่าง ชี่ มีลำแสงสีน้ำเงินเจาะผ่านหัวของพ่อมดโปร่งใสแต่มันก็ไม่เกิดอะไรขึ้น ชายคนนี้ตกใจเพราะเหตุนี้และก็ถอยกลับทันทีแต่เขาก็ดูสับสน ชุดคลุมน้ำเงินข้างหลังอูนอสลดมือลงและยกคิ้ว "นายท่าน พวกเขาเป็น ภาพลวงตา เราไม่สามารถทำร้ายพวกเขาได้" "อย่างงั้นหรือ" อูนอสหรี่ตา ผู้หญิงวัยกลางคนจากตระกูลมอร์แกนเห็นฉากนี้และโกรธ เธอถูกหยุด โดยสมาชิกคนอื่นๆแต่เธอก็ยังสบถ มันใช้เวลาหลายนาทีก่อนที่เธอจะ สงบลง "แม่!" ชายคนนั้นที่โดนลำแสงก้าวมาข้างหน้าและมองไปที่ผู้หญิงวัย กลางคน "แม่! ข้าอยู่นี่!" เขาดูตื่นเต้ น "เดี๋ยวก่อนเฮนรี่!' พ่อมดอีกคนหยุดเขา "มีบางอย่างไม่ถูกต้อง" "ท่านคิต้า!" สมาชิกของตระกูลสเป็นเดอร์ตะโกนพร้อมกัน คิต้าหันไปและเห็นสมาชิกของตระกูลของเขากำลังโบกมือ "ท่านกิลหรือ" "ท่านคิต้า ท่านอยู่ในรูปแบบหยั่งรู้ใช่หรือไม่" กิลถาม คิต้าดูตกใจหลังจากที่ได้ยินชื่อนี้ "ท่านรู้เรื่องรูปแบบหยั่งรู้ได้อย่างไร" เขาตระหนักว่าผู้อาวุโสรู้เรื่องสวนอย่างมากและสงบลงหลังจากผ่านไป หลายวินาที คิต้าพยักหน้าเล็กน้อย "ท่านพูดถูก ตอนนี้เราอยู่ในรูปแบบหยั่งรู้แต่เรา ก็ไม่รู้ว่ามันเกิดขึ้นได้อย่างไร" "เดี๋ยวก่อน สภาวะหยั่งรู้หรือ เจ้าสามารถมอบสิทธ์ิกับคนที่ต้องการเข้า สวนได้หรือไม่" ทันใดนั้นอูนอสก็ถาม "เอาล่ะ เพียงแค่มอบให้กับเรา!" "ไม่โปรดเลือกตระกูลฟิลิป!" "ซูซาน่า! เจ้าเป็นเด็กดีและเจ้าควรบอกวิธีให้กับพี่ของเจ้ามาริโน่!" มีสมาชิกของคนทั้งสามตระกูลตะโกนเสียงดัง ผู้อาวุโสและผู้นำไม่ได้ พูดอะไร พวกเขาเป็นญาติของพ่อมดสามคนที่อยู่ในรูปแบบหยั่งรู้ "แม่...." แม่มดที่ชื่อซูซาน่าลังเล เธอมองไปรอบๆและเห็นสาวสวยกำลั ง พูดอะไรบางอย่างกับเธอ การแสดงออกของเธอเปลี่ยนไปและมีน้ำตา ในดวงตาของเธอ "แม่ทำไมท่านถึงมาที่นี่เอาล่ะ ข้าจะมอบวิธี...." "เดี๋ยวก่อนซูซาน่า!" ทันใดนั้นคิต้าก็ขัดด้วยเสียงเข้ม "เกิดอะไรขึ้นคิต้า" ซูซาน่าเช็ดน้ำตาออกจากดวงตาด้วยความสับสน "รอเดี๋ยวก่อน ดูเหมือนว่าเรากำลังมีปัญหา" คิต้ากระซิบกับหูของเธอ "คิต้า เราสามารถมอบสิทธ์ิให้กับคนสองคนและข้าต้องการมอบมันให้ แม่ข้าหนึ่งคน มันไม่ควรจะมีปัญหาใช่ไหม" เฮนรี่เม้มริมฝีปาก "เธอได้ ปฏิบัติกับเจ้าอย่างดีเจ้ารู้เรื่องนั้นดี" เขาดูหดหู่เล็กน้อย "คิดให้ดีเราสามารถมอบวิธีให้กับคนได้สองคนแต่มีสามตระกูลที่ นี่เรา ต้องดำเนินการด้วยความระมัดระวัง" เฮนรี่และซูซาน่ายังเยาว์แต่พวกเขาก็ตระหนักได้อย่างรวดเร็วว่า สถานการณ์รุนแรงแค่ไหน "งั้นเราควรทำอย่างไร" ซูซาน่าและเฮนรี่มองไปที่คิต้า "ลองมาดูกันก่อนว่ามันเกิดอะไรขึ้น" คิต้าตอบเสียงเบา ตอนที่324: ประตูสวน (1) แปลนิยาย.วันจันทร์ที่16 เมษายน 2018 "อย่าฟังเขาเฮนรี่!" ชายชราที่อยู่ด้านข้างของแม่เฮนรี่ตะโกนเสียงดั ง "คิต้าต้องการเก็บไว้ให้ของตระกูลตัวเองเท่านั้น มอบสิทธ์ิในการเข้าให้ เราก่อนที่มันจะสายเกินไป" ที่ยอดเขา ผู้คนถูกแบ่งออกเป็นห้ากลุ่มล้อมรอบที่ประตูของสวนลับแฟรี่ธาตุ ซูซาน่าสังเกตเห็นสีหน้าของคิต้าที่เปลี่ยนไปเมื่อฟังคำของชายชรา "ซูซาน่า! มันเป็นข้า! ลุงของเจ้านิโคล! มอบสิทธ์ิในการเจ้าให้เรา...." "ท่านคิต้า โปรด...." กิลหยุดหนึ่งในสมาชิกของตระกูลของเขาจากการ พูดต่อ เขาและหัวหน้าอีกสองตระกูลกำลังมองไปที่แองเจเล่อย่าง เคร่งเครียด แองเจเล่ก้าวออกไปข้างหน้าด้วยรอยยิ้มพร้อมกับยามรักษาการณ์ที่ทำ แบบเดียวกัน "เพียงแค่มอบมันให้กับเรา ข้าเป็นหนึ่งในสมาชิกหลักของหัตถ์ธาตุเรา จะมอบรางวัลให้เจ้าถ้าเจ้าทำเช่นนั้น" เมื่อมองไปที่คนหนุ่มสาวทั้งสาม คนข้างหน้าประตูเขาก็พูดด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยน "เจ้ารู้ว่าเจ้าสามารถ ส่งให้ได้มากที่สุดเพียงแค่สองคนแต่เราทุกคนที่นี่ต้องการสิทธ์ิในการ เข้าใช่ไหม" "มอบมันให้กับข้า เราสามารถแลกเปลี่ยนกันได้อย่างยุติธรรม ข้ามี ทรัพยากรหายากที่ยอดเยี่ยมมากมาย เพียงแค่บอกข้าว่าเจ้าต้องการ อะไร" แองเจเล่หรี่ตา "เจ้าคงไม่ต้องการเห็นตระกูลของพวกเจ้าฆ่ากันใช่ไหม การโต้แย้งเช่นนี้ จะทำลายมิตรภาพและมันก็จะไม่จบอย่างสงบสุข คิดให้ดี เจ้ากำลังยื น อยู่บนดินแดนของหัตถ์ธาตุเราสามารถเซ็นสัญญากันได้ข้าสาบานว่า ข้าจะไม่ทำอันตรายตระกูลของเจ้า" แองเจเล่หยุดอีกครั้งในขณะที่ยักไหล่ "นี่เป็นวิธีเดียวที่จะทำให้เรื่องนี้จบ อย่างสงบ ข้าเป็นคนเดียวที่สามารถควบคุมสถานการณ์ที่นี่ได้" หนุ่มสาวทั้งสามคิดว่าควรยอมรับข้อเสนอของแองเจเล่หรือไม่ ในที่สุดบรรดาผู้ที่อยู่ในตระกูลทั้งสามก็สงบลงและเริ่มคิดถึงแนวทางที่ ดีที่สุด ด้วยเหตุบางอย่างแองเจเล่ดูเหมือนจะเป็นคนที่น่าเชื่อถือ นั่นคือสิ่งที่ พวกเขารู้สึก "ข้าสามารถมอบให้พวกเจ้าได้มากกว่านั้นนิดหน่อย พวกเจ้าต้องการ เป็นสมาชิกของหัตถ์ธาตุและทำงานกับข้าหรือไม่....ทำไมพวกเจ้ายัง รีรออยู่พวกเจ้าอาจจะกลัวรังอินทรีน้ำเงินงั้นหรือ ไม่ต้องห่วง นี่เป็น ดินแดนของเราดังนั้นพวกเขาจึงไม่สามารถที่จะควบคุมที่นี่ได้ " "เจ้า!" อูนอสขบฟันด้วยความโกรธในขณะที่มองไปที่แองเจเล่พ่อมด ข้างหลังเขากำลังเตรียมพร้อมสำหรับการปะทะ ยามรักษาการณ์สังเกตเห็นว่าสถานการณ์ได้เปลี่ยนไป เพื่อปกป้องแอง เจเล่พวกเขาจึงล้อมรอบแองเจเล่ไว้ตรงกลาง คิต้าเปิดปากกำลังจะพูดอะไรบางอย่าง "ตอนนี้!" อูนอสตะโกนแทรกออกมา ชี่ ใต้ฝ่าเท้าของชุดคลุมน้ำเงินปรากฏเป็นวงเวทสีน้ำเงินขนาดใหญ่ มันเริ่มขยายไปถึงจุดที่เกือบจะครอบคลุมยอดเขาทั้งหมด แองเจเล่ได้ ยินเสียงคลื่นของทะเลที่ออกมาจากอากาศ มีไอน้ำออกมาจากวงเวทสีน้ำเงินที่เกือบจะทำให้เสื้อผ้าของเขาชื้นมาก จนทำให้สายตาของเขาแคบลง มีกลิ่นมหาสมุทรแปลกๆลอยในอากาศ แองเจเล่ยกมือขึ้นทันทีมีแสงสีแดงกระจายอยู่ข้างหน้าเขา ตู้ม การระเบิดทำให้เกิดลำแสงสีแดงหลายเส้นแต่สิ่งเหล่านี้ก็ถูกทำลาย ด้วยหมอกที่มาจากวงเวทสีน้ำเงิน "หา มันไม่ได้ผลงั้นหรือ" แองเจเล่ตกใจ เขารีบมองไปที่สภาพแวดล้อม รอบๆ ตอนนี้เขาถูกล้อมรอบไปด้วยหมอกสีน้ำเงินและรู้สึกราวกับว่าเขากำลัง จมอยู่ในมหาสมุทร เขายังสามารถหายใจได้แต่คนที่อยู่ใกล้ๆเขาหายไป หมด "นี่เป็นคาถาภาพลวงตาที่แข็งแกร่งหรือคาถาว่างเปล่าที่แข็งแกร่ง" แอง เจเล่ควบคุมความเยือกเย็นของตัวเอง จากนั้นเขาก็ก้าวไปและ ปลดปล่อยความแข็งแกร่งของคลื่นพลังจิตทั้งหมดของเขา จุดสีน้ำเงิน กำลังกะพริบอยู่ในดวงตาของเขา เขาได้ศึกษาภาพลวงตาและสร้างเทคนิคป้องกันภาพลวงตาแต่มันดู เหมือนว่าคาถาของรังอินทรีน้ำเงินจะแข็งแกร่งกว่าที่เขาคาดไว้ 'ทักษะเกี่ยวกับภาพลวงตาของข้าได้มาถึงจุดสูงสุดของพ่อมดระดับ หนึ่งที่สามารถทำได้แล้ว อย่างน้อยเทคนิคป้องกันภาพลวงตาที่ข้าสร้าง ควรจะมีผลกับพ่อมดระดับสามแต่ไม่มีคนเช่นนั้นในกลุ่มของพวกเขา ....มันหมายความว่าพวกเขาจะต้องเปิดใช้งานสิ่งประดิษฐ์เวทมนต ์ คุณภาพสูง' แองเจเล่คาดเดา ************************* คิต้า ซูซาน่าและเฮนรี่ทั้งสามได้ตระหนักว่ายอดเขาถูกปกคลุมไปด้วย หมอกสีน้ำเงิน พวกเขาเริ่มกังวล สมาชิกของรังอินทรีน้ำเงินล้อมรอบพวกเขา มีเขาน้ำเงินในมือขวาของอูนอส เขามีใบหน้าขาวซีดในขณะที่ร่ายคาถา มีควันสีน้ำเงินลอยอกมาจากเขาซึ่งเป็นแหล่งที่มาของหมอกและมันก ็ ยังหนาขึ้นเรื่อยๆ หมอกสีน้ำเงินได้สร้างทะเลหมอกที่ยอดเขาซึ่งทำให้คิต้าแทบมองไม่ เห็นอะไรรอบๆตัวเขา "นายท่าน เขาอินทรีได้สร้างพื้นที่หลายส่วนที่แยกศัตรูของเราออกจาก กัน วิธีเดียวที่พวกเขาจะหลบหนีออกมาจากหมอกได้คือการทำลาย คาถาภาพลวงตาแต่เราไม่มีเวลาเหลือมากนัก เราควรทำอะไร" ผู้หญิง ผมสีดำยาวถาม "ทำตามแผน พาทีมของเจ้าไปจัดการกับตระกูลเหล่านั้น ข้าจะจัดการ กับชายที่มาจากหัตถ์ธาตุ" อูนอสมีสีหน้าที่โหดเหี้ยม "เขาพยายามจะ ทำลายคาถา ข้าจะต้องหยุดเขาให้เร็วที่สุด" "ทำไมเราไม่ฆ่าเขาก่อน" พ่อมดชราให้คำแนะนำ "เราไม่สามารถทำได้ดูเหมือนว่าเขาจะเป็นสมาชิกสำคัญของหัตถ์ธาตุ" อูนอสส่ายหัวปฏิเสธคำแนะนำ "เอาล่ะ เราต้องเคลื่อนไหว เราจะต้องจัดการให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้" อูนอสสั่ ง ตอนนี้พวกเขาได้แบ่งออกเป็นสองกลุ่มที่นำโดยแม่มดและพ่อมดชรา ภายในไม่กี่วินาทีพวกเขาก็หายไปในหมอกสีน้ำเงิน อูนอสผูกเขาสีน้ำเงินไว้ที่เข็มขัดและดึงดาบปลายโค้งสีดำออกมาจาก ฝัก เขาเป็นคนสุดท้ายที่เข้าหมอก ************************ ภายในทะเลหมอก แองเจเล่กำลังก้าวไปอย่างช้าๆในขณะที่วาดรูนสีแดงในอากาศที่ หายไปหลังจากผ่านไปหลายวินาที ในขณะเดียวกันหมอกสีน้ำเงินที่ล้อมรอบร่างกายของเขาก็หนาขึ้น เรื่อยๆในขณะที่รูนสีแดงหายไปในอากาศ ทันใดนั้นเขาก็ได้ยินเสียงก้อนหินเล็กๆถูกเหยียบ แองเจเล่หยุดและเลียริมฝีปากของเขา เขาลดมือลงและมองไปที่ชายที่ อยู่ข้างหน้าเขา "คนจากหัตถ์ธาตุเกือบจะทำลายคาถาภาพลวงตาของข้า ไม่แปลกใจ เลยที่มันเป็นองค์กรที่แข็งแกร่งที่สุดในพื้นที่นี้ " ชายคนนั้นก้าวมาข้างหน้าเพื่อเปิดเผยตัวเอง เขามีผมสั้นสีน้ำเงิน ดวงตาสีน้ำเงินและมีใบหน้าหล่อเหลา ชายคนนี้ เป็นอูนอสที่กำลังสวมชุดคลุมยามสีน้ำเงินและกำลังจับดาบปลายโค้งสี ดำแน่น "พ่อมดแองเจเล่ตอนนี้มันเป็นเจ้าและข้า เราเป็นผู้นำของกลุ่มของเรา บางทีเราสามารถจัดการสิ่งต่างๆได้ในเวลาสั้นๆ" อูนอสพูดอย่างสงบใน ขณะที่เขากำลังยิ้ ม แองเจเล่ยกมือขวาขึ้นและสร้างดาบใหญ่สีเงิน ดาบมีสีแดงและมัน ปลดปล่อยคลื่นความร้อนออกสู่อากาศ ดาบสีแดงที่กำลังเรืองแสงดูสะดุดตาในหมอก ควันสีดำที่ออกมาจากดาบปลายโค้งในมือของอูนอสได้ทำให้ใบดาบ เข้มขึ้น เขาโรยผงสีเงินไปในอากาศซึ่งมันค่อยๆตกลงมาที่พื้ น ชี่ อูนอสหายไปจากตำแหน่งเดิมของเขา ใบดาบสีดำดูเหมือนสายสีดำที่ กำลังพุ่งมาหาแองเจเล่ ด้วยเหตุบางอย่างทำให้สายตาของแองเจเล่เสียโฟกัสทำให้เขาลดการ ป้องกันลงหลังจากที่เห็นผงสีเงิน เขาไม่สามารถขยับดวงตาของเขา ออกไปได้ราวกับว่าเขากำลังมองไปที่สมบัติล้ำค่า ความแข็งแกร่งจากมือของเขาดูเหมือนจะอ่อนลงทำให้เขาค่อยๆลด ดาบในมือของเขาลง ใบดาบมาใกล้ขึ้นเรื่อยๆแต่แองเจเล่ก็ยังไม่ได้ขยับ เคร๊ง ทันใดนั้นแองเจเล่ก็ตื่นขึ้นด้วยการเตือนของซีโร่และแทบจะไม่สามารถ ปิดกั้นการโจมตีที่เข้ามาได้มีประกายถูกสร้างขึ้นเมื่ออาวุธทั้งสองปะทะ กัน 'นั่นมันคาถาอะไรกัน มันทำให้ข้ารู้สึกลุ่มหลง' แองเจเล่ตื่นตระหนก ดาบปลายโค้งสีดำได้เปลี่ยนทิศทางและโจมตีที่หลังของแองเจเล่ เคร๊ง แองเจเล่หันกลับไปทันทีและปิดกั้นการโจมตีอีกครั้ง ดาบปลายโค้งสีดำรีบขยับออกไปอย่างรวดเร็วและอูนอสก็ปรากฏ ขึ้นมาอีกครั้ง สีหน้าของเขาเริ่มเคร่งเครียด "ร่างกายของเจ้าแข็งแกร่งอย่างไม่น่าเชื่อ ข้าได้ใช้เวลาไปมากในการ เพิ่มความแข็งแกร่งของข้าแต่ข้าก็ยังอ่อนแอกว่าเจ้า ดูเหมือนว่าข้าจะ ประเมินความสามารถของเจ้าต่ำไป" หลังจากที่เขาพูดจบเขาก็ยกมือขวาขึ้น มีสารเหนียวสีน้ำเงินแปลกๆ ออกมาจากไหล่ขวาของเขาปกคลุมแขนขวาของเขาภายในไม่กี่วินาที และเปลี่ยนเป็นชิ้นส่วนเกราะขนาดใหญ่ มีคริสตัลรูปเพชรสีดำปรากฏตรงกลางศอกขวาของเขา ฟึบ อูนอสเหวี่ยงแขนขวาหลายครั้ง "ตอนนี้ความเร็วและความแข็งแกร่งของข้าเพิ่มขึ้นเป็นสามเท่า ความสามารถพิเศษจากแกนแม่น้ำมัลเท็นของเจ้าอยู่ไหน ทำไมเจ้าถึง ไม่ใช้มั น อา...ข้าลืมไปว่าเจ้ายังเป็นพ่อมดระดับหนึ่ง" เขาหัวเราะเยาะ และยกแขนขวาขึ้น วู้ดดด หมอกและโขดหินถูกพัดลอยขึ้นไปในอากาศ แขนขวาของอูนอสน่ากลัว มาก มันปกคลุมไปด้วยแสงสีน้ำเงินที่เกือบจะมีขนาดเท่าร่างกายของ เขา แองเจเล่หรี่ตา มีระเบิดหัวใจหลายลูกเชื่อมกับของเหลวโลหะสีเงินได้ ไหลมาที่มือซ้ายของเขา ทันใดนั้นเขาก็โยนมือซ้ายขึ้นและโยนระเบิดหัวใจห้าลูกไปในอากาศ ตูมมม เปลวไฟสีแดงและพิษสีเขียวถูกรวมกันด้วยแองเจเล่ที่อยู่ห่างออกไป อู นอสกำลังยืนอยู่ตรงกลางของรัศมีการระเบิดที่ระเบิดอย่างต่อเนื่อง การผสมผสานของอากาศร้อนและแก๊สพิษเริ่มแพร่กระจายไปในพื้นที่ และเกิดเป็นคลื่นกระแทกขนาดเล็ก แองเจเล่ไม่ได้หยุดแต่ถอยหลังทันทีในขณะที่เขาโยนระเบิดหัวใจสีแดง เข้มอีกหลายลู ก ตูมมม ตูมมม ตูมมม มีเสียงดังที่เกิดจากระเบิดดังก้องอยู่ในทะเลหมอก แองเจเล่ยังคงสงบ เขายังคงขยับไปรอบๆและโยนระเบิดหัวใจอีกหลาย สิบลูกทุกทิศทุกทาง ปัจจุบันเขาถูกล้อมรอบไปด้วยเปลวไฟและคลื่ น กระแทกที่เกิดจากการระเบิด แสงที่รุนแรงจากเปลวไฟได้ขับไล่หมอกสีน้ำเงินและส่องลงบนร่างกาย ของแองเจเล่ ตอนที่325: ประตูสวน (2) แปลนิยาย.วันพุธที่18 เมษายน 2018 วันนี้ลงอีกตอนคือตอนเย็นแล้วก่อนแปดโมงพรุ่งนี้อีกหนึ่งตอนรวมเป็น สามตอน อีกสามตอนที่เหลือจะลงวันที่20-21 ก่อนแปดโมงวันที่21 จะลงจนครบสามตอน กลิ่นของเนื้อที่ถูกเผาไหม้ลอยอยู่ในอากาศ มันมาจากระเบิดหัวใจที่ ระเบิดไป สิ่งเหล่านี้คือระเบิดพลังงานทั้งหมดที่แองเจเล่ครอบครอง มีรอยเงิน สามรอยปรากฏบนใบหน้าของเขาและตอนนี้ผิวหนังของเขาก็มีเงา โลหะสีเงิ น เขาจับดาบใหญ่แน่นและเหวี่ยงมันไปข้างหน้า ชี่ จากนั้นดาบใหญ่ก็หดตัวอย่างรวดเร็วและกลายเป็นใบดาบบางเฉียบ ความยาวของมันเพิ่มจากสองเมตรเป็นสิบเมตรและมันก็บิดไปมา ใบดาบก่อตัวเป็นที่กำบังแสงรูปเปลือกหอยข้างหน้าของแองเจเล่ เคร๊ง ที่กำบังดาบได้ปิดกั้นจุดสีดำและหยุดมัน อูนอสได้ปิดกั้นที่กำบังดาบด้วยดาบปลายโค้งสีดำด้วยสีหน้าไม่สบ อารมณ ์ "ข้าไม่ได้คาดหวังว่าเจ้าจะขัดคาถาของข้าได้!" เขาไม่ได้รับบาดเจ็บราว กับว่าระเบิดหัวใจไม่สามารถทำอะไรเขาได้ "ดีข้าคิดว่าข้ารู้วิธีชนะแล้ว" มีแสงสีน้ำเงินค่อยๆล้อมรอบแขนขวาที่น่า กลัวของอูนอสและมันก็เริ่มสว่างขึ้นเรื่อยๆ ทันใดนั้นเขาก็ยกแขนขวาและเหวี่ยงมันไปข้างหน้าพร้อมกับดาบปลาย โค้งสีดำ ปลายใบดาบได้พุ่งผ่านอากาศและสร้างคลื่นพลังงานที่รุนแรง ขึ้น คลื่นพลังงานนี้ใหญ่ขึ้นถึงหนึ่งเมตรและมันก็เริ่มใหญ่ขึ้นเรื่อยๆเมื่อ ปลายใบดาบยาวถึงเจ็ดเมตรในขณะที่มันกำลังทะยานผ่านอากาศ อูนอสไม่สนใจว่าคลื่นพลังงานจะโดนแองเจเล่หรือไม่เขารีบเอาลูกบอล สีเหลืองที่มีขนาดเท่ากำปั้นออกมาจากถุงกระเป๋าและโยนมันไปใน อากาศแล้วหยิบลูกใหม่ออกมา หลายวินาทีต่อมาก็มีลูกบอลสีเหลืองมากกว่าสิบลูกลอยอยู่รอบๆ ร่างกายของอูนอส แต่ละลูกมีเครื่องหมายสีน้ำเงิน อูนอสเริ่มร่ายคาถาเสียงเบา ลูกบอลสีเหลืองระเบิดในอากาศเหมือนดอกไม้ที่กำลังบานและมันก ็ กลายเป็นมนุษย์มีปีกขนาดเล็ก ปีกบนหลังของพวกมันดูเหมือนกับแมลงปอแต่พวกมันก็กระพือเร็วจน ทำให้เห็นเป็นภาพเบลอ มนุษย์จิ๋วผอมและเปลือย ดวงตาสีน้ำเงินของ พวกมันเป็นสิ่งเดียวที่พบได้บนใบหน้าของพวกมัน แองเจเล่ไม่แน่ใจว่า เป็นผู้ชายหรือหญิง พวกมันบินรอบๆอูนอสเหมือนผึ้ง "ไป!" อูนอสชี้ที่แองเจเล่และออกคำสั่ ง มนุษย์มีปีกทั้งหมดเริ่มบินมาทางแองเจเล่ เข็มโลหะค่อยๆยื่นออกมาจากร่างกายของแองเจเล่และลอยอยู่ใน อากาศ อุณหภูมิอากาศรอบๆตัวเขาเริ่มเพิ่มขึ้น มีเส้นอนุภาคพลังงานสี แดงหมุนวนอยู่รอบร่างกายของเขา หลายวินาทีต่อมาปลายเข็มโลหะทุกเล่มก็เปลี่ยนเป็นสีแดง แองเจเล่ชี้ไปที่อูนอสด้วยนิ้วชี้มือขวาในขณะที่มีแสงสีดำที่ดวงตาของ เขา หนึ่งในเข็มโลหะได้มีแสงสีดำแต่มันก็คืนสีเดิมอย่างรวดเร็ว ชี่ เข็มได้ทะยานผ่านอากาศบินไปหาอูนอส เข็ม มนุษย์มีปีกและคลื่นพลังงานสีดำจากดาบปลายโค้งได้พุ่งเข้าหา กันอย่างรุนแรง มนุษย์มีปีกและคลื่นพลังงานหลบเข็มโลหะแล้วบินตรง ไปหาแองเจเล่ เข็มโลหะก็ด้วยเช่นกัน พวกมันไม่ได้หยุดพุ่งตรงไปหาอูนอส ทุกสิ่งทุกอย่างกำลังพุ่งด้วยความเร็วสูง มันแทบเป็นไปไม่ได้ที่แองเจเล่ หรืออูนอสจะหลบมัน ตู้ม ตูมมม มีเสียงดังก้องในพื้นที่ คลื่นพลังงานสีดำระเบิดจากปีกของมนุษย์สีเหลืองและความเสียหาย ของพวกมันก็มากกว่าระเบิดหัวใจพลังงาน เข็มเงินพุ่งเข้าไปใส่อูนอสอย่างรุนแรง เนื่องจากเขากำลังควบคุมมนุษย ์ มีปีกจึงทำให้เขาไม่มีอะไรป้องกันการโจมตีของแองเจเล่ ที่กำบังแสงสี ดำได้แตกเป็นชิ้นๆหลังจากที่ป้องกันเข็มส่วนใหญ่เข็มส่วนที่เหลือได้ เจาะผ่านการป้องกันสุดท้ายและทันใดนั้นเข็มเล่มหนึ่งก็เร่งความเร็วขึ้น ฉึก อูนอสเอนตัวหลบไปด้านข้างแต่มันก็หลบเข็มที่เร่งขึ้นมาไม่พ้น เขาส่ง เสียงครางออกมาเมื่อเข็มทะลุไหล่ซ้ายของเขา ฝุ่นได้ปลิวขึ้นไปในอากาศเนื่องจากการปะทะกันได้ค่อยๆตกลงไปที่พื้น เข็มเงินได้แทงที่ไหล่ซ้ายของอูนอส มันไม่มีเลือดไหลออกมาจาก บาดแผลแต่ไหล่ของเขาก็ค่อยๆเปลี่ยนเป็นสีเทา มันเป็นผลของ ความสามารถในการทำให้กลายเป็นหิน "บัดซบ!" อูนอสรีบเอาขวดแก้วขนาดเล็กที่เต็มไปด้วยของเหลวออกมา หลายขวดและเทออกมาทีละขวด ในไม่ช้าไหล่ซ้ายของเขาที่กำลัง กลายเป็นหินก็ค่อยๆช้าลง แองเจเล่กำลังยืนอยู่ห่างจากอูนอสประมาณสิบเมตร เขาได้ปิดกั้นการ ระเบิดด้วยดาบใหญ่ที่กลับสู่รูปแบบเดิม ใบหน้าของเขาซีดแต่ไม่มีแผล บนร่างกายของเขา "การระเบิดแทบจะไม่ได้มีความเสียหายทางกายภาพใดๆแต่มันดูดพลัง จิตของข้า.....มันเป็นไปได้อย่างไร" แองเจเล่กำลังหอบ เขาเหลือพลังจิ ต ประมาณ 15 หน่วยและสถานการณ์เริ่มแย่ลง สนามพลังของแมงป่อง คริสตัลเปิดใช้งานเมื่อมนุษย์มีปีกระเบิด นั่นเป็นเหตุผลที่เขายังมีพลัง จิตเหลืออยู่แต่ตอนนี้หัวของเขากำลังปวด ถ้าปราศจากแมงป่องเขาก ็ คงจะหมดสติไปแล้ ว "เจ้าค่อนข้างเก่ง เจ้าไปเรียนรูปแบบคาถาที่ทำให้กลายเป็นหินมาจาก ไหน" มีเหงื่อเย็นๆปกคลุมหน้าผากของอูนอส การต่อสู้ได้หยุดนิ่ง แองเจเล่พยายามที่จะเดาให้ออกว่าอูนอสจะทำ อะไรต่อ เนื่องจากอูนอสเป็นพ่อมดระดับสองเขาจึงคิดว่าเขาสามารถจัดการพ่อ มดระดับหนึ่งแบบแองเจเล่ได้อย่างง่ายดาย "ข้าไม่ได้ต้องการทำแบบนี้แต่ข้าต้องการเข้าสวนจริงๆ" อูนอสเอาเขาสี น้ำเงินออกมาและตบเบาๆที่มัน วู้ดดดด รูนสีน้ำเงินจำนวนนับไม่ถ้วนสว่างวาบบนผิวของเขาและรูปแบบที่ ซับซ้อนก็เริ่มส่องแสง แสงสีน้ำเงินที่รุนแรงค่อยๆลามขึ้นไปที่แขนขวา ของอูนอสแล้วมันก็เปลี่ยนเป็นชั้นเปลวไฟหนา แองเจเล่ยกมือซ้ายขึ้น แหวนเงินบนนิ้วชี้ของเขาเริ่มปลดปล่อยลำแสงสี ทองออกมา สีหน้าของเขาเปลี่ยนไปเมื่อเขาเห็นแสงสีน้ำเงินที่ทำให้เขา แทบมองไม่เห็น แสงสีทองจากแสงแห่งธอร์นได้อ่อนแอลงเนื่องจากแสงสีน้ำเงินที่กำลั ง เคลื่อนที่ไปรอบๆ "สิ่งประดิษฐ์เวทมนต์นั้น...." แองเจเล่ขดริมฝีปากในขณะที่เขามองไปที่ เขาสีน้ำเงิน เขาวางมือขวาไว้ในถุงกระเป๋าและเปิดใช้งานแมงป่องคริสตัลอีกครั้ง ชี่ ทันใดนั้นรูนรูปแมงป่องสีแดงก็ปรากฏตรงกลางหน้าผากของเขา "หา" อูนอสลังเลหลังจากที่เห็นรูน "เครื่องหมายนั้น.....อย่าบอกนะว่า เจ้าเป็น...." มันดูเหมือนว่ารูนจะทำให้เขานึกถึงใครบางคน เขารีบแตะเขาอีกครั้ง และแสงสีน้ำเงินก็เริ่มหดกลับทันที "เจ้าสามารถเข้าไปได้ข้ายอมแพ้!" อูนอสฝืนยิ้ม "ข้าควรตรวจสอบให้ดี ..." เขาเก็บเขากลับเข้าไปในถุงกระเป๋าและหายไปในหมอกสีน้ำเงิน แผนของแองเจเล่ได้ผล อูนอสตระหนักว่าวิเวียนเป็นแม่ของเขาหลังจาก ที่เห็นรู น ประมาณสิบวินาทีต่อมาหมอกสีน้ำเงินก็หายไปอย่างสมบูรณ์และทุ ก สิ่งทุกอย่างก็กลับไปสู่สภาพปกติอีกครั้ ง แองเจเล่ยังอยู่กับยามรักษาการณ์ราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น สมาชิกของตระกูลทั้งสามยังอยู่ตำแหน่งเดิมแต่รังอินทรีน้ำเงินได้ หายไปจากยอดเขาแล้ว อูนอสอาจจะไม่ต้องการให้สถานการณ์แย่ลงดังนั้นเขาจึงตัดสินใจที่จะ ถอนตัว 'เขาสีน้ำเงินนั้น.....ถ้ามันเปิดใช้งานเต็มที่ข้าก็จะต้องใช้ตราของข้าและ มาดูกันว่าข้าจะรอดจากการโจมตีหรือไม่....' แองเจเล่กัดริมฝีปากเมื่อ เขานึกถึงสนามพลังที่น่ากลัวจากสิ่งประดิษฐ์เวทมนต์ของอูนอส "นายท่าน ท่านไม่เป็นไรใช่ไหม" ค้อนสีดำของลินปกคลุมไปด้วยเลือด "ข้าไม่เป็นไร ทุกคนสบายดีไหม" แองเจเล่มองไปรอบๆ ยามรักษาการณ์ส่วนใหญ่ได้รับบาดเจ็บแต่อาวุธของลิฟ ลินและฮาคีม โชกไปด้วยเลือดของศัตรู ใบหน้าของลิฟซีด ดูเหมือนว่าเธอใช้พลังจิตไปมาก "หมอกสีน้ำเงิน จะต้องมาจากสิ่งประดิษฐ์เวทมนต์ที่แข็งแกร่งที่สุดของพวกเขาที่ชื่อว่ า เขาอินทรีข้าไม่ได้คาดหวังว่าพวกเขาจะนำมันมาที่นี่" "สิ่งนั้นแข็งแกร่งแค่ไหน" แองเจเล่ถาม "มันสามารถจัดการกับความเสียหายจำนวนมากในพื้นที่ได้ทันที" ลิฟ ตอบ "ทันทีหรือ...." จากนั้นแองเจเล่ก็ตระหนักว่ามันอาจจะแข็งแกร่งกว่าแสง แห่งธอร์น "อูนอสจะต้องค้นพบตัวตนของท่านและตัดสินใจที่จะจากไป ถ้าท่าน ได้รับบาดเจ็บหรือถูกฆ่ามันก็ไม่ต้องสงสัยเลยว่าท่านวิเวียนจะกวาด ล้างรังอินทรีน้ำเงิน แต่ก็ไม่มีใครในหมู่พวกเราที่สามารถจัดการกับพลัง ของสิ่งประดิษฐ์เวทมนต์นั้นได้ตั้งแต่แรกอูนอสควรตระหนักได้ถึง ความสำคัญของท่านกับองค์กรของเรานั่นคือเหตุผลว่าทำไมเขาถึงไม่ ใช้เขาหลังจากที่เริ่มการต่อสู้" ลินพูดเสริ ม "มันถึงเวลาเข้าสวนแล้ว" แองเจเล่ไม่ได้ให้ความเห็นเกี่ยวกับคำพูดของ ลิน เขาไม่เคยคิดว่าอูนอสจะมีโอกาสชนะเขาถ้าอูนอสไม่มีสิ่งประดิษฐ ์ เวทมนต์เนื่องจากเขายังมีตราอยู่ อย่างไรก็ตามลินไม่ได้รู้ความลับของสายเลือดโบราณและคิดว่าแอง เจเล่กำลังจะแพ้ แองเจเล่ไม่ได้กังวลเนื่องจากเขาเรียนรู้การจัดการที่ ยอดเยี่ยมจากการต่อสู้ตอนนี้เขารู้แล้วว่าเขาสามารถชนะพ่อมดระดับ สองที่ไม่มีสิ่งประดิษฐ์เวทมนต์ที่ยอดเยี่ยมได้ แองเจเล่ยังคงสงบและมองไปที่ประตูเข้าสวนลับของแฟรี่ธาตุ "ไปกันเถอะ ใครต้องการไปกับข้า" ปัจจุบันหัวหน้าของทั้งสามตระกูลได้รับบาดเจ็บดังนั้นจึงไม่มีใคร ตัดสินใจใดๆ นี่ควรเป็นส่วนหนึ่งของแผนการของรังอินทรีน้ำเงิน แองเจเล่นำยามรักษาการณ์ไปที่ข้างหน้าของประตู เด็กหนุ่มสาวทั้งสามได้ถอยไป แม้ว่าพวกเขาจะอยู่ในร่างหยั่งรู้พวกเขา ก็ยังกลัวชายหนุ่มที่กำลังเข้ามาใกล้พวกเขา "ท่านสาบานว่าจะรักษาสัญญาของท่านใช่ไหม" คิต้าถาม เขามองที่ แองเจเล่และหรี่ตา "แน่นอน" มีรอยยิ้มที่อ่อนโยนบนใบหน้าของแองเจเล่ คิต้ามองไปที่สมาชิกของตระกูลทั้งสามและส่ายหัว "ข้าจะมอบสิทธ ์ิ ให้กับท่าน" เขาแลกคำพูดกับเฮนรี่และซูซาน่า ดูเหมือนว่าในที่สุดพวกเขาก ็ ตัดสินใจได้ "โปรดพาคนไปกับท่านอีกหนึ่งคน เรามีเวลาเหลือไม่มากนัก" คิต้าพูด แองเจเล่คิดชั่วครู่และตอบ "ลิน มากับข้า" "ค่ะนายท่าน!" ลินก้าวมาข้างหน้าด้วยความตื่นเต้น คิต้า ซูซาน่าและเฮนรี่หันกลับไปและหายไปในประตู ประมาณสิบวินาทีต่อมาผิวของประตูก็ปกคลุมไปด้วยคลื่นพลังงาน "ตอนนี้ท่านสามารถเข้ามาได้นายท่าน" เสียงของคิต้าดังมาจากภายใน ประตู แองเจเล่พยักหน้าและจับมือขวาของลินแล้วพวกเขาก็ก้าวเข้าไปใน ประตูพร้อมกัน ตอนที่326: แฟรี่(1) แปลนิยาย.วันพุธที่18 เมษายน 2018 มีแสงสีขาวที่ทำให้ตาของพวกเขามองไม่เห็นอยู่ครู่หนึ่ง แองเจเล่และลินที่ก้าวเข้าไปในประตูรู้สึกเหมือนกับเดินผ่านลูกเมือก ขนาดใหญ่แล้วร่างกายของพวกเขาก็โชกไปด้วยของเหลวเหนียว พวกเขาฟื้นสติหลังจากผ่านไปหลายวินาที อีกด้านของประตูเป็นลานขนาดธรรมดา โดยรวมสถานที่นี้ดูเหมือนจะ ชำรุด มีพืชแห้งเหี่ยวอยู่บนพื้นดิน ตรงกลางของลานมีบ่อน้ำพุที่ไม่มีน้ำ กำแพงของลานสูงมากจนแอง เจเล่ไม่รู้ว่ามีอะไรอยู่ข้างใน ท้องฟ้ามีสีเทา ดวงอาทิตย์ถูกปิดกั้นด้วยเมฆหนา มีกลิ่นเหม็นเน่าอยู่ ในอากาศ ทั้งแองเจเล่และลินกำลังยืนอยู่ใกล้ทางเข้าของลาน จากนั้นเขาก็ใช้ชิปสแกนสภาพแวดล้อม "ระวังตัวด้วย มีบางอย่างไม่ถูกต้อง" "เข้าใจแล้วค่ะ" ลินพยักหน้าแต่แล้วก็ลูบขมับของเธอ "ข้าไม่รู้ว่าทำไม แต่ข้ารู้สึกมึนหัว ข้าอยากนอน อาจจะมีวงเวทโบราณที่ป้องกันไม่ให้คน นอกเข้าสวนที่นี่" "รู้สึกง่วงนอนหรือ" แองเจเล่ตกใจ เขารีบอ่านรายงานของซีโร่ ''ไม่มีสนามพลังพิเศษ......ไม่มีแก๊สสะกดจิต......ข้าต้องตรวจสอบสถาน ที่นี้ด้วยตัวเอง แองเจเล่เดินไปที่กำแพงด้านหนึ่งและสังเกตอย่างระมัดระวัง กำแพงของลานสกปรกและชำรุด การแกะสลักบนผิวของกำแพงได้ เสื่อมโทรมลง ส่วนใหญ่ได้เสียรูปร่างเดิมของพวกมันไปแล้ว แองเจเล่ค่อยๆเดินไปตามกำแพงสีเทาและสัมผัสกับการแกะสลัก เหล่านี้อย่างระมัดระวังด้วยการแสดงออกที่สับสน ผิวของการแกะสลักพวกนี้มันนุ่มและยืดหยุ่น เมื่อเขากดลงไปตรงส่วน หนึ่งของผิวที่แกะสลักมันก็เด้งกลับมาทันที "มันผิดปกติ ลิน เจ้าควร....." แองเจเล่หันกลับไปแล้วเขาก็ตกใจกับสิ่งที่ เห็น แม่มดระดับสองลินกำลังยืนหลับตาอยู่ เธอยังหายใจอยู่แต่ดูเหมือนว่า เธอกำลังหลับ "ลิน" แองเจเล่ได้เพิ่มเสียงมากขึ้นด้วยอนุภาคพลังงานแต่เธอก็ยังไม่ตื่น เขาถอยห่างออกไปหลายก้าวแต่ลินก็ยังคงตามเขาราวกับว่าเธอกำลัง เดินละเมออยู่ สีหน้าของแองเจเล่เริ่มเคร่งเครียด เขายกมือขึ้นและดึงหนังตาของเธอ ขึ้น ลูกตาของลินกลอกไปมาอย่างรวดเร็วและรูม่านตาของเธอก็หดตัว เขาเอานิ้วเข้าไปในปากของเธอและเอาตัวอย่างน้ำลายของเธอออกมา "มอนติ....ไลออน....ซครายอิ้ง...." แองเจเล่ร่ายคาถาและชี้นิ้วไปใน อากาศ มีวงเวทสีแดงเข้มขนาดเล็กปรากฏที่ปลายนิ้วชี้ของเขา วงเวทหายไปภายในพริบตาและตัวอย่างน้ำลายบนนิ้วของเขาก ็ เปลี่ยนเป็นสีน้ำเงิน "เธอกำลังฝันแบบผิดปกติ" แองเจเล่ย่นคิ้ว เนื่องจากเธอไม่ได้อยู่ในสถานการณ์ที่คุกคามถึงชีวิตเขาจึงตัดสินใจที่ จะตรวจสอบบ่อน้ำพุก่อน บ่อน้ำพุนี้มีสีขาวและมีสามชั้น แองเจเล่กำลังยืนอยู่ข้างบ่อน้ำพุและมองลงไป สิ่งเดียวที่เขามองเห็น คือกระดูกสีขาวและโคลนแห้งๆ กระดูกปกคลุมไปด้วยใบไม้สีดำ มันดู เหมือนว่าสถานที่นี้ได้ถูกทอดทิ้งมาหลายปีแล้ว ทันใดนั้นก็มีแสงสีแดงขนาดจิ๋วในดวงตาของเขาแต่มันก็ถูกปิดกั้นด้วย ฐานของบ่อน้ำพุ แองเจเล่เดินไปที่อีกด้าน เขาตกใจ มีเด็กวัยรุ่นสามคนกำลังนอนชนไหล่กันอยู่บนพื้น ใบหน้าของ เด็กผู้หญิงปกคลุมไปด้วยเลือดแห้ง สภาพของพวกเขาคล้ายกับของลิน แองเจเล่ขมวดคิ้ว 'ดูเหมือนว่าข้าจะต้องหลับไปเพื่อหาที่ตั้งที่แท้จริง ของสวนแต่ข้าไม่ได้รับผลจาพลังลึกลับของที่นี่...' เขาหันกลับไปและเห็นลินยังตามเขาอยู่ เธอสวมชุดคลุมสีดำยาวหลวมกับชุดสีขาวที่ดูเหมือนชุดนักดาบ มีถุง มือหนังสีน้ำตาลบนมือของเธอ เกราะอกแน่นทำให้แสดงรูปร่างหน้าอก อันงดงามของเธอ ชุดนักสู้ของเธอไม่สามารถปกปิดขาเรียวของเธอได้ ลินมีผมทรงหางม้าสีดำ ใบหน้าของเธอสะอาดและสวย ถึงแม้ว่าเธอ กำลังหลับอยู่แต่ก็มีสีหน้าจริงจัง แองเจเล่ยกมือขึ้น เขาสามารถสัมผัสเธอได้อย่างง่ายดายถ้าเขา ต้องการ เขากลืนน้ำลายแต่แล้วก็ตระหนักว่ามีบางอย่างไม่ถูกต้อง "เดี๋ยวก่อน!" จู่ๆแองเจเล่ก็กัดลิ้นตัวเอง ความเจ็บปวดทำให้เขาตื่น ขึ้นมา "มีอะไรบางอย่างที่ทำให้ข้าสับสน..." เขารีบหันหน้าไปจากลินและเริ่ม สำรวจสภาพแวดล้อมอีกครั้ง อีกฟากหนึ่งของลานเป็นทางเดินที่โผล่ออกมาจากเงานำไปสู่ความมืด มิด แองเจเล่สังเกตเห็นว่าบนผนังสีดำของทางเดินมีการแกะสลักรูปเกลียว ขนาดมหึมาซึ่งดูเหมือนเข็มทิศที่มีรัศมีหนึ่งเมตร เขารีบเดินเข้าไปและยืนอยู่ข้างหน้าของผนังนั้น การแกะสลักที่ดูเหมือนเกลียวมันไม่ได้ปลดปล่อยคลื่นพลังงานใดๆ ออกมา อย่างไรก็ตามแองเจเล่ค้นพบว่ามันน่าประหลาดใจที่เขาไม่สามารถหัน หน้าหนีจากภาพแกะสลักได้หลังจากที่มองไปครั้งหนึ่ง เขาเพียงแค่ยื น อยู่ที่นั่นและจ้องไปที่ตรงกลางของรูปแบบเกลียว ประมาณสิบห้านาทีต่อมาเขาก็ยังไม่พบข้อมูลที่เป็นประโยชน ์ ทันใดนั้นเขาก็สังเกตเห็นว่ามีกลีบจากดอกไม้สีดำตกลงมาที่เท้าของ เขา "กุหลาบดำหรือ" แองเจเล่หันกลับไปและมองไปที่ทิศทางที่มีกลีบมา ลานถูกปกคลุมไปด้วยกุหลาบสีดำและพวกมันก็บานอย่างช้าๆ แอง เจเล่ไม่รู้ว่ามันปรากฏเมื่อไหร่ ทั้งลานมีดอกกุหลาบสีดำเต็มไปหมด ทางเดินเป็นสถานที่เดียวที่ยังว่าง เปล่า น้ำสะอาดได้ไหลออกมาจากบ่อน้ำพุที่ตั้งอยู่ตรงกลางของลาน ใน อากาศไม่มีแสงแดดแต่มันก็ยังมีแสงส่องลงมาโดนน้ำ ภายใต้ท้องฟ้าสีเทามีดอกกุหลาบที่สวยงามและบ่อน้ำพุที่เป็นประกาย ลานดูเก่าแต่ก็มีเสน่ ห ์ แองเจเล่เลียริมฝีปากและยืดหลังตรง เขายกมือขวาขึ้นสร้างดาบยาวสี เงินด้วยเชี่ยวชาญโลหะ ตึกๆ ตึกๆ เขาได้ยินเสียงฝีเท้าที่รุนแรงมาจากมุมที่สายตาถูกปิดกั้นด้วยบ่อน้ำพุ มันเป็นผู้หญิงที่สวมชุดมันวาวยาว บนใบหน้าที่น่ารักของเธอไม่ได้ แสดงสีหน้าใดๆ เธอสังเกตเห็นการปรากฏตัวของแองเจเล่ด้วยเช่นกัน ผู้หญิงคนนั้นค่อยๆเดินมาหาแองเจเล่เธอไม่ได้ปลดปล่อยคลื่นพลังจิต ใดๆออกมา ดอกกุหลาบสีดำได้บานเมื่อผู้หญิงคนนั้นเดินเข้าไปใกล้พวกมันเงียบ และลึกลับราวกับว่าเวลากำลังเร่งขึ้น ผู้หญิงคนนั้นหยุดเดินและยืนอยู่ข้างนอกทางเดิน เธอมีผิวซีดและปากสีม่วงเข้ม ผู้หญิงคนนั้นเพียงแค่จ้องมาที่แองเจเล่ ด้วยดวงตาสีดำที่ดูเหมือนพลอย เธอยกมือขวาขึ้นช้าๆและเอื้อมมือเข้าไปในทางเดิน ชี่ มีสายฟ้าสีดำบนมือของเธอ ผู้หญิงคนนั้นลดมือลงเมื่อเธอไม่สามารถผ่านสายฟ้าได้ "นี่ไม่ใช่สวนของแฟรี่ธาตุใช่ไหม" แองเจเล่ถามเสียงเข้ม "เจ้าเป็นใคร" ผู้หญิงคนนั้นไม่ได้ตอบสนองต่อคำพูดของเขา เธอเพียงแค่จ้องมาที่แอง เจเล่ราวกับว่าเธอไม่ได้ยินอะไร แองเจเล่ไม่แน่ใจว่าเขาควรจัดการกับสถานการณ์นี้อย่างไรดังนั้นเขาจึง ปิดใช้งานแมงป่องคริสตัลทันที "ท่านเฮนน ์ท่านอยู่ไหม" เขาเอากล่องดำออกมา "ใช่ ข้ากำลังพักผ่อนอยู่.....มีเรื่องอะไร เดี๋ยว....สถานที่นี้มัน....สวน เกลียวหรือ เกิดอะไรขึ้น เจ้าเข้ามาที่สวนเกลียวได้อย่างไร เจ้าต้องออก จากพื้นที่นี้ทันทีนี่เป็นประตูสู่ดินแดนของแฟรี่ทุกอย่างอาจเกิดขึ้นได้ ฟังข้า ออกจากสวนให้เร็วที่สุด!" เฮนน์สังเกตสถานการณ์รอบแองเจเล่เสียงของเธอดูเคร่งเครียดและ กังวล "แฟรี่หรือ ข้ากำลังมองหาแฟรี่ธาตุเหล่านั้น พวกมันควรจะเป็นมิตรและ ใจดีใช่ไหม" แองเจเล่ถามในขณะที่มองไปที่ผู้หญิงนอกอุโมงค ์ "แฟรี่ธาตุเหล่านั้นเจ้าอ่านจากหนังสือ! แฟรี่ธาตุถูกสร้างโดยพ่อมด ที่ จริงแล้วแฟรี่กินมนุษย์เนื่องจากอาหารว่างที่ดีที่สุดในดินแดนของแฟรี่ เป็นเนื้อมนุษย ์เจ้าต้องอ่านหนังสือประวัติศาสตร์ให้มากขึ้น มีหลาย ครั้งที่พ่อมดโบราณต่อสู้กับแฟรี่ผู้รุกราน ปัจจุบันเจ้าอยู่ในประตูที่ชื่อ สวนเกลียว ตอนนี้เจ้าควรปลอดภัย มันดูเหมือนว่านี่เป็นประตูใหม่ที่ เปิดประมาณหนึ่งร้อยปีก่อน....แต่มันเป็นไป...." ชี่ สายฟ้าสีดำได้ออกมาอีกครั้ง แองเจเล่รีบเงยหน้าขึ้นและเห็นหัวของผู้หญิงในชุดดำบินออกมาจาก ร่างกายของเธอ คอยาวของเธอดูน่ากลัว ผู้หญิงคนนั้นเปิดปากกำลังจะ กัดใบหน้าของแองเจเล่ หัวได้ห่างจากแองเจเล่หนึ่งเมตรและมีรอยยิ้มที่บิดเบี้ยวบนใบหน้าของ เธอ แองเจเล่ได้กลิ่นคาวจากปากของเธอ "ฮ่าๆ..." ปากของเธอเปิดออกเหมือนซิปกระเป๋าทำให้เห็นฟันแหลมสีขาวภายใน หัวของเธอพยายามที่จะเข้ามาใกล้แองเจเล่แต่มันก็ถูกสายฟ้าสีดำใน โถงฟาดใส่คอยาวของเธอยาวมากกว่าสามเมตรและมันก็ยังเพิ่มขึ้น กระแสจากสายฟ้าก่อเป็นใยสายฟ้าที่พยายามจะหยุดหัวไม่ให้ไป ข้างหน้า "สัตว์ประหลาดนี้..." แองเจเล่หรี่ตาและยกดาบขึ้น ชี่ ดาบได้พุ่งผ่านอากาศและฟันผ่านหัวของเธอ อย่างไรก็ตามแองเจเล่ถูกสายฟ้าสีดำทำให้เขาสั่นและปลิวไปจากแรง กระแทก ตุ้บ เขาโดนผนังอย่างแรงและตกลงไปที่พื้ น "ฮ่าๆ....เจ้าอ่อนแอเกินไปที่จะทำลายบาเรียดินแดนนี้....." เฮนน์หัวเราะ เบาๆ "เจ้าคิดว่านั่นเป็นบาเรียพลังงานที่แยกทางเดินออกจากลานหรื อ เจ้าต้องเข้าใจกฎของโลกเราและดินแดนแฟรี่เพื่อที่จะทำลายบาเรียดิน แดน...." แองเจเล่ไอหลายครั้ง กระดูกทุกส่วนในร่างกายกำลังเจ็บปวด "บัดซบ! งั้นข้าควรทำอะไร" "รอเธอจากไป" ผู้หญิงคนนั้นพยายามที่จะทำลายบาเรียดินแดนด้วยความบ้าคลั่ง ชี่ หัวของเธอได้กลับไปที่ร่างของเธอ เธอมองที่แองเจเล่และกลืนน้ำลาย ราวกับว่ากำลังมองไปที่เนื้ออร่อยๆ ทันใดนั้นก็มีเสียงที่เหมือนสัตรอสูรคำรามมาจากท้องฟ้า มีเงาขนาดใหญ่ปรากฏในท้องฟ้า แองเจเล่มองเห็นสิ่งมีชีวิตที่กำลัง สะบัดปีกของมั น มีมังกรดำขนาดมหึมากำลังบินเหนือลาน มังกรมีคอยาวคล้ายกับหาง ของงูดวงตาของมันเป็นสีดำและมีของเหลวสีเขียวที่เป็นพิษหยดลงมา จากฟันที่แหลมคมของมัน มังกรดูคล้ายกิ้งก่าแปลกๆที่มีปี ก ตอนที่327: แฟรี่(2) แปลนิยาย.วันพฤหัสบดี ที่19 เมษายน 2018 ผู้หญิงคนนั้นดูผิดหวังเมื่อเห็นมังกร หลังจากลังเลชั่วครู่เธอก็หันกลับไป และกระโดดขึ้นไปบนหลังของมังกร มังกรสีม่วง ผีสาวที่น่ากลัวและลานที่เต็มไปด้วยกุหลาบดำ การรวมกั น นี้ทำให้สถานที่นี้ดูลึกลั บ กลีบของกุหลาบดำได้ปลิวขึ้นไปในอากาศ มังกรได้จากไปพร้อมกับผี สาวหลังจากที่เธอกระโดดขึ้นไปบนหลังของมัน ร่างของมันกลายเป็ น จุดสีดำและในไม่ช้าก็หายไปในท้องฟ้าสีเทา "ดี ดูเหมือนว่าเธอต้องจากไป" เฮนน์พูดด้วยเสียงผ่อนคลาย "มีเพียงพ่ อ มดที่อยู่เหนือกว่าระดับสี่เท่านั้นที่สามารถฝึกมังกรได้ถ้านี่เป็นประตูที่ เสถียรเจ้าจะถูกฆ่าด้วยลมหายใจของมังกรหลังจากที่เจ้าเข้าลาน" "แต่เจ้าและผู้หญิงนั้นควรจะถูกแยกออกจากกันอย่างสมบูรณ์ด้วย บาเรียดินแดน มันเป็นไปไม่ได้ที่เธอจะตรวจพบเจ้า มันอาจจะเป็นไปได้ ว่าเจ้ามีสายเลือดโบราณของสิ่งมีชีวิตที่มีความสามารถที่เกี่ยวข้องกับ ภาพลวงตา.....อย่าบอกข้านะว่า....." เฮนน์เริ่มสงสัยแองเจเล่ "ช่างมันเถอะ มันมีอะไรที่มีค่าที่นี่ไหม นี่เป็นประตูสู่ดินแดนแฟรี่ใช่ไหม" เขาตัดสินใจที่จะเปลี่ยนเรื่องทันที แองเจเล่ลุกขึ้นยืนและมองไปที่ผนังที่ แตกข้างหลังเขา "เจ้าสามารถหาสิ่งที่มีค่าได้ที่นี่แต่ข้าเพิ่งสังเกตว่าตอนนี้เจ้ากำลังฝึ ก แกนแม่น้ำมัลเท็นใช่ไหม" เฮนน์ฟังดูแปลกใจเล็กน้อย "ถ้างั้นหน้ากาก ปีกทมิฬก็ไม่เหมาะสมกับสไตล์ของเจ้า...." "สไตล์ของข้า อย่าบอกนะว่าท่านรู้ตั้งแต่แรกเมื่อมอบมันให้กับข้า" แอง เจเล่หรี่ตา "หน้ากากปีกทมิฬทรงพลังมากแต่มันก็ยากที่จะเชี่ยวชาญ ถ้าเจ้า เชี่ยวชาญขั้นแรกได้ข้าก็จะมอบ่สวนต่อไปแล้วเจ้าก็อาจจะกลายเป็ น เจ้าแห่งเงาคนที่สองในประวัติศาสตร ์น่าเศร้าที่เจ้าไม่มีความสามารถ พอ" เฮนน์ถอนหายใจ "เราออกจากที่นี่กันก่อนเถอะ เจ้าต้องแกะสลักวง เวทเพื่อที่จะเชี่ยวชาญขั้นของแกนแม่น้ำมัลเท็นและเจ้าจะต้องหาวิธีที่ เหมาะสมเพื่อเสร็จสิ้นการแกะสลักเหล่านั้น ด้วยความช่วยเหลือของ แหล่งไฟที่อุดมสมบูรณ์มันจะทำให้เจ้าคืบหน้าในอัตราที่รวดเร็ว ขั้นที่ สามควรจะเป็นเรื่องง่ายแต่สำหรับขั้นที่สี่และห้ามันไม่มีทางลัด เจ้าไม่ ต้องมีพรสวรรค์มากในการฝึกแกนแม่น้ำมัลเท็นแต่เจ้าจะต้องใช้ความ พยายามและความทุ่มเทไปกับมัน" "หืม แหล่งไฟที่อุดมสมบูรณ์" แองเจเล่เฝ้าดูมังกรหายไปในท้องฟ้าแล้ว คว้าไปที่มือของลินแล้วรีบกลับไปที่ลานที่เต็มไปด้วยกุหลาบสีดำ "นี่ไม่ใช่ดอกกุหลาบดำธรรมดา เจ้าสามารถพบได้เพียงในประตูลอง เผาพวกมัน" เฮนน์อธิบาย แองเจเล่พยักหน้า เขาแตะไปที่ดอกกุหลาบดำข้างหน้าด้วยดาบที่กำลัง ลุกไหม้ ในไม่ช้าดอกกุหลาบก็ติดไฟ อุณหภูมิของเปลวไฟสูงมากจนแองเจเล่ ต้องก้าวถอยออกไป แม้ว่าจะไม่มีลมแต่เปลวไฟสีแดงแปลกๆก็ยังเอน มาทางเขา "ให้ข้าสอนเทคนิคที่จะช่วยให้เจ้าสามารถแบกดอกกุหลาบดำจำนวน มากกลับไปได้เจ้าสามารถใช้เทคนิคนี้กับเชี่ยวชาญโลหะของเจ้าได้" หลังจากที่เฮนน์พูดจบเธอก็เริ่มโอนข้อมูลเข้าสู่สมองของแองเจเล่ [ตรวจพบคลื่นข้อมูลที่ไม่รู้จัก ยอมรับหรือไม่] เสียงของซีโร่ดังก้องในหู ของเขา 'ใช่' แองเจเล่ยืนยัน จากนั้นเทคนิคก็โอนเข้าสู่สมองของเขาอย่างรวดเร็ว หลังจากที่ตรวจสอบข้อมูลเขาก็หลับตาอยู่หลายวินาทีดาบในมือได้ หลอมละลายและกลายเป็นลูกของเหลวโลหะ ในไม่ช้าลูกบอลก็ระเบิดเมื่อแองเจเล่ยกมือขึ้นทำให้มันปกคลุมทั้งลาน ดอกกุหลาบดำทั้งหมดในลานได้ปกคลุมไปด้วยฝนสีเงินหลังจากผ่าน ไปหลายวินาที "มาหาข้า" แองเจเล่โบกมือขวา วู้ดดด มีสายลมที่อ่อนโยนถูกปลดปล่อยออกมาจากมือของเขาและดอก กุหลาบดำทั้งหมดก็เริ่มบินมาที่กลางฝ่ามือของเขา กลีบของดอกกุหลาบดำถูกควบคุมด้วยสนามพลังและพวกมันก็บีบอัด เป็นลูกโลหะขนาดเท่ากำปั้นลอยอยู่บนฝ่ามือของแองเจเล่ หลายนาทีต่อมากลีบทั้งหมดก็ถูกดูดซึมอย่างสมบูรณ์ทำให้สีลูกโลหะ จากสีเงินเปลี่ยนเป็นสีดำ "เอาล่ะ ตอนนี้เราไปกันเถอะ บาเรียดินแดนจะทำให้เจ้าได้รับความ เสียหายอย่างถาวรถ้าเจ้าอยู่ที่นี่นานเกินไป" เฮนน์เตือน "ข้ารู้ข้ายังต้องไปร่วมงานเลี้ยงอาหารค่ำ" แองเจเล่สังเกตลูกโลหะสีดำ อยู่ครู่หนึ่งก่อนที่เขาจะเก็บไว้ในถุงกระเป๋า "ข้ายังคงผิดหวัง ข้าคาดหวังว่าจะได้รับพรของแฟรี่ธาตุ" เขาส่ายหัวและ ถอนหายใจ "พาวัยรุ่นทั้งสามไปกับเจ้า พวกเขาอยู่รอดในสวนเกลียวดังนั้นเจ้าจึง สามารถศึกษาพวกเขาได้" เฮนน์แนะนำ แองเจเล่เกือบลืมเรื่องทายาทของทั้งสามตระกูล เขาเดินไปที่บ่อน้ำพุ และเห็นวัยรุ่นทั้งสามยังหลับในน้ำที่มีสีสันของน้ำพุ น้ำที่มีสีสันเปลี่ยนเป็นคลื่นพลังงานเมื่อแองเจเล่เข้ามาใกล้ น้ำได้หายไปอย่างรวดเร็วและบ่อน้ำพุก็กลับสู่สภาพเดิม แองเจเล่ชี้ไปที่วัยรุ่นทั้งสาม ชี่ มีสายโลหะสามเส้นออกมาจากนิ้วของเขาและผูกวัยรุ่นทั้งสามโดยใช้ สนามพลังของเขาเพื่อยกพวกเขาขึ้น "เดี๋ยวก่อน!" ทันใดนั้นเฮนน์ก็หยุดแองเจเล่เมื่อเขากำลังจะออกจากลาน "ตรวจสอบชั้นบนสุดของบ่อน้ำพุด้วยมือของเจ้า" "ขั้นบนสุดหรือ" แองเจเล่เดินไปที่บ่อน้ำพุและสร้างบันไดด้วยสายโลหะ เบาเดินขึ้นบันไดไปชั้นบนสุดแล้วเขาก็สัมผัสมันด้วยมือของเขา วัสดุมันเย็นและแข็งแต่เขาก็ค้นพบของสี่เหลี่ยมที่อุ่นและเรียบเนียน ปึก แองเจเล่คว้าของอย่างระมัดระวังและยกมันขึ้น มันเป็นกล่องสีเหลี่ยมที่ทำจากหินหยกสีขาว เขาเปิดกล่องแต่มันก็ไม่มีอะไรอยู่ข้างใน สิ่งเดียวที่เขาเห็นคือหลุมดำที่ มืดมิด แองเจเล่หรี่ตาและปลดปล่อยสายโลหะบางๆเข้าไปในกล่องด้วยนิ้วชี้ ของเขา สายเงินยังเพิ่มความยาวเรื่อยๆ กล่องมันเล็กแต่สายมันก็ไม่ถึงก้นของหลุมดำ ดูเหมือนว่ามันเป็น ทางเข้าของพื้นที่ส่วนตัว "อย่าไปลองให้เสียเวลา กล่องนี้ลึกมาก มโนทัศน์จำนวนนับไม่ถ้วนถูก ผนึกไว้ภายใน เจ้าจะไม่พบก้นของมันไม่ว่าสายเงินของเจ้าจะยาวแค่ ไหนก็ตาม" เฮนน์อธิบายด้วยความสงบ "มโนทัศน์หรือ" "ไม่ต้องห่วงเรื่องนี้ในตอนนีแต่เดิมความรู้เรื่องมโนทัศน์มาจากโลก โกลาหล เก็บมันไว้ให้ดีเจ้าจะต้องใช้มันในอนาคต ถึงเวลาต้องไปแล้ว" แองเจเล่พยักหน้าและสายเงินก็กลับเข้าไปในนิ้วของเขา เขาปิดกล่องแล้วเขาก็กลับไปที่ทางเข้าและก้าวเข้าไปในประตูกระจก พร้อมกับคนที่กำลังนอนหลับ *************************** มีแสงสีขาวในอากาศ แองเจเล่และคนอีกสี่คนปรากฏที่ยอดเขาอีกครั้ง ชุดคลุมดำหลายคนกำลังคุยกันข้างกองไฟ ลิฟกำลังตรวจสอบสภาพแวดล้อมข้างพุ่มไม้ ฮาคีมกำลังคุยกับหัวหน้าหญิงของฟิลิปและแอบมองหน้าอกของเธอ เห็นได้ชัดว่าเธอไม่สนใจอะไรในตัวเขา สมาชิกของตระกูลอื่นอีกสองตระกูลกำลังรออยู่เงียบๆข้างกองไฟของ ตัวเอง "พวกเขาออกมาแล้ว!" "ใช่มันเร็วมาก!" มีใครบางคนตะโกนเมื่อแองเจเล่ก้าวออกมาจากประตู ฮาคีม ลิฟและยามรักษาการณ์วิ่งมาหาเขาทันที "นายท่าน มันเป็นอย่างไรบ้าง" ฮาคีมถาม "นี่ไม่ใช่สวนลับของแฟรี่ธาตุแต่มันเป็นสวนเกลียว ถ้าเจ้าต้องการก ็ เพียงแค่เข้าไปโดยใช้ประตูข้าไม่รู้ว่าเด็กเหล่านี้หลอกเราด้วยร่างหยั่งรู้ ได้อย่างไร" แองเจเล่ดูผิดหวั ง "สวนเกลียวหรือ" สีหน้าของลิฟเริ่มเคร่งเครียดทันทีเมื่อเธอจำชื่อได้"ข้า จะต้องแจ้งท่านวิเวียน" "ใช่ไปเถอะ ข้ายังต้องเข้าร่วมงานเลี้ยงอาหารค่ำที่เมืองใกล้ๆ" แองเจเล่ รู้อยู่แล้วว่ามันจะเกิดอะไรขึ้นเมื่อประตูเสถียร "ไม่ต้องห่วง มันจะใช้ เวลาอีกอย่างน้อยหนึ่งถึงสองร้อยปีเพื่อให้ประตูเสถียร" "เอาล่ะ ข้าจะไปดู" ลิฟพยักหน้าแล้วเดินไปทางประตู "แน่นอนว่าออร่าสะกดจิตไม่ได้อยู่ที่นั่นอีกต่อไป" "เราต้องการตรวจสอบสวนด้วย" สมาชิกหลายคนของสามตระกูลเข้าสวนพร้อมกับลิฟ ดูเหมือนว่าพวก เขาไม่รู้แม้แต่ว่าสวนเกลียวคืออะไร แองเจเล่พาวัยรุ่นทั้งสามที่กำลังนอนหลับกลับไปหาพ่อแม่ของพวกเขา ลิฟค่อยๆตื่นด้วยเช่นกัน เธอถูขมับของเธอและดูเหมือนว่าเธอกำลังดิ้น รน "ข้าขอโทษด้วยที่ทำให้ท่านผิดหวัง...." เธอกัดริมฝีปากของเธอและขอ โทษเสียงเบา "ไม่เป็นไร สถานการณ์มันซับซ้อน" แองเจเล่พยักหน้าเล็กน้อย "เอาล่ะ มุ่งหน้าไปเมืองโรโฟกันเถอะ" ทันใดนั้นเสียงของเฮนน์ก็ดังก้องในหูของเขา "กลับไปที่คฤหาสน์หลังจากที่จบงานเลี้ยง ข้าจะสอนวิธีรวมกล่องแห่ ง ห้วงเหวกับลูกบาศก์ราชินีพวกมันจะช่วยในการสร้างข่ายเวทมนต์เผา ไหม้เจ้าสามารถเปิดใช้งานมันด้วยอนุภาคพลังงาน ข่ายนี้เป็นสิ่งที่ ดี มากสำหรับแกนแม่น้ำมัลเท็น เพียงแค่โยนวัสดุบางอย่างลงไปในข่ายนี้ และมันก็จะเปลี่ยนพวกมันเป็นพลังจิตบริสุทธ์ิให้เจ้า กลีบของดอก กุหลาบดำเป็นหนึ่งในเชื้อเพลิงที่ดีที่สุดที่เจ้าสามารถหาได้ด้วยข่ายนี้ เจ้าจะเชี่ยวชาญขั้นที่สามอย่างไม่มีปัญหา" เฮนน์หยุดชั่วครู่และพูดต่อ "จริงๆแล้วสิ่งที่ไม่ได้เป็นของโลกนี้สามารถ ใช้เป็นเชื้อเพลิงได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเปลวไฟที่ถูกจุดด้วยวัสดุพิเศษ อย่างสายเลือดโบราณจะช่วยความคืบหน้าของเจ้าอย่างมาก มันจะไม่ มีผลพวงหรือสิ่งเจือปน ถ้าทำได้เจ้าลองหาสิ่งมีชีวิตโบราณและสกั ด สายเลือดของพวกมัน" "หา" แองเจเล่ลังเลชั่วครู่ "การจุดไฟด้วยสายเลือดโบราณจะช่วยข้ า สำเร็จขั้นของแกนแม่น้ำมัลเท็นได้หรือ" ห "ใช่ให้ข้าอธิบายให้เจ้าเรื่องเทคนิคการทำสมาธิขั้นสูงในแบบที่ต่าง ออกไป เจ้ากำลังฝึกฝนเทคนิคนี้เพราะเจ้าต้องการเป็นสิ่งมีชีวิตที่ แข็งแกร่งที่สุดในโลกนี้ สายเลือดที่แข็งแกร่งจะเร่งความคืบหน้า" แองเจเล่พยักหน้าเล็กน้อยแต่ไม่ได้พูดอะไร เขาค่อยๆเดินลงภูเขาและเปิดใช้งานแมงป่องคริสตัล แองเจเล่รีบเอาหลอดแก้วที่มีของเหลวสีม่วงออกมา ด้วยการดีดนิ้วของ เขาของเหลวภายในก็ลุกไหม้และเปลวไฟก็ถูกดูดซึมเข้าร่างกายของเขา ผ่านหลังมือของเขา มันรู้สึกสบายและสดชื่ น แองเจเล่หันกลับไปและสังเกตเห็นว่าทีมของเขาถูกดึงดูดแล้วดังนั้นเขา จึงรีบดับเปลวไฟและเอาหลอดกลับเข้าไปในถุงกระเป๋าของเขา [ดูดซึมแกนชีวิตที่ไม่รู้จัก พลังจิตกำลังเพิ่มขึ้น....] ซีโร่รายงาน 'มันเป็นความจริง....' แองเจเล่พอใจกับผลลัพธ ์ มีด้วงสีดำนับไม่ถ้วนในดินแดนฝันร้าย มันจะเป็นสิ่งที่น่าเหลือเชื่อถ้า เขาสามารถใช้พวกมันเป็นเชื้อเพลิงได้ ตอนที่328: งานเลี้ยงอาหารค่ำ (1) แปลนิยาย.วันศุกร์ ที่20 เมษายน 2018 มันเป็นคืนที่เงียบสงบที่เมืองโรโฟ มีรถม้าหลายคันที่ตกแต่งอย่างหรูหราจอดอยู่ข้างหน้าคฤหาสน์ที่อยู่ ทางตอนใต้ของเมือง มีคนรับใช้สองคนสวมชุดสูทสีดำกำลังรออยู่ที่ ประตูอย่างอดทนคอยโค้งทักทายรถม้าทุกคันที่ผ่านทางเข้า มีเสียงดังที่เกิดจากล้อเลื่อนและม้าที่กำลังวิ่ง พวกมันค่อยๆหยุดลงเมื่ อ มาถึงสนามหญ้า มีเด็กๆยื่นหัวออกมาจากหน้าต่างรถม้าแล้วมองไปรอบๆด้วยความ อยากรู้อยากเห็ น แสงจันทร์ได้ส่องลงบนสนามหญ้าสีเขียว มีรถม้าสีดำค่อยๆเข้าคฤหาสน์และเดินทางไปตามเส้นทางสีขาว จากนั้นมันก็วนบ่อน้ำพุและมุ่งหน้าไปที่สนามหญ้า แอ๊ดด ประตูถูกเปิด แองเจเล่กำลังสวมชุดคลุมดำขริบเงิน ข้างหลังเขาคือลินที่กำลังสวมชุด คลุมดำและกำลังพาดผมสีดำยาวไว้เหนือไหล่ของเธอ แองเจเล่มองเห็น คอของเธอผ่านช่องว่างของผม 'น่าจะเป็นที่นี่' แองเจเล่มองไปรอบๆ รถม้ามาจอดที่พื้นที่นี้อย่างต่อเนื่อง มีผู้หญิงสวมชุดเดรสยาวและเครื่องแต่งผมสีน้ำตาลออกมาจากรถม้า ทางด้านขวา เธอยังสวมคู่ต่างหูมุกและถุงมือสีขาว เมื่อมองโดยรวม แล้วเธอดูอ่อนโยนและน่ารัก ผู้หญิงคนนั้นสังเกตเห็นการมองของแองเจเล่ที่มองไปที่เธอและขยิบตา ให้เขา จากนั้นเธอก็หันกลับไปและจากไปพร้อมกับพ่อบ้านของเธอ "นั่นเป็นท่านอิซาเบลล่า หลานสาวคนที่สองของผู้อาวุโสหนึ่ง" ลินอธิ บาย "เอาล่ะ เราไปที่ห้องโถงใหญ่กันเถอะ" แองเจเล่เช็ดฝุ่นออกจากชุดคลุม ของเขาและมุ่งหน้าไปที่สุดเส้นทางสีขาว มีรถม้าจอดอยู่ประมาณสิบคันที่สนามหญ้า มีคนหลายคนถูกขอให้ ออกจากรถม้าก่อนที่พวกเขาจะสามารถเข้าประตูได้ดูเหมือนว่าพวก เขากำลังปฏิบัติต่อแขกตามสถานะของพวกเขาในองค์กรและห้ามไม่ให้ พวกเขาเดินไปรอบๆคฤหาสน์อย่างอิสระ มีพ่อบ้านวัยกลางคนสองคนที่สังเกตเห็นแองเจเล่และเข้ามาหาเขา ทันที "ท่านแองเจเล่ใช่หรือไม่" คนที่มีผมสีแดงโค้งให้แองเจเล่ "ใช่ท่านโชโซมาถึงหรือยัง" แองเจเล่พยักหน้าเล็กน้อย "ท่านโชโซจะมาถึงอีกประมาณ 20 นาทีแต่ท่านสามารถอยู่ที่นี่ได้ ประมาณ 30 นาทีท่านยังมีประชุมสำคัญที่จะต้องเข้าร่วมที่สำนักงาน ใหญ่" พ่อบ้านตอบ "โปรดตามข้ามา" "ตกลง" แองเจเล่และลินเดินตามหลังพ่อบ้านไป มีแขกรับเชิญอีกหลายคนที่ถูกทักทายโดยพ่อบ้าน ดูเหมือนว่าทุกคนจะ เป็นบุคคลที่มีอิทธิพล แขกที่มีระดับตํ่าต้องรอให้แขกผู้มีเกียรติเข้าไปในห้องโถงใหญ่ก่อนเพื่ อ แสดงความเคารพ แขกทั่วไปได้ยิ้มและโค้งอย่างสุภาพเมื่อแองเจเล่เดินผ่านพวกเขา พวก เขาทำอย่างนั้นกับแขกทุกคนที่เดินบนเส้นทางสีขาว ข้างหลังแองเจเล่กำลังมีคนคาดเดาตัวตนของเขา ทันใดนั้นเขาก็ได้ยินเสียงกรีดร้องเมื่อเขาก้าวไปบนบันไดหินหยก "มันเป็นซูแมน.....ท่านโชโซเชิญเข้ามาที่งานเลี้ยงจริงๆหรือ! มันเป็นไป ได้อย่างไร!" "ใช่....มันเป็นซูแมน" "มันบ้าไปแล้ว! ท่านโชโซควร...." แขกพยายามที่จะลดเสียงของพวกเขาแต่แองเจเล่ก็ยังได้ยินทุกคำพูด ของพวกเขา "ซูแมนหรือ.... บัดซบ! ท่านโชโซกำลังคิดอะไรอยู่" ลินจำชื่อได้ทันทีและ สีหน้าของเธอก็เริ่มขุ่นเคือง แองเจเล่ไม่รู้ว่าซูแมนเป็นใครดังนั้นเขาจึงรีบหันกลับไปและมองไปที่ ประตู เขาเห็นชายหนุ่มในชุดสีดำเข้าประตูพร้อมกับสาวสูงในชุดราตรียาวสี เขียว คนรับใช้ที่ประตูได้ขยับไปด้านข้างและแขกที่มารอบๆก็ออกห่าง จากพวกเขา แองเจเล่ยืนอยู่บนบันไดกำลังฟังคำอธิบายของลิน สีหน้าของเขา เปลี่ยนไปเมื่อเขาฟังจบ เขาเงยหน้าขึ้นไปมองชายหนุ่มและหญิงสาว อีกครั้ง "ท่านจะต้องเป็นท่านแองเจเล่" มีเสียงผู้ชายดังมาจากข้างหลัง "ใช่ข้าคือแองเจเล่เจ้าเป็นใคร" แองเจเล่รีบหันกลับไป มันเป็นชายหนุ่มกำลังสวมชุดสีแดงที่พอดีกับตัวของเขาและมีผ้าคลุมสี เข้มอยู่เขากำลังยิ้มอย่างอ่อนโยน มีพ่อมดชุดขาวสองคนกำลังยืนอยู่ ข้างเขา "ชื่อของข้าคืออีวาน หลานชายของผู้อาวุโสสอง" ชายคนนั้นแนะนำ ตัวเอง "ข้าได้ยินมาว่าในที่สุดท่านวิเวียนก็พบลูกชายเพียงคนเดียวของ เธอ ข้ารู้สึกยินดีกับเธอด้วย" "ขอบคุณ" แองเจเล่ยิ้มเช่นกั น พวกเขาคุยกันสักพักก่อนที่จะขยับไปด้านข้างเพื่อให้แขกคนอื่นๆ สามารถผ่านได้ "เจ้ารู้ว่าใครคือซูแมนใช่ไหม มันเป็นเรื่องที่เข้าใจได้ว่าเจ้าของบ้านได้ เชิญเรามางานเลี้ยงแต่ข้าไม่รู้ว่าทำไมเขาถึงเชิญซูแมนมาที่นี่" สายตา ของอีวานมองไปที่ซูแมนและผู้หญิง แองเจเล่ขดริมฝีปากและพยักหน้า "ซูแมนเป็นทายาทของเมืองพัน น้ำตกที่เป็นเจ้าเมืองอันดับหนึ่งและเป็นศัตรูของเรา ท่านโชโซเป็น นักเรียนของท่านวิเวียนดังนั้นเขาจึงรู้ถึงสถานการณ์ นี่มันเหมือนกั บ การเชิญศัตรูเข้ามาในบ้านของเรา อย่างไรก็ตามข้าได้ยินมาว่าซูแมน เป็นเพียงปุถุชน เจ้าเมืองอันดับหนึ่งได้ทำทุกอย่างที่เขาสามารถทำได้ แต่ซูแมนก็ไม่สามารถรู้สึกถึงอนุภาคพลังงานในสิ่งแวดล้อมได้...." "เหตุผลมันก็ง่ายๆ เจ้าเห็นผู้หญิงในชุดเขียวไหม" อีวานขดริมฝีปากและ มองไปที่เธอ "ชื่อของเธอคือเซลล่า ญาติสุดที่รักของท่านโชโซ ดู เหมือนว่าเซลล่าจะตกหลุมรักกับชายที่อ่อนแอที่ชื่อซูแมน ข่าวลือ อาจจะผิดแต่พวกเขาก็กำลังพัฒนาความสัมพันธ์กัน ข้าคิดว่าท่านโชโซ ต้องการทดสอบซูแมนระหว่างงานเลี้ยง" "น่าสนใจ" แองเจเล่รู้สึกแปลกใจเล็กน้อย ลินไม่เคยบอกเขาเกี่ยวกั บ ข่าวลือนี "เราเข้าโถงใหญ่กันเถอะ ข้าเห็นเบลล่าเดินเข้าไปแล้ว มันเกือบจะรู้สึก เหมือนกับว่างานเลี้ยงอาหารค่ำนี้ถูกจัดขึ้นเฉพาะทายาทของผู้อาวุโส ฮ่าๆ" อีวานหันกลับไปและเดินไปที่โถงใหญ่ แองเจเล่ไม่ได้ไปกับอีวานเพียงแค่ยืนอยู่ที่นั่นและมองไปที่ซูแมนอีกครั้ง ชายหนุ่มคนนั้นมีสีหน้าที่อึมครึมบนใบหน้าซีดของเขา เขาดูเหมือน ผู้ป่วยที่ควรจะอยู่บนเตียงผู้ป่วยของเขา แองเจเล่เชื่อว่าซูแมนจะ ต้องการความช่วยเหลือของเซลล่าเพื่อให้ลุกขึ้นยืนถ้าเขาล้มลงไป "เด็กคนนี้เป็นเหตุผลที่แท้จริงที่สภาตัดสินใจที่จะทำสงครามกับเมือง พันน้ำตกหรือ เขาเป็นทายาทของเจ้าเมืองอันดับหนึ่งงั้นหรือ ข้า มองเห็นการอุทิศตนในสายตาของเขาแต่เขาไม่มีความสามารถเลย" จากนั้นแองเจเล่ก็หยุดมองและหันหน้าไป "ไปกันเถอะลิน" "ค่ะ" พวกเขาก้าวขึ้นไปบนบันไดหินหยกและมุ่งหน้าไปที่โถง สาวใช้สองคนที่สวมชุดสีขาวโค้งให้พวกเขาในขณะที่พวกเขาก้าวเข้าไป ในประตู แองเจเล่สังเกตเห็นว่าเขากำลังถูกสแกนด้วยคลื่นพลังจิตของใครบาง คนหลังจากที่เข้าประตูดูเหมือนว่าเจ้าของคลื่นพลังจิตนั้นได้ส่งข้อมูล เกี่ยวกับเขาไปยังแขกบางคนภายในห้องโถงใหญ่ "แองเจเล่เฟนเรอร ์ยินดีต้อนรับเข้าสู่งานเลี้ยง" มีเสียงผู้หญิงที่อ่อนโยน ค่อยๆดังก้องในโถง แขกบางคนมองเขาด้วยความอยากรู้แต่ไม่มีใคร พยายามเข้าใกล้พวกเขาเพียงแค่ยืนอยู่กับคนที่พวกเขารู้จักเท่านั้น ผนังถูกทาด้วยสีทอง พ่อมดกำลังสวมเสื้อผ้าที่หรูหราคุยกันแต่คนที่ ดึงดูดความสนใจมากที่สุดคือชายที่ชื่ออีวาน หลานชายของผู้อาวุโสสองนี้กำลังพูดคุยกับผู้หญิงหลายคนอย่างมี มารยาท ในขณะที่อิซาเบลล่าหลานสาวของผู้อาวุโสหนึ่งกำลังพูดคุยกับชาย หนุ่มหล่อเหลาผมสีบลอนด ์มีไม่กี่คนที่พยายามจะขัดการสนทนาของ พวกเขาแต่ก็ถูกหยุดโดยคนรับใช้ มีชุดคลุมสีดำสามคนและชุดคลุมสีแดงสองคนกำลังนั่งอยู่บนโซฟาที่ อยู่มุมขวาของโถงกำลังโต้ตอบกันเรื่องวงเวทบางอย่าง มันเกือบจะดู เหมือนว่าพวกเขากำลังทะเลาะกัน แม่บ้านเดินเข้ามาในโถงพร้อมกับอาหารและเครื่องดื่ม แขกสามารถดื่ม น้ำและอาหารเรียกน้ำย่อยจากจานบนมือของพวกเธอถ้าพวกเขา ต้องการ อีกด้านหนึ่งมีแขกหลายคนที่อยู่ตํ่ากว่ากำลังคุยกับคนรับใช้ ดู เหมือนว่าพวกเขารู้จักกัน แองเจเล่ย่นคิ้ว เขาเกลียดสถานที่แบบนี้เพราะมันเสียงดังเกินไปและ เขาแทบจะไม่รู้จักใครที่นี่เขามาสถานที่นี้เพราะได้รับเชิญส่วนตัวที่ส่ง มาโดยพ่อมดระดับสี่ท่านโชโซ จากนั้นไม่นานเขาก็พบโต๊ะว่างที่ล้อมรอบไปด้วยเก้าอี้สีขาวหลายตัว ใกล้ๆกับโซฟา แองเจเล่เดินไปที่โต๊ะพร้อมกับลินอย่างรวดเร็วและนั่งลงบนเก้าอี โต๊ะอยู่ข้างหน้าต่าง แสงจันทร์ที่บริสุทธ์ิได้ส่องผ่านบานกระจกและส่อง ลงบนลำตัวช่วงล่างของแองเจเล่ ด้วยแสงนี้ทำให้ร่างกายส่วนบนของ เขาปกคลุมไปด้วยเงาดังนั้นผู้คนแทบจะมองไม่เห็นใบหน้าของเขา ลินยืนอยู่ข้างหลังแองเจเล่อย่างเงียบๆ "ข้าคิดว่าท่านโชโซจัดงานเลี้ยงนี้เพื่อเซลล่าและซูแมน" แองเจเล่พูด เสียงเบา "ซูแมนโชคดีถ้าปราศจากเซลล่าเขาก็คงจะไม่มีวันได้รับเชิญ มางานเลี้ยงเช่นนีเจ้าเมืองอันดับหนึ่งไม่ได้ส่งยามมาปกป้องซูแมน แม้แต่คนเดียว อย่าบอกข้านะว่าท่านโชโซเกี่ยวข้องกับเจ้าเมืองอันดับ หนึ่ง" "ข้าไม่ต้องการแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการตัดสินใจของท่านโชโซแต่ ข้าคิดว่าเขามีเหตุผลของตัวเอง" ลินตอบ "บางที" แองเจเล่ไม่ได้พูอะไรอี ก ในขณะนั้นซูแมนและเซลล่าค่อยๆเข้าโถงใหญ่ทำให้ดึงดูดความสนใจ ของทุกคน ซูแมนยังคงความสงบของเขาและมองไปที่แขกอย่างรวดเร็ว แองเจเล่ สังเกตเห็นว่ามีคนกำลังตามเขานอกจากเซลล่า มันเป็นชายสูงที่มีดวงตาเรืองแสงสีแดงซึ่งอาจจะเป็นผลมาจากคาถา พิเศษหรือเทคนิคการทำสมาธิขั้นสูง สีหน้าของแองเจเล่เปลี่ยนไปอย่างกะทันหันหลังจากที่ได้เห็นใบหน้า ของชายคนนั้น 'มินโคล่า' ชายร่างสูงยังเป็นสมาชิกของหอคอยพ่อมดมืด มินโคล่าได้ ทิ้งความประทับใจที่ลึกซึ้งกับแองเจเล่เพราะการเผชิญหน้ากันในระยะ สั้นของพวกเขาที่โรงแรมความฝัน เขาช่วยแองเจเล่หลายครั้งเมื่อพวก เขาอยู่ในเมืองท่าอากาศยานแต่พวกเขาก็ไม่ได้ติดต่อกันมานานแล้ว ตอนที่329: งานเลี้ยงอาหารค่ำ (2) แปลนิยาย.วันเสาร์ ที่21 เมษายน 2018 มินโคล่าและซูแมนดูเหมือนว่าจะเป็นเพื่อนสนิทกัน เขาพาซูแมนไปที่ โต๊ะว่างและนั่งลงด้วยกัน พวกเขายังหัวเราะและตบไหล่กันในขณะที่ พูดคุยกัน ชายหล่อเหลาในชุดขุนนางเดินไปที่โต๊ะในขณะที่ถือแก้วไวน ์เขาใส่ กำไลสีทองและสร้อยคอสีเงิน จากนั้นชายคนนี้ก็ทักทายเซลล่าและจ้อง ไปที่เธอ ชายคนนั้นดูเหมือนว่าจะเป็นแฟนของเซลล่า แองเจเล่มีสีหน้านิ่งเฉย เขารู้ว่ามินโคล่าเป็นเหมือนเขาซึ่งเป็นสมาชิก ของหอคอยพ่อมดมืด ทั้งสองรู้ดีว่าองค์กรนี้ทรงพลังมากกว่าหัตถ์ธาตุ มากนัก แองเจเล่สงสัยว่ามินโคล่าได้ปฏิบัติภารกิจแรกของเขาเสร็จสิ้นหรือยัง เขาไม่เข้าใจว่าทำไมมินโคล่าถึงเข้าร่วมงานเลี้ยงอาหารค่ำนี้กับซูแมน ทันใดนั้นก็มีเปลวไฟสีดำปรากฏที่ด้านบนสุดของบันไดเล็กๆที่อยู่อีก ฟากของโถง ภายในไม่กี่วินาทีเปลวไฟก็เพิ่มจากสามสิบเซนติเมตรไป สองเมตร เปลวไฟไม่ได้ทำให้โถงอุ่นขึ้น มันเย็นและลึกลั บ แขกหยุดพูดทันทีแล้วลุกขึ้นยืนพร้อมกันและโค้งให้เปลวไฟสีดำ แองเจเล่ทำสิ่งเดียวกันอย่างรวดเร็ว เขารู้สึกถึงความหนาวเย็นจากคลื่นพลังจิตที่ทรงพลังที่มาจากมันซึ่ง ครอบคลุมห้องโถงใหญ่ ในไม่ช้าเปลวไฟสีดำก็ค่อยๆดับลงและเผยให้เห็นผู้ชายในชุดสูทสีดำ ชายคนนี้มีผิวขาวซีดและด้วยหน้าตาที่เฉยเมยของเขาทำให้เขาดู เหมือนซอมบี้ที่ไร้อารมณ ์ผมสีดำ ดวงตาสีดำและชุดของเขามันทำให้ ผิวของเขาดูโดดเด่นยิ่งขึ้ น "ท่านโชโซ!" แขกก้มหัวของพวกเขาและพูดกับชายคนนั้นเสียงดัง "ข้าขอบคุณทุกท่านที่ตอบรับคำเชิญเข้าร่วมงานเลี้ยงอาหารค่ำนีข้าขอ โทษด้วยสำหรับความล่าช้า" โชโซโค้งเล็กน้อยและฝืนยิ้ ม พ่อมดชราผมยุ่งมาหาเขาและยื่นของให้เขา โชโซรับของและมองไปที่มันจากนั้นเขาก็หันไปหาแองเจเล่และพยั ก หน้าให้เขาเล็กน้อย แองเจเล่สังเกตเห็นสายตาของโชโซมองมาที่เขาดังนั้นเขาจึงยิ้มอย่าง อ่อนโยน พฤติกรรมของโชโซทำให้ดึงดูดความสนใจของทุกคน ในไม่ช้ามินโคล่าก็สังเกตเห็นแองเจเล่ทำให้เขารู้สึกตกใจเล็กน้อย "มินโคล่า เกิดอะไรขึ้น" ซูแมนสังเกตเห็นสีหน้าที่เปลี่ยนไปของมินโคล่า ระหว่างการเดินทางมินโคล่าได้ช่วยชีวิตของเขาจากอันตรายมากมาย และเริ่มคุ้นเคยกับเขามากขึ้น "ไม่มีอะไร.......ข้าแค่เหนื่อยนิดหน่อย....." มินโคล่าลูบขมับของเขาและ ยิ้ม โชโซถามพ่อมดชราหลายคำถามและรอยยิ้มบนใบหน้าของเขาก ็ หายไป เขารีบถามคนรับใช้อีกหลายคนและทักทายเพื่อนอีกไม่กี่คน "ช่วยตัวเองไปก่อน! ข้าจะต้องออกไปสักครู่" เมื่อเขาพูดจบเขาก็ออก จากห้องโถงผ่านประตูหลัง บรรยากาศที่หนักอึ้งค่อยๆผ่อนคลายลงหลังจากที่เขาจากไปและแขกก ็ เริ่มคุยกันอีกครั้ง เพล้ง โต๊ะของซูแมนที่อยู่ใกล้ๆได้มีแก้วไวน์ตกลงไปที่พื้นและแตกเป็นชิ้นๆ ไวน์สีแดงได้กระเด็นไปทั่ ว แฟนของเซลล่ามองไปที่ซูแมนอย่างเย็นชา แองเจเล่ย่นคิ้วเมื่อเขาเห็นฉากนี เขารีบเปิดใช้งานรูนสื่อสารสีขาวและกำลังจะสื่อสารผ่านรูน เพี๊ยะ มีเสียงดังขึ้นมาอีกครั้ง เซลล่าที่ตอนนี้ดูเหมือนจะโกรธได้ตบหน้าแฟนของเธออย่างแรง "เซลล่า! ทำไมเจ้าถึงต้องปกป้องไอ้คนที่ไร้ความสามารถนี้!" ชายคนนั้ น ตกใจ เพื่อนของเขาได้ยินเสียงโต้เถียงกันได้มาที่โต๊ะของซูแมนอย่างรวดเร็ว "เกิดอะไรขึ้น นี่เป็นงานเลี้ยงอาหารค่ำของท่านโชโซ เราไม่ควรจะเริ่มก่อ เรื่องที่นี่" ชายผมเงินพูดเสียงเข้ ม "ข้าเป็นคู่หมั้นของเซลล่า! แต่เธอก็ตบข้าเพื่อไอ้คนที่ไม่มีความสามารถ นั้น!" ชายคนนั้นเริ่มตะโกนและเขาก็โบกมือ "ยาม! ยาม! ช่วยข้า!" "มีบางอย่างไม่ถูกต้อง...." แองเจเล่เปิดใช้งานรูนสื่อสารและฟังข้อความ ที่มินโคล่าเพิ่งส่งมาให้เขา ในไม่ช้าสีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไปเมื่อฟัง คำอธิบายของมินโคล่า "นายท่าน" ลินเดินมาใกล้ๆและถาม "ข้าไม่เป็นไร ชายคนนี้พยายามที่จะสร้างฉากนี้ในงานเลี้ยงอาหารคํ่าที่ จัดขึ้นโดยพ่อมดระดับสี่เขาจะต้องมีภูมิหลังที่แข็งแกร่ง" แองเจเล่ขดริม ฝีปาก "เขาเป็นลูกชายคนสุดท้องของหัวหน้าองค์กรที่ชื่อว่าพสุธาทมิฬ ท่านโช โซเป็นสมาชิกขององค์กรนั้น ถ้าข้าจำไม่ผิดหัวหน้าของพสุธาทมิฬมีลูก อย่างน้อยหนึ่งร้อยคน" ลินสื่อสารผ่านอนุภาคพลังงาน "พสุธาทมิฬหรื อ องค์กรของพวกเขาเป็นอย่างไร" แองเจเล่ไม่เคยได้ยิน ชื่อองค์กรนี "พวกเขาต้องการสร้างโลกใหม่เหมือนตอนที่พ่อมดโบราณยังอยู่ใน ภาษาโบราณรอนโด้'พสุธาทมิฬ'หมายถึงการเกิดใหม่ซึ่งบางคนตั้งชื่อ เล่นองค์กรนี้ว่า'การเกิดใหม่' " ลินอธิบาย "เราเหล่ายามรักษาการณ์ได้ ทำงานให้ท่านโชโซครั้งหนึ่งในภารกิจที่เกี่ยวข้องกับพสุธาทมิ ฬ มันเป็ น องค์กรที่ทรงพลังในแม่น้ำมัลเท็นซึ่งมีขนาดใกล้เคียงกับหัตถ์ธาตุ" แองเจเล่ได้ยินข่าวลือมามากระหว่างโชโซและวิเวียน แต่หลังจากที่เขา ได้เห็นด้วยตัวเองความคิดเห็นของเขาก็เปลี่ยนไป ชายที่ไร้อารมณ ์ แบบโชโซไม่ได้ใช้มากมายเพื่อมีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งกับอาจารย์ของ เขา ด้วยเหตุผลบางอย่างแองเจเล่กำลังคิดว่าโชโซอาจจะมีบุคลิกที่คล้าย กับเขา เขานั่งอยู่บนเก้าอี้ของตัวเอง เขาต้องการแลกเปลี่ยนข้อมูลกับมินโคล่ า ให้มากขึ้นผ่านรูนสื่อสาร ทันใดนั้นพ่อมดชราที่พูดกับโชโซได้ปรากฏนอกหน้าต่าง "ท่านแองเจเล่ท่านโชโซต้องการพบกับท่าน" พ่อมดชราสื่อสารกับเขา ผ่านอนุภาคพลังงาน แองเจเล่มองไปที่ข้างหลังของชายชราและเห็นโชโซกำลังยืนอยู่บน สนามหญ้าภายใต้แสงจันทร์กำลังยกมือที่มีแก้วไวน์ให้แองเจเล่ "ด้วยความยินดี" แองเจเล่โค้งเล็กน้อยและลุกขึ้นยืน เขาต้องการออก จากห้องโถงใหญ่ผ่านประตูด้านข้างกับลินที่กำลังเดินตามหลังเขา เขายังคงกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ของมินโคล่าแต่ก็ไม่ได้สนใจเรื่อง โต้แย้งระหว่างเซลล่าและแฟนของเธอ แองเจเล่มั่นใจว่ามินโคล่า สามารถแก้ปัญหานี้ได้อย่างง่ายดาย สมาชิกของหอคอยพ่อมดมืดทุกคนมีภูมิหลังที่แข็งแกร่งหรือศักยภาพที่ ดี ทุกคนเป็นหัวกะทิของหัวกะทิที่ได้รับการคัดเลือกมาจากสาขาต่างๆ พ่อมดที่มีพรสวรรค์จากองค์กรธรรมดาเทียบไม่ได้กับพวกเขา แม้ว่าสมาชิกส่วนใหญ่ไม่เคยเปิดเผยตัวตนต่อสาธารณชนแต่พวกเขาก ็ ยังถือว่าเป็นพ่อมดที่มีความสามารถมากที่สุดในองค์กรธรรมดาที่พวก เขาเข้าร่วม แองเจเล่หายใจเข้าลึกๆและเดินไปทางโชโซ อากาศเย็นๆด้านนอกค่อนข้างสดชื่น มันชื้นนิดหน่อยแต่ก็ยังสมบูรณ ์ แบบสำหรับคืนนี แองเจเล่หยุดเมื่อเขาห่างจากโชโซประมาณสองเมตร หลังจากที่ทักทายกันโชโซก็พูดเข้าเรื่อง "แองเจเล่ ข้าได้ยินเรื่องมากมายเกี่ยวกับเจ้าจากเซธ" โชโซมองมาที่แอง เจเล่ราวกับว่าเขานึกถึงอะไรบางอย่าง "ข้าเป็นพ่อมดระดับสามเมื่อเจ้า ถูกคนพาตัวไป ในเวลานั้นข้ายังคงเป็นนักฆ่าในยามรักษาการณ ์ท่านวิ เวียนควรบอกเจ้าเรื่องท่านเฮนน์ใช่ไหม สี่สิบปีผ่านไปภายในพริบตา...." "ใช่เวลาผ่านไปเร็วมาก ข้าได้ยินว่าท่านเฮนน์และท่านอริสม่านั้นถูกซุ่ม โจมตีและถูกฆ่าในขณะที่พวกเธอกำลังต่อสู้กันอยู่" แองเจเล่พยักหน้า เล็กน้อย "ที่จริงสถานการณ์ในตอนนั้นมันซับซ้อนมาก ข้าได้เฝ้าดูฉากนี้หลาย ครั้งโดยใช้คาถาสร้างภาพ.....ท่านเฮนน์และท่านอริสม่าเป็นสองแม่มด ที่แข็งแกร่งที่สุดในทวีปกลางดังนั้นมันจึงน่าเศร้า เจ้ากำลังพยายามที่ จะหาคนที่ดำเนินการไหม ใบหน้าของพวกเขาเบลอในหน้าจอแสงที่ สร้างโดยคาถาสร้างภาพ ข้าไม่สามารถช่วยเจ้าได้" เสียงของโชโซนุ่ ม และอ่อนโยนไม่คล้ายกับชายที่แองเจเล่เห็นในโถงเลยแม้แต่น้อย "ใช่ไม่เป็นไร ข้ายังอ่อนแอเกินกว่าที่จะแก้แค้นให้ท่านเฮนน์" แองเจเล่ ยักไหล่"ข้าได้นำปัญหามากมายมาสู่ท่านแม่ข้าไม่ต้องการให้เธอเป็น กังวลมากเกินไป" "เจ้าเป็นลูกชายเพียงคนเดียวของท่านวิเวียน เธอรักเจ้ามากกว่าใคร ......เธอเพียงแค่พยายามที่จะปกป้องเจ้าจากอันตราย" โชโซหัวเราะ เบาๆ แองเจเล่พยักหน้าเล็กน้อย "ข้าเข้าใจ" "รับนี่ไปสิ" ทันใดนั้นโชโซก็เอาของจากถุงกระเป๋าของเขาและโยนให้ แองเจเล่ แองเจเล่จับของอย่างระมัดระวัง มันเป็นลูกบอลสีดำขนาดเท่ากำปั้นซึ่ง ดูเหมือนผลไม้แปลกๆ "นี่คืออะไร" "มันเป็นเมล็ดของหญ้าดารายักษ์จากดินแดนมืด ปลูกมันไว้ในดินและ นึกถึงสิ่งมีชีวิตที่เจ้าต้องการในใจ ไม่ว่าจะเป็นมนุษย์หรือสัตว ์ ประหลาดก็ตามมันไม่สำคัญ ตัดดอกให้มันเปิดเมื่อมันโตและเจ้าจะพบ สิ่งมีชีวิตที่เจ้าจินตนาการนอนอยู่ภายใน สิ่งมีชีวิตนี้จะมีชีวิตแต่ไม่มี ดวงวิญญาณ เจ้าสามารถเล่นกับมันได้ถ้าเจ้าต้องการ" โชโซอธิบาย "น่าสนใจ ขอบคุณท่านโชโซ" แองเจเล่จำได้ทันทีหลังจากที่ได้ฟั ง คำอธิบายของเขา เมล็ดนี้มักขายเป็นของเล่นผู้ใหญ่ในดินแดนมืด ของ เล่นที่ปราศจากวิญญาณนี้คนส่วนใหญ่ใช้มันเพื่อระบายความต้องการ ทางเพศของพวกเขา ในไม่ช้าแองเจเล่ก็ถามโชโซเกี่ยวกับเทคนิคแกนแม่น้ำมัลเท็นและต่อมา เขาก็บอกทุกสิ่งทุกอย่างที่เขารู้เกี่ยวกับเทคนิคการทำสมาธิขั้นสูง "อย่าลังเลที่จะติดต่อหาข้าถ้าเจ้ามีคำถาม ข้าคิดว่าเราจะเป็นเพื่อนที่ดี ต่อกันได้" โชโซเอาแก้วไวน์อีกแก้วมาจากโต๊ะข้างๆ แองเจเล่ก็ทำแบบเดียวกันและยกมันขึ้นสูง "เชียร ์ขอบคุณสำหรับความช่วยเหลือท่านโชโซ" "เพียงแค่เรียกข้าว่าโชโซ ข้าเป็นนักเรียนของท่านวิเวียนและเธอเป็น...." ตู้ม มีการระเบิดขัดจังหวะโชโซ แองเจเล่หันไปทิศที่มันดังทันทีพร้อมกับการขมวดคิ้ว หน้าต่างของโถงใหญ่ได้แตกเป็นชิ้นๆด้วยแรงกระแทก มีควันสีขาวลอย ออกมาจากประตูและหน้าต่าง มันเกือบจะดูเหมือนว่าห้องโถงถูกไฟ ไหม้ วู้ดดด ควันหนาได้ถูกเป่าออกมาจากโถงด้วยคาถาลมที่ร่ายโดยพ่อมดที่อยู่ ภายใน "ปล่อยให้ข้าตรวจสอบสถานการณ์" โชโซหรี่ตาของเขา ร่างกายของเขา เปลี่ยนเป็นไฟสีดำแล้วหายไปในอากาศก่อนที่แองเจเล่จะได้พูดอะไร รูนสื่อสารสีขาวบนหลังมือของแองเจเล่ได้เป็นประกาย เขาตรวจสอบข้อความอย่างรวดเร็วและบีบแก้วไวน์เป็นชิ้นๆ สีหน้าของ แองเจเล่เริ่มเคร่งขรึม "กลับไปที่โถงกันเถอะ" เมื่อแองเจเล่หยุดพูดเขาก็กลับเข้าไปในห้องโถงพร้อมกับลินที่กำลังรีบ ตามหลังเขา ตอนที่330: ความขัดแย้ง (1) แปลนิยาย.วันเสาร์ ที่21 เมษายน 2018 ภายในโถงเงียบสนิ ท แขกทุกคนมองไปที่มุมหนึ่งโดยไม่ได้ส่งเสียงใดๆ หลายคนได้สื่อสารกั น ผ่านอนุภาคพลังงาน มีเพียงริมฝีปากของพวกเขาที่กำลังขยับ เซลล่ากำลังช่วยซูแมนให้ลุกขึ้นยืน เธอมองไปที่ลูกชายของหัวหน้ า พสุธาทมิฬด้วยความโกรธ มีรอยเท้าสีดำตรงกลางหน้าอกของซูแมนและมีเลือดไหลลงมาจากคาง ของเขา เค้ก แก้วไวน์และเนื้อย่างบนโต๊ะถูกเป่าเป็นชิ้นๆ กลิ่นของไวน์ผลไม้ลอยอยู่ในอากาศ "พอแล้วโดริส" ซูแมนพูดด้วยหน้าตาเฉยเมย "เซลล่าเป็นแค่เพื่อนที่ดี ของข้า" เขาอาจจะเป็นปุถุชนที่ไม่มีความสามารถแต่เขาก็ไม่กลัวที่จะ ยืนอยู่ต่อหน้าพ่อมดทางการ "เจ้ากำลังเยาะเย้ยข้าหรือ!" ใบหน้าของโดริสเปลี่ยนเป็นสีแดงจาก ความโกรธ "เจ้าไม่เคยปฏิบัติกับข้าอย่างจริงจังแม้แต่ตอนที่เราอยู่ใน เมืองโคแรน....เจ้าจะต้องเรียนรู้ที่จะเคารพข้า...." เขาถูแก้มของเขา "ท่านโดริส โปรดอย่า...." มีผู้หญิงที่กำลังสวมเดรสยาวมาหาโดริสและ พยายามทำให้เขาใจเย็นลง "ไสหัวไป!" โดริสผลักผู้หญิงคนนั้นและเธอก็ล้มลงไปกับพื้ น แก้วไวน์ที่เธอกำลังถือตกลงไปจากมือของเธอและทำให้ชุดของเธอ เปียก แม่บ้านเดินไปหาเธอทันทีและช่วยเธอทำความสะอาด แขกคนอื่นๆตัดสินใจที่จะอยู่ห่างจากโดริสเมื่อเห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะรู้ว่าโดริสเป็นคนเสียสติ "โดริส...." ในตอนนี้โชโซก็เข้ามาที่โถงหลังจากที่เขาก้าวออกมาจากลู ก บอลเปลวไฟสีดำที่เคยปรากฏก่อนหน้านี "นี่คืองานเลี้ยงของข้า..." เขาเตือนเสียงเข้ ม มีเงาดำปรากฏข้างหลังโดริสและปลดปล่อยคลื่นพลังจิตที่แข็งแกร่ ง "ท่านโชโซ นี่ไม่ใช่การดูหมิ่นท่านแต่มันเป็นผู้หญิงคนนั้นที่เริ่มโจมตีโด ริสก่อน" คลื่นพลังจิตที่ทรงพลังอย่างไม่น่าเชื่อปะทะกัน บรรยากาศภายในห้องโถงกำลังทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆเมื่อทั้งสอง คลื่นพลังจิตได้พยายามที่จะครอบงำกัน มีกระแสน้ำวนถูกสร้างขึ้นระหว่างโชโซและเงาดำ แต่ทันทีที่แองเจเล่ก้าวเข้าไปในโถงทั้งสองก็สงบลงและโถงก็เงียบอี ก ครั้ง มินโคล่ากำลังยืนอยู่ข้างหลังเซลล่า เขาส่ายหัวเล็กน้อย แขกทุกคนมอง ไปที่มินโคล่า เซลล่าและซูแมน มินโคล่าพยักหน้าให้แองเจเล่เล็กน้อยเมื่อเขาเห็นแองเจเล่มองไปที่เขา ทั้งสองสบตากันโดยคนอื่นไม่ได้สังเกตเห็ น แองเจเล่เดินเข้าไปในฝูงชนทันทีและก้าวออกไปข้างหน้า "ท่านโชโซ เกิดอะไรขึ้น" เขาถามเสียงเบา "ไม่ต้องกังวลเรื่องนี้แองเจเล่ นี่เป็นเพียงปัญหาเล็กๆ ข้าจะจัดการกั บ มัน" โชโซตอบด้วยรอยยิ้มที่ฝืนยิ้ ม "อันที่จริงเพื่อนของข้าเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มนั้น...." แองเจเล่หันไป ด้านข้างและดวงตาของเขาตกลงไปที่มินโคล่า โชโซสังเกตเห็นมินโคล่าเมื่อเขามองไปที่ทั้งสาม เขาพยักหน้าเล็กน้อย และมองไปที่แองเจเล่อีกครั้ง "อย่างที่ข้าบอกไป ข้าจะจัดการกับมัน" "ขอบคุณ" แองเจเล่ไม่ได้พูดอะไรอีกแต่พยักหน้าและถอยกลับเข้าไปในฝูงชน เขา อยากจะหนีจากปัญหาแต่มินโคล่าได้ช่วยเขาอย่างมากในเมืองท่า อากาศยาน เงาดำจะต้องเป็นคนของพสุธาทมิฬและดูเหมือนจะมีปัญหาส่วนตัว กับโชโซดังนั้นสถานการณ์ในปัจจุบันค่อนข้างซับซ้อน มันไม่ได้เป็ น เพียงความขัดแย้งที่เรียบง่ายระหว่างทายาทขององค์กรของพวกเขา และเมืองพันน้ำตกแต่ความขัดแย้งนี้ได้เป็นถึงความขัดแย้งทาง การเมืองภายในองค์กร แองเจเล่เป็นทายาของวิเวียนที่เป็นผู้อาวุโสสามดังนั้นเขาจึงโดดเด่น กว่าคนอื่นในห้องโถง อิซาเบลล่าและอีวานเป็นเพียงหนึ่งในลูกของพ่ อ แม่ของเขาและสามารถถูกแทนที่ได้ถ้าเกิดอะไรขึ้น แองเจเล่ตัดสินใจที่จะใช้ประโยชน์จากภูมิหลังของเขาในการช่วยมินโค ล่าเมื่อจำเป็น วิเวียนได้ชนะสงครามกับเจ้าเมืองเพื่อหัตถ์ธาตุทุกคนที่ อยู่ภายในรู้เกี่ยวกับความสำเร็จของเธอดังนั้นพวกเขาจึงไม่ยอมให้แอง เจเล่มีปัญหามากเกินไปถ้าเขาต้องการอะไร ความแข็งแกร่งของพ่อมดไม่ได้ขึ้นอยู่กับระดับของตัวพวกเขาเอง วิ เวียนเป็นแม่มดระดับสี่แต่พลังจิตและอำนาจคาถาของเธอทั้งคู่อยู่ใน ระดับสูงสุดของระดับนี ในที่สุดชายหนุ่มที่ชื่อโดริสก็สงบลงเล็กน้อยและเริ่มแลกเปลี่ยนคำพู ด กับโชโซผ่านอนุภาคพลังงาน เงาดำข้างหลังเขาเริ่มปลดปล่อยคลื่นพลัง จิตอีกครั้งราวกับว่าจะแสดงพลังของพวกเขาให้ทุกคนในห้องโถงรู้ "ไม่เป็นไร เจ้ามีสิทธ ์ิข้าควรจะคิดให้ดีก่อนที่จะเชิญพวกเขามาที่นี่" โช โซพูดเสียงดัง ดูเหมือนว่าจะตกลงกันได้แล้ว "เซลล่าโจมตีโดริสก่อน ดังนั้นเธอควรจะเป็นคนที่ต้องขอโทษ" โดริสลูบที่แก้มเขาอีกครั้ง ดูเหมือนว่าผู้หญิงคนนั้นตบเขาแรงเกินไป "ท่านโชโซและข้าได้บรรลุข้อตกลงกันแล้ว" ทันใดนั้นเขาก็ชี้ไปที่ซูแมน "ไอ้คนไร้ความสามารถนี้เป็นเหตุผลที่ข้าโดนตบ! ข้าคิดว่าพวกเจ้าทุก คนได้เห็นเหตุการณ์ที่ไม่น่าพอใจนี้ เซลล่า ถ้าเจ้าทิ้งซูแมนไว้ข้าจะไม่ ลงโทษเจ้าเรื่องที่ตบหน้าข้า!" "เป็นไปไม่ได้!" เซลล่ากัดริมฝีปากของเธอ "ซูแมนและมินโคล่าเป็น เพื่อนที่ดีที่สุดของข้า!" "เซลล่า" โชโซนิ่วหน้า "ทำสิ่งที่โดริสพูดและทิ้งซูแมนไว้ที่นี่ ข้ารักเจ้าแต่ เจ้าอย่าเห็นแก่ตัวเกินไป นอกจากนี้อย่าตีโดริสอีก" "ท่านโชโซ!" เซลล่าหน้าซีด ดูเหมือนว่าโชโซไม่ต้องการขัดแย้งกับลูก ชายของหัวหน้าพสุธาทมิฬ แม้ว่าโชโซจะรักเซลล่าแต่เธอก็เป็นเพียง หนึ่งในญาติที่มากมายของเขา โชโซเป็นพ่อมดดังนั้นเขาจะตัดสินใจกับ สิ่งที่เป็นประโยชน์กับเขามากที่สุ ด เซลล่าเป็นคนที่มีความสำคัญกับโชโซและส่งเธอไปหาโดริสเพื่อ แก้ปัญหา เขาไม่ต้องการต่อสู้กับเงาดำนั้นที่งานเลี้ยงอาหารค่ำที่เขา เป็นเจ้าภาพ แองเจเล่ที่กำลังยืนอยู่ด้านข้างเพิ่งเสร็จสิ้นการสื่อสารกับมินโคล่ า "ข้าบอกท่านโชโซว่าเจ้าเป็นเพื่อนของข้าดังนั้นเจ้าจะไม่เป็นไร แต่ข้าขอ แนะนำให้เจ้าอย่าพยายามช่วยผู้หญิงคนนั้น นี่ไม่ใช่ธุระของเจ้า" มินโคล่ารู้ว่าแองเจเล่กำลังช่วยเขา เขาเพียงแค่ยักไหล่เมื่อเขามองที่ แองเจเล่ โชโซและโดริสได้ตัดสินใจที่จะแก้ปัญหานี้อย่างสงบในขณะที่แองเจเล่ กำลังสื่อสารกับมินโคล่า "เอาล่ะ ข้าจะปล่อยให้เซลล่าไปกับเจ้า เจ้าสามารถทำอะไรก็ได้ตามที่ เจ้าต้องการกับซูแมนและชายหนุ่มคนนั้ น เรื่องนี้จบลงที่นี่ ข้าไม่ได้เป็ น หนี้เจ้าอีกต่อไป" โชโซไม่ได้กล่าวถึงเรื่องอะไรเกี่ยวกับมินโคล่า เขาลังเลชั่วครู่เมื่อก่อนที่ เขาจะพูดจบแต่ดูเหมือนว่าเขาไม่สนใจเรื่องเพื่อนของแองเจเล่ "ขอบคุณท่านโชโซ จับพวกเขาให้ข้า!" โดริสสั่งหลังจากที่พยักหน้ากั บ คำพูดของโชโซ สีหน้าของมินโคล่าและแองเจเล่เปลี่ยนไป แองเจเล่ไม่มีทางเลือกอื่นอีกถ้าเขาต้องการทำตามสัญญา "ท่านแองเจเล่" ลินจับมือของแองเจเล่ทันทีและเธอก็ส่ายหัว โชโซตระหนักถึงสิ่งที่แองเจเล่กำลังจะทำดังนั้นเขาจึงรีบสื่อสารกับแอง เจเล่ผ่านอนุภาคพลังงาน "ไม่เอาน่าแองเจเล่ ! นี่ไม่ใช่เรื่องตลก ถอยไป และใจเย็นๆ ลืมเรื่องเพื่อนของเจ้าไปซะ" โชโซไม่เข้าใจว่าทำไมแองเจเล่ ถึงยืนยันที่จะช่วยมินโคล่า แองเจเล่รู้ว่าเงาดำข้างหลังโดริสเป็นพ่อมดระดับสี่และไม่แน่ใจว่าคนๆ จะไม่ฆ่าเขาเพราะเขาเป็นลูกชายคนเดียวของผู้อาวุโสสาม มันเป็นไป ไม่ได้ที่เขาจะเป็นพ่อมดระดับสี่ที่เก่งที่สุด เมื่อวิเวียนได้รู้ถึงสถานการณ ์ เขาก็คงจะตายไปแล้ว มินโคล่าเป็นเพื่อนของเขาที่หอคอยพ่อมดมืดและได้มอบของขวัญเป็น ทรัพยากรที่สำคัญมากมายให้แองเจเล่ แองเจเล่สงสัยว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับมินโคล่าถ้าเขาถูกจับ ดูเหมือนว่าโด ริสจะมีจิตใจที่ไม่มั่นคง มินโคล่าอาจจะถูกฆ่าได้ทุกเวลา แองเจเล่หยีตา เขาลังเลว่าจะเลือกอะไรดี ปัจจุบันเขาเป็นพ่อมดระดับหนึ่ง สมาชิกของหัตถ์ธาตุปฏิบัติกับเขา อย่างดีเพราะวิเวียนเป็นแม่ของเขา สมาชิกที่ช่วยเขาหวังว่าจะได้รับ ความดีความชอบจากวิเวียน โชโซมีแผนการของตัวเองและทำในสิ่งที่วิเวียนทำในสถานการณ์เช่นนี ไม่มีเหตุผลใดที่จะเป็นศัตรูกับหัวหน้าของพสุธาทมิฬเพียงเพราะเพื่อน ผลประโยชน์มันไม่คุ้มค่ากับสิ่งนี แองเจเล่รู้สึกหดหู่ใจเล็กน้อยเพราะรู้ว่าถ้าเขาเป็นพ่อมดที่แข็งแกร่งที่สุด ในโถงผลลัพธ์ก็อาจแตกต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง ยามหลายคนที่สวมชุดเกราะสีดำที่มีสัญลักษณ์เปลวไฟสีดำบนหน้าอก ของพวกเขาเดินเข้ามาในโถง พวกเขากำลังถือหอกสีดำที่ยาวมากและ รีบล้อมรอบทั้งสามไว้ตรงกลาง ชี่ เปลวไฟสีม่วงได้พุ่งออกมาจากปลายหอกของพวกเขา เปลวไฟเชื่อมต่อกันและสร้างเป็นโซ่เพื่อป้องกันไม่ให้ทั้งสามหนีรอด เงาดำกำลังกดดันพวกเขาด้วยคลื่นพลังจิตที่แข็งแกร่ง พวกเขาทำได้ เพียงเฝ้าดูโซ่เปลวไฟที่เข้ามาใกล้พวกเขาเท่านั้น สีหน้าของโดริสเปลี่ยนไปหลายครั้งในขณะที่เขาจ้องไปที่เซลล่า เขาดู หดหู่ตื่นเต้นและมีความสุขในเวลาเดียวกัน ดูเหมือนว่าเขากำลัง พยายามที่จะนึกถึงวันที่เขามีกับผู้หญิงคนนั้ น แองเจเล่ยังพยายามคิดวิธีช่วยมินโคล่าให้ออกแต่รู้ว่าโดริสอาจจะไม่ได้ บอกให้ยามหยุดแม้ว่าเขาจะถาม เขามองไปที่มินโคล่า ชายคนนั้นก้มหน้าลงแล้วราวกับว่ากำลังจะยอม แพ้ โซ่เปลวไฟสีม่วงกำลังที่จะมัดพวกเขาภายในไม่กี่วินาที มันไม่มีเวลาให้เสียอีกต่อไป แองเจเล่ก้าวไปข้างหน้าและตะโกน "เดี๋ยว ก่อน!" เสียงของเขาดึงดูดความสนใจของแขกทุกคน แองเจเล่มีสีหน้านิ่งในขณะที่เขาจ้องไปที่โดริส ดูเหมือนว่าโดริสถูกปลุก ด้วยเสียงดังของเขา "ท่านโดริส ชายคนนั้นเป็นเพื่อนของข้า เขาไม่ได้พยายามช่วยเซลล่า หรือซูแมนหลังจากที่เกิดเหตุการณ์ขึ้น ข้าสงสัยว่าท่านสามารถยกโทษ ให้เขาและปลดปล่อยเขาออกมาจากโซ่ได้หรือไม่" แองเจเล่ชี้ไปที่มินโค ล่า มันไม่ได้มีความหมายอะไรกับโชโซแม้ว่าโดริสจะตัดสินใจที่จะฆ่ามินโค ล่า อย่างไรก็ตามแองเจเล่จะไม่ยืนอยู่ที่นั่นและเฝ้าดูใครบางคนที่เคย ช่วยเขาให้ตายไป โดริสมองมาที่แองเจเล่และยามก็เข้าไปหาเขาแล้วบอกเขาว่าชายหนุ่ม เป็นใคร เขาขดริมฝีปากของเขาหลังจากที่ได้รู้ภูมิหลังของแองเจเล่ แขกคนอื่นๆอยากรู้ว่าโดริสจะจัดการกับสถานการณ์นี้อย่างไร โดริสยักไหล่และโบกมือขวาของเขา "พาพวกเขาไป" เขาหยุดมองที่แอง เจเล่และหันหัวกลับไปหลังจากที่ออกคำสั่ ง ผลลัพธ์ไม่ได้เป็นไปตามที่แองเจเล่คาดหวังไว้ แองเจเล่เป็นเพียงความหวังเดียวที่ทั้งสามมีแต่ดูเหมือนว่าโดริสจะไม่ กลัวพลังของวิเวียน แองเจเล่เฝ้าดูมินโคล่า เซลล่าและซูแมนถูกมัดด้วยด้วยโซ่เปลวไฟสี ม่วง พวกเขาแทบไม่สามารถเคลื่อนไหวได้ภายใต้แรงกดดันจากคลื่น พลังจิตของเงาดำ ยามได้ลากพวกเขาออกจากโถงพร้อมกับโซ่ราวกั บ ว่าพวกเขากำลังลากสุนัข เขาขบฟันในขณะที่สีหน้าของเขาเริ่มน่ากลัว ตอนที่331: ความขัดแย้ง (2) แปลนิยาย.วันอังคารที่24 เมษายน 2018 อีกตอนลงประมาณเที่ยงคืนนะครับ โชโซเหลือบมองที่แองเจเล่แล้วส่ายหัวและหายไปในอากาศในขณะที่ เขาก้าวเข้าไปในลูกไฟสีดำโดยไม่ได้พูดอะไร แขกคนอื่นมองไปที่แองเจเล่ราวกับว่าเขากำลังดูตัวตลก ฉากนี้มันน่าอับอาย ลินยืนอยู่ข้างหลังแองเจเล่และดึงแขนเสื้อของเขา "ท่านแองเจเล่ข้าคิดว่าเราควรออกไป" แองเจเล่พยักหน้าและมองที่โดริสเป็นครั้งสุดท้าย "ไปกันเถอะ" เขาหันกลับไปและออกจากห้องโถงพร้อมกับลินที่กำลังตามหลังเขา ภายนอกโถงใหญ่มินโคล่า เซลล่าและซูแมนได้ถูกนำเข้าไปในรถม้าสี ดำแล้ว ประตูปิดทันที"ไป!" คนขับรถม้าตะโกน ในไม่ช้ารถม้าก็เริ่มขยับ แองเจเล่มองไปที่รถม้าแล้วถอนหายใจด้วยอารมณ์ที่หลากหลาย จากนั้นเขาก็มุ่งหน้าไปที่รถม้าของตัวเอง ทันใดนั้นเขาก็ได้ยินเสียงดังที่มาจากการระเบิดก่อนที่เขาจะเข้าไป ตู้ม รถม้าสีดำที่เป็นที่ตั้งของลูกเปลวเพลิงได้แตกเป็นชิ้นๆ มีประกายไฟสี ส้มได้ตกลงมาและทำให้หญ้าติดไฟ แองเจเล่ได้ยินเสียงพ่อบ้านใกล้ ประตูตะโกนด้วยความกลัว แสงของเปลวไฟได้ส่องลงบนพื้นหญ้ า มีหมอกสีแดงรีบออกมาจากรถม้าที่ระเบิดแล้วจมลงสู่พื้นดิน "เกิดอะไรขึ้น" "พวกเขากำลังหลบหนี!" "รถม้าระเบิด!" มีเงาสองเงากระโดดออกมาจากโถงและลงไปที่ข้างหน้าของรถม้าที่ ระเบิดแล้วกลายเป็นมนุษย์สองคน คนซ้ายเป็นโชโซที่แองเจเล่คิดว่าเขาออกจากสถานที่นี้ไปแล้ว คนขวา เป็นชายที่สวมชุดสูทสีดำแน่นพร้อมกับสวมหน้ากากที่เป็นตรีศูลสีแดง เข้มสองเล่ม โดริสก็รีบวิ่งออกมาจากโถงด้วยใบหน้าที่ไม่สบอารมณ์ ยามและแขกวิ่ง ออกมาจากประตูข้างอย่างรวดเร็ว โชโซชี้ไปที่รถม้าที่กำลังลุกไหม้ ทันใดนั้นรถม้าก็ถูกห้อมล้อมด้วยคลื่นพลังจิตของเขา เปลวไฟได้อ่อนลงและอีกไม่กี่วินาทีต่อมามันก็ดับลง มีเพียงควันสีเขียว ที่ยังคงออกมาจากซากของรถม้ า "พวกเขาจากไปแล้ว ยามสามคนได้ถูกฆ่า" ยามได้ตรวจสอบซากและ รายงานกลั บ "พวกเขาทำลายโซ่เพลิงแล้วร่ายคาถาเทเลพอร์ตระยะสั้น เรายัง สามารถจับพวกเขาได้" ชายสวมหน้ากากพูดเสียงเข้ ม "ยาม! ค้นให้ทั่วคฤหาสน์!" โดริสชี้ไปที่ยามและออกคำสั่ ง แองเจเล่และลินยืนอยู่ข้างรถม้าเฝ้าดูยามวิ่งไปรอบๆเหมือนไก่ที่กำลัง จะถูกตัดหั ว "พวกเขาหลบหนีไปแล้ว....ไปกันเถอะ" แองเจเล่เปิดประตูและกระโดด เข้าไปในรถม้า ลินพยักหน้าและกระโดดขึ้นไปที่นั่งคนขั บ "เรากลับหัตถ์ธาตุกันเถอะ บอกฮาคีมให้รอเรานอกเมือง" แองเจเล่สั่ง รถม้าเริ่มขยับไปที่ทางออกอย่างช้าๆ ไม่มีใครให้ความสำคัญกับรถม้าของเขา แขกหลายคนได้สูญเสีย ทัศนคติที่สูงส่งกับแองเจเล่เนื่องจากวิธีที่โดริสปฏิบัติกับเขาภายในห้อง โถง ไม่ว่ายังไงแองเจเล่ก็ไม่ต้องการยุ่งกับคนเหล่านั้นมากนัก ไม่ มี เหตุผลใดที่เขาต้องอยู่ รถม้าออกจากคฤหาสน ์ แองเจเล่นั่งเงียบๆในขณะที่เขาฟังเสียงล้อที่กำลังเลื่อน ลินไม่แน่ใจว่าเธอควรพูดอะไรดังนั้นเธอจึงตัดสินใจที่จะมุ่งมั่นไปกับ การขับรถม้าแทน "เดี๋ยวก่อน! หยุด!" มีเสียงเข้มมาจากข้างนอก ทันใดนั้นลินก็หยุดรถม้าและแองเจเล่ก็เปิดประตู เขาเห็นโดริสและพ่อมดหน้ากากระดับสี่ยืนอยู่ข้างหน้ารถม้าของพวก เขา รถม้าของพวกเขายังถูกล้อมรอบไปด้วยกองทหารยามชุดเกราะดำ "หา ท่านโดริส ท่านกำลังทำอะไร" แองเจเล่ถามอย่างไร้เดียงสา "มันเป็นเจ้าใช่ไหม เจ้าซ่อนพวกเขาไว้ที่ไหน" โชโซเปิดเผยตัวเองจากเงา และถามด้วยเสียงที่น่ากลัว "เจ้าเป็นคนที่ระเบิดรถม้า" แองเจเล่ไม่แน่ใจว่าทำไมโชโซถึงปฏิบัติกับเขาอย่างนี้ราวกับว่าเขาไม่ได้ เป็นอะไรกัน ถ้าชายคนนี้ยังคงพยายามที่จะพัฒนาความสัมพันธ์ที่ ลึกซึ้งกับวิเวียนเขาก็ควรจะช่วยเขาแก้ปัญหา แต่เขาเลือกที่จะช่วยโด ริสที่ไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของหัตถ์ธาตุแทน ข่าวลือบอกว่าโชโซเป็นคนเย็นชาดูเหมือนว่ามันจะเป็นความจริง พ่อ มดจะสนใจเฉพาะคนและสิ่งที่นำมาซึ่งผลประโยชน์แก่เขา "ข้าหรือ" แองเจเล่หัวเราะเบาๆ "ท่านโชโซ ข้าเป็นพ่อมดระดับหนึ่ง ท่าน คิดจริงๆหรือว่าข้าสามารถร่ายคาถาที่ทรงพลังเช่นนั้นได้โดยไม่มีใคร สังเกตเห็น" "หุบปาก เจ้าเป็นเพียงคนเดียวที่พยายามจะยื่นมือช่วยพวกเขา" โดริ ส เดินมาที่รถม้า "ออกมาจากรถม้า ข้ารู้ว่าเจ้าเป็นลูกชายของผู้อาวุโส สาม ส่งพวกเขามาให้ข้าแล้วข้าจะปล่อยเจ้าไป" "ข้าได้บอกเจ้าไปแล้ว มันไม่ใช่ข้า" แองเจเล่ตอบด้วยเสียงเย็นชา "หยุดพล่ามซะ เราได้ค้นหาทุกซอกทุกมุมแล้วและรถม้าของเจ้าเป็น เพียงสิ่งเดียวที่เรายังไม่ได้ตรวจสอบ" ชายสวมหน้ากากยกตรีศูลขึ้ น "เจ้าไม่เชื่อข้าแม้ว่าข้าจะพูดยังไงงั้นหรือ" แองเจเล่ส่ายหัวและออกมา จากรถม้ า "ส่งพวกเขามาแล้วข้าจะปล่อยเจ้าไป" สายตาที่เย็นชาของโดริสได้ตก ลงมาที่แองเจเล่ "จะทำอย่างไรถ้าข้าไม่ต้องการ" แองเจเล่รู้ว่าไม่มีเหตุผลใดๆที่จะเถียง กับเขา ลวดลายสีดำได้เป็นประกายในดวงตาของเขา "ดี ถ้าเจ้าไม่...." โดริสขดริมฝีปาก "เจ้าก็จะเสียใจกับการตัดสินใจของเจ้า!" มีประกายไฟออกมาจากเงาของโดริสทันทีที่เขาพูดจบ แองเจเล่รีบสร้าง โล่เงินเพื่อป้องกันการโจมตี เคร๊ง มีประกายไฟระหว่างทั้งสอง ด้วยการสะบัดนิ้วของเขาทำให้มีเข็มโลหะเงินนับไม่ถ้วนปรากฏ ข้างหน้าแองเจเล่ ฟิ้ว แสงสีเงินเป็นประกายในอากาศและเข็มเงินนับไม่ถ้วนก็ตกลงไปที่โดริ ส เหมือนสายฝน มีเข็มสีดำผสมไปกับเข็มเงินเล็งไปที่หน้าอกของโดริ ส โดริสไม่เร็วพอที่จะหลบมันแต่มีแท่งแหลมสีดำจากสนามพลังของเขา ปิดกั้นเข็มโลหะเงินส่วนใหญ่ให้เขา ฉึก อย่างไรก็ตามโดริสยังคงโดนเข็มสีดำ เขาได้หมดสติในขณะที่หน้าอก ของเขากำลังกลายเป็นหินอย่างต่อเนื่อง "เจ้ากล้าดียังไง!" ชายสวมหน้ากากได้ยกมือขวาขึ้นและเล็งมาที่แองเจเล่ พลังจิตที่ทรงพลังถูกปลดปล่อยออกมาจากพ่อมดระดับสี่ทำให้จำกัด การเคลื่อนไหวของแองเจเล่ แองเจเล่ทำได้เพียงแค่เฝ้าดูชายสวมหน้ากากคว้าคอของเขาในขณะที่ ปลายของตรีศูลถูกผสมด้วยอนุภาคพลังงานสีแดงเข้ม แองเจเล่ไม่ แน่ใจกับบาเรียโลหะของเขาว่าสามารถรับมือกับการโจมตีนี้ได้ ชายคนนี้โกรธเต็มที่ ตอนนี้เขาพยายามที่จะฆ่าแองเจเล่จริงๆ "เดี๋ยวก่อน!" โชโซตะโกนจากอีกด้านด้วยความกังวลใจ "ไอ้คนอวดดี!" ทันใดนั้นก็มีเสียงแหบแห้งดังก้องในหูของแองเจเล่ มีมือสีน้ำเงินโปร่งใสปรากฏข้างหน้าของหน้าอกแองเจเล่และจับตรีศูล ที่กำลังเข้ามา ก๊รอบ มีเสียงที่คล้ายกับโลหะถูกบีบด้วยแรงมหาศาล ชายสวมหน้ากากคำรามอยู่ในคอและเขาดูราวกับว่าเขาโดนฟ้าผ่า เขา ถอยไปหลายก้าว มีเลือดไหลออกมาจากดวงตาและหูของเขา มือของเขาที่กำลังจับตรีศูลหลอมละลายเหมือนเทียนแล้วตกลงไปที่พื้น และกลายเป็นบ่อของเหลวเหนียวสีแดง ในที่สุดบาเรียพลังงานสีดำของโชโซก็มาถึงและขัดขวางมือสีน้ำเงินจาก การโจมตีชายสวมหน้ากากอีกครั้ ง จากนั้นมือสีน้ำเงินก็แตะเบาๆไปที่บาเรียพลังงานทำให้มันแตกเป็นชิ้นๆ ภายในเสี้ยววินาทีมันยังไปหาชายสวมหน้ากากต่อ ชี่ มือสีน้ำเงินได้เพิ่มความยาวจากหนึ่งเมตรไปสิบเมตร อย่างไรก็ตามมัน ก็ถูกปิดกั้นอีกครั้ง ตอนนี้มีกระแสน้ำวนสีดำปรากฏออกมาจากอากาศ มีเสียงออกมาจากกระแสน้ำวนสีดำที่ฟังดูคล้ายกับสัตว์อสูรกำลัง คำรามด้วยความเจ็บปวด กระแสน้ำวนหายไปทันที มือสีน้ำเงินได้เหวี่ยงไปทางขวาและเกือบจะโดนโชโซ สีหน้าของโชโซเปลี่ยนไป มือขวาของเขาได้กลายเป็นหมอกสีดำที่มี ประกายของสายฟ้าอยู่ภายใน มีประกายแสงสีแดงในอากาศในขณะที่มือสีน้ำเงินกำลังจะสัมผัสกับ หมอกดำ ตูมมมม คลื่นกระแทกจากการระเบิดที่รุนแรงได้พัดทุกคนออกไป แองเจเล่สังเกตเห็นว่าร่างกายของเขาปกคลุมไปด้วยบาเรียพลังงาน บางๆในขณะที่เขากำลังบินออกไป สายตาของเขาเบลอและหัวของเขาก็ปวด แองเจเล่มองไม่เห็นสิ่งที่ เกิดขึ้นข้างหน้า "ท่านเฮนน ์นั่นท่านหรือ" เขาถาม "ข้าเป็นเพียงคนเดียวที่สามารถช่วยเจ้าได้ในสถานการณ์นี้" เฮนน์ฟังดู หมดแรง "ตอนนี้หนีไปพร้อมกับเพื่อนของเจ้า โชโซและชายสวม หน้ากากได้รับบาดเจ็บสาหัส นี่เป็นโอกาสของเจ้า ข้าได้เสียพลังจิ ต มากเกินไประหว่างการต่อสู้มันไม่มีอะไรที่ข้าทำได้หลังจากผ่านไปสอง นาที" "ขอบคุณ" แองเจเล่รู้ว่ามันไม่ใช่เวลาที่เหมาะสมในการพูดและในที่สุด เขาก็สามารถมองเห็นสิ่งต่างๆได้อย่างชัดเจนอีกครั้ง คนส่วนใหญ่ได้ปลิวไปจากแรงกระแทก บาเรียพลังงานสีน้ำเงินที่ ล้อมรอบแองเจเล่ได้ดูดซับคลื่นกระแทกส่วนใหญ่และปกป้องลินจาก การระเบิด หมอกสีน้ำเงินได้ลอยในอากาศและวิสัยทัศน์ก็ต่ำมาก ลินยังรู้สึกสับสน แองเจเล่คว้าไปที่มือขวาของเธออย่างรวดเร็วและทิ้ง รถม้าไว้ เขาตรวจสอบทิศทางโดยใช้ซีโร่และวิ่งเข้าไปในพุ่มไม้ 'โชโซเป็นคนไม่น่าเชื่อถือ' แองเจเล่ยืนยันข้อสันนิษฐานของเขา เขาไม่ แน่ใจว่าโชโซกำลังทำอะไรแต่ความรักของเขาต่อวิเวียนเป็นของปลอม โชโซลังเลเมื่อชายสวมหน้ากากพยายามฆ่าแองเจเล่เขามีเวลามาก พอที่จะปลดปล่อยบาเรียพลังงานก่อนหน้านี้แต่เขาก็ไม่ได้ทำ มัน เกือบจะดูเหมือนว่าเขาพยายามปกป้องชายคนนั้นจากการถูกเฮนน์ฆ่า แทน คนทั้งสองจะต้องคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี แองเจเล่รู้แน่ๆว่าเป็นมินโคล่าที่ทำลายรถม้าและใช้คาถาเทเลพอร์ต เขาเป็นหัวกะทิของหอคอยพ่อมดมืดดังนั้นเขาจึงมีความสามารถใน การทำลายโซ่ แองเจเล่ได้เหลือบมองไปที่ตรงกลางของรัศมีการระเบิดเป็นครั้งสุดท้าย โชโซและชายสวมหน้ากากนอนอยู่บนพื้นกำลังไอเสียงดังราวกับว่าพวก เขาไม่สบาย มีเลือดไหลออกมาจากตา ปากและหูของพวกเขาทุกครั้งที่พวกเขาไอ ฉากนี้น่ากลัวมากเมื่อเห็ น "ไป" แองเจเล่หันกลับไปและลากลินออกไปจากสถานที่นั้ น ในไม่ช้าพวกเขาก็หายไปในหมอกสีน้ำเงิน ตอนที่332: ภารกิจเสร็จสมบูรณ์ (1) แปลนิยาย.วันอังคารที่24 เมษายน 2018 มีเงาเบลอสองเงากำลังเคลื่อนที่ไปตามเส้นทางที่มืดมิดระหว่างต้นไม้ ในป่า ในความมืดมิดมีเพียงเห็ดเรืองแสงสีน้ำเงินทั้งสองข้างทางทำให้ วิสัยทัศน์ของพวกเขานั้นต่ำ แองเจเล่กำลังวิ่งด้วยความเร็วเต็มที่พร้อมกับคอยตรวจสอบท้องฟ้า มี จุดแสงสีแดงที่ดูเหมือนหิ่งห้อยกำลังไล่ตามพวกเขา ที่จริงแล้วมันเป็นอัศวินหุ้มเกราะเต็มตัวขี่อินทรีสีแดงขนาดใหญ่อัศวิน กำลังสวมหมวกที่ส่องแสงสีแดงทำให้ดูเหมือนหลอดไฟที่กำลังบินอยู่ ในท้องฟ้ายามค่ำคืน "นายท่าน เราควรทำอย่างไรดี" ลินสื่อสารกับเขาผ่านอนุภาคพลังงาน เธอฟังดูกังวล "ข้าได้แจ้งเตือนท่านวิเวียนแล้ว เธอจะส่งทีมมาช่วยเรา" แองเจเล่รักษาความสงบในขณะที่เรียบเรียงความคิดของเขาก่อนที่จะ พูดออกมา "ข้าได้ทำให้โชโซและชายสวมหน้ากากได้รับบาดเจ็บสาหั ส โดยใช้สิ่งประดิษฐ์เวทมนต์ที่ท่านวิเวียนให้ข้า พวกเขาจะไม่สามารถไล่ จับเราได้เป็นเวลาสองชั่วโมง พวกเขาต้องใช้เวลาฟื้นฟูมากดังนั้นเราคง จะออกจากพื้นที่นี้ก่อนที่พวกเขาจะฟื้นฟูอย่างเต็มที่" "สองชั่วโมง" ลินรู้ว่าได้มีการต่อสู้ก่อนหน้านี้แต่เธอปวดหัวมันทำให้เธอ ไม่มีทางรู้สิ่งที่เกิดขึ้น เธอเห็นเพียงบางอย่างที่มีสีน้ำเงินบินไปจากนั้น แองเจเล่ก็ได้ลากเธอเข้าไปในพุ่มไม้แล้ว บทสนทนาของพวกเขาจบลงแค่นี้ ทั้งสองรู้ว่าทางเลือกที่ดีที่สุดคื อ กลับไปที่สำนักงานใหญ่ของหัตถ์ธาตุเนื่องจากมันเป็นฐานหลักของ ยามรักษาการณ์และพวกเขาจะยื่นมือช่วยเหลือ ผู้อาวุโสแต่ละคนของหัตถ์ธาตุมีกองทัพส่วนตัวเป็นของตัวเอง ยาม รักษาการณ์ที่วิเวียนก่อตั้งขึ้นจะปฏิบัติตามคำสั่งของเธอเท่านั้น พวก เขาเป็นสมาชิกของหัตถ์ธาตุแต่พวกเขาก็มีสิทธ์ิที่จะไม่สนใจคำสั่ง โดยตรงจากสภา สถานการณ์แบบนี้จะเปลี่ยนไปก็ต่อเมื่อวิเวียน เสียชีวิตเท่านั้น พ่อมดและพ่อมดฝึกหัดทุกคนต้องเซ็นสัญญาพิเศษเมื่อเข้าร่วมยาม รักษาการณ์เพื่อให้มั่นใจว่าความภักดีของพวกเขาจะยังอยู่กับผู้อาวุโส สาม **************************** "อะไรนะ แองเจเล่เกือบฆ่าโดริสงั้นหรือ!" ภายในห้องลับของโบราณสถานใต้ภูเขาไฟ ปัจจุบันวิเวียนกำลังถูขมั บ ด้วยความที่ไม่อยากจะเชื่อกับสิ่งที่เธอเพิ่งได้ยิน ข้อความได้ถูกส่งมา โดยมนุษย์โปร่งใสข้างหน้าเธอ มันเป็นหญิงสาวที่กำลังสวมชุดสีดำแน่นและมีแถบคาดสีเงิน ร่างกาย ของเธอล้อมรอบไปด้วยหมอกหนา "ค่ะท่าน ท่านแองเจเล่ได้ทำให้โดริสบาดเจ็บและแม้แต่การใช้คาถา แปลกๆเพื่อทำร้ายโชโซและพ่อมดระดับสี่จากพสุธาทมิฬ เขากำลังถู ก ไล่ตามในขณะที่เรากำลังพูดกันอยู่ข้าคิดว่าพวกเขาจะไม่สามารถจับ ตัวเขาได้เขากำลังวิ่งมาหาเราพร้อมกับลิน" ผู้หญิงคนนั้นตอบ "เจ้าแน่ใจหรือไม่ว่าเป็นโดริสที่เป็นลูกชายของหัวหน้าของพสุธาทมิฬ" "ข้าแน่ใจ" "เอาล่ะ.....ข้าคิดว่าข้าเริ่มเคยชินกับแองเจเล่ที่กำลังเดือดร้อน...." วิ เวียนถอนหายใจด้วยอารมณ์ที่หลากหลาย สิ่งที่แองเจเล่ทำมันทำให้ เธอปวดหัว "คาถาแปลกๆควรจะเป็นรูนพิเศษที่ท่านเฮนน์ให้เขาไว้มิฉะนั้นมันก็แทบ จะเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะทำให้พ่อมดระดับสี่สองคนบาดเจ็บพร้อมกัน มือ สีน้ำเงินใช่ไหม บอกข้ามาว่าตอนนี้เป็นอย่างไร" "ท่านแองเจเล่ออกมาจากเมืองโรโฟแล้ว ท่านจะใช้เวลาประมาณสอง วันเพื่อไปถึงจุดยามของยามรักษาการณ์ที่ใกล้ที่สุด ยามของโดริสที่เป็ น อัศวินอากาศของพสุธาทมิฬยังไล่ตามท่านอยู่แต่ข้าไม่เห็นท่านโชโซ" ผู้หญิงคนนั้นพูดตามจริง "พอก่อน...." วิเวียนหลับตาชั่วครู่และพูดต่อ "ส่งเทรียมเวอร์ออกไปช่วย แองเจเล่เพื่อหยุดการไล่ล่าของอัศวินอากาศ ระวังให้ดีตอนที่ปะทะกัน ข้าไม่อยากให้สถานการณ์มันแย่ลง เรายังต้องให้ความสำคัญกั บ ปัญหาที่เกิดขึ้นกับเมืองพันน้ำตกก่อน" "เข้าใจแล้วค่ะ" ฟึบ ผู้หญิงโปร่งใสหายไป มีเพียงวิเวียนที่ยังอยู่ภายในห้อง เธอเดินไปที่เก้าอี้และค่อยๆเอนหลังใน ขณะที่นั่งลง "พสุธาทมิฬ....บางทีข้าควรไม่ปล่อยให้แองเจเล่ออกจากคฤหาสน์อี ก ครั้ง...." มันไม่ใช่ว่าวิเวียนต้องการปกป้องมากเกินไปแต่แองเจเล่เป็นลู ก ชายเพียงคนเดียวของเธอ เธอไม่ได้สนใจกับมือน้ำเงินที่แองเจเล่ปล่อยออกมามากนัก พ่อมดที่มีระดับสูงขึ้นก็จะมีพลังมากขึ้นแต่มันก็ยังขึ้นอยู่กับคาถาที่พวก เขารู้และระดับพลังจิตของพวกเขาว่าสูงแค่ไหน วิเวียนยังคงได้เปรียบ เมื่อเผชิญหน้ากับเจ้าเมืองทั้งหกและพ่อมดระดับสี่ทุกคน เธอยังมียักษ ์ พายุหากแองเจเล่ไม่ได้สัมผัสดอกกำเนิดเธอก็คงจะยุติสงครามได้แล้ว ผู้อาวุโสทั้งห้าเป็นเหตุผลที่หัตถ์ธาตุได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งใน องค์กรที่มีอำนาจมากที่สุดในภูมิภาคนี สภาจะส่งผู้อาวุโสออกไปต่อสู้ในสงครามเมื่อมันจำเป็น ผู้อาวุโสแต่ละ คนมีความสามารถพิเศษและสิ่งประดิษฐ์ของตัวเอง ทักษะพิเศษของวิเวียนคือการดึงพลังจากวงเวทแรงโน้มถ่วง มั น สามารถเพิ่มพลังของคาถาได้สองหรือสามเท่าและมันสามารถเปิดใช้ งานได้ทุกที่ตราบใดที่อยู่ภายในอาณาเขตของหัตถ์ธาตุนี่เป็นสิ่งที่ แบ่งแยกเธอกับพ่อมดระดับสี่คนอื่นๆ วงเวทแรงโน้มถ่วงยังสามารถเปิดใช้งานได้นอกอาณาเขตขององค์กร แต่มันก็จะไม่มีสมรรถภาพเท่าเดิม 'ข้าควรจะให้เขาอยู่สำนักงานใหญ่ข้าจะชนะสงครามให้สภาดังนั้น พวกเขาอาจจะไม่ตั้งคำถามกับการตัดสินใจของข้า มันคงจะง่าย สำหรับข้าที่จะฝึกเขาให้ถูกต้องถ้าเขาอยู่ในสำนักงานใหญ่สมาชิกคน อื่นๆขององค์กรจะปฏิบัติต่อเขาอย่างดีเพราะข้าเป็นแม่ของเขา....' วิเวียนได้วางแผนไว้ในใจของเธอแล้ว เหตุผลเดียวที่เธอตัดสินใจที่จะเข้าสงครามให้สภาก็เพื่อช่วยให้แองเจเล่ เข้าถึงตำแหน่งที่สูงขึ้นภายในองค์กร วิเวียนรู้ว่าวันหนึ่งเธอก็จะออก จากสภาแต่ทุกสิ่งทุกอย่างคงจะดีถ้าแองเจเล่ประสบความสำเร็จในการ เป็นผู้อาวุโสสามคนใหม่ 'ข้าเกลียดการเมืองแต่อย่างน้อยแองเจเล่ก็ยังปลอดภัยในสำนักงาน ใหญ่....' วิเวียนถูขมับของเธออีกครั้ง เธอเดินไปที่โต๊ะและเริ่มเขียน จดหมายถึงหัวหน้าของพสุธาทมิฬ วิเวียนไม่ได้กลัวองค์กรพสุธาทมิฬแต่เธอไม่ต้องการเริ่มสงครามเพียง เพราะทายาทของพสุธาทมิฬได้รับบาดเจ็บจากลูกชายของเธอ ******************************* มันเป็นช่วงดึก แองเจเล่ยังคงเดินทางด้วยความเร็วเต็มที่ภายในป่า มันดูเหมือนว่าเขา กังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ในปัจจุบั น มีจุดแสงสีน้ำเงินข้างหน้าดวงตาของเขาซึ่งมันทำให้ดูแปลกเล็กน้อยใน คืนที่มืดมิด ลินกำลังทำให้มีปัญหาในการรักษาความเร็วของเขา ค่าสถานะความ ว่องไวของแองเจเล่คือ 12 ดังนั้นเขาจึงดูเหมือนเงาเบลอในขณะที่วิ่ง ด้วยความเร็วเต็มที่ แองเจเล่จับมือขวาของลินและใช้มืออีกข้างเพื่อตัดพงข้างหน้าของเขา พวกเขาสิ่งเร็วจนพุ่มไม้หนาอาจจะทำให้พวกเขาได้รับบาดเจ็บ แอง เจเล่มีบาเรียโลหะของเขาและความอึดที่สูงมาก เขาไม่สนใจเรื่องหนาม แต่ไม่แน่ใจว่าลินสามารถรับมือกับหนามได้หรือไม่ บาเรียของลินจากสนามพลังของเธอไม่ได้ถูกสร้างขึ้นเพื่อรับการโจมตี อย่างไม่หยุดยั้ง เธอไม่มีพลังจิตและมานาพอที่จะสนับสนุนบาเรียของ เธอดังนั้นหนามอาจจะทิ้งบาดแผลไว้ที่แขนของเธอ แองเจเล่สังเกตเห็นปัญหานี้และตัดสินใจที่จะจัดการเส้นทางให้เธอ พวกเขาวิ่งอย่างไม่หยุดยั้งเกือบสองชั่วโมงแล้ว มีแสงสีแดงไม่มากนั ก ที่มาจากหมวกของอัศวินอากาศในท้องฟ้า ดูเหมือนว่าพวกเขาได้ สูญเสียร่องรอยของแองเจเล่และลินแล้ว "ข้าอาจจะไม่ชนะอัศวินอากาศแต่ข้ามั่นใจในความเร็วของข้า" แองเจเล่ ยังพูดคุยได้ในขณะที่กำลังวิ่ง แต่ลินส่ายหัว เธอหงุดหงิดมากดังนั้นจึงเป็นไปไม่ได้ที่เธอจะตอบ ในตอนนี 'นี่มันบ้ามาก....' ลินตระหนักว่าแองเจเล่เป็นพ่อมดที่แข็งแกร่งกว่าเธอ ความเร็วของแอง เจเล่เร็วกว่าอัศวินอากาศ เธอไม่อยากจะเชื่อว่าระยะทางมันห่างกันได้ ในระยะเวลาสั้นๆ ลินพยายามผลักดันตัวเองไปข้างหน้าด้วยอนุภาคพลังงาน นั่นเป็น เทคนิคเร่งความเร็วที่เธอรู้แต่เธอก็ยังช้ากว่าแองเจเล่นอกจากนี้อนุภาค พลังงานยังได้สร้างเสียงรบกวน ตอนนี้เธออยากจะให้ตัวเธอรู้คาถาเร่ง ความเร็ว ในที่สุดจุดแสงสีแดงก็หายไปจากท้องฟ้าหลังจากที่วิ่งไปอย่างต่อเนื่อง หลายชั่วโมง แองเจเล่ตรวจสอบท้องฟ้าและทันใดนั้นก็หันไปข้างหน้าทันที มีต้นไม้แปลกๆปรากฏมากขึ้นเรื่อยๆทั้งสองข้างทาง ต้นไม้แปลกๆนี้ มี รูปร่างที่โดดเด่นและรากที่เป็นเอกลักษณ ์ 'นี่มัน....ป่าเชอร์รี่!' ลินจำรากเหล่านั้นได้ทันทีเพราะมีเพียงต้นไม้ของป่า เชอร์รี่เท่านั้นที่มีลักษณะเช่นนีเธอต้องการสื่อสารกับแองเจเล่ผ่าน อนุภาคพลังงานแต่เธอไม่มีพลังจิตเหลือพอที่จะทำ ลินได้ใช้พลังจิตและมานาไปมากเพื่อสนับสนุนบาเรียพลังงานของ ตัวเอง ป่าเชอร์รี่เป็นหนึ่งในสถานที่ที่อันตรายที่สุดภายในอาณาเขตของหัตถ ์ ธาตุมีสิ่งมีชีวิตกลายพันธุ์นับไม่ถ้วนและมนุษย์อาศัยอยู่ผู้อาวุโสทั้งห้า เคยสำรวจป่าด้วยกันครั้งหนึ่งแต่ก็ไม่พบทรัพยากรที่มีค่าดังนั้นพวกเขา จึงทำเครื่องหมายว่าเป็นพื้นที่ต้องห้าม ลินไม่ได้คาดหวังว่าแองเจเล่จะ พาเธอมายังสถานที่ นี หลายนาทีต่อมาแองเจเล่ก็ปล่อยมือของลิน เธอเพียงได้ยินเสียงสงบมาจากความมืด "พักสักหน่อย ข้าจะไปหากิ่ง ไม้แห้ง" เมื่อแองเจเล่พูดจบเขาก็หายไป ลินนั่งอยู่บนพื้นกำลังหอบอย่างหนัก มีเหงื่อหยดลงมาจากผมของเธอ ชุดคลุมยาวของเธอเปียกโชกทั้งตัวมันทำให้เหนียวและรู้สึกไม่สบาย ยังมีแสงสลัวที่มาจากเห็ดเรืองแสงบนพื้นแต่เธอก็แทบมองไม่เห็ น สภาพแวดล้อมรอบๆ ลินลุกขึ้นยืนแต่ก็ตัดสินใจที่จะไม่ขยับไปไหนอีกเนื่องจากเธอไม่มีพลัง จิตเหลือพอที่จะใช้อนุภาคพลังงานไฟ เธอพิงกับต้นไม้ยักษ์และเอาของ เวทมนต์ออกมาเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการโจมตีที่มาจากสัตว์อสูร กลายพันธ ์ุ ************************** แองเจเล่เดินไปอีกหลายนาทีก่อนที่จะหยุดภายใต้ต้นไม้ยักษ ์ เขาลูบแหวนนิ้วกลางของมือขวาสามครั้ง ชี่ มีลำแสงสีขาวถูกปลดปล่อยออกมาจากแหวนและทำให้สภาพแวดล้อม สว่างขึ้ น ในไม่ช้าแองเจเล่ก็สังเกตเห็นว่ามีคลื่นพลังงานลึกลับปรากฏขึ้นที่ทาง ด้านซ้ายและมันก็เชื่อมต่อกับแหวน เขาหันไปทางซ้ายและรีบพุ่งไปที่แหล่งที่มาของคลื่นพลังงาน หลายนาทีต่อมาเขาก็พบสถานที่ที่เขาพบม็อคโค่ครั้งแรก

ไม่มีความคิดเห็น :

แสดงความคิดเห็น