วันเสาร์ที่ 14 มีนาคม พ.ศ. 2563

ตอนที่333: ภารกิจเสร็จสมบูรณ์ (2) แปลนิยาย.วันพุธที่25 เมษายน 2018 มีผลไม้มากมายที่เหมือนกันห้อยอยู่บนต้นไม้ ภายใต้ผลไม้สีน้ำตาลเหล่านั้นมีดอกไม้สีดำจำนวนมากที่มีขนาดเท่า ล้อรถม้า มีของเหลวโปร่งใสหยดลงมาจากผลไม้ซึ่งถูกดูดซึมอย่างรวดเร็วโดย เกสรของดอกไม้ หนึ่งในผลไม้ได้แตกออกทันทีที่แองเจเล่เข้าพื้นที่ทำให้เห็นเนื้อภายใน หลายวินาทีต่อมาก็มีใบหน้ามนุษย์แปลกๆปรากฏบนเนื้อสีขาว "เฮ้เจ้า เราพบกันอีกแล้ว" ใบหน้าทักทายแองเจเล่แองเจเล่มองเห็น ดวงตาและปากของมัน มันไม่มีจมูกหรือหู ดวงตาสีเขียวของใบหน้ากำลังเรืองสง แองเจเล่พยายามที่จะหลีกเลี่ยง การสบตากับมันเนื่องจากแสงสีเขียวทำให้เขารู้สึกอึดอัด "ม็อคโค่ไม่ได้เจอกันนาน" มีรอยยิ้มที่อ่อนโยนบนใบหน้าของแองเจเล่ จากนั้นเขาก็ก้าวไปข้างหน้าและยืนอยู่ข้างหน้าผลไม้ที่แตก "ข้ามาที่ นี่ เพื่อจบภารกิจ" "ภารกิจหรือ" ม็อคโค่สับสน เขาเริ่มตรวจสอบฐานข้อมูลทันที"อย่าบอก ข้านะว่าเจ้าได้เสร็จสิ้นการทำยาหมอกพิษแล้ว" "ใช่ มันเสร็จแล้ว" แองเจเล่ยักไหล่ ม็อคโค่ลังเลชั่วครู่แต่ก็สแกนแองเจเล่ด้วยดวงตาที่เหมือนมรกต "อย่า แม้แต่พยายามหลอกข้า มันไม่มีความผิดแต่ข้าไม่คิดว่าเจ้าจะทำยาให้ เสร็จได้รวดเร็วเช่นนั้น" "ดูด้วยตัวเอง...." แองเจเล่ไม่อยากเสียเวลาและรีบเอาหลอดขนาดเล็ก ออกมาจากหนึ่งในถุงกระเป๋าของเขา หลอดถูกผนึกด้วยจุกไม้และมีของเหลวเหนียวสีน้ำตาลที่กำลังเดือดอยู่ ภายใน มันเป็นยาหมอกพิษ "วางหลอดเล็กไว้ที่พื้น สิ่งมีชีวิตส่วนใหญ่จะตายภายในระยะที่มีผล มั น จะไม่มีผลกับพ่อมดที่อยู่เหนือระดับสองแต่มันก็ยังค่อนข้างมี ประสิทธิภาพ ข้าได้ใช้เวลาและทรัพยากรไปมากกับสิ่งนี้" แองเจเล่อธิ บายในขณะที่เขาเคาะเบาๆที่หลอดทดลอง "เร็วเข้า ยังมีใครบางคนรอ ข้าอยู่ในป่า ข้าต้องรักษาตัวตนของข้าให้เป็นความลับ" "อา....เอาล่ะ...." ม็อคโค่ยังคงตกใจ "ความสามารถของเจ้าในการทำยา มันน่าเหลือเชื่อ สามปีเจ้าทำยาหมอกพิษเสร็จจริงๆ ข้าจะรายงาน สถานการณ์กลับไปที่สำนักงานใหญ่ทันทีที่จริงแล้วเจ้าก็รู้ว่าข้าไม่ได้ อยู่คนเดียวที่นี่ที่จริงม็อคโค่คือการรวมกันของคลื่นพลังจิตพ่อมด 32 คนจากสำนักงานใหญ่ข้อมูลที่เจ้าบอกข้าจะส่งไปถึงพ่อมด 32 คน พวกเขาได้ให้ภารกิจนี้แก่เจ้า ข้าไม่ได้เห็นผู้เชี่ยวชาญยาที่มีพรสวรรค ์ เช่นนี้อย่างน้อยก็ห้าสิบปีแล้ว....คนสุดท้ายเป็นลูกชายของพ่อมดที่ ยิ่งใหญ่ฟินน์...." ม็อคโค่พูดความจริงและเรื่องที่ไม่สำคัญให้แองเจเล่ฟั ง แองเจเล่สแกนม็อคโค่โดยใช้ซีโร่และมันก็ตรวจพบคลื่นพลังจิตที่ แตกต่างกันนับสิบคลื่น บางทีพวกเขาอาจจะเป็นพ่อมดที่ต้องการพูด กับแองเจเล่และกำลังต่อสู้กันเพื่อควบคุมม็อคโค่ "ขอโทษด้วยสำหรับความล่าช้า เอาล่ะ คะแนนภารกิจของเจ้าจะถูก ส่งไปที่แหวนของเจ้า โปรดเก็บไว้ของเจ้าไว้กับตัวตลอดเวลา เมื่อเจ้าทำ หายเจ้าก็จะต้องกรอกแบบฟอร์มใบคำร้องที่ซับซ้อน เจ้าสามารถ แลกเปลี่ยนสิ่งของและบริการได้โดยใช้คะแนนที่เจ้าได้รับจากภารกิ จ แรก นี่คือรายการ" ม็อคโค่เปิดปากของมันด้วยมุมแปลกๆและมีม้วนหนังสีน้ำตาลยาว ค่อยๆกลิ้งลงมาตามลิ้นของมัน ม้วนถูกผูกด้วยสายสีดำและมีเศษไหล่โลหะอยู่ด้านใน แองเจเล่หยิบม้วนและเอาผนึกออก ข้อดีของการเป็นสมาชิกหลักของ หอคอยพ่อมดมืดคือรายการที่ต้องใช้คะแนนภารกิจที่ได้ถูกทำ เครื่องหมายไว้ด้านข้าง เขาต้องกลับไปหาลินก่อนที่เธอจะฟื้นฟูพลังจิตอย่างสมบูรณ ์จากนั้น แองเจเล่ก็มัดม้วนอีกครั้งและซ่อนมันไว้ใต้แขนเสื้อของเขา แองเจเล่หยิบเศษเกราะที่ตกลงไปที่พื้นขึ้นมาและตรวจสอบมันอย่าง รวดเร็ว "นี่คืออะไร" "ตอนนี้เจ้าเป็นสมาชิกขององค์กรแล้วเราจึงได้ส่งของขวัญเล็กๆให้เจ้า มันเรียกว่า 'เกราะไหล่คริสตัล'(มันจะใส่ไว้ตรงไหล่และมีสายผูกไว้กั บ ตัว ไม่รู้ว่ามันมีภาษาทางการหรือเปล่าถ้ามีช่วยเม้นบอกด้วยนะครับ) เกราะไหล่นี้อาจจะดูเหมือนก้อนโลหะแต่มันทำมาจากคริสตัลดำและ ได้ลงอาคมคาถาบัพ คาถาสามารถยกระดับคาถาโจมตีและป้องกัน ของเจ้าได้ถึ ง 50%" "เกราะไหล่คริสตัล...." แองเจเล่กำลังตรวจสอบชิ้นส่วนเกราะโดยใช้ชิ ป "จำไว้ว่าชุดเกราะนี้ถูกมอบให้กับสมาชิกที่เสร็จสิ้นการท้าทายแรก เท่านั้น อย่าใส่มันเหมือนชุดเกราะปกติเพราะเจ้าอาจจะถูกจดจำได้ จากคนที่มีความรู้เรื่ององค์กรของเรา ภายในเศษเกราะนี้เจ้าสามารถ จ้างทหารรับจ้างของสมาคมเงาแต่เจ้าจะต้องใช้คะแนนภารกิจของเจ้า เพื่อทำเช่นนั้น ทหารรับจ้างเงาหนึ่งหรือสองคนจะถูกส่งไปหาเจ้า ภายในหนึ่งสัปดาห์โดยสำนักงานใหญ่ นอกจากนี้ข้อมูลเกี่ยวกับการ สำรวจโบราณสถาน การล่าสมบัติและกิจกรรมลับก็จะถูกส่งไปหาเจ้ า จากสาขาต่างๆ อย่างไรก็ตามเจ้าไม่ได้ถูกบังคับให้เข้าร่วมกิจกรรม เหล่านั้นเนื่องจากพวกมันทั้งหมดมีธรรมเนียม" "นั่นหมายความว่าข้าสามารถจ้างทหารรับจ้าง ซื้อรายงานข่าวกร่อง และเข้าร่วมกิจกรรมพิเศษได้ตราบใดที่ข้ามีคะแนนภารกิจเพียงพอใช่ ไหม" แองเจเล่อยากรู้เรื่องนี "ใช่ทุกรายงานข่าวกร่อง กิจกรรมลับและของพิเศษ สมบัติลับและ เทคนิคโบราณที่พบจากโบราณสถานจะไม่ถูกขายสู่สาธารณะ มีเพียง สมาชิกที่แข็งแกร่งที่สุดขององค์กรที่มีสิทธ์ิซื้อของนี้ การทำยาหมอกพิ ษ ไม่ใช่ภารกิจที่เรียบง่ายแต่มันเป็นการท้าทายที่ยากแท้จริง เจ้าเป็นหนึ่ง ในผู้เชี่ยวชาญยาที่มีพรสวรรค์ที่สุดในองค์กรของเรา ทำงานให้หนักและ ปรับปรุงตัวเองต่อไป จากนั้นอนาคตของเจ้าก็จะสดใสขึ้น...." ม็อคโค่ ยิ้มและหายไปในเนื้อของผลไม้ รอยแตกบนผลไม้ได้ปิดและแสงสีขาวก็หายไป แองเจเล่ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่จะเก็บเกราะไหล่คริสตัลไว้ในถุง กระเป๋าของเขา จากนั้นเขาก็หันกลับไปและเริ่มกลับไปที่ตำแหน่งของ ลิน เขาได้รับคะแนนภารกิจ 10 คะแนนจากการเสร็จสิ้นการท้าทาย มี หลายสิ่งที่เขาสามารถทำได้โดยใช้คะแนนที่เขามีอยู่ในปัจจุบันตาม ข้อมูลบนม้วน ความสนใจของเขาถูกกระตุ้นด้วยความอยากรู้เพราะทหารรับจ้างเงา ที่ม็อคโค่พูดถึง หลายนาทีต่อมาแองเจเล่ก็พบลินเอนตัวพิงกับต้นไม้ขนาดใหญ่พร้อม กับหลับตา ดูเหมือนพลังจิตของเธอกำลังฟื้นฟู แองเจเล่ได้นำกิ่งไม้แห้งหลายกิ่งที่เขาพบระหว่างทางกลับมาและรีบก่อ กองไฟ แสงสีส้มจากเปลวไฟที่สดใสได้ทำให้รอบๆสว่างขึ้นและมันให้ความ อบอุ่นแก่พ่อมดทั้งสอง ลินค่อยๆลืมตา เธอกัดริมฝีปากเล็กน้อยในขณะที่เธอเฝ้าดูแองเจเล่ก่อ กองไฟ "ท่านแองเจเล่.....ข้าควรเป็นคนที่ก่อกองไฟ.....ข้าขอโทษและ...." "พักสักหน่อย มันเป็นข้าที่เอาเจ้าเข้าไปร่วมด้วย เราอยู่ในป่าเชอร์รี่ที่มี สัตว์อสูรกลายพันธุ์นับไม่ถ้วนอยู่รอบๆ พวกเราอยู่ที่นี่ได้ไม่นานนัก" แองเจเล่หยุดลินจากการพูด แสงจากเปลวไฟที่กำลังสั่นไหวได้ส่องลงบนใบหน้าของพวกเขา พวก เขาไม่ได้สนทนากันอีก ลินพักผ่อนอยู่ครู่หนึ่งและตัดสินใจที่จะทำอาหารด้วยเครื่องปรุงที่เธอมี พวกเขาเริ่มเดินทางอีกครั้งในวันรุ่งขึ้นและในที่สุดก็เห็นนักธนูหลายคน ที่สวมชุดเกราะสีดำใกล้ๆขอบของป่า "มันเป้นทหารหน่วยที่สามของยามรักษาการณ์" ลินจำตัวตนของพวก เขาได้ทันทีและเข้าไปหาพวกเขา นักธนูล้อมรอบแองเจเล่และลินตรงกลางในรูปวงกลม พวกเขาต้องการ ทำให้แน่ใจว่าไม่มีคนสอดส่องของศัตรูอยู่ใกล้ๆ ชายร่างสูงที่ห้อยธนูสี ดำอยู่ที่หลังเดินมาหาแองเจเล่และโค้งให้เขา "ท่านแองเจเล่ข้าเป็นหัวหน้าของหน่วยที่สาม เรามาที่นี่เพื่อพาท่าน กลับบ้าน ไปกันเถอะ" เสียงของชายคนนี้เข้มและเสียงดัง เขาเรียกแอง เจเล่ว่านายท่านแต่มันก็ไม่แสดงทัศนคติที่ประจบประแจงมากนัก "ตกลง อัศวินอากาศได้สูญเสียร่องรอยของเราแล้ว ไม่ต้องกังวลมาก เกินไป" แองเจเล่ถอนหายใจด้วยความโล่งอก "ภารกิจของเราคือการพาท่านกลับไปที่จุดเฝ้ายามที่สอง ยาม รักษาการณ์ส่วนใหญ่ยังอยู่ในสงครามดังนั้นนี่จึงเป็นหน่วยชั่วคราว โปรดรีบด้วยเพราะเรายังต้องเข้าร่วมสงครามหลังจากที่เราเสร็จสิ้นการ พาท่านกลับไป" ชายคนนี้อธิบายโดยไม่ได้แสดงสีหน้าใดๆออกมา "เอาล่ะ ไปกันเถอะ" แองเจเล่พยักหน้า เขารู้ตัวเองดีว่าสงครามกับเมือง พันน้ำตกมันรุนแรงแค่ไหนดังนั้นเขาจึงไม่อยากเสียเวลา มีนักธนูอย่างน้อยหนึ่งร้อยคนในหน่วยนีพวกเขาทุกคนเป็นพ่อมด ฝึกหัดขั้นที่สามแต่ทุกคนมีร่างกายที่แข็งแกร่งที่เทียบได้กับอัศวิน แอง เจเล่ยังสังเกตเห็นว่าพลธนูส่วนใหญ่ได้มีอุปกรณ์เวทมนต์ระดับต่ำอยู่ กับตัว แองเจเล่ถูกซุ่มโจมตีโดยหมูป่าดำที่สูงห้าเมตรระหว่างทางกลับ อย่างไรก็ตาม ด้วยการค้นหาจุดอ่อนของหมูป่าพลธนูใช้เวลาเพียงไม่กี่ วินาทีเท่านั้น ธนูโลหะดำนับร้อยได้หลุดออกจากธนูและตกลงบนหัวของหมูป่า เหมือนสายฝน ค่าสถานะความอึดของหมูป่าสูงกว่า 19 มันเป็นตัวเลขที่น่ากลัว หัว ลูกศรได้ถูกแทรกด้วยอนุภาคพลังงานไฟดังนั้นพวกมันจึงระเบิดพร้อม กันทำให้หมูป่าถูกระเบิดเป็นชิ้นๆ มีเพียงกองขี้เถ้าสีดำที่ถูกทิ้งไว้บนพื้น ไม่มีลูกธนูที่พลาดแม้แต่ดอกเดียวที่ยิงโดยหน่วยนี้ ความเสียหายสะสม ของลูกธนูของพวกเขามันมากกว่าหนึ่งพันหน่วย แองเจเล่ไม่อยากจะเชื่อว่าหน่วยพ่อมดฝึกหัดขั้นที่สามนี้ที่มีค่าสถานะ ระดับใกล้เคียงกับอัศวินจะสามารถสร้างความเสียหายได้สูงเช่นนั้นถ้า เขาไม่ได้เห็นการชนะการต่อสู้ด้วยตาของตัวเอง ตอนแรกเขาไม่เคยคิดว่าพ่อมดฝึกหัดขั้นที่สามสามารถช่วยเขาได้จริงๆ ในระหว่างการต่อสู้แต่หน่วยพ่อมดฝึกหัดนี้สามารถซุ่มโจมตีและฆ่าพ่อ มดทางการได้อย่างง่ายดายด้วยการทำงานเป็นทีมที่น่าเกรงขามเช่นนี ในที่สุดลินก็แสดงความสามารถได้เต็มที่หลังจากที่พลังจิตฟื้นฟูเต็มที่ เธอใช้การเพิ่มความเร็วให้กับทุกคนในหน่วย ด้วยความช่วยเหลือของ อนุภาคพลังงานตอนนี้พวกเขากำลังเดินทางด้วยความเร็วที่น่า เหลือเชื่อ แม้ว่ามันจะช้ากว่าความเร็วของแองเจเล่แต่พวกเขาก็ยังไปถึงคฤหาสน ์ ของแองเจเล่ได้ภายในเวลาเพียงสองวันพร้อมกับวิเวียนที่รอการมาถึง ของเขา ตอนที่334: เพิ่มระดับ (1) แปลนิยาย.วันพฤหัสบดี ที่26 เมษายน 2018 มันเป็นตอนเที่ยง แสงแดดที่ร้อนแรงได้ส่องไปทั่วพื้นดิน แองเจเล่และลินที่อยู่ตรงกลางของขบวนกำลังถูกปกป้องโดยนักธนูใน ขณะที่พวกเขาเดินทางกลับมาที่คฤหาสน์โดยตรง แองเจเล่ดูเหนื่อย และชุดคลุมสีดำของเขาเหมือนผ้าขี้ริ้ว เขามองไปข้างหน้าคฤหาสน์และสังเกตเห็นใครบางคนในชุดสีแดง กำลังยืนอยู่ข้างทะเลสาบมองมาที่พวกเขา ชุดคลุมสีแดงดูสะดุดตาในขณะที่ยืนอยู่ข้างทะเลสาบสีเขียวภายใต้ แสงแดดสีทอง "เป็นท่านวิเวียน" ลินสื่อสารผ่านอนุภาคพลังงาน แองเจเล่พยักหน้า เขาไม่ได้คาดหวังว่าวิเวียนจะกลับมาจากสนามรบ เพียงเพื่อเขาเท่านั้น หัวหน้าของหน่วยธนูโค้งให้วิเวียนจากด้านข้างและเปิดใช้งานรูนสื่อสาร เพื่อรายงานสถานการณ ์ พลธนูเคลื่อนไปที่ข้างๆและเคลียร์เส้นทางให้แองเจเล่และลิน ทั้งสองลังเลครู่หนึ่งก่อนที่พวกเขาจะไปหาวิเวียนอย่างรวดเร็ว "ลินไปพักผ่อนเถอะ ขอบคุณสำหรับการดูแลของเจ้า" เสียงของวิเวียน ดังก้องในอากาศ ลินพยักหน้าตอบแล้วโค้งให้วิเวียนและรออยู่ด้านหนึ่ง แองเจเล่หยุดข้างหน้าวิเวียนและทำความสะอาดชุดคลุมของเขา "ข้าได้บอกเจ้าไปแล้วว่าคิดให้ดีก่อนที่จะทำอะไร" วิเวียนตำหนิเขาด้วย เสียงสงบแต่มันไม่ได้ดูเหมือนว่าเธอกำลังโทษเขา เธอก้มตัวลงข้างแม่น้ำและตักน้ำด้วยมือทั้งสองข้าง มีปลาสีดำสี่ขา กำลังว่ายอยู่ในน้ำอย่างช้าๆ "ข้าขอโทษด้วยสำหรับเรื่องนั้น" แองเจเล่ไม่แน่ใจว่าจะอธิบาย สถานการณ์อย่างไร "ใช่เจ้าควรขอโทษ" วิเวียนกลอกตา "โดริสเป็นคนที่มีชื่อเสียงในเรื่อง สร้างปัญหาภายในพสุธาทมิฬ นอกจากนี้พ่อของเขายังไม่เคยตั้ง คำถามใดๆกับการกระทำของเขา ข้าไม่กลัวองค์กรของพวกเขาแต่ ตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่เหมาะสม หัตถ์ธาตุยังต้องการจัดการกับเจ้าเมือง ก่อน" เธอแช่มือของเธอในน้ำสะอาดทำให้แขนเสื้อของเธอเปียก แองเจเล่ สังเกตเห็นว่ามีแถบสีดำรอบๆข้อเท้าของเธอแต่มันดูเหมือน เครื่องประดับธรรมดา "ข้าเพียงแค่พยายามช่วยเพื่อนที่ดีของข้าเท่านั้นแต่ดูเหมือนว่าโดริส ไม่ได้สนใจว่าข้าเป็นลูกชายของท่าน" แองเจเล่อธิบายเสียงต่ำในขณะที่ เขายักไหล่เขารู้ว่าเขาจะต้องถูกตามล่าโดยนักฆ่าของพสุธาทมิฬถ้าวิ เวียนไม่ได้มาช่วยเหลือเขา วิเวียนส่ายหัวด้วยอาการที่พูดไม่ออกเล็กน้อย "เพื่อนของเจ้าสำคัญแค่ ไหน ช่างมันเถอะ ข้ารู้ว่าเจ้าเสียใจกับการตัดสินใจของเจ้า นั่นเป็นสิ่งที่ ดี" เธอลุกขึ้นยืนและน้ำบนมือของเธอก็ถูกทำให้ระเหยด้วยอนุภาค พลังงานไฟ "เอาล่ะ ให้ข้าตรวจสอบความคืบหน้าเทคนิคแกนแม่น้ำมัลเท็นของเจ้า เนื่องจากข้าได้มาอยู่ที่นี่แล้ว เพียงแค่ถามข้าถ้าเจ้ามีคำถามใดๆ" "ครับ" แองเจเล่พยักหน้าแล้วเขาก็เริ่มตั้งคำถามที่เขามีในใจเกี่ยวกับขั้น ที่สี่และขั้นที่ห้าของเทคนิค เวลายังคงผ่านไปเรื่อยๆ ดวงอาทิตย์เริ่มตกและแสงสีส้มที่มัน ปลดปล่อยออกมาก็ส่องลงบนผิวของแม่น้ำ พวกเขาคุยกันในขณะที่ยืนอยู่ข้างแม่น้ำหลายชั่วโมง "เอาล่ะ วันนี้พอได้แล้ว ข้ายังต้องพูดกับหัวหน้าของพสุธาทมิฬ ผู้คุ้มกัน ของโดริสไม่ได้ลังเลเมื่อเขาพยายามที่จะฆ่าเจ้าดังนั้นข้าจะต้องสอน มารยาทบางอย่างแก่พวกเขา...." มีแสงสีทองล้อมรอบดวงตาของเธอ "อยู่ภายในคฤหาสน์และอย่าออกไปจนกว่าจะเชี่ยวชาญขั้นที่สี่ของ เทคนิคแกนแม่น้ำมัลเท็นอย่างสมบูรณ์" เธอลูบแก้มของแองเจเล่ด้วยมือทั้งสองข้างก่อนที่จะดึงและบีบด้วยมุม แปลกๆ แองเจเล่พยายามที่จะหนีมือของวิเวียนแต่ทันใดนั้นเธอก็ปลดปล่อย คลื่นพลังจิตที่ทรงพลังของเธอออกมาเพื่อหยุดเขาไม่ให้ขยับไปจากเธอ 'นั่นคือวิธีหนึ่งในการประยุกต์ใช้คลื่นพลังจิต....' แองเจเล่ไม่สามารถทำ อะไรได้ ใบหน้าของแองเจเล่ควรจะถูกปกคลุมด้วยชั้นโลหะบางๆแต่ดูเหมือนว่า วิเวียนจะไม่สนใจบาเรียของเขาเลย "ข้ายังได้รู้เรื่องประตูสู่ดินแดนแฟรี่อย่ากังวลมากนัก มีประตูมากมายที่ เปิดในช่วงหลายปีที่ผ่านมาแต่ไม่มีประตูไหนเสถียร" "เข้าใจแล้วครับ" วิเวียนยังคงเล่นกับแก้มของแองเจเล่อีกสักครู่ก่อนที่เธอจะหันไปและ หายไปในลูกเปลวไฟสีแดงเข้ ม มีรอยยิ้มบนใบหน้าที่บูดบึ้งของแองเจเล่ตัวเขารู้ว่าวิเวียนเพียงแค่ ปกป้องเขาจากอันตรายใดๆแต่เขาไม่ต้องการที่จะอยู่ในสถานที่เดียว ตลอดไป เขาส่ายหัวและถูคางของเขา ในไม่ช้าแองเจเล่ก็เดินไปที่คฤหาสน์ใน ขณะที่เปิดใช้งานรูนสื่อสารสีแดง ลินได้รับข้อความของเขาและมุ่งหน้าไปที่คฤหาสน์ด้วยเช่นกัน พลธนูที่ อยู่ภายใต้การบังคับบัญชาโดยตรงของวิเวียนได้จากไปแล้ ว คฤหาสน์ได้ว่างเปล่ายกเว้นสาวใช้สองคนที่กำลังรอพวกเขาภายใน ห้องนั่งเล่น พวกเขาเป็นเพียงพ่อมดสองคนที่ยังอยู่ที่นี่ แองเจเล่เข้าห้องนั่งเล่นและนั่งลงบนโซฟา "ลิน เลือกห้องที่เจ้าชอบ ขอบคุณสำหรับการเข้าร่วมงานเลี้ยงกับข้า" "ด้วยความยินดี" แม้ว่าลินจะดูเหนื่อยแต่เธอก็ยังตอบอย่างสุภาพ เธอ โค้งให้หลังจากพูดจบและไปตรวจสอบห้อง แองเจเล่เอนหลังพิงพนักพิงโซฟาและกางแขนออก ชี่ ทันใดนั้นรูนสื่อสารสองตัวบนหลังมือของเขาก็สว่างขึ้น ตัวซ้ายดูเหมือนคางคกสีขาวในขณะที่ตัวขวาเป็นแมงมุมสีเขียว แองเจเล่แตะที่รูนคางคกสีขาว มันเป็นข้อความที่มาจากมินโคล่า "ข้าเองมินโคล่า ขอบคุณสำหรับความช่วยเหลือแองเจเล่ ข้าได้พบกับซู แมนและเซลล่าระหว่างทางที่ไปงานเลี้ยงแต่ข้าไม่ได้คาดหวังว่า สถานการณ์จะซับซ้อนเช่นนีข้าขอโทษด้วยที่นำเจ้าเข้าสู่เรื่องนีเราได้ ออกจากเมืองโรโฟแล้ว ข้าจะติดต่อไปหาเจ้าในภายหลัง เราจะตอบ แทนเจ้าในอนาคต" แองเจเล่พยักหน้าเล็กน้อยก่อนที่เขาจะแตะบนรูนแมงมุมสีเขียว "ถึงแองเจเล่ข้อความนี้ถูกส่งในเดือนกุมภาพันธ์จากเมืองท่าอากาศ ยาน แม้ว่าข้าจะใช้หอสัญญาณแต่มันก็ยังใช้เวลาหลายเดือนในการ ส่งไปถึงเจ้า ข้าดีใจที่เจ้าเขียนจดหมายถึงข้า ท่านอริสม่าอยากจะพูด กับเจ้าในสักวันหนึ่ง เธอคิดว่าเจ้ามีพรสวรรค์มากกว่าข้า นอกจากนี้ โปรดแจ้งท่านเฮนน์ว่าท่านอริสม่าบอกว่าพวกเธอต้องตามล่าคนที่ซุ่ม โจมตีพวกเธอก่อนที่จะต่อสู้กันต่อแต่พวกเขามีภูมิหลังที่ทรงพลัง ยังไงก ็ ตาม ข้าได้ถึงระดับที่สองแล้ว ข้าหวังว่าเจ้าจะทำได้ดีเช่นกัน..." มันมาจากสติกม่า แม่มดแห่งโชคชะตาอริสม่ากำลังพักอยู่ภายใน ร่างกายของเขา เขายังอยู่ในอาณาเขตของตระกูลของเขาและต้องการ ที่จะควบคุมตระกูลเมื่อเวลาสุกงอม "เธอต้องการทำงานกับข้าหรือ" เฮนน์ได้ยินข้อความของสติกม่าเช่นกัน แองเจเล่ปิดใช้งานแมงป่องคริสตัลเนื่องจากรู้ว่ามีข้อมูลเกี่ยวกับอริสม่า "มันควรจะเป็นปัญหาจริงๆถ้ายัยนั่นบอกว่าคนเหล่านั้นมีภูมิหลังที่ทรง พลัง...." เสียงของเฮนน์ฟังดูเคร่งเครียด "มันเร็วเกินไปที่จะคิดถึงเรื่องนีถ้าท่านต้องการให้ข้าต่อสู้เพื่อประโยชน ์ ของท่านข้าจะต้องเพิ่มระดับก่อน" แองเจเล่ปิดใช้งานรูนสื่อสาร "เจ้าได้พบกับเทคนิคการทำสมาธิขั้นสูงที่เหมาะสมกับเจ้าแล้ว ข้ามั่นใจ ว่าเจ้าสามารถก้าวไปถึงระดับที่สามได้ ระดับที่หนึ่งเป็นเรื่องยากที่ สุดแต่ระดับที่สองและสามค่อนข้างง่ายเพราะมีความช่วยเหลือของ เทคนิคการทำสมาธิของเจ้า จากนั้นสิ่งที่จะกลายเป็นเรื่องยากอีกครั้ง คือการที่เจ้าพยายามก้าวไปสู่ขั้นที่สี่แต่ตราบใดที่เจ้าสามารถก้าวหน้า ในเทคนิคแกนแม่น้ำมัลเท็นและมีเวลามากพอการเพิ่มระดับก็ไม่ใช่ ปัญหาสำหรับเจ้า" เฮนน์อธิบาย "กฎนี้ใช้ได้กับพ่อมดคนอื่นที่มีเทคนิคการทำสมาธิขั้นสูงด้วยหรือไม่" แองเจเล่ถาม "มันขึ้นอยู่กับทรัพยากรที่เจ้ามีและระดับพรสวรรค์ของเจ้า พ่อมดทั่วไป มักจะต้องใช้เวลาหนึ่งหรือสองร้อยปีก่อนที่พวกเขาจะสามารถเพิ่ ม ระดับได้ด้วยความช่วยเหลือของเทคนิคการทำสมาธิขั้นสูง เจ้าจะ สามารถเพิ่มระดับได้ค่อนข้างง่ายถ้าเจ้ารู้วิธีเชี่ยวชาญขั้นในแต่ละขั้น แต่ถ้าเจ้ามีปัญหาในการทำความเข้าใจและเชี่ยวชาญขั้นตอนหนึ่งของ เทคนิคมันก็จะอาจจะทำให้เจ้าติดอยู่ในขั้นนั้นตลอดไป" เฮนน์พูดต่อ "ดังนั้นมันจึงทำให้พ่อมดส่วนใหญ่ในทวีปกลางสามารถไปถึงระดับสอง ได้จากนั้นพวกเขาก็จะถือว่าเป็นหัวกะทิในองค์กรของพวกเขาใช่ไหม" แองเจเล่หรี่ตา "เจ้าพูดถูกแล้ว ทุกครั้งที่เจ้าล้มเหลวในการก้าวไปสู่ระดับต่อไปมันก็มี โอกาสที่เจ้าจะเสียร่างกายภาพของเจ้าและเจ้าก็จะต้องยอมแพ้มีพ่อ มดมากมายที่ตรงตามข้อกำหนดในการก้าวไปสู่ระดับต่อไปแต่กลัวเกิน ที่จะลอง ยังไงก็ตาม ข้าต้องการพักผ่อน ข้าได้เสียพลังจิตและ มานามากเกินไปในการปะทะครั้งที่ผ่านมา อย่ารบกวนข้าถ้าเจ้าไม่มี เรื่องสำคัญอะไร" ในไม่ช้าเฮนน์ก็หยุดพูดหลังจากที่เธออธิบาย แองเจเล่เปิดใช้งานแมงป่องคริสตัลอีกครั้งและเริ่มตรวจสอบความ คืบหน้าในการวิเคราะห์ของซีโร่ สาวใช้ได้เอาถ้วยที่มีชาร้อนและขนมหวานมาให้เขา ในเวลานั้นแองเจเล่ก็ตระหนักได้ว่าควรจะมีคนงานมากกว่านี้ใน คฤหาสน ์ "เดี๋ยวก่อน คนงานคนอื่นๆไปไหน พวกเขาควรจะมาที่นี่กับเจ้าใช่ไหม" แองเจเล่หยิบถ้วยชา "มีหลายคนที่ตายจากโรคระบาดในขณะที่ท่านไปและเราฝังพวกเขาไว้ ในป่า.....ท่านลิฟยังต้องบอกให้คนงานหลายคนออกไป" สาวใช้ตอบ "เราเป็นสาวใช้สองคนสุดท้ายที่เหลืออยู่" หญิงวัยรุ่นคนนี้มีอายุประมาณ 19 ปีเธอกำลังพูดเสียงสั่น ดูเหมือนว่า เธอกลัวที่จะพูดกับแองเจเล่ "โรคระบาดหรือ" แองเจเล่ไม่ได้รับข้อมูลใดๆเกี่ยวกับเหตุการณ์ดังกล่าว "แล้วทำไมเจ้ายังอยู่ที่นี่เจ้าก็รู้ว่าเจ้าอาจจะตายด้วยเช่นกัน" สาวใช้เปิดปาก ดูเหมือนว่าเธอมีความกล้ามากขึ้นเล็กน้อย "เราไม่มีที่ จะไป...." "ลิฟไม่สามารถรักษาโรคระบาดได้....." แองเจเล่หลับตาและถอนหายใจ "ตอนนี้เจ้าไปได้แล้ว พูดกับข้าทันทีถ้าเจ้ารู้สึกไม่สบาย" "ค่ะนายท่าน!" สาวใช้เพิ่มเสียงขึ้นเล็กน้อย แองเจเล่เป็นความหวัง สุดท้ายของเธอและเธอเชื่อว่าท่านพ่อมดคนนี้สามารถหยุดโรคระบาด ได้ถ้าเขาต้องการ เธอโค้งให้แองเจเล่และรีบออกจากห้องนั่งเล่ น แองเจเล่เอนหลังพิงกับโซฟาอีกครั้งและพักผ่อนสักครู่ เขาลุกขึ้นยื น หลังจากผ่านไปหลายนาทีและกลับไปที่ห้องของตัวเอง แอ๊ดด ประตูถูกเปิด แองเจเล่ก้าวเข้าไปในห้องและล็อคประตูด้วยการดีดนิ้วของเขามันก็ทำ ให้มีรูนสีดำประทับลงตรงกลางของประตูรูนดูเหมือนงูสีดำที่คดเคี้ยว ตอนที่335: เพิ่มระดับ (2) แปลนิยาย.วันศุกร์ ที่27 เมษายน 2018 อีกตอนลงประมาณบ่ายโมงนะครับส่วนของวันนี้ตอนแรกลงประมาณ สามทุ่ม แองเจเล่เอากล่องหยกสีขาวขนาดเล็กออกมา นี่เป็นกล่องห้วงเหวที่เขา พบในสวนเกลียว เขาเอื้อมไปหยิบกระบอกขนาดเล็กจากชั้นหนังสือภายในห้อง กระบอก ทำมาจากไม้ไผ่สีเหลือง ปึก แองเจเล่เอาผนึกออกและเห็นลูกบาศก์เวทมนต์หลากสีภายใน ลูกบาศก์รวมตัวกันและก่อตัวเป็นหัวของเด็กที่กำลังมองมาข้างนอก "ลูกบาศก์ราชินีคริสติน่าและกล่องห้วงเหว ตอนนี้ข้าสามารถสร้างวง เวทแปลงพลังงานได้แล้ว...." มีสูตรที่ซับซ้อนแสดงอยู่ข้างหน้าสายตา ของแองเจเล่ ในขณะเดียวกันซีโร่ก็ยังจำลองวิธีการที่เหมาะสมที่สุดใน การสร้างวงเวท เฮนน์ได้ส่งข้อมูลที่จำเป็นทั้งหมดที่เกี่ยวกับวงเวทมาให้เขาแล้ว ไม่มี เหตุผลใดที่เขาจะต้องฝึกเทคนิคหน้ากากปีกทมิฬอีกต่อไป เฮนน์ได้ ตัดสินใจที่จะช่วยเขาฝึกเทคนิคแกนแม่น้ำมัลเท็น เด็กที่ก่อตัวจากลูกบาศก์ค่อยๆปีนออกมาจากกระบอกไม้ไผ่และปีนขึ้ น ไปบนมือของแองเจเล่ หลังจากคิดชั่วครู่แองเจเล่ก็วางเด็กไว้ในฝ่ามือขวาของเขาอย่าง ระมัดระวังแล้วปกคลุมไว้ด้วยชั้นโลหะบางๆ เขารวบรวมวัสดุที่จำเป็นทั้งหมดและเริ่มเตรียมสร้างวงเวท เขาได้ ตัดสินใจที่จะเพิ่มระดับก่อนที่จะทำอย่างอื่ น **************************** มันใช้เวลาประมาณครึ่งปีเพื่อเตรียมการทั้งหมดรวมถึงการทำยาอีก หลายชนิ ด ในขณะเดียวกันทหารรับจ้างเงาของหอคอยพ่อมดมืดก็ได้ถูกส่งมาหา เขาแล้วและมาถึงเมื่อหลายเดือนก่อน มันเป็นตัวตนที่ผิดปกติในหมอก สีดำและดูเหมือนเงาที่น่ากลัวที่มีคู่ดวงตาเรืองแสงสีแดง ในทางเทคนิคแล้วทหารรับจ้างเงาไม่มีดวงวิญญาณ อย่างไรก็ตามแอง เจเล่ต้องทำให้แน่ใจว่าไม่ได้ถูกส่งมาหาเขาในฐานะสายลับขององค์กร เขาสามารถสั่งทหารรับจ้างเงาได้โดยใช้แหวนที่เก็บคะแนนภารกิจของ เขา แองเจเล่พยายามที่จะทำลายสิ่งมีชีวิตนี้ด้วยทุกวิถีทางแต่มันก็ยัง ไม่ได้ผล สิ่งมีชีวิตนี้ดูเหมือนว่าจะอยู่ในระดับที่สูงกว่าเขา สิ่งสำคัญที่สุดคือทหารรับจ้างเงาจะเปิดเผยตัวเองต่อแองเจเล่เท่านั้น ในขณะที่คนอื่นๆรวมถึงลินไม่สามารถมองเห็นมันได้เลย วันที่เขาอาศัยอยู่ในคฤหาสน์นั้นมีเรื่องมากมายแต่มันก็สงบสุข เขา บอกให้ลินซื้อข่ายเวทมนต์ที่แข็งแกร่งที่สุดที่เธอสามารถหาได้จาก ตลาดสาธารณะเนื่องจากเขาจำเป็นต้องต่อสู้กับด้วงดำที่อยู่ในดินแดน ฝันร้าย เขาเลือกที่จะก้าวไปสู่ระดับต่อไปเมื่อเขาอยู่ในดินแดนฝันร้ายเพื่อเก็บ วิธีของเขาให้เป็นความลับ แองเจเล่อยากจะทดสอบว่ามันมีโอกาส เป็นไปได้ไหมที่สายเลือดโบราณที่เขาครอบครองจะกลายพันธุ์ถ้าเขา ประสบความสำเร็จในการก้าวไปสู่ระดับที่สองในดินแดนฝันร้าย ***************************** มันเป็นเวลากลางคืน พื้นผิวของพื้นสะท้อนแสงจันทร์สีขาวซีด แองเจเล่นั่งอยู่บนโต๊ะโดยไม่ได้ส่งเสียงใดๆกำลังตรวจสอบของที่ไม่รู้จั ก สามอย่างโดยใช้แว่นขยาย ของทั้งสามอย่างนี้ถูกวางไว้บนโต๊ะ มีสายรัดข้อมือที่มีลาย แผ่นไม้ที่ปก คลุมไปด้วยรากสีเขียวขนาดเล็กและจานสีดำที่ปกคลุมไปด้วยจุดสีขาว ขนาดเล็กเรียงจากซ้ายไปขวาตามลำดับ "นี่คือข่ายเวทมนต์โจมตีและป้องกันที่ดีที่สุดที่ข้าสามารถซื้อได้ในเมือง ใกล้ๆ ข้าสามารถออกแบบข่ายได้ด้วยตัวเองแต่ข้าไม่มีความรู้ในอาชีพ ที่เพียงพอ" แองเจเล่วางแว่นขยายลงและถอนหายใจ สายรัดข้อมือเป็นข่ายกระเพื่อม แผ่นไม้เป็นข่ายบิดเบือนและจานเป็น ข่ายเสียงแสง ข่ายกระเพื่อมและข่ายบิดเบือนมักจะถูกใช้เพื่อสร้างความเสียหาย ให้กับเป้าหมายในขณะที่ข่ายเสียงแสงถูกใช้สำหรับการป้องกันพื้นที่ และสแกน ข่ายเวทมนต์ทั้งสามได้ถูกปรับปรุงด้วยพ่อมดนับไม่ถ้วนทำให้เส้น พลังงานและโครงสร้างอักษรรูนเกือบจะสมบูรณ์แบบ แองเจเล่สามารถหาข่ายเวทมนต์ที่ทรงพลังกว่าสิ่งที่เขามีตอนนี้ได้ถ้า เขาติดต่อหอคอยพ่อมดมืดหรือวิเวียน แต่นั่นก็จะเป็นการฆ่าด้วงดำใน ดินแดนนั้นมากเกินไป นอกจากนี้เขาอยากดูว่าเขาสามารถสร้างข่าย เวทมนต์ระดับต่ำด้วยตัวเองได้หรือไม่ แองเจเล่ไม่ได้พึ่งพาวิเวียนมากนักเพราะเขาไม่ได้เป็นลูกชายที่แท้จริ ง ของเธอและไม่แน่ใจว่าจะเกิดอะไรขึ้นถ้าวิเวียนพบความจริงในสักวัน หนึ่ง เขาต้องการที่จะเรียนรู้ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้เพื่อที่เขาจะได้ สามารถแก้ไขและปรับปรุงข่ายเวทมนต์ให้เหมาะสมกับการใช้งานของ เขาได้มากที่สุ ด ในไม่ช้าแองเจเล่ก็เสร็จสิ้นการตรวจสอบวัสดุและข่ายเวทมนต ์ จากนั้นเขาก็เอากล่องหยกสีขาวขนาดเล็กออกมาจากถุงกระเป๋าและ จับไว้ในมือแน่น "ทุกสิ่งทุกอย่างได้เตรียมพร้อมแล้ว ถึงเวลาที่จะเริ่มขั้นตอนสุดท้าย" แองเจเล่ห่อหุ้มของทั้งหมดด้วยของเหลวสีเงิน เขาแตะเบาๆไปที่ตรงกลางของหน้าอกของเขาด้วยมือ ชี่ มีลำแสงสีแดงออกมาจากตราและร่างกายของเขาก็หายไปจากห้อง *********************** ดินแดนฝันร้าย มีหมอกสีแดงเข้มลอยอยู่ในอากาศ ด้านขวาของโต๊ะสีดำในห้องศึกษามีร่างกายภาพของแองเจเล่ที่กำลัง เสถียรอย่างช้าๆ เขาลืมตาและมองไปรอบๆ คฤหาสน์เงียบสนิท เขาไม่ได้ยินเสียงใดๆ ของด้วงจากข้างนอก แองเจเล่หยิบของทั้งหมดที่เขาต้องการขึ้นก่อนที่ จะเปิดประตู เขาเห็นทางเดินที่คุ้นเคยอีกครั้งและเขาเป็นมนุษย์เพียงคนเดียวใน อาคาร พื้นสีขาวของทางเดินปกคลุมไปด้วยฝุ่นสีดำราวกับว่าไม่มีใครมา เหยียบมัน ในไม่ช้าแองเจเล่ก็เดินไปสุดทางเดินและลงบันได มีพรมสีแดงใน ห้องนั่งเล่นทรุดโทรม ประตูหลักมันเปิดปิดอย่างต่อเนื่องท่ามกลางลมแรง คริสตัลเรืองแสงส่วนใหญ่ในห้องได้แตก แองเจเล่ใช้เทคนิคย่องเบาและเดินไปที่ตรงกลางของห้องจากนั้นเขาก ็ ค่อยๆเอาข่ายเวทมนต์ทั้งสามออกมา เขาจับจานสีดำในมือและกดมันลงบนพรมสีแดง ข่ายเสียงแสงได้ถูกล้อมรอบไปด้วยแสงสีขาวแต่มันก็ไม่ได้ทำให้เกิ ด เสียงใดๆ แสงสีขาวเริ่มขยายหลังจากที่ผ่านไปหลายวินาทีและแสดง วงกลมขนาดใหญ่บนพื้น มีบางสิ่งบางอย่างเริ่มออกมาจากตรงกลางของวงกลม ประมาณหนึ่งนาทีต่อมาก็มีเสาสีดำสูงประมาณหนึ่งเมตรตั้งอยู่ ข้างหน้าแองเจเล่มีแผนที่ขนาดเล็กอยู่ด้านบนสุด โครงสร้างของอาคาร ถูกวาดไว้อย่างชัดเจนบนแผนที่และยังมีพื้นที่นอกรั้วที่อยู่ภายในระยะ ไม่มีสิ่งใดอยู่รอบๆอาคารหลักแต่มีจุดสีแดงนับไม่ถ้วนกำลังขยับนอกรั้ว ที่มุมขวาบนสุดของแผนที่มีลายเซ็นของคนที่ชื่อแองจี้ที่เป็นพ่อมดที่ สร้างข่ายเวทมนต์นี แองเจเล่มองไปที่ป่าสีดำข้างนอกก่อนที่จะใส่หินเวทมนต์คุณภาพสูง เข้าไปในเสาหิน แค๊รก มันมีเสียงเหมือนไข่แตก บาเรียพลังงานโปร่งใสได้ปรากฏขึ้นรอบๆคฤหาสน ์ บาเรียพลังงานล้อมรอบทั้งคฤหาสน์รวมถึงรั้ว ทันใดนั้นเขาก็ได้ยินเสียงที่เกิดจากด้วงที่กำลังขยับมาทางคฤหาสน์จาก ทุกทิศทุกทาง การแสดงออกของแองเจเล่เริ่มตื่นตระหนกและเขาก็รีบตั้งข่ายเวทมนต ์ อีกสองตั ว ช่า ข่ายโจมตีได้ทำให้เกิดเสียงดัง มีเสาหินอีกสองต้นเริ่มออกมาจากพื้นดิน ติ๊ง ด้วงสีดำตัวหนึ่งได้ปะทะกับบาเรียพลังงานจากข่ายเสียงแสงอย่างแรง ติ๊ง ติ๊ง ติ๊ง ติ๊งมี ด้วงมากขึ้นเริ่มปะทะกับบาเรียพลังงาน แต่มันดูเหมือนว่าข่ายเวทมนต์แข็งแกร่งพอที่จะรับความเสียหายที่เกิด จากด้วง แองเจเล่ตรวจสอบแผนที่บนเสาหินต้นแรกอีกครั้ง มันยังต้องใช้เวลาอี ก สักพักเพื่อให้ข่ายเวทมนต์อีกสองตัวเปิดใช้งาน มีแถบขนาดเล็กอยู่ บนสุดของแผนที่ ความยาวของแถบสีขาวค่อยๆลดลงและมันก็แสดงปริมาณพลังงานที่ เหลืออยู่ในหินเวทมนต์คุณภาพสูง พลังงานของหินเวทมนต์จะถูกใช้หมดอย่างสิ้นเชิงถ้าแถบหายไป "ประมาณสิบนาทีหินเวทมนต์หนึ่งก้อนสามารถสนับสนุนข่ายนี้สิบ นาที" แองเจเล่ทำการคำนวณอย่างรวดเร็วโดยใช้ชิป ช่า ช่า แผงควบคุมของข่ายบิดเบือนและข่ายกระเพื่อมถูกเปิดใช้งานอย่าง สมบูรณ์ แองเจเล่เอาหินเวทมนต์ออกมาอีกสองก้อนและกดมันลงไปในแผง ควบคุม เขารีบตั้งพื้นที่และความแรงของข่ายเวทมนต์โจมตีสองตัว วู้ดด ภายใต้ท้องฟ้ายามคํ่าคืนของดินแดนโลกฝันร้ายได้มีคลื่นพลังงานถู ก ปลดปล่อยออกมาจากอาคารหลักของคฤหาสน ์ คลื่นพลังงานได้ขยายตัวไปอย่างช้าๆเหมือนคลื่นน้ำ ด้วงทั้งหมดที่สัมผัสกับคลื่นได้ชะลอตัวลงและร่างกายของพวกมันก็เริ่ ม เรืองแสง มีเถาวัลย์สีเขียวนับไม่ถ้วนได้กำลังโตรอบคฤหาสน ์มันได้มีร่างออกมา จากโคลนแล้วปีนขึ้นไปบนร่างกายของด้วงดำ เถาวัลย์บางเส้นได้ถูกฟันที่แหลมคมของพวกมัน ถึงกระนั้นเถาวัลย์ก็ยัง สามารถฆ่าด้วงมากมาย มีด้วงดำจำนวนมากถูกขัดขวางโดยคลื่นพลังงานและเถาวัลย์สีเขียว ในไม่ช้าศพก็กลายเป็นบ่อกรดแล้วมีบางส่วนกระเด็นไปโดนบาเรีย พลังงาน แองเจเล่กำลังยืนอยู่ข้างหน้าเสาหินสามต้นเพื่อตรวจสอบข้อมูลที่แสดง บนแผงควบคุม แถบของข่ายเสียงแสงเกือบจะหยุดลดลงแต่อีกสองแถบก็ยังลดลงใน อัตราที่รวดเร็ว อย่างไรก็ตามพลังงานที่ถูกใช้ของข่ายเวทมนต์ทั้งสามก็ลดช้าลง หลังจากที่ผ่านไปประมาณสิบนาทีดูเหมือนว่าคลื่นแรกของด้วงได้ถูก กวาดล้างหรือติดอยู่ แองเจเล่ยังคงสงบในขณะที่เขาก้าวออกไปจากประตูและเดินไปที่รั้ว เขาสำรวจสถานการณ์นอกบาเรีย ด้วงดำนับไม่ถ้วนได้ช้าลงหรือไม่ก็ติดอยู่ในเถาวัลย์สีเขียว แม้ว่าจะมี ด้วงมากขึ้นที่ออกมาจากความมืดแต่ข่ายโจมตีทั้งสองก็ยังทำงานได้ดี คลื่นน้ำแข็งจากข่ายกระเพื่อมได้ทำให้ด้วงบาดเจ็บอย่างต่อเนื่องแล้ ว มันก็ติดอยู่ในเถาวัลย ์มีด้วงถูกฆ่าตายมากกว่าด้วงที่เคลื่อนที่ออกมา จากความมืดที่อยู่อีกฟากหนึ่ ง ความกลมกลืนที่ผิดปกติได้เกิดขึ้นในสนามรบ "เยี่ยม ถ้าทุกสิ่งทุกอย่างเป็นไปตามแผนอย่างน้อยภายในสามวันข้าก ็ ควรจะไม่เป็นไร" แองเจเล่พอใจกับผลลัพธ ์ จากนั้นด้วยการสะบัดนิ้วของเขาก็มีเปลวไฟสีแดงถูกโยนออกไปนอก บาเรียและตกลงบนบ่อกรด ฟู่ บ่อกรดได้ลุกไหม้แต่ด้วงก็ไม่ได้รับผลกระทบจากฉากนี้ พวกมันยังคง เคลื่อนที่ผ่านเปลวไฟโดยไม่ได้รับความเสียหายใดๆ แองเจเล่เอากล่องห้วงเหวและลูกบาศก์ราชินีคริสติน่าออกมาและเริ่ม วาดรูนบนพื้นที่อยู่ภายในขอบเขตของบาเรียพลังงาน เมื่อวงเวทแปลงพลังงานสมบูรณ์ เปลวไฟจากบ่อกรดก็แปลงเป็นพลั ง จิตของเขาโดยตรง นี่เป็นหน้าที่ที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดของวงเวทลับ ที่ได้รับการออกแบบจากเฮนน ์อัตราความคืบหน้าของเขาในเทคนิค แกนแม่น้ำมัลเท็นเร่งขึ้นอย่างมาก อีกไม่กี่นาทีต่อมาก็มีบาเรียพลังงานเรืองแสงสีแดงภายในบาเรี ย พลังงานป้องกัน แสงสีแดงได้ส่องลงบนใบหน้าของแองเจเล่ ตอนที่336: ร่างที่สอง (1) แปลนิยาย.วันศุกร์ ที่27 เมษายน 2018 ภายใต้ท้องฟ้าสีน้ำเงินได้มีแสงสีทองส่องลงบนเมฆบาง มีเรือเหาะสีดำกำลังเดินทางอยู่ท่ามกลางเมฆในท้องฟ้า ศูนย์ควบคุมของเรือเหาะอยู่ที่ปลายสุดของเรือ มันเป็นห้องขนาด ธรรมดาที่มองเห็นได้ในวิสัยทัศน์ที่ตํ่าเนื่องจากแสงไม่พอ มีผู้หญิงสวมชุดสีแดงเข้มกำลังยืนอยู่ข้างหน้าแผงควบคุมที่กำลังส่อง แสง มือของเธอเคลื่อนที่ไปรอบๆผิวของมัน ผนังของศูนย์ควบคุมถูกฝังคริสตัลเรืองแสงสีขาว แสงที่อ่อนโยนได้ส่อง ลงบนร่างกายของเธอ ชี่ มีภาพโปร่งใสของมนุษย์ปรากฏขึ้นข้างแผงควบคุ ม มันเป็นหญิงหัวล้านที่กำลังสวมชุดสีดำแน่น "เจ้าเมืองของเมืองพันน้ำตกกำลังรวบรวมกองทัพของพวกเขาที่แม่น้ำ เอนา ดูเหมือนพสุธาทมิฬกระหายที่จะทำสงครามกับเราเช่นกัน" หญิง หัวดูไม่สะทกสะท้าน "เราได้มอบความพ่ายแพ้แก่เจ้าเมืองในการต่อสู้ที่ผ่านมาดังนั้นพวกเขา ควรที่จะฟื้นตัวจากความเสียหาย ปัญหาคือสิ่งประดิษฐ์เวทมนต์ของ เมืองของพวกเขาที่สามารถปิดกั้นได้เราได้สักพัก แต่สิ่งที่ข้าไม่เข้าใจคื อ เหตุผลที่พวกเขาตัดสินใจที่จะชุมนุมกันที่แม่น้ำ...." วิเวียนฟังดูแปลกใจ "พสุธาทมิฬได้เรียกกองทัพดินที่นำโดยรัมเพ็ตโต้ผู้เรียกขานศิลาหรือไม่ " "ไม่ มันเป็นกองทัพสายฟ้า" หญิงหัวล้านตอบทันที "มันแปลกมาก กองทัพดินควรจะเป็นกองทัพที่แข็งแกร่งที่สุดของพวก เขา พวกเขาจะต้องลืมไปแล้วว่าข้าได้ทำลายอัศวินอากาศของพวกเขา เมื่อหลายปีก่อน....พวกเขาไม่สามารถทำอะไรเราได้ถ้ามันเป็นกองทัพ สายฟ้า..." มีรอยยิ้มที่มั่นใจบนใบหน้าของวิเวียน ทันใดนั้นวิเวียนก็ตรวจพบการเคลื่อนไหวด้านหน้า มีสายสีดำปรากฏขึ้นหนึ่งเมตรข้างหน้าของใบหน้าของเธอและพุ่งมาที่ หน้าผากของเธอด้วยความเร็วที่เหมือนสายฟ้า "อีกแล้วหรือ" วิเวียนยกมือขึ้นและปลดปล่อยลำแสงสีแดงเพื่อปิดกั้น การโจมตีที่กำลังใกล้เข้ามา ชี่ สายสีดำได้หายไปหลังจากที่มันสัมผัสกับแสงสีแดง แต่ในขณะเดียวกันก็มีมือโปร่งใสปรากฏข้างหลังเพื่อจับคอของเธอ ตู้มม มีลำแสงสีแดงอีกเส้นปลดปล่อยออกมาจากมือของเธอ มือโปร่งใสได้ถูกแสงทำลาย โฮกก มีเสียงคำรามของสัตว์อสูรดังอยู่ไม่ไกลจากตำแหน่งของพวกเธอ มื อ โปร่งใสได้แตกเป็นชิ้นๆและในไม่ช้าก็หายไปในอากาศ วิเวียนหันไปรอบๆ ตอนนี้ใบหน้าของเธอมีสีหน้าเย็นชา "มีสายลับอยู่ในเรือเหาะของเรา ตรวจสอบตัวตนของทุกคนทันที!" "เข้าใจแล้วค่ะ!" หญิงหัวล้านพยักหน้าและหายตัวไป ดูเหมือนเธอจะ เคยชินฉากลอบสังหาร ภายในศูนย์ควบคุม วิเวียนหันไปและเริ่มแก้ไขแผงควบคุมอีกครั้งใน ขณะที่มองไปที่แผนที่ที่สแกนภูมิประเทศที่อยู่ใกล้ๆเรือเหาะ หลังจากนั้นไม่นานเธอก็เงยหน้าและมองไปที่ท้องฟ้าที่ไม่มีที่สิ้นสุด "เขากำลังมา....จัสติน ยักษ์พายุ...." สถานการณ์แย่ลงเรื่อยๆ กองทัพของวิเวียนเป็นเป้าหมายของสามศัตรู ที่แตกต่างกัน แม้ว่าเธอจะมั่นใจในชัยชนะในการสู้รบที่กำลังจะเกิดขึ้น แต่เธอก็ไม่มั่นใจว่าจะมีกำลังคนเพียงพอที่จะทำสงครามหรือไม่ เจ้าเมืองกำลังรวบรวมกองทัพของพวกเขาในขณะที่ยักษ์พายุเป็นพ่อ มดระดับสี่ที่รู้จักกันดีจัสตินก็เทียบได้กับวิเวียนในแง่ระดับทักษะของ พวกเขาและกองทัพของเขาก็ได้รับการฝึกเป็นอย่างดี ปัญหาที่ใหญ่ที่สุดคือรัมเพ็ตโต้ผู้เรียกขานศิลาส่วนตัวกองทัพดินไม่ใช่ ปัญหาใหญ่วิเวียนเป็นผู้อาวุโสที่ทรงพลังเป็นอันดับที่สองของหัตถ์ธาตุ และแทบจะไม่เคยแพ้การต่อสู้ ตำแหน่งของผู้อาวุโสในสภาไม่ได้ถูกกำหนดโดยระดับทักษะของพวก เขา มันเป็นสืบทอดทางกรรมพันธุ์ของผู้อาวุโสทุกคนที่จะเข้ารั บ ตำแหน่งเมื่อพวกเขาถอนตัวหรือเสียชีวิต แกนแม่น้ำมัลเท็นถูกส่งผ่าน มาให้วิเวียน เรื่องเดียวกันจะเกิดขึ้นกับวงเวทแรงโน้มถ่วงที่ได้รับการ ปรับปรุงอย่างต่อเนื่องตลอดหลายปีจากรุ่นก่อนหน้าของเธอที่เป็นผู้ อาวุโสสาม นี่เป็นวงเวทที่ทรงพลังที่สุดที่สามารถช่วยในการเพิ่มพลั ง โดยรวมของแกนแม่น้ำมัลเท็น ถ้าปราศจากมันพลังของเธอก็จะลดลง อย่างมาก ในทำนองเดียวกันผู้อาวุโสคนอื่นๆที่เป็นผู้สืบทอดก็สืบทอดเทคนิคการ ทำสมาธิขั้นสูงและความสามารถพิเศษ วิเวียนคิดชั่วครู่ด้วยความรู้สึกกระวนกระวายใจ 'สถานการณ์ของหัตถ ์ ธาตุกำลังแย่ลง สิ่งที่ดีคือพสุธาทมิฬไม่ได้เล็งเป้าไปที่แองเจเล่ เขาควร จะไม่เป็นไร' แองเจเล่ยังคงได้รับความช่วยเหลือจากเฮนน์แต่เธอก็ยังต้องการเวลา มากพอที่จะฟื้นฟูพลังจิตของเธอ พ่อมดทั่วไปไม่สามารถรับมือกับการ โจมตีของเธอได้ นอกเหนือจากนั้นวิเวียนได้ส่งกองกำลังพิเศษคอยลาดตระเวนรอบๆ คฤหาสน์โดยที่เธอไม่ได้บอกแองเจเล่ ********************************* ดินแดนฝันร้าย คฤหาสน์ริมแม่น้ำ คฤหาสน์ถูกปกป้องโดยโล่พลังงานโปร่งใส โล่ดูคล้ายกับโดมแก้วซึ่ ง สะท้อนภาพของต้นไม้รอบๆ คลื่นพลังงานได้แผ่กระจายไปทุกมุม เถาวัลย์สีเขียวได้เติบโตขึ้นอย่าง รวดเร็วเพื่อล้อมรอบทั้งคฤหาสน ์ เมื่อรุ่งอรุณมาถึงด้วงดำก็เริ่มหนีไปเนื่องจากพวกมันกลัวแสง มีลูกแสงสีแดงทรงระฆังอยู่บนพื้น มันกำลังกะพริบเป็นจังหวะราวกับว่ามันกำลังหายใจ แต่เมื่อเวลาผ่านไปผิวของมันก็เริ่มโปร่งใส หลังจากผ่านไปประมาณสิบนาทีมันก็มันก็หายไปหมดทำให้เห็นคนที่ กำลังยืนอยู่ภายใน ผมสั้นสีน้ำตาล ผิวสีเงินและร่างที่มีกล้ามเนื้ อ มันเป็นแองเจเล่ที่อยู่ภายในลูกบอลเป็นเวลาสามวัน เขาค่อยๆลืมตาและตรวจสอบร่างกายของเขา รูปลักษณ์ของเขาดูเหมือนจะเปลี่ยนไปเล็กน้อยและมันดูเหมือนว่าเขา จะหล่อมากขึ้นกว่าเดิม "วงเวทมีประสิทธิภาพมากกว่าที่ข้าคิดไว้" ด้วยการสะบัดนิ้วของเขา โลหะเงินก็ก่อตัวเป็นเสื้อสีขาวและกางเกงสีขาวบนร่างกายของเขา มีแถบสีแดงเข้มบนแขนขวาของเขา ผิวของแถบปกคลุมไปด้วยรูนที่ซับซ้อน กล่องห้วงเหวและลูกบาศก ์ ราชินีคริสติน่าได้หายไปจากพื้นแล้ว มันได้ก่อตัวเป็นปลอกแขนโลหะนี "เฮนน์บอกวิธีสร้างสิ่งนี้กับข้า ตอนนี้ข้าสามารถดูดซับเปลวไฟจากด้วง ได้ดีขึ้น" แองเจเล่จับปลอกแขนขวาเบาๆ "แต่มีบางอย่างไม่ถูกต้อง พลังจิตของข้าเพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อย" แองเจเล่ รู้ว่าเขาเกือบจะเชี่ยวชาญขั้นที่สามแล้ว เขาฝึกฝนกระบวนการแกะสลักของวงเวทในขณะที่เขาดูดซับเปลวไฟ หลังจากเสร็จสิ้นขั้นที่สองของแกนแม่น้ำมัลเท็นเขาก็ต้องเชี่ยวชาญวง เวทและเทคนิคการแกะสลักรูนเพื่อก้าวหน้าไปสู่ระดับต่อไป แองเจเล่ยืนคิดอยู่ที่นั่นสักครู่แต่เขาก็ยังไม่แน่ใจว่าอัตราการดูดซับเปลว ไฟของเขาปกติหรือไม่ในอัตรานี้มันจะทำให้เขาต้องใช้เวลาประมาณ หนึ่งชั่วโมงในการเชี่ยวชาญขั้นที่สามอย่างสมบูรณ์แล้วเขาก็จะเป็นพ่อ มดระดับสอง เขาหายใจเข้าลึกๆและหันกลับไปแล้วเดินไปที่อาคารหลักของคฤหาสน ์ หินเวทมนต์ที่ใช้สนับสนุนพลังงานข่ายต้องเปลี่ยน เขาต้องกลับไปที่ โลกจริงเพื่อดูว่าทุกสิ่งทุกอย่างปกติดีหรือไม่ คฤหาสน์ในดินแดนฝันร้ายค่อนข้างปลอดภัยเนื่องจากด้วงไม่สามารถ ทำอะไรกับเขาได้แองเจเล่สามารถเข้าสู่ดินแดนนี้ได้ถ้าคฤหาสน์ในโลก จริงถูกบุกรุกโดยศัตรู ด้วยข่ายเวทมนต์ป้องกันและโจมตีด้วงดำก็ไม่ได้เป็นภัยคุกคามแก่เขา อีกต่อไป ปัญหาเดียวคือถ้าคลื่นพลังจิตของฝ่ายตรงข้ามแข็งแกร่ง เกินไปเขาก็จะไม่สามารถเขาดินแดนนี้ได้ทันที แองเจเล่ยังคงจัดหาอาหารและน้ำให้เพียงพอในดินแดนฝันร้าย วิธีสกัด สายเลือดและดินแดนฝันร้ายเป็นสองความลับที่ใหญ่ที่สุดของเขาใน ขณะนี เขาได้ใช้เวลาส่วนใหญ่ในดินแดนฝันร้ายเป็นอาทิตย ์ แองเจเล่พักในตอนกลางวันและฆ่าด้วงดำนับไม่ถ้วนในตอนกลางคืน เปลวไฟที่สร้างโดยการเผาไหม้ด้วงดำที่ตายได้ถูกดูดกลืนเข้าไปในลู ก พลังงานโดยปลอกแขน จากนั้นพลังงานก็เปลี่ยนเป็นพลังจิตไฟที่แกน แม่น้ำมัลเท็นต้องการ แองเจเล่ต้องผสมอนุภาคพลังงานไฟกับพลังจิตของเขาให้เร็วที่สุดเท่าที่ จะทำได้ เขาไม่เคยก้าวออกจากคฤหาสน์ในดินแดนฝันร้าย เขาตัดสินใจที่จะ ก้าวไปสู่ระดับต่อไปก่อนที่จะทำอย่างอื่นหลังจากที่ได้ปะทะในงานเลี้ยง อาหารค่ำ ***************************** สิบวันต่อมา... ดินแดนฝันร้าย ภายในคฤหาสน ์ ตู้มมมม หน้าต่างบนชั้นสองถูกเป่าเป็นชิ้นๆ กระจกที่แตกได้ตกลงไปที่ทุ่งหญ้าเหมือนฝนตก แองเจเล่ยื่นหัวออกจากหน้าต่างและไอหลายครั้ง มีน้ำตาในดวงตาของเขาแต่มีรอยยิ้มบนใบหน้าของเขา เครื่องหมายแมงป่องบนหน้าผากของเขาเป็นสีแดงเข้มเหมือนเลือดสด ควันสีขาวค่อยๆออกจากห้องผ่านหน้าต่างที่พัง หลังจากควันหนาได้ลอยออกไปแองเจเล่ก็หันไปมองตรงกลางห้อง มีวงเวทที่ซับซ้อนบนพื้นที่มันรวมทั้งรูนและดาวหกแฉก มีรูนสามตัวที่ ใหญ่ที่สุดเหมือนดวงอาทิตย ์ดวงจันทร์และดวงดาว รูนเล็กๆนับไม่ถ้วนและเส้นที่ซับซ้อนได้ล้อมรอบรูนสามตัวหลัก มีนกสีแดงขนาดเล็กบินใกล้ๆตรงกลางของวงเวท นกตัวนั้นห่อหุ้มด้วยเปลวไฟและหางของมันก็กำลังเรืองแสง มันดู เหมือนห่านป่ากลายพันธุ์แต่มีขนาดเล็กกว่า แองเจเล่สังเกตนกที่กำลังบินอย่างถี่ถ้วน นกมีขนาดพอๆกับฝ่ามือของเขา ขนของมัน เล็บและดวงตาห่อหุ้มด้วย เปลวไฟสีทอง บางครั้งมันก็พ่นเปลวไฟออกจากปากของมั น แองเจเล่รู้สึกสับสน มันเป็นเขาหรือเทคนิคการทำสมาธิขั้นสูงที่ตัดสินใจ รูปลักษณ์ของร่างที่สองของเขา ตามหนังสือของแกนแม่น้ำมัลเท็นรูปลักษณ์ของร่างที่สองจะขึ้นอยู่กับ บุคลิกภาพของเจ้าของและคุณสมบัติของดวงวิญญาณของพวกเขา 'นกตัวนี้ดูคุ้นเคย....' แองเจเล่ตั้งข้อสังเกตในใจหลังจากที่สังเกตนกสั ก พักหนึ่ง ตอนนี้เขารู้สึกตื่นเต้นมาก แองเจเล่สามารถควบคุมสิ่งมีชีวิตที่สวยงามและลึกลับโดยใช้ความคิด ของเขาและถ้าเขาไม่ได้สั่งมันนกก็เพียงแค่บินรอบๆเขา ตอนที่337: ร่างที่สอง (2) แปลนิยาย.วันศุกร์ ที่27 เมษายน 2018 อีกตอนลงเช้านะครับ แองเจเล่จะรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งถ้าหากสมมุติฐานของเขาถูกต้อง มีแสงสีน้ำเงินในดวงตาของเขา 'ซีโร่ สร้างงาน ตรวจสอบว่าสามารถค้นหาชื่อของสิ่งมีชีวิตข้างหน้าข้า จากฐานข้อมูลได้หรือไม่ ' [สร้างงาน......กำลังตรวจสอบ......พบข้อมูล.....กำลังจับคู่ลักษณะ..... เสร็จสมบูรณ์...มีความเป็นไปได้สองชื่อ] 'แสดงชื่อให้ข้าดู ' แองเจเล่รู้สึกตื่นเต้นกับการที่ก้าวไปสู่ระดับต่อไปแต่ ปัจจุบันเขาสนใจร่างที่สองของเขามากกว่า ซีโร่ไม่ได้ตอบทันที ด้วยเหตุบางอย่างชิปจึงถูกทำให้ล่าช้ า [คำเตือน....การโหลดล้มเหลว......กำลังตรวจสอบ.....กำลังค้นหา ข้อผิดพลาด.....พบบัคที่ไม่รู้จัก.......เริ่มอัพเดทระบบ....] มันเป็นข้อความเตือนที่คุ้นเคย ทุกครั้งที่ชิปพบการอัพเดทใหม่ข้อความ ก็จะปรากฏขึ้นมา แองเจเล่ได้ก้าวไปสู่ระดับที่สองแล้วและประสบความสำเร็จในการ ผสานพลังจิตกับธาตุดังนั้นชิปจึงเริ่มอัพเดทใหม่สถานการณ์ในครั้งนี้ แตกต่างไปเล็กน้อย โดยปกติจะใช้เวลาเพียงไม่กี่วินาทีเพื่อให้ซีโร่ อัพเดทเสร็จสมบูรณ ์ ในไม่ช้าสภาพร่างกายของเขาก็ถูกแสดงอยู่ข้างหน้าสายตาของเขา [แองเจเล่ ริโอ: ความแข็งแกร่ ง 12.0 ความว่องไว 11.5 ความอึด 16.0 พลังจิต 123.7 มานา 57.2 ถึงขีดจำกัดของยีนแล้ว สุขภาพดี] พลังจิตของแองเจเล่เพิ่มขึ้นอย่างมากจากประมาณ 90 หน่วยเป็น 123 หน่วยผ่านการใช้วงเวทแปลงพลังงาน ข้อเสียเปรียบเพียงประการเดียวของการผสานพลังจิตกับอนุภาค พลังงานไฟของเขาคือเขาไม่สามารถใช้คาถาธาตุประเภทอื่นได้ นอกเหนือจากประเภทไฟหรือเขาต้องค้นพบวิธีผสานคาถากับอนุภาค พลังงานไฟ แต่กระนั้นพลังของคาถาประเภทไฟและขอบเขตของมันจะ เพิ่มขึ้นอย่างมาก เขายังสามารถเปิดใช้งานตราสายเลือดได้ตลอดเวลาเนื่องจากมันไม่ได้ ผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงของพลังจิตของเขา แองเจเล่เริ่มสังเกตนกที่กำลังบินไปรอบๆวงเวทตรงกลางในขณะที่เขา รอระบบอัพเดทเสร็จสิ้น เขากำลังพยายามเปรียบเทียบกับสิ่งมีชีวิตที่ เขารู้จัก "มันดูคล้ายกับฟีนิกซ์...." นี่เป็นความรู้สึกแรกของเขา ตัวเทคนิคแกนแม่น้ำมัลเท็นจะก่อร่างที่สองของเขาตามรูปแบบดวง วิญญาณและบุคลิกภาพของเขา กล่าวได้ว่านกมีลักษณะคล้ายคลึงกับบรรพบุรุษของแองเจเล่ มันไม่ได้ เป็นเพียงแค่ร่างที่สองที่สร้างจากเทคนิคการทำสมาธิขั้นสูง แม่ของแองเจเล่ถูกกล่าวว่าเป็นเอลฟ์ไม้แต่มันเป็นไปไม่ได้ที่บรรพบุรุษ ของเขาจะเป็นฟีนิกซ ์ สิ่งที่น่าสนใจคือมีอีกชื่อหนึ่งของร่างที่สองของเทคนิคแกนแม่น้ำมัลเท็ น มันชื่อว่าจิตวิญญาณบรรพบุรุ ษ จิตวิญญาณบรรพบุรุษของเขามีร่างกายภาพเป็นของตัวเอง แม้ว่ามั น จะสามารถเก็บไว้ภายในร่างกายของแองเจเล่ได้เพื่อที่จะดูแลมันแต่มั น ก็ยังต้องกินอาหารและน้ำ แองเจเล่พบหนอนบำรุงร่างกายไม่กี่ตัวและหญ้าแล้ววางพวกมันไว้ ด้านหน้าของนก นกเพียงแค่เหลือบมองมาที่อาหารชั่วครู่ก่อนที่จะหันหัวไปราวกับว่ามัน ไม่ชอบอาหารที่เขามอบให้ แองเจเล่สังเกตเห็นว่ามีเครื่องหมายแมงป่องสีแดงบนหน้าผากของนก เหมือนกับที่เขามี ทันใดนั้นนกก็กางปีกของมันออกและเริ่มร้องเพลง มันหมุนวนหลาย รอบราวกับว่ามันกำลังเต้น มันละเลยแองเจเล่อย่างสมบูรณ์และสนใจเพียงแค่การร้องเพลงและ เต้นเท่านั้น 'อย่าบอกข้านะว่ามันเป็นบุคลิกที่แท้จริงของข้า....' ในขณะที่แองเจเล่สังเกตต่อไปเขาก็รู้สึกสับสน นกหมกมุ่นกับเสียงของตัวเองอย่างสมบูรณ ์มันมีสีหน้าที่ดูพอใจกับ เสียงของมัน จากนั้นมันก็ยกปีขึ้นและส่ายหัวเล็กน้อย นกไม่ได้สนใจแองเจเล่และอาหารที่เขาให้ไว้แม้แต่น้อย แองเจเล่ขนลุกทันทีที่เขาตรวจสอบข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับจิตวิญญาณ บรรพบุรุษ [จิตวิญญาณบรรพบุรุษของคนจะแสดงความคิดที่แท้จริงของเจ้าของ ผ่านทางพฤติกรรมของมัน มันไม่มีดวงวิญญาณหรือสติปัญญา ถ้ า เจ้าของไม่ได้เรียนรู้ที่จะควบคุมจิตวิญญาณบรรพบุรุษของพวกเขามันก ็ จะทำตามสัญชาตญาณของตัวเองเท่านั้น] แองเจเล่พูดไม่ออกในขณะที่เขามองไปที่นกที่กำลังเต้นอีกครั้งหลังจาก ที่ตรวจสอบข้อมูล นกสีแดงเริ่มทำความสะอาดตัวเองด้วยปากของมันหลังจากที่มันเต้น และร้องเสร็ จ แองเจเล่ขดริมฝีปาก เขาไม่อยากจะเชื่อว่าพฤติกรรมตามสัญชาตญาณ ของนกจะเป็นตัวบ่งบอกถึงบุคลิกที่แท้จริงของเขา นกดูคล้ายกับคนหลงตัวเองที่สนใจเรื่องของตัวเองเท่านั้น "ดี ให้ข้าพยายามที่จะจัดการกับนก" ฉากนี้มันทนดูไม่ได้ แองเจเล่ส่ ง พลังจิตของเขาเข้าไปในนก แองเจเล่รู้สึกเหมือนเขามีสองร่างที่สามารถควบคุมได้พร้อมกัน อย่างไรก็ตาม พลังจิตที่เขาส่งเข้าไปในร่างกายของนกดูเหมือนจะไม่ เพียงพอ นกเริ่มร้องเพลงอีกครั้ง... ตุ้บ "อะไรวะเนี่ย!" แองเจเล่ถอยหลังไปสองก้าวและกระแทกกับผนัง ฝุ่นสี ขาวได้ตกลงไปที่พื้น แองเจเล่รู้ว่ามีบางอย่างไม่ถูกต้องแต่เขาก็รู้ตัวสาย เกินไป มันไม่ใช่ประสบการณ์ที่น่ารื่นรมย ์เขาล้มเหลวที่จะควบคุมจิตวิญญาณ บรรพบุรุษของเขาอย่างสมบูรณ์ ในไม่ช้าการอัพเดทระบบของซีโร่ก็เสร็จสิ้นและชิปก็รายงานกลับทันที [อัพเดตเสร็จสิ้น ระบบตรวจเสร็จสิ้น ดำเนินงานต่อ คุณต้องการเห็นผล หรือไม่] เสียงที่คุ้นเคยดังก้องในหูของแองเจเล่ 'ใช่' แองเจเล่หายใจเข้าลึกๆและปล่อยนกไว้ [จิตวิญญาณบรรพบุรุษของแกนแม่น้ำมัลเท็น การจับคู่กับสิ่งมีชีวิตที่ เป็นไปได้: (1) ฟีนิกซ์ห้าสี: นกสีแดงที่มีหัวเหมือนห่าน ความสามารถ พิเศษ: เกิดใหม่ด้วยไฟ นกชอบร้องเพลงและเต้นรำ มันไม่ชอบที่จะถู ก ควบคุม] แองเจเล่ส่ายหัวและมองไปที่นกสีแดงด้วยความหงุดหงิด "ดี อย่างน้อยมันก็อาจจะเป็นฟีนิกซ์...." เขามองไปที่ข้อมูลอีกครั้ง [การจับคู่กับสิ่งมีชีวิตที่เป็นไปได้: (2) ซัน: น้องสาวของฟีนิกซ์ห้าสี นกสี ทองที่อาศัยอยู่ในบางพื้นที่เท่านั้นและให้อาหารประเภทพิเศษ มัน อาจจะต้องเลี้ยงอาหารคุณภาพสูงและน้ำพุ] "เดี๋ยว....ตอนนี้ข้าสับสน...." แองเจเล่พูดไม่ออก ตอนแรกเขาคิดว่านก ได้รับดวงวิญญาณแต่ดูเหมือนว่านกจะแสดงออกตามสัญชาตญาณ ของตัวเอง "นี่เป็นบุคลิกที่แท้จริงของข้าหรือ...." แองเจเล่ไม่อาจจะเชื่อได้ว่าเขาเป็ น คนหลงตัวเองที่ร้องเพลงและเต้นรำ "พวกมันทั้งคู่เกี่ยวข้องกับฟีนิกซ์ ข้าจะตั้งชื่อให้มันว่าฟีนิกซ์" แองเจเล่ ตัดสินใจทันที แม้ว่าเสียงของนกจะไม่ได้เป็นมิตรกับหูแต่มันก็เป็นไปไม่ได้เลยที่เขาจะ ปรับเปลี่ยนรูปลักษณ์ของจิตวิญญาณบรรพบุรุษของเขา "ช่างมันเถอะ ตอนนี้ข้าต้องเก็บไว้ในร่างกายของข้า" แองเจเล่คว้าไปที่ นกสีแดงและผลักมันเข้าไปในอกของเขา นกเปลี่ยนเป็นลูกไฟและจม ลงไปในร่างกายของเขา มันเป็นลักษณะพิเศษของเทคนิคแกนแม่น้ำมัลเท็น จิตวิญญาณบรรพ บุรุษจะสามารถอาศัยอยู่ภายในร่างกายของเจ้าของและจะถูกเรียกได้ ทันที แองเจเล่ได้ตัดสินใจที่จะไม่เรียกมันออกมาต่อหน้าคนอื่นชั่วคราว เขา ต้องการที่จะเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับความสามารถของมันและเรียนรู้วิธี ควบคุมอย่างสมบูรณ์ก่อนมิฉะนั้นผู้คนก็จะเห็นนกแล้วจะหัวเราะเยาะ เขา เขาไม่ยอมรับว่าพฤติกรรมตามสัญชาตญาณของนกเป็นตัวบ่งบอก บุคลิกที่แท้จริงของเขา แองเจเล่สงบลงและเริ่มทำความสะอาดห้อง เขาเดินไปที่หน้าต่างที่หักและมองออกไปข้างนอกหลังจากที่ทำทุกสิ่ ง ทุกอย่างเสร็จสิ้ น ดวงอาทิตย์ยามเช้าได้สะท้อนบนผิวของแม่น้ำ มีแฟรี่หลายตัวที่ดู เหมือนแมลงปอกำลังบินเหนือน้ำ แฟรี่มีปีกและร่างกายโปร่งใส มันมักจะอาศัยอยู่ใกล้กับแหล่งน้ำรอบๆ ดินแดนฝันร้าย แองเจเล่ไม่เคยจับพวกมันเลย ร่างกายของแฟรี่ไม่ได้เกิดจากอนุภาค พลังงานหรือวัสดุกายภาพและพวกมันสามารถเห็นได้เฉพาะในตอนเช้า เท่านั้น นอกจากนี้รูปลักษณ์ของพวกมันก็จะเปลี่ยนทุกวันดังนั้นมันจึง เป็นไปไม่ได้ที่แองเจเล่จะรู้ว่าตัวที่เขาเห็นเมื่อวานเป็นตัวเดียวกับที่เขา กำลังมองหรือไม่ 'มันต้องเป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่เหมือนฟ้าร้องและฟ้าแลบ' แองเจเล่คิด เขาค่อยๆยกมือทั้งสองขึ้นและสร้างลูกลาวาระหว่างฝ่ามือของเขา ลูก ลาวามีสีแดงเข้มและในรอยแตกปกคลุมไปด้วยลาวาสีทองที่กำลัง เคลื่อนไหวอยู่ภายใน นี่เป็นความสามารถพิเศษที่ลินได้แสดงให้เขาเห็นบนภูเขา หลังจากที่ เชี่ยวชาญขั้นที่สามตอนนี้เขาก็สามารถปลดปล่อยบอลลาวาขนาดเท่า หัวที่สามารถสร้างความเสียหายเป็นวงกว้างได้ [บอลลาวา ระยะที่มีประสิทธิภาพ: ภายในรัศมีสิบเมตร ความเสียหาย ทั่วไป: 134 หน่วย] ซีโร่สแกนลูกลาวาและรายงานกลั บ พ่อมดที่ฝึกเทคนิคแกนแม่น้ำมัลเท็นจะมุ่งมั่นกับการฝึกจิตวิญญาณ บรรพบุรุษของพวกเขาหลังจากที่เชี่ยวชาญขั้นที่สามอย่างสมบูรณ์ จิ ต วิญญาณบรรพบุรุษของพ่อมดแต่ละคนมีความสามารถพิเศษที่ แตกต่างกัน พวกเขาต้องการเวลาให้มากพอที่จะคิดทุกสิ่งทุกอย่างออก ไม่มีเหตุผลที่แองเจเล่จะต้องเรียนรู้คาถาใหม่หลังจากที่เชี่ยวชาญ ขั้นตอนที่สามอย่างสมบูรณ ์ถ้าเขาสามารถเสริมสร้างความแข็งแกร่ง จิตวิญญาณบรรพบุรุษของเขาเขาก็จะได้รับความสามารถที่เกี่ยวกับไฟ ที่ไม่จำเป็นต้องมีการร่ายใดๆ ในขั้นต่อๆไปของเทคนิคแกนแม่น้ำมัลเท็นแองเจเล่ก็จะได้รับ ความสามารถพิเศษมากขึ้นโดยการเชี่ยวชาญขั้นตอนนั้นและฝึกจิต วิญญาณบรรพบุรุษของเขา สำหรับพ่อมดที่ฝึกเทคนิคนี้เป้าหมายสูงสุด ของพวกเขาคือการละทิ้งร่างกายภาพของพวกเขาและใส่ดวงวิญญาณ ของตัวพวกเขาเองเข้าไปในจิตวิญญาณบรรพบุรุษเพื่อให้พวกเขา สามารถกลายเป็นสิ่งมีชีวิตตามตำนาน สิ่งมีชีวิตที่มีอายุขัยไม่สิ้นสุด นี่คือเหตุผลที่เทคนิคแกนแม่น้ำมัลเท็นได้รับการพิจารณาว่าเป็นหนึ่งใน เทคนิคการทำสมาธิขั้นสูงที่แข็งแกร่งที่สุด แองเจเล่คิดอยู่ชั่วครู่และหันไป จากนั้นเขาก็เช็ดฝุ่นออกจากชุดคลุม ของเขาแล้วนั่งขัดสมาธิ ในไม่ช้าเขาก็ตัดสินใจที่จะตรวจสอบความสามารถพิเศษที่นกมี ภายใต้สถานการณ์ปกติจิตวิญญาณบรรพบุรุษจะเกิดมาพร้อมกับ ความสามารถพิเศษหนึ่งหรือสองอย่าง ฟีนิกซ์เป็นสิ่งมีชีวิตในตำนาน แองเจเล่เชื่อว่านกตัวนี้จะไม่ทำให้เขาผิดหวัง ตอนที่338: ฝันร้ายและความโกลาหล (1) แปลนิยาย.วันเสาร์ ที่28 เมษายน 2018 แองเจเล่หลับตาและนั่งอยู่ตรงกลางห้องเงียบๆ แสงสีน้ำเงินยังคง กะพริบอยู่ภายใต้เปลือกตาของเขา [กำลังตรวจสอบสภาพร่างกาย....] [รายการข้อมูล...] [กำลังตรวจสอบสภาพของจิตวิญญาณบรรพบุรุษ......รายการข้อมูล...] หลายนาทีต่อมาก็มีช่องข้อความที่เต็มไปด้วยข้อมูลสองช่องถูกแสดง อยู่ข้างหน้าการรับรู้ของแองเจเล่ ข้อมูลของเขาอยู่ทางด้านซ้ายและข้อมูลของฟีนิกซ์อยู่ทางด้านขวา จากนั้นแองเจเล่ก็สังเกตเห็นว่ามีอีกข้อมูลที่แสดงอยู่ด้านล่างเขา [ค่าสถานะทางกายภาพจะไม่เพิ่มขึ้นอีกต่อไปหลังจากที่ก้าวหน้า ถึ ง ขีดจำกัดแล้ว] ค่าสถานะทางกายภาพได้เพิ่มขึ้นอย่างมากในช่วงที่เขา ใช้ดาบปลายโค้งต้องสาปดูดซับพลังงานชีวิต ดูเหมือนว่าแองเจเล่จะมี ขีดจำกัดค่าสถานะทางกายภาพของพ่อมดระดับสอง มีเพียงพลังจิ ต ของเขาที่เพิ่มขึ้ น ข้อมูลของฟีนิกซ์อยู่อีกด้าน มันเรียบง่ายและเข้าใจได้ง่าย [ฟีนิกซ์ ลักษณะพิเศษ ร่างธาตุ ความแข็งแกร่ ง 2.0 ความว่องไว 3.0 พลังจิต 0] [ทักษะพิเศษ: เกิดใหม่ด้วยไฟ (ฟื้นคืนชีพจากหัวใจของคุณหลังจากที่ ตาย คูลดาวน์: 30 วัน) ตาอินทรี(ทักษะสอดส่อง ฟีนิกซ์จะมีพื้นที่ วิสัยทัศน์ขนาดใหญ่)] นั่นมัน แองเจเล่รู้อยู่แล้วว่าร่างแรกของจิตวิญญาณบรรพบุรุษอ่อนแอและไม่มี ประโยชน์แต่ผลที่ได้นี้มันทำให้เขาผิดหวังมาก ทักษะพิเศษอาจจะถู ก พิจารณาว่าเป็นพลังเมื่อมันสามารถช่วยเขาได้ในการต่อสู้เท่านั้น เขาค่อยๆลุกขึ้นยืนจากพื้นหลังจากที่ขบคิดสักครู่ เขายกแขนขึ้น แองเจเล่ตรวจสอบรักแร้ทั้งสองข้างและเห็นรูนสีแดงเข้ม ข้างละตัวเมื่อมันกะพริบแต่ละครั้ง 'นี่หมายความว่าข้าประสบความสำเร็จในการได้รับความสามารถพิเศษ จากขั้นที่สามของแกนแม่น้ำมัลเท็น รูนทั้งสองระบุว่าข้าสามารถ ปลดปล่อยลูกลาวาได้พร้อมกันสองลูก' แองเจเล่ไม่ได้รู้สึกตกใจในเรื่อง นี ความสามารถพิเศษได้ใช้ช่องคาถาพิเศษที่แองเจเล่ได้รับจาก ความก้าวหน้าในเรื่องระดับของเขา นี่เป็นปัญหาทั่วไปที่เกิดขึ้นกับ เทคนิคการทำสมาธิขั้นสูงทั้งหมดในปัจจุบันและวงเวทต้องสลักบนผิว ของคริสตัลพลังจิ ต เพื่อที่จะให้เทคนิคการทำสมาธิที่เขาฝึกก้าวหน้าต่อไปแองเจเล่จะต้อง สลักวงเวทไว้บนคริสตัลพลังจิ ต วงเวทเหล่านี้ส่วนใหญ่ใช้เพื่อช่วยพ่อมดในการดัดแปลงร่างกายของ พวกเขา นี่มันเป็นโบนัสที่มอบให้กับพวกเขาเพื่อให้พวกเขาก้าวหน้ากับ เทคนิคการทำสมาธิที่พวกเขาฝึกอยู่ พ่อมดที่ฝึกเทคนิคการทำสมาธิขั้นสูงเดียวกันก็จะมีความสามารถ พิเศษที่เหมือนกันทุกประการแม้ว่าพลังที่จะปลดปล่อยจะแตกต่างกั น ไป ยกตัวอย่างเช่นพ่อมดที่เชี่ยวชาญขั้นที่สามของเทคนิคแกนแม่น้ำ มัลเท็นอย่างสมบูรณ์จะสามารถปลดปล่อยลูกลาวาได้เนื่องจากมันเป็น ความสามารถพิเศษที่ถือว่าเป็นคาถาพิเศษ แม้ว่ามันจะเพิ่มความ ต้านทานไฟของพวกเขาจำนวนหนึ่งแต่มันก็ยังอ่อนแอกว่าคาถาพิเศษที่ ทรงพลั ง นี่ถือได้ว่าเป็นจุดอ่อนของเทคนิคการทำสมาธิขั้นสูงนี้แต่นี่ก็อาจจะเป็น ลักษณะเฉพาะ แองเจเล่สามารถปลดปล่อยลูกลาวาได้สองลูกพร้อมกันดังนั้นพ่อมดที่ เชี่ยวชาญขั้นที่สามของเทคนิคแกนแม่น้ำมัลเท็นก็ควรจะทำได้ เช่นเดียวกัน เขาลดมือลงและไตร่ตรองเรื่องนี้อย่างจริงจัง "ดังนั้นข้าได้เรียนรู้คาถาที่สามารถใช้ได้โดยไม่ต้องร่ายและความ ต้านทานไฟของข้าก็เพิ่มขึ้ น ไม่มีอะไรที่เปลี่ยนแปลงอีก ดี ตอนนี้มันจะ ง่ายขึ้นสำหรับข้าที่จะเรียนรู้คาถาระดับสอง...." เขาตรวจสอบสภาพร่างกายของเขาอีกครั้งแต่รอบนี้ตรวจอย่างละเอียด ค่าสถานะของเขาได้เพิ่มขึ้นอย่างมากด้วยความช่วยเหลือของดาบ ปลายโค้งต้องสาป การก้าวไปสู่ระดับต่อไปจะเพิ่มพลังจิตของเขา เท่านั้น พลังที่ต้องใช้เพื่อร่ายคาถาระดับสองก็ลดลงหลังจากที่เขาประสบ ความสำเร็จในการผสานพลังจิตกับอนุภาคพลังงานไฟ เขารู้คาถาระดับสอง 2 ตัวซึ่งทั้งสองมาจากเฮนน ์ ไพโรบลาสต์และตาไฟ แองเจเล่นึกถึงวันนั้นที่เขาคุยกับวิเวียนอย่างยาวนานริมแม่น้ำ เขาเรียนรู้จากข้อเท็จจริงที่ว่าพ่อมดที่เหนือกว่าระดับสองที่ฝึกเทคนิค การทำสมาธิขั้นสูงไม่ได้พึ่งพาคาถาที่ใช้ได้ทันทีและความสามารถ พิเศษระหว่างการต่อสู้มากนัก พวกเขาจะใช้วงเวทหรือสิ่งประดิษฐ์เวทมนต์แทน อุปกรณ์เวทมนต์ป้องกันระดับสูงจะเปิดใช้งานโดยอัตโนมัติถ้าหาก ผู้ใช้งานเผชิญหน้ากับสถานการณ์ที่เต็มไปด้วยอันตราย พ่อมด ระดับสูงมักจะใช้สิ่งประดิษฐ์เวทมนต์เพื่อซื้อเวลาเพื่อให้สามารถเตรียม คาถาที่ทรงพลังที่สุดของพวกเขาได้ ด้วยเหตุนี้แองเจเล่จึงตระหนักได้ว่าเขาต้องหาสิ่งประดิษฐ์เวทมนต์ที่ เหมาะสมกับตัวเอง เขาเรียบเรียงข้อมูล ตอนนี้เขามีความคิดทั่วไปเกี่ยวกับสถานการณ์ในปัจจุบันของเขาแล้ว ตอนนี้มันเป็นตอนเที่ยง แองเจเล่เดินลงบันไดและกินอาหาร หลังจากนั้นแองเจเล่ก็เปิดประตูและก้าวออกจากคฤหาสน ์ ไม่มีด้วงหรือสิ่งมีชีวิตกลายพันธุ์ในตอนกลางวันในดินแดนฝันร้าย มันดู คล้ายกับโลกจริงแม้ว่าเขาจะเป็นมนุษย์เพียงคนเดียวที่อาศัยอยู่ใน ดินแดนนี แองเจเล่อยู่ในคฤหาสน์มานานเกินไปดังนั้นเขาจึงตัดสินใจที่จะสำรวจ พื้นที่ใกล้ ๆ อย่างไรก็ตาม เขาจะต้องเตรียมตัวให้พร้อมในกรณีที่เกิดเหตุการณ์ที่ไม่ ดีขึ้น ************************* ตึกตึก ตึกตึก ตึกตึ ก เขาสวมรองเท้าบูทสีดำ แองเจเล่กำลังเดินบนกิ่งไม้แห้งภายในป่ า ต้นไม้ในป่ามีขนาดใหญ่และมีใบไม้สีเขียว แสงแดดสีทองได้ส่องผ่าน ช่องว่างระหว่างใบไม้ของต้นไม้และส่องลงมาบนพื้น แองเจเล่สวมชุดหนังสีน้ำตาลที่ดึงแขนเสื้อ มันมีปลอกแขนสีแดงเข้มอยู่ บนแขนขวาของเขาที่ดูสะดุดตา มือทั้งสองถือมีดปลายแหลม(ใบมีดจะ คล้ายๆกับสามเหลี่ยมที่ใบมีดทั้งสองด้านพุ่งเข้าหากัน) ใบมีดของมีดปลายแหลมได้สะท้อนแสงแดด เขาไปอย่างช้าๆด้วยความระมัดระวัง คฤหาสน์ที่อยู่ข้างหลังห่างจาก เขาเพียงเล็กน้อย วู้ดดด สายลมอ่อนๆได้พัดผ่านใบไม้ของต้นไม้แองเจเล่ไม่เห็นนกหรือแมลง สักตัว ประมาณครึ่งชั่วโมงต่อมาเขาก็ยังเดินอยู่ในป่า ในไม่ช้าเมื่อมองผ่านช่องว่างระหว่างต้นไม้แองเจเล่ก็มองเห็นอาคารสี เทาอยู่ข้างหน้า มันเป็นอาคารที่ดูเหมือนเห็ดที่เปิดประตูและหน้าต่างอยู่ที่กำลังสั่นไหว ในสายลม สีหน้าของแองเจเล่เปลี่ยนไป เขาก้าวไปอีกหลายก้าวแล้วในที่สุดเขาก ็ มองเห็นอาคารได้อย่างชัดเจน อาคารที่เหมือนเห็ดหลายหลังตั้งอยู่พื้นที่โล่งที่ห่างไปเพียงเล็กน้อย ส่วนใหญ่ได้ชำรุดแล้ว มีเสาโอเบลิสก์สีขาวตรงกลางอาคารที่เหมือนเห็ดเหล่านั้น ประตูของอาคารเปิดอยู่แต่เขาไม่ได้ยินเสียงอะไรเลย สถานที่นี้อุ่นสบายและสงบสุขในขณะที่ดวงอาทิตย์ยังส่องแสงและให้ ความอบอุ่นแก่มัน แองเจเล่ใช้เทคนิคย่องเบาที่เขามีและเดินไปทางอาคารที่เหมือนเห็ด เหล่านั้น เขามองไปรอบๆอาคารเหล่านั้นแต่ไม่เห็นอะไรอยู่ภายใน เสียงเดียวที่ เขาได้ยินคือเสียงที่เกิดจากลม แองเจเล่มุ่งหน้าไปยังเสาโอเบลิสก์สีขาว มีรูนถูกสลักไว้บนผิวของโอเบ ลิสก์ ในขณะที่ดวงอาทิตย์ให้ความอบอุ่นก็มีลมเย็นพัดมา นอกจากนี้ยังมี กลิ่นเห็นและฝุ่ น ประมาณสิบนาทีแองเจเล่ก็มาถึงข้างหน้าของเสาโอเบลิสก ์ โอเบลิสก์สีขาวสูงประมาณสองเมตรและกว้างประมาณหนึ่งเมตร ผิว ของมันปกคลุมไปด้วยรูนและเส้นที่ซับซ้อน แองเจเล่สำรวจสภาพแวดล้อมโดยใช้ชิปและตรวจสอบให้แน่ใจว่าไม่มี ใครอยู่รอบๆก่อนที่เขาจะเริ่มตรวจสอบรูนที่เขียนอยู่บนเสาโอเบลิสก ์ รูนเหล่านี้มีลักษณะเหมือนชายร่างเล็กที่กำลังทำท่าแปลกๆและดู เหมือนภาพวาดที่แปลกประหลาด เมื่อเขามองไปที่ด้านล่างของโอเบลิสก์เขาก็พบคำที่เขียนในภาษาที่เขา สามารถเข้าใจได้ มันเป็นภาษาของดินแดนโกลาหล มันบอกว่า "19/52 เกิดจลาจลในโมเสสและมีโรคระบาดในเมืองเห็ด ผู้ อยู่อาศัยทุกคนได้ตายเนื่องจากโรคระบาด มีเพียง...." ส่วนที่เขียนตรงนี้ได้ถูกลบทิ้ ง จากนั้นแองเจเล่ก็ข้ามส่วนที่ไม่สมบูรณ์แล้วเขาก็อ่านต่อ "21/02 ในที่สุดมอร์เฟียก็ได้กลับมา เรื่องนี้มันทำให้เราเจ็บปวดและฝัน ร้ายแต่ข้ารู้ว่าในไม่ช้าโลกก็จะเข้าสู่เงามืดและความหวังก็ถูกพรากไป จากเรา...." "02/78 ทุกเมืองที่เคยมีสิ่งมีชีวิตได้ถูกทำลาย ทั้งโลกกำลังจะจบและ ตอนนี้ทุกสิ่งทุกอย่างก็เป็นของมอร์เฟีย" "ข้าไม่อยากจะเชื่อว่าเรายังมีชีวิต! ความแข็งแกร่งของมอร์เฟียกำลังตก ลง ข้าจะต้องนำข่าวดีไปให้เอียน!" ประโยคต่อเนื่องกันหลายประโยคแล้วยังมีส่วนที่ถูกลบทิ้ ง แองเจเล่ย่นคิ้ว เขาข้ามส่วนนี้อีกครั้งและอ่านต่อ "ข้าไม่รู้ว่ามันผ่านไปกี่วันแล้ว....10 วัน 20 วัน 50 วัน 1 ปี มอร์เฟียได้ ตายแล้ว ตอนนี้โลกเต็มไปด้วยสัตว์ประหลาดและสิ่งมีชีวิตกลายพันธุ ์ ....ข้าไม่รู้ว่าข้าจะสามารถทำการวิจัยของข้าสำเร็จหรือไม่..." "เพื่อนรักของข้า ถ้าเจ้ากำลังอ่านเรื่องนี้นั่นหมายความว่าเราทุกคนตาย หมดแล้ว โอเบลิสก์ในเมืองจะบันทึกทุกอย่างที่เกิดขึ้นจนถึงตอนนีข้า รู้สึกได้ว่าข้ากำลังจะกลับไปหาอ้อมกอดของมารดาอิโคลินในอีกสิบ นาทีเพื่อนของข้า เจ้าจะต้องอดทนในโลกวิบัตินีตัวซ่อนเองให้ดีเจ้า เป็นความหวังสุดท้ายของเรา.....ยามค่ำคืนอันตรายคืบคลานเข้ามา...." ส่วนสุดท้ายที่เขียนแทบจะปกคลุมไปด้วยโคลนสีเข้มเนื่องจากมันถูก เขียนไว้ที่ส่วนล่างสุดของโอเบลิสก ์ แองเจเล่ค่อยๆลุกขึ้นยืน "ดูเหมือนว่าดินแดนฝันร้ายจะเคยเป็นดินแดนที่มีคนอาศัยอยู่แต่เกิด เรื่องที่ไม่ดีขึ้น....จากนั้นดินแดนนี้ก็กลายเป็นดินแดนที่ลึกลับและ อันตราย" เขาตรวจสอบสภาพแวดล้อมอีกครั้ง ยังไม่มีการเคลื่อนไหวจากภายในอาคารเห็ด "ยามค่ำคืนอันตรายจะคืบคลานเข้ามา...." แองเจเล่รู้ว่ามันหมายถึง อะไร เขาเดินไปรอบๆเสาโอเบลิสก์สีขาว มีคราบเลือดจางๆอยู่อีกฟากหนึ่งของโอเบลิสก ์ มันดูเหมือนว่ามีเลือดของใครบางคนได้กระเด็นโดนโอเบลิสก ์ แองเจเล่มองไปรอบๆและพบคราบเลือดอยู่ห่างออกไปหลายเมตร เขาหรี่ตา เขาเดินไปที่คราบเลือดที่สองที่เขาพบ แองเจเล่ค่อยๆหายใจ ช้าลงและพยายามที่จะไม่ทำให้เกิดเสียงใดๆ ในไม่ช้าเขาก็พบรอยเลือดที่อยู่ใกล้ๆมุมหนึ่ง มันอาจจะตอบคำถาม ทั้งหมดของเขาได้ เลือดจะต้องแห้งมาหลายศตวรรษเนื่องจากมันไม่มีกลิ่นเลย ตอนที่339: ฝันร้ายและความโกลาหล (2) แปลนิยาย.วันเสาร์ ที่28 เมษายน 2018 แองเจเล่เดินตามรอยเลือดและในไม่ช้าเขาก็มาถึงอาคารที่เหมือนเห็ดสี ขาวที่ดูพิเศษ หน้าต่างและประตูถูกทำลายนานแล้ว แสงที่มาจากข้างนอกได้ส่องเข้า ไปข้างใน มันส่องลงบนพื้น แองเจเล่เดินเข้าไปในห้องอย่างระมัดระวัง ผิวของเขาถูกหุ้มด้วยชั้น โลหะบางๆ เนื่องจากมีโลหะแวววาวทำให้เขาดูเหมือนมนุษย์โลหะ ห้องมีขนาดเล็ก มีเก้าอี้ไม้หลายตัวอยู่บนพื้น บนผนังมีภาพวาดของครอบครัวหนึ่งซึ่งดูเหมือนจะเป็นครอบครัวสาม คน มันเป็นครอบครัวที่ดูมีความสุขที่มีสามีภรรยาและลูกสาวผมบ ลอนด์ที่น่ารักของพวกเขาที่ถูกพวกเขาจับมือไว้เธอมีรอยยิ้มหวานบน ใบหน้าของเธอ ทุกคนสวมชุดล่าสัตว์สีเทา พวกเขาดูเหมือนกับมนุษย์ที่อาศัยอยู่ในโลก หลัก แองเจเล่ตัดสินใจที่จะอ้างถึงโลกจริงว่า'โลกหลัก'เพื่อให้ซีโร่สามารถ รวบรวมข้อมูลและจัดระเบียบฐานข้อมูลได้ง่ายขึ้น อย่างไรก็ตามมนุษย ์ ในดินแดนฝันร้ายดูเหมือนกับมนุษย์ในโลกหลัก เขาเดินไปทางนั้นและเช็ดฝุ่นออก กึก ภาพวาดหลุดและไหลลงมา มีเพียงตะปูที่ยังอยู่บนผนังสีขาว แองเจเล่ลดมือลงและมองไปรอบๆ มีเตียงขนาดใหญ่ติดกับโต๊ะและเก้าอี้ ผ้าห่มสีขาวปกคลุมสองศพที่ ตอนนี้ดูเหมือนมัมมี่แขนและเท้าของพวกเขาเหมือนกิ่งไม้เน่า แองเจเล่เดินไปที่เตียงและเอาผ้าห่มออก กลิ่นเหม็นที่มาจากศพลอยเข้าไปในจมูกของเขา มีแสงสีน้ำเงินกำลังกะพริบอยู่ในรูม่านตาของเขา แองเจเล่ก้าวถอยหลัง หลายก้าวและปิดจมูกด้วยมือในขณะที่จ้องไปที่ซากศพ "หา" นั่นคือตอนที่เขาสังเกตเห็นบางสิ่งที่แปลกประหลาดในขณะที่มอง ไปที่ช่องว่างระหว่างซากศพทั้งสอง มีเด็กผู้หญิงที่สวมเสื้อผ้าสกปรกนอนหลับอยู่เงียบๆในอ้อมแขนของพ่อ แม่ มีร่องรอยสีบลอนด์ท่ามกลางผมสีเทาของเธอ เธอกำลังสวมเสื้อสีดำ และกางเกงสีดำ เธอไม่ได้สวมรองเท้า เด็กผู้หญิงดูเหมือนไม่เหมือนคนที่อยู่บนภาพวาด เธอมีผิวสีเทา เธอจับวัตถุสีดำไว้ในอ้อมแขนของเธอ มันดูเหมือนกะโหลกศีรษะมนุษย ์ ที่แตก แองเจเล่สแกนเด็กผู้หญิงโดยใช้ชิปและเดินไปใกล้ๆเธอ เขาแตะใบหน้า ของเธอด้วยมีดปลายแหลมในมือขวา ชี่ มีใบมีดสีดำได้เหวี่ยงไปทางขาของแองเจเล่ เด็กผู้หญิงคนนั้นกำลังจับมีดล่าสัตว์ไว้แน่น เห็นได้ชัดว่าเธอเป็นคนที่ โจมตีแองเจเล่ เคร๊ง มีดปลายแหลมได้กระแทกเข้ากับมีดล่าสัตว ์ เธอไม่สามารถต้านแรงไว้ได้เธอกลิ้งไปทางข้างหลังแล้วก็หยุดหลังจาก ที่ชนกับผนัง "กริ๊ดด!" เธอกรีดร้อง มีเลือดสีเข้มไหลออกมาจากตาและหูของเธอ กลิ่นเหม็นเน่าในอากาศได้แรงขึ้น เธอเอนตัวพิงกับผนังและมองที่แองเจเล่มีเลือดไหลออกมาจากตาของ เธอมากขึ้นในขณะที่เธอกรีดร้องเสียงดังขึ้น คลื่นเสียงได้เปลี่ยนเป็นพลังงานโปร่งใสที่แผ่กระจายไปทุกทิศทุกทาง แองเจเล่ย่นคิ้ว เขายกมีดปลายแหลมขึ้นสูงในอากาศและฟันลงมา ฟึบ มีดปลายแหลมได้ยาวจนมันก่อตัวเป็นดาบยาวที่มีใบดาบยาวกว่าสอง เมตร หัวของเด็กผู้หญิงได้ถูกตัดครึ่ง ในที่สุดเสียงกรีดร้องก็หยุดลง ร่างกายของเธอล้มลงไปที่พื้น แองเจเล่สังเกตเห็นว่าไม่มีกะโหลกในหั ว ของเธอ มันดูคล้ายกับลูกบอลที่ว่างเปล่า แองเจเล่เดินไปที่ร่างกายของเธอและก้มตัวข้างๆ เขาดึงสร้อยคอ ออกมาจากคอของเธอ มันมีรูปดวงตา สร้อยคอถูกแกะสลักด้วยไม้ห้อยอยู่บนเชือก 'ข้าคิดว่าเธอยังมีชีวิตอยู่ โอ้ ดี....' แองเจเล่ลุกขึ้นยืน 'พวกเขาจะต้อง เป็นเหยื่อของโรคระบาดที่ได้รับการบันทึกไว้ในเสาโอเบลิสก์' แองเจเล่หันร่างกายของเด็กผู้หญิงไปอีกด้านด้วยดาบของเขา สร้อยคอ ควรจะเป็นของมีค่าอย่างเดียวที่เธอมีกะโหลกที่แตกไม่ใช่อุปกรณ์เวท มนต ์ เขาทำความสะอาดใบดาบและออกมาจากอาคาร ตึกตึก ตึกตึ ก แองเจเล่ได้ยินเสียงฝีเท้าที่รุนแรงมาจากอาคารที่เหมือนเห็ดอาคารหนึ่ง ทางขวา เขาลังเลชั่วครู่ก่อนที่เขาจะวิ่งเข้าไปในอาคารนั้นทันที มีชายสวมชุดดำอยู่ข้างหลังอาคารนั้นแต่เขาก็หายตัวไปตรงมุมอย่าง รวดเร็ว แองเจเล่จับดาบแน่นและรีบหันไปที่มุมหนึ่ ง ชายชุดดำยังวิ่งไปข้างหน้ า เขายกมือซ้ายขึ้นและปล่อยสายเงินไปตามเส้นทางของชายคนนั้น ชายคนนั้นหยุดทันทีและหันกลับมา ร่างของเขาปกคลุมไปด้วยผ้าคลุมสีดำและสวมแว่นกันแดดแปลกๆ ไม่ มีผิวส่วนใดเผยออกมา ชายคนนั้นสูงประมาณ 1.6 เมตร เขาเตี้ยกว่าแองเจเล่ชายคนนั้นมองที่ แองเจเล่และเริ่มค่อยๆหนีดูเหมือนว่าเขาจะกลัว "เจ้าเป็นผู้รอดชีวิตหรือ" แองเจเล่หรี่ตาและถามด้วยภาษาโกลาหลที่ไม่ คุ้นเคย การพูดในภาษาโกลาหลมันฟังดูเหมือนผู้ชายและผู้หญิงกำลังพูดพร้อม กัน มันออกเสียงยากมาก ชายคนนั้นทั้งตกใจและตื่นเต้นพร้อมกันเมื่อฟังแองเจเล่พูด ร่างกายของเขาเริ่มสั่น "โมลาซูซิลิเยจิ?" ทันใดนั้นเขาก็ตอบในขณะที่เขามองไปที่แองเจเล่ "เยฮู! ทริจลิหน่าน!" เขาพยายามสื่อสารกับแองเจเล่ "เจ้าไม่เข้าใจภาษาโกลาหลหรือ" แองเจเล่กำลังสับสน "โกฟานลิย่า?" ชายคนนั้นพยายามสื่อสารโดยใช้ภาษาอื่ น "เจ้าหมายถึงอะไร" แองเจเล่ชี้ไปที่ริมฝีปากของเขาและโบกมื อ "เจ้า....เป็นใคร?" ในที่สุดชายคนนั้นก็เริ่มพูดภาษาสากลโบราณแต่มันก ็ แปลกนิดหน่อย "อย่าทวนคำพูดของข้า.....เฉพาะตัวประหลาดกลายพันธุ์เท่านั้นที่ทำ อย่างนั้น!" เขาฟังดูกังวล "ข้าหรือ ข้าเป็นเพียงผู้ที่อยู่สันโดษ บ้านของข้าอยู่ในพื้นที่ห่างไกล ข้า ตัดสินใจที่จะเดินเล่นและเจ้าเป็นคนแรกที่ข้าพบ" แองเจเล่รีบสุ่มเรื่อง ขึ้นมาและแนะนำตัวเองในภาษาโบราณ "คนสันโดษงั้นหรือ...." เสียงของชายคนนั้นเข้ม "ข้าเป็นผู้รอดชีวิตเพียง คนเดียวในเมืองนี้" เขาเริ่มคุ้นเคยกับการสื่อสารในภาษาโบราณ "เราสามารถหาสถานที่ปลอดภัยและไปพูดกันที่นั่นได้ไหม ข้าไม่แน่ใจ ว่าเกิดอะไรขึ้น ข้าเพิ่งถูกโจมตีโดยเด็กผู้หญิงแปลกๆเมื่อหลายนาที ก่อน" สายสีเงินเริ่มกลับเข้าไปในร่างกายของแองเจเล่ "แน่นอน" ชายคนนั้นพยักหน้าและตรวจสอบแองเจเล่หลายวินาที ต่อมาเขาก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก "เจ้าใช้อะไรบางอย่างกับผิวของเจ้าใช่ไหม มันเป็นสีเงิน ข้าต้องปกปิ ด ร่างกายทั้งหมดของข้า..." "ใช่ ข้ากำลังสงสัยว่า...." แองเจเล่ลังเล "ทำไมเจ้าถึงแต่งตัวแบบนี้ " "เจ้าไม่รู้เรื่องพวกมันงั้นหรือ! พวกมันจะโจมตีใครก็ตามที่ไม่ได้สวมชุด ดำ พวกมันสามารถเจาะร่างกายของเจ้า ดูดเลือดของเจ้าและกินเนื้อ เจ้า!" ชายคนนั้นตกใจ "ยังไงก็ตาม ให้ข้าพาเจ้าไปที่พักพิงของเรา" เขา หันกลับไปและเริ่มเดินไปทางซ้ายอีกครั้ง "เอาล่ะ" แองเจเล่สอดมีดปลายแหลมไว้กับเข็มขัดและเดินตามชายคนนั้น พวกเขามาถึงอาคารเหมือนเห็ดที่ทรุดโทรมหลังจากผ่านไปหลายนาที อาคารได้รับความเสียหายอย่างรุนแรง หลังคามันหายไปครึ่งหนึ่ง ชายคนนั้นก้าวลงบนพื้นไม้ที่พังและเริ่มตรวจสอบทางเข้าชั้นใต้ดิน เขา พบที่จับได้อย่างรวดเร็วและดึงมันขึ้น ตุ้บ มีแผ่นหินขนาดใหญ่ถูกดึงขึ้นมาจากพื้นทำให้เห็นพื้นที่มืดภายใต้มัน "ครอบครัวของข้าพบชั้นใต้ดินนี้ประมาณสามปีก่อน...." เขาอธิบายใน ขณะที่เดินลงบันไดอย่างระมัดระวัง "เข้ามาและปิดประตู" แองเจเล่ย่นคิ้ว เขารีบสแกนชั้นใต้ดินโดยใช้ชิปและลงไป ชั้นใต้ดินมีพื้นที่ประมาณสิบตารางเมตร ผนังและพื้นทั้งหมดถูกสร้างด้วยหินดำ การมองเห็นตํ่า แองเจเล่แทบจะ มองไม่เห็นที่กั้นไม้และเฟอร์นิเจอร์ไม้บนพื้น อากาศอบอ้าวเหมือนไข่เน่าผสมกับปัสสาวะ พื้นเหนียวและลื่น ชายคนนั้นกำลังยืนอยู่ข้างเตียงตรงมุมและมีเด็กสองคนกระโดดเข้าไป ในแขนของเขา "อิซา!" "อิซาลิคู!" มันเป็นเด็กผู้หญิงและเด็กผู้ชายแต่แองเจเล่ก็ยังไม่แน่ใจว่าภาษาที่พวก เขาพูดคือภาษาอะไร ชายคนนั้นเอาชุดสีดำออก เขาหันกลับมามองแองเจเล่ "นี่คือลูกชายของข้าเฟรย์และลูกสาวของข้าเฟรย่า" แองเจเล่พยักหน้า เขาเฝ้าดูชายคนนั้นให้ขนมปังแห้งและเนื้อตากแห้ง กลิ่นตุๆแก่เด็กๆ "นี่คือที่พักที่เจ้าพูดถึงหรือ" เขาถามเสียงเบา เด็กทั้งสองคนซ่อนตัวอยู่ข้างหลังพ่อของพวกเขาและมองไปที่คนแปลก หน้าด้วยความกลัว "ใช่.....มันเป็นเวลาสามปีแล้ว มี64 เดือนในหนึ่งปีและ 100 วันในหนึ่ง เดือน...นั่นน่าจะประมาณสองหมื่นวัน.....นี่เป็นที่พักที่เรามี..." ชายคน นั้นถอนหายใจด้วยอารมณ์ที่หลากหลาย "เกิดอะไรขึ้น" แองเจเล่นั่งลงบนเก้าอีเขาคำนวณโดยใช้ซีโร่ทันที หนึ่งปี ในดินแดนฝันร้ายเท่ากับ 17 ปีในโลกหลักซึ่งหมานความว่าครอบครัวนี้ อาศัยอยู่ในห้องใต้ดินมากว่า 51 ปีแล้ว "ให้ข้าอธิบายสถานการณ์ให้เจ้ารู้ก่อน" ชายคนนั้นยิ้มอย่างบิดเบี้ยว "ทุกสิ่งทุกอย่างได้เปลี่ยนไปเมื่อห้าปีก่อน โรคระบาดมาจากที่ไหนสั ก แห่งบนแผ่นดินนีทุกสิ่งมีชีวิตกลายพันธุ์ทั้งหมดแม้แต่มารดาแห่งอิ โคลินก็ล้มเหลวในการรักษาโรคระบาด แกรนด์นักบวชคนสุดท้ายได้ทิ้ง บันทึกที่หมดหวังไว้บนโอเบลิสก์ก่อนที่ทั้งดินแดนจะจมลงสู่ความมืด มิดโดยสมบูรณ ์มีบางครั้งที่ภาพลวงตากลายเป็นความจริงและความ จริงเปลี่ยนเป็นภาพลวงตา โลกนี้ได้ยุ่งเหยิง" "หา หมายความว่าไง ภาพลวงตาและความจริงหรือ" แองเจเล่เริ่มอยาก รู้เรื่องดินแดนนี้มากขึ้น "ใช่" ชายคนนั้นนั่งลงข้างแองเจเล่ "บางครั้งเจ้าจะเห็นทะเลสาบ บ้าน และต้นไม้ปรากฏบนพื้นที่ว่าง อาคารหลายอาคารยังหายไปจากเมือง และหมู่บ้าน สิ่งมีชีวิตกลายพันธุ์ได้ครอบครองแผ่นดินและท้องฟ้า เจ้ารู้ อะไรไหม ข้าเคยเห็นขามนุษย์กำลังเดินอยู่ในป่าครั้งหนึ่ง มันไม่มี ร่างกายแต่มันก็ยังเดินไม่หยุด...." ตอนที่340: พายุที่กำลังมา (1) แปลนิยาย.วันเสาร์ ที่28 เมษายน 2018 มีความกลัวปรากฏในสายตาของชายคนนั้นในขณะที่เขานึกถึง เหตุการณ์ที่น่ากลัวที่เขาได้เห็นในอดีต "ขานั้นเป็นส่วนหนึ่งของร่างกายมนุษย์แต่มันกำลังเดินเหมือนมันถูกยึด กับคนที่มองไม่เห็น....มันช้าแต่มันก็มั่นคง..." แองเจเล่หรี่ตาแต่ไม่ได้พูดอะไร ชั้นใต้ดินเงียบลง แองเจเล่เปิดปากอีกครั้งหลังจากผ่านไปหลายนาที "แม้ว่ า สภาพแวดล้อมจะไม่ดีแต่ก็ควรจะเป็นสถานที่ที่ปลอดภัยที่จะอยู่ เนื่องจากเจ้าได้อยู่ที่นี่มานานแล้ว" "แน่นอน" ชายคนนั้นพยักหน้า "ประตูทางเข้าถูกผนึกด้วยแผ่นหินที่ ได้รับการอวยพรครั้งสุดท้ายและสัตว์ประหลาดจะไม่สามารถตรวจพบ เราได้" "เจ้าชื่ออะไร ข้าชื่อกรีน" แองเจเล่ขดริมฝีปากยิ้มแล้วตัดสินใจที่จะใช้ชื่อ ปลอมของเขา "ข้าชื่อว่าท็อด" ชายคนนั้นลังเลชั่วครู่และถาม "ที่จริงแล้วเจ้าสามารถพาเราไปอยู่ในที่ ของเจ้าสักพักได้ไหม ข้าไม่เป็นไรแต่ลูกๆของข้าสมควรได้รับ สภาพแวดล้อมที่ดีกว่านี้..." เขามองไปที่แองเจเล่และเริ่มขอร้อง "ข้ า สามารถอยู่ในชั้นใต้ดินได้ทั้งชีวิตโดยไม่มีปัญหาแต่ลูกของข้าไม่ สามารถทำได้ข้าสามารถทำอะไรก็ได้ให้เจ้าตามที่เจ้าต้องการ" ท็อดลูบหัวลูกของเขา "ข้าเป็นนักล่าโคลินที่เก่งที่สุดในพื้นที่นี้และบัตร หินวิญญาณของข้าอยู่ระดับสาม แม้ว่ามันจะไม่มีพลังงานเหลือภายใน หินวิญญาณแต่ข้าจะฟื้นพลังของข้าและข้าสามารถสอนวิธีต่อสู้ให้เจ้า ได้" 'นักล่าโคลิน บัตรหินวิญญาณ' แองเจเล่ไม่รู้ว่าชายคนนี้พูดเรื่องอะไร เขาสันนิษฐานว่าคำเหล่านี้สามารถเข้าใจได้โดยคนที่อาศัยอยู่ใน ดินแดนฝันร้ายเท่านั้น ดูเหมือนว่าพวกเขามีทักษะการต่อสู้ที่เป็น เอกลักษณ ์ นักล่าโคลินดูเหมือนจะเป็นระดับชั้น "แล้วด้วยหินวิญญาณเจ้าจะแข็งแกร่งขึ้นหรือ" แองเจเล่สงสั ย "ถูกต้อง" ท็อดยกแขนขวาขึ้น เขาดึงแขนเสื้อขึ้นทำให้เห็นแขนของเขา มีสิ่งประดิษฐ์จักรกลสีดำที่ดูเหมือนปลอกแขน ตรงกลางของปลอกแขน มีหินสีน้ำเงินอยู่มันเต็มไปด้วยรอยแตกและล้อมรอบไปด้วยแสงสลัว ท็อดยักไหล่และชี้ไปที่หินสีน้ำเงิน "มันยังคงมีพลังงานเหลืออยู่ในหิน และข้าพยายามที่จะใช้มันเมื่อข้าจำเป็นต้องใช้แม้ว่าข้าจะพยายามที่ จะประหยัดพลังงานแต่มันก็มีควันดำจำนวนมากทำให้ด้วงปรากฏใน พื้นที่ด้วยเหตุผลบางอย่างและข้าจะต้องใช้พลังของข้า นอกจากนี้การ ใช้ชีวิตในสภาพแวดล้อมเช่นนี้ก็ได้ทำให้ร่างกายของข้าได้รับความ เสียหายถาวร แต่เด็กๆของข้ายังมีความหวัง" เขามองไปที่ลูกๆของเขาและในดวงตาของเขาแองเจเล่มองเห็นการ เสียสละตนเอง "เสื้อผ้าของเจ้ายังสะอาดในสภาพแวดล้อมเช่นนี้นั่นหมายความว่าเจ้า สามารถเข้าถึงน้ำสะอาดได้นอกจากนี้เจ้ายังดูไม่เหนื่อยเลยแสดงให้ เห็นว่าเจ้ามีเสบียงอาหารเพียงพอและสถานที่พักผ่อน กรีน เจ้ามีที่พักที่ ดีและปลอดภัยกว่าที่นี่ใช่ไหม" แองเจเล่ยักไหล่"เจ้าพูดถูก นี่เป็นเหตุผลเดียวที่เป็นไปได้ว่าทำไมข้าถึง มีร่างกายและเสื้อผ้าที่สะอาด แต่ข้าต้องการดูว่าเจ้าสามารถทำอะไรได้ ก่อน เจ้าบอกว่าเจ้าเป็นนักล่าโคลินและบัตรหินวิญญาณของเจ้าอยู่ ระดับสาม พิสูจน์ให้ข้าเห็น" มีรอยยิ้มที่ขมขื่นบนใบหน้าของท็อด "นี่เป็นหินวิญญาณก้อนสุดท้ายที่ ข้ามีและข้าสามารถปลดปล่อยได้เพียงทักษะโจมตีหรือป้องกันระดับ สอง ข้าเคยเป็นนักล่าระดับสูงที่ได้รับฉายาว่า'ตู้นภา'....ข้าเพียง ต้องการหินวิญญาณมากกว่านี้...." "พลังระดับสองหรือ เจ้าสามารถควบคุมระยะของมันและแสดงให้ข้า เห็นที่นี่ได้ใช่ไหม" แองเจเล่ถามเสียงเข้ม เขาต้องการเปรียบเทียบระดับ พลังงานในดินแดนนี้กับหน่วยพลังงานในโลกหลั ก "แน่นอน แต่ถ้าไม่มีพลังงาน...." ท็อดลังเล แองเจเล่ยกแขนขวาขึ้นโดยไม่ได้พูดอะไร ฟู่ มีเปลวไฟออกมาจากกปลายนิ้วชี้ของเขา แสงสีส้มทำให้ชั้นใต้ดินสว่าง ขึ้นทันที ท็อดตกใจ "เจ้ายังมีหินวิญญาณงั้นหรือ!" "นาปา! วุยนาปา!" เด็กทั้งสองเริ่มตะโกนด้วยความตื่นเต้นหลังจากที่ เห็นไฟ พวกเขาก้าวไปข้างหน้าและจ้องไปที่เปลวไฟที่กำลังลุกไหม้ แสงได้ส่องลงบนใบหน้าของพวกเขา แองเจเล่สังเกตเห็นใบหน้าของ พวกเขาและเห็นว่าเด็กทั้งสองกำลังสั่นเนื่องจากอุณหภูมิในชั้นใต้ดินต่ำ แองเจเล่ยิ้มแต่ไม่ได้ตอบคำถามของท็อด อย่างไรก็ตามเขาได้เรียนรู้ว่า มันดูเหมือนว่าคนในดินแดนฝันร้ายจะสามารถใช้หินวิญญาณควบคุม อนุภาคพลังงาน "เอาล่ะ แสดงให้ข้าเห็นว่าเจ้าสามารถทำอะไรได้บ้าง" เขาดับไฟและลด มือลง ท็อดยิ้มและพยักหน้าหลายครั้ง เขาคิดว่าแองเจเล่เป็นความหวังใหม่ ของพวกเขา เขายกแขนขวาขึ้นและลากเส้นในอากาศ ชี่ มีสายสีน้ำเงินปรากฏในอากาศ มันกำลังเรืองแสงเหมือนคริสตัล อุณหภูมิของอากาศรอบๆสายนี้กำลังลดลงอย่างรวดเร็ว แสงสีน้ำเงินได้ส่องสว่างให้แก่คนภายในชั้นใต้ดิน ท็อดถอยหลังหนึ่งก้าวและมองไปที่สายนั้นเงียบๆ เขาขยับมือขวาเข้า ไปที่หน้าอกและเริ่มทำท่าทางแปลกๆ กึกๆๆ เสียงมันเหมือนกำลังมีบางอย่างกำลังสั่ น ทันใดนั้นทั้งชั้นใต้ดินก็เต็มไปด้วยสายสีน้ำเงิน สายนี้ยาวประมาณหนึ่ง เมตรและพวกมันก็เริ่มปลดปล่อยคลื่นพลังงานที่แข็งแกร่ ง สีหน้าของแองเจเล่เปลี่ยนไปเมื่อเขาสแกนสายนั้นโดยใช้ซีโร่ เขาตกใจ หลังจากที่ตรวจสอบรายงาน สายสีน้ำเงินแปลกๆดูเหมือนระเบิดเวลา และมีอยู่นับร้อย พวกมันสามารถสร้างความเสียหายได้มากกว่า 100 หน่วยได้อย่างง่ายดายถ้าหากมีการระเบิด "นี่แหละ..." ทันใดนั้นท็อดก็ถอนหายใจ สายสีน้ำเงินทั้งหมดได้หายไปจากชั้นใต้ดินเหมือนว่าพวกมันไม่เคยอยู่ ที่นั่ น "เกิดอะไรขึ้น" แองเจเล่มองไปที่ท็อด ท็อดแสดงคริสตัลบนปลอกแขนให้แองเจเล่ดูสีได้หายไปและมันดู เหมือนคริสตัลที่แตกได้ทุกเวลา "บ้าเอ้ย!" ท็อดปิดปากด้วยมือขวาของเขาและไอหลายครั้ง มีเลือดไหล ออกมาตรงช่องว่างระหว่างนิ้วของเขา "ข้าจะดูแลเด็กๆของเจ้าหากเจ้าสามารถสอนความสามารถนั้นและ ภาษาของเจ้าแก่ข้า" แองเจเล่สแกนท็อดโดยใช้ชิปและค่าสถานะของ ชายคนนี้มีค่าสถานะเหมือนปุถุชนทั่วๆไปแต่พลังจิตของเขาสูง ชายคน นี้ไม่ได้มีพลังงานชีวิตเหลืออยู่มากนัก ดูเหมือนว่าเขาจะถูกฆ่าด้วย โรคภัยไข้เจ็บในไม่ช้านี เขาต้องการที่จะหาคนดูแลลูกๆของเขาก่อนที่เขาจะเสียชีวิต "เจ้าต้องการยอมรับข้อเสนอของข้าหรือไม่" ท็อดถาม "ใช่" **************************** แองเจเล่ยังอยู่ในชั้นใต้ดินและบอกให้ท็อดสอนเขาเรื่องภาษาก่อน ภาษามันคล้ายกับภาษาสากลโบราณแต่มันได้รับการปรับปรุ ง แอง เจเล่เชี่ยวชาญภาษาหลังจากเรียนรู้ไปสองวั น ในฐานะที่เป็นพ่อมดที่มีชิปในสมองแองเจเล่จึงดูดซับความรู้ใหม่ได้เร็ว กว่าคนอื่ น ท็อดบอกว่าแองเจเล่เป็นคนที่ฉลาดที่สุดที่เขาเคยพบมา แองเจเล่เสร็จสิ้นการเรียนรู้ภาษาและได้รับข้อมูลพื้นฐานเกี่ยวกับระบบ จัดอันดับในดินแดนฝันร้าย นักล่าและราชานักล่าเป็นระดับหลักในดินแดนฝันร้าย สัตว์ประหลาดที่แข็งแกร่งและสิ่งมีชีวิตกลายพันธ์ุมีอยู่ทุกหนทุกแห่งใน ดินแดนนีมนุษย์ต้องเรียนรู้ที่จะฆ่าเผ่าพันธุ์อื่นเพื่อความอยู่รอด บางคนได้พัฒนาวิธีการใช้พลังงานจากหินวิญญาณและบัตรหิน วิญญาณ คนเหล่านั้นถูกเรียกว่านักล่าและนักล่าที่แข็งแกร่งที่สุดจะถู ก มอบฉายาว่า'ราชานักล่า' มีนักล่าไม่มากนัก มีเพียงหนึ่งในร้อยเท่านั้นที่สามารถเป็นนักล่าได้ เฉพาะนักล่าที่ได้รับฉายาจะเป็นพวกหัวกะทิและราชานักล่าจะเป็นคน ที่แข็งแกร่งที่สุ ด นักล่าที่มีฉายาจะแข็งแกร่งกว่านักล่าทั่วไป ฉายาพื้นฐานส่วนใหญ่เป็น' นักล่าโคลิน'และมันถูกมอบโดยมารดาแห่งอิโคลิน ปุถุชน นักล่า นักล่าที่มีฉายาและราชานักล่ า นี่เป็นระบบจัดอันดับ พื้นฐานในดินแดนนี นักล่าจากทวีปอื่นจะมีระดับทักษะต่างออกไปรวมถึงนักล่าที่มีฉายา ราชานักล่าได้รับอนุมัติจากคริสจักรและพวกเขาทั้งหมดมีความสำเร็จที่ ได้รับการยอมรั บ แน่นอนว่าสิ่งนั้นได้เปลี่ยนไปหลังจากที่เกิดภัยพิบัติขึ้ น หลายปีได้ผ่านไปและตามที่ท็อดบอก ผู้รอดชีวิตส่วนใหญ่เป็นนักล่า ผู้รอดชีวิตที่เหลือเป็นปุถุชนที่โชคดีที่พบวิธีการใช้ชีวิตในความยุ่งยากนี ท็อดได้บอกสิ่งส่วนใหญ่ที่เขารู้แก่แองเจเล่และสภาพของเขาก็เลวร้าย ลงทุกวั น สามวันต่อมา "ขอบคุณสำหรับเนื้อแห้งของเจ้า พวกมันอร่อยมาก" ท็อดพิงผนังและ สวมชุดสีดำ "ด้วงดำกำลังมา ข้าต้องขับไล่พวกมันไป ข้าไม่อยากเสี่ยงอะไรแม้ว่าข้ า กำลังมีความสุข" เขายังเคี้ยวอยู่ "เจ้าควรพักผ่อน ปล่อยให้ข้าจัดการพวกมันเอง" แองเจเล่ลุกขึ้นยืน "แม้ว่าข้าจะเปลี่ยนหินวิญญาณให้เจ้าแต่เจ้าก็ยังอ่อนแอเกินไปที่จะ ต่อสู้" หินวิญญาณเหมือนกับหินเวทมนต์คุณภาพสูงที่แองเจเล่มีแม้ว่า โครงสร้างพลังงานจะแตกต่างกันแต่มันก็ยังดีกว่าไม่มีอะไร อย่างไรก ็ ตามพลังงานจากหินเวทมนต์มีสิ่งเจือปนมากเกินไปจนทำให้ท็อดมี ปัญหาในการใช้มัน "แต่เจ้าไม่คุ้นเคยกับภูมิประเทศ" ท็อดลังเล "ข้าไม่ได้ดูถูกเจ้า มันเป็น เพียงแค่บางสถานการณ์เจ้าไม่รู้วิธีรับมือ ให้ข้าไปเถอะ" "ไม่เป็นไร ข้าเคยต่อสู้กับด้วงดำเหล่านั้นมาก่อน ไม่ต้องกังวล" แองเจเล่ ยิ้ม "มุ่งหน้าไปที่นั่นหากสถานการณ์เป็นใจ" เขาเดินขึ้นบันไดก่อนที่ท็อดจะตอบ "กรีน อย่าเป็นอะไรนะ!" เด็กผู้ชายตะโกนเสียงดัง "แน่นอน" แองเจเล่ยิ้มอีกครั้ง เขาได้ให้อาหารมากมายแก่เด็กทั้งสอง ในช่วงหลายวันที่ผ่านมาและทำให้สถานที่นี้อุ่นขึ้นด้วยสนามพลัง เด็ก ทั้งสองไม่เคยสัมผัสกับความอบอุ่นจากอนุภาคพลังงานมาก่อน เนื่องจากไม่สามารถเผากิ่งไม้แห้งในชั้นใต้ดินได้ตามเพราะพวกเขา ต้องการออกซิเจน แองเจเล่ได้สลักวงเวทเพิ่มอุณหภูมิไว้ที่คริสตัลพลังจิตของเขาและมันก ็ เป็นครั้งแรกที่เขาเปิดใช้งานในสภาพแวดล้อมเช่นนี เขาผลักแผ่นหินขึ้นแล้วเขาก็สแกนสภาพแวดล้อมด้วยชิปแต่ก็ไม่พบ อันตรายใดๆ ท็อดและลูกๆของเขายังเงียบ มันเป็นช่วงเวลาที่สำคัญที่สุดเนื่องจาก พวกเขาไม่สามารถเปิดเผยที่ตั้งของห้องใต้ดินกับสิ่งมีชีวิตกลายพันธ์ุได้ ภายนอกมันมืด มีดาวสีน้ำเงินในท้องฟ้าที่ดูเหมือนเพชรที่กำลังวางไว้ บนผ้าสีดำ มันเป็นสิ่งที่สวยงาม มันไม่มีดวงจันทร์ในท้องฟ้า มีเพียงดวงดาวที่กำลังกะพริบเท่านั้น เขาเปิดแผ่นหินอย่างระมัดระวังและก้าวขึ้นไปบนพื้น อากาศสะอาดและสดชื่น แต่กลิ่นเนื้อเน่ายังถูกลมพัดเข้าไปในจมูกของ เขา ตอนที่341: พายุที่กำลังมา (2) แปลนิยาย.วันจันทร์ที่30 เมษายน 2018 อีกตอนดึกๆนะครับ แองเจเล่ปิดทางเข้าด้วยแผ่นหินอีกครั้ง เขากำลังยืนอยู่ในอาคารเห็ดที่ หลังคามีรอยแตก เขากำลังก้าวออกมาจากอาคารเห็ดภายใต้ท้องฟ้ายามค่ำคืน ทางเข้า ของอาคารเห็ดนี้ดูเหมือนจะนำไปสู่ห้วงลึกที่ไม่มีที่สิ้นสุดเมื่อมันไม่มี แม้แต่แสงออกมาจากที่นั่น สายลมได้แรงขึ้นและมันก็เย็นเล็กน้อย แองเจเล่ลูบแหวนเงินบนนิ้วกลางมือซ้ายของเขาหลายครั้ง มันเป็น สิ่งประดิษฐ์เวทมนต์ที่ชื่อแสงแห่งธอร์น มันเป็นคาถาที่สามารถ ปลดปล่อยมาจากแหวนได้ด้วยการใช้พลังจิตเพียงเล็กน้อย พลังของแสงแห่งธอร์นไม่ได้แข็งแกร่งมากนักเพราะมันสามารถสร้าง ความเสียหายได้เพียงประมาณ 50 หน่วยเท่านั้น ความสามารถพิเศษ ของแองเจเล่จากเทคนิคการทำสมาธิขั้นสูงสามารถสร้างความเสียหาย มากกว่า 70 หน่วยอย่างง่ายดาย อย่างไรก็ตามเขายังถือสิ่งประดิษฐ ์ เวทมนต์ไว้กับตัวเพราะมันใช้พลังจิตตํ่าและมีผลเป็นวงกว้าง ถ้าพลังจิต 10 และมานา 5 ต้องใช้ร่ายคาถาที่มีความเสียหายใกล้เคียง กันสิ่งประดิษฐ์เวทมนต์ก็จะใช้พลังจิต 1 เท่านั้น นี่คือข้อได้เปรียบหลักของสิ่งประดิษฐ์เวทมนต์และอุปกรณ์เวทมนต ์ เขาค่อยๆเดินผ่านอาคารเห็ดและเห็นกลุ่มด้วงดำขนาดใหญ่กำลังเดิน เป็นกลุ่มอยู่บนพื้นที่ว่าง ด้วงกำลังเคลื่อนที่มาทางเขาเหมือนสึนามิสีดำ เขายกมือซ้ายขึ้นแล้วเล็งไปที่ด้วยโดยไม่ลังเล "แสงแห่งธอร์น" เขาเรียกออกมา ชี่ มีลูกแสงสีทองปลดปล่อยออกมาจากแหวนแล้วระเบิดหลังจากผ่านไป หลายวินาทีและเปลี่ยนเป็นลำแสงสีทอง พวกมันบินไปทางด้วง ฟึบ ฟึบ ฟึบ ด้วงได้เสียบด้วยแสงสีทองและพวกมันก็ระเบิดเป็นบ่อของเหลวเหนียว กลิ่นเหม็นและเปรี้ยวลอยอยู่ในอากาศ แองเจเล่ไม่ได้ลงมือลง เขาเพียงยืนอยู่ที่นั่นและเฝ้าดูแสงสีทองฆ่าด้วง อย่างใจเย็น ด้วงตัวใดที่กำลังเข้ามาใกล้เขาในช่วงเวลานั้น "กรีน! อย่าเสียหินวิญญาณเช่นนั้น มีพวกมันมากเกินไป!" เสียงของท ็ อดดังมาจากข้างหลัง แองเจเล่หันหัวไป ท็อดและลูกๆของเขากำลังยืนอยู่ข้างหลังเขา มีสายสี น้ำเงินกำลังลอยอยู่ในอากาศ ดูเหมือนว่าเขาต้องการที่จะช่วย พวกเขา ไม่ได้ถูกมองว่าเป็นภัยคุกคามดังนั้นซีโร่จึงไม่ได้เตือนเขาเกี่ยวกับการ ปรากฏตัวของพวกเขา "พาลูกๆของข้าไปกับเจ้า ปล่อยให้ข้าจัดการกับด้วงเหล่านั้นเอง!" มีสี หน้าที่เคร่งเครียดบนใบหน้าของเขา ดูเหมือนว่าเขาพร้อมที่จะเสียสละ ตัวเองเพื่อลูกของเขา แองเจเล่ย่นคิ้ว "มากับข้า ข้าไม่คิดว่าข้าจะสามารถปกป้องลูกของเจ้า ได้ด้วยตัวคนเดียว" เขาต้องการช่วยท็อดเพราะชายคนนี้มีศักยภาพ ท ็ อดป่วยและเขายังสามารถสร้างความเสียหายได้มากกว่า 100 หน่วยได้ ภายในไม่กี่วินาทีถ้าท็อดฟื้นตัวจากโรคได้เขาก็จะสามารถช่วยแอง เจเล่ได้อย่างมากในระหว่างการต่อสู้ แองเจเล่เป็นคนเดียวที่สามารถเข้าถึงน้ำสะอาดและเสบียงอาหารได้ใน โลกที่ปนเปื้อนนีเขาต้องการคนที่คุ้นเคยกับดินแดนนี้ช่วยเขาสำรวจ พื้นท ท็อดส่ายหัวเล็กน้อย "ข้ารู้สภาพของข้ากรีน ข้ากำลังจะตาย" เขามองไปที่แองเจเล่และสังเกตเห็นสีหน้าที่จริงจังบนใบหน้าของชาย หนุ่ม เขาลังเลชั่วครู่และตอบ "ดีเอาล่ะ ข้าจะไปกับเจ้า" "ตัดสินใจได้ดี" แองเจเล่พยักหน้าและมองไปที่ด้วงอีกครั้ง แต่เขาก็ต้องตกใจ พวกเขาพูดกันประมาณครึ่งนาทีเท่านั้นและด้วงก็เข้ามาใกล้แล้ว ด้วง ดำห่างจากมนุษย์ทั้งสี่ประมาณสิบเมตร แองเจเล่หยุดปล่อยแสงแห่งธอร์นและยกมือขวาขึ้นสร้างลูกลาวาบนฝ่า มือ ลูกลาวาขนาดเท่าหัวได้ลอยอยู่เหนือฝ่ามือของแองเจเล่ปลดปล่อยคลื่น ความร้อนและลำแสงสีแดง "ทำงานของเจ้า" แองเจเล่โยนลูกลาวาไปข้างหน้า มันเป็นหนึ่งในทักษะที่แข็งแกร่งที่สุดของเขาในตอนนีการสาปให้เป็น หินและตราสายเลือดเป็นเพียงสองความสามารถพิเศษที่แข็งแกร่งกว่ า ลูกลาวา เขาต้องการจะทำการทดสอบง่ายๆกับด้วงเหล่านี ลูกลาวาได้โค้งไปในอากาศแลกตกลงไปในกลุ่มด้วงดำ "ไป!" แองเจเล่หันกลับไปและผูกท็อดและเด็กทั้งสองโดยใช้สายโลหะ จากนั้นเขาก็ยกพวกเขาขึ้นด้วยสนามพลังและเริ่มวิ่ง "อะไร....!" ท็อดต้องการที่จะพูดอะไรบางอย่างแต่พวกเขากำลังเดินทาง เร็วจนลมเข้าไปในปากและจมูกของเขา เขากำลังตกใจกับความเร็วที่ พวกเขากำลังเคลื่อนที่ แองเจเล่ท็อดและเด็กสองคนได้กลายเป็นเงาเบลอสีเงินที่กำลัง เคลื่อนที่ระหว่างอาคารเห็ด ในที่สุดพวกเขาก็หยุดที่อาคารหนึ่งเพื่อให้ แองเจเล่สามารถตรวจสอบสถานการณ์ได้อย่างง่ายดายจากที่ นี่ ตูมมม เขาได้ยินเสียงระเบิดจากข้างหลัง แองเจเล่วางท็อดและลูกของเขาลงอย่างระมัดระวัง จากนั้นเขาก็หัน กลับไปและมองไปตำแหน่งที่เขาทิ้งลูกลาวาไว้ แสงสีส้มที่มาจากเปลวไฟได้ทำให้ฟ้ามืดสว่างขึ้ น มีคลื่นความร้อนที่รุนแรงแผ่ไปทุกทิศทุกทาง อาคารเห็ดด้านหน้าได้ถูก กลืนด้วยไฟและเปลวไฟที่โชติช่วงก็ครอบคลุมทุกสิ่งทุกอย่างในพื้นที่ ควันหนาเต็มท้องฟ้าและมีกลิ่นจากไม้ที่กำลังลุกไหม้ในอากาศ อาคาร ต่างๆในเปลวไฟได้หายไปภายในไม่กี่นาที แองเจเล่เฝ้าดูฉากนี้อย่างเงียบๆ มันเป็นพลังของลูกลาวาเพียงลูกเดียว และมันสามารถสร้างความเสียหายได้ใกล้เคียงกับคาถาโจมระดับสอง ทั่วไป ผลเป็นวงกว้างคือเหตุผลที่ว่าทำไมพ่อมดที่มีแกนแม่น้ำมัลเท็ น ขั้นที่สามถึงได้แข็งแกร่งมากในสนามรบ 'นั่นเป็นเหตุผลที่คนไม่บ่นแม้ว่ามันจะใช้ช่องทักษะพิเศษไปช่องหนึ่ง...' แองเจเล่ได้คิดในใจ ผลเป็นวงกว้างที่น่ากลัวมีรัศมีห้าถึง 100 เมตรขึ้นอยู่กับสถานการณ ์ และคาถาที่สามารถใช้ได้ทันทีชื่ออย่างเป็นทางการของลูกลาวาคือฝน ลาวา นี่เป็นเหตุผลว่าทำไมแกนแม่น้ำมัลเท็นถึงเป็นหนึ่งในเทคนิคการทำ สมาธิขั้นสูงที่แข็งแกร่งที่สุดสำหรับพ่อมดที่มีความสัมพันธ์กับอนุภาค พลังงานไฟสู ง ลูกลาวาได้ระเบิดในขณะที่ตกลงไปที่พื้นเปลี่ยนเป็นฝนไฟ นอกจากนี้ดูเหมือนว่าความสามารถติดตัวของฟีนิกซ์จะช่วยให้แองเจเล่ ควบคุมอนุภาคพลังงานไฟได้ดีขึ้นและลูกลาวาที่เขาปลดปล่อยมันก็ยัง แข็งแกร่งกว่าลูกที่ปลดปล่อยโดยยามรักษาการณ์เล็กน้อย เขายืนอยู่ข้างหลังอาคารเห็ดและเฝ้าดูเปลวไฟกำลังเผาไหม้มีแสงสีน้ำ เงินกะพริบข้างหน้าดวงตาของเขาในขณะที่เขาต้องการรู้ว่าลูกลาวา สร้างความเสียหายได้มากแค่ไหน ท็อดและลูกๆของเขายืนอยู่ข้างหลังแองเจเล่พวกเขากำลังตกใจ หลังจากที่เห็นความสามารถที่น่ากลัวของแองเจเล่ ท็อดเอนไปด้านข้างและมองไปที่แองเจเล่เขาไม่รู้ว่าชายหนุ่มซ่อนบัตร คริสตัลประดิษฐ์ไว้ที่ไหน แต่ตอนนี้เขารู้ว่าเขาสามารถใช้ความสามารถ อย่างนี้ได้เพียงวันละครั้งเมื่อเขายังสุขภาพดีระดับทักษะของแองเจเล่ เกินความคาดหมายของท็อด แสงสีแดงจากเปลวไฟได้ส่องลงบนร่างกายของพวกเขาและเงาของ พวกเขาก็ยืดไปบนพื้น "เอาล่ะ ไปที่พักของข้ากันเถอะ" แองเจเล่หันกลับไปและจุดแสงสีน้ำเงิน ก็หายไปจากดวงตาของเขา "ตกลง" ท็อดพยักหน้า เขารู้สึกสบายใจเมื่อได้อยู่กับชายหนุ่มข้างหน้ า เขา เขาไม่ได้รู้สึกผ่อนคลายแบบนี้มานานแล้ว เด็กทั้งสองขยับเข้ามาใกล้แองเจเล่อย่างระมัดระวังและวางมือของพวก เขาลงบนขาของแองเจเล่ มีรอยยิ้มที่อ่อนโยนบนใบหน้าของแองเจเล่เขาอุ้มเด็กทั้งสองคนขึ้นมา อย่างระมัดระวังแล้วอุ้มพวกเขาไว้ในอ้อมแขนและเดินไปที่ป่า ท็อดเหลือบมองอาคารที่กำลังลุกไหม้เป็นครั้งสุดท้ายและถอนหายใจ เขาหันกลับไปและตามแองเจเล่เข้าไปในป่า เขารู้ว่าเขาอาจจะไม่ได้มา ที่นี่อีกครั้ ง ********************** ประมาณหนึ่งชั่วโมงต่อมา ทั้งสี่ได้มาถึงคฤหาสน์ข้างแม่น้ำ เบื้องหลังของต้นไม้มันเป็นคฤหาสน์ที่ดูหรูหราที่มีผนังสีขาวและหลังคา สีแดง คฤหาสน์ได้รับการคุ้มครองโดยบาเรียรูประฆังและมีเถาวัลย์สีเขียว มากมายภายนอกบาเรีย มีดอกไม้สีแดงหลายดอกบนผิวของเถาวัลย ์ โคลนสีเข้มบนพื้นดินสะอาดและเรียบเนียน สถานที่นี้ดูเหมือนปราสาท ที่สวยงามจากเทพนิยาย สิ่งเดียวที่ขาดหายไปคือกุหลาบที่มีหนาม แองเจเล่เดินไปที่คฤหาสน์พร้อมกับเด็กทั้งสองในอ้อมแขนของเขา "นี่เป็นที่พักของข้า ข้ามีอาหารและน้ำสะอาดพอสำหรับเรา" เขาก้าวไป บนเถาวัลย ์ "มันสวยมาก...." เด็กผู้หญิงที่ชื่อเฟรย่าพูดก่อน "กรีน นี่เป็นบ้านใหม่ ของเราหรือ" เธอจ้องที่แองเจเล่และกะพริบตา "เราสามารถทำความสะอาดได้!" เด็กผู้ชายที่ชื่อเฟรย์พูดอย่างรวดเร็ว เขาแตะขาของเด็กผู้หญิงเล็กน้อยเพราะเขาไม่ต้องการให้น้องสาวของ เขาพูดอะไรบางอย่างที่ทำให้แองเจเล่โกรธ ท็อดไม่รู้ว่ามีสถานที่เช่นนี้ในดินแดนนีท็อดคิดว่ากรีนจะต้องมีภูมิหลัง ที่แข็งแกร่งก่อนที่โลกจะวุ่นวายมิฉะนั้นมันก็เป็นไปไม่ได้ที่เขาจะมี คฤหาสน์ที่ได้รับการคุ้มกันอย่างแน่นหนาเช่นนี "แน่นอน ข้าจะนับพวกเจ้าด้วย" แองเจเล่หัวเราะเบาๆ ตราบเท่าที่เขา ดูแลเด็กทั้งสองอย่างดีท็อดอาจจะทำทุกสิ่งทุกอย่างให้เขา นอกจากนี้ การทำความสะอาดบ้านจะเป็นการออกกำลังกายที่ดีสำหรับเด็กๆ แองเจเล่มั่นใจว่าท็อดยังซ่อนอะไรบางอย่างอยู่เนื่องจากเขารอดชีวิตมา ได้ในดินแดนฝันร้ายกับเด็กทั้งสองคนมาเป็นเวลานาน แองเจเล่ไม่ แน่ใจว่าเขาสามารถชนะการต่อสู้กับท็อดที่สุขภาพดีได้ไหมถ้า ปราศจากตราสายเลือด แองเจเล่ได้สังเกตบัตรคริสตัลประดิษฐ์ที่ท็อดมีและเขาก็มีความคิดที่จะ เพิ่มการป้องกันของคฤหาสน ์ โครงสร้างของอุปกรณ์นี้ทำให้เขานึกถึงอะไรบางอย่างจากโลก ระบบ โจมตีอัตโนมัติ นอกจากนี้ท็อดบอกเขาว่าด้วงดำไม่ได้เป็นสิ่งมีชีวิตที่อันตรายเพียง อย่างเดียวในพื้นที่นีแองเจเล่มีความรู้สึกว่าจะมีสิ่งมีชีวิตกลายพันธุ์ที่ แข็งแกร่งกว่านี้บุกคฤหาสน ์ ถ้าหากสถานการณ์แย่ลงและคลื่นพลังจิตของเขาถูกขัดจังหวะโดยคลื่น พลังงานจากการต่อสู้เขาก็จะไม่สามารถกลับไปโลกหลักได้ทันที แอง เจเล่ต้องเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับสถานการณ์ที่แย่ที่สุด "ไปพักผ่อนสักหน่อย พวกเจ้าเหนื่อยใช่ไหม" แองเจเล่ก้าวไปข้างหน้า และเถาวัลย์ก็ขยับไปด้านข้างด้วยตัวเองเหมือนพวกมันมีชีวิต ท็อดและลูกๆของเขากลัวเถาวัลย ์ท็อดตามหลังแองเจเล่เขาสังเกตว่า มีของเหลวเหนียวบนพื้นและกลิ่นเหม็นเปรี้ยวที่ไม่เหมือนใครทำให้เขา นึกถึงด้วงดำ ทั้งสี่ค่อยๆเข้าไปในบาเรียพลังงานและเดินเข้าไปในประตูของอาคาร หลัก เถาวัลย์ขยับไปตรงกลางและปิดกั้นทางเข้าอีกครั้ ง ************************ ในน้ำสะอาดของแม่น้ำที่อยู่อีกด้านของคฤหาสน ์ ผีเสื้อสีฟ้าค่อยๆออกจากแม่น้ำและน้ำก็กระจายไปในอากาศ ปีกของผีเสื้อมีขนาดเท่าฝ่ามือของมนุษย ์มันไม่มีลวดลายใดๆบนปีกสี ฟ้าใส ผีเสื้อระบัดปีกของมันอย่างช้าๆและวนไปเหนือแม่น้ำ มีเงาสีฟ้าขนาดมหึมาปรากฏภายใต้แม่น้ำเนสส ์ จ๋อม จ๋อม มีกลุ่มผีเสื้อสีฟ้าขนาดใหญ่เริ่มออกมาจากแม่น้ำและพวกมันก็วนอยู่ เหนือน้ำเหมือนตัวแรก ผีเสื้อที่กำลังวนดูเหมือนใบไม้สีฟ้า ฉากนี้มัน ลึกลับและสวยงาม ตอนที่342: การเปลี่ยนแปลง (1) แปลนิยาย.วันอังคารที่1 พฤษภาคม 2018 แองเจเล่เดินไปที่แผงควบคุมและแตะผิวของมัน จากนั้นเขาก็คว้าเสื้อ โค้ทจากที่แขวนเสื้อใกล้ๆ ท็อดและเด็กทั้งสองดูตื่นเต้นและโล่งใจในขณะที่พวกเขาเดินมาใน ห้องนั่งเล่ น "กรีน บาเรียที่ดูเหมือนแก้วมันแข็งแกร่งแค่ไหน มันสามารถป้องกันด้วง ดำได้หรือไม่" ท็อดสงสั ย "ไม่ต้องห่วง ระบบป้องกันที่นี่ดีพอ ข้าได้รอดจากคลื่นของการโจมตีจาก ด้วงดำและในที่สุดพวกมันก็รู้ว่าบาเรียแข็งแกร่งแค่ไหน" แองเจเล่เดิน ไปที่โซฟาและนั่งลง "นั่งสิ เจ้าปลอดภัยที่ นี่เชื่อข้า" เขานั่งลงและเห็นเด็กทั้งสองมองไปที่บาเรียพลังงานโปร่งใสด้วยความ อยากรู้อยากเห็น "กรีน เราไปตรวจบาเรียได้ไหม" เฟรย์ถามเสียดงัง แองเจเล่ยิ้ม "แน่นอน ไปสิ " "ข้าจะไปกับพวกเขา..." ท็อดลังเล "ไม่เป็นไร บาเรียไม่เป็นไรหรอก" "ข้าเชื่อเจ้าแต่....ข้าแค่ตะไปกับพวกเขา" ท็อดพยักหน้าเล็กน้อยและ ตอบเสียงเข้ม แม้ว่าระบบป้องกันรอบๆคฤหาสน์จะดูดีแต่ท็อดยังกังวลว่าเด็กๆอาจจะ พบกับสิ่งมีชีวิตกลายพันธุ์ถ้าหากพวกเขาบังเอิญก้าวออกจากบาเรีย แองเจเล่ได้บอกท็อดว่าระบบป้องกันได้ฆ่าด้วงดำมานับไม่ถ้วนแต่ท็อด ตัดสินใจที่จะไม่เชื่อจนกว่าจะเห็นด้วยตาตัวเอง แองเจเล่นั่งอยู่บนโซฟาและเอนหลัง มันรู้สึกเหมือนร่างกายของเขา กำลังจมไปในฟองน้ำนุ่มๆ เขารู้ว่าท็อดไม่ได้มีเวลาเหลือมากนักในโลกนีอย่างไรก็ตามด้วยการ รักษาพิเศษของเขาท็อดก็จะมีชีวิตอยู่ได้นานขึ้นอีกนิด ผู้รอดชีวิตที่โดด เดี่ยวของเมืองเห็ดจะกลายเป็นผู้ช่วยที่ดีที่สุดในดินแดนฝันร้าย ข่ายป้องกันรอบคฤหาสน์เป็นสิ่งที่ดีที่สุดที่เขาสามารถหาได้จากตลาด แองเจเล่ไม่แน่ใจว่าเขาสามารถป้องกันเถาวัลย์ทั้งหมดในคลื่นพลังงาน ที่ทำให้เขาช้าลงโดยไม่ได้รับบาดเจ็บได้ไหม ระบบป้องกันควรจะดีพอ สำหรับด้วงดำ ท็อดและลูกๆของเขากลับมาที่ห้องนั่งเล่นในขณะที่แองเจเล่กำลัง พักผ่อน "นั่งสิ" แองเจเล่ชี้ไปที่โซฟาข้างหน้าเขา ท็อดกระซิบอะไรบางอย่างกับเด็กๆและนั่งลงฝั่งตรงข้ามของแองเจเล่ เด็กทั้งสองยังมองไปรอบๆด้วยความอยากรู้ "กรีน เราไปเล่นในอาคารได้หรือไม่" เด็กผู้หญิงที่ชื่อเฟรย่าถามเสียงเบา "ไปเถอะ" แองเจเล่พยักหน้าในขณะที่สายตาของเขามองไปที่ท็อด "เอา ล่ะ มาพูดเรื่องเขตภาพลวงตาที่เจ้าพูดถึงในชั้นใต้ดินกัน มันคืออะไรกัน แน่" ท็อดพยักหน้า "ที่พักของเขาเยี่ยมยอดมากและข้าดีใจที่เจ้าได้สัญญา ว่าจะดูแลลูกๆของข้า" แองเจเล่เป็นเพียงความหวังเดียวของเขามิฉะนั้นเขาก็จะไม่ขอคนแปลก หน้าให้ดูแลลูกๆของเขา แม้ว่าแองเจเล่จะใจดีแต่ท็อดรู้ว่าชายหนุ่ม ต้องการอะไรบางอย่างจากเขาเขาก็จะไม่มีทางปกป้องตัวเองได้ไม่มี กฎหมายในดินแดนฝันร้าย เขาต้องคิดว่าชายหนุ่มยังมีหัวใจที่อบอุ่น ถ้าท็อดเสียชีวิตในชั้นใต้ดินลูกๆของเขาก็จะไม่สามารถอยู่รอดได้ด้วย ตัวเอง "เขตภาพลวงตาเป็นพื้นที่ที่มีปรากฏการณ์แปลกๆและพวกมันก็ปรากฏ ออกมาหลังจากที่โลกวิบัติ" ท็อดเริ่มอธิบาย "ข้ารู้สึกได้ว่าโลกนี้ได้รั บ ผลกระทบจากดินแดนอื่นและสถานการณ์เมื่อเร็วๆนี้ก็เลวร้ายลง ใน ฐานะนักล่าโคลินงานของข้าคือสื่อสารกับหินวิญญาณและข้าสามารถ รู้สึกได้ถึงการเปลี่ยนแปลงเร็วกว่าคนอื่น" แองเจเล่พยักหน้าเล็กน้อย "ใช่ แต่ข้าต้องการรู้ว่าเขตภาพลวงตา อันตรายแค่ไหน" "เจ้าสามารถหาปรากฏการณ์ที่ไม่สามารถอธิบายนี้ได้ในเขตนี้และมี สัตว์อสูรกลายพันธุ ์ภูมิประเทศและอาคารจะเปลี่ยนไปโดยไม่มีการ เตือนใดๆและมันก็ได้ฆ่าคนจำนวนมาก ลองนึกภาพอาคารได้ตกลงมา บนศีรษะของเขาในตอนที่เจ้ากำลังพูด" ท็อดเกาศีรษะของเขา มันดู เหมือนว่าหัวข้อนี้จะทำให้เขานึกถึงใครบางคน "เพื่อนร่วมทีมของข้าหกคนได้ถูกฆ่าโดยอาคารที่เปลี่ยนรูป..." "เจ้าจะรู้ได้อย่างไรว่าเจ้ากำลังยืนอยู่ในเขตภาพลวงตา" แองเจเล่ถาม ต่อ "ข้าไม่รู้" ท็อดส่ายหัว "ข้าจะไม่อยู่ในชั้นใต้ดินนั้นถ้าข้ารู้รายละเอียด ข้า ไม่อยากตายในขณะทำการสำรวจสภาพแวดล้อม ถ้าภูมิประเทศ เปลี่ยนไปข้าก็อาจจะตายในลาวาหรืออะไรบางอย่าง นอกจากนี้ บางครั้งเวลาก็จะถอยหลังกลับไปอย่างไม่มีเหตุผล" แองเจเล่คิดชั่วครู่และมองไปที่ท็อด "เมืองที่ใกล้ที่สุดและมีประชากร มากที่สุดอยู่ที่ไหน" "มีเมืองที่ชื่อเมฆาทมิฬที่อยู่ห่างจากที่นี่ไปทางตะวันออกเฉียงเหนือ 15 คิตโต้มีผู้คนอาศัยมากกว่าสามล้านก่อนที่เหตุการณ์ที่น่ากลัวเกิดขึ้น" 15 คิตโต้ประมาณ 1.5 กิโลเมตรตามที่ซีโร่บอก "ขอบคุณ" แองเจเล่ลุกขึ้นยืน "เลือกห้องที่เจ้าต้องการที่ชั้นหนึ่ง เจ้าจะ พบอาหารและน้ำในห้องครัว มีสระว่ายน้ำอยู่ข้างนอกและเจ้าสามารถ อาบน้ำที่นั่นได้มันเป็นน้ำสะอาด มีบางอย่างที่ข้าต้องจัดการและข้าจะ กลับมา" เขาเดินไปที่บันไดและหันหัวมา "มีอีกเรื่องหนึ่ง ไม่ว่ายังไงก็ตามอย่าสัมผัสเสาหิ น พวกมันเป็นเหตุผล ที่ว่าทำไมคฤหาสนี้ถึงปลอดภัย" "เดี๋ยวก่อน เจ้ากำลังจะไปไหน เจ้าต้องการความช่วยเหลือของข้า หรือไม่" ท็อดลุกขึ้นยืนด้วยเช่นกัน "ตอนนี้ข้ามีหินวิญญาณและข้า สามารถช่วยเจ้าสู้ได้ข้ามีเวลาเหลือไม่มากนัก" "ไม่เป็นไร พักผ่อนเถอะ ข้าเพียงแค่กลับไปที่ห้องของข้าเพื่อทำการวิจัย บางอย่าง" แองเจเล่ยิ้มและเดินขึ้นบันได เขาเดินไปตามทางเดินและเปิดประตูห้องอ่านหนังสือ เขาแตะที่หลังประตูหลังจากที่ก้าวเข้าไปข้างใน มีลวดลายงูสีดำปรากฏบนผิวของประตู มันกำลังส่องแสงและกะพริ บ แองเจเล่นั่งลงบนเตียงและกดที่ตราสายเลือดอย่างระมัดระวังด้วยมือ ซ้าย ชี่ มีลำแสงสีแดงกะพริบรอบร่างกายของเขา เขาลืมตาอีกครั้งและมันก็เป็นเวลาเที่ยงในโลกหลัก แสงแดดสีทองได้ส่องผ่านหน้าต่างและนำความอบอุ่นเข้าห้อง แสงสีแดงกะพริบบนหลังมือขวาของแองเจเล่มันเป็นรูนสื่อสาร เขายกมือขึ้นและแตะไปที่นิ้ว รูนแมงป่องสีแดงปรากฏบนเล็บของนิ้วชี้ของเขา เสียงของวิเวียนได้ส่งเข้ามาในหูของเขา "แองเจเล่ข้ามีตำแหน่งให้เจ้า ในสำนักงานใหญ่มันจะเป็นประโยชน์ต่ออนาคตของเจ้าถ้าเจ้ายอมรับ ข้อเสนอ โปรดไปที่สำนักงานใหญ่ก่อนที่มันจะพ้นกำหนดภายใน ประมาณครึ่งเดือน อย่าลืม" แองเจเล่ขมวดคิ้ว เขาไม่สนใจเรื่องการทำงานในสำนักงานใหญ่แต่เขารู้ว่าวิเวียนเพียงแค่ พยายามที่จะช่วยเขาเพื่อให้รู้จักคนในองค์กรให้มากขึ้นและมันก็แทบ จะเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะปฏิเสธข้อเสนอ ความตั้งใจของวิเวียนเป็นสิ่งที่ดีและแองเจเล่รู้ว่าเขาควรยอมรับ ตำแหน่งนี "ช่างมันเถอะ ข้าจะคิดเรื่องนี้ในภายหลัง" เขาหันกลับไปและเดินไปที่ หน้าต่างแล้วมองลงไปข้างล่าง มันเป็นตอนเที่ยง แม่น้ำสีเขียวดูเหมือนมรกตยาวที่มีภาพของเมฆสีขาว และบ้านไม้สีน้ำตาลสะท้อนอยู่บนผิวของมัน มีฝูงนกสีขาวกำลังพักอยู่ ริมแม่น้ำและพวกมันกำลังดื่มน้ำอย่างรวดเร็ว กลิ่นหอมของดอกไม้สีขาวและสีแดงที่สดชื่นได้ลอยอยู่ในอากาศ น้ำกระเพื่อมเล็กน้อยในสายลมเบาๆ แองเจเล่นั่งลงข้างโต๊ะและคว้าปากกาขนนกสีขาว เขาเขียนชื่อลงบน ม้วนหนัง: ระบบการโจมตีอัตโนมัติ มันเป็นสิ่งต่อไปที่เขาต้องการสร้าง เขาต้องการเวลาเพื่อทำให้คลื่นพลังจิตของเขาเสถียรหลังจากที่เสร็จสิ้น ขั้นที่สามของแกนแม่น้ำมัลเท็น ด้วยความช่วยเหลือของเทคนิคการทำสมาธิขั้นสูง ขั้นที่สามและขั้นที่สี่ ของเขาไม่ต้องเสร็จสิ้นขั้นแก๊ส ของเหลวและคริสตัลเหมือนพ่อมดฝั่ง ตะวันตก แองเจเล่สามารถไปถึงระดับต่อไปได้ถ้าเขาสามารถเสร็จสิ้น ขั้นต่อไป เขาได้เสร็จสิ้นขั้นสามและก้าวถึงระดับสองไม่นานทำให้เขาแทบจะไม่ รู้จักคาถาระดับสองใดๆ เพื่อให้ถึงระดับสามเขาจะต้องเสร็จสิ้นขั้นที่สี่ของแกนแม่น้ำมัลเท็น นอกจากนี้ขั้นที่สี่ของแกนแม่น้ำมัลเท็นก็ยังเป็นสิ่งสำคัญและเขาต้อง เตรียมความพร้อมสำหรับการท้าทายให้เต็มที่ สี่ขั้นตอนแรกของเทคนิคเกี่ยวข้องกับอนุภาคพลังงานไฟ ขั้นที่ห้าถึง แปดเกี่ยวข้องกับอนุภาคพลังงานดินและสี่ขั้นตอนสุดท้ายเป็นการ รวมกันของขั้นก่อนหน้านี้ทั้งหมด แองเจเล่ใช้เวลาอีกหลายวันเพื่อศึกษาระบบการโจมตีอัตโนมัติเขา ต้องการระบบอเนกประสงค์นี้เพราะเขาไม่ต้องการให้ระบบสูญเสียการ ควบคุมภายใต้สถานการณ์พิเศษ เขาได้มอบงานส่วนหนึ่งให้กับชิปและแบ่งแผนออกเป็นหลายขั้นตอน ****************************** ห้าวันต่อมา "ท่านแองเจเล่ท่านเซธและท่านนิโคลมาที่นี่" เสียงของลินมาจากข้างนอก "เข้าใจแล้ว ข้าจะรีบไป" แองเจเล่นั่งข้างโต๊ะและขยับเอกสารไปด้านข้าง เขาได้ใช้เวลาหลายวันในการออกแบบระบบแต่เขาก็ยังรอผลคำนวณ จากซีโร่เซธและนิโคลเป็นนักเรียนของวิเวียน พวกเขาเป็นเหมือนพี่ชาย และพี่สาวของแองเจเล่เพราะพวกเขาได้รับแกนแม่น้ำมัลเท็นจากวิ เวียน แองเจเล่หายใจเข้าลึกๆและลุกขึ้นยืน กล้ามเนื้อบนใบหน้าของเขาตึงเล็กน้อย เขาก้าวออกมาจากห้องและ เดินลงบันได เซธและสาวสวยที่มีผิวสะอาดกำลังนั่งรอเขาอยู่ในห้องนั่งเล่น "เซธ นิโคล อะไรทำให้พวกเจ้ามาที่นี่" แองเจเล่ยิ้มอย่างอ่อนโยน เซธและนิโคลลุกขึ้นยืนและกอดแองเจเล่ทีละคน เซธกำลังสวมโค้ทสีเหลืองและกางเกงขาสั้น เขาดูเหมือนคนที่อาศัยอยู่ ข้างทะเลที่มีผิวสีแทน มีผ้าคาดศีรษะสีทองซ่อนอยู่ภายใต้ผมสีดำของ เขา เซธดูเหมือนชายอายุประมาณสามสิบกลางๆ เขาไม่หล่อแต่รอยยิ้มบน ใบหน้าของเขาทำให้มีเสน่ห ์ เธอดูเหมือนสาวน่ารักจากเพื่อนบ้าน เธอกำลังสวมชุดสีขาวพร้อมกับมี คทาสั้นสีขาวในมือ มีทับทิมสีแดงเข้มที่ปลายคทา ผมสีดำยาวของเธอพาดอยู่เหนือไหล่และเธอก็ดูเหมือนผู้หญิงอายุยี่สิบ ชุดของเธอแน่นทำให้เห็นรูปร่างของเธอ เธอกำลังมองมาที่แองเจเล่ด้วย คู่ดวงตาสีแดงและมีรอยยิ้มที่อ่อนโยนบนใบหน้าของเธอ "ไม่ได้มาเยี่ยมเจ้าสักพักแล้วและข้าได้ยินว่าเจ้าโดนกักบริเวณ มันเป็น ความจริงไหม" นิโคลถามเสียงเบา พ่อมดทั้งสามคนนั่งลงและสาวใช้ก็นำชามาให้พวกเขา "ข้ารู้มันเป็นความจริง สถานการณ์มันซับซ้อนแต่ข้าได้ยินมาว่าแอง เจเล่ได้ต่อสู้กับท่านโชโซอย่างรุนแรง ท่านวิเวียนได้บอกให้เขาอยู่ใน คฤหาสน์จนกว่าเขาจะเสร็จขั้นที่สี่ของแกนแม่น้ำมัลเท็น" เซธหัวเราะ เยาะ "เจ้าไม่ได้มาที่นี่เพียงเพื่อหัวเราะข้าใช่ไหม" แองเจเล่กลอกตา "เซธ ข้า คิดว่าเจ้าจะอยู่ในสำนักงานใหญ่นานกว่านี้อีกสักหน่อย ของขวัญที่เจ้ า สัญญากับข้าอยู่ไหน" เขาหันไปหาเซธ "....สถานการณ์ของข้ามันมีความซับซ้อนเช่นกัน...." เซธขดริมฝีปาก "เราได้ถูกไล่ออก ข้าพบนิโคลในระหว่างทางที่ไปสำนักงานใหญ่และเรา ก็ต้องการเดินทางด้วยกันแต่มีเรื่องไม่ดีเกิดขึ้น...." นิโคลส่ายหัวและถอนหายใจ "เรื่องไม่ดีหรือ.....เจ้าได้ต่อสู้กับใครบาง คนเพื่อผู้หญิงและเราทั้งคู่ก็ถูกไล่ออก.....ทำไมเจ้าต้องพยายามซ่อนมัน จากแองเจเล่ " ตอนที่343: การเปลี่ยนแปลง (2) แปลนิยาย.วันพุธที่2 พฤษภาคม 2018 ตอนที่340 ฉายา 'ตู้นภา' เปลี่ยนเป็ น 'ล็อคนภา'นะครับ ตอน แปลก็แปลกๆแต่ผมนึกไม่ออกเดี๋ยวใช้ทับไปเลย นิโคลถอนหายใจด้วยความรู้สึกที่หลากหลาย "ถ้าเจ้าสามารถ เสร็จสิ้นขั้นที่สี่ได้เราก็คงจะชนะการต่อสู้และเราก็ไม่จำเป็นต้อง วิ่งหนี " เซธเกาหั ว "เจ้ากำลังพูดเรื่องอะไร มันต้องใช้ความพยายาม อย่างมากในการก้าวไปสู่ระดับที่สาม ข้าอายุ240 ปีแต่ข้าก็ยังมี ปัญหากับขั้นที่สี่ข้าคิดว่าข้าจะติดอยู่ขั้นที่สามทั้งชีวิตของข้า...." "ข้าก้าวสู่ระดับต่อไปเมื่อข้าอายุ260 ปีอย่ายอมแพ้" นิโคลมอง ไปที่เซธ "บาตั น กรีนแลนด์และเจ้าไปถึงระดับที่สามเมื่อหลายปีก่อน ทำไมเจ้าถึงไม่พยายามอย่างหนักเพื่อให้ไปถึงระดับสี่ล่ ะ เจ้าจะ ได้รับการเลื่อนตำแหน่งในองค์กรและสถานการณ์จะแตกต่างไป จากเดิมอย่างสิ้นเชิงเมื่อเจ้าเป็นแม่มดแห่งรุ่งอรุณ" เซธสงสั ย "มันยากกว่าที่เจ้าคิ ด ข้าสามารถหาเปลวไฟพิเศษได้แต่ปัญหา หลักคือการสลักวงเวท มันไม่มีทางลั ด เจ้าจะต้องเรียนรู้ไปทีละ ขั้น" รอยยิ้มหายไปจากใบหน้าของนิโคล "พวกเรามีอยู่ห้าคน และคนที่มีพรสวรรค์ที่สุดคือโชโซ เขาได้ตรงตามข้อกำหนดเมื่ อ เขาอายุได้300 ปีขั้นที่ห้ายากที่จะสำเร็จและข้าไม่ได้พูดเกิน จริง" ดูเหมือนว่าหัวข้อนี้ทำให้เธอนึกถึงอะไรบางอย่าง "เจ้าต้องเสร็จสิ้นขั้นที่ห้าของแกนแม่น้ำมัลเท็นเพื่อเป็นแม่มด แห่งรุ่งอรุณใช่ไหม ทำไมมันฟังดูยากจัง" แองเจเล่สงสัย "เจ้าถึ ง ระดับที่สามเมื่อหลายปีก่อนและเจ้ายังคิดวิธีสลักไม่ออกหรือ" นิโคลส่ายหัว "ไม่ศักยภาพของเราจะถูกใช้เราจะไม่สามารถ สลักได้ทั้งหมดถ้าเราไม่พบวิธีที่จะช่วยเร่งความเร็ ว ข้าหวังว่าข้ า จะมีเวลามากขึ้น..." "นอกจากนี้สำหรับขั้นที่สี่ของแกนแม่น้ำมัลเท็ น มันยากกว่าที่เจ้ า คิดไว้เจ้าจะย้ายไปสู่ในระดับที่ต่างออกไป" เธอเสริ ม "แล้วเรื่องตระกูลของเจ้าล่ะนิโคล" เซธย่นคิ้ ว "น้องชายของเจ้ า กำลังมีปัญหาใหญ่ในตอนนี้...." "นั่นเป็นเหตุผลที่ข้ากำลังมุ่งหน้ากลับตระกูล" นิโคลยิ้มอีกครั้ ง "ข้าไม่ได้เยี่ยมตระกูลของข้านานแล้วแต่น้องชายของข้าก็ยังชอบ ข้ามากที่สุด ข้าควรสนับสนุนเขาเมื่อเขาต้องการความช่วยเหลือ จากข้า" "ทำไมเจ้าถึงไม่พาเขาไปกับเจ้า...." เซธขดริมฝีปาก เขาไม่ได้ ดู เหมือนชายที่อายุ240 ปี เขาหันกลับมามองที่แองเจเล่ "แองเจเล่ความคืบหน้าของเจ้าเป็นอย่างไรบ้าง เสร็จขั้นแรก แล้วใช่ไหม เจ้าจะต้องเสร็จสิ้นขั้นที่สองภายใน 50 ปีเจ้ายังเยาว ์ และเจ้าอาจจะเป็นพ่อมดแห่งรุ่งอรุณ" เซธกำลังยิ้มเหมือนเด็ ก "ข้าหรื อ กำลังไปได้สวย" แองเจเล่ไม่ต้องการบอกเซธว่าเขาได้ เสร็จสิ้นขั้นที่สามแล้ ว มันเร็วเกินไปสำหรับพ่อมดที่มีระดับ พรสวรรค์ทั่วๆไปที่พัฒนาเร็วเช่นนี้เขาไม่ต้องการดึงดูดความ สนใจมากเกินไป พ่อมดแห่งรุ่งอรุณแข็งแกร่งกว่าพ่อมดระดับสาม นั่นเป็นเหตุผล ว่าทำไมพ่อมดระดับสี่จึงมีฉายาพิเศษเช่นนี้ พ่อมดแห่งรุ่งอรุณมีอายุขัยโดยเฉลี่ยเกือบ 1,000 ปีและพ่อมด ทั่วไปมีเพียง 500 ปีเท่านั้ น ร่างกายและระดับพลังจิตของพวก เขาได้ถูกปรับปรุ ง ทั้งสามนั่งคุยกันเรื่องสลักวงเวท วงเวทสลักจากแกนแม่น้ำมัลเท็นเป็นสิ่งสำคัญที่จะเพิ่มระดั บ พลังจิตให้พ่อมดที่ฝึกฝนมั น นอกจากนี้วงเวทยังเป็นสิ่งจำเป็ น สำหรับการเสร็จสิ้นขั้นต่อๆมา แองเจเล่สังเกตเห็นว่าความเร็วในการสลักวงเวทของเขา ใกล้เคียงกับนิโคลและเซธ วิธีที่เขาใช้ก็เหมือนกั น เขาใช้เทคนิคพิเศษที่เฮนน์สอนเพื่อเพิ่มระดับพลังจิตและเสร็ จ สิ้นขั้นตอนสุดท้าย มันเป็นทางลั ด เขาไม่ได้ทำตามคำแนะนำ ของแกนแม่น้ำมัลเท็น กล่าวอีกนัยหนึ่งก็คือเขาได้ข้ามไปหลายขั้นตอนโดยใช้วงเวท แปลงพลังงาน อย่างไรก็ตามมันไม่มีทางลัดสำหรับขั้นตอนต่อมา แม้ว่าเฮนน์จะบอกเขาว่าวิธีการพิเศษนี้จะไม่ทำให้มีสิ่งเจือปนใน พลังจิตของเขามากแต่เขาก็ยังต้องการเวลาที่จะทำให้พลังจิต ของเขาเสถียรและใช้เทคนิคการทำสมาธิเพื่อแปลงพลังจิตจาก เปลวไฟให้เป็นของตัวเอง มันไม่ได้มีผลร้ายแรง ในระหว่างการสนทนาแองเจเล่ได้รู้ว่านิโคล เซธ บาตันและ กรีนแลนด์ได้ติดอยู่กับการสลักวงเวท พลังจิตของพวกเขาได้ตรง ตามข้อกำหนดแล้วแต่พวกเขามีปัญหาอย่างมากในการพยายาม ผ่านมันไป แองเจเล่รู้ว่าชิปจะช่วยแก้ปัญหาอย่างมากเมื่อเขาพบคอขวด เขามั่นใจในความสามารถของชิปแต่เขาก็รู้สึกไม่มั่นใจหลังจากที่ ได้ฟังคำพูดของพวกเขา ถ้าเขาต้องการที่จะกำจัดผลกระทบทั้งหมดเขาก็จะต้องทำตาม คำแนะนำทีละขั้นตอน แองเจเล่อาจจะไม่สามารถก้าวไปสู่ระดับ ที่สี่ได้ถ้าเขาไม่เข้าใจพื้นฐานทั้งหมด เขาต้องการรู้สาเหตุที่เฮนน์บอกว่ามันจะไม่มีผลกระทบใดๆ แองเจเล่ได้เรียนรู้อย่างมากจากการสนทนาและเขาตัดสินใจที่จะ ยกเลิกเรื่องวงเวทแปลงพลังงานในตอนนี้ เขาต้องการที่จะเรียนวงเวทเหมือนกับคนอื่นๆที่กำลังฝึกฝนแกน แม่น้ำมัลเท็นและหาวิธีปกติในการเพิ่มพลังจิตของเขา เซธและนิโคลตัดสินใจที่จะออกไปหลังจากที่จบการสนทนา "ข้าจะไปส่งเจ้าที่ประตู " แองเจเล่ลุกขึ้นยืน "ตกลง ข้าอยากจะจับปลาจากแม่น้ำก่อนที่ข้าจะไป" เซธหัวเราะ เบาๆ "นิโคล แจ้งให้ข้ารู้ถ้าเจ้าต้องการความช่วยเหลือใดๆ" แองเจเล่ ละเลยเซธและมองไปที่นิโคล "ขอบคุณ" นิโคลพยักหน้ า เธอต้องการที่จะแก้ปัญหาความ ขัดแย้งระหว่างตระกูลและเธออาจจะต้องการความช่วยเหลื อ ของแองเจเล่ นิโคลเป็นหนึ่งในนักเรียนทั้งห้าของวิเวียนและความสัมพันธ์ของ เธอกับแองเจเล่ก็ค่อนข้างดีเธอจะขอความช่วยเหลือเมื่อเธอ ต้องการและจะหาวิธีชดใช้ให้แองเจเล่ในภายหลัง พวกเขาออกจากห้องนั่งเล่นและเดินไปที่ประตู แองเจเล่เฝ้าดูพวกเขาขึ้นม้าและหายไปในป่า เขาหันกลับไปและกลับไปที่ห้องนั่งเล่ น "อย่าขัดจังหวะข้า ข้าต้องทำการวิจัยของข้าต่อ" เขามองไปที่ลิน แล้วสั่ ง จากนั้นเขาก็กลับไปที่ห้องอ่านหนังสื อ แองเจเล่เดินตรงไปที่โต๊ ะ อย่างไรก็ตาม เขาก็พบปัญหาหลังจากที่หยิบปากกาขึ้นมา 'ข้าอาจจะต้องหยุดก่อนและไปตรวจสอบสถานการณ์ในดินแดน ฝันร้าย' เขาวางมือซ้ายไว้บนตราสายเลือดและหายไปจากห้อง ************************** ในดินแดนฝันร้าย แองเจเล่ค่อยๆลืมตาและเห็นว่ามีหมอกสีแดงในอากาศ เขายังนั่งอยู่ข้างโต๊ะตรงหน้าต่าง แองเจเล่มองออกไปนอกหน้าต่างและสังเกตว่ามีผีเสื้อสีฟ้า มากมายกำลังบินอยู่นอกบาเรียพลังงาน ผีเสื้อสีฟ้าดูเหมือนเศษกระดาษสีฟ้าที่กำลังวนรอบคฤหาสน ์ การแสดงออกของแองเจเล่เปลี่ยนไป ข้าเปิดประตูและออกจาก ห้องทันที เขาเดินลงบันไดและเห็นท็อดกำลังเช็ดบัตรคริสตัลประดิษฐ์บน แขนขวาของเขาอย่างระมัดระวัง ชายคนนี้กำลังเตรียมพร้อมที่ จะต่อสู้ "เกิดอะไรขึ้น" แองเจเล่เดินไปที่ท็อดและถาม "ข้าไม่ รู้ข้าไม่เคยเห็นผีเสื้อเหล่านั้นมาก่อน" ท็อดเงยหน้าขึ้ น ดู เหมือนว่าเขาไม่ได้แปลกใจหลังจากที่เห็นแองเจเล่เดินลงบันได "เจ้าเห็นพวกมันจากหน้าต่างใช่ไหม มันมีผีเสื้อมากขึ้นทุกๆวัน ในช่วงหลายวันนี้ " "ระบบป้องกันของข้าสามารถป้องกันการโจมตีของพวกมันได้ เจ้าได้ลองโจมตีพวกมันจากภายในไหม" แองเจเล่ถาม "ข้าทำ" ท็อดพยักหน้ า "แต่ว่ายาของเจ้ามันเป็นประโยชน์อย่าง ไม่น่าเชื่อ ร่างกายของข้าฟื้นตัวอย่างรวดเร็ ว ผีเสื้อเหล่านั้นมี ความสามารถพิเศษเพียงอย่างเดียว พวกมันสามารถดูดซับและ ขัดพลังงานจากหินวิญญาณของข้าได้เราจะต้องสร้างความ เสียหายกายภาพกับพวกมันหรือปลดปล่อยการโจมตีพลังงานที่ เร็วมากเพื่อให้พวกมันดูดซับไม่ทัน" ท็อดกัดริมฝีปากและพูดต่อ "ข้าไม่แน่ใจว่าพวกมันจะไม่สามารถ ทำลายบาเรียของเจ้าได้จริงๆ" เขาดูกังวล "ไม่ต้องกังวล ข้าจะไปตรวจสอบสถานการณ์ " แองเจเล่มองไป รอบๆ "เด็กๆไปไหน" "ข้าได้บอกให้พวกเขาอยู่ในห้องและพักผ่อน" ท็อดตอบเสียงเข้ม "ดีเจ้าต้องการไปกับข้าไหม" "แน่นอน" ท็อดลุกขึ้นยืนและเหวี่ยงแขนขวา แคร๊ก ฝาบนบัตรคริสตัลประดิษฐ์เปิ ด มีอุปกรณ์และสายจำนวนนับไม่ ถ้วนในแกนของสิ่งประดิษฐ ์บัตรคริสตัลสีน้ำเงินวางอยู่ตรงกลาง ของแกนอย่างเงียบๆ มีลวดลายที่ซับซ้อนปกคลุมผิวของบัตรคริสตั ล ท็อดแตะไปที่บัตรคริสตัลและปิดฝา จากนั้นเขาก็พยักหน้าให้ แองเจเล่ แองเจเล่พยักหน้าด้วยเช่นกันและมีมีดสีน้ำเงินยาวสองเล่มเลื่อน ลงมาที่มือของเขาจากแขนเสื้อ เขาเปิดประตูและพวกเขาก็ก้าวออกจากอาคารพร้อมกัน ท้องฟ้าปกคลุมไปด้วยผีเสื้อสีฟ้าที่กำลังบิน ผีเสื้อสีฟ้ากำลังวนรอบคฤหาสน์โดยไม่ได้ส่งเสียงใดๆ ฉากนี้มั น เงียบแต่ก็น่ากลั ว "มีเพียงความเสียหายทางกายภาพหรือ" แองเจเล่พึมพำใน ขณะที่เขาหรี่ตาลง เขาเงยหน้าขึ้นและมองไปที่ผีเสื้อสีฟ้ า ผีเสื้อสีฟ้าที่ดูไม่มีที่สิ้นสุดเกือบจะปิดกั้นแสงแดด ท้องของพวก มันสั่นสะเทือนเล็กน้อย มีพวกมันจำนวนมากดังนั้นพวกมั น เกือบจะปกคลุมทั้งบาเรี ย ภาพที่เห็นทำให้กะโหลกของแองเจเล่ชา ทั้งสองยืนอยู่ในเงา ขนาดใหญ่ที่สร้างโดยผีเสื้ อ "ลองดู " แองเจเล่ปรบมือและรวมมีดสองเล่มเข้าด้วยกั น เขายก มือซ้ายขึ้นและชี้ไปที่ผีเสื้อสีฟ้าข้างนอกบาเรียด้วยแหวนเงิ น "แสงแห่งธอร์น!" เขาร่ายคาถา มีบอลแสงสีทองปรากฏเหนือฝ่ามือของแองเจเล่ ชี่ ลำแสงสีทองปลดปล่อยออกมาจากลูกแสง ลำแสงสีทองดู เหมือนลูกศรที่ถูกยิงไปทุกทิศทุกทาง ท็อดยังคงสงบ เขายกแขนขวาขึ้นและเช็ดกำปั้นแล้วก็หลับตา เขาเพียงยืนอยู่ที่นั่นอย่างเงียบๆ ชี่ สายสีน้ำเงินที่คุ้นเคยค่อยๆปรากฏรอบร่างกายของเขา มันมีสายสีน้ำเงินถูกสร้างเพิ่มขึ้นทุกวินาทีพวกมันเริ่มหมุนรอบ ท็อด หลายนาทีต่อมาท็อดที่กำลังยืนอยู่ตรงกลางคลื่นวนที่สร้างโดย สายเหล่านั้ น แสงสีน้ำเงินที่กำลังกะพริบได้ส่องลงบนวัตถุใน พื้นที่และมันก็แข็งแกร่งกว่าแสงสีทองจากแองเจเล่ "ล็อคท้องฟ้า!" ท็อดเงยหน้าขึ้นและยื่นแขนขวาออกมา สายสีน้ำเงินทั้งหมดรวมกันอยู่ที่กำปั้นของเขาภายในเวลาอันสั้ น และหายไปในอากาศพร้อมกัน แองเจเล่ตรวจพบพลังงานที่กำลังเคลื่อนไหวในอากาศ เขาหันไป มองและกระโดดห่างออกไปหลายเมตร ตูมมม สายสีน้ำเงินทั้งหมดระเบิดพร้อมกั น แสงสีน้ำเงินที่ทำให้มองไม่เห็นได้ปลดปล่อยมาจากมือขวาของท ็ อด สายสีน้ำเงินเปลี่ยนเป็นโซ่สีน้ำเงินและผ่านบาเรียบินไปที่ ผีเสื้อสีฟ้าที่กำลังหมุนวน ผีเสื้อทั้งหมดที่สัมผัสกับโซ่ถูกขังในฟองสีน้ำเงินและพวกมันก ็ หยุดเคลื่อนไหว ทั้งท้องฟ้าถูกปกคลุมไปด้วยฟองน้ำสีเงินแปลกๆ หลังจากโซ่สีน้ำเงิน ลำแสงสีทองก็เจาะผีเสื้อสีฟ้าที่ติดอยู่ผีเสื้อ ระเบิดและส่วนที่เรืองแสงที่เหลืออยู่ของพวกมันเริ่มตกลงไปที่ พื้นเหมือนหิ่งห้อย มันดูเหมือนหิมะสีฟ้าที่มาจากท้องฟ้ า แคร๊ก หินเวทมนต์คุณภาพสูงในบัตรคริสตัลประดิษฐ์ของท็อดได้แตก สีของมันเปลี่ยนจากสีดำเป็นสีโปร่งใสและหินก็เปลี่ยนเป็นขี้เถ้ า สีขาวแล้วลอยไปตามลม ตอนที่344: เวลาที่ผ่านไป (1) แปลนิยาย.วันพุธที่2 พฤษภาคม 2018 ผีเสื้อสีฟ้าได้เป็นชิ้นๆและซากศพของพวกมันก็ค่อยๆตกลงมาที่พื้น ทั้งคฤหาสน์ล้อมรอบไปด้วยแสงสีฟ้ า แองเจเล่ก้าวไปข้างหน้าหลายก้าวและยื่นมือขวาออกนอกกำแพงจับไป ที่จุดแสงสีฟ้าหลายจุ ด จุดแสงสีฟ้าตกลงตรงกลางฝ่ามือของเขาและเปลี่ยนเป็นขี้เถ้าขนาดเล็ก "มันจบแล้ว" เขาพึมพำในขณะที่มองไปที่ท็อด "ท็อด" ท็อดยืนเบิกตากว้างอยู่ที่นั่นอย่างเงียบๆ แองเจเล่ลังเลชั่วครู่และตระหนักได้ว่าเกิดอะไรขึ้น เขาเดินไปที่ท็อดและ วางมือขวาไว้ที่หน้าอกของเขา มันเย็นและไม่มีการเต้นของหัวใจ "เขาจากไปแล้ว...." แองเจเล่ตรวจสอบสภาพร่างกายของท็อดอีกครั้ง โดยใช้ซีโร่และได้ข้อสรุ ป ทันใดนั้นเขาก็ได้ยินเสียงคนร้องไห้จากประตูหลักของอาคาร แองเจเล่หันไปและเห็นเด็กสองคนกำลังร้องไห้ข้างประตูพวกเขายืนอยู่ ที่นั่นและจ้องมาที่พ่อของพวกเขา มีน้ำตาไหลลงไปตามแก้มของพวก เขา แองเจเล่รู้สึกหดหู่ใจเล็กน้อย เขาเอามือขวาวางไว้บนไหล่ซ้ายของท็อด อย่างระมัดระวัง ของเหลวโลหะสีเงินได้ปกคลุมร่างกายของท็อดและสนามพลังของแอง เจเล่ก็ค่อยๆยกเขาขึ้ น เขานำศพไปหาเด็กๆทั้งสองคน "ไปกันเถอะ เราจะฝังเขาไว้ในสนามหลังบ้าน" เขาพูดเสียงเบา แองเจเล่ ต้องการให้ท็อดช่วยเขาสำรวจดินแดนนี้แต่เขาไม่ได้คาดหวังว่าท็อดจะ ใช้ความแข็งแกร่งที่เหลืออยู่ทั้งหมดและเสียชีวิตอย่างง่ายดาย แองเจเล่เดินไปที่สนามหลังบ้านกับเด็กทั้งสอง ในสนามหลังบ้านมีป้ายหลุมฝังศพจำนวนมากอยู่แล้ว ป้ายหลุมฝังศพ สีเทาเรียงรายอยู่ที่พื้นที่ว่างข้างหลังสวนเล็กๆ มันเป็นช่วงบ่าย แสงแดดสีส้มได้ส่องลงบนแผ่นดิน แองเจเล่ฝังท็อดอย่างระมัดระวังและจารึกชื่อของเขาไว้บนป้ายหลุมฝัง ศพ เด็กทั้งสองร้องไห้อย่างหนั ก แองเจเล่ไม่แน่ใจว่าควรปลอบอย่างไร ดินแดนฝันร้ายอันตรายและคนส่วนใหญ่ก็ตายไปแล้ว พ่อมดโบราณจากโลกหลักอาจจะสื่อสารกับสิ่งมีชีวิตที่มีสติปัญญาจาก ดินแดนฝันร้ายก่อนที่เหตุการณ์ร้ายๆจะเกิดขึ้น อย่างไรก็ตาม มันดู เหมือนว่าดินแดนนี้จะอาศัยอยู่ไม่ได้ในขณะนีแองเจเล่ไม่เข้าใจว่า ทำไมท็อดถึงตัดสินใจที่จะเผาผลาญตัวเองในเมื่อบาเรียพลังงานยั ง ต่อต้านผีเสื้อสีฟ้าได้อยู่เขาควรจะแสดงความแข็งแกร่งของบาเรียแก่ท ็ อด "พ่อของพวกเจ้าได้สอนวิธีใช้บัตรคริสตัลประดิษฐ์แก่พวกเจ้าหรือไม่" แองเจเล่รออย่างอดทนจนกระทั่งเด็กทั้งสองสงบลงและถาม "ครับ เรารู้วิธีใช้อุปกรณ์นี้" เฟรย์พยักหน้าเล็กน้อย เฟรย่าคว้าไปที่ แขนขวาของพี่เธอ พวกเขารู้ว่าพวกเขาจะต้องเรียนรู้วิธีเอาตัวรอดใน โลกที่วุ่นวายนี "เยี่ยม" แองเจเล่พยักหน้าและลูบศีรษะของเด็กทั้งสอง "พ่อของเจ้าได้ ทำทุกอย่างให้พวกเจ้าและข้าแน่ใจว่าเขาต้องการเห็นพวกเจ้ามีชีวิตที่มี ความสุข ดูแลตัวเองให้ดี" "ครับ/ค่ะ" เด็กทั้งสองมีสีหน้าจริงจั ง "ไปพักผ่อนเถอะ ใช้วิธีการฝึกที่พ่อของพวกเจ้าสอนเจ้าและเริ่มฝึกซ้อม ในวันพรุ่งนี้ เอานี่รับไปสิ" แองเจเล่ยื่นบัตรคริสตัลประดิษฐ์ที่เขาเอา ออกมาจากแขนของท็อดให้เด็กทั้งสอง บัตรคริสตัลประดิษฐ์สีดำมีน้ำหนักประมาณเจ็ดกิโลกรัม มันอาจจะ หนักไปหน่อยสำหรับเด็กๆ เฟรย์เช็ดน้ำตาและคว้าบัตรคริสตัลประดิษฐ์อย่างระมัดระวัง "กรีน ข้าจะทำงานอย่างหนักและเรียนรู้วิธีใช้สิ่งประดิษฐ์นี้" เขาโค้งให้ แองเจเล่ "เจ้าต้องการทำอะไรในอนาคต" แองเจเล่มองไปที่เฟรย ์ เฟรย์กัดริมฝีปากของเขาเล็กน้อยและมองไปที่บัตรคริสตัลประดิษฐ ์ "ข้าต้องการปกป้องน้องสาวของข้า กรีน ได้โปรดให้ข้าทำงานให้ท่าน ข้าไม่ต้องการน้ำสะอาดแลเสบียงอาหารจากท่านฟรีๆ" แองเจเล่มองไปที่เด็กผู้ชายและยิ้ ม เฟรย์รู้ว่าไม่มีของฟรีในโลกนีมันดูเหมือนว่าท็อดสอนพวกเขาได้ดีเขา ต้องการปกป้องน้องสาวและเขารู้ว่าเขาต้องการเสบียงโดยการทำงาน ในคฤหาสน ์ แองเจเล่ได้รู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับนักล่าในดินแดนนี นักล่าเป็นนักสู้ที่แข็งแกร่งที่มีประสบการณ์ในทางปฏิบัติมากมาย อย่างไรก็ตาม พวกเขาเป็นแค่ปุถุชนที่มีความสามารถในการควบคุม อนุภาคพลังงาน ทักษะของพวกเขาทรงพลังแต่อายุขัยของพวกเขา ไม่ได้ขยายเหมือนกรณีของพ่อมด มีหลายคนถูกฆ่าที่เขตภาพลวงตา และตายในช่วงอายุสามสิบกลางๆเนื่องจากรังสีพลังงานและทรัพยากร ที่เป็นมลพิ ษ ในโลกที่เสื่อมโทรมนี้มันแทบจะเป็นไปไม่ได้ที่จะพบน้ำสะอาดและ อาหาร เฟรย์ตัดสินใจที่จะลุกขึ้นยืนและปกป้องน้องสาวตัวเองจากอันตราย แองเจเล่จ้องไปที่เด็กผู้ชายและเขามองเห็นความแน่วแน่ในดวงตาของ เฟรย์ มีบัตรคริสตัลประดิษฐ์เพียงอันเดียวและเด็กผู้ชายมีศักยภาพที่จะ กลายเป็นนักล่ า 'เด็กคนนี้จะต้องเป็นนักล่าที่ยิ่งใหญ่ในอนาคต....' แองเจเล่คิด "ตกลง ไปกันเถอะ ทำงานให้ข้าและข้าจะมอบสภาพแวดล้อมที่ ปลอดภัยในการใช้ชีวิตให้เจ้า" แองเจเล่พยักหน้า เขาหันกลับไปและ เดินไปที่อาคารหลัก ****************************** ของส่วนใหญ่ในดินแดนฝันร้ายจะต้องได้รับการดูแล แองเจเล่จะจัดส่ง น้ำสะอาดและเสบียงอาหารให้กับเด็กๆเป็นครั้งคราว นอกจากนี้เขายัง แทนที่หินเวทมนต์ในแผงควบคุมด้วยบัตรคริสตัล บัตรคริสตัลหนึ่งใบสามารถทำให้ข่ายมีพลังงานพอที่จะใช้งานได้นาน กว่าสามปี เฟรย์ยังคงฝึกฝนทักษะโดยใช้บัตรคริสตัลประดิษฐ์ในสนามฝึกของ คฤหาสน ์แองเจเล่ให้หินเวทมนต์คุณภาพสูงจำนวนมากแก่เขาและเฟร ย่าได้ทำงานบ้านหลายอย่าง แองเจเล่เป็นเพียงคนเดียวที่พวกเขารู้จักในดินแดนฝันร้ายและพวกเขา ก็ใกล้ชิดกันมากขึ้น เฟรย์และเฟรย่าปฏิบัติกับแองเจเล่ราวกับเป็นพ่อ ของพวกเขา แม้ว่าบางครั้งแองเจเล่จะหายไปหลายวันเขาก็จะกลับมาพร้อมอาหาร และเครื่องดื่ม นอกจากนี้เขาได้มอบของขวัญที่น่าสนใจให้เฟรย่าหลาย อย่างเพื่อให้เธอเล่นกับมัน ด้วยความช่วยเหลือของบาเรียพลังงานชีวิตของพวกเขาในดินแดนฝัน ร้ายนั้นสงบและมีความสุข ในโลกหลักแองเจเล่ได้เดินทางไปที่สำนักงานใหญ่ของหัตถ์ธาตุแล้ว และยอมรับข้อเสนอที่วิเวียนอยากให้ ****************************** สำนักงานใหญ่ของหัตถ์ธาตุอยู่ในเมืองขนาดใหญ่ที่เรียกว่า'บทเพลง เงือก' มีเมฆเบาบางในท้องฟ้าสีเทาและบรรยากาศก็หนักอึ้ง มีปราสาทสีเหลืองทรงสี่เหลี่ยมมุมฉากตั้งอยู่เงียบๆบนเนินเขาเล็กๆใน ต้นไม้สีเขียวจำนวนมาก มีสี่เหลี่ยมสีขาวตรงกลางของมัน ปราสาทล้อมรอบไปด้วยคูน้ำใสสะอาด สายลมที่อ่อนโยนได้ทำให้น้ำ กระเพื่อม ภาพของปราสาทได้สะท้อนอยู่บนผิวของมั น บนสะพานเหนือคูน้ำ รถม้าสองคันค่อยๆเคลื่อนที่เข้าไปในประตูปราสาท มียามชุดเกราะสี ขาวกำลังหาวมองมาที่รถม้าแต่ไม่ได้ทำอะไร รถม้าคันซ้ายมีสีดำและรถม้าคันขวามีสีขาว ลวดลายที่ดูเหมือนขลุ่ยสี เหลืองถูกวาดอยู่บนรถม้าทั้งสองคัน เสียงจากล้อเลื่อนค่อนข้างดัง แองเจเล่กำลังนั่งอยู่ภายในรถม้าสีดำ เขากำลังสวมชุดคลุมสีดำมอง ออกไปนอกหน้าต่าง มีทหารรับจ้างที่มีดาบใหญ่และธนูยาวบนหลังของพวกเขาได้ผ่านไป นอกจากนี้ยังมีผู้ฝึกหัดที่มีหนังสือ ลูกแก้วคริสตัลและคทาสั้นในมือ บางคนกำลังแสดงรางวัลที่พวกเขาเพิ่งได้รับจากการเสร็จภารกิจและ ส่วนที่เหลือเพียงแค่เดินไปข้างหน้าด้วยฮู้ดที่ปกคลุมใบหน้าของพวก เขา สะพานเป็นหลุมเป็นบ่อและมันรู้สึกไม่สะดวกเล็กน้อยเมื่อนั่งอยู่ในรถ ม้า ไม่มีใครพูดภายในรถม้า มีชายผมสีเงินกำลังสวมชุดคลุมสีดำนั่งตรง ข้ามกับแองเจเล่ ชายคนนี้นั่งไขว้ขาและวางมือไว้บนเข่า เขากำลังมองไปที่คนเดินเท้า นอกหน้าต่างด้วยความอยากรู้ "ครูส เจ้าคิดอะไร" แองเจเล่เปิดปาก "เรามาถึงในตอนเช้าและทหาร รับจ้างของบทเพลงเงือกกำลังกลับมาที่เมือง มันดูเหมือนสถานการณ ์ จะซับซ้อน" ชายที่ชื่อครูสพยักหน้า "ใช่สถานการณ์มันซับซ้อน มันเป็นเมืองขนาด ใหญ่ที่อยู่ชายแดนและมันเป็นเรื่องธรรมดาสำหรับทหารรับจ้างที่จะอยู่ ที่นี่อย่างไรก็ตามพ่อมดบางคนที่นี่ไม่ได้มาจากทวีปกลางและมันทำให้ ข้านึกถึงเรื่องบางอย่าง" ชายคนนี้มีเสียงที่มีเสน่ห์และเขาดูมั่นใจ "อะไร" แองเจเล่รู้คำตอบอยู่แล้วแต่เขายังถาม "การค้าทาสผิดกฎหมาย" มีรอยยิ้มที่อ่อนโยนบนใบหน้าของครูสและ เขายังมองไปนอกหน้าต่าง "เราถูกย้ายมาที่นี่เพื่อรับสองตำแหน่งที่ สำคัญที่สุดในแผนกทรัพยากรมนุษย์แต่ดูเหมือนว่าจะมีปัญหา บางอย่าง...." เขาถอนหายใจด้วยอารมณ์ที่หลากหลาย "ข้าไม่สนใจ" แองเจเล่หัวเราะเบาๆ "เจ้าเป็นหัวหน้าแผนกและข้าอยู่ที่ นี่ เพื่อช่วยเจ้า" ครูสกลอกตาและส่ายหัว "แน่นอน เจ้าไม่สนใจ.....ข้าจะไม่ทำงานหนั ก เช่นนั้นถ้าข้ามีแม่เหมือนท่านวิเวียน" การสนทนาจบลงที่นี่แองเจเล่มองเห็นน้ำสะอาดในคูเมืองจากหน้าต่าง ข้างคูเมืองมีอาคารเล็กๆที่มีลักษณะเหมือนกันเรียงกันอยู่มีคนกำลัง ยืนอยู่ข้างหน้าต่างสังเกตมาที่สะพาน "งานของเราคือการประเมินผู้ฝึกหัด พ่อมดและอัศวินที่ต้องการเข้าร่วม องค์กร มีนักการเมืองจำนวนมากที่เกี่ยวข้องในระหว่างกระบวนการนี นอกจากนี้ยังมีสมาชิกใหม่มากมายที่ถูกส่งไปสำนักงานใหญ่โดยแผนก ทรัพยากรมนุษย์ของบทเพลงเงือกทุกๆปี หัวหน้าแผนกคนก่อนได้ตาย ระหว่างภารกิจและนั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมเราถึงมาที่นี่" ครูสอธิบาย "ข้ามาที่นี่เพราะข้ามีแม่ที่ใจดีแต่เจ้าได้รับเลือกให้เป็นหัวหน้าแผนกโดย สภาซึ่งหมายความว่าผู้อาวุโสคิดว่าเจ้ามีทักษะที่จำเป็นสำหรับ ตำแหน่งนี้" แองเจเล่ตัดสินใจที่จะสรรเสริญครูสเล็กน้อยเนื่องจากพวก เขาจะต้องทำงานร่วมกันในอนาคต ครูสรู้ว่าแองเจเล่กำลังคิดอะไร "ขอบคุณ ข้าจะพยายามจัดการสิ่งต่างๆให้กับเจ้า อย่างไรก็ตาม มันจะ มีบางครั้งท้ี่ข้าไม่สามารถให้ความช่วยเหลือแก่เจ้าได้ข้าหวังว่าเจ้าจะ เข้าใจว่ามันไม่ใช่เป็นเพราะข้าจะลากเจ้าเข้ามายุ่ง" "ข้าเข้าใจ" แองเจเล่ยิ้ม เขารู้ว่าครูสเป็นพ่อมดที่แข็งแกร่งที่รู้วิธีจัดการ กับผู้คน ครูสมาจากตระกูลขนาดใหญ่และเขาอาจจะต้องการ ความสำเร็จบางอย่างในฐานะหัวหน้าของแผนกทรัพยากรมนุษย ์ อย่างไรก็ตาม แองเจเล่ไม่ได้กังวล เขาจะจบงานที่ได้รับมอบหมายแต่ เขาก็มาที่นี่เพื่อทำความรู้จักกับคนที่มีตำแหน่งสูงกว่า ทุกคนรู้ว่าวิเวียน เป็นแม่ของแองเจเล่และพวกเขาเข้าใจเหตุผลที่แองเจเล่ถูกส่งมาที่นี่ แองเจเล่ได้ใช้เวลาไปมากในการพยายามทำให้พลังจิตของเขาเสถียร หลังจากที่เสร็จขั้นที่สามของแกนแม่น้ำมัลเท็น นอกจากนี้เขายังได้ เรียนรู้คาถาระดับสองอีกหลายคาถาและศึกษาทฤษฎีการทำยา เทคนิคการลงอาคมขั้นสูงและพื้นฐานของวงเวทในเวลาว่าง แองเจเล่ ยังเยาว์มากเมื่อเทียบกับพ่อมดคนอื่นๆและเขาสามารถใช้เวลาของเขา ในการศึกษาเรื่องที่ซับซ้อน วงเวทที่ต้องการสำหรับขั้นที่สี่ของแกนแม่น้ำมัลเท็นเรียนรู้ยากกว่าของ ขั้นสาม ความยากอยู่ในระดับที่แตกต่างกัน แองเจเล่ตรวจสอบกระบวนการ เขาต้องรวมวงเวทที่ต่างกันสี่ตัวเพื่อ เสร็จสิ้นการสลัก อย่างไรก็ตาม ระดับพลังจิตของเขาต่ำเกินไปที่จะทำ ทั้งสี่ตัว เขาสามารถทำได้เพียง 20% ของวงเวทแรก ไม่มีอะไรที่ซีโร่สามารถทำได้เพื่อช่วยแองเจเล่เรียนรู้วงเวท แองเจเล่ต้อง ผ่านความท้าทายนี้ด้วยตัวเองเหมือนกับพ่อมดคนอื่นๆที่ฝึกแกนแม่น้ำ มัลเท็น ไม่มีทางลัดสำหรับขั้นที่สี่ของแกนแม่น้ำมัลเท็นดังนั้นเขาจึงต้องอดทน ตอนที่345: เวลาที่ผ่านไป (2) แปลนิยาย.วันศุกร์ ที่ 4 พฤษภาคม 2018 รถม้าค่อยๆเข้าไปในประตูแล้วไปถึงจัตุรัสสีขาวขนาดใหญ่หลังจากผ่าน อุโมงค์สั้นๆ มียามจำนวนมากสวมเกราะสีขาวลาดตระเวนบนจัตุรัส พวกเขาได้จั ด ระเบียบกันเป็นอย่างดีและพวกเขาถือหอกยาวในมือของพวกเขา ตรงกลางของจัตุรัสมีรูปปั้นนางเงือกตั้งอยู่นางเงือกปกคลุมไปด้วยผ้า ไหมนุ่มๆ มีร่างกายเป็นผู้หญิงและหางของปลา มีน้ำสะอาดไหล ออกมาจากแจกันเล็กๆในมือของเธอ น้ำได้ตกลงมาในบ่อข้างใต้รูปปั้น และกระเด็นไปเล็กน้อย จัตุรัสล้อมรอบไปด้วยร้านค้าที่มีป้ายทองแดงและม่านสีน้ำตาลเข้ม มี คนมากมายที่กำลังเข้าและออกจากร้านเหล่านั้น ส่วนใหญ่เป็นทหาร รับจ้างที่สวมชุดสีเขียวและสีดำ เพศของพวกเขาแตกต่างกันไปแต่ทุกคนมีรอยแผลเป็นบนร่างกาย พวก เขาเป็นผู้เชี่ยวชาญในสนามรบ นอกจากนี้ยังมีผู้ฝึกหัดและพ่อมดที่กำลังเข้าจัตุรัสในรถม้าของพวกเขา ฝั่งตรงข้ามของประตูหลักแองเจเล่เห็นอาคารสูงขนาดใหญ่ที่ดูเหมือน ห้องสมุ ด ผนังของอาคารถูกทาสีเหลืองและมีหอคอยสามหอบนยอดของอาคาร บนหอคอยมีรูปปั้นขนาดเล็กที่เป็นสัตว์ที่แตกต่างกัน มีอินทรีสิงโตและ แมงป่อง ข้างหน้าของอาคารนี้มีบันไดยาวเกือบหนึ่งร้อยขั้น มีคนมากมายกำลัง เดินขึ้นและเดินลงบนบันได "นั่นคือศาลากลางของเมืองบทเพลงเงือก รูปปั้นด้านบนหมายถึงแผนก และโรงเรียนที่ต่างกันสามแห่ง อินทรีเป็นโรงเรียนตาอินทรีสิงโตเป็น โรงเรียนสงครามและแมงป่องเป็นหอคอยปราชญ์หรือหอคาถา สิ่ง เหล่านี้เป็นผู้มีส่วนได้เสียในบทเพลงเงือกและพวกเขาสามารถเข้าถึง ทรัพยากรทั้งหมดได้" ครูสอธิบาย "แล้วของเราอยู่หอคอยไหน" แองเจเล่ไม่ได้สนใจ "แน่นอนว่าเราอยู่ในหอคอยปราชญ์.....สัญลักษณ์แมงป่องไม่ได้ทำให้ เจ้านึกถึงอะไรเลยงั้นหรือ" ครูสส่ายหัว "หอคอยปราชญ์เกี่ยวข้องกับแม่ของข้าหรือ" แองเจเล่รู้สึกประหลาดใจ เล็กน้อย "ใช่แล้ว มันไม่ใช่เฉพาะแม่ของเจ้าแต่ยังเป็นอาจารย์ของแม่ของเจ้า เรา อาจจะต้องทำงานที่นี่หลายทศวรรษ" "นานเกินไป...." แองเจเล่ขดริมฝีปาก รถม้าหยุดลงและเขาก็เปิดประตู และออกไปอย่างรวดเร็ว ครูสตามหลังเขา พวกเขามุ่งหน้าไปที่ศาลากลางด้านข้าง ************************** ชีวิตในบทเพลงเงือกไม่ได้เป็นอย่างที่เขาคาดไว้ เขาไม่ได้ต้องการอยู่ในแผนกทั้งวั น แองเจเล่ไปที่บทเพลงเงือกเพื่ อ ตรวจสอบเอกสารทั้งหมดในช่วงต้นเดือนแต่เขาก็ไม่ได้พบกับคนมาก นัก เขาตัดสินใจที่จะกลับไปที่คฤหาสน์และเข้าดินแดนฝันร้ายเพื่อ ตรวจสอบสถานการณ์ของเด็กๆหลังจากที่เสร็จเอกสารทั้งหมดแล้ ว คฤหาสน์ยังถูกโจมตีโดยสิ่งมีชีวิตกลายพันธุ์ต่างๆเป็นครั้งคราว แอง เจเล่สังเกตเห็นว่าระดับของสิ่งมีชีวิตเหล่านั้นเพิ่มขึ้นและบางครั้งเขาก ็ ต้องสู้กับพวกมันด้วยตัวเอง ระบบป้องกันยังไหวอยู่และคฤหาสน์ก ็ ไม่ได้รับความเสียหาย ความคืบหน้าในการศึกษาเรื่องการลงอาคมและวงเวทค่อนข้างช้า ชิปสามารถช่วยเขาเก็บข้อมูลและทำการคำนวณได้แต่เขาก็ยังต้อง เรียนรู้ทฤษฎีด้วยตัวเอง ความยากของหัวข้อเหล่านี้อยู่ในระดับที่ต่างออกไป มันไม่เหมือน ความรู้ที่เขาเคยเรียนเมื่อเขายังเป็นพ่อมดระดับหนึ่ง เขาไม่ได้ใช้เวลากับฟีนิกซ์และทหารรับจ้างเงามากนัก นกอ่อนแอ เกินไปและเขายังมีปัญหาในการควบคุมพฤติกรรมของมันดังนั้นแอง เจเล่จึงเรียกมันออกมาเฉพาะตอนที่เขาอยู่ในดินแดนฝันร้าย ทหาร รับจ้างเงาถูกขังอยู่ภายในห้องของคฤหาสน์ เขายังไม่พบวิธีทดสอบ ความแข็งแกร่งของมัน แองเจเล่ได้ใช้เวลาส่วนใหญ่ศึกษาในคฤหาสน์และเข้าร่วมงานเลี้ยง มากมายที่จัดโดยเพื่อนร่วมงานของเขาในแผนกทรัพยากรมนุษย ์ นอกจากนี้เขายังได้สื่อสารกับมินโคล่า เรย์ไลน์ สติกม่าและฮิคาริโดยใช้ รูนสื่อสารและเสาสัญญาณโอเบลิสก ์ แองเจเล่รู้ว่าทรัพยากรหายากจะไม่ช่วยให้เขาก้าวหน้าหลังจากที่เขา มาถึงระดับที่สอง เขาต้องเรียนรู้การสลักวงเวทเพื่อก้าวหน้า นั่นเป็น เหตุผลว่าทำไมพ่อมดระดับสูงสุดบนฝั่งตะวันตกเป็นระดับสอง เขาพยายามสร้างวงเวทโดยใช้พลังจิตทุกวันแต่ความคืบหน้ามันช้า แองเจเล่ได้ใช้เวลาทำงานในคฤหาสน ์ดินแดนฝันร้ายและบทเพลงเงือก มันเป็นชีวิตที่สงบสุขและทุกสิ่งทุกอย่างก็เป็นไปตามแผนที่วางไว้ เป้าหมายของเขาชัดเจนและเขาก็อดทนกับความคืบหน้า สิบปีผ่านไปภายในพริบตา..... ************************************ ในดินแดนฝันร้าย เคร๊ง ประกายไฟเป็นประกายระหว่างเฟรย์และเฟรย่า ทั้งสองถอยหลังไปหลายก้าวและมองกันและกั น แสงแดดสีทองของยาวเช้าได้ส่องลงบนร่างกายของพวกเขา เฟรย์ดูเหมือนชายที่โตขึ้นด้วยใบหน้าหล่อเหลา ผมสีดำสั้น ผิวสีแทน และเกราะสีขาว ชายหนุ่มดูเหมือนนักสู้ที่มีประสบการณ์พร้อมกับดาบ ใหญ่สีเงินในมือ ฟึบ ฟึบ เขาเหวี่ยงดาบใหญ่หลายครั้งในอากาศและมันดูเหมือนว่าเขาสามารถ ใช้ดาบได้อย่างง่ายดายด้วยมือเพียงข้างเดียว "เอาล่ะ หยุดเถอะเฟรย่า" เขาเช็ดเหงื่อออกจากหน้าผาก หญิงสาวฝั่งตรงข้ามพยักหน้าเล็กน้อยพร้อมกับดาบบางในมือของเธอ เธอมีผมหางม้าและผิวของเธอก็ดูใส เส้นเลือดสีน้ำเงินสามารถมองเห็น ได้อย่างง่ายดายบนแขนของเธอ หญิงสาวมีร่างกายที่สมส่วนและ ใบหน้าน่ารัก มันดูเหมือนว่าเธอเต็มไปด้วยพลังงาน เฟรย่ายังสวมชุดเกราะสีขาวของผู้หญิง ขอบถูกตกแต่ง เอวแน่น เล็กน้อยและบริเวณหน้าอกก็นูนออกมา "เจ้ากำลังเก่งขึ้น" เฟรย์หัวเราะเบาๆ เขาเดินไปที่ชั้นวางอาวุธและใส่ ดาบใหญ่ไว้ในช่องว่าง "กรีนได้สอนเทคนิคพิเศษบางอย่างให้เจ้าหรือ" "ไม่ ข้าได้ยินว่ากรีนพยายามที่จะสร้างยาพิเศษ พี่จำงูที่โจมตีสวนของ เราได้ไหม กรีนได้ทำให้ตัวหนึ่งเปลี่ยนเป็นยาและบอกให้ข้าดื่มมัน ตอนนี้ข้ารู้สึกว่าข้าเต็มไปด้วยพลังงานและนั่นเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมข้า ถึงฝึกมากขึ้นเมื่อเร็วๆนี้ นอกจากนี้นั่นยังเป็นเหตุผลว่าทำไมพี่ถึงคิดว่ า ข้ากำลังเก่งขึ้น" เฟรย่าเอาอาวุธกลับไปที่ชั้นด้วยเช่นกัน "พี่เมื่อไหร่ พี่ จะให้ข้าสู้กับสัตว์ประหลาดรอบๆสวน ข้าคิดว่าข้าสามารถต่อสู้กับพวก มันได้" หญิงสาวกำหมัดแน่นและมองไปที่เฟรย ์"ข้าได้ป้องกันการโจมตีทั้งหมด ของพี่ในยี่สิบนาทีที่ผ่านมา" วัยรุ่นทั้งสองตัดสินใจเรียกคฤหาสน์ว่า' สวน' พวกเขาอาศัยอยู่ในที่พักนี้มานานกว่าสิบปีและสถานที่นี้ดูเหมือน สวนจากเรื่องเล่ า "ข้าไม่ใช่คนที่ตัดสินใจที่นี่เจ้าต้องถามกรีน ทำไมเจ้าถึงไม่อยู่ในสวน และใช้ชีวิตอย่างเงียบสงบ" เฟรย์มองไปในดวงตาของเฟรย่า "มันเริ่มน่าเบื่อ....ข้าอยากสำรวจโลกนี้และเห็นการเปลี่ยนแปลงของ ตัวเอง....เหมือนกับพี่...." เฟรย่าอยู่ในคฤหาสน์นี้มานานจนลืมไปว่า โลกนี้อันตรายแค่ไหน "ยังไงก็ตาม ทำไมกรีนถึงไม่ดูแก่ขึ้นเลย เขาดูเหมือนวันที่เราพบเขาครั้ง แรก.....มันค่อนข้างแปลก พี่ไม่คิดงั้นหรือ" เธอลดเสียงลงและถาม เฟรย์ส่ายหัว "ข้าไม่รู้.....บางทีเขามียาพิเศษหรืออะไรบางอย่าง...." เขา ก็ยังอยากรู้ "ไปห้องอ่านหนังสือกันเถอะ เขาควรกลับมาแล้ว" เฟรย่าลากพี่ชายของ เธอไปที่อาคารหลัก พวกเขาเดินไปตามทางเดินและเข้าห้องนั่งเล่น จากนั้นก็เดินขึ้นบันได เฟรย่าเคาะประตู ก๊อก ก๊อก ก๊อก "กรีน อยู่ไหม" "ใช่พวกเจ้าเข้ามาสิ" เสียงของแองเจเล่ดังมาจากห้องอ่านหนังสือ แค๊รก ประตูเริ่มเปิดออกด้วยตัวเอง เฟรย่าผลักประตูและลากพี่ของเธอเข้าไปข้างใน มีชายหนุ่มผมสีน้ำตาลยาวกำลังนั่งข้างโต๊ะระหว่างชั้นวางที่เต็มไปด้วย หนังสือ มีรอยยิ้มที่อ่อนโยนบนใบหน้าของชายหนุ่ม "เกิดอะไรขึ้น เจ้าต้องการอะไรหรือ" แองเจเล่วางปากกาขนนกและวาง แมงป่องเงินขนาดเล็กไว้บนม้วนหนัง "กรีน ข้าต้องการช่วยกำจัดสัตว์ประหลาดรอบๆสวน ข้าไปกับพี่ของข้า ได้ไหม" เฟรย่าเดินมาหาแองเจเล่และคว้าไปที่แขนขวาของเขา มี รอยยิ้มที่น่ารักบนใบหน้าของเธอ แองเจเล่ย่นคิ้ว เขาเข้าใจว่าเฟรย่าเบื่อ เธออยู่ในสถานที่เดียวกันมาเป็นเวลาสิบปีและ ส่วนใหญ่เธอเพียงแค่รอพี่ชายของเธอกลับมา แองเจเล่พยายามใช้เวลากับหญิงสาวคนนี้เมื่อเขาขอให้เฟรย์กำจัดสัตว ์ ประหลาดที่อ่อนแอ เขาดูแลเด็กทั้งสองเหมือนเป็นลูกของเขาในหลายปีที่ผ่านมา เฟรย่า เป็นหญิงสาวที่น่ารักและเขาก็เล่าเรื่องมากมายให้เธอฟังเกี่ยวกับ ดินแดนนี พวกเขาอาศัยเหมือนครอบครัวสามคนในสิบปีที่ผ่านมาและแองเจเล่ รู้สึกผ่อนคลายเพื่อเด็กทั้งสองอยู่ใกล้ๆเขา เขาเป็นเพียงคนเดียวในโลก นี้ที่เด็กทั้งสองจะพึ่งพา เขารู้สึกถึงความอบอุ่นในใจเพียงแค่มองไปที่ พวกเขา เด็กทั้งสองไว้ใจเขามากจนไม่ถามคำถามใดๆกับการตัดสินใจ ของเขา "มานี่สาวน้อย" แองเจเล่ลูบหัวของเฟรย่าและดึงเธอเข้ามา "โลกนี้ อันตราย พี่ของเจ้าแข็งแกร่งกว่าเจ้า ข้าจะให้เจ้าช่วยกำจัดถ้าเจ้า ชนะเฟรย์ในการต่อสู้ด้วยดาบ เจ้าคิดอย่างไร" แองเจเล่ยิ้มและลูบแก้ม ของเฟรย่า "อะไรนะ! ไม่มีทาง......ข้าไม่มีทางชนะพี่ของข้าในการต่อสู้ด้วยดาบ..." เฟรย่ากลอกตาและขดริมฝีปาก "อืมม.....กรีน ท่านมอบของบางอย่างที่ จะปกป้องข้าจากสัตว์ประหลาดเหล่านั้นได้ไหม" กรีนเป็นคนลึกลับในสายตาของเฟรย์และเฟรย่า ชายคนนี้รู้ทุกสิ่งทุก อย่างและเขาไม่ได้ดูแก่เลย นอกจากนี้เขายังบอกสิ่งต่างๆมากมาย เกี่ยวกับโลกนี้ให้พวกเขาที่พวกเขาไม่เคยได้ยิน เขาจะลูบหัวของพวก เขาทุกครั้งที่เห็นพวกเขา มือของชายคนนี้อบอุ่นและอ่อนโยน เฟรย่ามีความสุขทุกครั้งที่เธอใช้ เวลากับกรีน "ไม่มีอะไรที่ข้าสามารถทำให้เจ้าได้ถ้าเจ้าไม่ชนะการต่อสู้กับพี่ของเจ้า" แองเจเล่ยักไหล่และหัวเราะเบาๆ "จำเมล็ดเหล่านั้นที่ข้าบอกให้เจ้าปลูก ใน.....สวนจริงได้ไหม" "แน่นอน" เฟรย่าพยักหน้าหลายครั้ง เธอจ้องดวงตาของแองเจเล่มันดู เหมือนว่าเธอยังมีความหวัง "ข้าจะให้เจ้าออกจากคฤหาสน์ถ้าดอกนั้นบาน" แองเจเล่พยักหน้า เล็กน้อย "สัญญานะ" "ใช่" แองเจเล่ลูบแก้มของเธออีกครั้ง "เอาล่ะ ไปเล่นกับฟีนิกซ ์ข้ายังมี การวิจัยที่ต้องทำให้เสร็จ" "ตกลง" เฟรย่าพยักหน้าและวิ่งไปที่ชั้นวางหนังสือทางด้านซ้าย เธอรีบ ดึงนกสีแดงที่มีหางยาวออกมาจากเงา นกพยายามดิ้นรนหลายครั้ง และพยายามหลบหนีออกมาแต่เฟรย่ารีบจับที่คอของมัน "ฟีนิกซ์ อย่าแม้แต่พยายามที่จะซ่อนจากข้า!" เฟรย่าเอาฟีนิกซ์ออกจาก ห้องอ่านหนังสื อ ฟีนิกซ์ทิ้งจุดแสงสีแดงไว้บนพื้ น เฟรย์ถอนหายใจและปิดประตูหลังจากที่น้องสาวของเขาออกไป "กรีน ท่านจะให้เฟรย่าออกไปจริงๆหรือ" เขาดูกังวล "บางที...." แองเจเล่ไม่ได้ตอบคำถามโดยตรง "เจ้าดอกไม้มันบานจริงๆ ...." มันเป็นดอกทานตะวันที่จะไม่บานอย่างน้อยหนึ่งพันปี..... "เจ้ามีความสามารถเฟรย ์พ่อของเจ้าจะภูมิใจกับเจ้า การฝึกเริ่มเมื่อ หลายปีก่อนและเจ้าเกือบจะอยู่ในระดับเดียวกับพ่อของเจ้าแล้ว" แอง เจเล่ลุกขึ้นยืนและมองไปที่เฟรย ์ เมื่อสิบปีก่อนเฟรย์เป็นคนผอมบาง เฟรย์แทบจะไม่ถึงไหล่ของแองเจเล่ แต่ตอนนี้เฟรย์ได้เป็นนักล่าที่มีประสบการณ์หลังจากที่ผ่านการฝึกซ้อม อย่างหนักที่เขาคิด "เจ้าต้องการที่จะสำรวจโลกนี้ไหม" แองเจเล่รู้ว่าเฟรย์กำลังคิดอะไร "ข้าต้องการค้นหาผู้คนที่รอดชีวิตจากเหตุการณ์ร้าย เราจะตายถ้าเราไม่ พบท่าน ข้าไม่สามารถเห็นแก่ตัวได้ข้าเชื่อว่ายังมีคนอยู่ในเมืองหรือป่า พวกเขากำลังรอคนที่จะมาช่วยพวกเขา" แองเจเล่มองเห็นความแน่วแน่ ในดวงตาของชายหนุ่ม แองเจเล่รู้ว่าเฟรย์จริงจัง มีบางอย่างที่กำลังสั่นไหวในดวงตาของชาย หนุ่ม มันดูเหมือนเปลวไฟแห่งความหวัง "ข้าควรจะเป็นคนที่ช่วยพวกเขาได้!" เฟรย์พูดความปรารถนาของเขา ออกมาเสียงดัง เขาเก็บแผนนี้ไว้ในใจมาหลายปี ทั้งสองเงียบหลังจากที่เฟรย์พูดจบ หลายนาทีต่อมา "เอาล่ะ ข้าเข้าใจแล้ว" แองเจเล่หลับตา "แต่น้องสาวของเจ้า..." "กรีน โปรดดูแลน้องสาวของข้าด้วย!" เฟรย์ถอยหลังไปสองก้าว ปึก ทันใดนั้นเขาก็คุกเข่า ตุ้บ ตุ้บ ตุ้บ เขาตีพื้นด้วยกำปั้นขวาอย่างแรงสามครั้ง มันเป็นวิธีแสดงความเคารพ "ข้าจะกลับมา" เฟรย์เงยหน้าขึ้นและพูดด้วยน้ำเสียงที่จริงจั ง แองเจเล่มองไปที่เขาอย่างเงียบๆ ชายหนุ่มดูเหมือนท็อดที่เขาพบเมื่อ หลายปีก่อน เฟรย์ลุกขึ้นยืน เขาโค้งให้แองเจเล่และออกจากห้อง แองเจเล่เฝ้าดูเฟรย์จากไป เขารู้ว่ามันไม่ใช่การตัดสินง่ายๆของชาย หนุ่มแต่มันอาจจะเป็นการตัดสินใจที่จะเปลี่ยนชีวิตของเขาไปตลอด กาล ท็อดเป็นนักล่าจากศาสนจักร นักล่าโคลินเป็นตัวแทนจิตวิญญาณของ ศาสนาอิโคลิน นักล่าโคลินเป็นคนที่กล้าหาญและไม่เห็นแก่ตัว เฟรย ์ อาจจะได้จิตวิญญาณนี้มาจากพ่อของเขาเมื่อหลายปีก่อน แองเจเล่เป็นพ่อมดและเขาจะทำทุกอย่างเพื่อให้บรรลุเป้าหมายของเขา เขานั่งลงอีกครั้ ง แองเจเล่คิดชั่วครู่และคว้าปากกาขนนก "ดีมันไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะเป็นพ่อ...." เขาถอนหายใจด้วยความรู้สึกที่ หลากหลาย แองเจเล่เอนตัวกับหน้าต่างและมองออกไปข้างนอก ฟีนิกซ์กำลังเฝ้าดูเฟรย่ารดน้ำเมล็ดทานตะวันพันปี แสงแดดที่สดใสได้ส่องลงบนชุดเกราะสีขาวของเฟรย่าทำให้มันเกิดแสง แวววาว ตอนที่346: รวมตัวใหม่(1) แปลนิยาย.วันศุกร์ ที่ 4 พฤษภาคม 2018 แองเจเล่รู้ว่าพี่น้องนี้เกิดในห้องใต้ดิน พวกเขาไม่มีโอกาสที่จะสำรวจ โลกด้วยตัวเองก่อนที่เขาจะไปพบพวกเขา วันที่เฟรย์และเฟรย่าออกจากใต้ดินเป็นครั้งแรกที่พวกเขาได้เห็น สถานการณ์ที่แท้จริงของโลกของพวกเขา พวกเขาใช้เวลาส่วนใหญ่ใน คฤหาสน์หลังจากวันนั้นและเฟรย์ก็ได้รับอนุญาตให้กำจัดสัตว ์ ประหลาดที่อยู่รอบๆคฤหาสน์เพื่อฝึกฝน อย่างไรก็ตาม เฟรย่าไม่แข็งแกร่งพอที่จะออกจากคฤหาสน์ด้วยตัวเอง ดังนั้นสิ่งเดียวที่เธอมองเห็นคือป่าและแม่น้ำ ฟีนิกซ์และแองเจเล่เป็น เพียงสองสิ่งที่คอยเล่นกับเธอเป็นครั้งคราว แม้ว่าแองเจเล่จะรู้ว่าวันหนึ่งเขาจะต้องจากพวกเขาไปแต่เขาก็ยังรู้สึก หดหู่ใจเล็กน้อย เขาก้มหน้าลงและถอนหายใจ 'ข้ายังสงสัยว่าสิ่งมีชีวิตแปลกๆที่ข้าปะทะและสิ่งแปลกๆที่เกิดขึ้นมา จากไหนถ้าโลกนี้เป็นสถานที่ที่เงียบสงบเมื่อหลายสิบปีก่อน....เหมือน .....เต่านั้น....' เขากำลังตรวจสอบม้วนหนังสีเหลือง มันเป็นแผนที่ของพื้นที่รอบๆ คฤหาสน ์มีเมืองขนาดใหญ่อยู่ข้างป่าและแม่น้ำ 'ท็อดบอกข้าว่าสิ่งมีชีวิตกลายพันธุ์ส่วนใหญ่ไม่ฉลาด พวกมันจะทำ ตามสัญชาตญาณแปลกๆของพวกมัน ถ้านั่นเป็นความจริงโบราณ สถานที่อยู่ใต้ภูเขาไฟจะ.....' เขาถูกคางและเริ่มคิด เขานึกถึงวันที่เขาพบกำแพงแห่งความสับสนในโบราณสถานและสาว แมงป่อง สาวแมงป่องเป็นผู้พิทักษ์ของสระภาพลวงตาแต่ด้วยเหตุ บางอย่างพวกเธอไม่สามารถเข้าไปใกล้สระได้ พฤติกรรมของพวกเธอ ถูกจำกัดข้างสระภาพลวงตาแต่มันดูเหมือนสระเป็นแหล่งพลังของพวก เธอ ผู้พิทักษ์กลัวสาวสวมชุดขาวและมันดูเหมือนว่าพวกเธอไม่ได้รับ อนุญาตให้ออกจากสวน 'ผู้พิทักษ์เหล่านั้นอาจจะเป็นพลเมืองที่อาศัยอยู่ในดินแดนฝันร้ายก่อนที่ มันจะเกิดภัยพิบัติ....' มีสีหน้าแปลกๆบนใบหน้าของแองเจเล่มีสิ่งแปลกๆมากเกินไปใน ดินแดนนี้และเขาต้องการรู้ว่าทำไม 'ดินแดนนี้เป็นเหมือนนรกที่เต็มไปด้วยฝันร้ายแต่มันก็ยังมีส่วนเกี่ยวข้อง กับโลกหลัก' แองเจเล่สันนิษฐาน 'ทำไมมันวุ่นวายเช่นนี้.....' แองเจเล่ทำเครื่องหมายสถานที่ต่างๆบนแผนที่อย่างละเอียด เขากดผิวของม้วนด้วยแมงป่องเงินขนาดเล็ก เขาม้วนมันและผูกด้วย สายโลหะ มันเป็นส่วนหนึ่งของของขวัญให้เฟรย ์แผนที่จะช่วยเขาอย่างมากใน การผจญภัยของเขา ของขวัญมีหินเวทมนต ์ยารักษา อาหารจำนวนมากและแผนที่นีนั่นคือ ทั้งหมดที่แองเจเล่สามารถทำเพื่อชายหนุ่มที่กล้าหาญได้ **************************** ข้างนอกคฤหาสน ์เฟรย์กำลังจับกระเป๋าขนาดใหญ่ด้วยมือขวา มีดาบ คุณภาพสูงที่หลังของเขา "เอาล่ะ ข้าต้องไปก่อน อย่าคิดถึงข้ามากนัก ข้าจะกลับมาก่อนที่เจ้าจะ รู้ตัวซะอีก" เฟรย์ยิ้มและโบกมือซ้าย "นำของขวัญมาให้ข้าด้วยและอย่าลืมดูแลตัวเองด้วยล่ะ!" เฟรย่า ตะโกน "แน่นอน!" เฟรย์หันกลับมาและเริ่มเดินทางไปที่เมืองเมฆาทมิฬ เขา ไม่ได้บอกเฟรย่าเรื่องแผนของเขา เขาไม่อยากให้น้องสาวของเขากังวล เกี่ยวกับการเดินทางมากเกินไป เฟรย่าคิดว่ามันเป็นภารกิจธรรมดาที่มอบโดยแองเจเล่และเฟรย์จะ กลับมาหลังจากที่ภารกิจเสร็จสิ้ น มันเป็นตอนเที่ยงและมีแสงแดดที่แรง แองเจเล่และเฟรย่าเฝ้าดูเฟรย ์ หายไปในป่าข้างประตูเฟรย่าหันกลับมาและเดินมาที่แองเจเล่หลังจาก ที่เฟรย์ไม่ได้อยู่ในสายตาของเธออีกต่อไป "เอาล่ะ ไปเล่นกับฟีนิกซ์" แองเจเล่ลูบหัวของเฟรย่า "ไม่....สิ่งที่ฟีนิกซ์ทำได้มีเพียงการร้องเพลงแปลกๆและเต้นเป็นวงกลม ....มันน่าเบื่อ" เฟรย่าบุ้ยปาก "กรีนจะทำอะไร ข้าต้องการจะอยู่กับท่าน" แองเจเล่รู้ว่าฟินิกซ์กำลังทำตามสัญชาตญาณของตัวเองเนื่องจากมัน ไม่มีสติปัญญา เฟรย่าสนุกกับนกในตอนแรกแต่เธอก็เริ่มเบื่อหลังจากที่ ผ่านมาหลายปี หญิงสาวไม่อยากอยู่คนเดียวในคฤหาสน์ที่ใหญ่เช่นนี้ดังนั้นเธอจึงถาม ว่าเธอจะอยู่กับแองเจเล่ได้หรือไม่ เฟรย่าและเฟรย์คิดว่าแองเจเล่เหมือนพ่อของพวกเขาหลังจากสิ่งที่แอง เจเล่ทำให้พวกเขา "ข้ายังต้องการคำนวณบางอย่าง เจ้าสามารถอยู่กับข้าได้ในห้องอ่าน หนังสือถ้าเจ้าต้องการ" แองเจเล่ถูแก้มของเฟรย่าและมุ่งหน้าไปที่ อาคารหลัก พวกเขากลับไปที่ห้องอ่านหนังสือด้วยกั น เฟรย่าตัดสินใจที่จะเพิ่มฟืนลงในเตาผิงหลังจากที่ปิดประตู แองเจเล่เดินไปที่โต๊ะและนั่งลง เขาคว้าปากกาขนนกและเริ่มทำการ คำนวณอีกครั้ง "กรีน มันมีหิมะตกเมื่อคืนนี้.....ข้าคิดว่าวันนี้จะมีพายุฝนฟ้าคะนอง" เฟร ย่าพูดในขณะที่เธอโยนฟืนเข้าไปในเตาผิง "มันเป็นไปได้แต่ไม่ต้องห่วง ข้าเพิ่งเปลี่ยนบัตรคริสตัลใหม่" แองเจเล่ ต อบ อากาศในดินแดนฝันร้ายมันแปลก มันไม่มีสี่ฤดูกาล อากาศมันร้อน และชื้นในตอนเช้าแต่มันอาจจะมีหิมะและอากาศจะแห้งในตอน กลางคืน เตาผิงจะช่วยเฟรย่าอย่างมากในคืนที่หนาวเย็น แองเจเล่มีความสัมพันธ์กับอนุภาคพลังงานไฟสูงดังนั้นเขาจึงไม่ ต้องการเตาผิง มีต้นไม้มากมายใกล้ๆคฤหาสน์และเขาสามารถเปลี่ยน พวกมันเป็นฟืนได้อย่างง่ายดาย เฟรย่าเติมฟืนเสร็จและเดินมาหาแองเจเล่เธอเพียงยืนอยู่ข้างโต๊ะและ เฝ้าดูเขาทำการคำนวณทั้งหมด ปลายของปากกาขนนกได้ทิ้งสัญลักษณ์และคำที่ซับซ้อนมากมายบน ม้วนหนัง เสียงปากกาขนนกดังก้องอยู่ในห้อง หลายนาทีต่อมาก็มีลูกแสงสีแดงปรากฏในห้องอ่านหนังสือและ เปลี่ยนเป็นนกสีแดง มีจุดแสงสีแดงตกลงมาจากหางของนก มันเป็น ฟีนิกซ ์ ฟีนิกซ์บินไปเกาะที่ไม้คอนนกข้างหลังตู้หนังสื อ มันเป็นกากบาทสี น้ำตาลที่ออกแบบมาเป็นพิเศษสำหรับฟีนิกซ ์ หัวของฟีนิกซ์เอนไปทางซ้ายและมันก็เริ่มนอน หางของนกมีความยาว ประมาณครึ่งเมตรและอนุภาคพลังงานไฟจากมันก็ทำให้ทั้งห้องอุ่นขึ้น แองเจเล่เหลือบไปมองที่ฟีนิกซ์และยิ้มแล้วเขาก็ทำการคำนวณต่อไป หลายชั่วโมงผ่านไปอย่างรวดเร็ว เฟรย่าได้นอนอยู่บนโซฟาแล้ว แองเจเล่ใช้ผ้าห่มคลุมตัวเธอและเพิ่มฟืน เข้าเตาผิง เขารู้ว่ามันถึงเวลากลับโลกหลักแล้ว มันเป็นช่วงดึกเมื่อเขามาถึงโลกหลัก แองเจเล่ก้าวออกจากห้องอ่านหนังสือและสาวใช้ก็นำกระบอกไม้สอง กระบอกมาให้เขา สาวใช้คนสวยคนนี้ได้มีอายุมากกว่าสามสิบปีแล้ว เธอยังสวยแต่เธอก ็ ไม่ค่อยขะมักเขม้นเหมือนเมื่อก่อน "นายท่าน จดหมายของท่าน" สาวใช้ยื่นกระบอกไม้ให้อย่างสุภาพ แองเจเล่คว้ากระบอกและมองไปที่สาวใช้ "เวลาได้ผ่านไปอย่างรวดเร็ว เจ้าทำงานที่นี่มานานแค่ไหนแล้ว มากกว่า สิบปีใช่ไหม" "ค่ะ นายท่าน" สาวใช้พยักหน้ า "ไปหาผู้ชายดีๆและแต่งงานซะ เจ้าทำงานให้ข้าได้เป็นอย่างดี" แองเจเล่ พูดเสียงเบา สาวใช้ดูตื่นเต้นหลังจากที่ได้ยินคำพูดนี"ขอบคุณค่ะนายท่าน!" เธอได้ เงินจำนวนมากที่แองเจเล่จ่ายให้เธอ เธอถูกซื้อโดยลิฟในฐานะทาสและ เธอไม่เคยคิดว่านายท่านจะปลดปล่อยเธอ แองเจเล่เดินลงบันไดและนั่งลงบนโซฟาหลังจากที่สาวใช้จากไป เขา เปิดกระบอกแรกและพบม้วนหนังสีแดงอยู่ภายใน ม้วนค่อยๆถูกเปิดภายใต้แสงสลั ว มันถูกเขียนโดยฮิคาริจากแม่น้ำลาวามัลเท็นเพื่อนที่แองเจเล่พบบนเรือ เหาะที่มาทวีปกลาง สติกม่าทำตัวต่ำต้อยในตระกูลของเขาและมันยังคงเป็นอย่างนั้น ฮิคาริ เข้าร่วมกิลด์ของผู้เชี่ยวชาญยาและเรย์ไลน์ได้เข้าร่วมกิลด์ของพ่อมด แองเจเล่เริ่มอ่านจดหมายด้วยความช่วยเหลือของคริสตัลเรืองแสง 'ถึงกรี น ไม่ได้เจอกันนาน ข้ามีโอกาสที่ดีที่นี่มันเป็นความลับจากตำนานและข้า แน่ใจว่าเจ้าสนใจ ข้าได้ส่งจดหมายถึงคนอื่นด้วยเช่นกัน เราจะพบกัน ในเมืองท่าอากาศยานอีกครั้ง สถานที่เดียวกันกับครั้งที่แล้ว ข้าจะบอก รายละเอียดที่นั่น' มันเป็นจดหมายสั้นๆ 'เมืองท่าอากาศยานหรือ' แองเจเล่ยกม้วนขึ้นไปในอากาศและจุดมัน ด้วยลูกเปลวไฟสีแดงเข้ม ม้วนได้เปลี่ยนเป็นสีดำอย่างรวดเร็วและมัน ถูกเผาเป็นขี้เถ้า แองเจเล่โยนขี้เถ้าไปในถังขยะะบนพื้น เขายกมือซ้ายขึ้น มีแหวนสองวงที่นิ้วกลางและนิ้วชีวงหนึ่งเป็นอเมทิสต ์ ที่ดูเหมือนตาอยู่ข้างบนและอีกวงเป็นแหวนเงินที่ไม่มีอัญมณีใดๆ ประดับอยู่ เขาถูผิวของอเมทิสต์อย่างระมัดระวังและสีของอัญมณีก็เปลี่ยนจากสี ม่วงเป็นสีฟ้า ลำแสงสีฟ้าค่อยๆปลดปล่อยออกมาจากตรงกลางของอัญมณี แองเจเล่เล็งไปที่ผิวของโต๊ะด้วยแหวน ลำแสงส่องลงบนโต๊ะและ เปลี่ยนเป็นหน้าจอแสง มีแถวของคำพูดหลายแถวปราก์บนหน้าจอแสง: 'นี่เป็นศูนย์ข่าว กรุณาส่งคำถามของท่าน' แองเจเล่ยังคงสงบ เขาตรวจสอบให้แน่ใจว่าไม่มีผู้บุกรุกโดยใช้ซีโร่และ ถามเสียงเบา "ข้าต้องการรู้เหตุการณ์สำคัญๆที่เกิดขึ้นรอบๆเมืองท่า อากาศยานเมื่อเร็วๆนี้" 'โปรดรอ....' หลายวินาทีต่อมาก็มีแถวเพิ่มขึ้นมาอีกหลายแถวบนหน้าจอ 'มันขึ้นอยู่กับระดับความปลอดภัยของท่าน ข้อมูลต่อไปนี้สามารถมอบ ให้ได้' '1.แผนที่บางส่วนของสมบัติของเมืองอายุ100 ปี' 'ตำแหน่งของพ่อมดที่แข็งแกร่งที่สุดทั่วเมือง' '3.สถานที่ให้บริการพิเศษในเมือง' '4.รายละเอียดของ...' มีแถวปรากฏอยู่บนหน้าจอและแองเจเล่ก็กำลังอ่านอย่างรวดเร็ว ระบบข้อมูลของหอคอยพ่อมดมืดมีความแข็งแกร่งจนน่าแปลกใจ เขา สามารถค้นพบสิ่งที่ผู้อาวุโสของหัตถ์ธาตุทำอยู่ทุกวันได้อย่างง่ายดาย ข้อมูลถูกรวบรวมโดยสมาชิกหัวกะทิของหอคอยพ่อมดมืด สิ่งที่ดีคือ ข้อมูลของสมาชิกจะถูกคุ้มครองและส่วนใหญ่จะไม่สามารถเข้าถึง ความลับสุดยอดนี้ได้ มันทำให้แองเจเล่ใช้เวลาอยู่หลายนาทีก่อนที่จะค้นพบข้อมูลที่เกี่ยวข้อง กับสิ่งที่ฮิคาริกล่าวถึ ง 'โบราณสถานที่มีสมบัติลับ: ท่านจะต้องใช้ขลุ่ยอิเวอร์สันเพื่อเข้า โบราณสถาน ระดับความอันตราย: 3' ระดับความอันตรายถูกกำหนดโดยใช้ระบบจัดอันดับของพ่อมด ระดับ ความอันตรายระดับสามหมายถึงมีเพียงพ่อมดที่เหนือกว่าระดับสาม เท่านั้นที่จะได้รับสมบัติอย่างปลอดภัย แองเจเล่หรี่ตาและมองไปที่รายละเอียด 'สมบัติที่เป็นไปได้: มนุษย์ก่ิ้งก่า(*), เถาวัลย์เขย่าขวัญและขลุ่ยของอิ เวอร์สัน(ของแท้)' 'มนุษย์กิ้งก่าเป็นสิ่งมีชีวิตลึกลับจากเรื่องเล่า มันจะช่วยพ่อมดก้าวหน้า ได้เร็วขึ้นด้วยเทคนิคการทำสมาธิขั้นสูง ในที่สุดก็มีสิ่งที่คุ้มค่าที่จะต่อสู้ เพื่อมัน' แองเจเล่ยิ้ ม *ตรงนี้ไม่แน่ใจสักเท่าไหร่เพราะคำมันแปลได้หลายความหมาย ตอนที่347: รวมตัวใหม่(2) แปลนิยาย.วันศุกร์ ที่ 4 พฤษภาคม 2018 ได้แค่สามนะครับวันนีอีกตอนเจอกันเช้าๆ(เที่ยง) พรุ่งนี้สามตอน แองเจเล่ได้รับข้อมูลจำนวนมากเกี่ยวกับทรัพยากรหายากผ่านระบบ ข้อมูลของหอคอยพ่อมดมืดในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เขาสนใจเพียง ทรัพยากรที่จะช่วยเพิ่มความคืบหน้าของเขาแต่ปัญหาหลักคือระดับ ความอันตรายและระยะทาง ถ้าไม่มีจดหมายของฮิคาริเขาก็คงจะไม่ สังเกตว่ามีโบราณสถานที่มีสมบัติล้ำค่าอยู่ใกล้ๆเมืองขนาดเล็กแบบ เมืองท่าอากาศยาน 'อย่างไรก็ตาม โบราณสถานอิเวอร์สันเป็นที่รู้จักกันว่ามีขนาดมหึมา และมันแตกต่างจากที่อื่นที่ข้าเคยไป มนุษย์กิ้งก่าจะช่วยพ่อมดทุกคนที่ อยู่ต่ำกว่าระดับสี่อย่างมาก ถ้าหอคอยพ่อมดมืดมีข้อมูลนี้องค์กรอื่นๆก ็ อาจจะพบเรื่องนี้แล้วเช่นกัน' การแสดงออกของแองเจเล่เปลี่ยนไป เขากำลังขบคิดเรื่องการเข้าร่วม ทีม แองเจเล่ใช้เวลาหลายปีในการทำให้พลังจิตของเขาเสถียรและเรียนรู้ คาถาระดับสอง ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปเลย การก้าวไปสู่ระดับที่สอง และสามเป็นเรื่องง่ายเมื่อเทียบกับระดับที่สี่แต่ร่างกายขงเขาก็อาจจะ ได้รับความเสียหายอย่างถาวรหากล้มเหลว นั่นคือเหตุผลที่ว่าทำไมพ่อ มดพยายามที่จะก้าวไปสู่ระดับต่อไปเมื่อพวกเขาเตรียมตัวเต็มที่แล้ว เท่านั้นถึงแม้ว่าจะมีเทคนิคการทำสมาธิขั้นสูงก็ตาม ดูเหมือนว่าฮิคาริได้รับข้อมูลเกี่ยวกับสมบัติและต้องการทดสอบโชค ของเธอแต่การสำรวจโบราณสถานอันตรายอย่างยิ่ง ระดับความ อันตรายของโบราณสถานอยู่ที่ระดับสามแต่อะไรก็เกิดขึ้นได้เมื่อมีพ่อ มดมากมายไปหาสมบัติ หลายครั้งที่ผ่านมาแองเจเล่ได้เข้าโบราณสถานแล้วไม่ได้จบลงด้วยดี สมาชิกส่วนใหญ่ในทีมของเขาถูกฆ่าระหว่างการสำรวจ พ่อมดในทวีปกลางแตกต่างจากพ่อมดที่ฝั่งตะวันตก พวกเขามี เป้าหมายที่ชัดเจนและความคืบหน้าด้วยเทคนิคการทำสมาธิขั้นสูงมัน เป็นตัวเลือกที่ดีกว่าการเสี่ยงชีวิตของพวกเขาในโบราณสถานที่ อันตราย มีเพียงพ่อมดที่ชอบการผจญภัยหรือที่ไม่สามารถเข้าถึงสำเนาที่ สมบูรณ์ของเทคนิคการทำสมาธิขั้นสูงเท่านั้นที่จะสำรวจโบราณ สถานที่มีสมบัติ หัตถ์ธาตุได้รู้ความสัมพันธ์ระหว่างวิเวียนและแองเจเล่เขาสงสัยว่าวิ เวียนจะเชื่อคำพูดของเฮนน์หรือไม่ถ้าเธอบอกความจริงแก่วิเวียน มนุษย์กิ้งก่าแทบจะเป็นไปไม่ได้ที่จะพบภายใต้สถานการณ์ปกติและ มันอาจช่วยแองเจเล่ระหว่างการทำสมาธิเขาสามารถขอให้พ่อมดใน องค์กรสำรวจโบราณสถานให้เขาได้เพื่อที่เขาจะไม่ต้องเสี่ยงชีวิตของ เขา นอกจากนี้มันก็ยังต้องใช้เวลาสักพักในการเดินทางไปเมืองท่าอากาศ ยานจากคฤหาสน ์ อย่างไรก็ตาม แองเจเล่จะพลาดกับฮิคาริและเพื่อนคนอื่นๆของเขา เขา ตัดสินใจที่จะร่วมประชุมก่อนและตัดสินใจว่าต้องการเข้าร่วมทีมสำรวจ หรือไม่ในภายหลัง เขาลูบแหวนอีกครั้งและคำบนโต๊ะก็หายไปในขณะที่หน้าจอแสงจางลง "ลิน!" "คะนายท่าน" หญิงสาวผมหางม้าสีดำก้าวออกมาจากห้องนอนห้อง หนึ่งบนชั้นหนึ่ง มีหมึกหยดลงมาจากแขนเสื้อของเธอและมันดู เหมือนว่าเธอกำลังเขียนอะไรบางอย่างเมื่อแองเจเล่เรียกชื่อของเธอ "ข้าจะออกจากคฤหาสน์ในอีกหลายวัน" แองเจเล่ลุกขึ้นยืน "ทำให้แน่ใจ ว่าเจ้าเตรียมตัวพร้อมอย่างเต็มที่เพราะข้าอาจต้องการให้เจ้าช่วย ระหว่างการต่อสู้" "เข้าใจแล้วค่ะ" ลินทำตามคำสั่งของแองเจเล่โดยไม่ลังเล แองเจเล่ชอบ เธอมากกับการเชื่อฟังของเธอ เขาได้มอบทรัพยากรและอุปกรณ์เวท มนต์จำนวนมากเป็นรางวัลสำหรับสิ่งที่เธอทำเพื่อเขา หญิงสาวไม่ได้ดูแก่ขึ้นเลยหลังจากผ่านไปสิบปีเช่นเดียวกับพ่อมดคน อื่นๆ พวกเขามีหลายวิธีที่จะทำให้รูปลักษณ์ของพวกเขาไม่ เปลี่ยนแปลง "ข้าควรแจ้งท่านวิเวียนเกี่ยวกับเรื่องนี้หรือไม่" เธอส่งคำพูดผ่านอนุภาค พลังงาน "ไม่เป็นไร เราจะกลับมาก่อนที่แม่จะสังเกตเห็นและเจ้าจะปกป้องข้าใช่ ไหม" แองเจเล่ตอบ ลินเป็นหนึ่งในพ่อมดระดับสองที่แข็งแกร่งที่สุดที่เขาเคยพบมาและนั่ น เป็นเหตุผลว่าทำไมวิเวียนได้ส่งเธอเพื่อมาเป็นผู้คุ้มกันให้แองเจเล่ "เข้าใจแล้วค่ะ" วิเวียน ลินและพสุธาทมิฬรู้ว่าแองเจเล่กำลังถืออุปกรณ์ที่อันตรายที่จะ ช่วยเขาให้รอดพ้นจากอันตรายที่เลวร้ายที่สุด นอกจากนี้มันก็ไม่มี เหตุผลใดที่เขาจะต้องบอกวิเวียนเกี่ยวกับการตัดสินใจทุกครั้งที่เขาทำ "เอาล่ะ ตอนนี้ไปเตรียมตัวได้แล้ว" "ค่ะนายท่าน" ******************************* เมืองท่าอากาศยาน ดวงอาทิตย์กำลังตกและเมืองก็เงียบสงบ มีรถม้าสีขาวที่มีเถาวัลย์สีเงินสลักไว้ที่ตัวรถของมันจอดอยู่ข้างนอก กำแพงของอารีน่าขนาดมหึมาในใจกลางเมือง ประตูของรถม้าถูกเปิดออก ภายในมีหญิงสาวผมสีดำยาว หญิงสาวมี ใบหน้าสวยและอิริยาที่สง่างาม มีรอยเงินบนหน้าอกของชุดคลุมยาวสี ขาวของเธอ คนขับรถม้าเป็นชายล่ำสันในชุดเกราะสีเทา ขณะนี้กำลังงีบหลับอยู่บน ที่นั่ ง มีคนเดินเท้าหลายคนเดินผ่านถนน ส่วนใหญ่กำลังสวมเสื้อโค้ทหนา แสงจากดวงอาทิตย์ที่กำลังตกไม่ได้นำความอบอุ่นสู่แผ่นดิน เวลาได้ผ่านไป ผู้หญิงในรถม้ากำลังมองไปที่ถนนอย่างเงียบๆ ในที่สุดก็ค่อยๆมีรอยยิ้มปรากฏบนใบหน้าของเธอในขณะที่ชายร่างสูง สวมโค้ทสีดำคนหนึ่งเดินมาทางรถม้าจากถนน ชายคนนี้หยุดข้างหน้า ของรถม้าและกระโดดขึ้นไปบนรถอย่างรวดเร็ว "ไม่มีอะไรเปลี่ยน สติกม่า ไม่มีอะไรเปลี่ยนไปเลย" ผู้หญิงยิ้ ม "ใช่ฮิคาริไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปเลย" ชายคนนั้นถอดฮู้ดออกทำให้ เห็นใบหน้าซีดๆของเขา สีผมและรูม่านตาของเขาเปลี่ยนจากสีดำเป็นสี ม่วงเข้มแต่มันก็ยากจะสังเกต "พวกเขาอยู่ไหน" สติกม่าถามเสียงเบา "ข้าไม่รู้ว่าพวกเขาจะพบกับเราที่นี่ไหม แม้ว่าเราจะยังคงแลกเปลี่ยน ข้อมูลกันในช่วงหลายปีที่ผ่านมาแต่ก็ไม่มีใครพูดเรื่องความคืบหน้าของ พวกเขาเนื่องจากข้อจำกัดขององค์กร ข้าไม่แน่ใจว่าเมื่อเร็วๆนี้พวกเขา กำลังทำอะไร" ฮิคาริอธิบาย "เจ้าทำอะไรในตระกูลของเจ้า" "ข้าทำได้ดีเชื่อหรือไม่ว่าน้องสาวและแม่ของข้ายังคิดว่าข้าเป็นผู้ฝึกหัด ระดับสาม แต่สถานการณ์เริ่มแย่ลงเรื่อยๆในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ถ้า ทุกคนมาครั้งนี้ข้าต้องการให้พวกเจ้าช่วยข้าแก้ปัญหาของข้า มันจะไม่ มีปัญหามากนัก" สติกม่าพูดตามตรง เขาไม่มีอะไรที่จะซ่อน "ข้าคิดว่ามันคงจะเป็นเรื่อยง่าย" ฮิคาริประหลาดใจเล็กน้อย "ใช่ มันง่ายมาก" สติกม่าหัวเราะ "ฟังดูดี" "เรย์ไลน์เข้าร่วมกิลพ่อมดและกรีนเข้าร่วมหัตถ์ธาตุนั่นคือทั้งหมดที่ข้ารู้ มันใช้เวลาเป็นเดือนสำหรับข้อความที่จะส่งโดยใช้เสาสัญญาณโอเบ ลิสก ์ข้าไม่รู้ว่าพวกเขาได้อ่านข้อความหรือยัง" ฮิคาริถอนหายใจ "ข้าหวังว่าพวกเขาทุกคนจะมา ข้าเตรียมของขวัญพิเศษสำหรับทุกคน" สติกม่ามองไปที่ฮิคาริ "ดีข้าจะบอกพวกเขาว่าเจ้าพูดอะไรในข้อคาม อย่าทำให้เราผิดหวัง" ฮิ คาริส่ายหัวเล็กน้อย "ไม่เอาน่า ข้าไม่เคยโกหกเพื่อนของข้าและเราทุกคนมาจากฝั่ง ตะวันตก" พวกเขาพูดคุยกันในรถม้าสักพัก "ไปร้านกาแฟร้านนั้นและรอพวกเขาที่นั่นกันเถอะ" ฮิคาริแนะนำ "ตกลง" คนขับรถม้าเพิ่งตื่นขึ้นมาและได้ยินคำพูดนีรถม้าเริ่มไปข้างหน้าช้าๆ และมุ่งหน้าไปฝั่งตรงข้ามของอารีน่า รถม้าไปตามถนนที่ว่างเปล่าและมาถึงร้านกาแฟม มันเป็นที่ที่พวกเขา พบกันครั้งสุดท้าย ป้ายร้านสีน้ำตาลกำลังสั่นไหวในสายลมหนาว ชื่อของร้านถูกเขียนอยู่: ร้านกาแฟภูเขาหิมะ สติกม่าและฮิคาริลงจากรถม้า พวกเขาก้าวเข้าไปในร้านหลังจากที่รถ ม้าออกไป มีคนไม่มากนักที่กำลังซื้อเครื่องดื่ม หญิงอวบวัยกลางคนกำลังยืนอยู่ ข้างหลังเคาน์เตอร ์เธอยังคงเป็นสาวสวยเมื่อพวกเขาพบกันในร้านครั้ง สุดท้าย มีสาวสวยมากมายกำลังยืนอยู่ข้างเคาน์เตอร ์พวกเธอกำลังสวม กางเกงสีขาวแน่นที่ดูเหมือนกางเกงยีนและขาของพวกเธอก็ดูน่าดึงดูด ในกางเกงเหล่านั้น ข้างนอกมันเย็นแต่ชุดของพวกเธอก็ยังค่อนข้างที่จะ โล่ง ลูกค้าส่วนใหญ่มาที่นี่เพียงเพราะสาวสวยเหล่านั้น "หลายปีได้ผ่านไป เธอยังเป็นหญิงสาวในครั้งสุดท้ายที่เราพบกัน" ฮิคาริ ถอนหายใจด้วยอารมณ์ที่หลากหลาย "ใช่ข้ารู้ว่าเจ้าหมายถึงอะไร มันรู้สึกเหมือนเราติดอยู่ในกาลเวลา" สติกม่าพยักหน้าเล็กน้อย "ไปหาโต๊ะว่างกันเถอะ" "ดีส่วนใหญ่เป็นโต๊ะว่าง" พวกเขาเดินไปที่มุมและพยายามหาโต๊ะที่พวกเขานั่งในครั้งที่ผ่านมาแต่ มันก็ถูกชายหัวล้านที่กำลังสวมชุดหนังสีดำนั่งอยู่เขากำลังคุยกับ พนักงานเสิร์ ฟ ปึก "เจ้า เอาเหรียญและออกไป เราต้องการโต๊ะตัวนี้" ฮิคาริทิ้งเหรียญทอง ไว้บนโต๊ะ ชายหัวล้านลังเลชั่วครู่และมองไปที่คนแปลกหน้าทั้งสองคน เขารีบ ตรวจสอบดูว่ามันเป็นเหรียญทองของจริงหรือไม่ "มันเป็นของพวกเจ้า" ชายคนนั้นดูตื่นเต้น เขารีบลุกและลากพนักงาน เสิร์ฟไปโต๊ะอื่ น ปฏิกิริยาของคนแปลกหน้าทั้งสองกับชายหัวล้านดึงดูดความสนใจของ ลูกค้าคนอื่นๆ หญิงวัยกลางคนข้างหลังเคาน์เตอร์สับสนเล็กน้อย คนแปลกหน้าทั้ง สองนั้นดูคุ้นเคย บรรยากาศในร้านเริ่มหนักอึ้ง ลูกค้ารู้ว่าคนแปลกหน้าทั้งสองเป็นพ่อมด และส่วนใหญ่เป็นพวกอารมณ์ร้อน พ่อมดมักจะฆ่าโดยไม่ลังเล โจรบาง คนและคนที่มีความรุนแรงส่วนใหญ่จากหุบเขาก็จะสวมเสื้อคลุมยาว ประชาชนพยายามที่จะไม่ยุ่งกับคนแบบนี หลายนาทีต่อมาลูกค้าก็จ่ายเงินและออกจากร้าน มีเพียงพนักงานเสิร์ฟ และหญิงวัยกลางคนที่ยังอยู่ในร้าน ดวงอาทิตย์ได้หายไปจากขอบฟ้าและมันก็ถึงเวลากลางคืน ประตูของร้านได้ถูกเปิดอีกครั้งในขณะที่สติกม่ากำลังพูดกับฮิคาริ มีชายหนุ่มผมสีน้ำตาลยาวค่อยๆก้าวเข้ามาในร้าน เขากำลังสวมชุดสี ดำที่มีปลอกแขนสีแดงเข้มที่แขนขวา มีรอยเงินที่ลึกลับบนผิวหนังของ เขา มีสาวสวยผมหางม้าสีดำเดินตามหลังเขา นอกจากนี้เธอยังสวมชุด สีดำ "กรีน ข้าคิดว่าเจ้าจะไม่มา" สติกม่าลุกขึ้นยืนและมองไปที่ชายหนุ่มข้าง ประตู "ไม่ได้เจอกันนาน ข้ามาที่นี่เพื่อพบกับเพื่อนเก่าของข้า" มีรอยยิ้มที่ อ่อนโยนบนใบหน้าของแองเจเล่ ตอนที่348: ปัญหา (1) แปลนิยาย.วันเสาร์ ที่ 5 พฤษภาคม 2018 ทั้งสามนั่งลงอีกครั้งและพวกเขาทุกคนก็สั่งกาแฟร้อน ไอน้ำสีขาวลอยออกมาจากแก้วทั้งสามและพวกมันยังดูเหมือนกระบอก ที่กำลังปล่อยควันออกมาบนโต๊ะสีขาว "ถึงเวลาแล้ว ข้าคิดว่าเรย์ไลน์คงไม่มา" ฮิคาริตรวจสอบนาฬิกาพกของ เธอ สติกม่าจับไปที่แก้วของเขาและจิบมัน "ไม่เป็นไร ข้ามีเรื่องที่จะขอ แม้ว่า เราจะเป็นเพื่อนกันแต่ข้าก็ยังต้องจ่ายให้พวกเจ้า" แองเจเล่จับแก้วด้วยมือขวาและจิบมันหลายครั้ง "เจ้าต้องการให้เราทำอะไรสติกม่า เราได้รอดจากการเดินทางมาทวีป กลางด้วยกัน แม้ว่าการแลกเปลี่ยนที่ยุติธรรมจะเป็นกฎแรกสำหรับพ่ อ มดเจ้าก็ไม่จำเป็นต้องจ่ายให้ข้า" แองเจเล่พู ด ฮิคาริมองไปที่สติกม่าโดยไม่ได้พูดอะไร "ข้าจะบอกเจ้าในภายหลัง สถานการณ์มัน.....ซับซ้อน" สติกม่าหยุดชั่ ว ครู่และพูดต่อ "ดูเหมือนว่าเรย์ไลน์จะไม่มา" "เจ้ากำลังพูดเรื่องอะไร" มีเสียงผู้ชายที่ดูใจเย็นมาจากทางเข้า ทั้งสามเงยหน้าขึ้น มันเป็นชายชุดเกราะเงินที่มีผ้าคลุมสีดำที่หลังกำลังก้าวเข้ามาในร้าน ผมสีบลอนด์และหน้าตาที่หล่อเหลาของเขาดูสะดุดตา มันเป็นเรย์ไลน ์ เขาไม่ได้ดูแก่ขึ้นเลย เสียงฝีเท้าของเรย์ไลน์มันดังและทุ้ม มันดูเหมือนว่าชุดเกราะของเขาจะ หนัก เขาเดินมาที่โต๊ะและนั่งลงข้างสติกม่า เรย์ไลน์มองไปรอบๆและสายตา ของเขาก็มองไปที่แองเจเล่ "เอาล่ะ เนื่องจากเราอยู่ที่นี่แล้วข้าคิดว่าเราควรจะไปเยี่ยมมอร์ริสซ่า พวกเจ้าคิดว่าอย่างไร" ฮิคาริแนะน "ตกลง" "ไปกันเถอะ" แองเจเล่และเรย์ไลน์เห็นด้วย สติกม่าส่ายหัว "มอร์ริสซ่ากำลังมีความสุขกับชีวิตที่สงบสุขของเธอ หลังจากที่แต่งงาน ตระกูลของสามีของเธอได้ใช้เทคนิคลับบางอย่าง และช่วยให้เธอตั้งครรภ ์เด็กที่เกิดมาจะไม่มีปัญหาใดๆแต่เธอได้เสีย พลังจิตไปครึ่งหนึ่ง ตอนนี้เด็กคนนั้นอายุได้10 ปีแล้ว ข้าเคยไปเยี่ยม ครั้งหนึ่งแต่เธอดูเหมือนหญิงวัยกลางคนที่พวกเจ้าสามารถมองเห็นได้ ทุกที่" มีรอยยิ้มที่ขมขื่นบนใบหน้าของสติกม่ า "เธอไม่ได้เป็นหนึ่งในพวกเราอีกต่อไปแต่เธอก็อาจจะตัดสินใจได้ ถูกต้อง" ฮิคาริดูหดหู่เล็กน้อยหลังจากที่ได้ยินคำพูดนั้น "เอาล่ะ กลับมาที่หัวข้อนั้นกันเถอะ เจ้าต้องการให้พวกเราทำอะไร ข้า คิดว่าเรากำลังจะไปสำรวจโบราณสถาน" แองเจเล่ขัด "ข้าไม่มีเวลามาก นัก" สติกม่าได้รับการโจมตีให้แองเจเล่และเกือบจะตายในเรือเหาะ แม้ว่า สติกม่าจะทำเพื่อทีมแต่มันก็ยังทิ้งความประทับใจไว้ในจิตใจของแองเจ เล่ "มันง่ายมาก ข้าต้องการแก้ปัญหาให้สมบูรณ์" สติกม่าเริ่มอธิบาย "มีพ่อ มดที่แข็งแกร่งที่สุดห้าคนในตระกูลของข้า ข้าสามารถต่อสู้กับสองคน ได้ด้วยตัวเองและข้าต้องการให้พวกเจ้าช่วยข้าจัดการกับคนที่เหลือ" "เจ้าต้องการให้เราฆ่าพวกเขาหรือเพียงแค่จับพวกเขา" เรย์ไลน์ถาม "ถ้าเป็นไปได้ให้จับพวกเขา แต่เจ้าสามารถฆ่าพวกเขาได้หากเจ้า ต้องการ" สติกม่าหัวเราะเบาๆ "เราจะเริ่มเมื่อไหร่" แองเจเล่จิบกาแฟจากแก้ว "พรุ่งนี้เช้า" สติกม่าจิบกาแฟเสร็จและวางแก้วไว้บนโต๊ะ "มันง่ายกว่ า แผนเดิมของข้าเล็กน้อย แต่สถานการณ์กำลังแย่ลง น้องสาวของข้าถูก มองว่าเป็นคนทรยศต่อตระกูลและเธอกำลังถูกไล่ล่าโดยนักฆ่า" เขาลุกขึ้นยืน "ไปกันเถอะพวกเรา ข้าจะฆ่าทุกคนที่จะแตะต้องน้องสาว ของข้า" "เจ้าได้ช่วยชีวิตของข้าครั้งหนึ่งและข้าจะปฏิบัติต่อน้องสาวของเจ้า เหมือนของข้าเอง" แองเจเล่ชนแก้วของเขากับเรย์ไลน ์ "ใช่ เขาพูดถูก" เรย์ไลน์ตระหนักว่าเขาไม่เคยชอบชายที่ชื่อกรีนหลังจาก ที่แก้วของพวกเขาชนกัน การแสดงออกของเรย์ไลน์เปลี่ยนไปและเขา จ้องที่แองเจเล่ ฮิคาริส่ายหัวและหัวเราะเบาๆ "ข้าสามารถหาพ่อมดจากกิลด์ผู้เชี่ยวชาญยาเพื่อช่วยเรา นอกจากนี้ กิลด์ยังสามารถกดดันตระกูลของเจ้าได้ เจ้าจะว่ายังไง" "ดีข้าสามารถเรียกทีมที่มีพ่อมดทางการได้สูงสุด 100 คนและทหารที่มี ประสบการณ ์2,000 นาย บอกตำแหน่งแก่เรา เราจะตั้งบาเรียรอบ อาณาเขตตระกูลของเจ้า ไม่มีใครสามารถต่อต้านกิลด์พ่อมดได้" เรย ์ ไลน์เหลือบมองที่แองเจเล่ แองเจเล่กลอกตา "มองมาที่ข้าทำไม....องค์กรของข้าอ่อนแอดังนั้นข้า จึงไม่มีทีมพ่อมดหรืออะไรแบบนั้น" "อย่าทำให้พ่อมดจากองค์กรของพวกเจ้ายุ่งยาก" สติกม่าเปิดปาก เขาดู ตกใจเล็กน้อย มันดูเหมือนว่าฮิคาริและเรย์ไลน์กำลังไปได้ดีกับองค์กร ของพวกเขา "พ่อมดระดับสอง 5 คน ข้าคิดว่าเราสามารถชนะการต่อสู้ได้ด้วยตัว พวกเราเอง" "เอาล่ะ ไปกันเถอะ มันจะใช้เวลาสักระยะหนึ่งในการไปถึงอาณาเขต ของตระกูลของข้า" สติกม่าสวมฮู้ดและปกคลุมใบหน้าของเขาด้วย หน้ากาก ****************************** ถูกล้อมรอบไปด้วยหญ้าสีเหลืองสูงที่กำลังสั่นไหวในสายลมที่อ่อนโยน มีบ้านไม้สีน้ำตาลตั้งอยู่เงียบๆตรงกลางของที่ราบลุ่ม สติกม่านั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามกับหญิงชราคนหนึ่งที่มีผมยุ่งภายในบ้าน เขา กำลังสวมชุดคลุมดำยาว "แม่บอกข้ามาว่าเกิดอะไรขึ้นกับน้องสาวของข้า" เขาลุกขึ้นยืนและเดิน ไปที่หน้าต่างในขณะที่เขาถาม "ไม่มีอะไรเกิดขึ้น" หญิงชราส่ายหัว "เจ้าเก็บข้าวของของเจ้าหมดแล้วใช่ ไหม ไปเถอะ ข้าไม่สนใจว่าเจ้าจะไปพื้นที่แม่น้ำแบสของพื้นที่แม่น้ำ ลาวามัลเท็นหรือไม่อย่าอยู่ในตระกูล เจ้าเป็นเป้าหมายต่อไปของพวก เขา" เสียงของหญิงชราแหบแห้ง "ไปหรือ ฮ่าๆ..." สีหน้าของสติกม่าเริ่มจริงจัง "อย่ากังวลเรื่องข้า ข้าจะ จัดการกับมัน เอาล่ะแม่มันไม่มีเวลาเหลือมากนัก บอกตำแหน่งแก่ข้า" หญิงชราเงยหน้าขึ้น มันเป็นครั้งแรกที่สติกม่าพูดกับเธอแบบนี้ รอยยิ้ ม ที่อ่อนโยนของชายหนุ่มถูกแทนที่ด้วยสีหน้าเย็นชา เธอไม่เคยเห็น สติกม่าใช้เวลาเรียนรู้คาถาหรือทำสมาธิน่าเศร้าที่แม่ของสติกม่าเป็น ปุถุชนและเธอไม่ได้สังเกตว่าสติกม่าไม่ได้ซ่อนพลังจิตของเขาอีกต่อไป "ข้าจะหาตำแหน่งด้วยตัวเองถ้าท่านไม่พูดอะไร" สติกม่าสวมฮู้ดและ ออกจากบ้าน "ไมต้องกังวลเดลล่า ครั้งนี้ข้าจะเป็นคนปกป้องเจ้า" เขาพึมพำ สติกม่าเงยหน้าขึ้นและเห็นคนสามคนที่กำลังรอเขาอยู่ที่ขอบฟ้า เขาปิดประตูและมุ่งหน้าไปหาเพื่อนของเขา ************************** หุบเขาอเวจี มีรอยแตกสีดำลึกอยู่ตรงกลางของที่ราบสีเหลือง รอยแตกยาวอย่างไม่ มีที่สิ้นสุด มีลมที่หนาวเย็นออกมาจากส่วนลึกของมัน แสงสีทองได้ส่องลงบนแผ่นดินแต่มันไม่ได้ทำให้หุบเขาอุ่นขึ้ น มีจุดสีแดงกำลังเคลื่อนที่ไปข้างหน้าอย่างช้าๆที่ขอบหุบเขา มีจุดสีเขียวสามจุดกำลังตามหลังจุดสีแดง แกว๊ก มีเงาทะยานผ่านอากาศ มันเป็นอินทรีดำที่กำลังวนเหนือจุดสีแดง ปีก ของอินทรีปิดกั้นแสงแดดเป็นครั้งคราว จุดสีแดงเหลือบมองที่อินทรีและยังคงวิ่งต่อไปแต่มันก็ช้าลง มันเป็นหญิงสาวที่กำลังสวมชุดหนัง มีรูนรูปตัว V ที่ซับซ้อนระหว่างคิ้ว ของเธอและใบหน้าที่ซีดของเธอ มีเหงื่อเย็นๆหยดลงไปที่พื้นจากคาง ของเธอ ผมดำของหญิงสาวเต็มไปด้วยฝุ่นและเหงื่อ หญิงคนนี้กำลังหายใจอย่างหนัก เธอมองไปที่คนข้างหลังเธอ มันดู เหมือนว่าแขนขวาของเธอได้รับบาดเจ็บเพราะแขนเสื้อของเธอโชกไป ด้วยเลือด "เดลล่า ฟิลิปไปที่แม่น้ำลาวามันเท็นและตอนนี้ไม่มีใครสามารถช่วยเข้า ได้กลับไปกับเราและส่งมอบของนั้นมามิฉะนั้นเราจะฆ่าทุกคนที่เจ้ารัก" มีเสียงของชายหนุ่มดังมาจากข้างหลัง เดลล่าไม่ได้สนใจคำพูดของชายคนนี "ถ้าข้ามอบให้เจ้าเจ้าก็จะฆ่าข้าทันทีร่างมนุษย์กิ้งก่าไม่ใช่สิ่งเดียวที่เจ้ า ต้องการ หัวหน้าตระกูลบอกให้เจ้าฆ่าข้าและเอาของนี้ไป" "เสียเวลาจริงๆ" ชายหนุ่มโกรธ พวกเขาได้ใช้เวลาหลายวันในการไล่ล่ า หญิงสาวและพวกเขาทุกคนกำลังเหนื่อย นักฆ่าจากตระกูลไม่ได้คาดหวังว่าเดลล่าจะเดินทางไว้เช่นนี้และมีเพียง สามคนที่ตามความเร็วของเธอทัน "นอร์ธเรนด ์หยุดไล่ตามข้า ข้าไม่มีของนั้น" เดลล่าส่งคำพูดผ่านอนุภาค พลังงาน "ฮ่าๆ เราจะจับเจ้าได้ในไม่ช้านีเดลล่า เจ้าเป็นแม่มดที่รับใช้ตระกูลเป็น อย่างดีและเราต้องการให้เรื่องนี้จบอย่างสงบ ฟังให้ดีเจ้าเป็นผู้หญิง และเจ้ารู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นถ้าเราจับเจ้าได้นี่เป็นการเตือนครั้งสุดท้าย!" ชายที่ชื่อนอร์ธเร็นด์ตะโกน "อย่าแม้แต่จะพยายามเปิดใช้งานรูนสื่อสารของเจ้า คลื่นพลังงานที่ ปลดปล่อยจากอุปกรณ์เวทมนต์ของข้าได้ปิดกั้นการไหลเวียนพลังงาน ในพื้นที่นี้แล้ว ฮ่าๆๆ" เดลล่ากัดริมฝีปาก นอร์ธเรนด์รู้อยู่แล้วว่าเธอกำลังพยายามจะทำอะไร "ฟิลิปจะกลับมาหาเจ้าไม่ทันแม้ว่าเขาจะรู้ความจริง" นอร์ธเรนด์หัวเราะ เยาะ "ยอมแพ้ซะ มีใครบางคนต้องการร่างกายและของๆเจ้า ฟังข้า กลับไปที่ตระกูลด้วยกันและเราจะไม่ทำร้ายเจ้า" "หา ใครต้องการร่างกายของเดลล่า" "ผู้สืบทอดอันดับหนึ่งของตระกูลเชอร์แมน ท่านออสการ ์อย่าทำให้เรา เสียเวลา ตระกูลได้ให้ทรัพยากรทั้งหมดที่เจ้าขอและมันถึงเวลาที่เจ้า จะต้องชดใช้ให้กับตระกูล" หัวของนอร์ธเรนด์งุนงงเล็กน้อยและเขาก ็ ตระหนักว่ามันเป็นคนละคนที่ถามคำถาม ทันใดนั้นเดลล่าก็กระโดดไปข้างหน้าและอยู่ในอ้อมแขนของชายหนุ่ม มันเป็นชายหนุ่มผมสีดำ "สติกม่าหรือ" นักฆ่าหยุด นอร์ธเรนด์หรี่ตาและจ้องที่สติกม่า "เจ้าหา ตำแหน่งของเธอได้อย่างไร" "มันไม่สำคัญ" สติกม่ายกมือขวาขึ้นและเล็งไปที่นักฆ่า มีคลื่นวนสีแดง เข้มค่อยๆปรากฏบนฝ่ามือของเขา "คาถานั้น...." สีหน้าของนอร์ธเรนด์เปลี่ยนไปและถอยหลังไปหลายก้าว "สาม...." ตู้ม นอร์ธเรนด์และนักฆ่าอีกสองคนได้ถูกล้อมรอบไปด้วยแสงสีแดงเข้ม ก่อนที่เขาจะพูดจบประโยค "พี่ชาย...." เดลล่ากำลังร้องไห้ในอ้อนแขนของสติกม่า เธอมองไปที่ สติกม่า ด้วยเหตุบางอย่างเธอชื่อว่าสติกม่าสามารถช่วยเธอแก้ปัญหา ได้ ******************** บนที่ราบสีเหลืองที่ไม่มีที่สิ้นสุด แองเจเล่และลินกำลังยืนอยู่ข้างหน้าของชุดคลุมเขียวสี่คนอย่างสงบ "เจ้าเป็นใคร ตระกูลของเราเป็นหนึ่งในตระกูลที่แข็งแกร่งที่สุดในเมือง ท่าอากาสยานและเรากำลังไล่ตามคนทรยศ" ตาซ้ายของหัวหน้าถูกปิด ด้วยผ้าปิดตาสีขาวและมีกระบองสีดำในมือขวาของเขา ชายคนนี้ดู เหมือนนักรบบาร์บาเรี่ยนมากกว่าพ่อมด "ใช่ใช่เจ้ากำลังไล่ตามคนทรยศและเจ้าไม่ได้เป็นเพียงแค่นักฆ่าใช่ ไหม" แองเจเล่ไม่ได้สนใจเลย หัวหน้าของชุดคลุมเขียวรดฝีปาก "เจ้าเป็นใคร นี่เป็นการเตือนครั้ง สุดท้าย เรามีภูมิหลังที่แข็งแกร่ง ท่านที่อยู่ข้างหลังเรามาจาก...." "ลิน ไปจัดการ" แองเจเล่ถอยหลัง เขารู้ว่ามันเป็นการเสียเวลาเท่านั้น ลินพยักหน้าและก้าวไปข้างหน้า เธอยกมือขวาขึ้นและสร้างลูกลาวาสี แดงบนฝ่ามือ แสงสีแดงที่สดใสส่องลงบนร่างกายของเธอ คลื่นความร้อนที่มีอุณหภูมิสูงได้แผ่กระจายไปทุกมุม หญ้ารอบๆเธอ กำลังแห้งลงอย่างรวดเร็วและบางต้นก็ได้หายไปในเปลวไป ชุดคลุมเขียวทั้งสี่ก้าวถอยหลังพร้อมกัน ในที่สุดพวกเขาก็เข้าใจ สถานการณ ์ ลินโยนลูกลาวาไปข้างหน้า ลูกสีแดงได้ระเบิดในอากาศและมีจุดแสงสีแดงนับไม่ถ้วนตกลงมาที่พื้น ลิน แองเจเล่และชุดคลุมเขียวทั้งสี่อยู่ภายในระยะของการระเบิด หยดลาวากระจายไปทั่วร่างกายของพวกเขาแต่พวกเขาก็ปิดกั้นด้วยบา เรียพลังงานโปร่งใสเมื่อพวกเขากำลังจะโจมตีแองเจเล่และลิ น มันเป็นลักษณะของแกนแม่น้ำมัลเท็น แม้ว่าหยดลาวาจะไม่เลือก เป้าหมายด้วยตัวเองแต่พวกมันก็จะไม่ทำความเสียหายกับคนที่ สามารถปลดปล่อยลูกลาวา ความต้านทานไฟของพวกเขาสูงมากจน หยดลาวาหรือเปลวไฟจะไม่ทำให้เกิดความเสียหายกับพวกเขา การป้องกันที่ดีที่สุดคือการโจมตี ลูกลาวาที่ระเบิดมีระยะกว้างและพ่อมดที่สามารถปล่อยมันได้จะไม่ได้ รับความเสียหายใดๆแต่ฝ่ายตรงข้ามจะต้องปลดปล่อยบาเรียของพวก เขา มีจุดแสงสีน้ำเงินข้างหน้าสายตาของแองเจเล่ในขณะที่เขารีบ ตรวจสอบความเสียหายของลูกลาวาของลิน 'ความเสียหายเป็นวงกว้าง 110 หน่วย....น่าสนใจ ลูกลาวาไม่ จำเป็นต้องร่ายแต่ความเสียหายมันก็ยังดีอยู่' ตอนที่349: ปัญหา (2) แปลนิยาย.วันเสาร์ ที่ 5 พฤษภาคม 2018 ชุดคลุมเขียวทั้งสี่ถอยหลังไปหลายก้าวแต่พวกเขาก็ยังอยู่ในระยะของ การระเบิด หัวหน้าของชุดคลุมเขียวได้โยนแถบสีเขียวไปในอากาศ แถบเขียวลอยอยู่ด้านบนของหัวของพวกเขาและสร้างเป็นฉากแสงสี เขียว จากนั้นชุดคลุมเขียวก็เอารูปปั้นนกสีขาวออกมาจากถุงกระเป๋าของเขา และแตะมันเบาๆ นกหินได้ถูกทำให้มีชีวิตและบินตรงไปยังหยดลาวาทิ้งร่องรอยไอเย็นไว้ ที่หางของมั น ปัก ปัก ปั ก หยดลาวายังคงโดนฉากแสงสีเขียวและทำลายมันเป็นชิ้นๆ ตุ้บ หยดลาวาโดนนกสีขาวหลังจากที่ทำลายบาเรียพลังงาน การไหลเวียน ของพลังงานสีขาวและสีแดงได้ปะทุในอากาศ ชุดคลุมเขียวทั้งสี่ถูกดันไปข้างหลังจากคลื่นกระแทก "บัดซบ! หยุดมัน!" หัวหน้าตะโกนและซ่อนข้างหลังนักฆ่าอีกสามคน เขาดึงสร้อยคอที่มีอัญมณีสีขาวออกมาจากคอของเขา ชายคนนั้นมองไปที่ชายหนุ่มและหญิงสาว มันดูเหมือนว่าพวกเขากำลัง เตรียมตัวสำหรับโจมตีครั้งต่อไป หัวหน้ารู้ว่าเขาไม่มีเวลาให้เสียแล้วดังนั้นเขาจึงรีบเอาสร้อยออกมาจาก คอของเขา มันเป็นสิ่งประดิษฐ์เวทมนต์ที่สำคัญที่ห้อยไว้หลายปีและ เขาสามารถเปิดใช้งานมันเมื่อจำเป็นเท่านั้น ชายคนนั้นตัดสินใจที่จะใช้ มันหลังจากที่เห็นคาถาที่แข็งแกร่งที่สุดของเขาเหยี่ยวน้ำแข็งถูกทำลาย ในฝนลาวา สร้อยคอเป็นความหวังสุดท้ายของเขา ชายคนนั้นจับสร้อยคอในมือและส่ายมันเล็กน้อย สร้อยคอค่อยๆหายไปในอากาศ "อา!" หัวหน้ากรีดร้องด้วยความเจ็บปวด เขาฟังดูเหมือนอสูรที่กำลังจะ ตาย หัวของเขาขยับลงไปใกล้คอของเขาอย่างช้าๆ หลายวินาทีต่อมาหัวของ ชายคนนั้นก็จมลงไปในหน้าอกของเขาอย่างสมบูรณ์และมีเพียงหลุม เลือดที่ทิ้งไว้ที่คอของเขา ชายคนนั้นถอดชุดคลุมยาวของเขาออกทำให้เห็นร่างเปลือยของเขา และรอยแผลเป็นสีแดงยาวปรากฏขึ้นที่หน้าอกของเขา แค๊รก รอยแผลเป็นสีแดงเปลี่ยนเป็นปากยาวหนึ่งเมตร มันดูเหมือนปาก มนุษย์แต่มันยาวกว่าและใหญ่กว่า ปากยื่นลิ้นออกมาเลียริมฝีปากของมัน "หลบไป!" ชายคนนั้นตะโกน เสียงของเขาลึกและดั ง ชุดคลุมเขียวทั้งสามกำลังปิดกั้นหยดลาวาอย่างยากลำบาก ใบหน้า ของพวกเขาซีดและมีเหงื่อหยดลงจากคางของพวกเขา พวกเขารีบขยับ ไปด้านข้างหลังจากที่ได้ยินเสียงของหัวหน้ า "ปากแห่งห้วงอเวจี!" ปากขนาดใหญ่ข้างหน้าของหัวหน้าเปิดออก ปากมันดูเหมือนหลุมดำที่ไม่มีที่สิ้นสุดที่กำลังจะดูดวัตถุทุกอย่างเข้าไป ข้างใน หยดลาวาถูกลากเข้าไปในปากของมันด้วยพลังลึกลับและพวกมันก็จม ลงไปในความมืด โคลน หญ้าและแถบที่พังในอากาศก็ผสมกับหยดลาวาและพวกมันก ็ บินเข้าไปในปากนั้น การแสดงออกของลินเปลี่ยนไป เธอลูบแหวนสีแดงบนมือซ้ายของเธอ มีแหวนทั้งหมดสี่วงที่มือซ้ายของเธอและวงที่เธอถูมันมีสีชมพู "มาดูกันว่าเจ้าจะดูดกลืนได้มากแค่ไหน!" ทันใดนั้นเธอก็ยกมือซ้ายขึ้น ตู้ม มีประกายไฟในมือของเธอและภาพลวงตาของลูกลาวาขนาดมหึมาก ็ ปรากฏข้างบนหัวของลินในขณะที่เธอกำหมัดแน่น ภาพลวงตาของลูกลาวามีเส้นผ่าศูนย์กลางสามเมตรและมันก็สามารถ ใส่ผู้ใหญ่เข้าไปข้างในของมันได้อย่างง่ายดาย หลายวินาทีต่อมาภาพลวงตาก็ค่อยๆเปลี่ยนเป็นความจริงและคลื่น ความร้อนก็เริ่มแผ่กระจายไปทุกทิศทุกทาง หญ้าบนพื้นได้ติดไฟและควันดำก็พุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้าเมื่อคลื่นความร้อนแผ่ กระจายออกไป ลูกลาวาสีแดงเข้มปกคลุมไปด้วยรอยแตกขนาดเล็กนับไม่ถ้วนที่มีลา วาสีทองอยู่ภายใน "ตาย!" ลินชี้ไปที่หัวหน้าของนักฆ่า ตูมมมม ลูกลาวาที่น่ากลัวได้บินไปหาชายคนนั้ น แองเจเล่ยืนอยู่ข้างหลังลินเงียบๆ มันเป็นครั้งแรกที่เขาเห็นการต่อสู้จริง ระหว่างพ่อมดระดับสอง 2 คน พวกเขาแลกคาถากันหลายครั้งภายใน ไม่กี่วินาที อย่างไรก็ตาม มันดูเหมือนว่าหัวหน้าของนักฆ่าไม่มีโอกาสต่อต้านลิน ลิ นเพียงแค่โยนลูกลาวาไปหลายลูกที่เขาโดยไม่ได้ป้องกันใดๆ ฝนลาวา ได้ปิดกั้นทุกอย่างที่เข้ามาใกล้เธอ สไตล์การต่อสู้ของเธอดุดันมาก ลูกลาวาขนาดมหึมาได้ปิดกั้นสายตาของแองเจเล่โดยสมบูรณ ์ พื้นดินสั่นอย่างรุนแรง ลาวาสีทองและเปลวไฟได้กลืนนักฆ่าทั้งสี่ ลำแสงสีทองที่ทำให้มองไม่เห็นได้ส่องลงบนพื้นดิน บริเวณที่มีหญ้าได้ติดไฟและเปลวไฟที่โกรธเกรี้ยวก็ขยายอย่างรวดเร็ว หญ้าถูกเผาเป็นขี้เถ้า มีควันดำออกมาจากพื้นดินและทั้งที่ราบก็วุ่นวาย ในขณะที่เปลวไฟสี แดงกำลังขยาย แองเจเล่ยกแขนขวาขึ้น "หัตถ์ซูล่าเคล" เขาร่ายคาถา แสงสีแดงปรากฏบนปลอกแขนของเขา วู้ดด ลูกไฟมาจากฝั่งตรงข้ามและจมลงไปในแขนขวาของแองเจเล่ วู้ดดดดด มีลูกไฟมากขึ้นที่บินไปหาแองเจเลและซึมเข้าไปในแขนขวาของเขา พวกมันดูเหมือนนกที่บินกลับรัง ประมาณสิบวินาทีต่อมาเปลวไฟที่กำลังลุกไหม้ทั้งหมดในพื้นที่ก็ถูกดูด ซับโดยปลอกแขน ควันดำค่อยๆหายไปในอากาศ แองเจเล่ลดแขนขวาลงและมองไปที่ศพสี่ศพบนพื้น "ไปกันเถอะ พวกมันตายหมดแล้ว" "ค่ะ นายท่าน" ลินลดแขนขวาลงและจุดแสงสีแดงค่อยๆหายไปจาก แหวนของเธอ ทันใดนั้นแองเจเล่ก็ตรวจพบพลังจิตแปลกๆเคลื่อนไหวมาจากข้างหลัง การแสดงออกของแองเจเล่เปลี่ยนไปเมื่อเขาหันหัวไป 'มันเป็นสติกม่า.....เขาได้ถึงระดับสามแล้ว....' แองเจเล่ตกใจเล็กน้อย สติกม่าใช้เวลาเพียงสิบปีในการไปถึงระดับสามจากระดับหนึ่ง ความ คืบหน้าของเขาเร็วมากแม้แต่การเทียบกับพ่อมดจากทวีปกลางก็ตาม 'ท่านเฮนน ์ท่านคิดว่าอย่างไร' แองเจเล่พยายามสื่อสารกับเฮนน์ผ่านคลื่นพลังจิต 'ทำไมเจ้าถึงถามข้า เจ้าไม่ได้ฝึกหนักพอ ดีที่อริสไม่ได้บอกให้สติกม่ า โจมตีเจ้าก่อนที่เราจะพบผู้ที่ซุ่มโจมตีเราในวันนั้น ไม่ต้องกังวล' 'หน้ากากแห่งปีกทมิฬเป็นสิ่งเดียวที่ท่านมอบให้ข้าแต่มันไม่เหมาะกับ สไตล์ของข้าและท่านกำลังจะบอกข้าว่าข้าไม่ได้ฝึกหนักพองั้นหรือ.....' แองเจเล่ตอบอย่างรวดเร็ว 'ข้าช่วยให้เจ้าเป็นลูกของวิเวียน เธอช่วยเจ้าได้เยอะใช่ไหม' เฮนน์ หัวเราะเยาะ 'นอกจากนี้เจ้าคิดจริงๆหรือว่าข้าไม่รู้ว่าทำไมเจ้าถึงไว้ผม ยาว' 'หา' แองเจเล่หรี่ตา 'ท่านรู้อะไรอีก' 'ข้ารู้ทุกสิ่งทุกอย่าง' เฮนน์ตอบเสียงเย็นชา 'เอาล่ะ อย่ามัวแต่เสียเวลา ไปหาสติกม่าและอริสม่า ข้าต้องการรู้ข้อมูลที่เธอมี ไอ้พวกสารเลว เหล่านั้น.....ข้าต้องการให้พวกมันตาย....' 'ข้าไม่ต้องการให้พวกมันตาย อย่างที่ข้าเคยพูดไว้ ข้าไม่ใช่หุ่นเชิดของ ท่าน' 'เราอยู่บนเรือลำเดียวกัน' เฮนน์หัวเราะเบาๆ 'ถ้าพวกมันพบว่าอริสม่ า และข้ายังมีชีวิตอยู่ในร่างกายของพวกเจ้า พวกมันก็จะไล่ฆ่าเจ้า มัน เป็นสิ่งที่เจ้าต้องอยู่กับมัน ฮ่าๆ' 'ข้าต้องหาลูกแก้วพันเงาให้เร็วที่สุด' แองเจเล่ขดริมฝีปาก 'ข้ารู้ว่าเจ้ามีสูตร แต่เจ้าต้องโชคดีมากถ้าเจ้าต้องการสร้างสิ่งประดิษฐ ์ เวทมนต์ด้วยตัวเอง นอกจากนี้เจ้ายังต้องการรวบรวมวัสดุหายาก เหล่านั้นทั้งหมด เจ้าคิดว่าจะใช้เวลานานแค่ไหนในการทำสิ่งประดิษฐ์นี้ เสร็จ' เฮนน์ถาม 'ช่างมัน ไปกันเถอะ' แองเจเล่ถอนหายใจและเริ่มมุ่งหน้าไปแหล่งที่มา ของคลื่นพลังจิตที่แข็งแกร่ ง ลินตามหลังแองเจเล่และพวกเขาก็หายไปในขอบฟ้าอย่างรวดเร็ว ************************** หุบเขาอเวจี ลมที่หนาวเย็นออกมาจากรอยแตกลึก สติกม่าจับแขนเดลล่า พวกเขาถูกล้อมรอบไปด้วยกลุ่มคนสองกลุ่ม นักฆ่าในชุดคลุมสีเขียวนำโดยชายที่ชื่อนอร์ธเรนด์และกลุ่มของชุดนัก ดาบที่กำลังสวมชุดเกราะหนังสีขาวนำโดยชายชุดคลุมยาวสีขาวที่ กำลังยืนอยู่ตรงกลางของรูปแบบของพวกเขา "นอร์ธเรนด ์นั่นเป็นผู้สืบทอดของตระกูลเชอร์แมนใช่ไหม" สติกม่ามอง ไปที่ชายชุดคลุมยาวสีขาวและถามเสียงเข้ม นอร์ธเรนด์กำลังหายใจอย่างหนัก เขากลัวจนร่างกายของเขาสั่น ถ้าออ สการ์ไม่ได้ช่วยเขาตอนที่สติกม่าร่ายคาถาพวกเขาก็คงจะตายไปแล้ว เขาไม่รู้ว่าเขาจะตอบคำถามของสติกม่าอย่างไร นอร์ธเรนด์ไม่แน่ใจว่าสติกม่าแข็งแกร่งเช่นนี้ได้อย่างไร ออสการ์เป็นคู่หู ของเขาแต่ชายคนนี้มาจากตระกูลอื่น ทันใดนั้นนอร์ธเรนด์ก็นึกถึงเรื่อง บางอย่าง ถ้าสติกม่าสามารถนำตระกูลด้วยพลังที่น่าเหลือเชื่อของเขา เขาก็ไม่ต้องการความช่วยเหลือของตระกูลเชอร์แมนอีกต่อไป หัวหน้า ตระกูลคนปัจจุบันพยายามที่จะช่วยตระกูลโดยการส่งเดลล่าไปให้ออ สการ์ในฐานะของขวัญ "อย่ากดดันเขามากนัก ชายคนนี้เพียงแค่ทำตามคำสั่ง" ออสการ์ขัด "เดลล่า ส่งร่างมนุษย์กิ้งก่ามาให้ข้า เจ้าไม่มีทางเลือก สถานการณ ์ กำลังแย่ลงเรื่อยๆและข้ากำลังทำเช่นนี้เพื่อตระกูลของเจ้า ข้าไม่ได้เก็บ สิ่งนี้เพื่อใช้ด้วยตัวเอง มีใครบางคนต้องการมัน...." รูม่านตาของสติกม่าและเดลล่าหดลง การโจมตีของสติกม่าถูกปิดกั้นด้วยชายที่ชื่อออสการ ์แม้ว่าบาเรียของ ออสการ์จะบัพด้วยนักดาบท้ี่เขานำมาที่นี่แต่มันก็ยังรอดชีวิตจากการ โจมตีสติกม่าไม่รู้ว่าใครคือผู้ที่อยู่เบื้องหลังเรื่องทั้งหมดนี "ขอพูดตามตรง ข้าไม่สามารถชนะเจ้าได้อย่างไรก็ตาม กิลด์พ่อมดได้ หนุนหลังข้า ข้าจะไม่พยายามป้องกันการโจมตีต่อไปของเจ้าแต่เจ้า ต้องการฆ่าข้าจริงๆหรือ" ออสการ์มองไปที่สติกม่าและเดลล่า "ข้าเป็ น สมาชิกที่มีอำนาจของกิลด์พ่อมดและข้อมูลเกี่ยวกับเจ้าจะถูกส่งกลับ ไปที่องค์กรของข้าถ้าเจ้าฆ่าข้า ข้ารู้ว่าเจ้าไม่สนใจชีวิตของตัวเองแต่จะ เกิดอะไรขึ้นกับน้องสาวของเจ้า ลูกพี่ลูกน้องของเจ้า แม่ของเจ้าและ ตระกูลของเจ้า พวกเขาจะถูกลากเข้าไปสู่เหตุการณ์ร้าย เจ้าเข้าใจไหม ..." การแสดงออกของสติกม่าเริ่มเคร่งเครียดและเขาเพียงยืนอยู่ที่นั่นโดย ไม่ได้พูดอะไร "ออสการ ์กิลด์พ่อมดได้หนุนหลังเจ้าใช่ไหม หา เจ้าจำข้าได้ไหม" ทันใด นั้นก็มีเสียงมาจากข้างหลัง มีชายหล่อเหลาผมบลอนด์สั้นเดินมาที่พวก เขาอย่างรวดเร็ว มันเป็นเรย์ไลน ์ฮิคาริเดินตามหลังเขา ส่วนแองเจเล่ และลินได้เข้าร่วมฉากนี้อีกหลายนาทีต่อมา "เรย์ไลน์.....เจ้าอีกแล้ว!" ชายร่างสูงข้างหลังออสการ์ก้าวไปข้างหน้า เขาจ้องที่เรย์ไลน์ด้วยความเกลียดชัง "เจ้าอยู่ทุกที่ทำไมเจ้าถึงมาขัดข้า ครั้งแล้วครั้งเล่า" "รัมเปิ้ล คำพูดเหล่านั้นควรเป็นของข้า เจ้ากล้าดียังไงถึงเรียกตัวเองว่า เป็นสมาชิกที่มีอำนาจของกิลด์พ่อมด!" เรย์ไลน์ตะโกนด้วยเสียงเย็นชา ตอนที่350: ความขัดแย้ง (1) แปลนิยาย.วันเสาร์ ที่ 5 พฤษภาคม 2018 "มันดูเหมือนว่าเจ้าจะไม่รู้อะไรเลย..." รัมเปิ้ลได้เอาชุดเกราะหนังสีขาว ออก นักดาบคนอื่นๆรีบถอยอย่างรวดเร็วและออสการ์ที่กำลังยืนอยู่ข้าง หลังรัมเปิ้ลกำลังหัวเราะเยาะ "เจ้ากำลังพูดเรื่องอะไร" เรย์ไลน์ย่นคิ้ว "เจ้ามาที่นี่แต่เจ้าไม่รู้อะไรเกี่ยวกับสถานการณ์เลยงั้นหรือ ช่างมันเถอะ ข้ายังจำสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อสิบปีก่อนได้และข้าจะไม่ปล่อยให้เจ้าหลบหนีไป ในครั้งนี้" รัมเปิ้ลเลียริมฝีปากและโบกมือขวาของเขา นักดาบกระจายออกไปและวางคนวิ่งไปหาเรย์ไลน ์ รัมเปิ้ลเอาค้อนเงินขนาดเล็กออกมาและเหวี่ยงหลายครั้ง "ลาก่อนเรย์ไลน์" ชายคนนั้นหัวเราะเยาะและโยนค้อนขนาดเล็กไป ข้างหน้า ฟิ้ว ค้อนเปลี่ยนเป็นเงาสีเงินเบลอ การแสดงออกของเรย์ไลน์เปลี่ยนไปและรีบยกมือขวาขึ้ น ตุบ มีบาเรียสีเงินปรากฏข้างหน้าเขาและเขาก็ปิดกั้นค้อนด้วยมือขวา ค้อน หายไปในอากาศอย่างรวดเร็วเหมือนมันไม่เคยมีอยู่ เรย์ไลน์หรี่ตาและเถาวัลย์สีเขียวก็ปรากฏที่คอของเขา "ฮิคาริให้ข้าจัดการชายคนนี้เอง ไปช่วยสติกม่าและน้องสาวของเขา" "ตกลง" ฮิคาริหันกลับไปและมุ่งหน้าไปหาสติกม่ า รัมเปิ้ลหันกลับไปและเริ่มวิ่ง รัมเป่ิ้ลไล่ตามเขาและค้อนเงินของเขาก ็ ล่องหนทุกครั้งที่มันโดนบาเรียพลังงานสีเงิ น พ่อมดทั้งสองได้ทิ้งคนอื่ น ไว้ข้างหลังอย่างรวดเร็ว ออสการ์และนักดาบที่เหลือได้วิ่งไปทางสติกม่า นักฆ่าชุดคลุมสีเขียว อีกด้านก็เริ่มขยับ "เจ้าแอบเข้าไปในโบราณสถานและขโมยสมบัติส่วนใหญ่จากเราใช่ หรือไม่" ออสการ์มองไปที่สติกม่า "มีตัวแทนมากมายจากองค์กรใหญ่ ในโบราณสถานและเจ้ายังทำมัน เจ้าไม่รู้หรือว่าเรามีนักพยากรณ์ใน องค์กรของเรา เจ้าไม่สามารถหลบหนีคาถาติดตามของเขาได้" สติกม่าส่ายหัวและกำลังจะตอบ อย่างไรก็ตาม ออสการ์และคนของเขากำลังเข้ามาใกล้ขึ้นเรื่อยๆ ออ สการ์โบกมือขวาและนักดาบทุกคนก็เอาของที่ดูเหมือนโคมไฟสีขาว ออกมา โคมไฟสว่างขึ้น เปลวไฟสีเขียวได้ลอยออกมาจากโคมไฟพุ่งไปทาง สติกม่าและน้องสาวของเขา "โคมไฟแห่งหมอก!" การแสดงออกของสติกม่าเปลี่ยนไป "นั่นเป็ น เหตุผลว่าทำไมเจ้าถึงตัดสินใจที่จะโจมตีพ่อมดที่ระดับสูงกว่าเจ้าหนึ่ง ระดับ!" "เรามาที่นี่เพื่อถ่วงเวลาของเจ้า จะมีพ่อมดมากขึ้นจากองค์กรอื่นมุ่ ง หน้ามาหาเรา เจ้าไม่มีที่จะให้หนี" เปลวไฟสีเขียวจากโคมไฟลึกลับล้อมรอบสติกม่า เขาร่ายคาถาหลาย คาถาแต่ก็ไม่มีคาถาใดขับไล่เปลวไฟเหล่านั้นไปได้ เปลวไฟสีเขียวเหมือนคำสาปที่จะไม่หายไป คลื่นพลังงานแช่แข็งได้แทรกซึมเข้าไปในร่างกายของสติกม่าและเดลล่า ฮิคาริก็ยังติดอยู่กับเปลวไฟสีเขียวแปลกๆเหล่านั้น 'ตอนนี้เราต้องออกไป!' สติกม่ารู้ว่าพวกเขาไม่สามารถชนะการต่อสู้กับ กลุ่มพ่อมดขนาดใหญ่แม้จะมีความช่วยเหลือของเพื่อนของเขา 'อาจารย ์ข้าคิดว่าข้าต้องใช้มัน' 'ทำตามสิ่งที่เจ้าต้องการ รีบจบการต่อสู้เร็วๆ' มีเสียงเข้มของผู้หญิงดั ง ก้องในหูของเขา 'ครับ' ***************************** แองเจเล่และลินกำลังวิ่งไปที่หุบเขาอเวจีพวกเขาก้มตัวต่ำลงและกำลัง เดินทางด้วยความเร็วสูงสุด พวกเขามองเห็นสติกม่ายืนอยู่ขอบของหุบเขาและยกมือขึ้นกำลัง ปลดปล่อยหมอกสีเขียวไปในอากาศ เงาเบลอที่ดูเหมือนผู้หญิงชุดคลุม ยาวสีขาวปรากฏข้างหลังร่างกายของเขา หญิงที่มีคู่ดวงตาสีเขียวรูม่านตาของเธอถูกแทนที่ด้วยแสงสีเขียว 'บัดซบ! มันเป็นยัยแก่อริสม่า ยัยนั่นฟื้นตัวเร็วเช่นนั้นได้อย่างไร' เฮนน ์ ฟังดูโกรธและตกใจ 'สติกม่าถึงระดับสามแล้วและเขาสามารถช่วยอริสม่าฟื้นตัวได้เร็วขึ้น มันเข้าใจได้ง่ายๆ' แองเจเล่ยังคงสงบ 'ปัญหาคือคนเหล่านั้นเพียงแค่รอ กำลังเสริม นี่ไม่ใช่งานง่ายๆเหมือนที่สติกม่าพูด เราควรจะจบการต่อสู้ ให้เร็วที่สุด' 'เจ้าคิดอะไรอยู่' 'ให้ข้าลองดู ' มีจุดแสงสีดำกะพริบในดวงตาของแองเจเล่ ลินไม่ได้สังเกตเห็นว่าแองเจเล่กำลังสื่อสารกับเฮนน ์ สติกม่ากำลังต่อสู้กับนักดาบชุดเกราะสีขาวเมื่อแองเจเล่และลินมาถึง ประมาณสิบวินาทีต่อมานักดาบทุกคนก็ล้มลงไปที่พื้น การเคลื่อนไหว ของพวกเขาช้าจนพวกเขาไม่สามารถป้องกันการโจมตีของสติกม่าได้ เลย มันเหมือนกำลังดูฉากสโลว์โมชั่นในหนั ง "นั่นเป็นพิษ ระวังตัวด้วยนายท่าน!" ทันใดนั้นลินก็ส่งคำพูดให้แองเจเล่ ผ่านอนุภาคพลังงาน "พิษหรือ" แองเจเล่หยุดทันทีเมื่อลินดึงแขนเสื้อของเขา "ไม่เป็นไร สติกม่าเป็นหนึ่งในพวกเรา เพียงแค่ไปช่วยฮิคาริ " "แต่นายท่าน..." "ไปเถอะ ข้าสบายดี" แองเจเล่มองไปที่ลิน "ค่ะ..." ลินพูดไม่ออกเล็กน้อยแต่เธอก็ตัดสินใจทำตามคำสั่ง เธอหันไปทางขวา และมุ่งหน้าไปตำแหน่งของฮิคาริ แองเจเล่เดินไปหาสติกม่าช้าๆในขณะที่การต่อสู้กำลังจะจบลง เรย์ไลน์และรัมเปิ้ลเป็นพ่อมดระดับสองแต่พวกเขามีสิ่งประดิษฐ์เวท มนต์และอุปกรณ์เวทมนต์จำนวนมาก ของส่วนใหญ่นั้นมีคูลดาวน์นาน และสามารถเปิดใช้งานด้วยพลังจิตเพียงเล็กน้อย มันเกือบจะดูเหมือน พ่อมดระดับสาม 2 คนกำลังร่ายคาถาที่แข็งแกร่งจำนวนมาก แองเจเล่เหลือบมองไปที่พวกเขาและส่ายหัว เขามีสิ่งประดิษฐ์เวทมนต ์ มากมายเช่นกัน ส่วนใหญ่มาจากวิเวียน เธอบอกให้แองเจเล่ถือ สิ่งประดิษฐ์เวทมนต์ไว้กับตัวตลอดเวลา แองเจเล่พยายามไม่พึ่งพา สิ่งประดิษฐ์เหล่านั้นมากเกินไปเพราะสามารถสร้างความเสียหายที่ เท่ากันได้ด้วยคาถาของตัวเอง เขาได้พัฒนารูปแบบการต่อสู้พิเศษใน ดินแดนฝันร้ายและมันก็ไม่เกี่ยวกับการใช้สิ่งประดิษฐ์เวทมนต ์ ชิ้นส่วนร่างกายที่แตกสลายของนักดาบปกคลุมพื้นดินและเลือดของ พวกเขาก็ไหลเข้าไปในหุบเขาที่ไม่มีที่สิ้นสุด ลมเย็นได้พัดกลิ่นเลือดไปอย่างรวดเร็ว สติกม่าเหยียบหน้าอกของออสการ์ด้วยเท้าซ้ายและเขาก็กำลังจะพูด อะไรบางอย่าง อย่างไรก็ตาม ไม่มีความกลัวบนใบหน้าของออสการ์และเขาไม่ ตอบสนองต่อคำพูดของสติกม่า เดลล่าพิงกับร่างกายของสติกม่า ดู เหมือนว่าเธอหมดสติ ตู้ม มีบางอย่างระเบิดระหว่างเรย์ไลน์และรัมเปิ้ล โล่พลังงานของรัมเปิ้ล แตก เขารีบหันกลับไปและวิ่งไปโดยไม่ลังเล ในที่สุดฮิคาริก็หลบหนีจากเปลวไฟสีเขียวด้วยความช่วยเหลือของลิน "เจ้ามาสาย" เรย์ไลน์มองที่แองเจเล่และพูดโดยใช้อนุภาคพลังงาน "เราต้องจัดกลุ่มใหม่และออกจากพื้นที่นี้ให้เร็วที่สุด" แองเจเล่ตอบเสียง เข้ม "พวกมันมีกำลังเสริมและเราจะต้องหาสถานที่ปลอดภัย" "เอาล่ะ ไปกับข้า" สติกม่าแบกเดลล่าและเริ่มวิ่งไปข้างหน้า คนอื่นๆตามหลังเขา พวกเขากำลังเคลื่อนที่อยู่ที่ขอบของหุบเขาด้วยความเร็วสูง ฮิคาริได้ ติดตั้งกับดักมากมายระหว่างทางซึ่งมันไม่สามารถมองเห็นได้หลังจาก ผ่านไปหลายวินาที "ขอบคุณทุกคน ข้าจะไม่สามารถหลบหนีได้ด้วยตัวเอง" สติกม่าเริ่ ม สื่อสารโดยใช้อนุภาคพลังงานในขณะที่เขาวิ่ง "เอาล่ะ ข้าคิดว่าเจ้าบอกว่ามันเป็นงานง่ายๆที่เกี่ยวข้องกับตระกูลของ เจ้า ศัตรูมากมายเหล่านี้มาจากไหน" แองเจเล่ย่นคิ้ว "พวกเขาเชื่อข่าวลือที่บอกว่าน้องสาวของข้าได้รับสมบัติจาก โบราณสถานใกล้เมืองท่าอากาศยาน คนเหล่านั้นต้องการฆ่าน้องสาว ของข้าและเอาสมบัติไป" สติกม่ารีบอธิบาย 'ที่จริงข้าคิดว่าคนที่อยู่เบื้องหลังพวกเขามีความเกี่ยวข้องกับพ่อมดที่ซุ่ม โจมตีท่านเฮนน์และท่านอริสม่า' ประโยคนี้ถูกส่งไปหาแองเจเล่ "แล้วเกิดอะไรขึ้นกันแน่" แองเจเล่ยังคงถามต่อ เขาไม่ได้ตอบคำพูดของ สติกม่ า "ตระกูลของข้าและองค์กรอีกหลายองค์กรในเมืองต้องการฆ่าน้องสาว ของข้า พวกเขาต้องการแบ่งสมบัติกัน มันไม่ใช่ส่วนหนึ่งของแผนของ ข้าแต่ข้าคิดว่าเราจะชนะการต่อสู้" สติกม่าฟังดูมั่นใจ "ข้าเพียงต้องการ ให้พวกเจ้าฆ่าคนสี่คนให้ข้า" "เพียงแค่สี่หรือ แค่นั้นใช่ไหม" เรย์ไลน์เข้าร่วมการสนทนา "ใช่ผู้อาวุโสสี่คนของตระกูลของข้า พวกเขาได้ตัดสินใจเรื่องใหญ่ๆ ในช่วงสิบปีที่ผ่านมา เราจะแยกออกเป็นสี่ทีมและฆ่าไอ้แก่พวกเนั้น หลังจากที่เรากำจัดคนที่ติดตามเรามา องค์กรอื่นๆจะหยุดถ้าผู้อาวุโส ทุกคนตาย ปัญหาเดียวมีเพียงกิลด์พ่อมด เรย์ไลน์ เจ้าสามารถ...." "ไม่มีปัญหา" เรย์ไลน์พยักหน้า "ข้าไม่ได้คาดหวังว่ารัมเปิ้ลจะมาที่นี่ เขา แค้นข้าตั้งแต่การปะทะครั้งล่าสุด ข้าสามารถกดดันกิลด์และทำให้เขา อยู่ห่างจากเรื่องยุ่งนี้ได้ " "ดีข้าจะบอกตำแหน่งให้เจ้า ตอนนี้แยกกันได้เลย อย่าลืมกำจัดนักฆ่าที่ เหลือด้วย" สติกม่าโยนม้วนหนังหลายม้วนไปในมือของคนอื่นๆ "สติกม่า นี่จะเป็นครั้งสุดท้ายที่ข้าจะช่วยเจ้าฟรีๆ ข้ามาที่นี่เพื่อชดใช้ให้ เจ้า" เรย์ไลน์ตรวจสอบม้วนและหันไปอีกทิศทาง สติกม่าได้ยินคำพู ด นั้นและพยักหน้าเล็กน้อย ฮิคาริเหลือบมองที่สติกม่า "ข้าสามารถกำจัดนักฆ่าได้ด้วยความ ช่วยเหลือของเพื่อนข้าจากกิลด์ผู้เชี่ยวชาญยา" สติกม่าเอารูปปั้นไม้ออกมาจากถุงกระเป๋าและโยนให้ฮิคาริ"ขอบคุณ นี่ เป็นของขวัญเล็กๆให้เจ้า ข้าแน่ใจว่าเจ้าต้องการมัน" ฮิคาริคว้าไปที่รูปปั้นไม้และตรวจสอบมัน สีหน้าของเธอเปลี่ยนไป เล็กน้อยและเธอก็หันไปอีกทิศด้วยเช่นกัน มีเพียงสติกม่ า แองเจเล่และลินที่ยังอยู่ "ข้าเป็นหนี้เจ้าและข้าไม่ต้องการของขวัญใดๆ" แองเจเล่หยุดสติกม่า ก่อนที่เขาจะพูดอะไร สายตาของสติกม่ามองไปที่ลิ น แองเจเล่มองไปที่ลินและพูดกับเธอโดยใช้อนุภาคพลังงาน ลินลังเลชั่วครู่แต่เธอก็รีบหันไปและเดินจากไป แองเจล่บอกให้ลินรอเขาในเมืองท่าอากาศยาน ลินไม่เคยตั้งคำถาม ใดๆกับการตัดสินใจของแองเจเล่และเธอรู้ว่าแองเจเล่สามารถรับมือกับ สถานการณ์ได้ด้วยตัวเอง แองเจเล่เพิ่มความเร็วและไล่ตามสติกม่าหลังจากที่ลินหายไปในขอบ ฟ้า "แล้วเจ้าพูดเรื่องจริงใช่ไหม" แองเจเล่ย่นคิ้ว "ใช่ข้าอยู่ในรายชื่อของพวกมันแล้ว พวกมันจะพบว่าเจ้าเข้าเมือง หมอกขาวเพื่อช่วยเราในไม่นานนี้" สติกม่าตอบ "ข้าเข้าใจ แต่เรื่องเกี่ยวกับน้องสาวของเจ้า.....เจ้ากำลังซ่อนบางอย่าง จากเรา" สติกม่าดูตกใจเล็กน้อยและมีรอยยิ้มที่ขมขื่นบนใบหน้าของเขา "ใช่ มั น เป็นความผิดของข้า ข้าไม่ได้ต้องการนำเดลล่าเข้าสู่เรื่องนี้แต่ข้าไม่รู้ว่า พวกเขาจะมีนักพยากรณ์ที่สามารถร่ายคาถาติดตามระดับสูงได้" "ข้าต้องการรู้ความจริง มีช่องโหว่มากมายในคำอธิบายที่เจ้าเพิ่งบอก เรา" แองเจเล่ส่ายหัว "เอาล่ะ" ในที่สุดแองเจเล่ก็เข้าใจสถานการณ์หลังจากที่สติกม่าบอกทุกสิ่งทุ ก อย่างแก่เขา ตอนที่351: ความขัดแย้ง (2) แปลนิยาย.วันอังคารที่8 พฤษภาคม 2018 อีกตอนเลทหน่อยนะครับ สติกม่าได้รวบรวมข้อมูลที่มีค่าจำนวนมากเมื่อเขายังอยู่ในอาณาเขต ของตระกูลและเขาก็สังเกตเห็นว่ามีโบราณสถานที่อยู่ใกล้เมืองท่า อากาศยานได้ถูกเปิดไม่นานมานีสติกม่าได้แอบเข้าโบราณสถานและ พบทรัพยากรจำนวนมากที่จะช่วยอริสม่าฟื้นตัว สติกม่าเอาทรัพยากร จำนวนมากที่มีค่าออกมาแต่เขาก็ถูกซุ่มโจมตีโดยกลุ่มพ่อมดที่ซ่อน ภายใต้หน้ากากสีดำ เขาได้รับบาดเจ็บและกลับไปที่ตระกูลเพื่อฟื้นตัว แต่ว่าทีมสำรวจที่มีสมาชิกจากองค์กรใหญ่หลายองค์กรพบว่ามีใครบาง คนเข้าโบราณสถานก่อนพวกเขา จากนั้นพวกเขาก็บอกให้นักพยากรณ ์ เพื่อหาคนที่ขโมยสมบัติจากพวกเขา อย่างไรก็ตามนักพยากรณ์ได้ทำ พลาดและคิดว่าเป้าหมายเป็นน้องสาวของสติกม่า นี่คือจุดเริ่มต้นของ เรื่องทั้งหมด สติกม่าเอาร่างมนุษย์กิ้งก่าเข้าไปในกระเป๋าของเดลล่าโดยไม่เป็นที่ สังเกตและกิ้งก่าได้ช่วยเดลล่าฟื้นฟูความอึดของเธอระหว่างทาง อย่างไรก็ตามมันดูเหมือนว่านักฆ่าเหล่านั้นตระหนักว่าเดลล่ากำลังถือ ร่างมนุษย์กิ้งก่า พวกเขารู้สถานการณ์เกี่ยวกับโบราณสถานและพวก เขาคิดว่าเดลล่าเป็นผู้บุกรุกเข้าไปในโบราณสถานก่อนทีมสำรวจ หัวหน้าของนักฆ่ารีบติดต่อกับนักพยากรณ์และยืนยันเป้าหมาย สติกม่าได้รู้ว่าน้องสาวของเขาได้เป็นแพะรักบาปและเขาก็ตัดสินใจที่จะ ขอให้เพื่อนเก่าของเขาช่วย นั่นคือความจริงเบื้องหลังสถานการณ ์ ทั้งหมด "แล้ว...เจ้าได้เอาทรัพยากรที่มีค่าส่วนใหญ่จากโบราณสถานงั้นหรือ" แองเจเล่พูดไม่ออกเล็กน้อย "ใช่ ขอโทษ" สติกม่าพยักหน้าเล็กน้อย "นั่นเป็นเหตุผลที่อาจารย์ของเจ้ากำลังฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว เจ้าสังเกต อะไรพิเศษเกี่ยวกับคนที่มาซุ่มโจมตีเจ้าหรือไม่" แองเจเล่ถูคาง "แน่นอน พวกมันใช้พลังเงา" สติกม่าเอาบางอย่างขนาดเล็กออกมาจาก ถุงกระเป๋าและโยนให้แองเจเล่ ปึก แองเจเล่จับของนั้นได้อย่างง่ายดาย มันเป็นรูปปั้นเรเวนขนาดเล็กที่มี ร่างสีดำและดวงตาสีเขียว มันดูเหมือนดวงตาที่ทำมาจากมรกต "ไม่ ไม่ใช่รูปปั้น มองไปที่เงาที่อยู่บนพื้นดิน" สติกม่าพู ด แองเจเล่ได้ยินคำพูดนั้นและมองลงไป เงาของเรเวนกำลังบิดเบี้ยวอยู่บนพื้นดิน มันดูเหมือนนกที่มีชีวิตกำลัง สะบัดปีก แองเจเล่มองไปที่รูปปั้น มันไม่ได้ขยับเลย เงาของเรเวนบนพื้นดินกำลังพยายามออกจากมือของแองเจเล่ "อะไรวะเนี่ย....อย่าบอกข้านะว่านี่...." สีหน้าของแองเจเล่เปลี่ยนไป "ใช่ นั่นเป็นเงาอสูรที่มาจากนรก...." สติกม่ายืนยันข้อสันนิษฐานของ แองเจเล่ "เงาอสูรจากดินแดนเงา...." แองเจเล่ปิดแสงแดดเหนือรูปปั้น ทันใดนั้นเงาของเรเวนก็กระโดดออกจากรูปปั้นและมันก็เริ่มขยับไป รอบๆแองเจเล่บนพื้นดิน แกวกกก มีเสียงของเรเวนที่ดังและน่ากลัวดังออกมา มันกระโดดเข้าไปในเงาของ แองเจเล่ สีหน้าของแองเจเล่เริ่มเคร่งเครียด เขารู้ว่าเขาไม่สามารถปล่อยให้เรเวน สัมผัสเงาของเขาได้ ด้วยการดีดนิ้วของเขามันก็มีลำแสงอนุภาคพลังงานไฟโดนเงาของเร เวนอย่างแม่นยำ ตุ้บ มีรูขนาดเล็กปรากฏบนพื้น แค๊รก มีรอยแตกขนาดเล็กนับไม่ถ้วนปรากฏบนรูปปั้นเรเวนในมือของแองเจ เล่หลายวินาทีต่อมารูปปั้นก็เปลี่ยนเป็นกองเศษหินและตกลงไปที่ พื้นดิน "ดินแดนแฟรี่.....และตอนนี้มันก็เป็นดินแดนเงา.....ดูเหมือนว่าพ่อมดใน ทวีปกลางกำลังศึกษาโลกโบราณ...." แองเจเล่พึมพำ "ใช่ข้าได้ยินว่ามีพ่อมดที่สามารถเข้าไปดินแดนอื่นได้โดยใช้หินพิภพ เป็นประตูดังนั้นมันจึงเป็นไปได้ว่าพ่อมดเหล่านั้นสามารถนำเงาอสูรมา โลกของเรา บางทีพ่อมดที่ซุ่มโจมตีอาจารย์ของเราคงมีส่วนเกี่ยวข้อง กับดินแดนเงา" สติกม่าพูดเสียงเข้ม "จะทำอย่างไรถ้าพ่อมดเหล่านั้นมาจากดินแดนเงา" แองเจเล่หรี่ตา "แผนของเจ้าคืออะไร มีคำแนะนำใดจากอาจารย์ของเจ้าหรือไม่" "เราจะต้องเพิ่มระดับให้เร็วที่สุด" มีรอยยิ้มที่ขมขื่นบนใบหน้าของ สติกม่า "ไม่ว่าแผนของข้าจะสมบูรณ์แค่ไหนข้าก็ไม่สามารถต่อสู้กับคน ที่มีพลังที่สุดยอดได้ " "คนที่ซุ่มโจมตีเจ้าแข็งแกร่งแค่ไหน" แองเจเล่ถาม "พ่อมดระดับสาม 3 คนและพ่อมดระดับสี่2 คน" "อะไรนะ!" แองเจเล่อ้าปากค้าง "เจ้ารอดมาจากการซุ่มโจมตีได้งั้นหรือ มันเป็นไปได้อย่างไร" สติกม่าถอนหายใจ "อาจารย์ช่วยข้ามิฉะนั้นข้าก็ตายไปแล้ว แต่ดวง วิญญาณของเธอเกือบจะถูกทำลายโดยพ่อมดเหล่านั้น พวกมันรู้วิธี จัดการกับคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่ง" "นั่นเป็นปัญหา" แองเจเล่หรี่ตา ถ้าเฮนน์ไม่สามารถปกป้องเข้าได้ ภายใต้สถานการณ์เช่นนั้นเขาก็ไม่แน่ใจว่าเขาจะรอดจากการโจมตี หรือไม่"เจ้ารู้ไหมว่าทำไมพวกมันถึงพยายามหาอริสม่าและเฮนน์" "ตามคำพูดของพ่อมดระดับสี่คนหนึ่งที่โจมตีข้าคิดว่ามีคนที่ชื่ออลิเซียที่ สามารถสื่อสารกับสิ่งมีชีวิตของดินแดนเงาและเธออยู่เบื้องหลังของ เรื่องทั้งหมดนี้" สติกม่าอธิบาย ดูเหมือนว่าสถานการณ์ซับซ้อนกว่าที่แองเจเล่คิด "เราควรจะ...." "อะไรนะ อลิเซียหรือ!" เสียงของเฮนน์ขัด "มันเป็นเธอ.....เจ้าแห่งเงาอลิ เซีย.....มันเป็นไปได้แต่ข้าไม่คิดว่าเธอจะทำอะไรแบบนี้...." ภาพมายา ของเฮนน์ปรากฏอยู่เบื้องหลังแองเจเล่ มันเป็นสาวสวยที่มีผมดำยาวและชุดสีดำ ผู้หญิงคนนี้มีเสน่ห์และดู ลึกลับ เธอสวมถุงมือสีดำยาวและเข็มกลัดที่หน้าอกดูเหมือนสายฟ้า ด้วยเหตุบางอย่างแองเจเล่คิดว่าเขากำลังมองไปที่วิเวียน ผู้หญิงทั้งสอง คนให้ความรู้สึกที่คล้ายกันแต่เฮนน์ดูมีเสน่ห์กว่า แองเจเล่คิดว่าเฮนน์เป็นหญิงชรา มันเป็นครั้งแรกที่เขาเห็นรูปลักษณ ์ ของเฮนน ์ ผู้หญิงที่มีดวงตาสีเขียวปรากฏข้างหลังสติกม่าช้าๆ เธอสวมชุดคลุม ยาวสีขาวและใบหน้าของเธอก็ปกคลุมด้วยหน้ากากเรียบเนียน "ไม่ได้เจอกันนานนะยัยสารเลว" เฮนน์ขดริมฝีปากยิ้มอย่างเย็นชาและ จ้องไปที่ผู้หญิงข้างหลังสติกม่ า "เฮนน์ แบนชีที่อยู่ยงคงกระพันจากนรก....ฮ่าๆ....ตลกจริงๆ พลั ง วิญญาณของเจ้าในตอนนี้อ่อนแอกว่าข้า ช่างน่าเศร้าจริงๆ" เสียงของ อริสม่าดูอ่อนโยนแต่คำพูดของเธอค่อนข้างรุนแรง "เราไม่ได้เป็นแบบที่เป็นอยู่อีกต่อไป ข้าคิดว่าเจ้าเป็นเหตุผลที่อลิเซีย กำลังไล่ตามเรา แผนของเจ้าคืออะไร เจ้าต้องทำเรื่องนี้ให้จบ" เฮนน ์ ไม่ได้โกรธกับสิ่งที่อริสม่าเพิ่งพูดเลย เธอเพียงแค่มองไปที่ในดวงตาของ อริสม่า พวกเธอทั้งสองอยู่ในร่างดวงวิญญาณและทำอะไรได้ไม่มากนัก แอง เจเล่และสติกม่าเป็นเพียงคนสองคนที่สามารถมองเห็นพวกเธอได้ "ไม่เอาน่า มันไม่ใช่ความผิดของข้าทั้งหมด เจ้าแห่งเงาเป็นแม่มดที่ แข็งแกร่งที่สุดในโลกนีข้าไม่เจ้าใจว่าทำไมพวกเขาถึงซุ่มโจมตีเรา เธอ สามารถฆ่าเราได้ด้วยการสู้ตัวต่อตัว เธอเป็นหนึ่งในสามลอร์ดจากสภา สูงแอนฟาเรีย เราไม่มีโอกาสต่อต้านเธอในร่างวิญญาณ" อริสม่ า อธิบาย (ตั้งแต่ตอนนี้ไปคำว่า'Lord'(ลอร์ด)จะทับศัพท์ไปเลยนะครั บ ความหมายมันเยอะเกินไป) "แล้วลอร์ดอีกสองคนล่ะ เธอไม่สามารถตัดสินใจอนาคตของสภาและ เธอไม่สามารถทำลายสมดุลได้นั่นเป็นเหตุผลที่เธอซุ่มโจมตีเรา ช่างมัน เถอะ เพียงแค่บอกข้าเรื่องแผนของเจ้า" อริสม่าส่ายหัว "ข้าไม่มีแผน ข้าไม่สามารถรอสติกม่าเพิ่มระดับและต่อสู้ ให้ข้าได้ข้าขอแนะนำให้เราไปที่พื้นที่อื่น พวกเขาจะพบเราในไม่ช้านี ข้าคิดว่าอลิเซียไม่ได้คาดหวังว่าเราจะเปลี่ยนตัวเองเป็นร่างวิญญาณ แต่ตอนนี้เธอรู้แล้วและเธอจะส่งนักฆ่ามาฆ่าเรา" "แผนที่ดีที่สุดคือการ...." แม่มดที่แข็งแกร่งทั้งสองสบตากันแต่พูดไม่จบ ประโยค "แต่ข้าใช้เวลาหลายปีในการค้นหาร่างเพื่ออาศัยอยู่..." เฮนน์ลังเล ผู้หญิงคนนี้มีรูปลักษณ์ที่น่าดึงดูดแต่เสียงของเธอแหบแห้ง "ไม่เป็นไร เข้าไปที่ลูกแก้วพันเงา สติกม่าพบสองลูกจากโบราณสถาน" อริสม่าแนะนำ "ลูกแก้วพันเงาหรือ" แองเจเล่ขัด "ท่านอริสม่า มันเป็นของที่สามารถ แยกวิญญาณออกจากร่างของสิ่งมีชีวิตได้ใช่ไหม" "ใช่อย่างไรก็ตาม เราจะเป็นเหมือนกาฝากและลูกแก้วไม่สามารถแยก เราได้อย่างสมบูรณ ์เรายังสามารถใช้ลูกแก้วเพื่อฟื้นฟูได้นอกจากนี้ ลูกแก้วจะลบคลื่นพลังจิตของข้าอย่างสมบูรณ์จากโลกนี้ ข้อเสียมีเพียง อย่างเดียวคือข้าสามารถตื่นได้สิบปีต่อครั้งเท่านั้น" อริสม่าตอบ บุคลิก ของเธอดีกว่าเฮนน์มาก อริสม่าพูดต่อ "ปล่อยให้เด็กทั้งสองก้าวหน้าไปอีกหนึ่งร้อยปีข้าต้องใช้ เวลาฟื้นตัว นอกจากนี้มันก็จะเยี่ยมมากถ้าอลิเซียคิดว่าเราตาย" "เธอจะฆ่าเด็กทั้งสองเพื่อให้แน่ใจว่าเราตาย" เฮนน์ส่ายหัว "เธอจะไม่ส่งนักฆ่าที่แข็งแกร่งเพื่อมาฆ่าพวกเขา.....ข้าไม่รู้ มันเป็ น โชคชะตาของเรา เราจะตายในไม่ช้านีข้าไม่คิดว่าพวกเขาสามารถชนะ การต่อสู้กับพ่อมดระดับสามและสี่ได้ อลิเซีย...ฉลาดแต่ลูกน้องที่ แข็งแกร่งของเธอเป็นคนสำคัญในองค์กรใหญ่มากมายและพวกเขาไม่ สามารถเปิดเผยความจริงต่อสาธารณะได้" อริสม่าพูดช้าๆ "นั่นเป็นเหตุผลที่เจ้าถูกเรียกว่าแม่มดแห่งโชคชะตาใช่ไหม ข้าจะไม่ ปล่อยให้โชคชะตาควบคุมชีวิตของข้า ข้าจะตัดสินใจด้วยตัวเอง" ภาพ มายาของเฮนน์ค่อยๆลงมาที่พื้น "ข้าจะต่อสู้จนลมหายใจสุดท้าย" "งั้นขอให้โชคดี" อริสม่าพยักหน้า จากนั้นเธอก็เปลี่ยนเป็นจุดแสงสีเขียว นับไม่ถ้วนและจมเข้าไปในร่างกายของสติกม่า เฮนน์ยืนอยู่ข้างแองเจเล่และวางมือของเธอไว้ที่แก้มของเขา แองเจเล่ สับสนเล็กน้อย เขาไม่แน่ใจว่าเฮนน์สัมผัสเขาทำไม "มองมาที่ดวงตาของข้า ชายหนุ่ม...." เสียงของเธอไม่ได้แหบแห้งอี ก ต่อไป มันดูอ่อนโยน "เจ้าคิดอย่างไร เจ้าชอบข้าไหม...." เธอเอนตัวไปทางร่างกายของแองเจเล่และมันดูเหมือนเฮนน์กำลัง พยายามที่จะอ่อยแองเจเล่เขาไม่สามารถหันหัวออกไปจากเธอได้ "ผ่อนคลาย.....ชายหนุ่ม.....ข้าจะสอนให้เจ้าสนุกกับชีวิต...." ดวงตาของ เฮนน์เปลี่ยนจากสีแดงเข้มเป็นสีแดงสด "มันจะใช้เวลาไม่นานนัก.....ข้าจะเป็นผู้หญิงของเจ้าตลอดชีวิต.....ไม่ สำคัญว่าเจ้าจะอยู่ที่ไหนและเจ้าทำอะไร เจ้าจะเป็นส่วนหนึ่งของ ร่างกาย....ของข้า......เจ้าไม่ต้องการชีวิตที่มีความสุขและสงบสุขหรื อ ..." เสียงของเฮนน์ลอยเข้าไปในหูของแองเจเล่ แองเจเล่จ้องดวงตาของเฮนน์ด้วยสีหน้าว่างเปล่า เขาอ้าแขนและคว้า เอวของเฮนน์แน่น มันดูเหมือนว่าเขากำลังพยายามลากเฮนน์เข้าไป กลิ่นของร่างกายของเฮนน์ลอยเข้าไปในจมูกของแองเจเล่ สัมผัสที่นุ่ ม นิ่มที่นิ้วของเขามันยากที่จะเอาออกมา วู้ดดด ดวงตาของแองเจเล่ค่อยๆเปลี่ยนจากสีดำเป็นสีแดงสด พวกมันกำลัง เรืองแสงและรู้สึกยากที่จะอธิบาย เสียงของเฮนน์ดังก้องในหูของเขา มันรู้สึกเหมือนเธอกำลังพูดกับแอง เจเล่จากท้องฟ้าและมันฟังดูเหมือนเสียงไซเรน "มาหาข้า....ให้ข้าบอกเจ้าว่าความสุขที่ดีที่สุดในชีวิตคืออะไร...." แอง เจเล่กระซิบ เสียงของเขามันเหมือนเสียงหญิงสาว สีหน้าของเฮนน์เปลี่ยนไป เธอต้องการผลักแองเจเล่ไปแต่เธอก็แทบไม่ สามารถยกแขนขึ้นได้ เฮนน์ตกใจ เธอเพียงยืนอยู่ที่นั่นและปล่อยให้แอง เจเล่กอดเธอแน่น หัวของเธอวิงเวียนและเธอไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น "บัดซบ!" เธอรีบหันหัวไปทางซ้ายและหลีกเลี่ยงสายตาแองเจเล่ แค๊รก ร่างกายของเฮนน์เปลี่ยนเป็นจุดแสงสีแดงและกลับเข้าไปในร่างกาย ของแองเจเล่

ไม่มีความคิดเห็น :

แสดงความคิดเห็น